ความคิดเห็นที่ 1 อ่านกระทู้คุณแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยนะคะที่จะสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ถ้าวัตถุประสงค์เป็นอย่างที่บอก และผลประโยชน์ที่ตามมาไม่ได้อยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และคิดว่าภูกระดึงควรจำกัดจำนวนคนขึ้นภูฯ นะคะ อันนี้ควรทำโดยด่วนเลยค่ะ จากคุณ : what going on - [ 15 ม.ค. 49 15:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุยกันทีละข้อเลยละกันนะค่ะ  ฉันฝากคำถามไว้ต่อนะค่ะ 1.  ที่ต้องทำเพราะกระเช้าจะช่วยมันเป็นการพัฒนา เพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านและแก้ปัญหาต่างๆได้ดี    1.1 พัฒนาอย่างไร    1.2 แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดี  (ปัญหาอะไร ดีอย่างไร)    1.3 เพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านอย่างไร กรุณาอธิบายให้ชัดเจน  ให้เห็นรูปธรรม  แล้วนำเสนอ  เผยแพร่ให้ประชาชน ได้รับรู้ด้วยนะค่ะ 2. เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ เพื่อคนที่ขึ้นไม่ไหวเช่น คนชรา คนพิการ *  เหตุผลตรงนี้เป็นเหตุผลหลักที่ใช้ในการสร้างกระเช้าหรือเปล่าค่ะ หรือใช้เด็ก  คนแก่  คนพิการมาเป็นเหยื่อให้คนคัดค้านภูกระดึง หลงประเด็น  จากที่ดูรายการ "ถึงลูกถึงคน" 2 เทป ดูเหมือนเหตุผลหลัก จะใช้เด็ก  คนแก่  คนพิการ มาอ้างนะค่ะ  ถ้าข้อมูลไม่พร้อมก็น่าจะกล้ายอมรับ ว่ายังไม่มีแผนยุทธศาสตร์  ยังไม่มีการวางแผน  ไม่เห็นจำเป็นต้องเอา "เด็ก  คนแก่  คนพิการ"  มาเป็นข้ออ้างเลย ฝากบอกถึง  "เด็ก  คนแก่  คนพิการ"  ด้วยนะค่ะ  ที่คนคัดค้านภูกระดึงหลายคน อาจจะหลงประเด็น จนหันไปโจมตีพวกคุณ  เขาคงคิดว่าเหตุผลหลักในการ สร้างกระเช้าก็เพื่อให้  "เด็ก คนแก่ คนพิการ คนร่างกายไม่พร้อม" ได้มีโอกาส ขึ้นภูกระดึง " อย่างที่ท่าน ส.ว. หรือหลาย ๆ ท่านได้พูดแล้วพูดอีก ย้ำแล้วย้ำอีก (ลองฟังจากรายการ "ถึงลูกถึงคน" ก็ได้ค่ะ ว่าพวกคุณถูกพาดพิงเยอะแค่ไหน) 3. ใช้ขนขยะ *  เมื่อ 20 ปีที่แล้ว  จัดการไม่ได้หรือค่ะ  ว่าขยะควรให้คนที่ขึ้นภูกระดึง นำลงมาด้วยทุกคนอย่างน้อย 2 หรือ 3 กิโลกรัม หรือให้วางมัดจำเงินค่าขยะไว้ 100 บาท (เหมือนภูสอยดาว)  ถ้าใครนำขยะลงมาก็ให้มารับเงินคืน ถ้าไม่มีใครนำขยะลงมา ก็นำเงินที่มัดจำจ้างลูกหาบขนลงมา  ฉันว่ามีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้ 4. เจ้าหน้าที่สามารถขึ้นกระเช้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ *  ปฏิบัติหน้าที่อะไรค่ะ  ดับไฟป่า หรืออะไร  ทำไมไม่อธิบายให้ละเอียด พูดไว้แค่นี้ประชาชนเขาจะเข้าใจไหมค่ะ  ถ้าอธิบายมากกว่านี้ ฉันยกมือเหตุผลข้อนี้โดยไม่มีข้อแม้ตั้งแต่แรกค่ะ 5. เคยมีนักท่องเที่ยงตกน้ำตกแล้วเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหามลงภูอย่างทุกลักทุเล โชคดีที่ไป รพ.ทันเวลา นักท่องเที่ยวคนนั้นจึงรอด คนอื่นอาจไม่โชคดีเเบบนี้ * สร้างโรงพยาบาลบนภูกระดึงไม่ได้หรือค่ะ  ให้มีแพทย์ประจำและมีพยาบาลด้วย ดิฉันว่าลงทุนแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก  มันไม่ใช่เอาไว้รักษาเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่ยังรักษา ดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่บนภูกระดึง และชาวบ้านที่ทำมาหากิน บนภูกระดึงด้วย  ทำไมไม่คิดถึงเจ้าหน้าที่และชาวบ้านบ้างค่ะ 6. เวลาเกิดเหตุด่วนฉุกเฉิน ระหว่างทางขึ้นภู เจ้าหน้าที่ต้องรีบกระเสือกกระสนปีนขึ้นไปแล้ว ตัวเองก็เหนื่อยมากๆแถมยังต้องช่วยนักท่องเที่ยงคนนั้นลงมาที่ตีนภูอีก เป็นงานที่สาหัสเอาการ *  พูดแบบนี้ก็หมายความว่าจะไม่ให้คนเดินขึ้นหรือไงค่ะ  ไหนบอกว่าใครใคร่เดิน...เดิน  ใครใคร่นั่งกระเช้านั่ง  แล้วถ้าคนที่ อยากเดินขึ้นเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางล่ะค่ะ  จะต้องหามลัดเลาะป่าดงตรงไหน เพื่อให้ไปถึงกระเช้า  กระเช้าจอดรับนักท่องเที่ยวตามป่าได้ด้วยหรือค่ะ เจ้าหน้าที่เขาบ่นหรือเปล่าค่ะว่าไม่อยากทำ  เหนื่อยสาหัส 7.  มีพ่อแม่มาตามหาลูกสาวที่ตีนภู ทั้ง 2 คนขึ้นมาหาลูกสาวไม่ไหว ฝากบอกว่าให้กลับลงไปด้วย ลูกสาวหนีมาเที่ยวกะแฟนหนุ่ม 2 ต่อ 2 และพ่อแม่เองก็ห่วงเรื่องที่ลูกตนนั้นจะเสร็จแฟนที่นี่ * 555 ขำดีนะค่ะ (ดิฉันไม่ได้ขำความห่วงใยของคนเป็นพ่อแม่หรอกนะค่ะ ฉันรู้ว่าพ่อแม่คนไหนก็รักลูกและห่วงลูกทั้งนั้น)  แต่ถามหน่อยเถอะค่ะ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย  คุณจะดั้นด้นพาแฟนขึ้นภูกระดึงเพื่อปี้งั้นหรือ แค่ไอ  จาม ในเต็นท์ คนรอบเต็นท์ก็ได้ยินหมดแล้ว  ถ้าเขาจะโดนแฟนทำอะไร ก็ทำตั้งแต่อยู่อพาร์ทเม้นหรือหอพักเดียวกันแล้ว "ท่านเดินมาที่เต็นท์ แล้วก็ถามไถ่ว่า ว่าไง มาจากไหน พ่อแม่รออยู่ที่ตีนภูน่ะ บอกให้กลับลงไปได้แล้ว พยายามพูดจากันๆท่าไว้ตามประสาผู้ใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก จะให้กลับเลยก็ไม่ได้ เพราะใกล้มืดแล้ว สุดท้ายก็ต้องให้ลงพรุ่งนี้เช้า ส่วนคืนนี้ ก็คิดต่อกันเอาเอง ว่าเสร็จไม่เสร็จ ท่านเสริมต่ออีกว่า มันเป็นการเห็นแก่ตัวของวัยรุ่น ที่กีดกันไม่ให้ผู้ใหญ่ขึ้นมาได้ แล้วก็จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ" *  ถ้าพ่อแม่ห้ามไม่ได้  ต่อให้ไปตามถึงภูกระดึงก็ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอย่างไร  นี่เป็นเรื่องของพ่อแม่ที่จะต้องจัดการ กับลูกของตัวเอง  หากคิดถึงหรือเป็นห่วงลูกก็โทรหากันได้ ตอนนี้ทั้ง DTAC Orange หรือ AIS สัญญาณก็ชัดแจ๋วทุกเครือข่าย * ถึงตอนนี้ผมแทรกถามว่า * แล้วถ้าสร้างขึ้นไป คนที่เที่ยวไม่ไหวจะเที่ยวข้างบนยังไง จะต้องสร้างอะไรอย่างอื่นตามมามั้ยครับ (* ข้อนี้ฉันเข้าใจค่ะ) - ท่านบอก คนที่รู้ตัวว่าเที่ยวไม่ไหวจะไม่พยายามขวนขวายให้ตัวเองไปนู่นไปนี่ได้ ขอแค่ขึ้นมาสัมผัส ณ จุดๆนึงที่กระเช้ามาถึงก็พอใจแล้ว - ท่านยังบอกอีกว่า คนที่คิดต่างจากนี้ คือ อยากไปนู่นไปนี่เหมือนคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองไม่ไหวนั้นเป็นส่วนน้อย เหมือนภิกษุที่เดินห้าง * ยกตัวอย่างพระภิกษุมาอ้างแบบนี้  ยิ่งทำให้เหตุผลแย่ลงนะค่ะ พระภิกษุจะไปเดินห้างฯเพื่อซื้ออะไรหรือค่ะ พระภิกษุมีหน้าที่อย่างไร คนที่เป็นพระภิกษุควรมีจิตใจอย่างไรค่ะ  พระภิกษุจะเสนอให้ อนุญาตให้พระภิกษุเดินห้างได้หรือเปล่าค่ะ * - ความคิดของท่านในตอนนั้น มีแค่กระเช้าอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นถ้าสร้างตามมา เช่น รถรับส่ง หรือ อะไรอื่นๆ ท่านไม่เห็นด้วย * คนอื่น ๆ เขาก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่จะสร้างตามมานี่แหล่ะ ตอนนั้นท่านยังไม่คิด แต่ตอนนี้ใคร ๆ ก็คิดถึงประเด็นนี้กันทั้งนั้นนะค่ะ - ลูกหาบจะขาดรายได้นั้น ไม่จริง ท่านบอกผมว่า ท่านเป็นคนประชุมลูกหาบตอนนั้นด้วยตนเองเลย * ลูกหาบในปัจจุบันมีการประชุมหรือยังค่ะ  ฉันจะลองไปแอบถามพวกเขาดู * - สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการกระเช้าจะต้องปฏิบัติตามดังนี้ มาถึงตีนภู จะต้องมาเซ็นชื่อและซื้อบัตรสัมภาระตามปกติ กระเป๋าเอาไว้นี่ จ่ายตังค์ แล้วตัวเองไปขึ้นกระเช้า พูดง่ายๆคือ บังคับใช้ลูกหาบนั่นแหละครับ ไม่ให้เอาสัมภาระขึ้นกระเช้าไปด้วย กระเช้ามีไว้ขนคนเท่านั้น * ท่าน ส.ว. บอกว่า  อาจจะไม่ให้ใครค้างบนภูกระดึง แล้วจะขนของ ขนสัมภาระขึ้นไปทำไมค่ะ เพราะของทุกอย่างก็หาซื้อได้บนภูกระดึง ถ้ามีการขนสัมภาระ ก็แสดงว่าจะอนุญาตให้ค้างบนภูกระดึงหรือค่ะ * - กระเช้าไม่อยู่ในเส้นทางเดียวกับคนขึ้น จะขึ้นอีกด้านของภู * นั่นซิค่ะ  กระเช้าไม่อยู่ในเส้นทางเดียวกับคนขึ้น  แล้วถ้าคนที่เดินขึ้นภูกระดึง เกิดอุบัติเหตุ กระเช้าจะช่วยคนที่เกิดอุบัติเหตุได้อย่างไรค่ะ * - ช่างต่างชาติเที่ยวภูปีละไม่ถึง 5 % ท่านเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมามากมาย และรู้ว่าพวกเขามีจิตสำนึกในการอนุรักษ์มากมายไม่แพ้พวกเรา จึงเป็นการดีถ้าจะมีกระเช้า เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านทั้งบนภู ระหว่างทาง และตีนภู * ชาวต่างชาติขึ้นไปแล้วจะไปชมอะไรค่ะ  ไปนั่งกิน  ไปชมวิวเฉย ๆ สถานที่แห่งนั้นจะมีพิชซ่า  มี KFC ไหมค่ะ  หรือท่านจะฝึกให้ชาวบ้าน ทำอาหารฝรั่ง * - ควรแบ่งความสวยงามที่เราได้รับให้คนที่ไม่มีโอกาสได้รับด้วย * ความสวยงามยินดีแบ่งให้อยู่แล้วค่ะ  ความสวยงามบนภูกระดึงอยู่ตรงไหนค่ะ พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น  พระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก หรือใกล้หน่อยก็ผาหมากดูก จะแบ่งปันอย่างไรค่ะ หรือจะสร้างถนน แล้วมีรถรับ-ส่งตามจุดต่าง ๆ  แล้วความงามที่ว่านั่น คือขึ้นไปบนหลังแปแล้ว ยืนชมธรรมชาติแค่นั้นหรือค่ะ  ถ้านักท่องเที่ยวเขาพอใจแค่นั้น ฉันก็ไม่มีอะไรโต้แย้งค่ะ * - ทำเส้นทางวิวแชร์ไปแค่ผานกแอ่น ผาอื่นๆจะไปไม่ได้ * ทำเส้นทางความกว้างขนาดเท่าไหร่ค่ะ  * - ถึงไม่มีกระเช้า สภาพบนภูก็แย่ลงเรื่อยๆอยู่แล้ว ท่านบอกผมให้ลองไปขุดดินที่ลานกางเต็นท์ดู ขุดไปตรงไหนก็จะเจอขยะที่กลบไว้ * คิดกระเช้าตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว  แต่ทำไมไม่คิดระบบจัดการตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ปล่อยให้สะสมมาได้อย่างไรค่ะตั้ง 20 ปี  ไม่มีกระเช้าก็มีวิธีจัดการได้ * - รอยสลักบนที่ต่างๆ การเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป ก็ถือว่าไม่ได้เป็นการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ สิ่งเหล่านี้มาจากนักท่องเที่ยวทั้งนั้น * อันนี้คงอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนค่ะ  ดูเหมือนประเทศพัฒนา แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่พัฒนา  จุดนี้จะโทษใครดีค่ะ * - จะจัดให้มีกระเช้าขนขยะต่างหาก ขนเอาขยะลงมาฝังแล้วเผาข้างล่าง *  อย่างที่เสนอไว้แล้วค่ะ  หากมีการกำหนดระเบียบที่เคร่งครัด ให้นักท่องเที่ยวนำขยะลงมาเองตั้งแต่แรกก็แก้ปัญหาได้แล้ว ลองขอคะแนนเสียงดูไหมค่ะ  ว่าใครจะอาสาขนขยะลงมาจากภูกระดึงบ้าง * ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยครับ ผมรอฟังอยู่ ผมถาม *แล้วเรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวล่ะครับ - เรื่องจำกัดจำนวนนี่ท่านเคยลองทำมาแล้ว ทำได้ยากมาก ขนาดที่ว่ามีน้ำท่วมขังไม่สามารถกางเต็นท์ค้างแรมได้ นักท่องเที่ยวก็ดื้อที่จะขึ้นไป พอปล่อยขึ้นไปสุดท้ายก็ไปนอนใต้ถุนบ้าน แล้วขี้ เยี่ยว เรี่ยราดสร้างปัญหามากมาย แต่ถ้ามีกระเช้าแล้ว ก็จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายมากขึ้น - เมื่อจำนวนคนเต็มแล้ว ทางอช.จะแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ตีนภูทราบ และถ้านักท่องเที่ยวยังต้องการที่จะขึ้นไปอีก ก็จะต้องซื้อตั๋วกระเช้าขาลง เพื่อไม่ให้ค้างแรมบนนั้น แน่นอนว่าต้องใช้กระเช้าลงเพราะกว่าจะเที่ยวดูพระอาทิตย์ตกเสร็จก็มืดแล้ว * หมายความว่าจะอนุญาตให้มีการค้างอ้างแรมบนภูกระดึง แต่จำกัด จำนวนประชากรหรือค่ะ  ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เห็นด้วยค่ะ  ว่าแต่โควต้า จำนวนคนที่นอนบนภูกระดึงนั้น  จะรู้ผลเมื่อไหร่ค่ะ  จะเปิดให้จองทาง เว็บไซต์หรือเปิดให้จองอย่างไร จะมีการเลือกปฏิบัติหรือ สงวนที่ไว้ให้ เฉพาะคนที่ขึ้นกระเช้าหรือเปล่าค่ะ * - เมื่อจำนวนคนค้างแรมเต็ม ผู้ที่เกินโค้วต้าขึ้นไปเที่ยวแล้วต้องลงภายในวันนั้น มิฉะนั้นจะโดนปรับ * สอดคล้องกับคำอธิบายข้อข้างบนค่ะ * - ให้ลงมานอนที่ตีนภูพอเช้าค่อยขึ้นไปสลับกับนักท่องเที่ยวที่ลงมา * สอดคล้องกับคำอธิบายข้อข้างบนค่ะ * - พอต้องลงมานอนตีนภู รายได้ก็ตกอยู่กับชาวบ้านที่ขายข้าว ขายของ หรือบ้านพักที่เปิดไว้ * สอดคล้องกับคำอธิบายข้อข้างบนค่ะ * หมดแล้วครับเท่าที่ผมจำได้ *  ท่านคิดโครงการดีดี  แล้วใครจะเป็นคนทำโครงการค่ะ * ข้อมูลพวกนี้น่าจะออกมาให้ประชาชนได้รู้ตั้งแต่แรกนะค่ะ ประชาพิจารณ์มีไหม ทำไมต้องปิดหูปิดตาประชาชนด้วย คนเขาก็มีเหตุผลกันทั้งนั้นแหล่ะ  แต่ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นก็ต้องแย้ง โครงการไม่กระจ่าง ข้อมูลไม่ชัดเจน ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท คุณจะอนุมัติเงิน 445 ล้าน โดยที่ไม่รู้ประโยชน์  ผลดี  ผลเสีย ของโครงการหรือเปล่าค่ะ??? ป.ล.  เลิกใช้ซะทีกับคำว่า  "ค้านหัวชนฝา"  พูดได้อย่างไร เหมือนดูถูก เหตุผลของคนอื่น  ถ้ามีเหตุผลที่ดีของโครงการมาอธิบาย คงไม่มีใครมาค้านแบบไม่มีเหตุผลหรอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 49 16:31:06 แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 49 16:22:21 จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 15 ม.ค. 49 16:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าทำได้ตามนี้ก็เห็นด้วยครับ จากคุณ : bm_kij - [ 15 ม.ค. 49 16:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าผู้ร่างโครงการตามที่ว่านี้มีส่วนดูแลให้เป็นไปตามนั้นด้วยก็เบาใจขึ้นครับ แต่ก่อนจะสร้างตอบคำของคุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ ได้ก็จะดีมากเลยครับ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 49 16:29:19 จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 15 ม.ค. 49 16:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บอกได้คำเดียว เหนื่อยหน่าย .....ถามหน่อยดิ๊ว่าถ้าไม่มีประโยชน์มาเกี่ยวข้องผ่านมาตั้ง 20 ปี ทำไมเพิ่งมาทำตอนนี้ . . .เซ็งจิต จากคุณ : FrOzEn EgG - [ 15 ม.ค. 49 16:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การสร้างกระเช้าแล้วมีระบบการจัดการที่ดี จะเป็นเรื่องที่ดีค่ะ และดิฉันเห็นว่าคนที่รับผิดชอบโครงการ ถ้ามีวิจารณญาณให้สูง และคิดให้รอบคอบ ผลที่ได้น่าจะดีต่ออุทยานแห่งชาติ ดิฉันเห็นที่จิ่วจ้ายโกว แล้วก็คิดว่าเขาทำได้ดี และสามารถอนุรักษ์ได้ดีมาก ดีเสียกว่าที่จะปล่อยให้คนหนุ่มสาวที่ขึ้นภูไหว แต่ขาดสำนึก และกำลังช่วยกันสร้างภูให้เป็นแหล่งสะสมขยะบนที่สูง ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลก็น่าจะทำงานได้ง่ายขึ้นนะคะ เอ้อ ฝากเจ้าของกระทู้ขอบคุณท่านนั้น ในสิ่งที่ท่านทำมาทั้งหมดนะคะ ด้วยความเคารพ หวังว่าบ้านเมืองเราจะมีข้าราชการที่ดีเช่นนี้มาก ๆ จากคุณ : ทิวากาล (ทิวากาล) - [ 15 ม.ค. 49 16:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รับฟังค่ะ ..... จากคุณ : cultureclub - [ 15 ม.ค. 49 16:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อยากให้คนที่คัดค้านการสร้างกระเช้า  ช่วยอ่านแล้วช่วยกัน ถามคำถามที่ยังคลางแคลงสงสัยไว้เยอะ ๆ นะค่ะ  ร่วมด้วยช่วยกัน ตอบแต่ละเหตุผล  ตอบแต่ละประเด็น ป.ล.  คนที่คิดโครงการดีดี บางทีก็เป็นเหยื่อของคนที่ชอบฉวยโอกาสเสมอ ป.ล. ขอโทษคุณ จขกท.  ด้วยนะค่ะ ที่บางคำพูดอาจจะฟังแล้วรู้สึกไม่ดี บังเอิญเป็นคนที่มักเขียนอะไรออกมาตามความคิดมากไปหน่อย จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 15 ม.ค. 49 16:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เขาสร้างกระเช้า ก็เป็นบุญแก้คนชรา-คนพิการ ดีแล้วที่สร้าง เขาไม่สร้างทางด่วนมาลงก็ดีถมไปแล้วครับ จากคุณ : เหงามาก - [ 15 ม.ค. 49 17:25:23 A:61.90.85.118 X: TicketID:113352 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ห้ามนำสัมภาระขึ้นกระเช้า ให้ลูกหาบแบกขึ้นไปเหมือนเดิม อ้าววววววววว แล้วกระเช้ากับลูกหาบใครเร็วกว่ากันอะคะ คนขึ้นกระเช้าไม่รอสัมภาระของตัวเองแย่หรือคะ เดินไปกับบินขึ้นไปเนี่ยนะ จากคุณ : นู๋น้อยซะดะโกะ - [ 15 ม.