PANTIP.COM : E4039911 การบิน vs การเมือง [การเดินทางทางอากาศ]

ความคิดเห็นที่ 6

ไม่ต้องโหวต ก็แทบจะรู้ผล ว่าการเมืองมันแทรกธุรกิจการบินได้แหงแก๋ และไม่ใช่แค่เส้นทางการบิน แต่รวมไปถึง การจัดซื้อเครื่องบิน เครื่องยนต์ อะไรอีกสารพัด และไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยหรอก อีกหลายประเทศก็เป็น แค่เรื่องซื้อเครื่องบินเนี่ย ตอนนี้มันก็มีแค่ Airbus กับ Boeing อยู่แค่สองอันหลัก ๆ ใครสนิทกับ EU หน่อยก็มักจะ(ต้อง)เลือก Airbus ใครสนิทกับอเมริกาหน่อยก็(ต้อง)เลือก Boeing มากกว่า แค่นโยบายระหว่างประเทศของยุโรปที่แรง ๆ บางครั้ง ก็เล่นเอาลูกค้า Airbus กระเจิงไปหา Boeing ก็บ่อยไป

ส่วนเรื่องเส้นทางการบินในประเทศเนี่ย ผมขอออกความเห็นส่วนตัวเฉยๆ ละกันนะ การบินไทยเนี่ย เท่าที่ทราบมา ขาดทุนกับเส้นทางการบินในประเทศมาเกือบตลอด โดยเฉพาะเมืองอย่าง ขอนแก่น แม่ฮ่องสอน แต่เมืองหลัก ๆ อย่างเชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต หาดใหญ่ ยังถือว่า "พอไปได้" แต่ "พอไปได้" ในที่นี่ ก็ต้องดูให้ลึกลงไปอีก ว่ามันไม่ได้หมายถึงมันกำไรเยอะมหาศาล แต่มันไม่ขาดทุนมากมายต่างหาก เพราะอย่าลืมว่าการบินไทยเป็น Full Service Airline การจับเอาการบินไทยไปเปรียบเทียบกับ Air Asia ซึ่งเป็น Low Cost Airline มันผิดตั้งแต่แรกแล้ว เหมือนเอา โรงแรมสี่ซ้าห้าดาวไปเทียบกับเกสท์เฮาส์แถวข้าวสารอ่ะ

ค่าโดยสารมันก็เทียบกันไม่ได้เหมือนกัน โธ่ เวรกรรม เอาไปเทียบกันได้ยังไง ในเมื่อต้นทุนมันผิดกันมหาศาล แอร์เอเชียใช้ระบบ Low Cost แถมเป็น Single Fleet ซะส่วนมาก คือ 737 อาจจะมี A320 ปนมาใหม่ ๆ บ้างแล้ว แต่แค่ค่าบำรุงรักษาก็คนละเรื่องแล้ว ในขณะที่การบินไทยเป็น Full Service และอย่างไฟลท์ไปภูเก็ตของการบินไทย มีทั้ง 747 777 330 B6 แค่ค่าทรัพยากรที่จะจ่ายให้เครื่องเหล่านี้บินออกและเพื่อที่จะสามารถ Handle เครื่องเหล่านี้ที่ภูเก็ตได้หมดทุกแบบ ก็ไม่รู้เท่าไรแล้ว อ้อ ....นี่ยังไม่รวมค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอนะ แค่เอา 747 Take Off ได้เนี่ยก็ไม่รู้หมดไปเท่าไรแล้ว จะให้ไปเปรียบเทียบค่าตั๋วกับแอร์เอเชียเนี่ยนะ เฮ้อ....

