ความคิดเห็นที่ 1 จุดหมายแรกคือนครมาดินะฮฺ ซึ่งห่างจากนครมักกะฮฺไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร แต่ผมทำการนั่งรถจากเมืองท่าเจดดาห์ไปยังมาดินะฮฺ ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง  ระหว่างทางจะเห็นภูเขาหินมากมาย แต่สีและรูปร่างจะต่างจากที่อิสราเอลและจอร์แดน จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 20:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากการนั่งรถที่ยาวนาน ในที่สุดเราก็ถึง...........มาดินะฮฺ นครของท่านนบีมุฮัมมัด Al Madinah Al Munawwarah นครอันจำรัส หลังจากเก็บของเข้าที่โรงแรมที่พักแล้ว ผมได้เดินไปยังมัสญิดทันที ทางเข้าลานรอบมัสญิด......... แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 21:09:25 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไม ทำไมที่นี่ถึงสำคัญนัก ก็เพราะว่า ณ มัสญิด อัล-นะบะวีย์ นั้นเป็นที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัด ซล. และสาวกคนสนิท(ซอฮาบะฮฺ) ท่านนบีเคยกล่าวไว้ว่า"ใครมาละหมาดที่มัสญิดของฉันจะได้ผลบุญ 1,000 เท่าจากละหมาดปกติ"  และเหตุผลที่มาคือต้องการจะเยี่ยมสุสานของท่านศาสนทูตและมหาบุรุษท่านนี้ เมื่อเข้ามาในมัสญิดสิ่งแรกที่ต้องทำคือให้สลามแก่ท่านนบีและซอฮาบะฮฺ รอบนอกมัสญิดอัล-นะบะวีย์เป็นลานหินอ่อนที่กว้างมากสังเกตได้ว่ามาดินะฮฺเป็นเมืองที่สะอาดมาก สะอาดขนาดที่ว่ามีคนเดินกวาดฝุ่นตามพื้น........... แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 21:45:20 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในภาพ โดมสีเขียวนั้นตรงกับจุดที่เป็นที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัด ซล. โดยเคียงข้างท่านมีสาวกคนสนิท 2 คน คือ ท่านอบูบักร และ ท่านอุมัร เคาะลีฟะฮฺคนที่ 1 และ 2 ของอิสลาม ............. แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 21:29:19 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภายในมาเพราะ เขาห้ามถ่าย เจ้าหน้าที่จะยืนทุกประตูทางเข้าและค้นตัว ผมได้แต่บรรยายว่า"เหมือนอยู่ในป่าของเสาหินอ่อน" มีเป็นพันๆเสา และแต่ละเสาจะมีเครื่องปรับอากาศ ทำให้ภายในมัสญิดเย็นสบาย(แต่ค่อนข้างหนาว) โดยรวมมัสญิดนี้มีพื้นที่ 22,955 ตารางเมตร ซึ่งจุคนได้กว่าสองแสนคน..........กว่าจะเดินจากด้านนึงไปด้านนึงเล่นเอาปวดขาเหมือนกัน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภายในมัสญิดนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยูใกล้ชิดท่านนบีมุฮัมมัด สงบแบบบอกไม่ถูก แถมยังสบายเพราะมีแอร์แถมยังปูพรมแดงทั่วพื้นมัสญิด คนที่มาละหมาดเลยถือโอกาส"งีบ" ตามทางเดินภายในจะมีถังน้ำซัมซัม (เป็นน้ำจากบ่อน้ำซัมซัมในบริเวณมัสญิดอัล-ฮะรอม นครมักกะฮฺ) ตั้งเรียงรายอยู่ มีให้เลือกทั้งเย็นและไม่เย็น ที่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ละหมาดพร้อมกับคนเป็นหมื่น ทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว ทุกภาษา แต่ไม่มีใครที่เหนือกว่าใคร ทุกคนเท่าเทียมกันในสายตาของอัลลอฮฺ ทุกคนมุ่งสักการะพระองค์พร้อมๆกัน........................... แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 49 21:15:13 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รอบนอกลานมัสญิดเป็นร้านค้าต่างๆเรียงรายโดยรอบ ร้านเหล่านี้จะคึกคักในตอนกลางคืนหลังจากละหมาดอีซา(กลางคืน)เสร็จ ประมาณ 3 ทุ่ม แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 21:43:36 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าเสียดายที่ผมสามารถอยู่ที่นครมาดินะฮฺแค่ 2 วัน เพราะมีภารกิจที่ใหญ่กว่ารอยู่ที่มักกะฮฺ ดังนั้นหลังจากละหมาดดุฮฺริ(ตอนเที่ยง)เสร็จ ผมให้สลามท่านนบีมุฮัมมัด ซล. ผู้เป็นที่รักของมุสลิมเป็นครั้งสุดท้าย จึงเดินทางออกจากมาดินะฮฺ แต่ยังไม่ทันออกจากมาดินะฮฺก็ต้องไปเยี่ยมสถานที่สำคัญต่างๆในเมืองอีกที่แรกที่ไปคือ สมรภูมิอุฮุด เป็นบริเวณที่ท่านนบีมุฮัมมัดต้องทำสงครามต่อต้านชาวมักกะฮฺที่ต้องการจะสังหารท่านและมุสลิมทั้งหมด ซึ่งสงครามครั้งนี้มุสลิมต้องสูญเสียอย่างหนัก ในภาพเป็นภูเขาที่ท่านกำชับให้พลธนู ประจำการอยู่บนนั้นไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม  แต่เมื่อมุสลิมดูเหมือนจะชนะ พลธนูเหล่านี้ละทิ้งคำสั่งและลงมาจากภูเขานี้ ทหารม้าของชาวมักกะฮฺจึงทำการตีโอบด้านหลัง ทำให้มุสลิมภายแพ้ในสงครามครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีการซ่อมแซมภูเขาและบริเวณโดยรอบ จึงดูรกๆไปบ้าง จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ป้ายหน้าสุสาน....... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 21:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สุสานนี้เป็นที่ฝังศพผู้ที่สละชีพเพื่อศาสนา ในจำนวนนี้รวมถึง"ท่านฮัมซะฮฺ" ลุงของท่านนบีมุฮัมมัดด้วย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สถานที่ต่อไปคือมัสญิด กิบละฮฺตัยน์ หรือ มัสญิดสองกิบลัต ซึ่งประวัติคือ ในช่วงแรกของอิสลามมุสลิมทำการละหมาดหันหน้าไปยังมัสญิด อัล-อักซอ นครเยรูซาเลม และระหว่างที่ท่านนบีมุฮัมมัดกำลังละหมาดอยู่ตรงที่นี้นั้น อัลลอฮฺได้บัญชาให้ท่านหันหน้าไปยังมัสญิด อัล-ฮะรอม นครมักกะฮฺแทน ดังนั้นท่านนบีจึงหมุนตัวหันหน้าไปยังมักกะฮฺในรอกาอัตที่ 2 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ภายในเราได้ทำการละหมาดอัสริ(ตอนบ่าย)กันที่นี่ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 22:10:33 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากเสร็จจากละหมาด ก็นั่งรถไปยังโรงงานอินทผลัม ที่นครมาดินะฮฺ นี้ขึ้นชื่อเรื่องอินทผลัมอย่างมาก ได้ชื่อว่าดีที่สุด ผมเลยทำการซื้อไปพอสมควร ที่นี่มีอินทผลัมพันธุ์ต่างๆให้เลือกมากมาย มีทั้งสดและแห้ง ที่ผมเลือกคือพันธุ์อัชวะฮฺ เป็นพันธุ์ที่ท่านนบีมุฮัมมัดชื่นชอบ ราคาค่อนข้างสูงและมีที่มาดินะฮฺที่เดียว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สถานที่ต่อไปคือมัสญิด อัล-กุบา ซึ่งเป็ที่ที่ท่านนบีกล่าวไว้ว่า"ผู้ที่มาละหมาดที่มัสญิดนี้ จะได้ภาคผลเท่ากับ 1 อุมเราะฮฺ"  ช่วงนั้นท้องฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ตก แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 22:23:06 จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ภายในตกแต่งเรียบๆแต่สวยงาม ด้านหลังมีเด็กๆนั่งเรียนอัล-กุรอานอยู่......... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ภาพประกอบความเห็นที่ 14 จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากละหมาดที่มัสญิด อัล-กุบา แล้ว เราได้เดินทางต่อเป็นเวลา 7 ชั่วโมง จากนครมาดินะฮฺ สู่ มหานครมักกะฮฺ ระหว่างทางบุคคลประสงค์ที่เดินทางจากมาดินะฮฺไปยังมักกะฮฺ เพื่อไปประกอบพิธีอุมเราะฮฺ นั้นต้องเปลี่ยนชุดจากชุดธรรมดา เป็นชุดเอียะฮฺรอม ที่มัสญิดเบต อาลี สำหรับผู้ชายจะต้องใส่แค่ผ้าสองผืน ที่ไม่มีการเย็บติดกัน ลักษณะคล้ายผ้าขนหนูบางๆ ผืนแรกนุ่งห่มด้านล่าง ผืนที่สองคลุมร่างกายส่วนบน แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 22:33:45 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลังนั่งรถมานาน เกือบ 7 ชั่วโมง เราก็เข้าเขตแผ่นดินฮะรอม(แผ่นดินต้องห้าม สำหรับการทำชั่วทุกประการ) เข้าเขตมหานครมักกะฮฺ ประมาณตี 1 กว่าๆ จากนั้นก็ถึงที่พักเข้าห้องเก็บของ แล้วออกจากที่พักตรงไปยังมัสญิดอัล-ฮะรอม ทันที เพื่อประกอบพิธีอุมเราะฮฺครั้งแรก(ถือเป็นสิ่งจำเป็น) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ประกอบพิธีอุมเราะฮฺนั้น ประกอบด้วย 1.การอยู่ในสภาพเอียะฮฺรอม 2.การเดินเวียนทวนเข็มนาฬิการอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺ(ตอวาฟ) 7 รอบ โดยเริ่มต้นและจบรอบที่มุมหินดำ 3.ละหมาด 2 รอกาอัต และดื่มน้ำซัมซัม 4.การเดินสะอีย์ จากเนินเขาซอฟา-มัรวะฮฺ ระยะทาง 410 เมตร จำนวน 7 รอบ(ไปนับ1 กลับนับ 2) 5.เมื่อเสร็จสะอีย์แล้ว ให้ขลิบผมอย่างน้อย 3 เส้น เป็นอันจบ ในภาพคือลานด้านนอกมัสญิดและทางเข้า [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อเข้าไปด้านในครั้งแรก รู้สึกตื่นตะลึงเพราะโครงสร้างขนาดมหึมาของมัสญิดและจำนวนคน ที่พลุกพล่าน เมื่อเดินผ่านรอบนอกมัสญิดเข้าไป จะพบกับลานกว้างกลางมัสญิด และนั่นเองที่ได้เห็น.........ก๊ะอฺบ๊ะฮฺ ทำให้รู้สึกตื้นตันที่ได้เห็น "ว่าที่นี่แหละที่เราละหมาดหันหน้ามาทุกวัน บัดนี้เราได้มายืนอยู่ตรงนั้นแล้ว" ก๊ะอฺบ๊ะฮฺ หรือ บัยตุลลอฮฺ เป็นอาคารทรงอาคารทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ คลุมด้วยผ้าไหมสีดำ เป็นจุดที่อัลลอฮฺบัญชาให้มุสลิมทุกคนหันหน้ามาที่นี่ เพื่อเป็นศูนย์รวมของการละหมาด(คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดว่าก๊ะอฺบ๊ะฮฺคือหินดำ แต่หินดำเป็นหินเล็กๆที่แสดงรอบในการเดินวนรอบก๊ะบ๊ะฮฺ) ขนาดตี 2 คนยังเยอะได้ขนาดนี้.............. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 22:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากเดินรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺครบ 7 รอบแล้ว ผมได้ไปละหมาด 2 รอกาอัต ดื่มน้ำซัมซัม แล้วจึงไปเดินสะอีย์ ในภาพเป็นทางสะอีย์ชั้น 2 ซึ่งคนน้อย แต่ผมเดินด้านล่างจะคนเยอะพอสมควร ปล.คนในภาพนี้ใส่ชุดเอียะฮฺรอม ซึ่งผู้ชายต้องใส่ในช่วงเวลาประกอบพิธี แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 23:04:28 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากขลิบผม ก็ถือเป็นอันเสร็จ 1 อุมเราะฮฺ แต่ผมยังไม่กลับที่พัก ผมรอจนเวลาตี 4 กว่า เพื่อจะได้ละหมาดซุบฮิ(ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น)ไปเลย แล้วค่อยกลับที่พัก.......... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรียกว่าเหนื่อยเต็มที่ จึงให้เวลาตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงเป็นเวลานอน พอเที่ยงก็ต้องออกจากที่พักไปละหมาดที่มัสญิดอีก  ตอนเที่ยงอากาศค่อนข้างร้อน เมื่อเดินลงไปที่ลานข้างมัสญิดซึ่งเป็นพื้นหินอ่อนสีขาว แสงอาทิตย์สะท้อนขึ้นมาใส่หน้าเต็มๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนเที่ยงจะไม่ค่อยมีคนออกไปละหมาดที่ลาน เพราะแดดมันร้อนมาก......... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แต่ละวันที่อยู่ที่มักกะฮฺนี่ ผมตั้งตารางเวลาไว้ว่า จะไปทำอุมเราะฮฺตอน 6 โมงเช้าทุกๆวัน ตลอดเวลาที่อยู่ 14 วัน ผมทำอุมเราะฮฺได้ทั้งหมด 7 ครั้ง เล่นเอาเหนื่อยมาก "เหนื่อยกายแต่ไม่เหนื่อยใจ" เมื่อเราจะทำอุมเราะฮฺเราต้องนั่งรถออกไปนอกมักกะฮฺ ไปยังมีกอต(เขตที่ต้องเข้าไปเพื่อเข้าสู่สภาพเอียะฮฺรอม) ในภาพคือ มัสญิดตันนะอีม แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 49 21:20:13 จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วิธีไปยังมีกอตมีหลายวิธี คือนั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล์ นั่งรถตู้ ส่วนผมเลือกนั่งรถตู้เพราะคนที่นั่งต้องเฉลี่ยกันจ่าย ค่าโดยสารรถตู้ไปกลับคือ 4 ริยาล = 40 บาท คนขับรถ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 49 20:28:34 จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อกลับมาที่อัล-ฮะรอมก็คือ ทำอุมเราะฮฺเหมือนเดิม อยู่ที่นี่คุณจะละหมาดได้ไม่ขาดแน่ ในภาพคือภายในมัสญิดชั้น 2 กลุ่มนี้เป็นคุณลุงชาวตุรกี [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จุดที่ผมมานั่งละหมาดประจำ เพราะสะดวกและใกล้ที่พักที่สุด [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ที่อัล-ฮะรอม มักกะฮฺ ไม่เหมือนกับที่ อัล-นะบะวีย์ มาดินะฮฺ เพราะคนละบรรยากาศกัน ที่มักกะฮฺจะรู้สึกถึงความเป็นเอกภาพ ผู้คนหลากหลายมากกว่า พลุกพล่าน คนเยอะมาก ไม่มีช่วงเวลาที่มัสญิดไร้ผู้คนเลย ตลอด 24 ชม. ส่วนที่มาดินะฮฺจะรู้สึกสงบ และสบาย คนไม่พลุกพล่านเท่า แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 49 18:04:15 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ในภาพนี้ จะเห็นตะแกรงสามเหลี่ยมตรงที่คนนั่งพิงอยู่ นั่นคือช่องของเครื่องปรับอากาศ แต่ที่นี่ไม่ได้มีเครื่องปรับอากาศในเสาทุกต้นแบบที่อัล-นะบะวีย์ นครมาดินะฮฺ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 23:36:06 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 .............. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คนพลุกพล่าน... จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มัสญิดนี้ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ ในสมัยของกษัตริย์ฟาฮัด บิน อับดุลอาซิซ อัลซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ก๊ะฮฺบ๊ะฮฺ................ช่วงสายๆ เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 49 23:43:11 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GHANZI - [ 18 มิ.ย. 49 23:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รูปเล็กไปไม่ดูละหละ ขอบคุณ จากคุณ : บ้านผือ - [ 19 มิ.ย. 49 08:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เยี่ยมค่ะ ได้เห็นอะไรที่แปลกตาบ้าง จะติดตามชมต่อค่ะ จากคุณ : adangrawi - [ 19 มิ.ย. 49 09:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ได้รู้เรื่องราวต่างๆที่ไม่เคยได้รู้ เป็นทั้งอาหารตาและอาหารสมอง ขอบคุณมากมายค่ะ จากคุณ : Cable InLove - [ 19 มิ.ย. 49 15:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : sommie - [ 19 มิ.ย. 49 16:03:38 ]