ความคิดเห็นที่ 1 1. เข้าร้านอาหารที่ปารีส สั่งอาหารแล้วก็สั่งน้ำเปล่า บ๋อยชาวปารีเซียงชี้ไปที่ น้ำพุนอกร้านว่า น้ำเปล่าให้ไปที่นั่น หมดอร่อยทันที 2. ไปเที่ยวโรม ญาติคนนึงถูกกรีดกระเป๋า แถวเพียซซ่า เดอ เวนีเซีย ต้องเสียเวลาไปสถานทูต ทำเรื่องราว เซ็งจิต นึกออกก็เพียงเท่านี้ เพราะปล่อยวางไปหมดแล้ว จากคุณ : น้องหอมแดง - [ วันแม่แห่งชาติ 16:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องที่เซ็งที่สุด นอกเหนือจากเรื่องสุขภาพแล้ว คงเป็นเรื่อง pass port หรือเงินหายจนหมดกระเป๋า การหายที่แย่ที่สุดคือการมั่นใจว่า ผู้ร่วมคณะเป็นผู้เอาไป จากประสบการณ์ถึงแม้นว่าเรามั่นใจว่าผู้ร่วมเดินเป็น ผู้เอาไป ก็อย่างแสดงออกเป็นอันขาด เพราะทำให้ปัญหามากขึ้น ยิ้มสู้ไว้ เพราะคนที่เรานึกว่าเขาเอาไป เราอาจต้องการความช่วยเหลือจากเขาหรือคนที่สนิทกับเขา ถ้าเราโวยวาย เราคงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาและเพื่อน แนะนำเพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : ขุนคลังข้างถนน - [ วันแม่แห่งชาติ 16:59:10 A:124.120.130.72 X: TicketID:024419 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปเที่ยวพม่า(สมัยยังไม่เปลี่ยนชื่อประเทศ)(ถือว่าเป็น ตปท.มั้ยอ่ะเนี่ย) ขี่ช็อปเปอร์ข้ามแดนไปทางท่าขี้เหล็ก สตีด 600 ใหม่เอี่ยมอ่อง เลขตองสวย ขี่วนวงเวียนผิด เพราะบ้านเค้าขับเลนขวา พวกจะยึดรถ แบกอาก้ามาขู่ ยักแย่ยักยันเถียงกันตั้งนาน เพื่อนที่ไปด้วยต้องแสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ โรยัล ไทย โพลิส, โพลิส กัปปิตัน ๆ กว่าจะหลุดด่านมาได้  ไปนั่งกินข้าว พวกยังนั่งรถกระบะแบก RPG จะตามมาเอารถอีก ก็มันสวยนี่นา..   เลยต้องรีบกลับแบบไม่ได้ดูอะไรเลย มันส์ดี ตอนนั้น โทรหาเพื่อนที่เป็น ตชด.อยู่ฐานใกล้ชายแดนแร้ว มารับศพกลับไปก็ยังดี 555 จากคุณ : นายทะเบียน - [ วันแม่แห่งชาติ 17:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อนรุ่นพี่โดนขโมยกระเป๋าสพาย......(กำลังนั่งลองรองเท้า โดยกระเป๋าแนบข้างตัว เห็นคนดำคว้าแล้ววิ่งจู้ดดดด)........ ในนั้นมีทุกๆ อย่าง แว่นสายตา พาสปอร์ต.. กระเป๋าสตางค์... ที่สำคัญ วันรุ่งขึ้นต้องไปสวิส.. ต้องวิ่งวุ่นแจ้งความ...... สุดท้าย... ก็ต้องลากกระเป๋ากลับเมืองไทยคนเดียว.. พาสปอร์ต สำคัญที่สุด โปรดรักษายิ่งชีพ.......... จากคุณ : หมาโคลี่ (หมีโคล่า) - [ วันแม่แห่งชาติ 17:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จะมีกลุ่มคนอยู่ชนชาติหนึ่ง กลิ่นตัวรุนแรงมาก อย่าได้นั่งข้างๆเลยนะครับ มันจะเป็นเที่ยวบินที่ทรมารมากๆ จากคุณ : GNRz - [ วันแม่แห่งชาติ 18:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไปทัวร์จีน พอดีอากาศมันหนาว ไม่ได้เอาเสื้อลงมา เลยตัดสินใจกลับไปเอา พอหยิบลงมา และกำลังเดินไปเข้าร้านอาหาร ก็มี่คนในทัวร์เดียวกันตามมาจับข้อมือไว้...