ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่จองผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่าที่บาหลี จะมีวันอย่างนี้ด้วย แล้ว Nyepi คืออะไรหล่ะครับ ถ้าถามผม ตอนที่ผมกำลังจะเดินทางไป และ มาถึงบาหลีใหม่ๆ ผมก็ไม่ทราบครับว่าคืออะไร แต่สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนจะเดินทางไป คือ บาหลีเป็นเกาะที่ผู้คนให้ความสำคัญกับศาสนามาก โดยเฉพาะศาสนาฮินดู ที่เป็นศาสนาหลักของที่นี่ แต่ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่า ในหนึ่งปี จะมีวันหนึ่ง ที่ชาวบาหลีจะไม่มีการทำงาน ไม่มีการขับยวดยานพาหนะ ไม่มีการจุดไฟใดๆ และที่สำคัญคือ นักท่องเที่ยวเองก็ห้ามออกจากบริเวณโรงแรมที่พักเช่นกันครับ และแล้ววันนเยปี (Nyepi) ของบาหลี ของปีนี้เป็นวันที่ 30 มีนาคม 2549 พอดีเลยครับ ก็เท่ากับว่าผมเจอแจ๊กพอตแตกเข้าจนได้ เพราะผมมีเวลาที่บาหลีเพียงสองวันเต็มๆ เท่านั้น ส่วนวันที่เดินทางก็มาถึงในตอนบ่าย ส่วนวันกลับก็กลับตอนบ่ายเช่นกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกดีว่า ถ้าผมเลือกเดินทางมาวันที่ 30 มีนาคม จะปั่นป่วนขนาดไหน เพราะที่สนามบินก็คงจะมีแท๊กซี่ให้บริการน้อยมากแน่ๆ ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาหล่ะครับ ผมขอเล่าบันทึกในช่วงวันสิ้นปี-วันปีใหม่ ของบาหลี โดยขอเกริ่นเพื่อให้เป็นที่เข้าใจกันคร่าวๆ นะครับว่า วัน Nyepi คือ วันปีใหม่ของบาหลีที่นับตามปฏิทินระบบซะคา (Hindu saka) ซึ่งชื่อเรียกของปฏิทินระบบนี้มาจากชื่อราชวงศ์ซะคาของอินเดีย ซึ่งได้ปกครองอินเดียในช่วง ค.ศ.78 ในปีนี้ จะเป็นปีที่ 1928 โดยวันนเยปี จะได้แก่วันหลังจากคืนเดือนมืดของเดือนเก้า ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ชาวบาหลีจะถือว่า วันปีใหม่คือวันสงบนิ่ง ไม่มีการจุดไฟใดๆ ไม่มีการขับขี่ยวดยานพาหนะ ไม่มีการทำงานนั่นเอง ส่วนนักท่องเที่ยวก็เก็บตัวอยู่ในที่พัก จะออกไปเที่ยวนอกบริเวณโรงแรมไม่ได้ครับ Selamat Hary Raya Nyepi 1928 จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม ไปท่องเที่ยวที่ประเทศกัมพูชา ทั้งกรุงพนมเปญ และ เมืองเสียมเรียบ อันเป็นที่ตั้งของ นครวัด-นครธม สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก่อนบินมายังกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเดินทางต่อไปยังบาหลี ผมเลือกเดินทางในเที่ยวบินรอบเช้า ซึ่งออกจากอาคารผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำ (LCCT-KLIA) ในเวลา 10.55 น. และจะถึงบาหลีเวลา 13.55 น. (AK900 Kuala Lumpur – Denpasar) ตามที่มีหลายท่านแนะนำมา ว่าขาไปต้องนั่งฝั่งด้านขวา จะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงาม และผมก็ไม่รู้สึกผิดหวังครับ เพราะหลังจากที่บินมาได้ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนที่เครื่องแอร์เอเชียที่เราบินมาจะร่อนลงจอดที่สนามบินงูราไร (Ngurah Rai International Airport) เมืองเดนปาซาร์ เมืองหลวงของเกาะบาหลี เครื่องบินได้บินผ่านกลางเกาะบาหลี ก่อนจะตีโค้งมาทางด้านขวาเพื่อร่อนลงจอด สวยงามมาก โดยใช้เวลาบินบนอากาศทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 35 นาทีเท่านั้นครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขออนุญาตกล่าวถึงสนามบินงูราไรนิดนึงนะครับ สนามบินงูราไร (Ngurah Rai International Airport หรือชื่อในภาษาอินโดนีเซียว่า Bandar Udara Ngurah Rai – Denparsa Bali) ชื่อ “งูราไร” เป็นชื่อของผู้นำของบาหลีที่สำคัญมากคนหนึ่งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในการต่อต้านพวกดัชต์ ไม่ให้กลับมายึดครองบาหลีอีกครั้งหนึ่ง ท่านชื่อ Gusti Ngurah Rai เป็นทหารหนุ่ม วีรบุรุษ ผู้อุทิศตนโดยเน้นกลยุทธทางไสยศาสตร์ ลางสังหรณ์ และสหัชญาณ (intuition) แทนการวางแผนหรือการใช้เหตุผลอย่างทั่วๆ ไป โดยเขามีคำขวัญประจำตัวคือ “Merdeka atau mati” หรือหมายถึง “เสรีภาพ หรือ ความตาย” ท่านงูราไรได้รวบรวมกองกำลังทหารเข้าด้วยกัน และก่อตั้งหน่วยความปลอดภัยของประชาชน ในชื่อว่า Tentara Keamanan Rakyat จนเป็นกองทัพประชาชนแห่งบาหลี และท่านเองก็เป็นผู้บัญชาการกองทัพประชาชนนี้ โดยท่านได้นำทัพเดินระยะไกลไปยัง Gunung Anung โดยระดมชายฉกรรจ์ที่อาศัยอยู่ในบาหลีตะวันตก และบาหลีใต้ไปยังพื้นที่บาหลีตะวันออก กองพลนี้ซุ่มตัวอยู่ในที่กำยังบริเวณสันเขาของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และแล้วกองทัพดัชต์ก็ตีวงล้อมฐานที่มั่นดังกล่าว แต่ท่านงูราไรก็นำทหารหลบหลีการถูกสังหารหมู่ได้ โดยการปีนข้ามยอดภูเขาไฟเพื่อหลบหนี เดินผ่านพื้นที่ภูเขาที่ธุรกันดารและลำบาก ไปยัง Tabanan ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาถูกกองทัพดัชต์ตีวงล้อมอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ.1946 เมื่อทางดัชต์ได้ยื่นข้อเสนอให้กองทัพของท่านงูราไรยอมจำนน แต่แล้ว ท่านงูราไรได้ขอให้ทหารใต้บังคับบัญชา ร่วมกันทำปุปุตัน หรือการฆ่าตัวตายหมู่ต่อหน้าทหารดัชต์ที่มีอาวุธเพียบพร้อม และแล้ว ท่านงูราไรพร้อมทหารนักรบ 95 นายได้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งพื้นที่ Tabanan คือเขตที่ตั้งสนามบินงูราไรในปัจจุบัน และปากทางออกสนามบิน เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมือง หรือเลี้ยวขวาเพื่อไปยังส่วนตอนใต้ของบาหลี ก็จะพบกับอนุสาวรีย์ท่านงูราไร ตั้งตระหง่านอยู่ตรงแยกนั้นเอง (ขอบอกว่า ผมเห็นอนุสาวรีย์ท่านแล้วรู้สึกซึ้งมากครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงเกาะบาหลี ได้ 30 วันโดยไม่ต้องทำวีซ่าล่วงหน้าครับ หลังจากที่เดินทางมาถึงสนามบินงูราไรแล้ว สามารถผ่านการตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ เวียดนาม จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พอรับกระเป๋าก็จะพบกับเคาน์เตอร์แลกเงินมากมาย ซึ่งวันที่ผมเดินทาง อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 8,600/8,500/8,400 รูเปี๊ยะ/ดอลล่าร์สหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เราแลก) อัตราแลกเปลี่ยนที่สนามบินจะไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับในตัวเมืองครับ แต่เวลาเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็จำเป็นจะต้องจ่ายด้วยเงินรูเปี๊ยะ เพราะจะได้เปรียบกว่าการจ่ายด้วยดอลล่าห์สหรัฐครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อออกมาภายนอกส่วนผู้โดยสารขาเข้า โหยยย เจอแต่แท๊กซี่รุมครับ ผมตัดสินใจที่จะไปพักที่อุบุด (Ubud) ตามข้อมูลที่ทราบว่า ที่พักย่านอุบุด จะราคาประหยัดกว่า และผู้คนไม่พลุกพล่านมาก ค่าครองชีพก็จะประหยัดกว่า อีกทั้งอยู่ในเขตบาหลีตอนกลาง จึงสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายเช่นกันครับ ส่วนย่านที่เป็นที่นิยมอย่างกูต้า (Kuta) นั้นอยู่ไม่ห่างจากสนามบินมากนัก เพียงแต่ว่า ส่วนตัวผมมองว่า บรรยากาศอาจจะคล้ายพัทยาไปหน่อย จึงเลือกจะพักค้างที่อุบุด เหล่าคนขับแท๊กซี่ก็ได้เสนอราคามาหลากหลายมาก โดยราคากลางจะอยู่ที่ 175,000 รูเปี๊ยะ โดยราคาที่สูงที่สุดที่ผมได้ยินคือ 700,000 รูเปี๊ยะ และส่วนใหญ่ที่เพียรพยายามต่อได้จะเหลือราว 160,000 รูเปี๊ยะ ผมจึงเดินไปเรื่อยๆ และใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงที่สนามบินงูราไร กว่าจะได้แท๊กซี่เพื่อจะเดินทาง จนกระทั่งรายหนึ่ง เสนอราคาให้ผม 130,000 รูเปี๊ยะ (ประมาณ 15 USD) ผมก็เลยได้กระโดดขึ้นรถเค้า แน่นอนว่าเป็นแบบแอร์ธรรมชาติครับ .... ระหว่างการต่อรองราคา ผมก็ได้ยินคนขับแท๊กซี่ไม่น้อยที่พูดว่า ไป Ubud รถจะติดมากๆ พวกเขาไม่อยากไปกัน หรือจะไปก็จะเรียกราคาสูงๆ แต่ผมก็ยังไม่รู้ครับว่า วันนี้ และวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง ปล. ผมอยากจะบอกว่า ขนาด เจ้าหน้าที่ ตม. เขายังทักผมเลยว่า ยูจะไป Ubud วันนี้เหรอ (ผมก็เหรอหราสิครับ ใช่สิครับ ทำไมเหรอ? ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ออกจากสนามบินงูราไร ผมเริ่มเห็นหุ่นขนาดยักษ์สีสันสดใส บางตัวก็ตั้งอยู่ตรงสี่แยกใหญ่ คนขับก็ชี้ให้ดู แต่ผมก็ไม่รู้ว่าหุ่นเหล่านี้คืออะไร เส้นทางจะผ่านบ้านเรือน ทุ่งนา และเนินต่างๆ พอสมควรครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผ่านไป 40 กว่านาที ผมก็ได้เดินทางมาถึงย่านอุบุด ซึ่งห่างออกไปจากสนามบินราว 40 กิโลเมตร โดยผมไม่ทราบหรอกครับว่า จุดที่รถจอด อยู่ส่วนไหนของ Ubud มาทราบตอนหลังว่า แท๊กซี่พยายามจะหลีกเลี่ยงรถติดบริเวณแยกใหญ่ของ Ubud หลังจากที่ผมลงมาจากรถแท๊กซี่ ก็มีกระทาชายนายหนึ่งตรงเข้ามาหาผม พร้อมเสนอห้องพัก แต่ผมบอกปฏิเสธไป จนกระทั่งเค้ายื่นข้อเสนอว่า ถ้าคุณไม่พอใจที่ๆ เขาเสนอมา เขาจะกลับมาส่งตรงนี้ ผมจึงหลวมตัวโดยลืมนึกไปว่า แน่นอน เขาอาจจะกลับมาส่ง แต่อาจจะไม่ได้กลับมาส่งแบบ “ฟรีๆ" ปล. วันกลับ ผมได้พูดคุยกับชาวมาเลเซีย เค้าก็บอกว่า ที่ Kuta หรือที่ไหนๆ เค้าก็มีแบบนี้เหมือนกันแหล่ะ ทำใจเถอะนะ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมไปดูห้องพักตามที่เขาเสนอมาครั้งแรก ส่วนตัวผมคิดว่า ห้องพักค่อนข้างอยู่ไกลจากบริเวณจุดศูนย์กลางของ Ubud อีกทั้งถนนหนทางค่อนข้างเล็ก สภาพห้องพักถือว่าดีใช้ได้ทีเดียว สะอาดสะอ้าน และมีห้องน้ำในตัว เขาเสนอราคา 70,000 รูเปี๊ยะ/คืน (ต่อแล้วได้แค่นี้) ผมเริ่มถามถึงรถมอเตอร์ไซด์ เพราะถ้าอยู่ที่นี่ คงต้องใช้มอเตอร์ไซด์ ชายคนนั้นจึงบอกว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถออกไปท่องเที่ยวที่ไหนได้ ผมรู้สึกเข่าทรุดเลยครับ เพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ และได้ตั้งใจวางแผนที่จะท่องเที่ยวเต็มที่แล้ว พอผมบอกว่า ผมรู้สึกไม่ค่อยถูกใจกับที่เขาเสนอเท่าไหร่ เขาจึงเอ่ยปากขอเงินจากผม ว่า เขาจะไปส่งที่จุดเดิมที่รับผมมาโดยคิดค่ารถมอเตอร์ไซด์ราคา 10,000 รูเปี๊ยะ แต่ถ้าหากเลือกไปพักที่โรงแรม ที่เขาเสนอมา ในย่านที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางของ Ubud มากกว่านี้เขาจะคิดแค่ 5,000 รูเปี๊ยะ เอาหล่ะนะครับ ถือว่าอ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมจึงเลือกที่จะไปมองหาโรงแรมในย่านถนน Monkey Forest โดยดูโรงแรมที่เขาเสนอให้ก่อน ซึ่งโรงแรมที่เขาเสนอชื่อว่า Warsa พอดูห้องพักแล้ว จริงๆ ก็ยังไม่โดนใจผมเท่าไหร่หรอกครับ โดยห้องพักสภาพแย่กว่าแห่งแรก คือ เป็นบ้านหลังเดี่ยว เตียงเดี่ยว มีพัดลมเพดาน และไม่มีอะไรอื่นเลย นอกจากห้องน้ำในตัว แต่ข้อดีคืออยู่ไม่ห่างจากศูนย์กลางมากนัก และมีสระว่ายน้ำครับในราคาคืนละ 80,000 รูเปี๊ยะ (300 กว่าบาท) ผมจึงตกลงปลงใจ(แบบไม่เต็มใจนักกับที่นี่) ส่วนกระทาชายรายนั้นก็ได้ 5,000 รูเปี๊ยะ (20 กว่าบาท) ไปจากผมซะงั้น (ยิ้มแก้มปริไปเชียว) ปล. ผมมีความรู้สึกเสมอว่า ผมจ่ายแพงกว่าคนอื่นอ่ะครับ แต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ เพราะผมได้พยายามต่อรองราคาแล้ว ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณพี่ที่ดูแลที่นี่ตอนแรกผมก็รู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ (อีกทั้งหน้าตาดุดันทีเดียว..