ความคิดเห็นที่ 1 โปรแกรมเริ่มต้นสำหรับเช้าวันนี้จะขึ้นไปเที่ยวดอยตุงกันค่ะ แต่ก่อนออกจากภูใจใสก็ให้คุณสามีได้ลองไปดูที่ที่มีบริการให้เราปั้นดินของทางภูใจใสค่ะ เค้าอยากลองทำดูมาก ๆ แต่เราพาออกไปเที่ยวจนมาคราวนี้เค้าเลยอดเลยละค่ะ สัญญานะค่ะ Darling ว่าคราวหน้าเรามาปั้นดินด้วยกันแบบหนังเรื่อง Ghost เลยนะค่ะ แอบกระซิบนิดนึงนะคะว่าถ้าปั้นแล้วพอใจผลงานสามารถให้เค้าเผาให้สวยงามและส่งกลับไปที่บ้านให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่พอใจผลงานตัวเองก็อาจจะฝากไว้ที่นี่ได้ค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทางขึ้นดอยตุงถนนดีค่ะ ขับสบาย   ด้านหน้าซึ่งเป็นที่จอดรถจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์งานฝีมือต่าง ๆ ทั้งเครื่องประดับ กระเป๋า เรียงรายเต็มไปหมดค่ะ แต่แนะนำว่าของอย่างเดียวกันแต่ละร้านราคาไม่เท่ากันนะค่ะ อาจจะต้องเดินสำรวจราคาก่อนนิดนึงเดี๋ยวจะเสียดายค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าใครจะซื้อของฝากนะค่ะ ขอบอกว่าที่นี่ถือว่าราคาถูกกว่าที่อื่น ๆ นะค่ะ เพราะลองไปถามราคาของแบบเดียวกันแถวที่เที่ยวอื่น ๆ ที่ไปเที่ยว ที่ดอยตุงนี่ถูกสุดแล้วค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีส้มสีทองอร่ามมาวางเรียงรายขายกันเต็มไปหมดเลยค่ะ หน้านี้ส้มราคาไม่แพงแล้วก็รสหวานดีด้วยนะค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ซื้อตั๋วเข้าชมเป็นแบบเหมารวม 3 จุดเลยค่ะ ทั้งพระตำหนักดอยตุง, สวนแม่ฟ้าหลวง และหอพระราชประวัติของสมเด็จย่า ราคา 150 บาท/คนค่ะ ก่อนเข้าชมขอแนะนำให้จัดการธุระส่วนตัวต่าง ๆ ให้เรียบร้อยนะค่ะ เพราะแต่ละที่จะไม่มีห้องน้ำ จะต้องเข้าจากด้านนอกไปให้เรียบร้อยก่อนนะค่ะ ห้องน้ำส่วนที่ติดกับที่จำหน่ายบัตรเข้าชมจะอยู่ด้านล่างค่ะ ทุกคนต้องถอดรองเท้าใส่ถุงที่เค้าแจกแล้วลงไปเข้าด้านล่าง ซึ่งจุดนี้คนจะเยอะนะค่ะ อยากแนะนำให้ไปเข้าอีกฝั่งนึงที่อยู่ติดกับร้านอาหารค่ะ ห้องน้ำจะต้องขึ้นไปชั้นบนแต่คนน้อยกว่าเยอะเลยค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่แรกเลยขอชมสวนแม่ฟ้าหลวงก่อนนะค่ะ เดินชมดอกไม้ตอนเช้า ๆ นี่น่าจะดีกว่าตอนร้อน ๆ นะค่ะ ถึงวันนี้จะเป็นวันธรรมดาและไม่ได้เป็นช่วงวันหยุดเทศกาล แต่ก็มีผู้คนมาเที่ยวชมกันเยอะเหมือนกันค่ะ คาดว่าถ้าเป็นช่วงเทศกาลจริง ๆ คงเยอะกว่านี้แน่เลย จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แค่เข้าไปไม่เท่าไหร่ก็เจอดอกไม้สวย ๆ สีสันสดใส จนหลายคนอดใจไม่ได้ที่ต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้กันเป็นระยะ ๆ ค่ะ สบายตา สบายใจดีนะค่ะ มิน่าละหลาย ๆ คนถึงบอกว่ามาที่นี่ต้องเผื่อเวลาไว้เยอะนิดนึงเพราะแค่ถ่ายรูปดอกไม้สวย