ค. 49 18:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านเหตุผลและคำอธิบายที่ท่าน จขกท. นำมาให้อ่านแล้ว รู้สึกว่าเป็นเหตุผลและคำอธิบายที่คล้ายๆกับเหตุผลที่ท่านสว.ผ่อง เล่งอี้ ท่านบอกไว้ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยอยู่ดีค่ะ เพราะหลายๆข้อ ก็เห็นขัดแย้งกับท่าน ... แล้วก็เห็นด้วยกับคุณ blueblood ..... คิดว่าที่คนคัดค้านการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงนั้น สาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่ง ก็คือการไม่ชัดเจน ในเหตุผลที่จะสร้างนั่นเองละค่ะ จากคุณ : แสงแรก - [ 15 ม.ค. 49 18:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ได้ครับ ตอบคุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ ทีละข้อนะฮะ 1.1 พัฒนาอย่างไร -ตอบไม่ได้ครับ ไม่มีความรู้ลึกซึ้งตรงส่วนนี้ 1.2 แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดี (ปัญหาอะไร ดีอย่างไร) -ลองอ่านข้ออื่นๆดู มีปัญหาบอกไว้แล้วฮะ 1.3 เพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านอย่างไร -มีคนเที่ยวมากขึ้น รายได้ชาวบ้านเพิ่มเป็นเรื่องปกติครับ * เหตุผลตรงนี้เป็นเหตุผลหลักที่ใช้ในการสร้างกระเช้าหรือเปล่าค่ะ หรือใช้เด็ก คนแก่ คนพิการมาเป็นเหยื่อให้คนคัดค้านภูกระดึง หลงประเด็น จากที่ดูรายการ "ถึงลูกถึงคน" 2 เทป ดูเหมือนเหตุผลหลัก จะใช้เด็ก คนแก่ คนพิการ มาเป็นเหตุผลหลักนะค่ะ -ไม่รู้ครับ ว่าเป็นเหตุผลหลักหรือป่าว รู้แค่มันเป็นประโยชน์ส่วนนึงของการมีกระเช้าฮะ * เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จัดการไม่ได้หรือค่ะ ว่าขยะควรให้คนที่ขึ้นภูกระดึง นำลงมาด้วยทุกคนอย่างน้อย 2 หรือ 3 กิโลกรัม หรือให้วางมัดจำเงินค่าขยะไว้ 100 บาท (เหมือนภูสอยดาว) ถ้าใครนำขยะลงมาก็ให้มารับเงินคืน ถ้าไม่มีใครนำขยะลงมา ก็นำเงินที่มัดจำจ้างลูกหาบขนลงมา ฉันว่ามีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้ -ถ้าจัดการเรื่องขยะได้ ภูจะไม่เป็นเช่นทุกวันนี้แน่นอนครับ ท่านไม่ได้ทำงานที่นั่นตลอด 20 ปีนะครับ มีคนผลัดเปลี่ยนกันไปเป็นหัวหน้าและผู้ช่วย แต่ละคนทำหน้าที่ต่างกันมีทั้งทำให้แย่ลง และดีขึ้น -เรื่องขนขยะลงมาเป็นความคิดที่ดี แต่ทำจริงๆทำได้ยากมาก ท่านบอก นักท่องเที่ยวที่มักง่ายก็มีมากไม่แพ้คนที่มีจิตสำนึกดีอย่างพวกเรา คนเหล่านั้นจะเอาเงิน 100 บาท แลกกับ ความสบายที่ไม่ต้องขนขยะ 2-3 กิโลให้เหนื่อยตอนขาลง พวกเค้ามีนิสัยที่มักง่ายอยู่แล้ว ยังไงไม่ยอมให้ตัวเองลำบากแบกขยะลงมาหรอกฮะ * ปฏิบัติหน้าที่อะไรค่ะ ดับไฟป่า หรืออะไร ทำไมไม่อธิบายให้ละเอียด พูดไว้แค่นี้ประชาชนเขาจะเข้าใจไหมค่ะ ถ้าอธิบายมากกว่านี้ ฉันยกมือเหตุผลข้อนี้โดยไม่มีข้อแม้ตั้งแต่แรกค่ะ -ขอโทษครับ ที่อธิบายไม่ละเอียด ผมฟังท่านพูดมา และที่สำคัญอย่าลืมว่าท่านไม่ได้เป็นคนผลักดันให้มีกระเช้าในขณะนี้ ตอนนี้ท่านไม่ได้ไปยุ่งอะไรแล้ว ท่านแค่คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อการอนุรักษ์ -คุณพูดเหมือนกับว่า อยากจะให้ท่านไปชี้แจ้งให้ประชาชนได้เข้าใจ ในรายการถึงลูกถึงคนอย่างนั้นแหละ -ผมเองไม่เคยไปดูรายการการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่รู้ว่าเยอะและเหนื่อยมากๆ เรียกว่าทุกอย่างที่ทำเพื่อธรรมชาติ คือการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา การช่วยเหลือคนเจ็บก็เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงดับไฟป่าก็ใช่ จะให้ผมอธิบายละเอียดคงไม่ไหว * สร้างโรงพยาบาลบนภูกระดึงไม่ได้หรือค่ะ ให้มีแพทย์ประจำและมีพยาบาลด้วย ดิฉันว่าลงทุนแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก มันไม่ใช่เอาไว้รักษาเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่ยังรักษา ดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่บนภูกระดึง และชาวบ้านที่ทำมาหากิน บนภูกระดึงด้วย ทำไมไม่คิดถึงเจ้าหน้าที่และชาวบ้านบ้างค่ะ -งงกับข้อนี้มากๆครับ ก็เพราะคิดถึงชาวบ้านและเจ้าหน้าที่น่ะสิครับ เลยให้ทำ ถ้ามีกระเช้าเจ้าหน้าที่จะทำงานได้สะดวก ไม่ลำบากอย่างที่เคยเป็น เวลา ว.เรียกขึ้นไปขอความช่วยเหลือ ก็ไม่ต้องตาลีตาเหลือกเดินขึ้นไป -หรือจะให้ทำตามที่คุณเเนะนำ คือสถานพยาบาล ก็ดีครับ แต่ก็ต้องสร้างบนยอดภูอยู่ดี ถ้าคนเกิดเจ็บระหว่างทางที่ขึ้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องหามขึ้น ไม่ก็เเบบกลงไปที่ รพ. ตีนภูอยู่ดี ผมจึงบอกว่ามันเป็นงานที่หนักเอาการของทางเจ้าหน้าที่ เเล้วก็ความเห็นต่างๆที่พิมพ์ไปนั้นมาจากความเห็นของตัวเจ้าหน้าที่เเละลูกหาบเอง ขณะที่ท่านเป็นผู้ช่วยอยู่ตอนนั้น * พูดแบบนี้ก็หมายความว่าจะไม่ให้คนเดินขึ้นหรือไงค่ะ ไหนบอกว่าใครใคร่เดิน...เดิน ใครใคร่นั่งกระเช้านั่ง แล้วถ้าคนที่อยากเดินขึ้นเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางล่ะค่ะ จะต้องหามลัดเลาะป่าดงตรงไหน เพื่อให้ไปถึงกระเช้า กระเช้าจอดรับนักท่องเที่ยวตามป่าได้ด้วยหรือค่ะ เจ้าหน้าที่เขาบ่นหรือเปล่าค่ะว่าไม่อยากทำ เหนื่อยสาหัส -ข้อนี้ให้คำตอบไม่ได้ครับ เรื่องเส้นทางกระเช้ารู้มาเเค่นี้ ตอนนั้นมันเป็นเเค่โครงร่างยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำขึ้นตรงจุดใดของภู -ไม่ได้คิดขึ้นเองแต่อย่างใดครับ ท่านเป็นผู้ช่วย ท่านรู้เรื่องการทำงานของลูกน้องดี * 555 ขำดีนะค่ะ (ดิฉันไม่ได้ขำความห่วงใยของคนเป็นพ่อแม่หรอกนะค่ะ ฉันรู้ว่าพ่อแม่คนไหนก็รักลูกและห่วงลูกทั้งนั้น) แต่ถามหน่อยเถอะค่ะ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณจะดั้นด้นพาแฟนขึ้นภูกระดึงเพื่อปี้งั้นหรือ แค่ไอ จาม ในเต็นท์ คนรอบเต็นท์ก็ได้ยินหมดแล้ว ถ้าเขาจะโดนแฟนทำอะไร ก็ทำตั้งแต่อยู่อพาร์ทเม้นหรือหอพักเดียวกันแล้ว -อันนี้ผิดประเด็นไปนิดนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องชิกสุกก่อนห่ามอะไร แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุผลหลักของการสร้างกระเช้า เป็นแค่สิ่งที่กระเช้าจะช่วยได้ ข้อนี้หลักๆ ท่านหมายถึงความเป็นห่วงเป็นใยของพ่อแม่ครับ ถ้ามีกระเช้า พ่อแม่สามารถขึ้นมาตามลูกสาวให้กลับลงไปได้ทันที อยากให้คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อลงไม่ได้ ก็ต้องมานั่งรอลูกตัวเองที่หนีมาเที่ยวกับแฟนอยู่ข้างล่างแบบข้ามคืน * ถ้าพ่อแม่ห้ามไม่ได้ ต่อให้ไปตามถึงภูกระดึงก็ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอย่างไร นี่เป็นเรื่องของพ่อแม่ที่จะต้องจัดการ กับลูกของตัวเอง หากคิดถึงหรือเป็นห่วงลูกก็โทรหากันได้ ตอนนี้ทั้ง DTAC Orange หรือ AIS สัญญาณก็ชัดแจ๋วทุกเครือข่าย * -ครับผม นั่นเป็นอีกเรื่องอย่างที่ผมบอก ถึงตอนนี้ผมแทรกถามว่า * แล้วถ้าสร้างขึ้นไป คนที่เที่ยวไม่ไหวจะเที่ยวข้างบนยังไง จะต้องสร้างอะไรอย่างอื่นตามมามั้ยครับ * ข้อนี้ฉันเข้าใจค่ะ * ยกตัวอย่างพระภิกษุมาอ้างแบบนี้ ยิ่งทำให้เหตุผลแย่ลงนะค่ะ พระภิกษุจะไปเดินห้างฯเพื่อซื้ออะไรหรือค่ะ พระภิกษุมีหน้าที่อย่างไร -เข้าใจผิดแล้วนะครับ ท่านหมายถึงภิกษุที่เดินห้างน่ะ คือพระที่ทำอะไรนอกกฎ อย่างที่ผมเห็นที่มาบุญครอง เดินเลือกซื้อมือถือกัน 3-4 รูป ซึ่งก็คือส่วนน้อย เปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกไปในที่ต่างๆ เช่น ผา น้ำตก ซึ่งเป็นส่วนน้อยเช่นกันครับ ท่านจึงเปรียบเทียบให้ผมฟัง เรื่องรถหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะตามมานั้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว ถึงสมมติว่าคนต้องการให้มี คิดหรอครับว่าคนที่รักป่าเขาอย่างท่านจะยอมให้ทำ * คนอื่น ๆ เขาก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่จะสร้างตามมานี่แหล่ะ ตอนนั้นท่านยังไม่คิด แต่ตอนนี้ใคร ๆ ก็คิดถึงประเด็นนี้กันทั้งนั้นนะค่ะ -ครับ * ลูกหาบในปัจจุบันมีการประชุมหรือยังค่ะ ฉันจะลองไปแอบถามพวกเขาดู * -ไม่รู้จริงๆครับ ประชุมไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ลูกหาบลงความเห็นว่าเห็นด้วย -ถามแล้วได้ข่าวว่ายังไงเอามาบอกด้วยนะครับ * ท่าน ส.ว. บอกว่า อาจจะไม่ให้ใครค้างบนภูกระดึง แล้วจะขนของ ขนสัมภาระขึ้นไปทำไมค่ะ เพราะของทุกอย่างก็หาซื้อได้บนภูกระดึง ถ้ามีการขนสัมภาระ ก็แสดงว่าจะอนุญาตให้ค้างบนภูกระดึงหรือค่ะ *. -เรื่องไม่ให้ค้างเลยนี่ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับผมว่า - กระเช้าไม่อยู่ในเส้นทางเดียวกับคนขึ้น จะขึ้นอีกด้านของภู * นั่นซิค่ะ กระเช้าไม่อยู่ในเส้นทางเดียวกับคนขึ้น แล้วถ้าคนที่เดินขึ้นภูกระดึง เกิดอุบัติเหตุ กระเช้าจะช่วยคนที่เกิดอุบัติเหตุได้อย่างไรค่ะ * -ข้อนี้ให้คำตอบไม่ได้ครับ เรื่องเส้นทางกระเช้ารู้มาเเค่นี้ ตอนนั้นมันเป็นเเค่โครงร่างยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำขึ้นตรงจุดใดของภู * ชาวต่างชาติขึ้นไปแล้วจะไปชมอะไรค่ะ ไปนั่งกิน ไปชมวิวเฉย ๆ สถานที่แห่งนั้นจะมีพิชซ่า มี KFC ไหมค่ะ หรือท่านจะฝึกให้ชาวบ้าน ทำอาหารฝรั่ง * -ข้อนี้ผมว่าคุณไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ขอไม่ตอบครับ * ความสวยงามยินดีแบ่งให้อยู่แล้วค่ะ ความสวยงามบนภูกระดึงอยู่ตรงไหนค่ะ พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น พระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก หรือใกล้หน่อยก็ผาหมากดูก จะแบ่งปันอย่างไรค่ะ หรือจะสร้างถนน แล้วมีรถรับ-ส่งตามจุดต่าง ๆ แล้วความงามที่ว่านั่น คือขึ้นไปบนหลังแปแล้ว ยืนชมธรรมชาติแค่นั้นหรือค่ะ ถ้านักท่องเที่ยวเขาพอใจแค่นั้น ฉันก็ไม่มีอะไรโต้แย้งค่ะ * -แบ่งปันเท่าที่ทำได้ คือ นักท่องเที่ยวไปได้แค่ไหนแค่นั้น ท่านไม่เคยคิดสร้างถนน หรือรถรับส่งอะไรทั้งนั้นครับ -ความพอใจที่ได้ชื่นชมกับธรรมชาติของแต่ละคนวัดกันไม่ได้หรอกฮะ * ทำเส้นทางความกว้างขนาดเท่าไหร่ค่ะ * -ละเอียดไปจริงๆครับ ตอบไม่ได้ โครงการนานแล้วครับ ไม่ใช่กำลังจะทำตอนนี้ * คิดกระเช้าตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ทำไมไม่คิดระบบจัดการตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ปล่อยให้สะสมมาได้อย่างไรค่ะตั้ง 20 ปี ไม่มีกระเช้าก็มีวิธีจัดการได้ * -ถ้าจัดการเรื่องขยะได้ ภูจะไม่เป็นเช่นทุกวันนี้แน่นอนครับ ท่านไม่ได้ทำงานที่นั่นตลอด 20 ปีนะครับ ทางกรมอุทยานจัดให้มีคนผลัดเปลี่ยนกันไปเป็นหัวหน้าและผู้ช่วยตามวาระ แต่ละคนทำหน้าที่ต่างกันมีทั้งทำให้แย่ลง และดีขึ้น 20 ที่ผ่านมาผมก็ไม่รู้ว่าใครไปเป็นหัวหน้าดูแลเรื่องพวกนี้บ้าง -วิธีจัดการมี แต่ใช้กระเช้าขนขยะจะมีประสิทธิภาพที่สุดครับ * อันนี้คงอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนค่ะ ดูเหมือนประเทศพัฒนา แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่พัฒนา จุดนี้จะโทษใครดีค่ะ * -ข้อนี้ไม่เกี่ยวฮะ แค่เป็นคำพูดของท่านที่พูดถึงปัญหาจากนักท่องเที่ยว - จะจัดให้มีกระเช้าขนขยะต่างหาก ขนเอาขยะลงมาฝังแล้วเผาข้างล่าง * อย่างที่เสนอไว้แล้วค่ะ หากมีการกำหนดระเบียบที่เคร่งครัด ให้นักท่องเที่ยวนำขยะลงมาเองตั้งแต่แรกก็แก้ปัญหาได้แล้ว ลองขอคะแนนเสียงดูไหมค่ะ ว่าใครจะอาสาขนขยะลงมาจากภูกระดึงบ้าง * -ถ้าทำได้ก็น่าลองครับ * หมายความว่าจะอนุญาตให้มีการค้างอ้างแรมบนภูกระดึง แต่จำกัด จำนวนประชากรหรือค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เห็นด้วยค่ะ ว่าแต่โควต้า จำนวนคนที่นอนบนภูกระดึงนั้น จะรู้ผลเมื่อไหร่ค่ะ จะเปิดให้จองทาง เว็บไซต์หรือเปิดให้จองอย่างไร จะมีการเลือกปฏิบัติหรือ สงวนที่ไว้ให้ เฉพาะคนที่ขึ้นกระเช้าหรือเปล่าค่ะ * -ย้ำอีกครั้งครับว่าเป็นโครงการเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ว่าให้ค้างได้ เพียงแต่ต้องจำกัดจำนวน ขอย้ำอีกว่าท่านไม่ได้เป็นคนเดินเรื่องในขณะนี้ ผมเลยตอบคำถามของคุณไม่ได้ * ท่านคิดโครงการดีดี แล้วใครจะเป็นคนทำโครงการค่ะ * ข้อมูลพวกนี้น่าจะออกมาให้ประชาชนได้รู้ตั้งแต่แรกนะค่ะ ประชาพิจารณ์มีไหม ทำไมต้องปิดหูปิดตาประชาชนด้วย คนเขาก็มีเหตุผลกันทั้งนั้นแหล่ะ แต่ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นก็ต้องแย้ง โครงการไม่กระจ่าง ข้อมูลไม่ชัดเจน ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท คุณจะอนุมัติเงิน 445 ล้าน โดยที่ไม่รู้ประโยชน์ ผลดี ผลเสีย ของโครงการหรือเปล่าค่ะ??? *******ครับ พูดถึงเรื่องโครงการที่ถูกขุดขึ้นมาในปัจจุบัน ถ้ามันเป็นเรื่องการอนุรักษ์และพัฒนาจริงๆแบบที่ท่านคิดไว้ ผมก็เห็นด้วยเต็มที่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ผมต้องค้านอยู่แล้ว สุดท้ายนี้ ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกคนในฐานะคนรักภูเหมือนกันนะฮะ เเละอีกอย่างที่อยากฝากไว้ว่า ผมไม่สามารถตอบข้อสงสัยของทุกคนได้ เพราะพ่อผมไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้แล้ว!!! ตอนนี้ท่านไม่มีอำนาจในส่วนนั้น เเละผมก็ไม่อยากไปพูดคุยหรือซักถามเรื่องกระเช้ากับท่านอีก ป.ล. ที่ผมตั้งกระทู้นี้ไว้ก็เพื่อบอกจุดประสงค์ที่เเท้จริงของการคิดริเริ่มให้มีกระเช้าว่ามันเกิดจากเจตนาที่ดีของผู้คิด ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์เเค่นั้นล่ะฮะ ป.ล. 2 ผมไม่เคยใช้คำว่า "ค้านหัวชนฝา" เลยนะครับ จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 18:16:33 A:202.133.177.167 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบคุณ FrOzEn EgG คห.ที่ 5 ผมเเค่อยากพิมพ์ในสิ่งที่ผมเเละพ่อผมคิดก็เท่านั้น!! เเละก็ขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่สามารถไปช่วยอะไรในเรื่องนั้นได้ จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 18:19:41 A:202.133.177.167 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ คุณทิวากาล (ทิวากาล) คห.6 ขอบคุณมากๆจากใจจริงครับ จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 18:22:08 A:202.133.177.167 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ อีกครั้ง ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะอยากฟังความเห็นของคนรักภูด้วยกันว่าคิดยังไง จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 18:24:56 A:202.133.177.167 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับความเห็นอื่นๆที่ผมไม่ได้ตอบ ขอบคุณมากครับ ดีใจที่ได้เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 18:30:48 A:202.133.177.167 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ * สร้างโรงพยาบาลบนภูกระดึงไม่ได้หรือค่ะ  ให้มีแพทย์ประจำและมีพยาบาลด้วย ดิฉันว่าลงทุนแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก  มันไม่ใช่เอาไว้รักษาเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่ยังรักษา ดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่บนภูกระดึง และชาวบ้านที่ทำมาหากิน บนภูกระดึงด้วย  ทำไมไม่คิดถึงเจ้าหน้าที่และชาวบ้านบ้างค่ะ เอาแบบมีรถพยาบาลวิ่งขึ้นไปด้วยดีมั้ยเอ่ย จากคุณ : GSP1 - [ 15 ม.ค. 49 18:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 1.  ทำไมเมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือเหตุด่วน เหตุฉุกเฉิน    ไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์   หรือสร้างสถานพยาบาล  และมีแพทย์ พยาบาลประจำอยู่บนนั้น ที่พอรักษาพยาบาลเบื้องต้นได้   ซึ่งน่าจะใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างกระเช้า 2.  การจำกัดคนขึ้น ไม่ว่าสร้างกระเช้า หรือไม่สร้าง    ก็สามารถจำกัดได้ถ้าตั้งใจจริง    มีคนนับอยู่ ตีนภู ก็รู้แล้วว่า  ขึ้นไปกี่คน   และมีคนลงมากี่คน     วิทยุสื่อสารมี   ไม่ใช่ว่ามีกระเช้าแล้วจะจำกัดคนได้เท่านั้น     3.  