ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เฉพาะคนไทย ฝรั่งมันคงเห็นคนไทยยังขึ้นได้ มันก็เลยขึ้นไปมั่ง มั่วไปหมด เค้าน่าจะล้อมรั้วได้แล้ว จะได้ไม่ต้องมีคนขึ้นไป เต้น กินเหล้า พอเมาได้ที่ ก็กระโดดจากกำแพงลงคูเมือง เห็นแล้วทุเรศจริง ๆ จากคุณ : benz47 - [ 18 เม.ย. 49 23:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืม ไม่เหมาะสมแหะ กลัวตกลงมาบาดเจ็บด้วยแหละ น่าจะมีมาตรการควบคุมสักหน่อยน่ะครับ จากคุณ : april12_lvp - [ 18 เม.ย. 49 23:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มายกมือเห็นด้วยอีกคนว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเจ้า จากคุณ : miss Florence in Venice - [ 19 เม.ย. 49 00:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไอ่พวกนี้น่าจะตกลงมาตายๆไปให้หมดครับลกโลก จากคุณ : pony_pop - [ 19 เม.ย. 49 00:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณ april12_lvp ค่ะ จากคุณ : FruiT SaLaD - [ 19 เม.ย. 49 00:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเห็นปีนขึ้นไปเป็นหมู่คณะเลยครับไอ้พวกนี้ปีนขึ้นไปกินเหล้าเพราะว่าได้มุมสูง  แต่เวลาเมาจะลงมาได้หรือปล่าวเนี่ย จากคุณ : สามขีด ||| - [ 19 เม.ย. 49 06:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพนี้สิครับ เจ๋ง เห็นด้วยครับ ที่ น่าจะมีการห้าม จากคุณ : shintaro - [ 19 เม.ย. 49 08:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สมัยก่อนๆ  มีสิ่งทุเรศๆให้ดูยิ่งกว่านี้อีก  ตอนกลางคืนพวกวัยรุ่นมันชอบขึ้นไปมั่วกันเป็นคู่ๆ บนกำแพงเมืองนั่นแหละ จากคุณ : AQUANAUTS - [ 19 เม.ย. 49 08:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม  สมควรล้อมรั้ว จากคุณ : DogRobo - [ 19 เม.ย. 49 09:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ล้อมรั้ว กำแพง ทั้งๆที่กำแพงก็เป็นรั้ว? จากคุณ : Sponsored by my wife - [ 19 เม.ย. 49 14:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อื่มมมมม ผมกลับเห็นว่าถ้ายิ่งควบคุมพวกเดนมนุษย์พวกนี้มันยิ่งเข้าไปล่ะครับ มันจะเข้าไปประกอบกรณียกิจต่างๆที่ทุเร็จๆอีกล่ะครับ คุมยากครับบอกตรงๆ เพราะพวกนี้มันเหลือคำยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ล้อมรั้วไว้มันตึงเข้าไปล่ะครับ สบายมันเลย มันจะทำอะไรก็ได้สบายไปใหญ่ไม่มีใครมายุ่งอีกเพราะมีรั้วไว้ เฮ้ออ่อนใจครับ พวกนี้มันไม่รู้อะไรควรไม่ควรหลอกครับ ทางที่ดีเราๆควรอบรมสั้งสอนลูกหลานของเราดีกว่าว่าอย่าเอานิสัยเลวๆแบบนี้มาเป็นแบบอย่างน่ะครับ จากคุณ : pacharawong - [ 19 เม.