ๆ ที่นี่และเดินชมกว่าจะทั่วก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยละค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินชมภายในสวนแบบสบายใจค่ะ เพลินมาก ๆ ค่ะ อากาศเย็นสบายกับดอกไม้สวย ๆ หลากหลายพันธุ์ มีความสุขจริง ๆ เลยค่ะ ดอกรักเร่ของที่นี่ดอกใหญ่มาก ๆ ค่ะ ได้ยินบางคนบอกว่าเป็นดอกทานตะวันด้วยละค่ะ ยังงี้ต้องขอลองเทียบกับหน้าหน่อย จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดินถ่ายรูปชมดอกไม้กันพักนึง ก็มาเจอร้านกาแฟกลางสวยสวย ๆ เลยขอแวะไปชิมซะนิดนะค่ะได้ยินหลายคนว่ากาแฟดอยตุงอร่อย ให้คุณสามีช่วยชิมค่ะเพราะตัวเองไม่กินกาแฟเลยสั่งวะนิลาครีมปั่น แก้วละ 75 ค่ะ ส่วนคุณสามีนี่เลย ลาเต้เย็นค่ะ 65 บาท แถมด้วย Layer Choc 40 บาท ขอบอกว่าวะนิลาครีมปั่นอร่อยมากค่ะหอมเย็นชื่นใจคิดว่าสู้ Frappe สบาย ๆ เลยค่ะแถมถูกกว่าด้วย เค้กเค้าก็ใช้ได้นะค่ะ เนื้อนุ่มอร่อยดีค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีป้ายป้ายนึงที่คิดว่ามีข้อความอนุรักษ์น้ำที่ดีมาก ๆ ค่ะ เลยนำมาฝากกัน จริง ๆ ไม่เฉพาะที่ดอยตุงหรอกนะค่ะ ทุก ๆ ที่ที่ใช้น้ำก็อยากให้ใช้กันอย่างประหยัดเผื่อต่อไปไม่มีใช้ก็คงแย่เหมือนกันนะค่ะ อี๊ดว่าขาดน้ำน่าจะแย่กว่าขาดไฟฟ้าอีกนะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 10:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สัญลักษณ์อย่างนึงในสวนแม่ฟ้าหลวง ซึ่งบอกว่าคุณได้มาถึงที่นี่แล้วค่ะ ใคร ๆ ก็คงจะถ่ายรูปประติมากรรม "ความต่อเนื่อง" นี้กันนะค่ะ วันนี้ฟ้าสวยจังค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก่อนที่จะถึงทางขึ้นไปชมพระตำหนัก จะเห็นตุงสีทองอร่ามตัดกับแสงแดดดูงดงามมากค่ะ อ่านจากป้ายว่าตุงเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ความสดใส และความมีโชคดี นำไปปักไว้ที่ไหนจะเกิดความมงคลแก่ที่นั้น ๆ ค่ะ  เสาตุงที่นี่เป็นไม้นอนไพร 5 ต้นค่ะ ต้นกลางจะติดตุงซึ่งทอเป็นรูปปีนักษัตรของในหลวงคือรูปกระต่าย ส่วนตุงอีก 4 ต้นที่อยู่รอบ ๆ จะเป็นรูปหนู ซึ่งเป็นปีนักษัตรของสมเด็จย่าค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทางขึ้นชมพระตำหนักจะต้องเดินเท้าขึ้นไปค่ะ ได้ยินบอกเมื่อย ๆ กันบ้างสำหรับบางคนนะค่ะ แต่ระหว่างทางก็จะมีศาลาน้ำดื่มเย็น ๆ ในสไตล์ล้านนาให้ได้ดื่มฟรีกันด้วย แต่ว่าอย่าดื่มมากนะค่ะ เพราะด้านบนเค้าไม่มีห้องน้ำและที่ทางขึ้นก็จะมีป้ายบอกข้อห้ามต่าง ๆ สำหรับการขึ้นชมพระตำหนักไว้ด้วยค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การเข้าชมพระตำหนักจะกำหนดเป็นรอบ ๆ นะค่ะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่บรรยายให้ความรู้ประกอบด้วยค่ะ ใครอยากเข้าชมรอบไหนลองกะเวลาดูนะค่ะ จะได้ไม่ต้องรอนานค่ะ เพราะเค้าจะมีช่วงนึงที่ใช้ทำความสะอาดค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พระตำหนักมองดูภายนอกเหมือนทำจากไม้แต่จริง ๆ ไม่ใช่ไม้จริงค่ะ ไม้กาแลที่นี่จะมีรูปหนูซึ่งเป็นปีเกิดของสมเด็จย่าอยู่ด้วยค่ะ ชั้นที่ 3 และ 4 ที่เราเห็นไม่ได้ใช้งานจริงเป็นการจำลองหลอกไว้ จริง ๆ ที่ใช้งานจะมี 2 ชั้นค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านในท้องพระโรงจะมีส่วนของเพดานดาว 3 วงรอบด้วยกันค่ะ จำลองระบบสุริยจักรวาล วงรอบที่ 3 ด้านนอกสุดจะเป็นดวงดาวต่าง ๆ ที่สมเด็จย่าท่านทรงศึกษาเป็นพิเศษ ขอบอกว่าที่นี่สวยงามมาก ๆ ค่ะ ด้านข้างที่เป็นประตูศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นประตูที่ให้เฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จผ่านก็เป็นผ้าปักจากเชียงใหม่ ส่วนด้านหลังฉากจะเป็นการปักตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ A- Z เป็นรูปดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งดอกไม้ที่ปลูกบริเวณระเบียงของพระตำหนักจะเป็นดอก Gerlianial ซึ่งสมเด็จย่าทรงโปรดค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนอี๊ดรึเปล่านะค่ะ ช่วงที่เดินชมพระตำหนักและเจ้าหน้าที่บรรยายถึงว่าสมเด็จย่าท่านทรงชอบงานฝีมือมาก ๆ คะ โดยเฉพาะงานปักครอสติช ซึ่งในพระตำหนักมีผ้าปักที่พระองค์ทรงปักค้างอยู่ด้วยค่ะ ให้เราได้ชมผ่านกระจก  รู้สึกคิดถึงพระองค์ท่านมาก ๆ เลยค่ะ รอบ ๆ ด้านนอกของพระตำหนักก็จะจัดเป็นสวนไม้ดอก สีสันสวยงาม ตระการตาค่ะ เสียดายไม่มีความรู้เรื่องดอกไม้ค่ะ ว่าแต่ละดอกชื่ออะไรกันบ้าง รู้แต่ว่าสวยงามมาก ๆ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 11:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลงจากชมพระตำหนักเดินเลยไปเข้าชมหอพระราชประวัติค่ะ ด้านในจะแบ่งเป็นห้อง ๆ ค่ะ แต่ละห้องก็จะแสดงพระกรณียกิจและพระจริยวัตรในด้านต่าง ๆ ทั้งทางด้านศิลปะ ศาสนา การแพทย์ โดยห้องแรก : จะเป็นภาพและข่าวในการเสด็จสวรรคต  ภาพในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 10 มีนาคม 2539 ได้เข้ามาชมในหอพระราชประวัตินี้ รู้สึกเลยว่าตื้นตันและระลึกถึงสมเด็จย่าท่านมาก ๆ ค่ะ คิดว่าท่านจะสถิตย์อยู่ในใจของประชาชนคนไทยทุกคนตลอดไป จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กว่าจะเดินชมครบทั้งสามที่ก็เที่ยงวันพอดีค่ะ ท้องก็เริ่มหิวแล้ว เที่ยววันนี้เดินค่อนข้างเยอะค่ะ ต้องมาเติมพลังกันหน่อยที่ร้านอาหารของที่นี่ค่ะ เมนูแรกเป็นเมี่ยงปลาดอยตุง ค่ะ เป็นปลาทับทิมที่เค้าแล่เอาแต่เนื้อหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าราดด้วยน้ำยำพร้อมกับสมุนไพรต่าง