เรื่องพ่อแม่  ตามลูกสาวบนภู      หลายรายไม่ต้องถึงภู  ก็เรียบร้อยแล้วครับ ขึ้นภูเหนื่อยจะตาย   แค่ขับรถขึ้นภูอื่น ๆ ยังเหนื่อยเลย นี่เดินขึ้นเพื่อมาเสร็จบนธรรมชาติที่สวยงาม   คงมีน้อยอ่ะครับ         สร้างกระเช้า  แล้วจะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้   มันคนละเรื่องเดียวกันเลยครับ ธรรมชาติที่สวยงามควรแบ่งปัน    แต่การแบ่งปันไม่ได้หมายความว่า ต้องเบียดเบียนธรรมชาติของมัน ผมเป็นคนนึงที่ไม่เคยขึ้นภูกระดึงเลย    แต่อยากไปด้วยตัวเอง เดินขึ้นเองมากกว่า       หากอายุมากขึ้นแล้วไม่มีโอกาสได้ไป  หรือขึ้นไม่ไหว   ก็ไม่เป็นไร      ชื่นชมความงามจากภาพถ่ายสำหรับผมก็เพียงพอแล้ว แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 49 18:50:54 จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม - [ 15 ม.ค. 49 18:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณBiueblood@มาทุกวันครับ ไม่ทราบว่าคุณเคยขึ้นภูกระดึงปีละกี่ครั้ง ถ้าขึ้นลงอาทิตย์ละครั้งได้และมี รพ.แบบคุณว่า ก็สมัครไปเป็นพยาบาลบนยอดภูสิครับ แล้วตอนส่งต่อผู้ป่วยอาการหนัก ก็ช่วยหามลงภูด้วยจะขอบคุณมาก   คิดได้ไงนี่ จากคุณ : มะเฟืองป่า - [ 15 ม.ค. 49 19:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 - ท่านไม่ได้เป็นคนผลักดันให้มีกระเช้าในขณะนี้ ตอนนี้ท่านไม่ได้ไปยุ่งอะไรแล้ว ท่านแค่คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อการอนุรักษ์ * ถ้างั้น ผู้ที่รับผิดชอบ ณ เวลานี้ ก็ขอให้ศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ และท่านจะดำเนินการอย่างไร กรุณานำข้อมูลออกมาชี้แจ้งให้สบายใจหายห่วงกันทุกคนเลยนะครับ ถ้าทำไม่ได้มันก็น่าห่วงมากเลยครับ ได้ฟังแต่ความเห็นของผู้สนับสนุนที่ไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบ ข้อสงสัยบางอย่างไม่ยอมตอบ หรือไม่ก็ตอบไม่ได้ ถึงตอบได้ดีแต่มันก็รับประกันอะไรไม่ได้เลยว่าจะดำเนินการตามนั้นได้อย่างไรบ้าง จึงขอ "เรียกร้องขอฟังเหตุผลอย่างละเอียดก่อนแบบหัวชนฝา" ขอรอดูผลสรุปก่อน "ยังไม่ได้ค้าน" นะครับ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 15 ม.ค. 49 19:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมอ่านแล้ว ผมก็ชอบนะ ถ้ามันเป็นไปได้ คุณกล้าเอาหน้าที่งาน ของพวกที่มีนโยบายแบบนี้ มาเป็นหลักประกันได้มั๋ยละ  ว่า  จะจัดระบบนิเวศน์ตามนี้   ผมบอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้   พวกแสวงหาผลประโยชน์แยะม๊าก   ขอร้องเถอะ ให้ลูกหลานพวกเราได้มีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติสวยงาม เช่นภูกะดึง บ้าง  ที่อื่นมีตั้งแยะที่จะสร้างกะเช้า  ก็ไปสร้างสิครับ  มาเน้นทำไม ภูกะดึง ผมไม่เข้าเลย จากคุณ : สุดหล่อนะ - [ 15 ม.ค. 49 20:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมขอสงสัยบ้างครับ "คุณเห็นที่ไหน ในประเทศที่ที่บริหารจัดการดีบ้าง สถานที่ท่องเที่ยวที่เจริญกันไปหมดแล้ว ณ ขณะนี้" ผมขี้เกียจพิมพ์คัดค้านไปมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะพวกคุณไม่เคยฟังคำคัดค้านของใครเลยด้วยซ้ำไป ค้านไปคุณก็ทำกันอยู่ดี จะทำอะไรก็ทำเถิด พวกคุณเป็นใหญ่นี่ครับ จริงไหม... ฝากถึงคุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ ผมไม่รู้จักคุณหรอกนะครับ แต่ว่าเข้าใจว่าทำไมคุณถึงค้านขนาดนี้ ผมก็เหมือนกัน แต่ผมว่าเอาเวลาที่ค้านกับคนพวกนี้ ไปเที่ยวภูกระดึงอีกครั้ง ก่อนที่มันจะสร้างดีกว่าครับ คุ้มกว่าเห็นๆ... จากคุณ : เซ็งสุดๆ (B`za) - [ 15 ม.ค. 49 20:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่าสรุปนะครับ เรื่องที่ จขกท นำมาบอกพวกเรากันเป็น โครงร่างซึ่งเกิดจากบุคคลท่านนึง ในสมัยก่อน ถ้าการสร้างกระเช้า สามารถทำได้ตามที่ร่างนั้นก็ดีไปครับ มีประโยชน์ดี ถึงแม้จะมีผลเสียตามมาก็เถอะ แต่สิ่งที่ทำให้มีการผลักดันให้สร้างกระเช้าในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาดี เหมือนใน โครงร่างที่บอกหลอกครับ โดยส่วนตัวผมยังไม่รุ้จัก ป่าหรือสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีกระเช้าพานักท่องเที่ยวไปส่ง ส่วยเรื่องการเกิดอุบัติเหตุนั้น เกิดขึ้นได้ครับ แต่ที่ผมรู้สึก การไปภูกระดึง คนที่ไปด้วยกันผมว่าแต่ละคนดูและซึ่งกันและกันดีครับ ดูจากหลาย ๆ กลุ่มที่เจอ จากคุณ : clickzika - [ 15 ม.ค. 49 20:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ใจคอจะเก็บของสวยๆไว้ดูกันเองไม่แบ่งคนอื่นดูมั่งเหรอ จากคุณ : ~+~TATIANA~+~ - [ 15 ม.ค. 49 20:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคุณ clickzika ที่ช่วยผมอธิบาย บางคนอ่านไม่เข้าใจเเล้วจะตีความหมายไปผิดๆ จะสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆว่า พ่อผมคิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อนการอนุรักษ์เเละพัฒนาภูกระดึงอย่างเเท้จริงๆ รวมทั้งปัญหาหลักเรื่องการจำกัดจำนวนคนด้วย ท่านคิดไว้ 20 กว่าปีเเล้วสมัยที่ท่านยังเป็นผู้ช่วยอยู่ เเต่ก็ล้มเลิกไป คุณพ่อผม ท่านรักป่าเท่าชีวิตของท่านเอง ท่านคงไม่คิดสร้างกระเช้าเเล้วให้มันเป็นตัวทำลายธรรมชาติมากกว่าการอนุรักษ์เป็นเเน่ ณ วันนี้ โครงการนี้ถูกขุดขึ้นมาโดยพวกหน้าเงิน(ถ้าพูดตามที่พวกคุณเข้าใจกัน) ทุกคนกลัวว่าเจตนามันจะเป็นไปในทางไม่ดี สิ่งที่พวกเราห่วงคือตอนนี้คือพวกหน้าเงินมันผลักดันกันสุดๆ กลัวสิ่งที่จะตามมา กลัวว่าระบบจัดการจะไม่ดีเเละเละเทะ เเต่ผมมองว่าถึงไม่มีกระเช้า ภูกระดึงทุกวันนี้ก็เเย่ลงอยู่เเล้ว ในอนาคตกระเช้าอาจถูกสร้างขึ้นโดยที่พวกเราไม่สามารถคัดค้านอะไร เเล้วถ้าผลพลอยได้จากมันคือ สามารถอนุรักษ์เเละพัฒนาภูกระดึงให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ การสร้างมันขึ้นมาก็คงเป็นอีกทางเลือกนึงที่ดีมากๆ สรุปว่า เรื่องกระเช้าอยากมี มีไปเถอะครับ ผมไม่ค้าน ผมเองเป็นเเค่คนๆนึงที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งพิมความเห็นตัวเองในอินเตอร์เนท เเต่ขอร้องเถอะว่าอยากให้มุ่งเน้นเเก้ปัญหาไปในเรื่องของการควบคุมจำนวนคนเเละรณรงค์เรื่องการทิ้งขยะมากกว่า นักท่องเที่ยวน้อย ปัญหาที่ตามมาก็น้อยครับ จากคุณ : จขกท - [ 15 ม.ค. 49 21:27:26 A:202.133.176.101 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านแล้ว ก็พอเข้าใจครับ แต่ผมว่า ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะส่วนที่ได้นั้น สามารถทดแทนได้ด้วยอย่างอื่นอยู่แล้ว - คนเจ็บ ก็มีฮอลิคอปเตอร์อยู่นี่ครับ แต่ก็อาจจะติดที่สภาพอากาศบ้าง ก็ควรสร้างสถานพยาบาลเบื้องต้นไว้บนนั้นแทน จะให้ถึงเป็นโรงพยาบาลเลยคงไม่ได้แน่ๆ บนนั้นน่ะ - ขยะ ก็ตามที่หลายท่านแนะนำวิธีควบคุมแล้ว - คนไม่มีแรง ผมว่าก็ไปเที่ยวที่อื่นก็ได้ สวยกว่ามีตั้งเยอะ ที่นี่มันดังเพราะว่ามันลำบาก เขาขายความลำบาก ดันไปทำให้มันสบายแล้วมันจะได้อะไรล่ะเนี่ย - การจำกัดจำนวนคน ไม่ต้องมีกระเช้าก็ทำได้ อย่างที่เกาะสุรินทร์ก็ให้จองที่ก่อน ถ้าภูกระดึงทำบ้างก็ได้อยู่แล้ว จากคุณ : Redrum - [ 15 ม.ค. 49 21:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ใจเย็นๆ ครับคุณ TATIANA แน้วโน้มเค้าอยากจะสร้างเหลือเกิน เพียงแต่อยากให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกันครับ ไม่อย่างนั้นคุณต้องรีบไปเที่ยวทันทีหลังสร้างเสร็จเพราะของสวยๆจะไม่เหลือไว้ให้ชมไงครับ ถ้าเกิดเค้าถอดใจบอกดูแลไม่ไหวเลิกสร้างกันขึ้นมา เดี๋ยวผมจะอุ้มคุณขึ้นไปเองครับ เห็นใจคนที่อยากขึ้นจริงๆ กรุณาทำกันดีๆนะครับขอร้อง จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 15 ม.ค. 49 21:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าสร้างได้แบบนั้นมันก็ดีสิครับ แค่กระเช้า ผมประท้วงเพราะสิ่งที่จะตามมาหลังกระเช้า ผลประโยชน์มันคายยาก ก็เหมือนเกาะช้าง เมื่อก่อนสวยมากๆ ไม่ต้องไปอันดามัน แค่เกาะช้างก็สวยเดี่ยวนี่ฮิต มีกลุ่มใหม่มาแทนกลุ่มเก่า มันเลยเละ ผมว่าสร้างฐานเฮลิคอปเตอร์ดีๆ เหมือนนายกไปประชุม ขนคนขึ้นลงสบายหลายรอบ สร้างไว้ขนผู้ได้รับบาดเจ็บและใช้ตรวจสอบพื้นที่ภูอื่นๆด้วย ส่วนเรื่องลูกสาวตามแฟน ผมว่าทั้งกระเช้า หรือภูกระดึงไม่ใช่สาเหตุและการแก้ของปัญหาสาวตามแฟนไปนอน ลูกหาบจะมีอาชีพแบกของไปตลอด มี กม. รองรับไหม เพราะต่อไปอีกสัก 20 ปี คนก็ลืมข้อตกลง กระเช้าก็มีไว้แบกของ แบกโค้กแป๊ปซี่ ข้าวน้ำ เพราะทุนมันถูกกว่า ทุกวันนี้แป๊ปซี่อาจจะ 40 30 แต่เงินที่จ่ายเพิ่มอีก 30 20 บาท ไปให้ชาวบ้านเป็นค่าแรงงานโดยตรง ต่อไปกระเช้าแบกแทนคิดค่าแรง 5 บาท แป๊ปซี่ขาย 15 20 บาท แต่เงินไม่ตกไปถึงชาวบ้าน ต้องไปจ่ายค่าแรงให้คุณกระเช้า 400 กว่าล้าน ทำไมไม่พัฒนาภูเรือ ???? ที่รถถึงได้สบาย ข้างบนก็สวยไม่แพ้กันแน่นอน (ถ้าคนไม่ได้ไปเดินป่าปิดซึงก็คนเข้าได้น้อยอยู่แล้ว) แล้วจะมีมาตรการอะไรให้หยุดที่กระเช้า ไม่สร้างอย่างอื่นแน่นอนตลอดไป ทำไมกระเช้ามันชอบแถมระบบจัดการขยะ เป็นแพคเกจด้วยละ ไม่มีกระเช้าก็จัดการได้ตอนนี้เรื่องขยะ หรือไม่ก็สร้างกระเช้าราคาถูกไม่เป็นร้อยล้าน แค่ไว้ขนขยะกับขนคนได้ยามจำเป็น ภูกระดึงมีชื่อกว่าภูเรือไม่ใช่เพราะสวย แต่เพราะนักแคมปิ้งเล่าลือ ปากต่อปาก มันเหมือนค่ายลูกเสือที่มีความประทับใจในประสบการณ์ร่วมกัน จนค่ายลูกเสือภูกระดึงฮิต คนอื่น ต่างอยากมาดูเพราะชื่อเสียงความประทับใจขจรขจาย จนบางคนอยากสร้างรถรับส่งคนไปดูค่ายลูกเสือ รายได้ชาวบ้านเพิ่มแน่ถ้ามีกระเช้า เพราะทุกวันนี้มันเป็นค่ายลูกเสือ ถ้าเปลี่ยนเป็นทัวร์จีนมาแทนขึ้นลงเสร็จก็ต้องซื้อของฝาก ตอนนี้เดินลงก็อยากขึ้นรถกลับบ้านไปนอนอย่างเดียว สรุปผมว่ามีกระเช้าอย่างเดียวไม่เป็นปํญหา แน่ๆ แต่ใครจะใจดีสร้างแค่กระเช้า ไม่มีทาง นอกจากรัฐบาลจะสร้างให้ฟรีๆ เหมือนงบสร้างถนน ค่าตั๋วขึ้นลงไม่พอใจนายทุนแน่นอน ลงทุนเพื่ออะไร 450 ล้าน เหมือนอยู่ๆมีเศรษฐี เห็นใจคนเดินขึ้นสะพานลอย มาออกงบเปลี่ยนทางขึ้นสะพานลอยฝั่งนึงเป็นแบบบันไดเลื่อนให้ 2 ล้านบาท เก็บตังค์ค่าขึ้น 2 บาท (เทียบจากงบสร้าง 450 ล้าน เห็นบอกจะเก็บ 500 ) กี่ปีจะได้ทุนคืน ใจดีจัง สร้างกระเช้าก็ต้องหาตังค์ ก็ต้องดึงพวกทัวร์กลุ่มใหม่มาแทนที่ใช้จ่ายมากกว่าพวกแคมปิ้ง (พวกแคมปิ้ง รวยจน ลูกหลานใคร จ่ายพอๆกัน เวลาไปเที่ยว) พวกนั้นคือกลุ่มทัวร์ถ่ายรูปไปฉี่ แล้วก็ซื้อของฝาก เรียกย่อๆว่าทัวร์จีน (ซึ่งก็ไม่ผิด)  แต่เอกลักษณ์ภูกระดึงคืออะไร ไม่มีที่ไหนเหมือนแล้ว แต่กลับอยากเปลี่ยนเป็นแบบทัวร์จีนให้หมดประเทศ ทำไมไม่ไปพัฒนาที่เป็นแบบทัวร์จีนอยู่แล้วให้มันดีขึ้นให้มันครบวงจร  เก็บเอกลักษณ์ที่นี่ไว้เหอะ จากคุณ : Dr.slump - [ 15 ม.ค. 49 21:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ปัญหาขยะจะแก้ยังไงดี ผมว่าอันนี้คงเป็นประเด็นมากกว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันคิด 1. สร้างเฉพาะกระเช้าขนขยะ ราคาไม่ต้องแพง 2. ออกกฏให้เข้ม ทั้งนักท่องเที่ยวและร้านข้างบน 3. ทำโทษให้เข้มๆ ไม่ต้องปรับเป็นเงิน แต่ให้เดินเก็บขยะเป็นค่าปรับกี่ถุงก็ว่าไป 4. ขนด้วย ฮ. 5. ตามทางเดิน ต้องสร้างระบบจิตสำนึกและทำโทษ ร้านค้าตลอดทางต้องช่วยสอดส่อง มอบสัญลักษณ์ให้ร้านที่ทำความดีเป็นแต้ม จากคุณ : Dr.slump - [ 15 ม.ค. 49 22:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ประมาณยี่สิบปีก่อนเหรอครับ... พอจะนึกออกว่า ท่านชื่ออะไร ยอมรับครับว่าหัวหน้าคนนี้...สุดยอด...  อีกคนนึงของกรมป่าไม้สมัยนั้น.....ถ้าไม่ผิดคนนะครับ บอกตามตรงว่าผมลืมนึกถึงท่านผู้นี้ไปสนิทเลย พอบอกว่าราว 20 ปีที่แล้ว  ก็นึกขึ้นมาได้เชียว.... ฟังเหตุผลของท่านแล้วก็ พอเข้าใจ  แล้วก้เชื่อใจว่า..ถ้าเป็นท่านอยู่ที่นั่น...ก็พอจะเชื่อใจได้ครับ แต่ว่า ณ วันนี้  สถาณการณ์เปลี่ยนไปเยอะ...จุดประสงค์ก็คงเปลี่ยนไป  เรื่องแอบแฝงก็คงมากขึ้น ที่สำคัญ  มีการเมืองและการเมืองท้องถิ่นเข้ามาด้วย อันนี้น่ากลัวครับ ผมว่า ท่านก็คงไม่สบายใจนักหรอกกับสถานณการ์ตอนนี้.... จากคุณ : P e x (HiPex) - [ 15 ม.ค. 49 22:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านๆมาแล้ว ตะหงิดๆ blueblood หาเรื่องถามอะไรมายั้วเยี้ย บางคำตอบก็อยู่ในคำอธิบาย จขกท.แรกๆแล้ว ถ้าตั้งใจจับใจความ ใจเป็นกลางจริงๆไม่อคติก็ไม่เห็นน่าทวงถาม แต่..อ่านมาถึง#12 แล้วอึ้ง จขกท.ยังอุดส่าขยันตอบให้เกือบทุกอันซะอีก ขอชื่นชม เป็นกำลังใจให้ครับ ดีใจที่คนที่รักภูในอีกแง่มุมหนึ่ง คิดหวังดีแบบเดียวกับพ่อคุณ ยังมีแต่ แม้ต้องเจอกับพวกค้านหัวชนฝา! คำถามที่ได้ตอบไปเยอะแล้ว ประเด็นแปลกๆ คือตั้งใจประชดนิสัยผู้หญิงละมั้ง ให้สร้างรพ.บนนั้น ยังไงเกิดการขาหัก เข้าเฝือกก็ต้องขนลงมาอยู่ดี หรือบาดเจ็บร้ายแรงไส้ติ่งแตก มันก็ต้องรักษาส่งต่อ รพ.ที่เครื่องมือพร้อมอยู่ดี อย่าบอกนะว่าให้สร้างรพ.ขนาดรพ.ประจำจังหวัดบนนั้นซะเลย! คิดไปได้.. กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินจริงๆ เกิดฉุกเฉินจริงๆ รอฮ. ไม่ทันกาล ก็จะมีแต่กระเช้านี่ล่ะครับ ที่ช่วยได้จริงๆ แล้วการใช้ฮ. นี่ถ้ามันไม่ฉุกเฉิน เรื่องใหญ่ก็ใช่ว่าจะร้องขอไปได้ง่ายๆตลอดนี่ครับ เขาก็ต้องทำงาน มีกำหนดการ แผนงาน อะไรต่างๆ นักบินถึงจะบินได้ ค่าใช้จ่าย ต่อฮ. กับไฟฟ้าให้กระเช้า ระยาวอันไหนคุ้มกว่าก็ดูกันง่ายๆอยู่แล้วล่ะนะ ผลประโยชน์ตรงๆมันก็ได้ฟื้นฟู ภูจริงๆเรื่องขยะ อย่างที่ว่า อีกอย่าง ดึงค่าท่องเที่ยวจากคนที่จ่ายจากกระเช้ามันซะ เอางบฯ มาให้จัดการให้ จนท.บังคับใช้กฎ คุมคนเที่ยวได้ดีๆ กระเช้ามันก็แค่เครื่องมือหนึ่ง เครื่องมือ รณรงค์ บังคับ รักษา ผมเชื่อว่าเขาก็ พยายามทำกันมานานหลายปีแล้วล่ะครับ แล้วมันได้ผลแค่ไหน? ขืนแย่ๆแบบนี้ มันต้องมีจุดเปลี่ยนแปลงสักที จะให้ จนท. คอยมาขู่กันว่า ถ้าไม่ทำให้ได้ เดี๋ยวจะสร้างกระเช้านะ!! แล้วพวกคุณ จะยอมรักษา ทำให้มันดีขึ้นงั้นหรือ?มันก็ตลกๆ ผมเองล่ะ ที่คอยตำหนิ พวกค้านหัวชนฝา พวกนี้มักหาเรื่องค้านทุกอย่าง ขุดมาให้ได้ที่ว่าค้าน ยังไงก็ไม่เห็นด้วย โครงการจะดีมีเหตุผลยังไง ตั้งใจ วางธงไว้แล้วว่าจะค้านยังไงก็ต้องค้าน ไม่เห็นเคยมีว่า ถ้าทำได้ดี ฯลฯ แบบนั้น แบบโน้นได้จริง ถึงจะโอเค แต่ยังไงซะละก็ถือว่าเป็นคนรักภูฯเหมือนกันรูปแบบหนึ่ง ก็หยวนๆ ผมไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ในใจคงจะรู้ตัวเองกันดีบ้างล่ะ จากคุณ : ไม่ค้านหัวชนฝาครับ - [ 15 ม.ค. 49 22:35:06 A:61.91.145.252 X: TicketID:063856 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านแล้วตะหงิดมาก ถ้าคนที่เขียนโครงการนี้คิดอย่างนั้นจริงๆ - ที่ต้องทำเพราะกระเช้าจะช่วยมันเป็นการพัฒนา เพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านและแก้ปัญหาต่างๆได้ดี ข้อนี้คลุมเครือ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม เหมือนกับนักการเมืองหาเสียงว่าพี่น้องจะกินดีอยู่ดีนั่นแหละ ไม่มีรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมเลย ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆต้องมีรายละเอียดแล้วว่าจะเพิ่มรายได้ด้วยวิธีไหน เช่น เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพิ่มอัตราการใช้จ่ายต่อหัว เป็นต้น - เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ เพื่อคนที่ขึ้นไม่ไหวเช่น คนชรา คนพิการ ใช้ขนขยะ เจ้าหน้าที่สามารถขึ้นกระเช้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ - เคยมีนักท่องเที่ยงตกน้ำตกแล้วเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหามลงภูอย่างทุกลักทุเล โชคดีที่ไป รพ.ทันเวลา นักท่องเที่ยวคนนั้นจึงรอด คนอื่นอาจไม่โชคดีเเบบนี้ - เวลาเกิดเหตุด่วนฉุกเฉิน ระหว่างทางขึ้นภู เจ้าหน้าที่ต้องรีบกระเสือกกระสนปีนขึ้นไปแล้ว ตัวเองก็เหนื่อยมากๆแถมยังต้องช่วยนักท่องเที่ยงคนนั้นลงมาที่ตีนภูอีก เป็นงานที่สาหัสเอาการ - มีพ่อแม่มาตามหาลูกสาวที่ตีนภู ทั้ง 2 คนขึ้นมาหาลูกสาวไม่ไหว ฝากบอกว่าให้กลับลงไปด้วย ลูกสาวหนีมาเที่ยวกะแฟนหนุ่ม 2 ต่อ 2 และพ่อแม่เองก็ห่วงเรื่องที่ลูกตนนั้นจะเสร็จแฟนที่นี่ ท่านเดินมาที่เต็นท์ แล้วก็ถามไถ่ว่า ว่าไง มาจากไหน พ่อแม่รออยู่ที่ตีนภูน่ะ บอกให้กลับลงไปได้แล้ว พยายามพูดจากันๆท่าไว้ตามประสาผู้ใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก จะให้กลับเลยก็ไม่ได้ เพราะใกล้มืดแล้ว สุดท้ายก็ต้องให้ลงพรุ่งนี้เช้า ส่วนคืนนี้ ก็คิดต่อกันเอาเอง ว่าเสร็จไม่เสร็จ ท่านเสริมต่ออีกว่า มันเป็นการเห็นแก่ตัวของวัยรุ่น ที่กีดกันไม่ให้ผู้ใหญ่ขึ้นมาได้ แล้วก็จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ทุกข้อข้างบนนี้ตอบรวมกันได้ว่า ปกติมีน่าจะเฮลิคอปเตอร์สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้วเพราะตอนที่ผมไปก็เห็นมีบิน ขึ้น-ลง อยู่(ถ้าไม่มีก็จัดหาซะ) เรื่องขยะก็น่าจะจ้างลูกหาบ หาบลงเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้เขาอีกทาง(หรือทำอยู่แล้วก็ไม่รู้) ส่วนเรื่องคนหนีตามกันนั้น ..... มีกระเช้าแล้วจะทำอะไรได้หรือ ลองแยกเป็นสองกรณี 1. ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งเจ้าหน้าที่ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวได้เลย แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ 2. บรรลุนิติภาวะแล้ว ต่อให้ห้ามที่นี่ได้ คนมันจะ xx กันมันไม่จำเป็นต้องที่ภูกระดึงหรอก พ่อ-แม่ คิดว่าจะห้ามลูกๆได้ 7-24-356 เลยรึ ถ้าเรื่องมันถึงขนาดนี้แล้วนอกจากพึ่งกฎหมายแล้วคงต้องพิจารณาการอบรมสั่งสอนธิดาซะแล้วล่ะ ว่าทำอย่างไรให้มันมาถึงนี่ได้ ลองคิดดูว่า ถ้าทางบ้านห้ามไม่ให้มาเที่ยวซะอย่าง ลูกดีๆที่ไหนเขาจะไม่เชื่อฟัง   ถึงตอนนี้ผมแทรกถามว่า * แล้วถ้าสร้างขึ้นไป คนที่เที่ยวไม่ไหวจะเที่ยวข้างบนยังไง จะต้องสร้างอะไรอย่างอื่นตามมามั้ยครับ - ท่านบอก คนที่รู้ตัวว่าเที่ยวไม่ไหวจะไม่พยายามขวนขวายให้ตัวเองไปนู่นไปนี่ได้ ขอแค่ขึ้นมาสัมผัส ณ จุดๆนึงที่กระเช้ามาถึงก็พอใจแล้ว - ท่านยังบอกอีกว่า คนที่คิดต่างจากนี้ คือ อยากไปนู่นไปนี่เหมือนคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองไม่ไหวนั้นเป็นส่วนน้อย เหมือนภิกษุที่เดินห้าง สองข้อนี้มีเหตุผลอะไรมารองรับ ไม่มีเหตุผล เป็นการคาดคะเนเท่านั้น ถ้าจะยืนยันอย่างนั้นลองโชว์ผลการสำรวจหน่อยซิ ที่ว่า "อยากไปนู่นไปนี่เหมือนคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองไม่ไหวนั้นเป็นส่วนน้อย" ส่วนน้อยนั้นกี่เปอร์เซนต์ ถ้าไม่มีอะไรที่จะมายืนยันได้ ข้อความข้างต้นนั้นก็เป็นได้แค่ ความคิดเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น(ยังไม่ได้นับรวมว่า อาจจะมีการบิดเบือนเนื่องจากผลประโยชน์อื่นๆอีก เช่นเพื่อสนับสนุนโครงการสร้างกระเช้าเป็นต้น) - ความคิดของท่านในตอนนั้น มีแค่กระเช้าอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นถ้าสร้างตามมา เช่น รถรับส่ง หรือ อะไรอื่นๆ ท่านไม่เห็นด้วย ผมมองประโยคนี้ในอีกแง่ว่าคนที่พูดกำลัง Defend ตัวเองว่าถ้าคนอื่นจะสร้างไอ้นู่น ไอ้นี่เพิ่มเติม ก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้วนะ - ลูกหาบจะขาดรายได้นั้น ไม่จริง ท่านบอกผมว่า ท่านเป็นคนประชุมลูกหาบตอนนั้นด้วยตนเองเลย - สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการกระเช้าจะต้องปฏิบัติตามดังนี้ มาถึงตีนภู จะต้องมาเซ็นชื่อและซื้อบัตรสัมภาระตามปกติ กระเป๋าเอาไว้นี่ จ่ายตังค์ แล้วตัวเองไปขึ้นกระเช้า พูดง่ายๆคือ บังคับใช้ลูกหาบนั่นแหละครับ ไม่ให้เอาสัมภาระขึ้นกระเช้าไปด้วย กระเช้ามีไว้ขนคนเท่านั้น ยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปใหญ่ อย่างนี้คนก็ไปถึงก่อนสัมภาระสิ แสดงว่าไม่มีการทำแผนการรองรับลูกหาบไว้เลย ถ้ามีการทำแผนอย่างนี้จริงผมถือว่าห่วยมาก เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองที่สุด ถ้ามีรถกระเช้าแล้วผมจะให้ขนของขึ้นไปทางกระเช้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แล้วจัดหาอาชีพทดแทนให้ลูกหาบแทน อาจจะมีการอบรมอาชีพให้หรือให้เงินทุนตั้งร้านค้าบนภูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว - กระเช้าไม่อยู่ในเส้นทางเดียวกับคนขึ้น จะขึ้นอีกด้านของภู - ช่างต่างชาติเที่ยวภูปีละไม่ถึง 5 % ท่านเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมามากมาย และรู้ว่าพวกเขามีจิตสำนึกในการอนุรักษ์มากมายไม่แพ้พวกเรา จึงเป็นการดีถ้าจะมีกระเช้า เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านทั้งบนภู ระหว่างทาง และตีนภู - ควรแบ่งความสวยงามที่เราได้รับให้คนที่ไม่มีโอกาสได้รับด้วย - ทำเส้นทางวิวแชร์ไปแค่ผานกแอ่น ผาอื่นๆจะไปไม่ได้ - ถึงไม่มีกระเช้า สภาพบนภูก็แย่ลงเรื่อยๆอยู่แล้ว ท่านบอกผมให้ลองไปขุดดินที่ลานกางเต็นท์ดู ขุดไปตรงไหนก็จะเจอขยะที่กลบไว้ - รอยสลักบนที่ต่างๆ การเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป ก็ถือว่าไม่ได้เป็นการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ สิ่งเหล่านี้มาจากนักท่องเที่ยวทั้งนั้น - จะจัดให้มีกระเช้าขนขยะต่างหาก ขนเอาขยะลงมาฝังแล้วเผาข้างล่าง พวกนี้เป็นเรื่องปลีกย่อยที่สามารถจัดการได้อยู่แล้ว ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยครับ ผมรอฟังอยู่ ผมถาม *แล้วเรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวล่ะครับ - เรื่องจำกัดจำนวนนี่ท่านเคยลองทำมาแล้ว ทำได้ยากมาก ขนาดที่ว่ามีน้ำท่วมขังไม่สามารถกางเต็นท์ค้างแรมได้ นักท่องเที่ยวก็ดื้อที่จะขึ้นไป พอปล่อยขึ้นไปสุดท้ายก็ไปนอนใต้ถุนบ้าน แล้วขี้ เยี่ยว เรี่ยราดสร้างปัญหามากมาย แต่ถ้ามีกระเช้าแล้ว ก็จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ขออนุญาตหยาบคายนะครับ - อย่าเลยไม่เอาดีกว่า เอาเป็นว่าผมคิดว่าไร้สาระครับ - เมื่อจำนวนคนเต็มแล้ว ทางอช.จะแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ตีนภูทราบ และถ้านักท่องเที่ยวยังต้องการที่จะขึ้นไปอีก ก็จะต้องซื้อตั๋วกระเช้าขาลง เพื่อไม่ให้ค้างแรมบนนั้น แน่นอนว่าต้องใช้กระเช้าลงเพราะกว่าจะเที่ยวดูพระอาทิตย์ตกเสร็จก็มืดแล้ว แล้วคนที่เดินขึ้นก็ยังคงเดินขึ้นต่อไป หรือว่าจะห้ามคนเดินขึ้นล่ะ - เมื่อจำนวนคนค้างแรมเต็ม ผู้ที่เกินโค้วต้าขึ้นไปเที่ยวแล้วต้องลงภายในวันนั้น มิฉะนั้นจะโดนปรับ - ให้ลงมานอนที่ตีนภูพอเช้าค่อยขึ้นไปสลับกับนักท่องเที่ยวที่ลงมา - พอต้องลงมานอนตีนภู รายได้ก็ตกอยู่กับชาวบ้านที่ขายข้าว ขายของ หรือบ้านพักที่เปิดไว้ ขอประทานโทษครับผมขอเรียกไอ้ทั้งสามข้อว่า ห่วยครับ คุณลองคิดดูแล้วกันว่าถ้าคุณมาถึงแล้วแล้วเจอไอ้อันใดอันหนึ่งเข้าคุณจะคิดอย่างไร 1.ขอให้ปรับจริงๆเถอะครับ จะไปเช็คว่าใครอยู่เกินยังไงไม่ทราบ เอาเหอะ ต่อให้เช็คได้แล้วทำไมตอนนี้ไม่ทำก็ไม่ทราบ 2.อันนี้ล่ะผมเคืองจริงๆ มันเหมือนมัดมือชกไปเลยนะ เป็นการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มั่วมาก ถ้าคนเขามีแผนเตรียมไว้แล้วล่ะ จะให้เขาทำยังไง 3......ผลพลอยได้จากความมั่วซั่วของการจัดการที่ไม่ดี ผมว่านะถ้าจะทำจริงๆจังๆ ไม่ต้องมีกระเช้าหรอก สำรวจ ณ บัดนี้ เดี๋ยวนี้เลย ว่าภูกระดึงรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละกี่คน แล้วใครจะมาต้องจองล่วงหน้า แล้วถึงเที่ยงถ้าคนที่จองไว้ไม่มาให้คนที่มานั่งรอ **wait list** ได้ขึ้นไปแทน ขาจรต้องมาเสี่ยงดวงเอาว่าจะมีคนไม่มาไหม แล้วก็เก็บเงินค่าเข้าเพิ่มขึ้น จะจำกัดก็ทำแค่นี้แหละ ปัญหาถ้าจะมีก็คือร้านค้าข้างบนที่ลูกค้าจะน้อยลงกับลูกหาบจะมีรายได้น้อยลง แต่ถึงตรงนี้เราต้องเลือกแล้วว่า เราจะเอาป่า หรือเราจะเอาคน จากคุณ : Nexus - [ 15 ม.ค. 49 23:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ได้อ่านข้างต้นเพราะยาว แต่ในฐานะคนที่เคยขึ้นมา 6 ครั้งแล้วอยากให้มีเป็นทางเลือก ไม่ขึ้นก็เดินได้ ธรรมชาติ:จะลดลงหรือปล่าว ต้องขึ้นกับการบริหารจัดการ จากคุณ : ป.กองปราบ - [ 15 ม.ค. 49 23:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สู้ๆนะ.. จากคุณ : กราฟฟี่ (graffy) - [ วันครูแห่งชาติ 00:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่รู้นะครับว่าคุณ Nexus อ่านความเห็นก่อนๆเเล้วมาตอบเลย โดยที่ไม่ได้อ่านเนื้อกระทู้ที่ผมตั้ง หรือว่าเห็นว่ากระทู้นี้พูดถึงกระเช้าเเล้วคลิกเข้ามาเเล้วใส่เลยครับ? หลายข้อผมเเค่พูดถึงในเเง่ประโยชน์ที่จะตามมา ไม่ได้เน้นว่าข้อเหล่านั้นคือสาเหตุหลักที่ต้องสร้างกระเช้า รวมทั้งไอเรื่องชิงสุกก่อนห่ามที่คุณดูจะสนใจกับมันมาก ฝากคุณไว้ว่า กลุ่มคนคิดโครงการนี้ขึ้นมาครั้งเเรก กับกลุ่มคนที่ฟื้นมันขึ้นมาตอนนี้มันคนละกลุ่มกันครับ เพราะฉะนั้นผมคงตอบข้อสงสัยของคุณไม่ได้หรอก โครงการที่ผมกล่าวมาเป็นของ 20 กว่าปีที่เเล้ว โปรดอ่านให้เข้าใจเเล้วก็อย่าเหมารวมจะดีมากครับ จากคุณ : จขกท - [ 16 ม.ค. 49 00:07:04 A:202.133.176.101 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นั่นแหละครับปัญหาที่ีผมเห็น เพราะว่า 1.ประโยชน์ที่จะมีจากกระเช้าในกระทู้นี้นั้น เป็นการประเมินของเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่ง เป็นคนละโครงการกับที่กำลังรื้อฟื้นในปัจจุบัน 2.ผมก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่อง(ในสายตาของผม) ในกรอบความคิดของการสร้างกระเช้าไปแล้ว ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้อาจจะทำโดยมีความตั้งใจที่ดี ที่บริสุทธิ์ แล้วยังไงล่ะ สิ่งสุดท้ายที่ปรากฎออกมาคือผลลัพท์ครับ ความเข้าใจของผมคือ คุณจะชี้ให้เห็นว่าโครงการกระเช้าแต่เดิมนั้นถูกคิดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่ดีและปราศจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเรื่องนายทุนหน้าเลือด ซึ่งตรงนั้นผมไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะผมไม่ได้มีความสามารถอ่านใจได้ว่ามีเจตนาอย่างไร เอาเป็นว่าผมเชื่อว่าผู้คิดโครงการเมื่อยี่สิบปีที่แล้วมีความตั้งใจที่ดีก็แล้วกัน สิ่งเดียวที่ผมวิจารณ์ได้คือตัวโครงการครับ *ฟังจากข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในกระทู้นี้* ตัวโครงการยังมีข้อบกพร่อง ไม่สมบูรณ์และ ไม่สามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของผมได้ ผมอยากให้เคลียร์นะครับว่าผมไม่ขอวิจารณ์คน ผมวิจารณ์โครงการ(เท่าข้อมูลที่มีอยู่ในกระทู้นี้) ส่วนทีี่ผมอาจจะพาดพิงถึงคนก็คงเป็นเรื่องของการใช้ข้อมูลที่คลุมเครือ ไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นสนับสนุนเท่านั้นเอง ผมวิจารณ์โครงการ(เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว)ว่า ขาดการบริหารทรัพยากรที่ดีทั้งในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว และเรื่องของลูกหาบ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่ใช้นั้นก็มาจากตัวกระทู้เอง ผมไม่ได้เหมารวมกับโครงการปัจจุบันนะครับ ผมพูดถึงเฉพาะโครงการในกระทู้นี้เท่านั้น ผมขอบังอาจแนะนำนะครับว่าผมอ่านแล้วรู้สึกว่าทั้งหมดที่คุณพูดมาคือเหตุผล เพราะคุณไม่ได้มีการจำแนกไว้ว่าอะไรคือเหตุผลหลัก อะไรคือผลพลอยได้ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะเดาเอาเองว่าอะไรคือเหตุผลที่ใช้ในการตัดสินใจ ผมจึงพูดถึงทุกข้อโดยถือว่าทุกข้อมีความสำคัญต่อการตัดสินใจเท่าเทียมกันทั้งหมด คราวหน้าถ้ามีเหตุผล - ผลพลอยได้ ควรจะแยกจากกันอย่างเด่นชัดครับ เพื่อจะได้สะดวกในการประเมินค่าและตีความ จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 00:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอเสริมข้อนี้อีกนิด เป็นข้อที่คุณไม่รู้อะไรอีกมากมาย ผมเลยจะตอบให้นะครับ *ยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปใหญ่ อย่างนี้คนก็ไปถึงก่อนสัมภาระสิ -ไม่ทราบว่าคุณเคยขึ้นภูหรือยัง คนต้องถึงยอด ก่อนสัมภาระเป็นส่วนใหญ่อยู่เเล้วครับ ไม่ว่าจะเดินหรือกระเช้า *แสดงว่าไม่มีการทำแผนการรองรับลูกหาบไว้เลย ถ้ามีการทำแผนอย่างนี้จริงผมถือว่าห่วยมาก -คำก็ห่วย 2 คำก็ห่วยนะครับ จากที่อ่านๆดู คุณไม่รู้เรื่องระบบการจัดการเกี่ยวกับลูกหาบเลยเเม้เเต่นิดเดียว เเล้วไงครับคุณกลัวเรื่องอะไร ที่ผมพูดมาเพราะกระเช้าจะไม่ทำให้พวกเค้าเสียรายได้เเน่นอนครับ *เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองที่สุด ถ้ามีรถกระเช้าแล้วผมจะให้ขนของขึ้นไปทางกระเช้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า -ขัดกันอย่างที่สุดเลยนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นการสิ้นเปลืองยังไง ถ้าใช้ขนของด้วย ลูกหาบขาดรายได้เเน่นอนครับ *จัดหาอาชีพทดแทนให้ลูกหาบแทน อาจจะมีการอบรมอาชีพให้หรือให้เงินทุนตั้งร้านค้าบนภูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว -ข้อนี้นี่สุดๆ อาชีพลูกหาบมีมานาน สืบทอดกันเป็นรุ่นๆ เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ อยู่ๆคุณจะมาให้พวกเค้าเปลี่ยนอาชีพที่ทำกันมานานง่ายๆอย่างนั้นหรอครับ -คนที่เป็นลูกหาบต้องขึ้นทะเบียนกับทางอช.ทุกคน ล่าสุดที่ผมไปมา 27 ธ.ค.นี้ ได้รู้ตัวเลขว่ามีทั้งหมด 400 คน -คุณเอาอะไรคิดฮะ??? จะให้ 400 คนเปลี่ยนอาชีพ หรือตั้งรานไปขายของอย่างที่คุณว่าหรอไง เเค่พื้นที่ระหว่างทางขึ้น ที่ศูนย์บริการวังกวาง หรือตามหน้าผาต่างๆ ที่เเทบจะไม่เหลือเเล้วครับ มีเเต่ร้านค้าเต็มไปหมด เเล้วคุณยังจะพวกเขาไปให้ขายอะไรอีก ต้องถางป่า ทำที่เพื่อจะสร้างอาชีพค้าขายอีกหรอไงครับ ก่อนจะมาพูดเเทนพวกเขาน่ะ ถามพวกเขารือยังครับว่าต้องการอะไร ไม่ใช่อยู่จะมาให้เปลี่ยนไปทำนู่นทำนี่ได้ง่ายๆ ป.ล.เอาเป็นว่า ผมยังยืนยันว่าเป็นกลาง ทำก็ได้ ไม่ทำก็ดีครับ ขอเเค่ไปเเก้ปัญหาให้ถูกจุดก็พอครับ จากคุณ : จขกท - [ 16 ม.ค. 49 00:35:55 A:202.133.176.101 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ทุกข้อคือเหตุผลในการตัดสินใจคิดสร้างขึ้นมาครับ เเต่เหตุผลหลักๆคือ -เรื่องการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยว 27 ธ.ค.ที่ไปมา ใครที่ไปจะได้ยินประกาศที่ศูนย์บริการว่า "นักท่องเที่ยวท่านใด มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล กรุณามาที่ศูนย์บริการด้วย" ผมได้ยินเเล้วยังคุยกับเพื่อนว่า ถ้าเกิดไม่มีใครไป หรือคนเจ็บเป็นอะไรที่หนักเกินกว่าจะรักษาเบื้องต้นได้ จะทำยังไง? กระเช้าช่วยตรงจุดนี้ได้ครับ -เรื่องประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ บอกไปในเนื้อกระทู้เเล้วว่า เจ้าหน้าที่ต้องประสบกับความยากลำบากเเละความล่าช้าในการปฏิบัติงานในทุกๆเรื่อง กระเช้าช่วยตรงจุดนี้ได้ครับ -สุดท้ายกระเช้าช่วยเรื่องการจำกัดจำนวนคนขึ้นภูได้ครับ ตามที่ผมอธิบายไปเเล้วนั่นแหละ เอาสั้นๆคนเกิน บังคับซื้อตั๋วขาลง ไม่ให้ค้าง 1.ขอให้ปรับจริงๆเถอะครับ จะไปเช็คว่าใครอยู่เกินยังไงไม่ทราบ เอาเหอะ ต่อให้เช็คได้แล้วทำไมตอนนี้ไม่ทำก็ไม่ทราบ -ถ้าได้ทำตั้งเเต่ตอนนั้น เเน่นอนครับปรับเเน่ การปรับเป็นความคิดของพ่อผมตอนนั้น จะให้บอกว่าที่เต็มเเล้ว ไล่นักท่องเที่ยวลงเหมือนหมูหมาทำไม่ได้อยู่เเล้ว ต้องสร้างกฏขึ้นมา ไม่งั้นจะคิดทำทำไมครับ -ส่วนที่ถามว่าทำไมตอนนี้ไม่ทำ คุณคงต้องไปถาม หัวหน้าคนปัจจุบันเอานะครับ 2.