ย. 49 14:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็ใช่ว่าจะไม่เคยขึ้นไปบนแจ่งน่ะครับ เคยน่ะเคยแต่ทุกครั้งผมจะยกมือไหว้สาขอขมาลาโทษเสมอๆ และไม่เคยนำสิ่งที่เป็นอบายมุขขึ้นไปบนนั้นหลอกครับ เพราะว่ามัน "ขึด"(ไม่มีไม่งาม เสื่อมเสีย ผิดประเพณี) ส่วนใหญ่ถ้าขึ้นไปบนแจ่งก็ไปถ่ายรูป ดูวิวฯลฯ แค่นั้นเองครับ แล้วแต่ครับว่าจะคิดกันยังไง จากคุณ : pacharawong - [ 19 เม.ย. 49 14:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นแล้วไม่ไหว พวกนี้น่ะค่ะนรกจะกินกะบาลกันหมด จากคุณ : olives - [ 19 เม.ย. 49 15:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คนเชียงใหม่เห็นจนชินตาแล้วครับที่คนขึ้นไปบนนั้นอ่ะครับ เห็นจนเป็นเรื่องปกติ ไม่รู้สึกอะไรแล้วจริงๆ อ่ะครับ ^^' แต่พยายามอย่าคิดมากเลยนะครับ แจ่งก็คือแจ่งนั่นแหละ อิฐที่ก่อเป็นกำแพงขึ้นมากันข้าศึกสมัยล้านนา ป้องกันพม่าครับ แจ่งนั้น ทหารในสมัยก่อนก็คงเคยขึ้นกันเป็นว่าเล่นเพื่อตรวจตราข้าศึก สมัยนี้ ก็ขึ้นกันเป็นเรื่องปกติครับกันอย่างในภาพที่ 7 ถ้าเรามองเป็นโบราณสถาน อย่างนี้สมควรล้อมรั้วครับ เพราะคนขึ้นอย่างนั้น โบราณสถานของเราจะเสื่อมโทรมเอาได้ และโดดลงคูเมืองอย่างนั้นก็อันตรายมากๆ ด้วย แต่โปรดอย่าคิดกันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ต้องกราบไหว้ หรือห้ามขึ้นเพราะเป็นของสูงไม่เหมาะสม ขึ้นแล้วต้องตกนรกกันเลยนะครับ นั่นก็คือแจ่งธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร แต่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้นเองนะครับ จึงเรียนมาเพราะเป็นกลัวว่าจะเข้าใจผิดครับผม ส่วนตัวผมไม่เคยขึ้นนะ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องขึ้นไป แต่มองว่าจะขึ้นไปก็ขึ้นได้นะครับ (แต่คงไม่ต้องถึงกราบไหว้ก่อนขึ้นนะครับ เพราะไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นา) แต่อย่าทำลาย ทำให้สกปรก หรือทำอะไรรุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ยิ่งของชาวเชียงใหม่และคนไทยทุกคนเลยนะครับ ^^ จากคุณ : COLORS - [ 19 เม.ย. 49 22:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปกติไม่มีใครเค้าขึ้นไปหรอกคะ เป็นที่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง แต่สงกรานต์มีแต่คนบ้า เล่นน้ำราวกับสงคราม เมา ไม่คิดอะไรหรอก คนเชียงใหม่เค้าไม่รู้จะทำอย่างไร พื้นที่สาธารณะประวัติศาสตร์มีไว้เรียนรู้ ซึบซาบ ความเป็นพื้นถิ่น ส่วนพวกที่ขึ้นไปเอาแต่สนุกไปวันวันตามเทศกาลขนาดซิ่งรถชนตายก็ไม่กลัว เพราะสนุกสุดเหวี่ยงนะหละคะ จากคุณ : ป้ามหาภัย - [ 19 เม.