อันนี้เปลี่ยนไม่ได้) แถมมีอีกคนหนึ่งที่เค้าดูเหมือนแต่จะขาย จะขาย ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีเป็นอย่างมาก คุณพี่เขาบอกดักคอผมแล้วว่า ยังไงคุณก็ต้องพักที่นี่อย่างน้อย 2 คืนเพราะวันพรุ่งนี้คุณจะออกไปไหนไม่ได้ แต่ยังดีที่มีอีกคนหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นมิตร คุยเก่ง ว้า มาถึงบาหลีแล้วจะรู้สึกแย่ต่อไปได้อย่างไร ดังนั้นผมจึงตัดสินใจ กลับมาที่ห้อง ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกไปตะลุยอุบุดยามเย็นกันครับ ที่นาผืนเล็กๆ ริมถนน Monkey Forest จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โรงแรมนี้อยู่ห่างจากศูนย์กลางอุบุดไปพอสมควร ใช้เวลาเดินไม่เกิน 10 นาที ผมเดินไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่า ร้านรวงต่างๆ ปิดไปพอสมควร ร้านมินิมาร์ท มีป้ายบอกว่าจะปิดตอน 4 ทุ่ม จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงหน้าบ้านมีการวางของเซ่นไหว้เล็กๆ ไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นของวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ตามพื้นดิน ตลาดอุบุดก็ปิดเงียบ ทั้งๆ ที่ปกติน่าจะเปิดกันคึกคัก เพราะมีหลายท่านเปรียบอุบุด เหมือนกับบ้านบ่อสร้างของเชียงใหม่นั่นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จนกระทั่งเดินไปถึงแยกกลางอุบุด เห็นป้ายเขียนว่า Selamat Hary Raya Nyepi 1928 เบ่อเริ่มเลย ผมก็พบกับขบวนแห่หุ่นใหญ่ยักษ์ โดยมีคนหนุ่ม รวมถึงเด็กชายช่วยกันหามกัน เสียงฆ้องฉิ่งฉาบดังลั่น เพื่อขับไล่วิญญาณออกไป จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีกซักภาพหนึ่งครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ได้แต่ยืนตะลึงดูด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนที่ขบวนแห่จะเข้าไปอยู่รวมกันกลางสนามหญ้า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 03:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในวันสิ้นปีนี้ มีชื่อเรียกว่า เปนเกรุปัค (Pengerupak) ซึ่งเป็นสัญญาณบอกการสิ้นสุดของฤดูฝน โดยจะมีพิธีเพื่อล้างมลทินจากอาถรรพณ์ของวิญญาณในหมู่บ้าน โดยทุกๆ หมู่บ้านจะทำพิธีนี้ และในช่วงตอนเย็น และกลางคืน จะเป็นคืนที่ทุกคนในหมู่บ้านออกมารวมตัวกันที่ถนนพร้อมฆ้องฉิ่งฉาบ เพื่อทำให้เกิดเสียงดังขับไล่วิญญาณร้ายออกไป และมีขบวนพาเหรดที่มีหุ่นขนาดใหญ่ทำจากกระดาษ เรียกว่า Ogoh-Ogoh เดินไปตามท้องถนน โดยในอุบุดนี้ แต่ละหมุ่บ้านก็จะทำตัว Ogoh-Ogoh นี้มาแข่งขันประชันกันตรงกลางสนามหญ้าตามที่ผมได้กล่าวไว้ คห. ก่อนนั่นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ยืนอยู่ตรงสนาม ที่มีตัว Ogoh-Ogoh อยู่รายร้อม พร้อมด้วยชาวอุบุดมากมาย และชาวต่างชาติที่สนใจถ่ายภาพกันอย่างไม่หยุดหย่อน  หลังจากที่ขบวนแห่มาครบทุกหมุ่บ้านแล้ว ก็จะมีการแสดงการแห่ไปรอบๆ สนามก่อนที่จะออกจากสนามไป โดยส่วนตัวผมคิดว่าต้องใช้ความสามัคคีกันเป็นอย่างมาก เพราะแท่นแห่ Ogoh-Ogoh ขนาดใหญ่ยักษ์ ต้องใช้คนแบกจำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ ซึ่งจะต้องมีการเตรียมและซ้อมกันมาก่อนแน่นอนครับ อีกทั้งจะต้องมีทีมงานช่วยกัน ใช้ไม้ยันสายไฟฟ้าที่ระโยงระยาง เพื่อไม่ให้ Ogoh-Ogoh ขนาดใหญ่ไปเกี่ยวสายไฟขาดครับ แต่ก็รู้สึกว่า จะมีการเกี่ยวสายไฟทำให้ไฟทั่วบริเวณอุบุดดับไปชั่วขณะหนึ่ง ปล. ภาพนี้ถ่ายตอนกลางวันครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ละหมู่บ้านก็ทำ Ogoh-Ogoh ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวเชียว ดูท่าทางเด็กๆ ที่ร่วมขบวนแห่ก็มีความสนุกสนาน อีกทั้งชาวอุบุดเองก็มาชมกันอย่างเนืองแน่นจนรถติดน่าดูทีเดียวครับ จนขบวนแห่ต่างๆ หมดตอน 2 ทุ่มพอดี จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมจึงได้เวลากลับที่พัก โดยแวะหาอะไรทาน และซื้อเสบียงตุนไว้ เพราะในวันรุ่งขึ้นจะไม่สามารถออกจากที่พักได้นั่นเองครับ (น้ำดื่มน้ำแร่ Aqua 1.5 ลิตร ขวดละ 3,000 รูเปี๊ยะ ส่วนโค้กกระป๋อง ราคา 4,000 รูเปี๊ยะ) และคืนนั้นผมก็หลับสบาย ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องพัดลมก็ตาม จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เช้าวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเป็นวันนเยปี บรรยากาศในอุบุดช่างเงียบสงบยิ่งนัก ชาวต่างชาติที่มาพักในที่พักเดียวกับผมก็ต่างอยู่แต่ในบริเวณโรงแรม ว่ายน้ำ นั่งเล่น ฯลฯ เพราะไม่สามารถออกไปไหนได้ ผมจึงได้ออกไปเดินเล่นตรงส่วนหน้าของที่พักที่อยู่ข้างถนน ทางคุณพี่เจ้าหน้าที่โรงแรม ก็บอกว่าคุณออกไปจากบริเวณโรงแรมไม่ได้นะ ขนาดส่วนร้านอาหารด้านหน้าโรงแรมพวกเขายังไม่อนุญาตให้แขกทานอาหารบริเวณนี้เลย โดยจะมีบริการไปเสิร์ฟถึงห้องพักแทน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เท่าที่สังเกตดู ภายนอกโรงแรม บรรยากาศเงียบสงัดมากๆ เหมือนไม่มีใครอยู่ ไม่มีแม้แต่รถซักคันวิ่งผ่าน ไม่มีคนเดินไปเดินมาเลย ร้านรวงปิดหมด จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 และผมก็กลับมารับประทานอาหารที่ห้องพัก ^__^ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปล. จากภาพคห. บน ขอบอกว่า กาแฟแบบว่าเข้มสุดๆ เซเว่นชิดซ้าย ผมไม่กล้าคนเลยหล่ะครับ ^__" ก่อนใช้เวลาทั้งบ่าย ในการย่อรูป เขียนบทความทำรีวิว และเตรียมตัวท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้น ตอนเย็นๆ ก็ว่ายน้ำให้สบายกาย คล้ายๆ กับชาวต่างชาติ ที่อยู่ห้องใกล้ๆ กัน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าผู้คนจะสามารถออกไปนอกบ้านเรือนได้ หลังจากตอนเช้าวันรุ่งขึ้นไปแล้ว จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้ฝนก็ตกเป็นช่วงๆ ในตอนบ่ายตกหนักเป็นพิเศษ ก่อนที่จะตกอีกหน่อยในช่วงตอนกลางคืน มาบาหลีช่วงนี้เจอแต่ฝนทุกวันครับ ช่วงฤดูกาลที่เหมาะกับการมาเที่ยวบาหลี คือช่วง กรกฎาคม - สิงหาคมครับ (จะตรงกันข้ามกับทะเลไทย ที่ส่วนใหญ่ช่วง High คือ มีนาคม-เมษายน) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ราคาอาหารในที่พัก Mee Goreng 15,500 Rp, Nasi Goreng 18,500 Rp, Nasi Campur 20,000 Rp อยู่ในระดับที่พอรับได้ แต่ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วครับ และผมทราบในภายหลังว่า ถ้าสั่งทานตรงร้านอาหารหน้าโรงแรม จะราคาถูกกว่านี้พอสมควร แต่ราคานี้คือราคาแบบ Room Service จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามที่วางแผน ในวันรุ่งขึ้น ผมกะจะเช่ามอเตอร์ไซด์เพื่อขับท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญๆ ซึ่งได้แก่ Tampaksiring (Gunung Kawi, Tirta Empul), Kintamani, Pura Bersakih, Pura Taman Ayun และปิดท้ายด้วย Tanahlot ครับ โดยพี่แกเค้าคิดค่าเช่า 30,000 Rp โดยค่าน้ำมันเราต้องจ่ายเอง ส่วนเรื่องขากลับสนามบิน จากอุบุด มีรถ shuttle Bus ราคา 35,000 Rp (ข้างนอกขาย 35,000 Rp) ก็โอเคครับ ทำให้รู้สึกดี และเที่ยวได้อย่างสบายใจมากขึ้น อาจมีบางท่านสงสัยครับว่า ปลั๊กไฟที่อินโดนีเซีย และบาหลี หน้าตาเป็นอย่างไร คำตอบเป็นอย่างในภาพนะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เช้าวันใหม่ วันสิ้นเดือนมีนาคม ผมตื่นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า ปรากฎว่า ฝนตกหนักมาก... ก็เลยตัดสินใจนอนต่อ เพราะยังไงตื่นไปทานข้าวไม่ได้อยู่ดี จนกระทั่ง 8 โมงกว่าๆ ฝนหยุดตก ผมจึงได้อาบน้ำแล้วไปรับประทานอาหารเช้าตรงส่วนร้านอาหารด้านหน้า พอทานเสร็จ คุณพี่เจ้าหน้าที่โรงแรมก็โทรตามให้เขาเอามอเตอร์ไซด์มาส่ง พอผมได้รับมอเตอร์ไซด์ พี่แกก็อธิบายวิธีการขับอย่างละเอียดยิบ ด้วยอัตราค่าเช่า 30,000 Rp ต่อวันไม่รวมค่าน้ำมัน ซึ่งราคาน้ำมันวันนี้อยู่ที่ 4,500 Rp ทำสัญญากันตรงบนเบาะมอเตอร์ไซด์เลยครับ ถ้ารถเขาเสียหาย เสีย 200 USD และถ้าหายจ่าย 500 USD พอพร้อมแล้ว สวมหมวกกันน๊อคแล้วออกตะลุยกันเลยครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จุดหมายแรกที่ผมจะไปก็คือ Tampaksiring ขับออกจาก Ubud ไปทางเหนือ ก็เจอปั๊มน้ำมัน จึงเติมให้เต็มถังเพื่อความอุ่นใจ (เต็มถัง 14,000 Rp) ขับออกไปเรื่อยๆ ออกมาได้ราว 20 นาทีก็พบกับทุ่งนาแบบขั้นบันไดที่สวยงามมากๆ (ตรงนั้นมีร้านอาหารที่คุณวุฒิแห่ง TKT แนะนำมา ชื่อร้านป้ายสีส้มๆ ว่า Teras Padi Café ว่าบรรยากาศดีและอาหารราคาไม่แพงเว่อร์เกินไป) ขับไปขับมาผมก็ไม่พบกับป้ายใดๆ ที่บ่งบอกว่าจะแยกไป Tampaksiring ได้เลย ผมก็พยายามอยู่ตั้งนานจนหลงทาง แล้วก็ต้องกลับทางเดิม ที่สวยๆ งามๆ แบบนี้แม่ค้าเพียบครับ ผมก็เล่นมุขตามที่คุณวุฒิ (Trekkingthai.com) เขียนไว้แหล่ะครับ คือ "ติดั๊ก ชุกชะเมอว์" หรือ No thank you นั่นเองครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ในเมื่อผมหาไม่เจอ ก็จึงตัดสินใจขับตรงไปที่ Kintamani ก่อน ซึ่งแน่นอนว่า จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สำคัญมากครับ จะเห็นภูเขาไฟ 2 ลูกและทะเลสาป Batur ด้วย บนนี้มีร้านอาหารมากมายทีเดียว โดยเฉพาะร้านอาหารแบบบุฟเฟต์มื้อเที่ยง ผมเข้าไปเดินดูสองร้าน พบว่าอาหารก็มีให้เลือกไม่มากนัก และดูปกติ งั้นๆ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายถึง 50,000-60,000 Rp ต่อคน (ไม่รวม Tax อีก 21%) แต่บรรยากาศดีมากๆ ครับ รับรองว่าจะประทับใจ อีกทั้งอากาศหนาวมากๆ ทำเอาผมขนลุกซู่เลยเพราะไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวไป ปล. ผมมีปัญญาถ่ายมาได้แค่นี้แหล่ะครับ ^__'' จริงๆ สวยกว่านี้มากๆๆๆๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 บริเวณ Kintamani จะมีจุดชมวิวอยู่หลายจุดด้วยกันครับ แต่จุดที่สวยงามที่สุด ก็จะมีแม่ค้ามากที่สุดเช่นกัน ยังไงก็ต้องฝ่าด่านแม่ค้าไปก่อนนะครับ ผมก็เลยเล่นมุขพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ใส่ซะเลย เล่นเอาแม่ค้างงๆ แล้วก็เดินจากไป แต่บริเวณร้านอาหาร ก็จะมีระเบียงสำหรับถ่ายรูปได้เช่นกัน ผมใช้เวลาอยู่บน Kintamani ราว 40 นาทีครับ จากนั้นจึงตรงไปยัง Tampaksiring ซึ่งมีป้ายบอกทาง สร้างความมั่นใจให้กับผมได้ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผ่านไปไม่นาน ฟ้าครึ้ม ฝนตั้งเค้าใกล้จะตก ผมก็มาถึงบริเวณ Tirta Empul ซึ่งเป็นบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบาหลีนิยมมาอาบกัน (นักท่องเที่ยวเค้าไม่อาบกันหรอกครับ) ด้วยความที่ฝนใกล้จะตกแล้ว ผมจึงรีบร้อนที่จะเข้าไปภายใน โดยยังไม่ได้นุ่งโสร่ง ปรากฎว่า ทางเจ้าหน้าที่เขาเดินมาไล่ไม่ให้เข้าไปข้างในครับ (แต่ก็เสร็จโจร เพราะผมตระเวณถ่ายรูปไปได้เยอะพอควรครับ) วันนี้ชาวบาหลีมาอาบน้ำกันเยอะมาก สืบเนื่องจากช่วงหยุดวัน Nyepi นั่นเอง (การถ่ายภาพชาวบาหลีขณะอาบน้ำถือว่าหยาบคายมากนะครับ) และแล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ผมจึงได้หยุดหลบฝนที่นี่ราว 30 นาที (ฝนบาหลี มาเร็วไปเร็วครับ ไม่ได้ตกนานยืดเยื้อแบบของไทย) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากนั้น ผมจึงวางแผนเดินทางตรงไปยัง Pura Taman Ayun ในเมือง Mengwi (ผมเรียกว่าแมงหวี่) โดยวิ่งผ่าน Ubud ปรากฎว่า ผมก็เห็นป้ายบอกครับว่า ทางไปเมืองที่อยู่ใกล้ Ubud ไปทางไหน แต่อยู่ดีๆ ป้ายก็หายไป โอ้วววว ผมจึงใช้เวลาคลำหาทางอยู่พอสมควร จนในที่สุดก็มาทะลุออกที่ Ubud ได้ รู้สึกดีใจครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จริงๆ ใน Ubud มีสถานที่สำคัญหลายๆ อย่างที่น่าสนใจมากครับ ปกติพวกทัวร์ชอบจะมาให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อของฝากกันที่ Ubud Market (แต่ทริปผมไม่ได้สนใจของฝากเลยครับ) ใน Ubud สิ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบกันมาก คือ วัฒนธรรมและวิถีชีวิต รวมไปถึงบรรยากาศที่เงียบสงบของที่นี่ แน่นอนว่า ขับรถออกไปจาก Ubud เล็กน้อยก็จะพบกับทุ่งนาแบบขั้นบันได ที่สวยเกินจะบรรยายครับ ที่นี่มีป่าลิง (Monkey Forest) ด้วยจึงทำให้ถนนสายหลักแห่งหนึ่งของที่นี่ชื่อว่า Monkey Forest ซึ่งถนนสายนี้มีที่พักมากมายนับ 100 แห่งครับ อีกที่หนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจใน Ubud คือ Puri Lusikan ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ ถ้าหากมีเวลาก็เข้าไปชมกันได้ ส่วนตอนกลางคืนในเวลา 19.30 น. จะมีโชว์บารอง (Barong Dance) ที่ Ubud Palace ตรงแยกกลาง Ubud ครับ ราคาตั๋วค่าเข้าชม 50,000 Rp โดยใช้เวลาแสดงราว 1 ชั่วโมงครึ่ง รู้สึกว่าวันจันทร์จะเป็นโชว์เลกอง (Lekong) ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมขับมอเตอร์ไซด์ผ่าน