อันนี้ล่ะผมเคืองจริงๆ มันเหมือนมัดมือชกไปเลยนะ เป็นการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มั่วมาก ถ้าคนเขามีแผนเตรียมไว้แล้วล่ะ จะให้เขาทำยังไง -จากที่อ่านดู ถ้าคุณบอกว่าคุณรักธรรมชาติจริงๆ เเล้วคุณเคืองเรื่องอะไรครับ ถ้าทำจริงๆระบบการจองย่อมทำได้ เเต่ในเมื่อมาไม่ทันโค้วต้าคุณก็จะฉุนเฉียวอยากจะขึ้นไปให้ได้อย่างนั้นหรอครับ อย่าลืมว่านักท่องเที่ยวขึ้นน้อย ปัญหาน้อยตามครับ ตรงข้อนี้ไปหาข้อมูล ดูอช.เเก่งกระจานที่ท่านเคยทำไว้ปี 48 เรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้ ท่านทำสำเร็จเเล้วก็ดีได้จนถึงทุกวันนี้ครับ 3......ผลพลอยได้จากความมั่วซั่วของการจัดการที่ไม่ดี -ไม่เห็นด้วยที่ใช้คำว่าผลพลอยได้นะครับ การที่จำกัดไม่ให้ขึ้น หรือถ้าขึ้นไปเเล้วคนเต็ม ต้องลงไม่ให้ค้าง ในเมื่อต้องลงมานอนมากินข้างล่าง คือการเพิ่มรายได้ของชาวบ้านที่อยู่ตีนภูครับ จากคุณ : จขกท - [ 16 ม.ค. 49 01:08:13 A:202.133.176.101 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอเสริมข้อนี้อีกนิด เป็นข้อที่คุณไม่รู้อะไรอีกมากมาย ผมเลยจะตอบให้นะครับ  *ยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปใหญ่ อย่างนี้คนก็ไปถึงก่อนสัมภาระสิ  -ไม่ทราบว่าคุณเคยขึ้นภูหรือยัง คนต้องถึงยอด ก่อนสัมภาระเป็นส่วนใหญ่อยู่เเล้วครับ ไม่ว่าจะเดินหรือกระเช้า ตอนที่ผมไป สัมภาระถึงก่อนครับ ผมขึ้นไปถึงแล้วก็ไปรับของเลย ของมากองรออยู่แล้ว *แสดงว่าไม่มีการทำแผนการรองรับลูกหาบไว้เลย ถ้ามีการทำแผนอย่างนี้จริงผมถือว่าห่วยมาก -คำก็ห่วย 2 คำก็ห่วยนะครับ จากที่อ่านๆดู     คุณไม่รู้เรื่องระบบการจัดการเกี่ยวกับลูกหาบเลยเเม้เเต่นิดเดียว เเล้วไงครับคุณกลัวเรื่องอะไร ที่ผมพูดมาเพราะกระเช้าจะไม่ทำให้พวกเค้าเสียรายได้เเน่นอนครับ ผมอธิบายไว้แล้วว่า ผมอาศัยข้อมูลจากกระทู้นี้เท่านั้น เรื่องที่อยู่นอกเหนือจากนี้ผมไม่มีความสามารถคาดเดาเอาเองได้ ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าระบบจัดการลูกหาบไม่ได้กล่าวถึงในเนื้อหาของกระทู้นี้ ถ้าคุณมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ขอให้แสดงออกมา ผมอยากให้พูดกันบนพื้นฐานของข้อมูลครับ ข้อมูลแค่ไหนผมพูดแค่นั้น *เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองที่สุด ถ้ามีรถกระเช้าแล้วผมจะให้ขนของขึ้นไปทางกระเช้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า -ขัดกันอย่างที่สุดเลยนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นการสิ้นเปลืองยังไง ถ้าใช้ขนของด้วย ลูกหาบขาดรายได้เเน่นอนครับ สิ้นเปลืองสิครับ เพราะการใช้กระเช้าขนของมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้คนขนอยู่แล้ว ถ้าเราใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพต่ำโดยในขณะเดียวกันมีระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่ จะไม่เรียกว่าสิ้นเปลืองได้อย่างไร แล้วที่ผมกล่าวถึงเนี่ย ผมกล่าวถึงในกรณีที่มีกระเช้านะครับ ผมถึงคัดค้านการสร้างกระเช้าไงล่ะ เพราะถ้ามีกระเช้าแล้ว ถ้าคุณจะไปใช้ลูกหาบอีก คุณต้องตอบคำถามให้ได้ว่าทำไมไม่ใช้กระเช้าที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า? เพื่อสนับสนุนอาชีพลูกหาบอย่างนั้นหรือ? นั่นเป็นสาเหตุที่เพียงพอหรือไม่ ประโยคของผมไม่ได้ขัดกันเอง ผมบอกเพียงว่าถ้ามีกระเช้า จะไปบังคับให้เขาใช้ลูกหาบทำไม เพื่ออะไร ได้อย่างไร แล้วมันสมเหตุสมผลหรือไม่   *จัดหาอาชีพทดแทนให้ลูกหาบแทน อาจจะมีการอบรมอาชีพให้หรือให้เงินทุนตั้งร้านค้าบนภูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว -ข้อนี้นี่สุดๆ อาชีพลูกหาบมีมานาน สืบทอดกันเป็นรุ่นๆ เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ อยู่ๆคุณจะมาให้พวกเค้าเปลี่ยนอาชีพที่ทำกันมานานง่ายๆอย่างนั้นหรอครับ -คนที่เป็นลูกหาบต้องขึ้นทะเบียนกับทางอช.ทุกคน ล่าสุดที่ผมไปมา 27 ธ.ค.นี้ ได้รู้ตัวเลขว่ามีทั้งหมด 400 คน -คุณเอาอะไรคิดฮะ??? จะให้ 400 คนเปลี่ยนอาชีพ หรือตั้งรานไปขายของอย่างที่คุณว่าหรอไง เเค่พื้นที่ระหว่างทางขึ้น ที่ศูนย์บริการวังกวาง หรือตามหน้าผาต่างๆ ที่เเทบจะไม่เหลือเเล้วครับ มีเเต่ร้านค้าเต็มไปหมด เเล้วคุณยังจะพวกเขาไปให้ขายอะไรอีก ต้องถางป่า ทำที่เพื่อจะสร้างอาชีพค้าขายอีกหรอไงครับ ก่อนจะมาพูดเเทนพวกเขาน่ะ ถามพวกเขารือยังครับว่าต้องการอะไร ไม่ใช่อยู่จะมาให้เปลี่ยนไปทำนู่นทำนี่ได้ง่ายๆ แน่นอนมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่ายๆ และผมก็ไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่ผมคิดว่าถ้ามีกระเช้าเกิดขึ้นมา มันเป็นสิ่งที่ต้องทำแน่ๆ ลูกหาบบางส่วนหรืออาจจะทั้งหมดต้องเปลี่ยนอาชีพไปค่อนข้างแน่นอน  แล้วในโครงการนี้คิดเผื่อตรงนี้ไว้บ้างหรือยัง ว่าถ้าเขาต้องตกงาน งานลดลง เนื่องจากกระเช้าจะให้เขามีรายได้จากทางไหน จากโครงการเท่าที่ผมอ่านอยู่ ไม่มีเรื่องเช่นนี้ผมชักสงสัยว่าโครงการตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับลูกหาบไว้อย่างไร ลูกหาบจะใช้ชีวิตอย่างเดิมโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยหรือ หลังมีการสร้างกระเช้า สมมติฐานเช่นนี้เป็นไปได้หรือไม่ ผมคิดว่าเรื่องลูกหาบเนี่ยต้องมีโครงงานระยะยาว เพื่อช่วยในการส่งเสริมอาชีพ ผมไม่ได้บอกว่าจะต้องให้ทุกคนไปขายของ ผมอยากบอกว่าโครงการเท่าที่อยู่ในกระทู้นี้ ไม่สามารถตอบคำถามผมเรื่องลูกหาบได้ ป.ล.เอาเป็นว่า ผมยังยืนยันว่าเป็นกลาง ทำก็ได้ ไม่ทำก็ดีครับ ขอเเค่ไปเเก้ปัญหาให้ถูกจุดก็พอครับ ตรง ป.ล. นี่ผมขอเสนอความเห็นได้ไหม อยากพูดตรงๆ แต่กลัวคุณโกรธ เลยต้องขออนุญาตกันก่อน จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 02:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมอยู่ฝ่ายค้านนะครับ แต่เมื่อได้อ่านที่คุณเจ้าของกระทู้ได้ร่ายยาวมาทั้งหมดก็เข้าใจในเหตุผลของคุณและคุณพ่อนะครับ และคุณพ่อของคุณท่านเป็นนักพัฒนาจริงๆ ครับ และหากท่านได้ดำเนินการต่อตามที่ท่านได้ว่าไว้รับรองว่ามันต้องออกมาดีแน่ครับ เหตุผลหลักเรื่องผู้บาดเจ็บ อันนี้เห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้งเลยครับ และสำหรับผู้ที่บอกให้ใช้เฮลิคอปเตอร์นะครับว่า หากมีการเรียก ฮ. เพื่อขนคนเจ็บ คนเจ็บจะต้องเป็นผู้จ่ายเองแน่นอน รัฐไม่มีทางควักให้แน่ และค่าบริการไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อครั้งแน่ครับ เมื่อเห็นราคานี้บางคนอาจยอมตายบนภูนะครับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องให้เจ้าหน้าที่แบกคนเจ็บลงมาไงครับ เรื่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อันนี้คงไม่ได้หมายถึงแต่เรื่องฉุกเฉินนะครับ แต่ต้องรวมถึง การทำงานประจำวัน ทุกวันนี้ จนท. ขึ้นไปทำงานก็ต้องไปค้างบนนั้นทุกคน นานๆ ทีจะลงมา เพราะขึ้นลงทีมันเหนื่อย ใครจะไปขึ้นลงบ่อยๆ แล้วทีนี้คนที่เขาไม่อยากขึ้นไปค้างบนนั้นโดยได้รับเงินเดือนอันน้อยนิด แต่ต้องอยู่ไกลบ้านไกลครอบครัวนานๆ เขาก็ไม่อยากไปทำงานบนภูหรอกครับ พวกหมอก็เหมือนกัน จะให้สร้าง รพ. บนนั้นคงสร้างได้อยู่ แต่ถามหน่อยว่า หมอที่ไหนจะอยากเดินขึ้นไปเหนื่อยๆ เพื่อประจำการบนนั้น กระเช้าก็คงจะช่วยให้ คนที่ต้องไปทำมาหากินบนนั้น(ชาวบ้าน) และเจ้าหน้าที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่คงเป็นจุดประสงค์หนึ่งของคุณพ่อคุณใช่ไหมครับ เรื่องขยะ น้อยคนที่จะขนลงมาครับ แค่เดินก็เหนื่อยแล้ว ถ้าเก็บค่ามัดจำ 100 บาท คนก็คงจะคิดว่าเงินนี้ถือเป็นค่าเก็บขยะละกัน ฉะนั้นเลิกคิดไปได้เลยว่านักท่องเที่ยวจะมีจิตสำนึกขนาดนั้น เรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติ เห็นด้วยว่าไปกันน้อยเพราะเราไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ภูกระดึงให้ชาวต่างชาติเลย แต่เข้ามายืนยันว่า พวกฝรั่งเขาคงไม่อยากขึ้นภูไปเจอ เคเอฟซีแน่นอน เขาอยากไปดูธรรมชาติสวยๆ มากกว่า ฉะนั้นที่บางคนบอกว่า ไม่มีเคเอฟซี พิซซ่า แล้วเขาจะอยากขึ้นมาทำอะไรนั้น  ไม่จริงครับ อันนี้เป็นความเห็นที่ ข้างๆ คูๆ ออกแนวประชดประชันมากเลยครับ จริงๆ ผมชอบเดินขึ้นภูกระดึงนะ สนุกดี แต่ปลายปีที่ผ่านมาผมก็เลือกที่จะไม่ไปภูกระดึง ไปภูเรือแทน เพราะขี้เกียจเดินขึ้นครับ นึกถึงเนื้อตัวมอมแมม เหงื่อไหลไคลย้อยตอนเดินขึ้นก็เหนื่อยแล้ว (ผมขึ้นภูมา 5 ครั้งแล้ว) แต่เดินเที่ยวบนนั้นวันละ 20 กม. ผมเดินได้ เพราะไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้น แต่ใจผมตอนนี้ก็ยังอยู่ฝ่ายค้านอยู่มากกว่า เรื่องสร้างกระเช้า ตามหลักการมันก็ดูดี แต่ตอนนี้กลัวเรื่องผลประโยชน์ไงครับ แต่บางความเห็นของฝ่ายค้านในนี้ก็เหลือเกินจริงๆ ชอบเอาเรื่องหยุมหยิมมาพูด ขอบคุณที่ จขกท. แสดงความเห็นนะครับ และขอเป็นกำลังใจให้คุณและขอให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรงครับ จากคุณ : Toddy&Hammy - [ 16 ม.ค. 49 02:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทุกข้อคือเหตุผลในการตัดสินใจคิดสร้างขึ้นมาครับ เเต่เหตุผลหลักๆคือ -เรื่องการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยว 27 ธ.ค.ที่ไปมา ใครที่ไปจะได้ยินประกาศที่ศูนย์บริการว่า "นักท่องเที่ยวท่านใด มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล กรุณามาที่ศูนย์บริการด้วย" ผมได้ยินเเล้วยังคุยกับเพื่อนว่า ถ้าเกิดไม่มีใครไป หรือคนเจ็บเป็นอะไรที่หนักเกินกว่าจะรักษาเบื้องต้นได้ จะทำยังไง? กระเช้าช่วยตรงจุดนี้ได้ครับ ตรงนี้ผมเสนอไปแล้วว่า ถึงไม่มีกระเช้า(ซึ่งต้องสร้างอีกใช้เวลาเป็นปี) สิ่งที่ควรจะมี ไม่ใช่สิต้องมี หรือจะพูดให้ถูกคือ มันมีอยู่แล้ว นั่นคือ Helicoptor ซึ่งสามารถใช้ได้ในเวลาฉุกเฉิน มันเป็นสิ่งที่จำเป็นซึ่ง ไม่ว่าจะมีกระเช้าหรือไม่ มันต้องมีอยู่แล้ว -เรื่องประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ บอกไปในเนื้อกระทู้เเล้วว่า เจ้าหน้าที่ต้องประสบกับความยากลำบากเเละความล่าช้าในการปฏิบัติงานในทุกๆเรื่อง กระเช้าช่วยตรงจุดนี้ได้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าเป็นเรื่องฉุกเฉิน Helicoptor (เครื่องบินปีกหมุน) เป็นสิ่งที่มีความยืดหยุ่นในการทำภารกิจกู้ภัยมากกว่า จะเห็นว่าทั้งสองข้อข้างบนนั้น กระเช้าไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ลองคิดดูว่า ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน ในบริเวณป่าที่ห่างจากกระเช้า 20 Km. พนักงานจะทำอย่างไร ระหว่างนั่งกระเช้าขึ้นไปแล้วเดินเท้าต่ออีก 5 ช.ม.(ความเร็วในการเดินเฉลี่ยของมนุษย์เท่ากับ สี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง) กับ เรียก Helicoptor ฉุกเฉิน ใช้เวลา 15-20 นาที และถ้าเป็นชุดกูภัยก็จะมีอุปกรณ์โรยตัว กับรอกที่ใช้ยึดเตียงผู้ป่วย โดยไม่จำเป็นต้องลงจอด -สุดท้ายกระเช้าช่วยเรื่องการจำกัดจำนวนคนขึ้นภูได้ครับ ตามที่ผมอธิบายไปเเล้วนั่นแหละ เอาสั้นๆคนเกิน บังคับซื้อตั๋วขาลง ไม่ให้ค้าง 1.ขอให้ปรับจริงๆเถอะครับ จะไปเช็คว่าใครอยู่เกินยังไงไม่ทราบ เอาเหอะ ต่อให้เช็คได้แล้วทำไมตอนนี้ไม่ทำก็ไม่ทราบ -ถ้าได้ทำตั้งเเต่ตอนนั้น เเน่นอนครับปรับเเน่ การปรับเป็นความคิดของพ่อผมตอนนั้น จะให้บอกว่าที่เต็มเเล้ว ไล่นักท่องเที่ยวลงเหมือนหมูหมาทำไม่ได้อยู่เเล้ว ต้องสร้างกฏขึ้นมา ไม่งั้นจะคิดทำทำไมครับ -ส่วนที่ถามว่าทำไมตอนนี้ไม่ทำ คุณคงต้องไปถาม หัวหน้าคนปัจจุบันเอานะครับ 2.อันนี้ล่ะผมเคืองจริงๆ มันเหมือนมัดมือชกไปเลยนะ เป็นการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มั่วมาก ถ้าคนเขามีแผนเตรียมไว้แล้วล่ะ จะให้เขาทำยังไง -จากที่อ่านดู ถ้าคุณบอกว่าคุณรักธรรมชาติจริงๆ เเล้วคุณเคืองเรื่องอะไรครับ ถ้าทำจริงๆระบบการจองย่อมทำได้ เเต่ในเมื่อมาไม่ทันโค้วต้าคุณก็จะฉุนเฉียวอยากจะขึ้นไปให้ได้อย่างนั้นหรอครับ อย่าลืมว่านักท่องเที่ยวขึ้นน้อย ปัญหาน้อยตามครับ ตรงข้อนี้ไปหาข้อมูล ดูอช.เเก่งกระจานที่ท่านเคยทำไว้ปี 48 เรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้ ท่านทำสำเร็จเเล้วก็ดีได้จนถึงทุกวันนี้ครับ 3......ผลพลอยได้จากความมั่วซั่วของการจัดการที่ไม่ดี -ไม่เห็นด้วยที่ใช้คำว่าผลพลอยได้นะครับ การที่จำกัดไม่ให้ขึ้น หรือถ้าขึ้นไปเเล้วคนเต็ม ต้องลงไม่ให้ค้าง ในเมื่อต้องลงมานอนมากินข้างล่าง คือการเพิ่มรายได้ของชาวบ้านที่อยู่ตีนภูครับ จากข้อมูลในกระทู้นี้ไม่ได้ระบุถึงการจองเอาไว้ ผมย่อมไม่สามารถเดาได้ว่าต้องมีการจองก่อน กระทู้ระบุเพียงว่ามีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่พักข้างบนได้ ซึ่งเมื่อไม่มีคำว่าการจองผมย่อมนึกถึงระบบ First Come First Serve ก่อน จากกระทู้ข้างต้นผมสรุปว่า เมื่อผมมาถึงตีนเนิน ผมก็จัดการไปลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่บอกว่าคนเต็มแล้ว ผมก็ต้องหาที่พักข้างล่าง ตกลงผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า ถ้ามีระบบการจำกัดจำนวนคน + ระบบการจองล่วงหน้า ผมก็ต้องของอภัยด้วยที่อ่านไม่เจอจริงๆ เจอแต่ - เมื่อจำนวนคนเต็มแล้ว ทางอช.จะแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ตีนภูทราบ และถ้านักท่องเที่ยวยังต้องการที่จะขึ้นไปอีก ก็จะต้องซื้อตั๋วกระเช้าขาลง เพื่อไม่ให้ค้างแรมบนนั้น แน่นอนว่าต้องใช้กระเช้าลงเพราะกว่าจะเที่ยวดูพระอาทิตย์ตกเสร็จก็มืดแล้ว อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือไม่ว่าไม่ใช่การจอง แต่ทางข้างบนจะแจ้งลงมาข้างล่างว่าคนเต็มหรือยัง - เมื่อจำนวนคนค้างแรมเต็ม ผู้ที่เกินโค้วต้าขึ้นไปเที่ยวแล้วต้องลงภายในวันนั้น มิฉะนั้นจะโดนปรับ ตรงนี้ผมน่าจะเข้าใจไม่ผิดว่า ผมไม่มีสิทธิ์รู้ล่วงหน้าว่าผมจะได้พักข้างบนหรือไม่ ผมจะรู้ก็ต่อเมื่อผมไปถึงตีนภูแล้วตามระบบ First come First serve - ให้ลงมานอนที่ตีนภูพอเช้าค่อยขึ้นไปสลับกับนักท่องเที่ยวที่ลงมา - พอต้องลงมานอนตีนภู รายได้ก็ตกอยู่กับชาวบ้านที่ขายข้าว ขายของ หรือบ้านพักที่เปิดไว้ ตรงนี้คงไม่ต้องตอบอะไรนะครับ เพราะมันเป็นผลที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ที่จะมาเที่ยวค้างที่ภูกระดึง ตามระบบในกระทู้นี้ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะได้พักบนภูหรือเปล่า ตรงนี้ยังไงล่ะผมถึงบอกว่าระบบการจัดการไม่ดี ถ้าระบบการจัดการดี คนที่เขาตั้งใจจะมาพัก ย่อมสามารถจองล่วงหน้าได้ โดยไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะถูกไล่ลงไปข้างล่างหรือเปล่า ตรงนี้ถ้าจะแย้งขอให้แย้งในบริบทนี้นะครับ สรุป 1.ผมไม่เห็นระบบการจองในกระทู้ที่เราคุยกัน 2.ผมไม่เห็นว่าการมีกระเช้าจะเหนือกว่า Helicoptor ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ยกเป็นตัวอย่างแต่อย่างใด จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 02:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ๊ะ เพิ่งเห็นความข้างบน ผมคิดว่าถ้าเป็นเรื่องฉุกเฉินแล้ว ถ้ารัฐยังมาเก็บตังอีกผมจะสู้เพื่อให้ใช้ได้ฟรีครับ แต่ต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอนว่าจะใช้ในกรณีใดได้บ้าง ผมยังคงยืนยังครับว่า Helicoptor มีความยืดหยุ่นสูงกว่ามากในกรณีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน โถ่ ชีวิตคนทั้งชีวิตนะครับรัฐจะเหนียวได้อย่างไร เดี๋ยวถ้ากระทู้นี้ยังมีคนสนใจอยู่พรุ่งนี้ผมจะมาเสนอกรอบความคิดของผม จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 02:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไว้พรุ่งนี้มาช่วยคร๊าบบบบ เพราะท่าจะยาวไม่แพ้กัน จากคุณ : I.Brother - [ 16 ม.ค. 49 03:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามารับทราบข้อมูล...ต่าง ๆ เอาไว้คิด จากคุณ : Noko (ไม้หลักปักมั่นคง) - [ 16 ม.