ย. 49 22:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 14 คนเชียงใหม่เห็นจนชินตาแล้วครับที่คนขึ้นไปบนนั้นอ่ะครับ เห็นจนเป็นเรื่องปกติ ไม่รู้สึกอะไรแล้วจริงๆ อ่ะครับ ^^' ขอแย้งนะคะ ตามข้างล่างนี้คะ พื้นที่สาธารณะ ใครๆก็เข้าถึงได้ ถ้าล้อมรั้วคงไม่สะดวกตาและใจ เพราะกำแพงเมืองเชียงใหม่ตั้งสี่ด้าน ล้อมแล้วน่าเกลี่ยดแน่นอน ต่างประเทศเขาเอาป้ายไปปักไว้ ห้ามขึ้นก็พอ ควรรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร มายืนยันว่าแจ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คะไม่ใช่แค่กองอิฐธรรมดาแม้จะมีการบูรณะโดยกรมศิลปากร เพราะจะมีการทำบุญประจำปี โดยกราบไหว้เทวดาผู้ปกปักษ์รักษาเมืองตามทิศ ที่เรียกว่าทักษาเมืองประจำประตูเมืองและประจำแจ่งเมือง เรื่องนี้ไปหาหนังสือประวัติศาสตร์เมืองล้านนาอ่านได้คะ คนเชียงใหม่เองไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และในโรงเรียนก็ไม่มีสอนต้องหาอ่านเอาเองตามความสนใจเพราะเชียงใหม่ตกอยู่ภายใต้รัตนโกสินทร์หลังพระเจ้ากาวิละแล้วก็ถูกให้เป็นเพียงมณฑลและจังหวัดในที่สุด จึงไม่ค่อยมีประวัติศาสตร์ล้านนา ให้ศึกษาในโรงเรียนเป็นเรือ่งของการเมือง ประเทศชาติ จากคุณ : ป้ามหาภัย - [ 19 เม.ย. 49 22:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มิน่าล่ะครับ เชียงใหม่มีแต่คนแบบคุณ COLORS ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้นผมขออณุญาติแย้งคุณ COLORS ดังนี้ครับ "ตรมที่คุณว่ามาว่าคนเชียงใหม่เห็นจนชินตาแล้วครับที่คนขึ้นไปบนนั้นอ่ะครับ" :อันนี่ทราบครับ เห็นชินตาจริงๆยอมรับ "เห็นจนเป็นเรื่องปกติ ไม่รู้สึกอะไรแล้วจริงๆ อ่ะครับ ^^'" :อ๋อเหรอครับ ไม่ล่ะครับคุณว่าผิด อย่างน้อยๆมีผมคนนึงล่ะที่ตะขิดตะขวงใจอย่างรุ่นเเรง "แต่พยายามอย่าคิดมากเลยนะครับ" :คิดมาซิครับ ทำไมจะไม่คิดมาก ขนาดคนไทยยังขึ้นไป ไอ่ฝรั่งหัวแดงยังขึ้นตามด้วยเหตุที่ไม่รู้ว่ามันไม่ควร "แจ่งก็คือแจ่งนั่นแหละ อิฐที่ก่อเป็นกำแพงขึ้นมากันข้าศึกสมัยล้านนา ป้องกันพม่าครับ" :ใช้สมองกลีบไหนคิดครับ นี่ล่ะครับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ คิดได้แค่เนี่ยะ อิฐทุกก้อนมันบอกอะไรเราได้น่ะครับอย่าลืมๆ "แจ่งนั้น ทหารในสมัยก่อนก็คงเคยขึ้นกันเป็นว่าเล่นเพื่อตรวจตราข้าศึก" :ถูกของคุณครับ "สมัยนี้ ก็ขึ้นกันเป็นเรื่องปกติครับกันอย่างในภาพที่ 7 ถ้าเรามองเป็นโบราณสถาน อย่างนี้สมควรล้อมรั้วครับ เพราะคนขึ้นอย่างนั้น โบราณสถานของเราจะเสื่อมโทรมเอาได้ และโดดลงคูเมืองอย่างนั้นก็อันตรายมากๆ ด้วย" :อันนี้เห็นด้วยครับ "แต่โปรดอย่าคิดกันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ต้องกราบไหว้ หรือห้ามขึ้นเพราะเป็นของสูงไม่เหมาะสม ขึ้นแล้วต้องตกนรกกันเลยนะครับ" :คิดเห็นด้วยไม่กี่คำต้องมาแย้งซะแล้ว คุณคิดขนาดตกนรกนั้นโอเวอร์ไปป่าวครับ เราขึ้นไปต้องกราบไหว้มันเป็นกิริยาที่เราต้องน้อบน้อมมิใช่หรือ กริยามารยาทของไทยไปไหนหมดแล้วครับ แย่ครับอย่างงี้ คิดไปได้ว่าอย่าคิดกันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ต้องกราบไหว้ หรือห้ามขึ้นเพราะเป็นของสูงไม่เหมาะสม บ้าซิครับ ขึ้นโอเคขึ้นได้ แต่ไปอย่างเรียบร้อยได้ไหม ก่อนขึ้นก็ยกมือไหว้ก่อมมันหนักขนาดเลยเหรอครับถามหน่อย "นั่นก็คือแจ่งธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร แต่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้นเองนะครับ" :แล้วตอนที่เค้าทำบุญเมืองล่ะครับ เค้าทำกระจายกันทั่วเมืองรวมทั้งแจ่งเหล่านี้ด้วย แล้วเค้าจะทำบุญเมืองแถวๆแจ่งทำไมหอกอะไรล่ะครับถ้ามันมิใช่สถานที่ศักดิ์สิทธิ "จึงเรียนมาเพราะเป็นกลัวว่าจะเข้าใจผิดครับผม" :เค้าเข้าใจกันถูกหมด ยอมรับข้อพวกนี้มีแต่คุณแหกวงมาจากไหนไม่รู้ล่ะครับ "ส่วนตัวผมไม่เคยขึ้นนะ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องขึ้นไป แต่มองว่าจะขึ้นไปก็ขึ้นได้นะครับ (แต่คงไม่ต้องถึงกราบไหว้ก่อนขึ้นนะครับ เพราะไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นา)" :ไหว้วักนิด ขอขึ้นสักหน่อยคงไม่ตายมั้งครับ "แต่อย่าทำลาย ทำให้สกปรก หรือทำอะไรรุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ยิ่งของชาวเชียงใหม่และคนไทยทุกคนเลยนะครับ ^^"" :ข้อนี้เห็นด้วยครับ ที่ผมพูดๆข้างบนแรงไปก้อย่าได้ถือน่ะครับ แต่เห็นข้อความที่คุณโพสแล้วเหลืออดจริงๆ น่ะครับ ถือว่าเตือนๆกัน เรามีสิทธิที่จะคิดต่างกันได้ แต่คุณล่อคิดแบบแหวกไปหน่อย บางครั้งก็เหลืออดจริงๆ น่ะครับด้วยความเคารพ... จากคุณ : pacharawong - [ 19 เม.ย. 49 23:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โห เบิร์ดเอาซะยาวเลย หืม เห็นด้วยครับกับความเห็นที่ 17 ผมว่าน่าจะมีป้ายเตือน หรือ ออกกฎหมายแรงๆ ออกมาสำหรับ นักท่องเที่ยวหรือคนที่ขึ้นไปข้างบนนะครับ สถานที่สำคัญของชาวเชียงใหม่จะได้มีอยู่ให้เห็นสืบจนชั่วลูกชั่วหลาน อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าเพราะกำแพงเมืองนี้ทำให้เรามีเชียงใหม่จนถึงทุกวันนี้ ผมยังเคยคิดว่าอยากจะไปยืนเหมือนกัน แต่ไม่ดีกว่าเพราะเป็นสถานที่ที่ไม่ควรครับ สำหรับพวกที่ขึ้นไปก็คงเพราะ ไม่เห็นความสำคัญ หรือพวกที่ไม่ได้รักเชียงใหม่ (ไม่มีความคิด) สังเกตว่าถ้าเป็นคนเชียงใหม่หรือ คนที่เค้ารักวัฒนธรรมเค้าจะไม่ขึ้นไปหรอกครับ ถ้าขึ้นไปกันอย่างนี้ คงอีกไม่กี่ปีก็คงไม่ได้เห็นแน่ครับ ..............คิดถึงเชียงใหม่จังเลย จากคุณ : คนเชียงใหม่ใน อเมริกา (Sawadde_BeeR) - [ 20 เม.ย. 49 05:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นแล้วเสียดายน่ะครับ อิฐบางก้อน อายุ อาจจะหลายร้อยปี จากคุณ : benz47 - [ 20 เม.ย. 49 06:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความเห็นตอนท้าย ๆ ของ คุณป้ามหาภัย อ่านแล้วทะแม่ง ๆ ชอบกลครับ เพราะการเขียนในลักษณะนี้ มันหมิ่นเหม่ต่อการเข้าใจผิดได้ครับ เข้าใจครับว่า วัฒนธรรมไหน ๆ ชนชาติเผ่าพันธุ์ของตัวเองก็ภูมิใจ แต่อย่าให้กับถึงแบบ ปัตตานี เลยครับ การจะบอกว่า ถูกครอบงำโดยชาติพันธุ์อื่นแล้วทำให้วัฒนธรรมตัวเองโดนกลืน ผมว่าแนวคิดนี้ก็ไม่แย่เท่ากับ ลูกหลานตัวเองไม่สนใจ จะรักษาครับ อย่าว่าแต่ว่า วัฒนธรรมลานนาเลยครับ วํฒนธรรมภาคกลางเอง ก็ยังแทบไม่เหลือเท่าไรเลยครับ ดีแต่ว่า มีบรรจุสอนในวิทยาลัยนาฏศิลป์เท่านั้นเอง จากคุณ : เลือดสีเดียวกัน - [ 20 เม.