การบินไทยเองก็รู้ดีว่า จริง ๆ แล้วการบินไทยไม่ค่อย Happy กับตลาด Domestic โดยเฉพาะเมืองเล็ก ๆ ที่บินกันโหวง ๆ เหวง ๆ แต่จะทำไงล่ะ เลิกก็เลิกไม่ได้ การเมืองไม่ยอมแน่ ๆ และที่บินเมืองใหญ่อยู่ก็แทบไม่มีกำไรเท่าไรเลย ถ้าเทียบกับค่าใช้จ่ายจริง ๆ ถึงเกิด Nok Air ขึ้นมาไงครับ เป็นบริษัทลูกไป คือถ้าการบินไทยไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายมาให้เท่า Low Cost ได้ ก็เอาทรัพยากรบางส่วนของการบินไทยมาตั้งบริษัทลูกอย่าง Nok Air ซะเลยดีกว่า ยังไงเงินก็เข้าการบินไทยเหมือนกัน ให้ Nok Air เป็น Fighting Brand กลาย ๆ ไปแทน และจะให้ Nok Air เปรียบเทียบกับ Air Asia ก็คงจะเหนื่อยหน่อย เพราะ Nok Air มีทรัพยากรน้อยกว่าเยอะ จะเปรียบเทียบความสำเร็จมันไม่ได้เปรียบเทียบที่ขนาดกันอย่างเดียว มันต้องดูเทียบกับทรัพยากรที่มีอยู่ด้วย ถ้าเทียบ Per Head แล้ว Nok Air อาจจะกำไรดีกว่า Air Asia ก็ได้

สายการบิน Full Service ก็โดน Low Cost ตีกันทั้งโลกแหละครับ ตราบใดที่ผู้โดยสารส่วนมากเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง โดยเฉพาะในระยะสั้นมาเป็น ขอแค่เดินทางจาก A ไป B อย่างปลอดภัย ที่ราคาถูก ๆ ก็พอ เดี๋ยวนี้ Corporate ใหญ่ ในยุโรปเช่น Ford เวลาส่งพนักงานไปทำงานในยุโรป ยังให้นั่ง easyJet เลย

แต่สำหรับกระทู้นี้ จริง ๆ แล้ว มีส่วนหนึ่งเราก็ต้องเห็นด้วยล่ะครับ ว่า ประเทศไทยให้โอกาส Air Asia มากกว่าที่จะสนับสนุน สายการบินเลือดไทยแท้ ๆ อย่างพวก 1-2-Go ....... ก็ต้องมาดูกันต่อไป
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 49 18:34:18
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 49 17:28:58
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 49 17:21:42

จากคุณ : shion - [ 20 ม.ค. 49 17:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17

อืมมม ... ผมว่าข่าวอารมณ์เดียวกันกับ "การบินไทยจะยกเลิกฮ่องกง ให้แอร์เอเชียบินเลย" ยังไงอย่างนั้นอ่ะครับ (ซึ่งถ้าคนที่ติดตามเรื่องพวกโดยตลอดก็จะทราบดีว่า "เป็นไปไม่ได้") ตามกระทู้นี้ครับ
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/E3962102/E3962102.html

ส่วนตัวผมคิดว่า การเมืองอาจจะเกี่ยวข้องกับการบิน ตรงที่การเปิดเส้นทางใหม่ๆ ของการบินไทยบางเส้นทาง เช่นเส้นทางที่ไม่เห็นจะน่าทำเงินเลย แต่บินไปได้เพราะว่าการเมืองหนุนอยู่ เป็นต้น ... แต่สำหรับเจ้าหางแดงตัวจ้อย นี่ผมว่าถึงแม้ Shin จะมีหุ้นอยู่ 51% ก็จริง แต่เชื่อว่าไม่ได้มีบทบาทมากครับ ผมคิดว่า คนที่คอนโทรลเกมส์ น่าจะเป็นทาง AK หรือ แอร์เอเชีย มาเลเซีย มากกว่า เพราะว่าไป ลักษณะก็เหมือน Shin ไปซื้อแฟรนไชส์แอร์เอเชีย มาบินหน่ะครับ ... การที่ไทยแอร์เอเชียเติบโตได้ ผมคิดว่าเรื่องการเมืองน่าจะมีส่วนน้อยมาก แต่ผมว่าเป็นความพร้อมของตัวไทยแอร์เอเชียเอง ซึ่งมีเบื้องหลังผู้สนับสนุนหลักอย่าง แอร์เอเชีย มาเลเซีย .... ทำไมไทยแอร์เอเชีย ถึงโตเร็วกว่านกแอร์หล่ะครับ? ... ตามบทความ ผมว่าไม่เกี่ยวกันเลย เพราะว่า นกแอร์มีเครื่องบิน 3 ลำ (กำลังจะมีเครื่องลำที่ 4 เดือนหน้า) แต่ไทยแอร์เอเชีย มีเครื่องบินทั้งสิ้น 9 ลำ และจะขึ้นเป็น 12 ลำในปีนี้ ... ที่ต่างกันมากก็เพราะว่า ทาง AK ช่วย support เครื่องให้ตลอด พอ AK มีเครื่องใหม่ เขาก็ส่งเครื่องเก่าไป renovate ใหม่แล้วก็เพนท์ธงชาติไทย (อาทิเช่นเจ้า Scottch, Solartron) แต่การบินไทยก็มีปัญหาหลายๆ ด้านจึงส่งเครื่องให้นกแอร์ไม่ได้ซะที นกแอร์จึงมีเครื่องบินแค่ 3 ลำมานานเกือบ 16 เดือนครับ เส้นทางก็มีเท่าที่เห็น ทังๆ ที่อยากจะเปิดเส้นทางใหม่ๆ ตามที่ request กันมามากมาย อย่าง มาเก๊า หรือเชียงราย ก็ต้องรอกันไปก่อนจ้า

ผมมองอีกว่า ลูกค้าการบินไทย กับแอร์เอเชีย คนละตลาดกันเลยครับ แอร์เอเชีย ทำให้ลูกค้าระดับกลาง แบบที่เดินทางด้วยวิธีอื่น อย่างรถไฟรถทัวร์ หันมาเพิ่มเงินอีกหน่อย แล้วเดินทางด้วยเครื่องบินได้ชั่วโมงเดียวถึง ... หรือพวกที่เดินทางโดยเครื่องบินเป็นประจำอยู่แล้ว แต่อยากจะประหยัดเพราะไม่ต้องการบริการอะไรมาก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่ต้องการการบินแบบให้ถึงจุดหมายอย่างเดียว ไม่ต้องการบริการอื่นใด จะผิดกับการบินไทยที่เป็นสายการบิน Full Service แล้วก็ราคาสูงกว่า กลุ่มเป้าหมายก็คนละกลุ่มกันหน่ะครับ คนที่นั่งโลว์คอสต์แล้วไม่ชอบการแก่งแย่งหรือการดีเลย์ อยากได้ความมั่นใจ หรือต่อไฟล์ทต่างประเทศก็เลือกการบินไทยไป

ดังนั้น ผมจึงคิดว่า บทความนี้จึงเขียนไปในเชิงที่ว่าท่านใช้อำนาจช่วยให้แอร์เอเชียเจริญบี้กับการบินไทย ซึ่งทางปฏิบัตินั้น ผมว่ายาก(ผมไม่ได้บอกว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิดก็ได้) ... ก็เหมือนหนังสือพิมพ์อะไรไม่รู้ เคยปล่อยข่าวแบบไม่คิดว่า จะให้แอร์เอเชีย หรือโลว์คอสต์ซักเจ้า เปิดบินไปลอสแองเจลิส (คิดดูแล้วกันต้องบินกี่ตุ๊บกว่าจะถึง เหอๆๆ หมดสภาพทั้งผู้โดยฯ แอร์ นักบิน)