ค. 49 10:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไอ้โรงพยาบาลที่ว่านี้ เข้าใจว่าคุณblueblood@มาทุกวัน คงหมายความว่าเหมือนสถานีอนามัย หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มากกว่า คงไม่ใช่โรงพยาบาลที่มีตึกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยในหรอกค่ะ แล้วก็คงไม่ต้องถึงกับใช้รถพยาบาลมาวิ่งหรอก  แค่เดินหลบรถจักรยานก็รำคาญจะแย่อยู่แล้ว จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 16 ม.ค. 49 10:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รับฟังครับคุณ Nexus หลังจากฟังจากท่านมาพอเข้าใจว่า ประโยชน์ของกระเช้ามีอะไรบ้าง จุดประสงค์หลักๆที่ท่านคิดจะสร้าง บวกกับจิตสำนึกของกลุ่มคนที่ทำงาน ณ เวลานั้น มันทำให้ผมมั่นใจว่า เจตนาที่คิดสร้างมันออกมาครั้งเเรกไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์อย่างทุกวันนี้เเน่นอน พ่อผมเป็นผู้ช่วยฯ ไม่ใช่นายทุน ท่านคิดมันออกมาเพื่อพยายามจะพัฒนาเเละรักษาภูกระดึงไม่ให้เเย่อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เพราะอะไร ผมจึงต้องมานั่งพิมพ์บอกทุกคนที่คิดว่า คนคิดกระเช้ามันคิดอะไรอยู่ เพราะผมเห็นหลายความเห็น พิมพ์สิ่งที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่เคยรู้เลยว่า กลุ่มคนที่ทำงานตรงจุดนี้เค้ามีจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งกว่าพวกคุณหลายเท่านัก พวกเขาคลุกคลีอยู่กับมันทุกวัน การพิทักษ์รักษามันคืองานทั้งชีวิต ต่างจากพวกเราที่เเสวงหาความสุข สนุกเอาจากธรรมชาติเป็นเพียงครั้งคราว กรณีนี้พวกนายทุนก็เช่นกัน สิ่งตรงนี้บ่งบอกได้ชัดเจนอยู่เเล้วครับ ว่างๆก็อยากให้คุณลองไปพูดคุยกับพนักงานป่าไม้เหล่านั้นบ้างก็ดี ถ้าคุณขลุกอยู่กับพวกเค้าตั้งเเต่เด็กๆอย่างผม คุณจะรู้เองครับ นอกเรื่องมากไปขอโทษด้วยครับ ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับกระเช้าต่อละกันนะครับ -ของถึงก่อนถึงหลัง เเล้วยังไงต่อครับผมไม่เข้าใจ ใครถึงหลังก็เอาได้เลย ใครถึงก่อนก็เดินเที่ยวก่อนได้ครับ กระเป๋าไม่หาย ระบบลูกหาบดีอยู่เเล้วครับทุกวันนี้ -เข้าใจครับว่าคุณวิจารณ์มาห่วยๆๆ คือเอาเเค่ข้อมูลจากในนี้ เเต่คุณควรคิดซักนิดว่า กระทู้นี้เป็นเพียงสิ่งที่ผมได้พูดคุยกับท่านปากต่อปาก ผมไม่ได้อ่านโครงร่างที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือเอามันมาพิมพ์ๆตามอย่างละเอียด ผมเลยไม่มีทางชี้เเจงรายละเอียดเเละเหตุผลสนับสนุนมากมายอย่างที่คุณต้องการจะรู้หรอกครับ บอกได้เเค่ว่ามีกระเช้าเเล้วจะมีระบบจัดการอะไรตามเเบบคร่าวๆ บอกได้เเค่เเนวความคิดที่ท่านคิดไว้ตอนนั้นก็เท่านั้นครับ ตรงนี้ ไม่รู้ผมพลาดเองที่ไม่ได้บอกไว้เเต่เเรก หรือว่าคุณคิดเอาเองว่าผมกับท่านจะสามารถให้รายละเอียดหรือเเก้ไขข้อข้องใจของคุณได้หมดจดทุกข้ออย่างนั้นหรอครับ? -พ่อผมมีเเนวความคิดเรื่องกระเช้านี้ออกมาเพื่ออนุรักษ์เเละพัฒนาภูกระดึง เเล้วท่านจะให้สร้างมันออกมาให้มันขนของ เเล้วต้องมาเบียดเบียนอาชีพพวกชาวบ้าน หรือเปลี่ยนวิถีชีวิตคนเเถวนั้นเพื่ออะไรครับ? ก่อนท่านจะเขียนโครงการนี้ออกมา ต้องผ่านการคิดปรึกษาหารือหลายซับหลายซับซ้อน รวมทั้งประชุมกลุ่มลูกหาบเเละชาวบ้านว่าเห็นด้วยหรือไม่ ท่านคิดมันออกมาเเบบนี้ครับ ถ้าจะใช้กระเช้า ต้องใช้ลูกหาบ คุณคิดว่ามันบังคับกันก็ใจดำไปหน่อยนะครับ โครงการที่คิดมาเเล้วทำชาวบ้านตกงาน ตอนประชุมกลุ่มชาวบ้านคงไม่มีใครเห็นด้วยหรอกครับ ตรง ป.ล.เอาเลยครับเต็มที่ ไม่ว่ากัน เราคุยกันด้วยเหตุผล จะรอรับฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อนะครับ ส่วนเรื่องเปลี่ยนอาชีพผมก็ตอบตามข้อมูลที่คุณให้น่ะครับ เรื่องฮอ ผมจะบอกว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆทาง อช.จะไม่ใช้ครับ เพราะเป็นการรบกวนสัตว์ป่าเเละธรรมชาติบนภูมากเกินไป ปกติเเล้วหัวหน้าอช.จะนั่งฮอเพื่อขึ้นไปทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่อะไรก็ตามเเต่บนยอดภู หลายคนเเละหลายที่จะนั่งฮอขึ้นไป เเต่กับคนปัจจุบัน ผมจำชื่อท่านไม่ได้จึงไม่ขอเอ่ยละกัน ถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆท่านไม่เเตะครับ สาเหตุมาจากข้างต้นที่ผมว่า อีกกรณีที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ ฮอ ของคุณ สมมิตว่าถ้ามีคนเจ็บ เรียกฮอมา เเล้วก็ไปส่งคนๆนั้น ในขณะที่เดินทางไปส่ง มีคนเจ็บในเวลาไล่เลี่ยกัน คุณจะเเก้ปัญหานี้ยังไงครับ ตรงนี้ถ้าเป็นกระเช้า กระเช้าตอบโจทย์ได้ดีที่สุดครับ เรื่องระยะทางคุณไม่ต้องห่วง บนภู มอเตอร์ไซค์มีครับ ไปได้ทุกที่ ใช้เวลาน้อยกว่าคุณ ว เรียกฮอเเน่นอน สามารถเข้าถึงได้ทุกสภาพพื่นที่ ลองคิดดูถ้าคนเจ็บลื่นตกน้ำตกโผนพบ หรือน้ำตกถ้ำใหญ่ที่เข้าถึงยาก เจาเอาฮอไปลงตรงไหนครับ เรื่องค่าใช้จ่ายระหว่าง 2 สิ่งนี้ คงไม่ต้องพูดถึง เป็นโครงการลาตระเวนช่วยเหลือโดยใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นโครงการที่ท่านคิดเเละทำขึ้นมาได้สำเร็จครับ เรื่องการจำกัดจำนวนคน ประโยชน์ของกระเช้าในข้อนี้ กระเช้าจะสามารภรับ-ส่งคนที่มาหลังโค้วต้า หรือมาหลังบ่าย 2 ให้ขึ้นไปเที่ยวได้ โดยไม่ต้องนั่งรอ นอนรอที่ตีนภูให้วันๆนึงหมดไป ระหว่างที่ใช้กระเช้าขึ้นไปนั้น คุณก็สามารถเดินเที่ยว หรือไปดูพระอาทิตย์ตกตามหน้าผาต่างๆภายในเวลาลงที่กำหนดก็ได้ครับ เรื่องนอนตีนภู ถูกครับ ถ้าเต็มเเล้วให้ขึ้นเเต่ไม่ให้ค้าง ต้องลงมานอนข้างล่าง ทั้งหมดเป็นนโยบายการจำกัดจำนวนคนโดยใช้กระเช้าที่ผมพูดไว้ตั้งเเต่หัวกระทู้เเล้ว *เมื่อคุณมาถึงตีนภู เเล้วจัดการไปลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่บอกว่าคนเต็มแล้ว ผมก็ต้องหาที่พักข้างล่าง ตกลงผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า -เข้าใจถูกครับ ปัจจุบันถ้ามาหลังบ่าย 2 ก็ต้องหาที่พักตีนภูเช่นกันครับ สรุป 1.อย่างที่บอกไว้ผมไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องการจองใดๆทั้งนั้น มันไม่อยู่ในเเนวความคิดของพ่อผมด้วยซ้ำ เเต่พูดขึ้นมาเพราะว่า มันเป็นเพียงตัวเลือกนึงในการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวถ้าหากมีกระเช้า ผมไม่ได้พูดคุยถึงระบบการจัดารเรื่องนี้เเต่อย่างใดถ้าคุณอ่านดีๆ เพียงเเต่ที่คุณบอกว่ามัดมือชกกัน หรือที่คุณเคืองมากๆ เพราะเตรียมตัวมาค้างคืนเเต่คนเต็ม การจองเป็นเเค่ทางออกนึงก็เท่านั้นครับ 2.ครับผม เรื่องฮอผมบอกไว้เเล้ว ฝากไว้อีกทีว่า กระทู้นี้เป็นเพียงสิ่งที่ผมได้พูดคุยกับท่านปากต่อปาก ผมไม่ได้อ่านโครงร่างที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการสร้างเเละระบบการจัดการที่จะตามมา หรือนำเอกสารนั้น มาพิมพ์ๆตามอย่างละเอียด ผมเลยไม่มีทางชี้เเจงรายละเอียดเเละเหตุผลสนับสนุนมากมายอย่างที่คุณต้องการจะรู้ได้ครับ จากคุณ : จขกท - [ วันครูแห่งชาติ 11:25:18 A:202.133.182.82 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อยากเสริมเรื่องขยะนิดนึงนะครับ ตลอด 20 กว่าปีตั้งเเต่ที่พ่อผมท่านทำงานมา เกิดปัญหาขยะตกค้างบนภูมาตลอด ทาง จทน.ทุกคนช่วยกันจัดการโดยทั้งเผา ฝัง ขนลงไปโดยใช้เเรงคน ซึ่งทั้งหมดไม่มีทางต่อกรกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีได้เลย โครงการเเบบภูสอบดาวน่าสนใจครับ เเต่พูดตามตรงเเล้วคงช่วยเเก้ปัญหาได้ไม่มาก ตามความเห็นของผม เเละคุณ Taddy&Hammy "เรื่องขยะ น้อยคนที่จะขนลงมาครับ แค่เดินก็เหนื่อยแล้ว ถ้าเก็บค่ามัดจำ 100 บาท คนก็คงจะคิดว่าเงินนี้ถือเป็นค่าเก็บขยะละกัน ฉะนั้นเลิกคิดไปได้เลยว่านักท่องเที่ยวจะมีจิตสำนึกขนาดนั้น" ผมขอเสริมต่อว่า จิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติของเเต่ละคนมีมากน้อยไม่เท่ากัน ถ้าจะใช้วิธีปลูกฝังจิตสำนึกนักท่องเที่ยวทุกคนเพื่อเเก้ปัญหาขยะ ผมว่าคงเป็นไปได้ยากถึงยากมากๆครับ เรื่องการใช้กระเช้าขนขยะผมเห็นด้วยที่สุดเเล้วจากทุกข้อ กระเช้าจะขนขยะลงได้ทีละมากๆ ทำงานได้อย่างต่อเนื่องเเละมีประสิทธิภาพมากกว่าเเรงคน ประโยชน์ของการใช้กระเช้า จึงสอดคล้องไปกับการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยไปในตัว เมื่อจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้ค้างบนภูได้ ปัญหาเรื่องขยะตกค้างก็จะหมดไปด้วย ป.ล. ไปๆมาๆยิ่งพูดผมยิ่งกลายเป็นอยู่ข้างกระเช้าเข้าไปทุกที ***ย้ำว่ายังไงผมก็อยู่ฝ่ายค้านนะครับ*** เรื่องที่พิมพ์ๆไปทั้งหมด เป็นเเค่การมองถึงประโยชน์ของกระเช้าที่มีต่อการพัฒนาเเละอนรุกษ์ภูกระดึงเเบบเปิดใจกว้างมากขึ้นเท่านั้นครับ จากคุณ : จขกท - [ 16 ม.ค. 49 11:57:54 A:202.133.182.82 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จ่าย  10,000  กับ  ตายบนภู       ผมยอมจ่าย 10,000 บาท ครับ  ดีกว่าตายบนภู  แน่นอน ....    ผมว่าชีวิตผมทั้งชีวิต  สามารถหาเงินได้มากกว่า  10,000  บาทแน่นอน จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม - [ 16 ม.ค. 49 12:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแต่ช่วงต้นๆ หลังๆอ่านไม่ไหว ยาวเหลือเกิน เอาเป็นว่า ข้อมูลทั้งหมดจะค่อยๆอ่านแล้วกัน โดยส่วนตัว ไม่เห็นด้วยนะกับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง แต่เสียงผมเสียงเดียวคงช่วยอะไรไม่ได้มาก กับปากกาเซ็นอนุมัติโครงการไม่ได้หรอก สุดท้ายถ้าจบลงด้วยการสร้างกระเช้า ไม่รู้ว่าคนจะเห่อไปภูกระดึง เหมือนเปิดรถไฟฟ้าใต้ดินใน กทม หรือไม่ ยังไม่แน่ใจ แล้วถ้าคนที่ค้านการสร้างกระเช้า จะขึ้นกระเช้า จะได้หรือไม่ หรือว่าต้องเดินขึ้น เพราะค้านโครงการนี้ วันนี้เราทราบหรือไม่ว่า ยังมีการทำลายป่าไม้กันอยู่ทุกเวลา เราทราบกันหรือไม่เพียงใด จากคุณ : ปี1 กานต์ - [ 16 ม.ค. 49 12:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องขึ้นกระเช้าขึ้นภูกระดึงนี่ มันอยู่ที่คนค้านหรือเห็นด้วย มีเป้าหมายของตัวเองแล้วหรือยัง ถ้าฟันธงไปแล้วว่ายังไงก็ไม่เอาแบบนี้ป่วยการอธิบาย ผมฟังมานานแล้วครับเรื่องกระเช้าขึ้นภูกระดึง เจ้าของกระทู้ ตอบค่อนข้างตรงใจผมนะ ถ้างั้นขอเพิ่มเติมในส่วนที่ท่านยังไม่พูดถึงแล้วกัน เรื่อง ฮ. นี่ใครเคยใช้หรือใครเป็นนักบิน(ห้องนี้ผมเห็นมีพี่อยู่คนเล่นเครื่องบินถ้าอ่านก็ช่วยตอบหน่อยนะครับ) มันไม่ใช่ว่านึกจะขึ้นก็ขึ้นได้นะครับ วันท้องฟ้าปิดหรือเวลากลางคืนนี่ ถ้ามันไม่ชัวร์จริงๆ นักบินไม่อยากเสี่ยงเอาเครื่องขึ้นกันหรอก เพราะนอกจากจะช่วยคนเจ็บไม่ได้ พาลจะตายหมู่ทั้งนักบิน หมอ คนเจ็บ เรื่องกระเช้าที่ผมว่านักการเมือง สว. หรือคนที่เคยมาถกกันประเด็นนี้ไม่กล้าพูด (เพราะเป็นประเด็นการเมือง) คือเรื่องการจำกัดจำนวนคนขึ้นไปค้างบนภูกระดึงนี่ พูดกันมาตั้งแต่สมัยป๋าเปรมเป้นนายกฯแล้วครับ แต่ถ้ากำหนดคนขึ้น ปัญหาที่ตามมาแต่ไม่เคยหยิบยกกันมาพูดเลย คือ ลูกหาบ ครอบครัวลูกหาบ พ่อค้า แม่ค้า บนนั้นจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน อยู่ดีๆไปกำหนดคนขึ้น ค่าแรงที่ลูกหาบได้รับก็น้อยอยู่แล้วถ้าเทียบกับแรงงานที่ลงไป ยังจะไปรังแกชาวบ้านโดยการไปกำหนดคนขึ้นคนลงอีกหรือ???? นอกจากมีผลกระทบกับลูกหาบ.แม่ค้าแล้ว จุดขายที่เด่นชัดเจน ของจังหวัดเลยคือภูกระดึง ประเด็นตรงนี้หล่ะผมบอกไว้เลยว่าไม่มี สส. ในพื้นที่คนไหน กล้าที่จะเป็นตัวตั้งตัวตีจำกัดคนขึ้นเที่ยวภูกระดึง เพราะจะเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ต้องโดนเอามาโจมตีแน่ๆ ในการหาเสียงครั้งต่อไป ทำไปโดยไม่มีแผนการรองรับก็เหมือนทุบหม้อข้าวตัวเอง ทุบหม้อข้าว คนทั้งจังหวัดเลย แต่ถ้าปล่อยเลยตามให้ขึ้นกันมั่วซั่ว วันหยุดยาวทีขึ้นไปพักครั้งล่ะเฉียด 2 หมื่น แบบนี้ผมว่ารั้งแต่จะทำลายภูกระดึง เข้าทุกวัน ฉะนั้นจะทำอย่างไร ให้ภูกระดึงสวยงามเหมือนเช่นในอดีต คนขึ้นค้างแรมน้อย ภูฯมันก็ไม่ช้ำ และที่สำคัญต้องไม่กระทบต่อคะแนนเสียง  ประเด็นกระเช้าเลยถูกหยิบยกขึ้นมา มีกระเช้า สามารถกำหนดคนเดินขึ้นภูกระดึงได้อย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่า คนเดินขึ้นภูกระดึงน้อยลง ขยะ เศษอาหารบริเวณทางเดินขึ้นย่อมลดน้อยตามลงไปด้วย เมื่อคุณจะขึ้นกระเช้ากฎเกณสามารถออกได้อย่างชัดเจนว่า ห้ามเอาอะไรขึ้นไปบ้าง ผู้ที่จะขึ้นพักแรมลงชื่อไว้ด้านล่างพร้อมบัตรประชาชน อุปกรณ์ที่สามารถเอาขึ้นไปได้แค่เครื่องนุ่งห่มเท่านั้น เต้น อาหาร ห้ามเอาขึ้นไปโดยเด็ดขาด ให้ไปหาเช่า หรือซื้อกินข้างบน เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นไปตัวเปล่า ขยะย่อมน้อยลง ถึงจะขึ้นไปเยอะแค่ไหนแต่ถ้าไปตัวเปล่า อันตรายต่อธรรมชาติมันย่อมน้อยกว่าทุกวันนี้แน่ๆ คนไปเที่ยวมีร้อยพ่อพันแม่ มีทุกรูปแบบตั้งแต่เด็กวัยรุ่นอยากไปเที่ยวเพื่อเปลี่ยนสถานที่กินเหล้า ยันผู้ที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ วุฒิภาวะมันต่างกัน ครั้นจะแก้ที่ปลายเหตุให้ช่วยกันเก็บขยะ การแก้ที่ต้นเหตุด้วยกันจำกัดปริมาณขยะทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าเยอะ จริงหรือไม่ครับ???? ส่วนประเด็นเรื่อง ลูกหาบ แม่ค้าข้างบน เมื่อมีกระเช้าแล้ว การต่อรอง หรือเหตุผลที่ภาครัฐสามารถนำมาเป็นข้ออ้างให้กับผู้ได้รับผลกระทบ มันมีรองรับมากขึ้น บริเวณทางขึ้นกระเช้า ลูกหาบ แม่ค้าดั่งเดิม สามารถมาจองที่ทำกินได้ก่อน หรือจะสร้างงานสร้างอาชีพเสริมอะไรให้กับเจ้าของพื้นที่ดั่งเดิมก็สามารถทำได้ง่ายในอนาคต การสร้างรายได้เข้าท้องถิ่นก็มากขึ้นเช่นเดียวกัน ตรงนี้คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า มันอยู่ในเรื่องของปากท้องทั้งนั้น สำหรับภูกระดึงถ้าเริ่มและจบแค่ที่กระเช้า ผมโอเคครับ รับได้ ขอให้จบแค่นั้นไม่มีโครงการต่อเนื่องตลอด 30 ปี ส่วนใครจะค้าน จะสนับสนุนของให้อยู่ในเหตุผลของความเป็นจริง อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใครว่ายังไงบ้างผมขอเป้นผู้ขออ่านอยู่ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 49 14:18:29 แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 49 14:15:14 จากคุณ : I.Brother - [ 16 ม.ค. 49 14:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่อ ลืมไป ผมโหวดให้ครับ เถียงกันอย่างมีเหตุผล ธรรมชาติได้ประโยชน์ จากคุณ : I.Brother - [ 16 ม.ค. 49 14:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณทุกคห. อื่นๆเเล้วก็ คห.ของคุณ I.Brother ด้วยครับ รออ่านอยู่ตลอดครับผม จากคุณ : จขกท - [ วันครูแห่งชาติ 14:50:17 A:202.133.177.174 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับ แต่นายทุนไม่อยากจะเข้าใจนี่แหละปัญหา เค้าตั้งธงมาแล้วว่าต้องเพิ่มรายได้ ไม่ได้ตั้งธงเอาธรรมชาติมาก่อน T_T เหมือนที่พูด จากคุณ : Dr.slump - [ 16 ม.ค. 49 15:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ครับ คงได้เเต่ช่วยกันภาวนา จากคุณ : เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี - [ 16 ม.ค. 49 15:39:18 A:202.133.177.174 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ยังไม่ได้อ่านละเอียดแต่ผมก็เผลอโหวตไปแล้ว ล่ะซิ เดี๋ยวกลับมาอ่านด้วยครับ จากคุณ : พุงป่อง-ท้องหกเดือน - [ 16 ม.ค. 49 17:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เห้นด้วยกับคุณ I.Brother อยู่ดีๆไปจำกัดคนขึ้นไปเที่ยว เดี๋ยวก็คงมี NGO ไปปั่นหัวชาวบ้านเกิดม็อบลูกหาบเหมือนกัน หาทางออกกลางๆ ถ้าไม่เอากระเช้าจะจำกัดจำนวนคนขึ้นยังไงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจนะครับ ไม่เห็นมีใครยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเลยนอกจากความเห็นที่ 50 จากคุณ : คนอุทัยฯ - [ 16 ม.