ความคิดเห็นที่ 1 อีกที จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 11:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นก็ไปแวะซื้อบัตรขึ้นพนมกุเลนที่โรงแรมซิตี้อังกอร์ (จะไปเข้าคิวซื้อที่หน้าด่านทางขึ้นก็ได้ แต่จะเสียเวลากว่า) ราคา 20 USD นับว่าแพงทีเดียว  ที่แพงเพราะทางขึ้นเขาเป็นทางคอนกรีตทำใหม่โดยเอกชนที่ได้สัมปทานค่ะ  จากนั้นก็เดินทางต่ออีกกว่า 40 กม. ไปที่พนมกุเลน  ไปแค่นี้แต่ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชม. เพราะทางเป็นโลกพระจันทร์เลย  สองข้างทางบางช่วงเป็นหมู่บ้านที่มีเครื่องจักสานสวยๆ มาวางขาย  แสดงว่าคงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่พลุกพล่านพอดู  แต่ของที่วางๆ นั่นก็เจอฝุ่นแดงจับหนาเตอะจนไม่กล้าแวะซื้อ  หลังจากนั่งหลับไปพักใหญ่ และนั่งรถขึ้นเขาที่เป็นทางมหาวิบาก  หัวโยกหัวคลอนขนาดที่คนท้องมาไม่ได้  (ถ้ามาอาจแท้งได้เลยนะนั่น) ยังนึกว่านี่ขนาดทำทางดีขึ้นแล้วนะเนี่ย  ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะขนาดไหนไม่อยากคิด  แต่ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงข้างบนจนได้  ขอแนะนำคนที่จะไปพนมกุเลนให้เช่าแท็กซี่หรือรถตู้เท่านั้นนะคะ  รถสามล้อไปไม่ได้แน่ค่ะ   พนมกุเลนแปลว่า ภูเขาลิ้นจี่ (พนม = เขา  กุเลน = ลิ้นจี่) เพราะบนเขานี้มีต้นลิ้นจี่อยู่เยอะค่ะ  แต่ต้นเค้าจะสูงๆ แบบลิ้นจี่ป่าดูไม่น่ากิน  พนมกุเลนเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเขมรและจุดเริ่มต้นของอารยธรรมขอมโบราณ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในแถบนี้  ดังนั้นบนเขาจึงมีการสร้างปราสาทโบราณยุคแรกๆ ซึ่งยังมีซากปรักหักพัง (มากๆ) เหลืออยู่นิดหน่อย (แค่ฐาน)  นอกจากนั้น  ภูเขานี้ยังเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดมหึมา เรียกได้ว่าโคตรก้อนหิน  บางก้อนใหญ่โตมากสูงเกือบสิบเมตร  ด้วยเหตุนี้จึงมีการสกัดหินจากพนมกุเลน ล่องไปตามแม่น้ำเพื่อนำไปสร้างนครวัดค่ะ ก่อนลงจากรถ เราได้รับคำเตือนเป็นนักหนาว่า อย่าเดินออกนอกเส้นทางเด็ดขาด  เพราะบนเขานี้ยังมีกับระเบิดที่ยังไม่ได้กู้อยู่อีกมาก !!! วิวป่าไม้อุดมสมบูรณ์ของกัมพูชา มองจากยอดเขาพนมกุเลน แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 49 11:35:34 จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 11:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พอลงรถปุ๊บ  เด็กเขมรตัวน้อยใหญ่เกือบสิบคนก็มารุมขอเป็นไกด์  เราเลือกคนที่เป่ายิ้งฉุบชนะมาคนนึง  แต่ไปๆ มาๆ เด็กๆ ก็ตามกันมาเป็นพรวน  จุดแรกที่เราไปคือศิวลึงค์พันอันค่ะ  เดินเข้าไปจากที่จอดรถนิดเดียวก็เจอลำธารตื้นๆ น้ำใสไหลเย็น  ท้องน้ำเป็นหินที่แกะสลักรูปศิวลึงค์อันเล็กจิ๋วล้อมรอบด้วยโยณีเป็นร้อยเป็นพันอันเลย  เจ้าเด็กๆ ในรูปโดดลงไปเดินเล่นหน้าตาเฉย  ตอนแรกๆ เราไม่กล้าลงเพราะรู้สึกหยึยๆ อะ ก็คิดดูสิว่าต้องลงไปเดินเท้าเปล่าสัมผัสกับศิวลึงค์น้อยๆ นั่นเต็มไปหมด  อึ๋ยยยย....   แต่ไปๆ มาๆ เห็นน้ำใสเย็นน่าเล่น  ก็เลยตัดสินใจถอดรองเท้าลงไปเดินมั่ง  น้ำเย็นดีมากๆ เลย  แถมไหลแรงด้วยค่ะ  ต้องประคองตัวดีๆ เด็กเขมรพวกนี้น่ารักดี  บ้ากล้องแทบทุกคน ยิ้มกันไม่หุบเลยค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 11:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันว่าที่มาของศิวลึงค์ (ของเขาผู้ชาย) กับโยณี (ของเขาผู้หญิง) นั้น มีตำนานเล่ามาว่า ครั้งหนึ่งพระศิวะกับพระอุมาเมาแล้วก็นึกครึ้มๆ เลยปั่มปั๊มกันเพลินกลางตำหนักแบบโจ๋งครึ่ม  พวกเหล่าเทวดาทั้งหลายมาเข้าเฝ้าเห็นเลิฟซีนเข้าเต็มๆ ก็เลยโอ้โหโอ้หูวว แล้วก็หัวเราะขำกันครืนใหญ่  เป็นที่อับอายขายหน้าของสองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง  พระศิวะก็เลยสาปให้ทุกคนต้องบูชาศิวลึงค์และโยณีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ห้ามขำ จำไว้! ดังนั้น ศาสนาฮินดูไศวะนิกายจึงบูชาศิวลึงค์ถือเป็นจุดกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง  การบูชาศิวลึงค์โดยทั่วไปก็คือการเอาน้ำราดลงไปบนศิวลึงค์  น้ำจะไหลลงไปที่ร่องโยณี  แล้วก็เอาภาชนะมารองน้ำที่ไหลออกมาไปดื่มหรือล้างหน้าบูชาค่ะ  (ช่างคิดจริงๆ)  ถ้าดูจากรูปในน้ำ  ศิวลึงค์ก็คือแท่งกลมๆ ส่วนโยณีก็คือสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบค่ะ แล้วทำไมต้องมาสลักศิวลึงค์ตั้งพันอันไว้ใต้น้ำที่นี่  อันนี้เป็นสุดยอดภูมิปัญญาขอมโบราณค่ะ  เนื่องจากที่ทราบกันแล้วว่าน้ำที่ไหลผ่านศิวลึงค์จะเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์  กษัตริย์โบราณก็เลยทำน้ำทั้งแม่น้ำที่จะไหลลงไปถึงนครวัดข้างล่างนั้นให้เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เสียเลย  โดยการสลักศิวลึงค์พันอันนี้ไว้ใต้ท้องน้ำค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 12:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มารอดูจนบ่ายสามแก่ ๆแล้วนะครับ เข้ามา โพสต์ต่อได้แล้ว ปูเสื่อรอชมอยู่นะครับบบบบ จากคุณ : LappLand - [ 27 ม.ค. 49 15:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนอันนี้เป็นลายพระนารายณ์และพระลักษมีใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุด  ก่อนจะสลักลายพวกนี้  ขอมโบราณต้องเปลี่ยนทางเดินน้ำด้วยการทำเขื่อนกั้นทางน้ำให้ไหลไปทางอื่นก่อน เมื่อสลักเสร็จจึงปล่อยน้ำกลับมาทางเดิม  สุดยอดเลย จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 5555555555 พอดีกำลังอู้งานอยู่ค่ะ  จะหาที่พักเสม็ด  แต่เต็มหมดเลยอะ  แย่จัง มาต่อได้ละๆ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดินเลยลงไปอีกหน่อย  จะเจอศิวลึงค์อันใหญ่ที่ซู้ดดด เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งเมตรนึงแน่ะ! จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากนั้น  ไกด์เด็กๆ ของเราก็พาเดินเข้าป่าย้อนไปดูต้นน้ำค่ะ  เดินเข้าไปไม่นานก็เจอบ่อน้ำผุด  มีตาน้ำอยู่ใต้ทราย  น้ำใสแหนวเลย  อย่างนี้เค้าเรียกว่า ตึกบริสด (ตึก = น้ำ บริสด = บริสุทธิ์)  ถ้ามองตอนต้องแสงแดดจะเห็นประกายรุ้งในน้ำด้วย  แต่พอถ่ายภาพมาแล้วไม่เห็นแฮะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นก็นั่งรถต่อเข้าไปในหมู่บ้านค่ะ  อันนี้เป็นบ้านมุงตับจากหรือใบอะไรซักอย่าง  สวยดี แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 49 15:55:10 จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แผงขายของที่ระลึกข้างทาง  เป็นพวกไม้แกะสลักและของป่า จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้เค้าว่าเป็นไม้กฤษณาแกะเป็นรูปพระค่ะ  กลิ่นหอมมากเป็นเหมือนน้ำมันเคลือบผิวอยู่  ติดมือทนเลยล่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนนี่น่าตื่นตกใจมาก  หัวเลียงผาค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 15:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เดินไปจนสุดทางก็เป็นทางขึ้นวัดค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วัดนี้ใหญ่โตทีเดียว  บันไดยาวขึ้นไปถึงข้างบนก็จะเจอรูปปั้นพระพุทธองค์กับลิงและช้างที่มาถวายภัตตาหาร  ข้างๆ เป็นรอยพระพุทธบาท  และด้านในจะเป็นพระพุทธรูปประจำวันอยู่ใต้ชะง่อนหินค่ะ  พอเดินไปอีกหน่อยจะเจอบันไดวนขึ้นไปบนโบสถ์ซึ่งตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดยักษ์สูงกว่าสิบเมตร  ขนาดเท่ากับตึก 3-4 ชั้นเลย จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้างในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปนอนขนาดใหญ่มากๆ  เต็มโบสถ์เลยล่ะ  หลังจากไหว้แล้วพวกเราก็เดินดูรอบๆ  ปรากฎว่า  พระองค์นี้แกะสลักจากหินก้อนเดียวกับที่ตั้งโบสถ์อยู่ค่ะ  นั่นก็คือ พระท่านเป็นเนื้อเดียวกับหินก้อนยักษ์นี้เลย  โดยมีการสร้างตัวโบสถ์ไม้หลังนี้คร่อมไว้บนยอดก้อนหินค่ะ  อัศจรรย์จริงๆ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากนั้นเราก็ออกจากวัดและเดินเลี้ยวไปอีกทาง ผ่านหมู่บ้านไปยังน้ำตกพนมกุเลนค่ะ  เดินไปซัก 10 นาทีก็ถึง  น้ำตกตรงนี้ก็มาจากสายน้ำตรงศิวลึงค์นั่นแหละ  แต่ตรงนี้กว้างและลึกกว่ามาก  เราเดินข้ามสะพานเชือกไปอีกฝั่งเพื่อไปดูภาพสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่อยู่ใกล้ๆ หน้าผา  ที่เค้ากั้นเชือกไว้นี่ละค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หน้าผาน้ำตกตรงนี้เตี้ยๆ ค่ะ  แอ่งน้ำข้างล่างขนาดกำลังน่าเล่นมากเลย  ตรงจุดนี้เป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของครอบครัวกัมพูชาที่มานั่นปิคนิคกัน  มีแคร่ไม้เป็นหลังๆ ปลูกให้เป็นที่ทานอาหารด้วย  น่านั่งดี  เจ้าม้าแคระตัวนี้ก็แต่งองค์ทรงเครื่องสวยๆ ไว้ให้ถ่ายรูปคู่ค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ถ้าเลยจากแอ่นนั้นไปจะเป็นหน้าผาสูงชัน  เค้าต้องทำรั้วกั้นไว้  พวกเราเดินลงไปดูข้างล่างตามทางที่เป็นบันไดไม้สูงชันและขั้นห่างๆ น่าหวาดเสียว  เดินไปในมือก็ถือข้าวโพดปิ้งแทะกินไปด้วยจนหวิดจะตกบันไดเอา  พอลงมาถึงพื้นข้างล่างก็เจอภาพน้ำตกเป็นสายลงมาจากหน้าผาสูงเกือบ 20 เมตร  สวยมากเลยค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากนั้นเราก็ออกจากน้ำตก  ระหว่างทางเดินมีร้านขนมพื้นบ้านขาย  เจอกล้วยแขกทอดกรอบอร่อยๆ กับขนมดอกจอกกรอบกรุบ  ราคาก็ไม่แพง เลยซื้อกินแก้หิวกันคนละหลายถุงแทนข้าวกลางวันซึ่งก็เลยเวลาไปโขแล้ว พอบ่ายสองเราก็เดินทางกลับเพื่อไปแวะปราสาทบันเตียสเรยซึ่งอยู่กลางทางกลับ  ตอนแรกว่าจะแวะกบาลสเปียนด้วยแต่ไม่ทันแล้วเพราะกบาลสเปียนปิดตอนบ่ายสาม  แต่เห็นเค้าบอกว่าลักษณะก็จะคล้ายๆ ลำธารกับน้ำตกที่พนมกุเลนนะคะ  ดังนั้นเรามุ่งหน้าไปบันเตียสเรยกันเลย  ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงค่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บันเตียสเรย  หรือที่คนไทยมักเรียกว่า บันทายสรี  คือปราสาทหินทรายสีชมพู  เป็นปราสาทที่ใช้หินทรายที่มีสีชมพูนวลๆ มาสร้างก็เลยให้สีสันที่สวยแปลกตา  นอกจากนั้นลวดลายสลักที่นี่ยังสวยงามละเอียดอ่อนมากๆ จนคาดกันว่า น่าจะสลักโดยผู้หญิงถึงได้ละเอียดอ่อนช้อยขนาดนี้ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ดูลายเค้าสิคะ  เล็กๆ น่ารักอ่อนช้อยมาก จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ละเอียดแม้กระทั่งลายขอบประตู  ยังกับประตูสลักไม้ ไม่ใช่หินแน่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีกรูป [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ละเอียดเกินไปจนย่อไม่พอเลย 5555 ด้านหลังก็สวย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกทีนะคะ แก้ตัวๆ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ระเบียงราย จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ด้านหลัง จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หอหน้า จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แม้แต่นางอัปสรก็ดูสวยน่ารักน่าเอ็นดู  ชอบมากเลยค่ะ  ปราสาทนี้  ใครไปก็อย่าพลาดไปชมนะคะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราออกจากบันเตียสเรยตอน 4 โมงครึ่งกว่าแล้วรีบบึ่งไปดูพระอาทิตย์ตกที่นครวัดกันต่อ  ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง  พอไปถึงฟ้าก็เริ่มมัวๆ  วันนี้หมอกเยอะอีกแล้ว  พวกเราก็เลยรีบปีนขึ้นไปข้างบนยอดเพื่อดูพระอาทิตย์ตก  แต่เราเองไม่ขึ้นนะคะ  รอบเดียวพอแล้ว  กลัวความสูงง่ะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แต่โชคดีที่ไม่ขึ้น เพราะวันนั้นเมฆหมอกเยอะ  ขึ้นไปก็ไม่เห็นดวงอาทิตย์ค่ะ   พอตอน 6 โมงเดินกลับออกมาได้เห็นแสงแดงอมม่วงของยามเย็นแทน  สวยดีนะคะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เจ้าหนูคนนี้นั่งอุ้มหมาอยู่ข้างทาง จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เย็นนี้เรากลับไปกินที่ตลาด  ร้านชื่อ Soup Dragon อยู่หัวมุมสุดถนนคนละด้านกับ Red Piano ค่ะ  ร้านนี้อร่อยมากๆ  ขอแนะนำเลย  เมนูสุดยอดคือ ซุปชนังเดย  เป็นเหมือนสุกี้ค่ะ  น้ำแกงหวานหอมมาก  มีหมู ไก่ ลูกชิ้นเนื้อ ฟองเต้าหู้ เห็ด  ผัก  ใส่ต้มรวมกัน  อร่อยๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีเมนูแนะนำอีกที่ร้านนี้ ไว้ตอนหน้านะคะ จากคุณ : Red Apple - [ 27 ม.ค. 49 16:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านจ้า.. ติดตามทุกทริป (ถ้ารู้) จากคุณ : >Phenomenon< - [ 30 ม.ค. 49 08:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนสุดท้าย ติดตามได้ที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4065735/E4065735.html จากคุณ : Red Apple - [ 31 ม.ค. 49 08:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มีรูปมาแจม นี่ไงเราไปมาเมื่อเดือนธันวาคม 2005 น้องคนที่เข้ามาขอ 1 เหรียญ หลังเราแช้ะรูปเค้า เสื้อเหมือนกันเลยแต่ลูกหมาคนละตัว จากคุณ : Seedina - [ 1 ก.พ. 49 09:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 55555555  คนเดียวกันเลยจริงๆ ด้วย  แต่เราไม่โดนเก็บตังค์อะค่ะ  สงสัยน้องจะเหนื่อยแล้ว  เห็นหน้าบูดๆ  อิอิ จากคุณ : Red Apple - [ 2 ก.พ. 49 15:46:55 ]