หาว่าเป็นขโมยขึ้นไปขโทยของในรถ พอบอกว่ามาทัวร์เดียวกัน ก็ไม่เชื่อ จนไกด์ต้องมายืนยัน เห่อๆ สรุปเขาไม่เคยมองหน้าเพื่อนร่วมทัวร์เลย เซงจิต อายก็อาย - -" จากคุณ : Alohomola - [ วันแม่แห่งชาติ 19:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไปยุโรปกับทัวร์ ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ คนขับรถเป็นชาวเบลเยี่ยม ไม่ชำนาญเส้นทางในฝรั่งเศส หลงทุกวัน ถึงร้านอาหารเย็นเที่ยงคืน เข้านอนตี 2 และตื่น 6.00 น. เช้า ที่สำคัญ ได้แวะเที่ยวแต่ละที่น้อยลง เพราะกว่าจะไปถึง ก็หลงแล้วหลงอีก   วันสุดท้าย รถเสีย คนขับหงุดหงิด ทิ้งรถหนีกลับบ้าน ต้องรออีก 2-3 ชม. รอรถคันใหม่พร้อมคนขับคนใหม่ หนาวก็หนาว ไม่เอาอีกแล้วทัวร์นี้ จากคุณ : Invisible Angel - [ วันแม่แห่งชาติ 20:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โดนตบกระเป๋ากล้องทั้งใบที่สถานีรถลี่เจียงอ่ะ....แค้น FM2 ของช้านนนนน จากคุณ : futura42AC - [ วันแม่แห่งชาติ 21:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "พอกันทีกะผู้ชายเต่าเหม็น" ไปนอน Mixed Dorm ค่ะ เมื่อ 2 เดือนก่อน ชาย 2 ญ 2  อิชั้นกลับมานอนตอน 3 ทุ่ม  เปิดประตูห้องมา โอ๊ว.........แม่เจ้า............เต่าวิ่งมาเตะจมูก  หอบเสื้อผ้าแจ้นไปอาบน้ำ กลับมากะว่า กลิ่นสบู่คงพอถูไถกะกลิ่นเต่า ...... ที่ไหนได้........ แผ่นปิดตาที่พกมาก็ต้องเอามาปิดจมูกแทน .............  เช้ามาเลยถามไถ่  คุณชายหนุ่มอิตาลีนี่เอง  เต่าเหม็นระเบิด .....   ดีที่จ่ายห้องพักแค่คืนเดียว  อีกวันเลยเผ่นดีกว่า............. และประสบการณ์หลงทางค่ะ...... จริงๆ เรื่องหลงทางกะอิชั้นนี่มันของคู่กันอยู่แล้ว ......... หลงจนชินว่างั้นเหอะ   แต่จะหงุดหงิดมากขึ้น ถ้าหลงแล้ว หาทางกลับไม่เจอ เคยจองโรงแรมแล้วลืมชื่อโรงแรมด้วยค่ะ   ออกไปกินข้าวกลับมา......... ก็ไม่รุ้จะถามใคร เพราะไม่รุ้จะบอกว่าไปไหน  .....ซวยซ้ำซากจริงๆ จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ วันแม่แห่งชาติ 21:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไปนอนเป็นเพื่อนเพื่อนต่างชาติคุณเธอเป็นนิโกรด้วยค่ะ กลิ่นตัวไม่ต้องพูดถึง ไกล 10 เมตรยังได้กลิ่น ที่นี้ต้องไปนอนเป็นเพื่อนคุณเธอเพราะสามีเขาไปต่างประเทศ (ตอนนั้นเราก็อยู่บังคลาเทศ) พอเข้าห้องนอนคุณเธอเท่านั้นแหละนอนไม่ได้เลยค่ะ เพราะคุณเธอเล่นเอารองเท้าเรียงไว้หัวนอนเต็มไปหมด พอถามคุณเธอทำไมเอาไว้หัวนอนอย่างนั้นล่ะ คุณเธอบอกว่าเป็นของที่เธอชอบมาก เราเลยถามไปเลยว่า วัน ๆ เธอเดินไปไหนมาบ้างไวรัสทั้งนั้นแหละ และที่บังคลาเทศมีแต่สิ่งของสกปรก เธอถึงได้คิดได้ คืนนั้นเลยต้องไปนอนกันอีกห้องหนึ่งเธอหลับสบายแต่เราต้องมาทนกลิ่นเต่าเธออีก จากคุณ : Kun Toom - [ วันแม่แห่งชาติ 22:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เคยขับรถยนต์เที่ยวจากลอนดอนไปเมืองดับบลิน(เมืองหลวงIrelandใต้) จอดรถแล้วออกมาถ่ายรูป โดยต้องข้ามถนนแล้วใช้ขาตั้งกล้อง พอมองกลับไปที่รถ โห..