ย. 49 14:40:23 A:58.10.222.236 X: TicketID:050066 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รักษาการนายกฯ กลับทัวร์เยี่ยมเพื่อนแล้วมาดูหน่อย หรือสั่งให้ "รักษาการแทน รักษาการนายกฯ ดูให้อีกทีก็ได้" จากคุณ : wat_siri - [ 20 เม.ย. 49 14:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เออ ต้องยาวๆดิเบียร เราอธิบายก็เพื่อหวังว่าคนในนี้เข้าใจอ่ะ ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในเมืองเชียงใหม่พึงกระทำ จากคุณ : pacharawong - [ 20 เม.ย. 49 19:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรามีสิทธิ์คิดแตกต่างกันได้ครับ เราต่างคนต่างคิด ผมก็ขอน้อมรับความคิดเห็นของคุณไว้อย่างยิ่งครับ แต่ขออย่าได้ "อหังการ" กันเลยนะครับ เราความคิดต่างกันรบกวนอยากให้ยอมรับกันด้วยครับ ไม่ใช่โจมตีกันอะไรอย่างนั้น ถึงผมจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร (ผมเรียนประวัติศาสตร์ล้านนา แต่มีวิจารณญาณประกอบในการเรียน) แต่ผมก็คิดว่าเราทุกคน ทราบประวัติศาสตร์จากการบอกๆ ต่อกันมาของผู้เฒ่าผู้ใหญ่ เราคงไม่มีใครที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาโดยตรงแน่ ดังนั้นจึงรบกวนถามกลับว่า แล้วเรารู้จริงแค่ไหนครับ? ในเมื่อเราไม่ใช่คนในช่วงเวลานั้นเลย เรื่องราวเหล่านี้ได้แต่สืบทอดกันมาปากต่อปากหลายชั่วอายุคนเท่านั้น ผมรักเพราะเป็นโบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวมาเหยียบย่ำจนเสื่อมโทรมแน่ๆ ครับ แต่การกราบไหว้นี่ อะไรต่างๆ นั้น สำหรับผมคิดตามหลักความเป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ครับ นั่นก็คือกำแพงที่ในอดีตกาลใช้กันข้าศึกครับ แต่หากมองในแง่มุมที่ว่า กำแพงเมืองนี้ ทำให้เมืองเชียงใหม่รอดพ้นจากข้าศึกมาได้ อันนี้เห็นด้วยครับ เป็นกำแพงที่มีคุณค่ามีคุณประโยชน์ต่อเมืองเชียงใหม่เป็นอย่างยิ่ง อิฐทุกก้อนบอกอะไรเราได้ อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมไม่ได้ดูถูกความเป็นอิฐเลย อิฐทุกก้อนบอกอะไรเราได้ จึงทำให้เราต้องรักษาไว้ครับ ส่วนเรื่องที่ว่าต้องนอบน้อม ต้องกราบไหว้เข้าไปนั้น หลายคนเชื่อ และ หลายคนก็ไม่เชื่อครับ (แต่ก็ไม่ลบหลู่) บางครั้ง สิ่งที่เค้ามองว่าทำแล้วมันไม่สมเหตุผล จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องทำ (มองอย่างฝรั่ง) ก็เลยขึ้นไปซะอย่างนั้น และที่ผมมองว่าอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไหว้ก่อนขึ้นก็ได้ก็เพราะมองตามหลักความเป็นจริงอย่างที่ว่า แต่หากท่านใดที่เชื่อและศรัทธาก็เป็นสิ่งที่สมควรกระทำตามความเชื่อของท่านครับ ไม่ลบหลู่กันครับ ใครมองแล้วชอบไม่ชอบก็ขอให้เป็นเรื่องส่วนบุคคลแล้วกันนะครับ ขอร้องอีกครั้งว่าหากมีใครที่คิดไม่ตรงกับท่าน ก็อย่า "อหังการ" กันเลยนะครับ >>>"แต่โปรดอย่าคิดกันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ต้องกราบไหว้ หรือห้ามขึ้นเพราะเป็นของสูงไม่เหมาะสม ขึ้นแล้วต้องตกนรกกันเลยนะครับ" :คิดเห็นด้วยไม่กี่คำต้องมาแย้งซะแล้ว คุณคิดขนาดตกนรกนั้นโอเวอร์ไปป่าวครับ -----ขออ้างอิงถึงข้อความที่ 13 ที่ว่านรกจะกินกะบาล ครับ จึงทำให้ผมกล่าวไปอย่างนั้นหน่ะครับ >>>แล้วตอนที่เค้าทำบุญเมืองล่ะครับ เค้าทำกระจายกันทั่วเมืองรวมทั้งแจ่งเหล่านี้ด้วย แล้วเค้าจะทำบุญเมืองแถวๆแจ่งทำไมหอกอะไรล่ะครับถ้ามันมิใช่สถานที่ศักดิ์สิทธิ ----- เป็นเรื่องของหลายๆ ท่านที่เชื่อและศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์จัดขึ้นครับ รบกวนตรงนี้ว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเชื่อในเรื่องของความศักดิสิทธิ์ หรือไม่เชื่อ จะศรัทธาหรือไม่ก็ได้ (ส่วนหลายท่านที่มองว่า ผมซึ่งไม่ศรัทธาแล้ว นรกจะกินกะบาล นั่นเป็นสิทธิที่ท่านสามารถคิดได้ครับ เพราะท่านเชื่ออย่างนั้น) สำหรับเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนานั้น ผมอยากให้สอนเหลือเกินครับ เพราะเด็กสมัยนี้อย่างผมเองก็ไม่อาจรู้เรื่องอะไรมากนัก แต่อยากรบกวนขอร้องผู้ใหญ่ด้วยนะครับ..เราสอนให้เด็กรู้ แล้วให้เขาวิเคราะห์ แต่อย่าบังคับให้เด็กเชื่อ เชื่อไม่เชื่อเรื่องประวัติศาสตร์นั้นแล้วแต่วิจารณญาณของเขา ครูส่วนใหญ่สอนเด็กว่า หากไม่เชื่อ ลบหลู่ จะปวดท้องต้องไปขอขมา ทำลายโบราณสถาน สามวันเจ็ดวันจะมีอันเป็นไป พร้อมยกตัวอย่างต่างๆ นา ซึ่งจะจริงไม่จริงหรือไม่เราไม่มีทางทราบได้เลย เพราะไม่ได้รับรู้ด้วยตนเอง ซึ่งมันทำให้เด็กๆ รับรู้และมองอยู่มุมแคบๆ เพียงมุมเดียว แทนที่ครูจะสอนให้เชื่ออย่างมีวิจารณญาณ ประวัติศาสตร์นั้นอาจเชื่อไม่ได้ทั้งหมด เพราะกว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ก็คงถูกปรุงแต่งไปไม่น้อย ครูผมสอนอย่างนี้ครับ ถึงจะมีใครจะไม่เชื่อ อาจจะแตกต่างกันทางความคิด แต่เค้าก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร (กรณีขึ้นไปบนแจ่งแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย ผมมองว่าเค้าไม่รักษามรดกของบ้านเมืองให้ชั่วลูกชั่วหลาน แต่ไม่ได้มองว่า เขาไม่เคารพ เป็นบาบ) แต่ทุกวันนี้เห็นคนไทยหลายคนมีความคิดที่ว่า ทุกคนต้องคิดเหมือนตนหมด ตนเชื่อตามโบราณ ผู้ใหญ่ว่ามา แต่เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบ ขอเชื่อไว้ก่อน ขืนสอนแบบบังคับให้เด็กเชื่อตามครู เชื่อตามโบราณเค้าว่าอยู่ท่าเดียว มันก็ผิดจุดประสงค์ของการศึกษาสมัยใหม่ซะเปล่า การบังคับให้เด็กเชื่อโน่นเชื่อนี่ (ทั้งๆ ที่เราก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นความจริงหรือไม่ รุ่นผู้ใหญ่ได้แต่เชื่อเพราะบอกๆ ต่อกันมา) ความคิดของคนไทยก็วนอยู่แค่นี้ล่ะครับ วิทยาศาสตร์ก็คงจะได้เท่านี้ล่ะครับ ผมยึดคำสอนของพระพุทธเจ้าเสมอที่ "อย่าเชื่อ" ทั้ง 10 ประการหน่ะครับ ซึ่งก็สงสัยเหลือเกินว่าเมืองพุทธอย่างเรา คำสอนของพระพุทธเจ้าข้อนี้ถูกเมินอย่างรุนแรง จริงไม่จริงครับ? รบกวนอีกครั้งครับ ผมเห็นคนไทยหลายท่าน อหังการเหลือเกิน (ตัวอย่างเช่นกระทู้ "คุณเบื่อการใช้คำผิดๆ แบบไหนมากที่สุด" ที่เป็น Pantip Picks  เป็นต้น) รบกวนอย่ากระทบกระทั่งกันในนี้เลยนะครับ คุณสมบัติอย่างหนึ่งของปัญญาชนคือการยอมรับความแตกต่างทางความคิดครับ :) ผมเองก็อาจจะไม่มีความคิดตรงกับคนส่วนใหญ่นัก (ไม่มีถูก-ผิด เพราะเราต่างก็ไม่ใช่คนในช่วงเวลานั้น จริงไม่จริงครับ?) ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองอย่างไร จะเชื่ออย่างไร เพียงแต่ว่า คนไทย หรือคนล้านนาส่วนใหญ่ เชื่อ แต่รบกวนอีกครั้ง ผมเห็นแล้วหงุดหงิดและเหลืออดเช่นกันครับสำหรับความอหังการซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมปัญญาชนอย่างพันทิบเลย ตัวผมเองทราบดีว่าไม่สมควรออกมาโพสต์อย่างนี้เป็นอย่างยิ่งครับ รู้ดีว่ามันชนแน่ๆ แต่อย่างน้อย อยากให้เป็นตัวอย่างหนึ่ง ว่าคนเรา มีความคิดที่แตกต่างกัน จะบังคับให้ทุกคนต้องเชื่อตามตนหมดไม่ได้ อย่างที่เรียกว่า อหังการ เปิดใจ ยอมรับกันบ้างก็ดีไม่น้อยครับ :) ผมขอชื่นชมคุณทีเดียว คุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจประวัติศาสตร์ ผมคงไม่อาจมีสิทธิ์ที่จะกล่าวอะไรได้ว่า อย่าให้ประวัติศาสตร์ครอบงำความคิด เพราะนั่นก็เท่ากับไปกระทบกระทั่งความคิดความเชื่อส่วนบุคคลของคุณ เพียงแต่ได้บอกว่า อย่าทำอย่างนี้กับท่านอื่นๆ ที่คิดไม่ตรงกับคุณเลยนะครับ ดูจากบล็อก เราอายุไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ คงจะพอแนะนำตรงนี้ได้นะครับ ด้วยความเคารพเช่นกันครับ ปล. ขอบคุณคุณป้ามหาภัยมากครับ ผมชอบแนวทางการให้คำตอบของคุณป้ามากทีเดียวครับ เป็นความรู้เป็นประโยชน์ให้กับผมมากเลยครับคุณป้า แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 49 21:55:22 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 49 21:41:52 จากคุณ : COLORS - [ 20 เม.ย. 49 21:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเสริมอีกนิดว่า หากเราไม่อยากให้ชาวต่างประเทศขึ้นไปจริงๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกับชาวต่างประเทศกันซะก่อน ทุกวันนี้ที่บริเวณแจ่งไม่ได้แจ้งอะไรไว้เลย ใครๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติก็เลยคิดว่าสามารถขึ้นไปได้ อย่างกำแพงเมืองจีน กำแพงที่นับว่าเป็นมรดกของโลก คนจำนวนมากต้องตายไปเพราะกำแพงนี้ ปัจจุบันเปิดให้คนทั่วไปขึ้นไปได้ และโดยทั่วไปสากลมักไม่ค่อยถือเรื่องที่ต่ำที่สูง