Ubud ไปเพื่อตรงไปยัง Taman Ayun ผมก็พยายามหาทางไปเรื่อยๆ ก็เจอป้ายบอกทางไปเมือง Mengwi และแล้วอุบัติเหตุเล็กๆ ก็เกิดขึ้นกับผม เมื่อผมขี่มอเตอร์ไซด์ตามท้ายรถตู้ไปอย่างช้าๆ (40 กม./ชม.) บนถนนซึ่งมีแค่ 2 เลน ปรากฎว่า อยู่ดีๆ ก็มีรถเด็กเล่นพุ่งพรวดเข้ามาบนถนน รถตู้ที่อยู่ด้านขวาหักหลบได้ แต่ผมหักหลบไม่ได้ เพราะซ้ายคือขอบถนน ขวาคือรถตู้ รถเด็กเล่นจึงตัดหน้ามอเตอร์ไซด์ผมอย่างจัง ส่งผลให้มอเตอร์ไซด์ผมล้มในทันที และฟันหน้าผมก็หักไปครึ่งซี่ครับ ..... มีแผลตามตัวเล้กน้อยเพราะนุ่งกางเกงยีนส์จึงไม่เจ็บมาก แต่ที่ผมซีเรียสคือเรื่องฟัน แน่นอนว่า เด็กคนนั้น และพ่อแม่ของเด็กต่างรีบวิ่งมาดูผม เด็กคนนั้นสีหน้าสลดไปเลย ... และมีมอเตอร์ไซด์ที่ขับตามหลังมาเป็นหญิงสาว 2 คนมาช่วยยกมอเตอร์ไซด์ผม พ่อแม่เขาก็พยายามขอโทษใหญ่เลย และคุณพ่อก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านเอาเบตาดีนมาทาแผลผม พร้อมทั้งขอโทษใหญ่ ถามว่าผมพักที่ไหน ขับกลับไหวไหม ... คือที่ผมซีเรียสคือเรื่องฟัน ผมจึงชี้ฟันผมให้เขาดู แน่นอนว่า ผมรู้สึกได้ถึงเศษฟันที่บดละเอียดในปากผม โชคดีที่เลือดไม่ไหล แต่ผมก็รู้สึกเจ็บฟันอยู่ดี .... ทีนี้ ผู้คนแถวนั้นก็เข้ามารุมผม มาช่วยกันขอโทษกันใหญ่เลย เด็กคนนั้นก็ทำท่าสำนึกผิดแล้ว ผมจึงบอกพวกเขาว่า ผมไม่เป็นไร แต่คราวหน้าอย่าทำอย่างนี้อีกนะ มันอันตราย ถ้าเกิดว่ามีรถตามท้ายมาแล้วเขาเบรกไม่อยู่ ผมอาจจะตายก็ได้ .... ว่าไปจริงๆ อัธยาศัยของผู้คนบาหลีผมคิดว่า น่ารักทีเดียวครับ และผมก็โกรธพวกเขาไม่ลงหรอก เพราะเด็กก็ดูจะไม่รู้เรื่องจริงๆ โกรธไปก็เท่านั้นครับ อย่างน้อยเรื่องนี้ ผมหวังว่า นักท่องเที่ยวที่อยากจะเช่ามอเตอร์ไซด์ ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้นครับ เพราะเหตุอย่างนี้ อาจจะเกิดกับเราเมื่อไหร่ก็ได้ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจากที่เกิดเหตุนี้ ผมคิดว่า ไหนๆ ก็มาเที่ยวบาหลีแล้ว ครั้นจะกลับไปนั่งเจ็บแผลในห้องพักก็คงกระไรอยู่ จึงตัดสินใจคลำทางต่อไป Taman Ayun ครับ แน่นอนว่าการเที่ยวบาหลีของผมคงจะไม่สนุกแล้ว แต่ทำไงได้ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าอุบัติเหตุเหรอครับ และถ้าผมไม่เบรก ผมชนเด็กมาก็คงจะแย่กว่านี้ ยิ่งผมพลาดไม่ได้ทำประกันท่องเที่ยวต่างประเทศมาก่อนเสียด้วย ผมขับไปไม่นาน หาทางอยู่ตั้งนานก็ถึงเมือง Mengwi ครับ ... ผมก็พยายามหา Taman Ayun แต่หาไม่เจอ พบแต่ป้ายที่จะพาไป แต่ขับไปเท่าไหร่ก็ไม่เจอ อีกทั้งบ่าย 3 กว่าแล้ว ผมจะต้องคืนรถมอเตอร์ไซด์ใน 6 โมงเย็น เดี๋ยวจะไม่ทัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจไป Pura Tanahlot ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของบาหลี ที่ทัวร์ไหนๆ มาก็ต้องแวะชมพระอาทิตย์ตกดิน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 การขี่มอเตอร์ไซด์ไป Tanahlot ไม่ยากหรอกครับ แต่ที่น่าห่วงคือรถเยอะใช้ได้ทีเดียว ต้องขับด้วยความระมัดระวังมากๆ อีกทั้งไหล่ทางอย่างกับโลกพระจันทร์ ตามที่ผู้รู้แนะนำมาว่าการท่องเที่ยวบาหลีด้วยวิธีประหยัดที่สุดก็คือ การเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่ แน่นอนว่าประหยัดกว่าการซื้อทัวร์แบบ One day trip อยู่มากพอสมควรครับ ไม่นานนักผมก็เกือบถึง Tanahlot แล้วก็ติดฝนอีกครั้ง ไปหลบฝนตรงแผงลอยละแวกนั้น มีหนุ่มสาวบาหลีติดฝนรออยู่ด้วยเช่นกัน พวกเขายิ้มมายังผม และถามว่า เอาบุหรี่หน่อยไหม (ถามเป็นภาษาอินโดหน่ะครับ ผมฟังไม่รู้เรื่อง แต่รู้เรื่องตอนเขาชูบุหรี่ขึ้นมา) ผมก็เลยตอบ “ไม่เอาครับ ขอบคุณ” (ติดั๊ก ชุกชะเมอว์) เขาไป จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จนฝนหยุด ผมจึงได้ไปตะลุย Tanahlot ที่นี่เก็บค่าเข้าชม 10,000 Rp ครับ ค่าจอดรถมอเตอร์ไซด์ 2,000 Rp แต่ผมจอดบริเวณด้านนอกเลยไม่ได้เสียค่าจอดรถครับ บริเวณที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย เดินไปไม่ไกลนักก็ถึงปากทางเข้าซึ่งติดทะเล ขอบอกครับว่าสวยมาก แต่คนเยอะมากเช่นกัน เสียดายที่วันนี้ฟ้าครึมและฝนก็เริ่มตกปรอยๆ อีกครั้งหนึ่ง ผมก็ได้แต่ยืนถ่ายรูปกลางสายฝน บริเวณ Tanahlot ซึ่งจะเป็นเกาะกลางน้ำ ตอนนี้น้ำลงครับ สามารถเดินไปบนเกาะได้ บนเกาะก็จะมีน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ ก็เลยได้ไปเดินเล่นกลางสายฝนอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางกลับ ปล. ขอโทษครับที่ภาพอาจจะไม่สวยเท่าที่ควร เพราะถ่ายภาพกลางสายฝนครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 การผจญภัยของผมยังไม่จบลงแค่นี้ครับ การเดินทางจาก Tanahlot กลับไปยัง Ubud ระยะทางราว 30 กิโลเมตรใช้เวลามากกว่าที่ผมคิด เพราะว่าท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ จากเดิมที่คลำทางมาได้ ขากลับดันคลำทางไม่เจอ ใจผมเริ่มเสีย อีกทั้งสายฝนก็เริ่มตกลงมาอีก แน่นอนว่าผมเอารถไปคืนเขาไม่ทันหรอกครับ แต่ทำไงได้หล่ะ ก็ต้องตอบเขาไปว่า ติดฝน รถติด และหลงทาง ครับ พอเริ่มมืด ผมก็ไม่อยากที่จะคลำทางด้วยตนเองต่อไป น้ำมันก็เริ่มใกล้จะหมดแล้วทำไงดี ผมเริ่มเครียดขึ้นมาครับ ผมจึงเริ่มที่จะถามทางไปเรื่อยๆ ซี่งผู้คนชาวบาหลีที่ผมถามก็ตอบอย่างเป็นมิตร ถึงแม้ว่าบางทีพวกเขาอาจจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็ตาม แต่เขาก็พยายามจะตอบอย่างเต็มใจครับ ผมพยายามขับรถอย่างช้าๆ เพราะถนนลื่นมาก และห้ามเบรกแรงๆ ไม่งั้นรถล้มแน่นอน ทางก็มืด และน้ำมันก็ใกล้หมด ผมจึงตัดสินใจแวะปั๊มข้างๆ เติมน้ำมันไปอีก 5,000 Rp ประคับประคองขับมาจนเกือบจะถึง Ubud อยู่แล้ว ปรากฎว่า ซิปกระเป๋าสะพายของผมแตกครับ โหยยยย สายสะพายก็ขาดขึ้นมาซะงั้น ในกระเป๋าเป้มีของสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะเงินและพาสปอร์ต (ห้ามหายเด็ดขาด) รวมไปถึงกล้องดิจิตอล ผมจึงใช้วิธีสะพายข้างเดียวและอุ้มกระเป๋าหนีบไว้ และขับมาเรื่อยๆ จนกลับถึง Ubud ในเวลา 19.50 น. (เกือบๆ 2 ชั่วโมงครึ่งจาก Tanahlot) พอผมมาถึง ก็รีบคืนรถก่อนเลย เจ้าของรถก็บ่นอุบเลยว่าเอารถมาคืนช้า ผมก็เลยได้แต่ขอความเห็นใจว่า อย่าคิดเงินผมเพิ่มเลยนะ และบอกเขาว่า ในรถมีน้ำมันเหลือตั้งเกือบครึ่งถังแหน่ะ เขาก็เลยเห็นใจผม(มั้ง) ไม่คิดเงินผมเพิ่ม ก็โอเคแล้วหล่ะครับ แต่ที่ผมเสียดายที่สุดคือ ผมกลับมาไม่ทันโชว์บารอง (Barong Dance) ที่ Ubud Palace ซึ่งคุณพี่พนักงานโรงแรม ก็บอกว่ายูไปไม่ทันหรอก ถึงไปก็ไม่คุ้มเสียเงินเปล่าๆ และคุณพี่เขาก็ถามถึงเรื่องตั๋วรถ Shuttle Bus ที่จะกลับไปสนามบินในวันพรุ่งนี้ เค้าบอกว่า ราคา 30,000 Rp หน่ะไม่รวม Pick Up จากโรงแรมนะ แต่ถ้ายูจ่าย 35,000 Rp จะมีบริการ Pick Up จากโรงแรมไปส่งที่ท่ารถของบริษัทด้วย เผอิญว่ากระเป๋าผมเบ่อเริ่มมาก จึงไม่ลังเลที่จะเลือกบริการ Pick Up ด้วยครับ แล้วผมก็จ่าย 35,000 Rp ไป ได้ใบเสร็จสีชมพูมา เพื่อไปแลกตั๋วรถในวันรุ่งขึ้น จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝนออก เปลี่ยนชุดแล้วออกไปเดินเล่น แอบชมโชว์อยู่ด้านหลังผ้าใบที่ขึงไว้ (การแสดงโชว์ จะแสดงที่ศาลาประชาคม เอ้ย ศาลาประจำหมู่บ้านครับ) ระหว่างทางผมโดนหลายๆ คนเรียก “แท๊กซี่?” ไม่รู้กี่ครั้งเลย แต่ผมก็ได้แต่ Say No ลูกเดียว และหลังจากที่ผมกลับเข้าห้องพักไม่นาน ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักครับ ผมจึงเก็บข้าวเก็บของแพ๊คให้เรียบร้อย ก่อนที่จะนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายโดยไม่ต้องเปิดพัดลม จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เช้าวันสุดท้าย 1 เมษายน ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 7 โมงเช้า เอาเข้าจริงๆ ถ้าใครรู้จักผมจะรู้ว่าผมเป็นคนที่หลับแบบขี้เซามากๆ ไม่ยอมตื่นซักที จนกระทั่งผมสะดุ้งตื่นในเวลาเกือบ 9 โมงครึ่ง รีบอาบน้ำเก็บข้าวเก็บของที่เหลือจนครบ พยายามปิดกระเป๋าน่าดูทีเดียว (มาชั่งที่สนามบินได้น้ำหนัก 16.5 กิโลกรัม ดีที่แอร์เอเชียไม่คิดค่าน้ำหนักที่เกินมา 1.5 กิโลกรัมเพิ่มเติม) มาเช็คเอ้าท์ ซึ่งผมเพิ่งมาทราบทีหลังว่า ราคาห้องพักยังไม่รวมภาษีอีก 10% พอดีว่าเงินรูเปี๊ยะผมหมดแล้ว จึงรีบวิ่งไปแลกเงิน ซึ่งอัตราวันนี้ไม่ค่อยดีนักครับ เหลือเพียง 8,700 รูเปี๊ยะ/ดอลล่าห์สหรัฐ สรุปรวมแล้ว วันนี้ผมจ่ายเพิ่มไป 234,000 Rp เวลา 10.15 น. รถจากบริษัทรถ Shuttle Bus ก็มารับผม พร้อมกับตระเวณรับนักท่องเที่ยวไปส่งที่ท่ารถใหญ่ของบริษัท โดยพนักงานเขาก็ช่วยขนกระเป๋าอย่างดีทีเดียว จนเวลา 10.37 น. ผมก็ได้เวลาบ้ายบาย Ubud แล้วหล่ะครับ พอดีว่าผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ เป็นชาวมาเลเซีย ที่จะขึ้นเครื่องแอร์เอเชียเที่ยวบินเดียวกัน เลยได้นั่งคุยกันยาวเลยครับ เขาก็บอกว่าจองโปรโมชั่น 0 บาทได้เหมือนกันเลย คุยกันสนุกสนานทีเดียวเชียว ผ่านไปราว 35 นาที รถ Shuttle Bus ก็ได้มาหยุดรับส่งผู้โดยสารที่ Sanur ซึ่งเป็นหาดที่สำคัญในชายฝั่งตะวันออกครับ (ค่าโดยสารจาก Ubud – Sanur ราคา 20,000 Rp) ต่อจากนั้น จะส่งผู้โดยสารที่สนามบินงูราไร และจุดสุดท้ายจะส่งผู้โดยสารที่ Kuta ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 04:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาทีผมก็เดินทางมาถึงสนามบินงูราไร ในเวลา 11.45 น. ก่อนเวลาเคาน์เตอร์ของแอร์เอเชียเปิดซักพักหนึ่ง สนามบินงูราไร ไม่อนุญาตให้ญาติสนิทมิตรสหายเข้าไปส่งในตัวอาคารครับ ในตัวอาคารจะอนุญาตให้ผู้โดยสารเข้าไปได้เท่านั้นโดยจะมีการตรวจตั๋วโดยสารหรือเอกสารยืนยันการเดินทางตรงปากประตูทางเข้า ตรงปากทางเข้าในอาคารก็จะมีการสแกนสัมภาระ และตรวจตัวค้นหาอาวุธ ก่อนที่จะไปยังเคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ของแอร์เอเชียอยู่ทางด้านซ้ายของตัวอาคารครับ ผมเลือกเที่ยวบินรอบบ่าย (AK901 14.25-17.25 น.) เพราะหวังจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงาม แป๊บเดียวก็เช็คอินเรียบร้อย ภายในอาคารไม่ค่อยมีอะไรน่าทานเท่าไหร่ ผมจึงตัดสินใจเดินออกมาด้านนอกอีกครั้ง ซึ่งด้านนอกมีร้านอาหารอินโดนีเซีย และอาหารสากลที่เรารู้จักอย่างพวก McDonald’s หรือ KFC (อาคารในประเทศ) เป็นต้น จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อไปชาร์จพลังให้เต็มท้องแล้ว ก็เข้าสู่ส่วนผู้โดยสารขาออกกันเลย ค่าภาษีสนามบินที่นี่ จะต้องจ่ายแยกต่างหาก เช่นเดียวกับที่สนามบินดอนเมืองที่ต้องจ่าย 500 บาท ที่นี่จ่าย 100,000 Rp หรือราว 450 บาทครับ จ่ายเสร็จแล้วจึงจะสามารถไปผ่าน ตม. เพื่อออกจากเมืองได้ ภายในบริเวณส่วนขาออกก็เหมือนกับสนามบินทุกที่ คือมีแต่ร้าน Duty Free สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้คือ ที่นี่จะมีเล้าจน์ที่ให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และชั้นนักธุรกิจ ของสายการบินต่างๆ ซึ่งหากผู้โดยสารชั้นประหยัดอยากจะเข้าไปใช้บริการ ก็ทำได้โดยเสียเงินเพียง 100,000 Rp เท่านั้น โดยจะได้รับบริการเต็มรูปแบบเหมือนอย่างผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นนักธุรกิจ มีห้องอาบน้ำ มีอาหารและเครื่องดื่มมากมาย มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรี เป็นต้นครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เที่ยวบินของแอร์เอเชีย AK901 พร้อมด้วยผู้โดยสาร 100 คนออกตรงเวลาครับ ลาก่อนบาหลี แล้วจะกลับมาอีก(แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่) แต่น่าเสียดายที่ท้องฟ้าอากาศไม่แจ่มใสเท่าที่ควร เครื่องบินทะยานออกจากสนามบินงูราไร แล้วตีโค้งไปทางขวา จึงทำให้มองเห็นบริเวนหาด Kuta และชายฝั่งด้านตะวันตก ก่อนที่จะบินไปทางบาหลีตะวันตก และไปออกทางบาหลีตอนเหนือ สภาพอากาศช่วงก่อนร่อนลงจอดไม่ค่อยดี เครื่องบินสั่นตลอดลำ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เครื่องก็ร่อนลงจอดที่อาคารผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำ (LCCT-KLIA) ที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับเทสโก้โลตัสนั่นเองท่ามกลางสายฝนที่ปรอยปรายลงมา ผู้โดยสารก็ต้องกางร่มสีแดง เดินไปตามลานจอดกันสลอน จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 47 การเดินทางอันยาวนานของผม ก็จบด้วยเที่ยวบินสุดท้ายในวันนี้ ... จากกรุงกัวลาลัมเปอร์บินตรงสู่เชียงใหม่ AK896 ซึ่งทำการบินทุกวัน ออกจากกัวลาลัมเปอร์ 8.50 น. และถึงเชียงใหม่ 10.40 น. ครับ ผมหวังว่า กระทู้นี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะไปเยือนบาหลี ถ้าหากว่าข้อมูลใดผิดพลาดประการใด ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ เอกสารประกอบการเขียน หน้าต่างสู่โลกกว้าง – บาหลี, 2541 ขอขอบพระคุณ -- คุณพ่อ-คุณแม่ของผม ที่สนับสนุนการเดินทางมาโดยตลอด ขอขอบคุณ -- แหล่งข้อมูลชั้นดีทุกท่าน โดยเฉพาะคุณวุฒิ แห่ง Trekkingthai.com ซึ่งข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆ ครับ และขอบคุณพี่ lilada สมาชิก HFlight ที่ช่วยโพสต์รีวิวบาหลีให้ดูเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวครับ -- เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ให้กำลังใจกันเสมอมา -- เจ๊นางพญาฯ ที่ให้ยืมขาตั้งกล้อง(หนวดปลาหมึก) และ universal plug -- พี่หนุ่มเมืองกรุง ที่ให้ยืมโสร่งมาให้นุ่ง และขอขอบคุณ เครือข่าย Wireless LAN ที่ชื่อว่า TAMS ในสนามบิน KLIA Main Terminal ที่ทำให้ผมได้โพสต์รีวิวนี้ขึ้นมา ขณะที่มา One Night in KLIA Airport ก่อนจะบินกลับเชียงใหม่ ครับ หมายเหตุ : กระทู้นี้ได้ดัดแปลงมาจากบทความที่ผมทำขึ้นมาเป็นไฟล์ word ดังนั้น ถ้าหากภาษาอาจจะดูแปลกๆ ไปอย่าว่ากันเลยนะครับ และกระทู้รีวิวทีเจาะจงละเอียด เช่น ไฟล์ทรีวิวเที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์ - บาหลี หรือ เจาะจงบริเวณ Ubud หรือรีวิวโรงแรม ผมจะนำมาเสนอในภายหลังครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ภาพสุดท้ายครับ ไวร์เลสฟรี ตรงข้างๆ ตู้ ATM MayBank ผมก็เลยมาเสียบไฟต่อไวร์เลสตรงนี้ซะเลย อิอิ ^__^ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 2 เม.ย. 49 05:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 49 วิวสวยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะที่พาเที่ยว ถ้ามีโอกาสไปแน่นอนค่ะบาหลีที่รอคอย จากคุณ : Butterfly Isaan - [ 2 เม.ย. 49 08:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณ คุณยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ ที่พาเที่ยวครับ ชอบนาแบบขั้นบันไดจังเลย ดูเขียวชอุ่มเชียว อยากทาน  Nasi Goreng ด้วยครับ จากคุณ : Bushbaby - [ 2 เม.ย. 49 09:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากค่ะ เห็นชื่อแล้วต้องแวะเข้ามาเลย ภาพสวย  บรรยายได้ดี จากคุณ : Pecan - [ 2 เม.ย. 49 12:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เสียใจด้วยนะครับคุณยุ่ง ถือเป็นประสบการณ์อีกครั้งหนึ่ง ใว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ว่าปู่ฟันหักที่นี่แหละหลานเอ้ย ถ้าว่าง ไปกะผมอีกรอบมั้ย จากคุณ : ตระกูล - [ 2 เม.ย. 49 12:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หมอยุ่งโดน "ฟัน" ที่บาหลี? แหะๆ ผมจะไปตามรอยตีนหมอ เดือนพฤษภาคม ถ้าฝนตกหละไม่หนุกแน่ๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ  เดี๋ยวมีการโทรไปขอข้อมูลเพิ่มแน่ๆ จากคุณ : หน้ากากแอ๊คชั่น - [ 2 เม.ย. 49 12:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อื้อหือ....ทริปบาหลีของหมอยุ่งเนี่ย ผจญภัยไม่ใช่เล่นเลยนะครับ...ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิวแบบทันเหตุการณ์ หมอเองก็ตากแดดตากฝนมาหลายวัน อย่าลืมพักผ่อนรักษาสุขภาพด้วยนะครับ...ฟันหักไปหน่อย ก็ถือว่าสะเดาะเคราะห์ครับ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาในชีวิตของหมอต่อไปนะครับ ...ขอเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์จงประทานพรอันเป็นสิริครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 2 เม.ย. 49 13:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สะเดาะเคราะห์ครับหมอ .... เดี๋ยวสิ่งดี ๆ จะตามเข้ามาในชีวิตครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวการท่องเที่ยวครั้งนี้ครับ จากคุณ : porinter - [ 2 เม.ย. 49 13:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ทริปผจญภัยในบาหลี.....ภาพสวยมากๆ อยากไปเที่ยวบาหลี บรรยากาศดีจริงๆเลย จากคุณ : Mentos_ice - [ 2 เม.ย. 49 14:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ปรบมือให้กับการแชร์ประสบการณ์ทัวร์บาหลีแบบลง detail ละเอียดยิบ สดๆร้อนๆเลยนะครับเนี่ย... ผมชอบเที่ยวแบบนี้เหมือนกัน  แต่แถวเอเชียนี่ยังไม่เคย เพราะต้องทำการบ้านเยอะมากๆ ครับ กับดักเยอะกว่าเที่ยวแถวยุโรป แหะๆ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 2 เม.ย. 49 14:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับ รีวิวครับ กำลังมีแผนจะไปบาหลีอีกไม่กี่เดือนนี้เหมือนกันครับ ดูท่าทางสนุกนะครับ อ่านรีวิวแล้วได้อารมณ์ตามดีครับ   : ) จากคุณ : ตงเหลงฉ่า - [ 2 เม.ย. 49 14:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆและประสบการณ์ดีๆที่นำมาฝากนะ แล้วจะหาโอกาสไปบ้าง จากคุณ : Seawalker - [ 2 เม.ย. 49 14:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอปรบมือให้ค่ะ มีสปิริทแรงจริง ๆ แม้ว่าจะเจ็บฟันแต่ก็ยังอุตส่าห์ทำรีวิวสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ ดู ขอให้หายเร็ว ๆ นะคะ จากคุณ : นู๋Poopy - [ 2 เม.ย. 49 14:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ  รอมาตั้งนาน  มาเมื่อไหร่หมอยุ่งจะมาทำรีวิวบาหลีให้ดู  อยากดูมาก ๆ จากคุณ : se7o1 - [ 2 เม.