ไปชัยภูมิกันเถอะ
ใครซักคนพูดประโยคนี้ขึ้นมาตอนที่กำลังดื่มกาแฟตอนเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 11 กพ ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุด 3 วัน เพราะวันจันทร์ที่ 13 เป็นวันมาฆะบูชา
กุ้งเขากำลังเตรียมกระเป๋าจะไปเรียนวาดภาพกับสีน้ำอาจารย์บรรลุ วิริยะพรประภาส
เคเคนั้นมาแวะมาขอกาแฟกินก่อนจะไปประชุมพิเศษซึ่งลูกค้าอุตส่าห์บินมาประชุมตอนวันเสาร์ นัดไว้ 11 โมงเช้า
ฉันคนเดียวที่เตรียมตัวอยู่กับบ้านเช้าวันนั้น จึงถามไปแบบหมั่นไส้ว่า
.
แล้วคุณทั้งสองคนจะเสร็จธุระกันกี่โมงกันล่ะ ถ้าไปจะได้ออกรถกี่โมง แล้วที่หมายที่คิดจะไปใช้เวลาเท่าไร
คุยไปคุยมาสรุปเป็นว่า ให้กุ้งไปจัดเสื้อผ้า ให้ฉันไปจัดอุปกรณ์วาดรูปแล้วสมทบไปเรียนสีน้ำกับกุ้ง ขากลับมาแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารกลางวันเพื่อที่จะทานไปในรถ ให้พร้อมสรรพก่อนบ่ายสองโมงเท่านั้นเป็นพอ ส่วนเสบียงอาหารสดแห้งเพื่อการแค้มปิ้งนั้น เคเค จะจัดการไว้ให้ก่อนที่จะไปประชุมนัดเฉพาะกิจของเช้าวันนั้น
วันนั้นเป็นครั้งแรกของคอร์สเฉพาะกาลซึ่งจัดได้เพราะ ดร.สุรัตน์ เอื้อเฟื้อห้องประชุมของโรงเรียนอนุบาลสารินทร์เป็นที่เรียน ก็ท่านเป็นเจ้าของโรงเรียนและชื่นชอบการวาดภาพสีน้ำคนหนึ่ง วันนั้นอาจารย์บรรลุสอนวาดรูปบ้านกลางทุ่งแล้วหัดลงแบล็คกราวต้นไม้หลังบ้าน (ลงสีบนพื้นเปียก) สอนเรื่องการลงเงาของบ้าน (ลงสีบนพื้นแห้ง) การวาดองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ประตูหน้าต่าง โอ่ง ไห และยังหัดวาดคนกันเล็กน้อย อาจารย์ดูแล้วก็ชมว่า คลาสนี้เก่งๆ กันแล้ว แต่ฉันว่า มีแต่อาจารย์ชุมพลเท่านั้นที่อยู่ระดับเก่ง ส่วนฉันนั้นแค่พอวาดได้
.. วาดเสร็จตอนเที่ยงเราสองคนก็รีบลาอาจารย์และเพื่อนเรียนอีก 8 ท่านและนัดกันมาเจอกันในสัปดาห์ต่อไป
สรุปว่าฉันได้เข้าเป็นนักเรียนคนหนึ่งในคอร์ส 10 ครั้งของที่นี่ และยังจะได้ไปเที่ยวชัยภูมิอีกด้วย ดีใจจังเลย แม้จะรู้สึกเสียดายที่ชวนเพื่อนคนอื่นไม่ทันแล้ว
จากคุณ :
chomphrai
- [
24 ก.พ. 49 09:56:59
]