ส่วนเรื่องว่าตารางบินดีกว่าการบินไทย .... อืมมม ผมว่าไม่เกี่ยวกันเลยนะ บางไฟล์ทของหางแดง ตารางเวลาเน่าจะตาย ผมคิดว่า slot เวลาไม่ได้กันหรอกครับว่า สายการบินไหนห้ามได้ช่วงไหน ส่วนเรื่องเทียบงวงนั้น ตามที่น้องเจเคบอกครับว่า ปกติเขาจะ set priority ให้การบินไทย มาเป็นอันดับแรก ยิ่งถ้ากรณีฝนตกหล่ะก็ โลว์คอสต์เจ้าอื่นอย่าหวังว่าจะได้เทียบงวง (เคยได้ยินมาอย่างนี้จริงๆ) รองมาก็คือนกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และวันทูโก (เอาเทียบเฉพาะไฟล์ทที่ใช้ 757 เพราะ MD-82 เทียบไม่ได้จ้า)

ปัจจุบันโอกาสที่นกแอร์จะได้เทียบบ่อยก็เยอะ เพราะทุกไฟล์ทบินแต่ในประเทศ แต่ของไทยแอร์เอเชีย ไฟล์ทที่จะเทียบงวงก็ได้แต่ไฟล์ท ที่บินในประเทศ แล้วต่อในประเทศ เช่น เชียงใหม่รอบบ่ายต่อไปอุดร แล้วอุดรกลับมาต่อไปหาดใหญ่ เป็นต้น

แต่กรณีไฟล์ทที่มาจากต่างประเทศ แล้วต่อภายในประเทศ เช่น สิงคโปร์เช้าต่อไปเชียงใหม่รอบบ่าย FD3234, ฮานอยต่อไปหาดใหญ่รอบบ่าย, โกตาคินาบาลูต่อไปเชียงใหม่รอบดึก FD3236 จะเจอ Gate 82 บัสเกตเป็นเกตประจำครับ เช่นเดียวกับไฟล์ทภายในประเทศต่อต่างประเทศ เวลาเครื่องมาถึงดอนเมือง ก็จะจอดที่ลานจอดเช่นกัน เช่น เชียงใหม่เช้าต่อไปมาเก๊า, อุบลราชธานีบ่ายต่อไปสิงคโปร์ เป็นต้นครับ

ถ้าเป็นเส้นทางต่างประเทศต่อไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่มักจะเจอ Bus Gate 1-7 ไปขึ้นเครื่องที่ลานจอดอันไกลโพ้น ยกเว้นเที่ยวต่างประเทศที่ต่อกัน เช่น พนมเปญเช้าต่อไปฮานอยสาย เป็นต้น และเที่ยวบิน AK จากกัวลาลัมเปอร์ที่เทียบงวงตลอดครับ)

ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่า ไทยแอร์เอเชียก็ไม่ได้สิทธิพิเศษในการเข้างวงจอด มากกว่าการบินไทยหรอกครับ ...

อีกทั้งผมว่า เขายังสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับเส้นทางที่หลายๆ คนคิดว่าไม่น่าจะขายได้ อย่าง กรุงเทพ-นราธิวาสหน่ะครับ ตอนแรกๆ บินสัปดาห์ละ 3 เที่ยว แต่ 1 มีค. จะบินทุกเที่ยว เพราะเห็นว่าผู้โดยสารเยอะมาก เฉลี่ยมากกว่า 80% ขึ้นไปด้วย และผมว่าเขาเองน่าจะเปิดเส้นทางจังหวัดใหม่ๆ มากขึ้นอีก หลังจากที่ได้ A320 มาอีก 20 ลำในช่วงปีหน้าครับ (คิดว่าจังหวัดเล็กๆ คงเปิดหมดแหล่ะครับ)

ปล. กระทู้นี้ผมโหวตให้ว่า การเมืองแทรกแทรงได้ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเจริญโตของไทยแอร์เอเชียครับ แต่ถ้าเป็นการบินไทยเวลาซื้อเครื่องใหม่ หรือเปิดเส้นทางใหม่ๆ หน่ะครับ ผมว่าแน่ๆ ครับ

(แก้คำผิดครับ)
แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 49 01:15:32

จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 21 ม.ค. 49 01:09:59 ]