ย. 49 15:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นข้อมูลที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ เพราะว่าจองตั๋วไว้เช่นกัน ขออนุญาตเก็บไว้เป็นข้อมูลเลยนะคะ จะรอกระทู้บาหลีอื่นของคุณยุ่งฯต่อนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : อันนา - [ 2 เม.ย. 49 21:38:30 A:125.25.9.28 X: TicketID:109333 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ มีแผนจะไปบาหลีเหมือนกันช่วงหลังสงกรานต์ แต่ไฟลต์กลับจากบาหลีมา KL ดึกมาก (5ทุ่มกว่า) และรุ่งขึ้นก็เดินทางเข้า KL ไม่รู้ว่าจะนอนที่ LCCT ดี (คงไปนอนที่ KLIA ไม่ได้อ่ะ เพราะ shuttle bus น่าจะหมดแล้ว) หรือไปนอนที่โรงแรมใกล้ ๆ ดีคะ จากคุณ : วายร้ายน้อย - [ 3 เม.ย. 49 11:00:37 A:10.11.11.10 X:203.146.156.183 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่น่าฝนตกเลยเนาะ จากคุณ : ส้มตำปลาร้า - [ 3 เม.ย. 49 12:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอขอบคุณสำหรับความห่วงใยจากทุกๆ ท่านนะครับ เมื่อวานหลังจากไปเลือกตั้ง ก็โทรนัดคุณหมอทำฟันเสร็จเรียบร้อย เนี๊ยบเนียนเหมือนเดิมแล้วครับ ^__^ แล้วจะรีบปั่นรีวิวออกมาให้ชมกันนะครับ ในส่วนของทริป เขมร-บาหลี กับหางแดงแอร์เอเชียมาเลย์ 0 บาท คงจะแบ่งได้ดังนี้ 1.บินสู่พนมเปญแบบแหวกแนวกับหางแดงมาเลย์ BKK-KUL-PNH 2.รีวิวสนามบิน Low Cost Carrier Terminal (LCC-T) KLIA แบบละเอียดยิบ พร้อมหลากวิธีการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแบบต่างๆ ทั้งแบบตรง แบบอ้อม 3.เที่ยวชมพนมเปญแบบครึ่งวัน (เหมาะกับคนที่เลือกบินกับไทยแอร์เอเชียเที่ยวเช้า แล้วจะต่อไปเสียมเรียบช่วงบ่าย) 4.การเดินทางอย่างละเอียดยิบ จากพนมเปญสู่เสียมเรียบ กับรถทัวร์ราคา 6 USD ในเวลา 5.40 ชั่วโมง ระยะทาง 314 กิโลเมตรครับ 5.นครวัด-นครธม One Day Trip (powered by NMkrung) 6.รวมมิตรอาหารการกิน และที่พักในเขมร 7.บินจากเสียมเรียบ สู่ กัวลาลัมเปอร์กับหางแดงมาเลย์ พร้อมรีวิวสนามบินเสียมเรียบ สนามบินกระจิ๊ดริดแต่เก็บภาษีตั้ง 25 USD อิอิ 8.มินิรีวิวโรงแรม YMCA กัวลาลัมเปอร์ (ติด KL Sentral) 9.บินสู่บาหลี กับ AK900 รอบเช้าวิวสวย แอร์ขั้วโลก พร้อมวิธีการเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของบาหลี 10.มาเดินเล่น Ubud กัน 11.บาหลี One Day Trip แบบบิดมอเตอร์ไซด์เที่ยวเอง (Kintamani - Tirta Empul - Tanahlot) 12.บินจากบาหลีกลับสู่โลตัส (LCCT-KLIA) ในวันฝนพรำ ตั้งแต่ออกจาก Ubud ด้วยรถ Shuttle Bus และมินิรีวิวสนามบินงูราไร (Ngurah Rai International Airport) 13. One Night In KLIA ตามแบบยุ่งชะมัดยาจก เงินหมดในวันสุดท้าย 14.ไฟล์ทสุดท้าย หลับเป็นตายกับเที่ยวบินกลับสู่เชียงใหม่ AK896 15.รวมมิตรหางแดงแบบ NOW NOW (เครื่องบินแบบบรมครู รุ่นเก่าแก่สุดๆ ของแอร์เอเชีย อิอิ) รอชมแล้วกันนะครับ จะทยอยๆ โพสต์เรื่อยๆ ละกัน (พยายามจะไม่ดองเค็มนะครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 3 เม.ย. 49 15:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ ^ ^ "แผลสดแผลเปื่อยน้ำร้อยลวก...ใช้เย็นเตร็กซ์...เจ้าของเดียวกะโทนาฟ" จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 3 เม.ย. 49 19:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เออ.....ค่ะ... ลงมาก็โพสเลย... เอายาดมยาหม่องหน่อยไหมคะหมอ...อิ อิ ส่วนคนตามกระทู้คนนี้ดมไปแล้วเรียบร้อย เพราะอ่านไปแล้วเหนื่อย ๆ พิกล หุหุ จากคุณ : Jannyfer - [ 3 เม.ย. 49 21:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เสียดายเจอวันปีใหม่บาหลี ไม่งั่นหมอคงพาเที่ยวบาหลีเยอะกว่านี้แน่เลย จากคุณ : manjoonu (manjoonu) - [ 4 เม.ย. 49 00:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 รอ่านทริปเขมร- บาหลี น่าตื่นเต้นมาก มันเป็นทริปเดียวกันได้ยังไงเนี่ย : ) จากคุณ : รถเล็ก - [ 17 เม.ย. 49 09:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาช้าไปหน่อย ขอเก็บเกี่ยวข้อมูลนะครับ เยี่ยมทุกรีวิว  เลยละครับ จากคุณ : Art999. - [ 7 พ.ค. 49 21:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เพิ่งจะเข้ามาดู แต่ก็ประทับใจมากครับ จากคุณ : suruchs - [ 8 ก.พ. 51 00:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนนี้ คงหล่อเหมือนเดิมแล้วนะค่ะ จากคุณ : แนนแนน - [ 13 ก.ค. 51 21:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กำลังจะไปบาหลีค่ะ จองตั๋วแอร์เอเซีย เรียบร้อยไปแล้ว พอมาจองโรงแรมเลยรู้ไปตรงกับช่วงปีใหม่บาหลี พอดี เราก็แปลกใจว่าโรงแรมไม่รับให้ เช็คอิน และ เช้คเอาท์ ในวันที่ 26 มีนา 52 เลย แล้วก็ได้รู้ว่าเป็นวันปีใหม่บาหลี ตอนแรกไม่รู้เรื่อง นึกดีใจว่าเออไปช่วงปีใหม่บาหลีพอดี คงจะสวยงาม มีเทศกาลเฉลิมฉลอง แต่พอแต่ละโรงแรมไม่ยอมให้เช็คอินเลย ก็เลย เอะใจ หาข้อมูลใน google ดู โอ้โฮ พระเจ้าจ๊อด วันปีใหม่บาหลีไปไหนไม่ได้เลย ไม่มีอะไรเลย แม้แต่ไฟฟ้าก็ไม่เปิด ต้องอยู่แต่ในโรงแรมเท่านั้น พอมาอ่านกระทู้ของหมอยุ่งแล้ว โอ้โห ชะตาชีวิตเดียวกันเลย เนื่องจาก มีเวลาที่นั่นน้อยแค่ 3 วัน 2 คืน แพลนเที่ยวมาแล้ว ต้องหยุดอยู่ในโรงแรม 1 วันเต็มไม่ได้ออกเที่ยว เหมือนกันเลย แต่ไม่รู้จะไปเจอชะตากรรมอะไรบ้าง เพราะยังไม่ได้เดินทาง กำหนดเดินทาง 25 - 27 มีนา 52 นี้ค่ะ ถึงกระทู้ของหมอจะเป็นเหตุการณ์ในปี 49 แต่ก็มีประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านรุ่นหลังมากทีเดียว จากคุณ : ปลายฟ้า - [ 13 มี.ค. 52 12:06:53 A:125.27.205.92 X: TicketID:208097 ]

ความคิดเห็นที่ 74 จะไปวันพรุ่งนี้แล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ... จะไปเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เองเหมือนกัน  ตงต้องระวังให้มากๆแล้วล่ะ :) จากคุณ : Shisuku (shisuku) - [ 5 เม.ย. 52 10:26:21 ]