ค. 49 18:05:43 A:61.91.179.251 X: TicketID:098679 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขออภัยที่เนื้อหายาวไปหน่อย เเละขอบคุณ คุณ พุงป่อง-ท้องหกเดือน เรื่องโหวตนะครับ จากคุณ : จขกท - [ วันครูแห่งชาติ 18:06:58 A:202.133.177.174 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 58 กระเช้าเป็นดาบสองคมครับ ถ้าใช้ในแง่มุมของการอนุรักษ์การมีกระเช้าจะมีประโยชน์มหาศาล แต่หากใช้เป็นเครื่องมือในการกอบโกยหาประโยชน์โดยไม่มีสำนึกและการจัดการดี ย่อมจะส่งผลเสียแน่นอนครับ ผมเชื่อว่า " ท่าน " ของคุณเจ้าของกระทู้คงจะมองในแง่มุมของประโยชน์ที่มีต่อการอนุรักษ์ และการเสนอเป็นไปโดยใจที่บริสุทธิ์ แต่หากเรายังไม่วางแผนที่จะรองรับผลของการก่อสร้าง ความเสียหายย่อมกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน เหมือนกับการสร้างเขื่อน การชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีและผลเสียนั้นสำคัญ และต้องไม่ลืมเอาทุนทางธรรมชาติเข้าใส่ด้วย ผลที่ออกมาจะเป็นเครื่องตัดสินว่าการสร้างนั้นคุ้มกัยสิ่งที่ต้องเสียไปหรือไม่ แต่ถึงปัจจุบันผมไม่เห็นด้วยเพราะผมคิดว่ายังสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องสร้างกระเช้า เรื่องสร้างศูนย์พยาบาลโดนใจผมมากๆเลยครับ เอาแค่ศูนย์พยาบาลที่พอรักษาคนประสบอุบัติเหตุเบื้องต้นได้ แล้วจึงเตรียม ฮ. เพื่อส่งโรงพยาบาลอีกที ตอนผมไปมีคนประสบอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ต้องประกาศหานักท่องเที่ยวที่มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล น่าจะมีแพทย์ประจำสักคน เชื่อว่ายังมีคุณหมอที่พร้อมจะเสียสละครับ จากคุณ : pilok - [ 16 ม.ค. 49 20:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เอาเป็นว่าผมสรุปนะครับว่าเนื้อหาของกระทู้นี้คือจะบอกว่าแนวความคิดเรื่องกระเช้านั้นถูกคิดขึ้นมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องของรายละเอียดว่าเนื้อหาของโครงการเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเป็นยังไง ไม่มีใครในที่นี้ที่สามารถให้คำตอบที่เที่ยงตรงได้ ดังนั้นผมของดที่จะกล่าวถึงนะครับ เพราะผมจะพิจารณาตามข้อมูลที่มีอยู่เท่านั้น เมื่อ จขกท บอกว่าข้อมูลที่มีอยู่ไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมด แล้วข้อมูลบางส่วนก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ผมก็ไม่ขอต่อเรื่องโครงการแล้วกัน เพราะเดี๋ยวผมพูดไปก็บอกว่าที่ผมพูดมันไม่ถูกอีก เพราะจริงๆแล้วเขามีแนวความคิด 1,2,3 แต่ไม่ได้อยู่ในกระทู้นี้อีก เรื่องที่ผมอยากพูดคือ ตรงนี้ครับ "ป.ล.เอาเป็นว่า ผมยังยืนยันว่าเป็นกลาง ทำก็ได้ ไม่ทำก็ดีครับ ขอเเค่ไปเเก้ปัญหาให้ถูกจุดก็พอครับ" ผมยังคงให้ความเคารพในทัศนคติส่วนบุคคลเสมอ แต่ผมมีความเห็นว่าทัศนคติเช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนักในสายตาผม ก็คือประโยคนี้ครับ "ทำก็ได้ ไม่ทำก็ดี" ตกลงแล้วคุณชั่งน้ำหนักจากข้อมูลที่คุณมีอยู่ทั้งหมดแล้วคุณไม่สามารถตัดสินใจได้เลยหรือว่า มันควรทำหรือมันไม่ควรทำ ผมลองเปรียบเทียบนะครับว่าศาลสถิตยุติธรรม เป็นกลางไหม แน่นอนโดยหลักการแล้วต้องเป็นกลาง ในทางปฎิบัติก็ควรเป็นกลาง แล้วศาลตัดสินคดีความไหม ตัดสินครับ แต่ความเป็นกลางในความหมายของศาลคือ พิจารณาข้อมูล อย่างเป็นกลางโดยปราศจากอคติสาม เพื่อหาข้อตัดสินที่เที่ยงธรรมที่สุดจากหลักฐานที่ปรากฎอยู่ แต่คำว่าเป็นกลางในความหมายที่ ทำก็ได้ไม่ทำก็ดี ผมมีความเห็นว่า มันคือความโลเลครับ ผมตัดสินไปแล้วจากข้อมูลที่ผมมีอยู่ทั้งหมดว่ายังไม่ควรสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง แต่ด้วยความเป็นกลาง(ค่อนๆไปทางไม่สร้าง)ผมก็ยังคงรับฟังข้อมูลของฝ่ายสนับสนุนกระเช้าอยู่ครับ  และตราบเท่าที่ยังไม่มีข้อมูลอื่นที่มีน้ำหนักมากพอ ผมก็ยังคงคัดค้านการสร้างกระเช้าอยู่ดี จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 21:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรียนคุณ Nexus คุณจะตัดสินใจ ฝักใฝ่ข้างไหนเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ แล้วคนที่กำลังรอผล ชั่งใจกับน้ำหนักอื่นๆ ก็มีสิทธิที่จะรอ ฟังข้อมูลการสำรวจที่เป็นกลางจากสำนักที่เชื่อถือได้ (ไม่ใช่จากฝั่งคนอยากสร้างไปทำสำรวจมา) ซึ่งสิทธิที่จะรอ นั้นก็เป็นปัจเจกบุคคลของเขา คุณก็ควรเคารพ ไม่ก้าวก่ายครับ เขาไม่ใช่ศาลครับ หากจะเทียบกับศาล อำนาจการตัดสินก็ละเมิดไม่ได้ แต่ผมก็ยินดีที่ว่าคุณจะเปิดใจ รอฟังข้อมูลเหตุผลด้านอื่นๆ ไม่ค้านหัวชนฝา ไม่ใช้สิทธิในการรอ คือตัดสินใจไปแล้ว เปลี่ยนไม่ได้ และไม่เปิดใจรับฟังแน่นอน ด้วยสาเหตุที่เราเรียกว่า "อคติ" ครับ จากคุณ : ไม่ค้านหัวชนฝาครับ - [ วันครูแห่งชาติ 21:39:37 A:58.10.96.212 X: TicketID:063856 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ครับผม ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน มาเรื่องระบบการตัดสินเเบบศาลอีก - -" เอาเป็นว่า ความคิดของผมคือ ถ้ากระเช้าถูกสร้างมาเพื่ออนุรักษ์เเละพัฒนาภูให้ดีขึ้นกว่าทุกวันนี้ได้ตามความคิดของพ่อผม ผมจะเห็นด้วยอย่างยิ่ง! ตรงข้อนี้ับซ้อนเเบบที่คุณคิดเลยซักนิดเลยครับ มันเป็นเเค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเเต่ละคน มาเจาะเเย้งเเค่คำสั้นๆตรงนี้ดูนอกเรื่องไปหน่อยนะครับ จากคุณ : จขกท - [ วันครูแห่งชาติ 21:50:09 A:202.133.177.140 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมอ่านความเห็นเรื่อง โรงพยาบาลบนภู ก็ขำกลิ้งแล้ว ในใจนึกว่า ต้องโดนแน่ ๆ วกมาเรื่อง ฮ. เห็นพูดกันจริง ทำยังกะเรียกได้ง่าย ๆ เหมือนรถร่วมกตัญญูอย่างนั้นแหละ ฮ. นี่เป็นของใครครับ ก็ของกองทัพ ของตำรวจ การจะนำขึ้นสักครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นึกจะบินก็บินนะครับ ไม่ใช่ของส่วนตัว ถ้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน คอขาดบาดตาย ไม่มีทางที่จะเรียกได้ง่าย ๆ เหมือนเมืองนอกหรอกครับ เรื่องกระเช้า บอกตรง ๆ ผมเห็นด้วย ถ้า มีระบบจัดการที่ดี อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกไว้  ไม่ใช่มุ่งแต่แสวงหากำไร หาผลประโยชน์ใส่พวกพ้อง รายได้จากกระเช้า ก็ให้เข้าท้องถิ่นไป ผมเห็นหลาย ๆ คน ที่อ้างนักหนาว่า เป็นนักท่องเที่ยวอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่เห็นหลาย ๆ คน ก็มักจะถามว่า บนยอดภูกระดึง มีเครือข่ายโทรศัพท์ไหนใช้ได้บ้าง จะอนุรักษ์ฯ แต่ยังติดกับเทคโนโลยีซะงั้น นักท่องเที่ยวแบบไทย ๆ ไปไหน ก็มักจะมีผลงานทิ้งไว้กับธรรมชาติเสมอครับ ดูได้ ตามชายหาด ขยะเกลื่อนแค่ไหน ตามยอดภูยอดดอย มีตรงไหนบ้างที่ไม่มีถุงพลาสติก การฝังขยะ อาจจะดูดี แต่อย่าลืมว่า ขยะทีทิ้ง กว่าจะสลายได้ตามธรรมชาติมันนานเท่าไร สรุปว่า ผมเห็นด้วยกับการสร้างกระเช้า แต่ขอให้มีหลักการที่ดี ควบคุมได้ เด็กคนชรา คนด้อยโอกาส เป็นแค่ผลพลอยได้ครับ จากคุณ : ป้ายแดง - [ 16 ม.ค. 49 22:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สงสัยผมต้องอธิบายครับ ที่ผมคอมเมนท์ทัศนคติเช่นนี้ไม่ใช่เพราะผมต่อต้านเจ้าของกระทู้เป็นการส่วนตัวนะครับ เพียงแต่ผมต้องการจะแสดงทัศนคติของผมเกี่ยวกับทัศนคติเช่นนี้ต่างหาก    ผมลองดูผลสำรวจจากโพลหลายๆแห่งแล้วปรากฎว่า หลายๆครั้งตัวเลือก ไม่มีความคิดเห็น ได้รับการเลือกเป็นอันดับหนึ่ง.......นั่นแสดงให้เห็นถึงอะไรหลายๆอย่าง หลายๆอย่างมาก สมมติว่าถ้ามีการลงประชามติวันพรุ่งนี้แล้วมีตัวเลือกให้สองข้อคือ สนับสนุนหรือคัดค้านเท่านั้น โดยถ้าสนับสนุนมากกว่าก็จะสร้างล่ะตามโครงการที่กำหนดไว้ 1,2,3,4 แต่ถ้าไม่สนับสนุนมากกว่า โครงการก็จะพับไปเป็นเวลา เท่านั้นเท่านี้ปีก็ว่าไป โดยข้อมูลที่มีในการตัดสินใจคือข้อมูลเท่าที่มีตอนนี้เท่านั้น คุณจะเลือกข้างไหนครับ หุหุ นอกเรื่องกระทู้ไปเยอะ เอาเป็นว่าผมอยากจะคอมเมนท์ เรื่องการเลือกที่จะไม่เลือกของคนไทยก็แล้วกัน ผมบอกว่าผมไม่กลัวเสียหน้าครับ ต่อให้ผมเลือกต่อต้านกระเช้าหัวชนฝาวันนี้ แล้วพรุ่งนี้มีข้อมูลใหม่ที่ทำให้ผมเชื่อได้ว่าการมีกระเช้านั้นดีกว่า ผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนการสร้างกระเช้าครับ จากคุณ : Nexus - [ 16 ม.ค. 49 22:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้นี้ยังดีแฮะ ยังถกกันด้วยเหตุผลมากกว่ากระทู้โหวต สนับสนุนการเถียงกันด้วยเหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์ครับ จากคุณ : airtime - [ 16 ม.ค. 49 22:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมกำลังอ่านกระทู้โหวตอยู่เลย คห.เยอะมากจริงๆ เพิ่งถึงอ่าน คห.ที่ 300 ต้นเอง จากคุณ : จขกท - [ วันครูแห่งชาติ 23:41:18 A:202.133.176.246 X: TicketID:088028 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เราไปปีนมาครั้งนึง เหนื่อยลากเลือดมั่กๆ รู้ถึงพลังของขา เดินไม่หยุดหัวเข่างอเข้างอออกยังกะข้อขาหุ่นยนต์ .. ว่าไปนั่น แต่มันส์ดี .. ซำแฮ่กนี่แฮ่กๆแทบขาดใจ .. จากคุณ : psycho_kop - [ 17 ม.ค. 49 00:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 67 555  โรงพยาบาลบนภูสูง ๆ อย่างนั้นจำเป็นต้องมีรถพยาบาลด้วยหรือค่ะ ตามที่ คุณ : ฉินเมิ่งเหยา  เข้าใจนั่นแหล่ะค่ะ  โรงพยาบาลที่ฉันหมายถึงอาจจะเป็นสถานีอนามัย หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตอนนั้นฉันมีเวลาน้อย  ต้องรีบไปที่อื่นด้วยแต่ก็อยากตอบ ฉันไม่แม่นว่า อนามัยเขียนยังไง และนึกไม่ออกว่าควรใช้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่แทน เอาเป็นว่าข้อนี้ฉันยอมรับผิดก็ได้ที่ไม่แม่นเรื่องภาษาแต่ก็ยังฝืนเขียน จนหลาย ๆ คนเข้าใจผิด  หวังว่าคงเข้าใจแล้วไม่หัวเราะเยาะดิฉันอีกนะค่ะ ขอโทษคุณเจ้าของกระทู้ด้วย ตอนที่ฉันตอบแต่ละข้อสงสัยของคุณ บังเอิญฉันนึกหน้าท่าน ส.ว. ที่ออกรายการ "ถึงลูกถึงคน" ไปด้วย เพราะรายละเอียดก็เหมือนที่ท่าน ส.ว. พูด และบางข้อมูลที่คุณนำมาชี้แจง ก็เหมือนกับนำข้อสงสัย ข้อคัดค้านที่เขียนไว้ในกระทู้มาตอบมากกว่า ไม่ได้ลบหลู่คนเขียนโครงการหรอกนะค่ะ  แค่มองโลกในแง่ร้ายไปหน่อย เอาเป็นว่าตอนนี้ดิฉันรับทราบรายละเอียดโครงการที่ยังไม่มีการวางแผนที่จะทำในปัจจุบัน คงต้องขอเก็บรายละเอียดโครงการที่คุณอธิบายไว้แค่กระทู้นี้ดีกว่าค่ะ คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมานั่งให้เหตุผลคุณ  ในเมื่อคนที่จะทำกระเช้า ไม่ใช่คุณหรือท่านที่คิดโครงการ  นี่มันเรื่องของปัจจุบันไม่ใช่อดีต ถึงโครงการจะคิดมาตั้งแต่อดีต แต่คนที่จะทำตามโครงการคือคนในยุคปัจจุบัน ไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่ศึกษาถึงผลกระทบจากการสร้างกระเช้าเป็นใคร และเวลา 4 เดือนที่ศึกษานี้  จะเป็น 4 เดือนของการศึกษาผลกระทบ  หรือเป็น 4 เดือน ของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สร้างกระเช้า  เพื่อรอให้ผู้มีอำนาจเซ็นต์อนุมัติ ป.ล. คนเราต้องมีการพัฒนา  หากมองว่าภูกระดึงจะเสื่อมสภาพก็ต้องคิดซิ ว่าจะรักษาภูกระดึงไว้อย่างไร  แปลกจังที่เปลี่ยนหลายคนมาบริหาร ดูแล แต่ไม่มีใครคิดที่จะทำอะไรให้มันดีกว่านี้  ฉันไม่เชื่อว่าจะไม่มีทางบริหาร จัดการภูกระดึงได้ แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 49 08:40:12 จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 17 ม.ค. 49 08:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เรื่องโรงพยาบาล  ฉันอธิบายการใช้ภาษาไทยที่ผิด ๆ ของฉันไปแล้ว คุณ : มะเฟืองป่า  เจ้าขา  ฉันไม่ได้จบพยาบาลศาสตร์ มา จะมีใครรับฉันเป็นพยาบาลหรือค่ะ ถึง  คุณ : เซ็งสุดๆ (B`za)  ฉันก็ตั้งใจจะไปภูกระดึงอีกสักรอบเหมือนกันค่ะ ครั้งแรกไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ประทับใจสุด ๆ ล่าสุดไปมาเมื่อ 22-24 ตุลา 48 ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ คุณ : ~+~TATIANA~+~  เจ้าขา  ไม่ได้มีใครจะเก็บของสวย ๆ งาม ๆ ไว้คนเดียว หรอกนะค่ะ   ภูกระดึงมันไม่ได้สวยไปกว่าภูเรือ  ทับเบิก  เขาสามร้อยยอด ภูหินร่องกล้า หรอกค่ะ  ภูกระดึง มีชื่อเสียงก็ตรงความยากลำบากในการเดินขึ้น ตอบคุณ  ไม่ค้านหัวชนฝาครับ เจ้าค่ะ  ดิฉันเป็นผู้หญิง  ก็เลยคิดและพูดแบบผู้หญิงเนี่ยแหล่ะ อย่างที่ฉันได้อธิบายไว้แล้วว่าโรงพยาบาลที่ฉันพูด เกิดจากการรีบ และไม่แม่นในการใช้ภาษา จึงเลือกเอาคำที่เขียนง่ายมาใช้ ซึ่งฉันก็อธิบายและขอโทษไปแล้ว  ขอโทษอีกรอบก็ได้ค่ะ >>> ยังไงเกิดการขาหัก เข้าเฝือกก็ต้องขนลงมาอยู่ดี หรือบาดเจ็บร้ายแรงไส้ติ่งแตก มันก็ต้องรักษาส่งต่อ รพ.ที่เครื่องมือพร้อมอยู่ดี อย่าบอกนะว่าให้สร้างรพ.ขนาดรพ.ประจำจังหวัดบนนั้นซะเลย! คิดไปได้..<<< ** ฉันก็แค่คิดว่าน่าจะมีหน่วยการปฐมพยาบาล หรืออนามัยที่รักษาก่อนส่งต่อ อย่างเช่น ถ้าเกิดอุบัติเหตุแถวน้ำตกก็ต้องขนคนออกมายังกระเช้าอยู่ดี และกว่าจะถึงกระเช้า  กว่าจะส่งลงข้างล่าง กว่าจะส่งโรงพยาบาล ถ้ามีการรักษาเบื้องต้นก่อนมันไม่ดีกว่าหรือค่ะ  ** จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 17 ม.ค. 49 09:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ไหนๆก็พูดถึงประเด็นการสร้างนี้แล้ว รบกวนลอง โหวตกันอีกกระทู้หนึ่งนะครับ^^ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4026706/E4026706.html จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 17 ม.ค. 49 09:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 " เรื่องขยะ น้อยคนที่จะขนลงมาครับ แค่เดินก็เหนื่อยแล้ว ถ้าเก็บค่ามัดจำ 100 บาท คนก็คงจะคิดว่าเงินนี้ถือเป็นค่าเก็บขยะละกัน ฉะนั้น เลิกคิดไปได้เลยว่านักท่องเที่ยวจะมีจิตสำนึกขนาดนั้น " คุณ : Toddy&Hammy  ค่ะ  เมื่อมันเป็นกฎนักท่องเที่ยวก็ต้องปฏิบัติตาม ถึงแม้มีจิตสำนึกไม่มากขนาดนั้นก็ตาม  การวางมัดจำ 100 บาท ฉันก็นำเสนอ ให้เป็นทางเลือก  ถ้าจะให้นักท่องเที่ยวทุกคนถือขยะลงมาเอง ก็ต้องมีกฎระเบียบที่ชัดเจน  ก่อนขึ้นภูให้นำบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่หรือบัตรนักศึกษา มาแลกกับถุงดำ  ตอนลงมาก็ให้นำถุงขยะ มาแลกบัตรคืน  มันอาจจะโหดไปหน่อยแต่ก็เป็นการกรองคนขึ้นภูกระดึงได้ดีนี่ค่ะ "นักท่องเที่ยวที่ไหนจะมีจิตสำนึกขนาดนั้น" อืมมม... น่าคิด  ขอลองเอาไปนอนคิดก่อนนะค่ะ ป.ล. ตอนไปภูสอยดาว  เขาเก็บ 100 บาท เก็บแบบหมู่คณะ แล้วแจกถุงดำให้ใส่ขยะด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 49 10:06:05 จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 17 ม.ค. 49 09:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ทำไม ไม่สร้างกระเช้าขนขยะ ราคาไม่แพงก็พอไม่กี่ล้าน ถ้าบอกว่าจะแก้ปัญหาขยะด้วยกระเช้านักท่องเที่ยว 450 ล้าน จากคุณ : Dr.slump - [ 17 ม.