ๆ เหมือนกันเมี่ยงคำอะค่ะ แต่เสียดายอี๊ดว่าน้ำราดเค้าออกหวานไปหน่อยค่ะ ไม่แซบแบบที่ชอบ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลืมบอกราคาไปค่ะ จานบน 180 บาท จานต่อมาเป็นเห็ดฮังการีทอด จานนี้อร่อยกินเล่นเพลิน ๆ ดีค่ะ ขอบอกว่าจานนี้มาราธอนมาก ๆ เนื่องจากกินกันไม่หมดเลยขอเค้าใส่ถุง ปรากฎได้ไปกินกับข้าวต้มมื้อเช้าวันสุดท้ายได้ด้วยค่ะ (คุ้มมั๊ยค่ะ ยังกรอบอร่อยอยู่เลยละค่ะ) จานนี้ 70 บาทค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จานสุดท้ายเป็นน้ำพริกเห็ดหอมค่ะ จานนี้ผิดหวังนิดหน่อยที่ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำพริกแบบสดแล้วใส่เห็ดหอมสดอะค่ะ แต่จริง ๆ เป็นแบบแห้ง ๆ แต่รสชาดก็ไม่เลวร้ายเกินไปไว้กินแก้เลียนกับเมี่ยงปลาได้ คุยกับคุณสามีว่าสงสัยเราสั่งผิดเมนูรึเปล่า เพราะไปเชียงรายคราวนี้คิดว่ากินที่นี่รสชาดอร่อยน้อยสุดเลยอะค่ะ อ้อจานนี้ 60 บาทค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ออกจากดอยตุงก็ขับรถเลยขึ้นไปเที่ยวที่สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงบนดอยช้างมูบค่ะ พบป้ายนี้ให้กำลังใจในการชมกุหลาบพันปีด้วยละค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 13:47:58 จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ค่าเข้าชมคนละ 50 บาทค่ะ ด้านในทำเป็นทางเดินให้ชมไม้ดอกต่าง ๆ ซึ่งจะดีหน่อยตรงที่เค้าจะมีป้ายชื่อและสายพันธุ์บอกเราด้วยค่ะ ค่อยยังชั่วหน่อยนะค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตลอดทางเดินก็จะมีดอกไม้ กล้วยไม้สวย ๆ ต้นไม้ต่าง ๆ ดูร่มรื่นดีค่ะ ต่างจากที่สวนแม่ฟ้าหลวงซึ่งเน้นพวกไม้ดอกมากกว่า แต่ที่นี่จะมีครบค่ะทั้งไม้ดอกและไม้ใบ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แต่ที่เน้นและเป็นหัวใจสำคัญของที่นี่ ต้องนี่เลยค่ะ กุหลาบพันปี ซึ่งจริง ๆ มีหลายพันธุ์นะค่ะ ถ้าเค้าไม่ติดป้ายบอกไว้ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ค่ะ ว่าดอกไหนคือกุหลาบพันปีกันแน่น้า ในรูปเป็นกุหลาบพันปีลูกผสมค่ะ สีส้มซะใจดีจริง ๆ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 13:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 บรรยากาศต้นไม้ร่มรื่นตลอดทางเดินชมภายในสวนรุกขชาติค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มุมถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สวย ๆ ด้านในค่ะ ขอเป็นหนูน้อยหมวกแดงหน่อยนะค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยเข้าใจผิดมาตลอดเลยค่ะว่าเจ้าดอกที่เห็นในรูปคือกุหลาบพันปีแต่จริง ๆไม่ใช่คะ ชื่อจริงๆ ของเค้าคือ ดอกคาลีเมีย พันธุ์หนึ่งค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนนางเอกของที่นี่ กุหลาบพันปีค่ะ ในรูปเป็นกุหลาบพันปี คำแดงค่ะ เพิ่งเคยเห็นดอกจริง ๆ ที่ถูกต้องก็คราวนี้แหละค่ะ จริง ๆ มีกุหลาบพันปี คำขาว ด้วยนะค่ะแต่ยังเป็นดอกตูมอยู่อะค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากสวนรุกขชาติเราย้อนรถกลับมาขึ้นสักการะพระธาตุดอยตุงกันค่ะ ที่ต้องย้อนเพราะตอนแรกเข้าใจว่าจะกลับทางเดิมที่ขึ้นดอยตุงมาเพื่อขับไปแม่สาย แต่ตอนไปถึงที่สวนรุกขชาติเห็นมีป้ายบอกว่าไปแม่สายด้วย เลยไปถามเจ้าหน้าที่ที่นั่น เค้าบอกว่าไปจากที่นี้ระยะทางสั้นกว่าค่ะ ประมาณ 20 กิโล ก็เลยคิดว่าดีกว่าจะต้องอ้อมย้อนลงจากดอยตุงอะค่ะ ขาไปแม่สายก็เลยไปจากเส้นนี้เลย (1149 ค่ะ) จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะบอกตามตรงว่าตั้งแต่ขับรถขึ้นเขาลงดอยที่เชียงรายเนี่ย อี๊ดคิดว่าทางขึ้นพระธาตุดอยตุงนี่สุดยอดแห่งความชันเลยละค่ะ ทั้งชันและก็แคบมาก ๆ ต้องคอยบีบแตรช่วงที่มีทางโค้งเป็นระยะ ๆ กลัวจะมีรถสวนมาน่ะค่ะ ยังคุยกับคุณสามีเลยว่า คนสมัยก่อนนี่เค้ามีความตั้งใจและพยายามมากเลยนะ เพราะพระธาตุแต่ละที่ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นเขาทั้งนั้น กว่าจะสร้างเสร็จ  กว่าจะได้ขึ้นมาทำบุญคงลำบากกว่าสมัยนี้มาก ๆ เลยแต่เค้าก็ทำได้นับถือจริง ๆ เลยค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พระธาตุดอยตุง ตามตำนานบอกว่าเป็นเจดีย์แห่งแรกของล้านนา สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.1454  ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปลาร้า) โดยได้มีการปัก "ตุง" ขนาดใหญ่ ไว้บูชาความยาว 1000 วา ต่อไปดอยแห่งนี้จึงเรียกว่า "ดอยตุง" จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รูปนี้เป็นรอยปักตุงค่ะ เป็นรอยแยกบนพื้นยาวประมาณ 1 ฟุตอยู่ด้านหน้าพระธาตุเข้าใจว่าเป็นรอยปักตุงบูชาพระธาตุค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 14:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ระหว่างทางขึ้นไปพระธาตุตอนแรกคิดว่าไม่ค่อยมีคนเพราะไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้ค่ะพอขึ้นไปถึงคนเยอะมาก ๆ ค่ะ อี๊ดไม่แน่ใจเหมือนกันนะค่ะว่าประเพณีการสักการะพระธาตุดอยตุงเป็นยังไงแต่พอขึ้นไปถึงเห็นทุกคนจะมีการเดินเหมือนเวียนเทียนกันคนละ 3 รอบก่อนด้วย ก็เลยไปเดินกับเค้าด้วยแต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ ต้องเป็นยังไงอะค่ะ  แต่ว่าที่นี่ใช้ดอกแกลดิโอลัสในการสักการะพระธาตุค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลงจากไหว้พระธาตุดอยตุงก็ขับรถไปทางสวนรุกขชาติเพื่อเดินทางต่อไปยังแม่สายค่ะ เส้นทางนี้ (1149) จะมีด่านตรวจเป็นระยะ ๆ นะค่ะ ด่านแรกนี่น้องทหารเค้าบอกว่าเชิญขึ้นไปชมจุดชมวิวบนค่ายได้ค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบคะ บรรยากาศเหมือนยืนอยู่บนยอดเขาสูง ๆ เลยค่ะ ลมแรงมาก ๆ มองเห็นยอดเขาอื่น ๆ เรียงกันเป็นทิวเขาแบบรู้สึกว่าเรายืนอยู่ระดับเดียวกับยอดเขาลูกอื่นเลยละค่ะ วิวสวยมาก ๆ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นมีทหาร 2 นายกำลังสร้างศาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกันอยู่ด้วยค่ะ ก็ได้ไปถามเค้าว่าชายแดนด้านนี้เป็นยังไงบ้าง เค้าบอกว่าสงบดีค่ะ แล้วก็จะมีผลัดเปลี่ยนเวรกันขึ้นมาดูแลที่ฐานนี้ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นใกล้ ๆ ศาลจะมีป้ายสีฟ้านี้อยู่ อ่านแล้วรู้สึกดีมากค่ะ อยากให้ทุกคนในชาติเป็นแบบนี้จัง วลีเด็ดมาก ๆ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ทางเส้นนี้เป็นทางขึ้นเขาลงเขา โค้งบ้างแต่ก็ไม่ชันแบบทางขึ้นพระธาตุดอยตุงนะค่ะ ขับไปช้า ๆ เรื่อย ๆ สบาย ๆ ค่ะ วิวสองข้างทางก็สวยดีด้วยค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขับไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับศูนย์ฝึกอบรมผาหมี ค่ะ อ่านป้ายได้ว่าเหมือนเป็นสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดนะค่ะ พอเลยไปก็จะเริ่มเห็นชุมชนด้านล่างแล้วละค่ะ ทำให้อุ่นใจได้ว่าน่าจะใกล้ถึงแม่สายแล้วนะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ระหว่างทางได้เจอน้องหมาโกลเดนท์น่ารักตัวนึงด้วยละค่ะ เป็นสุนัขที่ทหารที่เค้าเลี้ยงไว้ค่ะ กำลังพามาออกกำลังกายตอนเย็น ๆ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เลยขอจอดรถลงไปถ่ายรูปซะหน่อย แหะ ๆ ขอบอกว่าเจ้าตัวนี้ซนใช่ย่อยเลยนะค่ะ เค้ากระโดดงับกระเป๋าที่ห้อยคอของคุณสามีเราไม่ยอมปล่อยเลยละค่ะ ดูมาดเค้าซะก่อนนะค่ะ หลับตาปี๋เชียว 555 นี่ขนาดเจ้านายเค้ามาช่วยแล้วนะเนี่ย จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กว่าจะให้เค้าปล่อยกระเป๋าได้ เล่นเอาพักนึงเลยค่ะ พี่ทหารเค้าต้องใช้มุขขว้างก้อนหินลงไปอีกทางนึง ประมาณว่าหลอกให้ไปคาบอย่างอื่นก่อนอะค่ะ เค้าถึงปล่อยกระเป๋าได้ แหะ ๆ นี่ละค่ะโชมหน้าเจ้าแสนซนตัวนี้ พร้อมด้วยเพื่อนสี่ขาของเค้า จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พอลงมาถึงแม่สาย ที่แรกที่เราแวะไปเที่ยวคือ วัดถ้ำผาจม ค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ในวัดจะมีถ้ำซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านในค่ะ ลักษณะองค์จะเป็นแบบพม่า เนื่องจากเห็นว่าพระโอษฐ์ขององค์ท่านเป็นสีแดงด้วยค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นอกจากนี้ในถ้ำยังมีองค์พระธาตุให้เราได้สักการะด้วยคะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 15:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โดยในถ้ำจะไม่ให้เราจุดธูปเทียนนะค่ะ ได้เจอแม่ชีที่เข้ามาดูแลทำความสะอาดในถ้ำ ท่านบอกว่าในถ้ำจะมีจุดที่เกิดเหมือนหินงอกหินย้อยด้วยค่ะ คือมีผลึกเป็นสีวาว ๆ เกาะอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งการที่ทางวัดงดจุดธูปเทียนด้านใน ท่านบอกว่าเพราะมีญาติโยมบางคนจุดแล้วทำให้น้ำตาเทียนไปหยดโดนหินนี้เข้า ทำให้หินตายไม่เกิดแสงหรือผลึกที่เกิดตามธรรมชาตินี้อีกค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จากที่วัดก็นำรถมาจอดไว้ในสถานีตำรวจค่ะ (เคยเห็นมีเพื่อน ๆ แนะนำไว้นะค่ะ) แล้วก็เดินมาทำบัตรผ่านแดน อยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงทางเข้าด่านนะค่ะ ใช้แค่บัตรประชาชนอย่างเดียวค่ะ มีเขียนคำร้องนิดหน่อยค่ะ เสียค่าทำบัตรผ่านชั่วคราวคนละ 30 บาทที่ด่านฝั่งไทยและเสียอีก 10 บาทที่ฝั่งพม่าค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ข้ามฝั่งมาถึงพม่าปุ๊บก็จะมีคนพม่ามาถามแล้วว่าจะไปเที่ยวไหนรึเปล่า ซึ่งอี๊ดก็คิดว่าไหน ๆ มาถึงต่างประเทศทั้งทีก็ต้องเที่ยวเมืองเค้าหน่อยดีกว่า  ค่ารถเที่ยวในพม่าเค้าคิดคนละ 40 บาทค่ะ โดยน้องคนขับก็จะคอยเป็นไกด์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เราด้วยนะค่ะ นี่ละค่ะรถนำเที่ยวของที่นี่ละ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ที่แรกที่น้องเค้าพาไปคือ วัดพระหยก ค่ะ แหมรู้ใจคนแก่จริง ๆ เลยจ้า รู้ได้ไงว่าพี่ชอบวัดอะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 วัดของทางพม่าอี๊ดว่าจริง ๆ ประเพณีก็ไม่ต่างกันนะค่ะ มีการใช้ธูปเทียน ดอกไม้ ไหว้สักการะพระพุทธรูปเหมือน ๆ กัน จะต่างกันก็แค่สถาปัตยกรรมที่มีศิลปะการสร้างที่แตกต่างกันค่ะ อ้อ เทียนที่นี่เค้าใช้เป็นสีแดงด้วยนะค่ะเหมือนเทียนหอมเลยละค่ะ จุดแล้วมีกลิ่นหอมดี ที่ต่างกันอีกอย่างก็จะเป็นองค์พระพุทธรูปที่ทางพม่าจะทาพระโอษฐ์เป็นสีแดงค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 16:22:26 จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอโทษค่ะ ลืมรูปประกอบค่ะ เป็นรูปด้านในของวัดพระหยกค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนที่อี๊ดกับคุณสามี ฮือฮามาก ๆ ในความคิดสร้างสรรของชาวพม่าก็คือ พระพุทธรูป 3 มิติค่ะ เค้าจะแกะสลักพระพุทธรูปโดยที่น้องไกด์บอกว่าไม่ว่าเราจะมองจากด้านไหนก็พระพุทธรูปนี้ก็จะเห็นเหมือนกับว่าพระท่านมองตามเรามาด้วยอะค่ะ เป็นเทคนิคการแกะสลักของเค้าที่สร้างสรรดีจังค่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจนะค่ะ ถ้าน้องเค้าไม่บอกก็ไม่ทราบเหมือนกัน จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ในรูปเป็นภาพพระอุโบสถวัดพระหยก ด้านนอกค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จากนั้นเราก็ได้ไปที่เจดีย์ชเวดากองจำลอง ซึ่งเสียดายว่าตอนไปเค้ากำลังมีการบูรณะ ปฏิสังขรกันอยู่ค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ที่เจดีย์ชเวดากองจำลองนี่พอมาถึงปุ๊บนะค่ะ ก็จะมีน้อง ๆ มัคคุเทศก์น้อยมาดูแลเราแบบตัวต่อตัวเลยละค่ะ ซึ่งรอบ ๆ ฐานขององค์พระเจดีย์จะมีพระพุทธรูปประจำวันเกิดให้เราได้สักการะกันด้วยค่ะ ซึ่งประเพณีการสักการะของที่นี่ก็จะมีวิธีหลายขั้นตอนเหมือนกันนะค่ะ ถ้าไม่ได้น้องๆ มัคคุเทศก์แนะวิธีก็อาจจะทำได้ไม่ครบถ้วนก็ได้ค่ะ ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยนะจ๊ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เหมือนได้ไปฮันนีมูนด้วยเลย อิ ๆ  ๆ จากคุณ : น้ำหนุน (น้ำหนุน) - [ 17 ก.พ. 49 16:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ประทับใจมัคคุเทศก์น้อยสองคนนี้มากนะค่ะ เค้าจะหัวเราะคุยสนุกสนานมากค่ะ คอยดูแลเราดีบอกขั้นตอนในการสักการะพระพุทธรูปประจำวันเกิด โดยขั้นแรกก็เป็นการจุดธูปและดอกไม้ไหว้พระแล้ว จะต้องมีการสรงน้ำพระพุทธรูปประจำวันของเราด้วยค่ะ แต่ที่พม่านอกจากพระพุทธรูปปางประจำวันเกิดเหมือนของประเทศเราแล้ว เค้าจะมีรูปปั้นพระประจำวันของเค้าเพิ่มเหมือนเป็นเทวดาในแต่ละวันค่ะ รวมทั้งมีรูปปั้นของสัตว์ประจำวันเกิดให้เรารดน้ำด้วยค่ะ อันนี้แปลกมาก ๆ เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขั้นตอนต่างๆ คือ หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วก็จะมาสรงน้ำพระ และรดน้ำสัตว์ประจำวันเกิดเรา ต่อจากนั้นก็ต้องมาตีระฆังเล็กอีก 3 ครั้งค่ะ ในรูปสำหรับวันอังคารนะค่ะ วันจันทร์จะเป็นเสือ , วันพุธ - ช้าง จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 16:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 59 การตีระฆังสำหรับที่นี่มี 2 จุดนะค่ะ คือ ด้านหน้าพระประจำวันเกิดจะเป็นระฆังเล็ก ตี 3 ครั้งค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 17:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีค่ะคุณน้ำหนุน ฮันนีมูนของอี๊ดเน้นไปวัดและทัวร์กินนะค่ะ อิ ๆ  หลังจากเคาะระฆังเล็กแล้วก็มาเคาะระฆังใหญ่อีก 9 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนนะค่ะ เฮ้อ ดีนะค่ะเนี่ยที่ได้น้อง ๆ มัคคุเทศก์คอยแนะนำไม่งั้นคงทำไม่ถูกเหมือนกันค่ะ จากคุณ : udid - [ 17 ก.พ. 49 17:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แนะนำเวบขายครอสติส PINN ราคาพิเศษ ส่งฟรีค่ะ www.crossstitchthai.com จากคุณ : mimi (vitai) - [ 18 ส.ค. 52 16:44:08 ]