ดังนั้นชาวต่างชาติทั่วไปไม่ทราบแน่ๆ ครับว่าชาวเหนือเขาถือกัน อันนี้อาจรวมคนไทยที่มาจากภาคอื่นๆ ด้วย การติดป้ายว่าที่นี่ถือนะ ขึ้นไปไม่ได้ จึงเป็นทางออกที่ดีครับ เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะเคารพตามกติกา ว่าขึ้นไม่ได้กันทั้งนั้นครับ ดีกว่าที่ใครหลายๆ คนมาแช่งกันลับหลังแน่ๆ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย ถึงจะทราบว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ หรือจะถือในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ แต่ถ้าเจอกติกาที่ว่า ห้ามขึ้น เพียงเท่านี้ก็คงไม่มีใครขึ้นไปหรอกครับ เพียงแต่วันนี้มันไม่มีป้ายอะไรบอกไว้เลยครับผม ------- กราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ พึ่งนึกขึ้นได้ ในความคิดเห็นแรกของผมที่ว่า ไม่อยากให้เข้าใจผิด ซึ่งในความเป็นจริง มันเป็นความคิดของผมเอง ซึ่งไม่ควรใช้ประโยคนี้ขึ้นเลย  จึงต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 49 22:27:22 จากคุณ : COLORS - [ 20 เม.ย. 49 22:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องกราบ ไหว้ เคารพนี่ก็แล้วแต่ วิจารณญาน ของแต่ละ บุคคลแล้วกันครับ ที่ถ่ายมา เพื่ออยากจะให้ ทั้งคนเชียงใหม่ และ คนไทยทุกคน ช่วย ๆ กันรักษา พวกสถานที่เหล่านี้เอาไว้ เพราะมันเป็นสถานที่เก่าแก่และมีค่าทางประวัติศาสตร์  พวกฝรั่งมันไม่เข้าใจหรอกมั้งครับ จากคุณ : benz47 - [ 20 เม.ย. 49 22:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นั้นโดนซะ โอเคครับ ผมไม่ต่อความยาว สาวความยืดล่ะกันขี้เยจเถียงด้วย เอาเป็นว่าเป็นสิทธิของคุณล่ะกันครับที่มีสิทธิที่จะคิดอย่างงั้นได้(แต่เเหม ที่ว่าผมอหังกานั้นมันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ผมเคืองน่ะข้อนี้อ่ะ) ส่วนที่คุณเขียนมาก็มีเหตุผลบ้างไม่มีเหตุผลบ้างก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เขียนตอบตามประเด็นที่คุณว่ามาเหมือนเมื่อวานล่ะ เพราะรู้ว่าถ้าเขียนไปมันจะไม่จบเอาง่ายๆซิครับ พอเถอะขี้เกียจเถียง ยังไงคุณอายุแค่20เองก็ดีครับ อายุขนาดนี้ดีครับที่เรียนสนใจประวัติศาสตร์ หายากครับๆ จากคุณ : pacharawong - [ 20 เม.ย. 49 22:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมอ่านดูแล้วก็เห็นว่าถ้าคุณ COLORS อายุ 20 จริงๆ แล้วคิดได้อย่างนี้ ก็ถือว่าน่าดีใจที่เยาวชนของชาติยังมีคนที่มองปัญหาด้วยสติปัญญามากกว่าที่จะใช้อารมณ์  ความรู้สึก เพียงอย่างเดียว ความคิดของเค้าก็ดูเป็นเหตุ  เป็นผล  ตามหลักวิทยาศาสตร์  และหลักพุทธศาสนา ไม่ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคาย  หรือเสียดสีใครเลย ผมก็เลยงงว่าทำไมหลายคนถึงได้เป็นเดือดเป็นแค้นอะไรกับน้องเค้านักหนา จากคุณ : เด็กข้างห้างฯ - [ 21 เม.ย. 49 13:42:58 ]