ค. 49 10:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคนน๊ะครับ      1. การเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้าน  ข้อนี้เป็นไปได้ครับเพราะการมีกระเช้าย่อมมีส่วนทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยว น่าสนใจมากขึ้น และทำให้มีการจ้างงานคนในท้องถิ่นมากขึ้นในกิจการ การขนส่งนักท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และโรงแรมโดยรอบภู      2. กระเช้าเพื่อลำเลียงคนเจ็บ และ ลำเลียงขยะ อันนี้ก็เห็นด้วยครับโดยเฉพาะปัญหาในเรื่องขยะถ้าไม่มีวิธีการ ที่ดีกว่า การมีกระเช้าก็น่าจะมีส่วนช่วยได้มาก      3. การเพิ่มโอกาสให้คนแก่ / คนพิการ ประเด็นนี้ชักจะไม่ค่อยแน่ใจครับ เพราะแม้จะขึ้นไปได้ง่ายโดยกระเช้า แต่ท่านเหล่านี้ก็ต้องไปลำบากบนภูอยู่ดี และหากจะทำเส้นทางวีลแชร์ถึงผานกนางแอ่น อันนี้ก็คงต้องถามผู้รู้ว่าการ ทำเส้นทางวีลแชร์จะทำให้พื้นที่ส่วนนี้มีสภาพใกล้เคียงกับสวนสาธารณะมากขึ้นหรือเปล่า          ส่วนที่กล่าวว่า " คนที่รู้ตัวว่าเที่ยวไม่ไหวจะไม่พยายามขวนขวายให้ตัวเองไปนู่นไปนี่ได้ ขอแค่ขึ้นมาสัมผัส ณ จุดๆนึงที่กระเช้ามาถึงก็พอใจแล้ว " อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะความต้องการของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หากไปเจอกลุ่ม คุณปู่ซู่ซ่า คุณย่าเซ็กซี่ กับคนพิการพลังช้างขึ้นมา ลูกๆหลานๆ กับ เจ้าหน้าที่ คงปวดหัวน่าดูถ้า ท่านเหล่านี้อยากเที่ยวชมทุกๆจุดบนภู      4. " ความคิดของท่านในตอนนั้น มีแค่กระเช้าอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นถ้าสร้างตามมา เช่น รถรับส่ง หรือ อะไรอื่นๆ ท่านไม่เห็นด้วย " แนวคิดนี้ดีครับ แต่จากอดีตที่ผ่านมาการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ บ้านเรามักเน้นไปที่การเน้นผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นสำคัญเช่นการถมทะเลทำรีสอร์ท การสร้างภัตาคารล้ำเข้าไป ในแม่น้ำ ฯลฯ เลยทำให้อดหวั่นใจไม่ได้ว่าอาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างอย่างอื่นตามมาหากมีกระเช้า (เพราะ เริ่มขนอุปกรณ์ก่อสร้างได้ง่ายขึ้น อิอิอิ)      5. กระเช้าใช้ขนส่งนักท่องเที่ยว สัมภาระใำ้ห้ลูกหาบขนเหมือนเดิม อันนี้ดีครับลูกหาบก็ยังคงมีรายได้ต่อไป แต่วิธีนี้นักท่องเที่ยวอาจจะอึดอัดบ้างแพราะตัวไปทางของไปอีกทาง      6. " แต่ถ้ามีกระเช้าแล้ว ก็จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายมากขึ้น            - เมื่อจำนวนคนเต็มแล้ว ทางอช.จะแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ตีนภูทราบ และถ้านักท่องเที่ยวยังต้องการที่จะขึ้น ไปอีก ก็จะต้องซื้อตั๋วกระเช้าขาลง เพื่อไม่ให้ค้างแรมบนนั้น "            แนวคิดนี้น่าสนใจแต่ดูๆแล้วก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ ประเด็นสำคัญก็คือนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีเวลาจำกัด และมัก จะต้องการไปพักค้างบนภู ถ้าไปถึงแล้วเจ้าหน้าที่บอกขึ้นไปพักค้างไม่ได้ก็คงเสียความรู้สึกน่าดู  เลยขอลองเสนอ ดูว่าเป็นไปได้ไหมที่จะใช้วิธีการแบบจองห้องพักโรงแรม การติดต่อก็ติดต่อผ่านบริษัทท่องเที่ยว หรือ กรมอุทยานฯ พูดง่ายๆก็คือนักท่องเที่ยวต้องมีการวางแผนล่วงหน้า (เพราะมีคนอยากมาเที่ยวเยอะ) พอมาถึงตีนภูก็แสดงหลักฐาน การจองเพียงเท่านี้ก็น่าจะควบคุมนักท่องเที่ยวได้แม้ไม่มีกระเช้า    อย่างไรก็ตามการมีกระเช้าก็น่าจะตอบสนอง ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองที่พักล่วงหน้าได้มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศแล้วต้องกลับลงมาโดย ไม่มีการพักค้าง      จากที่ได้เสนอมาทั้งหมดประเด็นที่ผมเห็นด้วยกับ จขกท. มากที่สุดก็คือการใช้กระเช้ามาช่วยขนขยะลงไป กำจัดที่ตีนภู เพราะตราบใดที่นักท่องเที่ยวยังเที่ยวแบบไร้จิตสำนึก และยังไม่มีมาตรการใดๆที่จะจัดการขยะบนภู อย่างมีประสิทธิภาพได้ การใช้กระเช้าช่วยขนขยะลงจากภูก็ย่อมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ       สุดท้ายต้องขอชื่นชมคุณพ่อของ จขกท. ที่มีเจตนารมณ์ที่ดีที่จะอนุรักษ์ และพัฒนาการท่องเที่ยวภูกระดึง แต่คงไม่ว่ากันถ้าผมไม่เห็นด้วยกับท่านในบางประเด็น แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 49 06:27:10 จากคุณ : เชียงคำ - [ 17 ม.ค. 49 11:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อย่าพยายามหาเหตุผลต่างๆนานามาอ้างให้เปลืองเวลาเลยครับทั่นจขกท.  ยังไงก็ไม่เห็นด้วยคำเดียวครับ ไปพัฒนาที่อื่นเถอะ ขอร้องหล่ะ จากคุณ : ST (SSTT) - [ 17 ม.ค. 49 12:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมอ่านมาทุกความเห็นแล้วปลงเหมือนกันครับ ขึ้นภูกระดึงมา13ครั้ง ล่าสุดปี44ไม่เคยคิดว่า ขึ้นมามากต้องมีความคิดที่ดีกว่าคนอื่นๆเขาหรอก ผมปลงที่ว่าบางคนถือตัวเกินไปอย่างคุณBLUEBLOOD เป็นต้น บางอย่างน่าคิดเองง่ายๆได้ ไม่ต้องหยุมหยิมถาม เหมือนตีรวนหรอกครับ มองโลกในแง่ดี กว้างกว่านี้ หน่อยก็จะดีครับ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุ-ผล ที่ข้อมูลที่ เป็นจริงที่จะทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ ...ผมค้าน มาตลอดในเรื่องกระเช้า แต่ผมก็พยายามมองหลายด้าน ไปพร้อมกัน เมื่อข้อมูลเริ่มมากและคลุกคลีกับชาวบ้าน ที่สีฐาน(ข้างล่าง)ก็พอจะเข้าใจหลายอย่างเพิ่มขึ้น ครับ หันหน้าเข้ามาช่วยกันในสิ่งที่ดีๆดีกว่าครัีบ อย่าง ไหนที่ไม่เข้าท่าก็หาวิธีหรือเสนอแนวทางการจัดการที่ ดีมาดีกว่าครับ มันอาจจะมีหรือไม่มีกระเช้าก็ได้ครับ ส่วนตัวผมแล้วผมเข้าใจคนอยู่ป่าหรืออุทยานมา30-40ปี มาแล้ว เขาคงไม่ทำลายบ้านเขาหรอกครับ นอกจากจะมี คนที่ไม่มีจิตสำนึกที่ดีพอปะปนมาเป็นครั้งคราวเท่านั้นครับ ซึ่งศึตรูตัวสำคัญก็มาจากสายการเมืองเกือบทั้งสิ้น ก็ต้อง รอสายเดียวกันล่ากันเองอีกทอดครับ ขอเพียง อย่าประสานประโยชน์อันไม่ถูกต้องต่อแผ่นดินเท่านั้นพอ จากคุณ : ฮ5555 - [ 17 ม.ค. 49 12:26:23 A:10.100.20.153 X:210.246.163.45 TicketID:071933 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ดิฉันน่ะ ปลงตั้งแต่ฟังรายการ "ถึงลูกถึงคน"  แล้วค่ะคุณ ฮ5555 ถึงมีแรงฮึดอยากจะไปภูกระดึงครั้งสุดท้าย  เพื่อไปกล่าวลา แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจกระทันหันไม่ไปแล้วดีกว่า  ฉันไปภูสอยดาวอีกสักครั้งดีกว่า แต่ฉันก็อดที่จะถามไม่ได้  เพราะไม่ค่อยเข้าใจ  บางทีฉันอาจจะคิดลึกเกินไป ส่วนเรื่องถือตัวฉันไม่เถียงหรอก  เพราะฉันถือตัวแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คำพูดของฉันมันก็เลยออกจะรุนแรง  ฉันรู้ข้อเสียของฉันที่พูดโดยไม่กรองหรือ กลั้นอารมณ์ หลาย ๆ อย่างที่โต้แย้งหรือถามไป  ถ้ามีเหตุผลมาอธิบาย ฉันก็ยอมรับนี่ ไม่เห็นหรือว่าฉันก็ยอมรับไม่ได้โต้แย้งไปซะทุกข้อ จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 17 ม.ค. 49 12:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ป.ล. ใครอยากจะต่อว่า หรือคิดว่าความคิดฉันไม่เข้าท่า กรุณาเข้าไปโพส ใน blog ของดิฉันก็แล้วกัน   http:diary.bloggang.com แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 49 13:28:57 จากคุณ : blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ - [ 17 ม.ค. 49 13:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอต่ออีกนิดนะ๊ครับ ความคิดกำลังแล่น หุหุหุ ไอ้เรื่องขยะบนภูเนี่ยน่าจะมีการรณรงค์แยกขยะกันอย่างจริงจังไปเลย ขยะจากนักท่องเที่ยวก็น่าจะเป็น เศษอาหาร ขวดพลาสติก กระป๋อง ขวด และถุงพลาสติก ของพวกนี้ถ้าแยกไว้ดีๆมันมีราคาอ่ะครับ อยากให้มีการตั้งถังแยกขยะ ให้ชัดๆตามประเภทไปเลย แล้วก็จ้างลูกหาบนี่แหละครับขนลงมา ส่วนค่าจ้างก็น่าจะรวมอยู่ในค่าเที่ยวชมภูกระดึง ที่กรมอุทยานเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยว ขยะรีไซเคิ้ลที่ขนลงมาก็เอามาขายให้ร้านรับซื้อขยะรีไซเคิ้ลซึ่งอาจเปิด โอกาสให้พ่อค้ามารับซื้อถึงตีนภู รายได้จาการขายขยะเหล่านี้ก็ยกให้ลูกหาบไปเป็นรายได้เสริมอีกทางนึง  ส่วน เศษอาหารคงไม่ต้องขนลงมา จะเผา ฝัง หรือทำปุ๋ยก็สุดแท้แต่จะพิจารณา แล้วระหว่างทางขึ้นภูละจะทำยังไง อันนี้ขอเสนอว่าควรมีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังคอยลาดตระเวณ ตรวจตราเป็น ระยะๆ คอยดูแลและให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวไม่ทิ้งขยะและเศษอาหาร และไม่ทำลายสภาพแวดล้อมในขณะขึ้น และลงภู  และถ้ามีใครบอกว่าเจ้าหน้าที่มีไม่พอ เงินจ้างเจ้าหน้าที่ก็ไม่มี  ก็ขอแนะนำให้แบ่งงบสร้างกระเช้ามาเป็น เงินจ้างเจ้าหน้าที่แซะเลย อิอิอิ จากคุณ : เชียงคำ - [ 17 ม.ค. 49 14:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มาอีกรอบ เเละเทสอมยิ้มไปด้วยเลยครับ ก่อนคุยกันบอกไว้ก่อนว่า ผมขอตัดเรื่องการเมืองเเละนายทุนหน้าเลือดออกไป เพื่อที่จะได้พูดคุยกันถูกจุดง่ายขึ้น ซึ่งยอมรับว่าจริงๆเเล้วคงหนีเรื่องพวกนี้ไม่ได้เเน่นอน ไม่ใช่เเต่เพียงภูกระดึงที่เดียว รวมถึงทุก อช.ในประเทศไทยทุกที่แหละครับ คนพวกนี้จ้องจะแฝงตัวมา พร้อมตักตวงผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด คงเป็นเรื่องที่พวกเราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เดิมทีกระเช้าไม่ได้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อเเก้ปัญหาขยะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เเต่ทำเพื่ออนุรักษ์ตัวภูเเละพัฒนารายได้ของชาวบ้านในบริเวณรอบๆด้วย รวมถึงช่วยลดปัญหาอย่างอื่นอีกหลายข้อตามที่ผมเคยกล่าวไว้ยาวเหยียดข้างต้น ซึ่งทั้งหมดมันจะสอดคล้องกันอยู่เเล้วตามเเนวความคิดเดิม สำหรับคนที่เข้ามาเเล้วเห็นมันยาวมาก เเล้วขี้เกียจอ่าน ก็อย่าเพิ่งเหมาว่าผมเชียร์ให้มีกระเช้านะฮะ (ถึงเนื้อหาส่วนใหญ่จะเอียงไปทางนั้นก็เถอะ) เรื่องที่พิมพ์ไปทั้งหมด เป็นเเค่เเสดงให้เห็นเจตนาเดิมของผู้คิด เเละการมองถึงประโยชน์ของกระเช้าที่มีต่อการพัฒนาเเละอนุรักษ์ภูกระดึงเเบบเปิดใจกว้างมากขึ้นเท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 49 18:33:31 จากคุณ : เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี (เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี) - [ 17 ม.ค. 49 18:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณ คุณ เชียงคำ ที่เเสดงความคิดเห็นไว้ได้น่าสนใจมากๆครับ จากคุณ : เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี - [ 17 ม.ค. 49 18:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ถึงคุณ ฮ5555 เเละคุณ blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ ข้อความตรงนี้ของคุณ ฮ5555 อ่านเเล้วตรงใจผมมาก "หันหน้าเข้ามาช่วยกันในสิ่งที่ดีๆดีกว่าครัีบ อย่าง ไหนที่ไม่เข้าท่าก็หาวิธีหรือเสนอแนวทางการจัดการที่ ดีมาดีกว่าครับ มันอาจจะมีหรือไม่มีกระเช้าก็ได้ครับ ส่วนตัวผมแล้วผมเข้าใจคนอยู่ป่าหรืออุทยานมา30-40ปี มาแล้ว เขาคงไม่ทำลายบ้านเขาหรอกครับ" เป็นมุมมองที่น่าคิดของคนที่รักภูอีกคนหนึ่ง ส่วนเรื่องที่คุณ blueblood นั้นซักถามผมไว้ใน คห.ที่2 ผมก็ตอบไปโดยไม่ได้ติดใจอะไรตั้งเเต่เเรก ตัวผมเองอ่านที่นี่มานาน เห็นสไตล์การตอบของเเต่ละคนว่าเป็นยังไง รู้ว่าทุกคนในนี้ล้วนเเต่มีความรู้สึกหวงเเหนเเละอยากปกป้องธรรมชาติเเละภูกระดึงมากเเค่ไหน เเละผมก็เข้าใจทุกคนที่มาค้านการมีกระเช้าด้วยครับ เพราะก่อนที่ผมจะได้ฟังพ่ออธิบาย ด้วยความสัตย์จริง ผมเลือดขึ้นหน้าไม่เเพ้พวกคุณเลย หลายความเห็นที่ผมค้านกลับไป ก็พยายามใช้เหตุผลให้มากที่สุดเเล้วครับ หวังว่าคงไม่ติดใจอะไรกัน ในฐานะคนที่รักภูเหมือนกันนะครับ จากคุณ : จขกท (เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี) - [ 17 ม.ค. 49 18:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ส่วนตัวผมคิดว่า แก่งกระจานแบบใหม่โดยเฉพาะ พะเนินทุ่งนี่แย่ลงมากนะ จากเดิมที่ เป็นธรรมชาติมาก มาไถกลบตัดต้นไม้ เป็นจุดชมวิว เสียความรู้สึกมาก จากคุณ : Unfair - [ 17 ม.ค. 49 22:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ฮะ เข้าใจครับ เรื่องเเบบนี้ไม่มีใครเห็นด้วยไปซะทุกคนหรอก จากคุณ : จขกท (เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี) - [ 17 ม.ค. 49 23:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 83 จุดปัญหาเล็กๆที่ไม่ได้เกิดบ่อยซ๊ะจน... ก็เอามาอ้างเป็นเหตุผลที่จะสร้างกระเช้า เช่นจะมีพ่อแม่ซักกี่คนมาตามหาลูกเพียงเพราะกลัวเค้าเสียตัว  คนมันจะเสียซะอย่างไม่ได้ที่นี่ก็ไปที่นู่น...เพียงแค่ยกตัวอย่างให้ฟังว่าประเด็นหยุมหยิมหน่า....คุณ จขกท....อย่าไปขุดขึ้นมาอ้างเล๊ยยยย..... ดูๆแล้วเหตุผลที่คุณยกขึ้นมา  ไม่เห็นมีเหตุผลข้อใดมีน้ำหนักมากพอที่เอามาอ้างเล๊ย พับเผื่อยซิ........ จากคุณ : ST (SSTT) - [ 18 ม.ค. 49 07:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ที่จริงหวังดีน่ะเข้าใจแต่ยังไม่ค่อยจะเห็นด้วยเรื่องสร้างกระเช้าค่ะ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีระเบียบวินัยเหมือนเมืองนอกเดี๋ยวก็ยิ่งเละเทะเข้าไปอีก ยังไงก็หาวิธีฝึกดีๆ หน่อยละกัน จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) - [ 18 ม.ค. 49 10:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 85 บางทีบางปัญหาของทางราชการไม่ใช่ว่าคุณจะจัดการได้ด้วยตัวเอง ถามคนที่ทำงานบริษัทเถอะว่าคุณมีปัญหาแล้วจัดการเองได้ทั้งหมดมั้ย กลัวเป็นการก่าวก่ายหน้าที่กัน หรือบางทีไม่ทำก็ว่าไม่มีน้ำใจช่วยเหลือ เอาล่ะที่พูดมาอยากบอกว่าพ่อของคุณเจ้าของกระทู้คงอยากจะจัดการปัญหาต่างๆด้วยตนเอง หากอำนาจและตำแหน่งในขณะนั้นสามารถทำได้ คุณจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆด้วยลำพังความคิดตนเองไม่ได้ในทันที หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีผลต่อส่วนรวม มันย่อมไปขัดแย้งกับนักการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอยู่แล้ว คุณเคยฟังเพลง "ยอดชาย" ของพงษ์สิทธิ์ หรือไม่ บทสุดท้ายของข้าราชการตงฉินเป็นอย่างไร ถ้าคุณคิดจะดับเครื่องชน เพราะบทสุดท้ายก็น่าจะรู้ว่านี่ไม่ใช่หนังไทย ผมไม่เห็นด้วยทีเดียวในวูบแรกที่จะสร้างกระทู้ เรียกว่าค้านสุดตัว หัวชนฝาเลยก็ว่าได้ ผมมีความทรงจำดีๆที่นั่น ผมได้สนิทกับผู้หญิงคนนึงที่นั่น ถ้าไม่รังเกียจผมจะแตกประเด็นออกไปให้ฟังอีกที มันเป็นเรื่องดีๆที่ผมไม่ลืม ผมไม่อยากให้ความทรงจำดีๆของผมมันสลายไปกับการสร้างกระเช้า แต่ ณ บัดนี้ ผมอ่านกระทู้นี้แล้ว ผมกลับเริ่มมีจิตใจโอนเอียงมาทางเห็นด้วยเสียแล้ว เนื่องด้วยเจ้าของกระทู้อธิบายด้วยเหตุผล ไม่ใช่ผู้ที่คัดค้านอย่างประชดประชัน ผมรู้สึกยินดีที่จะบอกว่ามีการสร้างกระเช้าในทิศทางคนละด้านกับเส้นทางขึ้นภู ซึ่งมันคงจะทำให้ความงามของภูไม่เสียหายไปเท่าที่ควร ผมงงกับคนที่ค้านว่าทำไมไม่สร้างโรงพยาบาลขึ้นบนภู ถ้าคุณสร้างโรงพยาบาลขึ้นมา แล้วคุณจะต้องสร้างอะไรตามมาอีก ร้านขายอาหาร ลานจอดรถ บ้านพักหมอ - พยาบาล ฯลฯ เพื่อรองรับโรงพยาบาลของคุณ ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกคน การเก็บขยะลงมาจากภู 2-3 กิโลเพื่อแลกกับเงิน 100 เดียว มันไม่คุ้มค่าเสียเลย หลายคนยอมทิ้งเงินเพื่อแลกกับเงินร้อยเดียว บางมาเก็บตรง "ซำแฮก" ลงไปแลกเงิน 100 ตรงตีนภูซะงั้น (ผมนี่แหละที่ทำ ยอมรับตรงๆ) แล้วบนภูก็ยังสกปรกเหมือนเดิม มันมีประโยชน์อะไร เงินร้อยเดียว แลกความสวยงามของบนภูไม่ได้หรอกครับ เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงเขาเพื่อช่วยคนเจ็บตลอดเวลา คุณหลายๆคนในบอร์ดนี้เป็นมนุษย์เงินเดือน รวมทั้งผมด้วย การทนนั่งหรือยืนในรถเมล์ รถไฟฟ้า วันละ 1-2 ชั่วโมงเพื่อไปและกลับจากบ้านถึงที่ทำงาน คุณยังบ่นว่าเหนื่อยแสนสาหัส แล้วคุณคิดถึงคนที่ต้องวิ่งขึ้นลงภูเขาทุกวันๆเพื่อช่วยชีวิตคนซิว่า เขาสนุกแค่ไหน เขาไม่ใช่ปู่ชิวที่จะเดินขึ้นลงเขาเพื่อต้มน้ำแกงแล้วไปสีซอที่หลุมศพเมียทุกวัน เอาไว้ผมจะเล่าประสบการณ์ที่ผมไปภูกระดึงให้ฟัง แม้จะครั้งเดียวก็เถอะ แต่มันก็มีความหมายมากพอให้ผมจดจำจนวันตาย ความสุขคุณมันจะมีมากขึ้นเมื่อรู้จักแบ่งปันให้คนอื่นได้ยิ้ม ได้หัวเราะเหมือนกับคุณ คุณเล่นเกมส์คนเดียวยังเบื่อได้ คุณถึงต้องมาหาเพื่อนคุยเพื่อปรับทุกข์ เพื่อถกเถียงในโลกของอินเตอร์เน็ทนี่ไง อ้อถึงคุณคนที่ 83 และบางคนครับ ลองมองกลับในมุมของคนที่ปฎิบัติงานที่นั่นเป็นประจำบ้างสิครับ เขารักที่นั่นเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง บางคนอยู่กับเสียงจิ้งหรีดร้อง อยู่กับทากดูดเลือดมากกว่าอยู่กับลูกเมียเสียอีก อย่ามองในมุมของนักท่องเที่ยว ที่ไปแค่ประเดี๋ยวประด๋าวอย่างเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 49 11:56:41 จากคุณ : NarinNil - [ 11 ก.พ. 49 11:27:37 ]