มีวัยรุ่นฝรั่งเข้าไปนั่งในรถ พร้อมที่จะขับรถไปทั้งคัันเลยล่ะ (กุญแจไม่ได้เอาออก)เรารีบวิ่งกลับไปทันที นี่ถ้ามันเอาไปทั้งรถล่ะ หมดตรูดเลยล่ะ จิตเซง จากคุณ : ประมาทเองอ่ะ (thaiMBA) - [ วันแม่แห่งชาติ 22:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนมาเรียนที่ซิดนีย์ เดินอยู่หน้า town hall โดนตบเงิน ไป สามร้อยเหรียญ เซ็งกันมากๆๆ อยู่ใกล้บ้านตัวเองด้วยนะเนี่ย จากคุณ : ov69 - [ วันแม่แห่งชาติ 23:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดินทางไปที่ๆอยากไปมากโดยมีเวลาจำกัด ปรากฏว่าวันนั้นมันดันปิดและคุณไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว จากคุณ : เซ็งเลย (- Lost in Translation -) - [ 13 ส.ค. 49 01:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปเจอไมโลตอนไปเที่ยวเบอร์ลิน ดีใจหยั่งกะเจอทอง รีบเเบกใส่กระเป๋ากลับมาสำหรับ ตัวเองเเละเพื่อนๆสิริรวมห้ากระป๋อง จัดเรียงซะสวยงามปนกับขยะส่วนตัวในกระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่อง รูปทรงกระป๋องดันไปคาใจ จนท ที่ตรวจสเเกน  เลยโดนเชิญไปเปิดกระเป๋าตัวเองให้เจ้าหน้าที่ดูซะ คนมองตรึมที่สนามบิน คงระเเวงว่ามันเป็นผู้ก่อการร้ายหรือเปล่าหว่า ดีที่เค้าเห็นกระป๋องเเล้วร้องอ๋อ(ไมโลไทยมีชื่อเสียง?) เลยไม่เรียกตรวจสอบอะไรทั้งนั้นภายในกระป๋องเจ้าปัญหา(ประมาท?) เราเเละระเบิดเลยรอดตัว เอ๊ยยยย เลยถูกเค้าปล่อยตัวมา(ไม่มีย่ะ) ได้ชงไมโลกินสมใจ เอิ๊กกกๆ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 49 03:39:31 จากคุณ : Syrup On Ice - [ 13 ส.ค. 49 03:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบกระทู้นี้จังครับ อ่านแล้วเห็นภาพเลย ได้ประโยชน์มากมาย ถ้าผมเป็นคุณน้องหอมแดง วันนั้นคงได้ฟาดปากบ๋อยปารีเซียงแน่ๆ หนอย...ไม่รู้จักจระเข้ฟาดหางซะแล้วเมิง จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 13 ส.ค. 49 14:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โดน ยิปซีรุมที่สถานีรถไฟใต้ดินครับ...เด็ก ๆ ทั้งน้าน ล็อกขาข้างละคน มือไม้ก็เปะปะไปทั่ว ขนาดตอนนั้นไปกันตั้งเกือบสิบคนนะ..ดีนะที่รอดมาได้ จากคุณ : สายลมรัก - [ 13 ส.ค. 49 14:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไปเที่ยวสิงคโปร์ค่ะตอนนั้น ด้วยความเป๋อเร๋อของตัวเองและช็อปปิ้งเพลินไปหน่อย เลยต้องรีบแพ๊คกระเป๋าเพื่อไปขึ้นเครื่อง เหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้รกรุงรังเลยคว้าแผนที่อันมากมายก่ายกองทิ้งไปให้หมด เพื่อจะได้เดินตัวปลิวขึ้นเครื่อง พอไปถึงสนามบิน โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด หาพาสปอร์ตไม่เจอ เลยสันนิษฐานว่ามันคงต้องอยู่ในกองแผนที่นั้นแน่ๆ รีบบึ่งแท๊กซี่กลับไปที่โรงแรม ปรากฏว่าเค้าทำความสะอาดห้องเรียบร้อยหมดแล้ว รวมทั้งกำจัดขยะในห้องด้วย สุดท้าย เราก็เลยต้องไปนั่งขุ้ยขยะ กองโต (เค้าจะมีมัดทิ้งเป็นถุงๆ) เพื่อหาพาสปอร์ต โชคดีที่หาเจอ เกือบขึ้นเครื่องไม่ทันแน่ะคะ จากคุณ : InYourEyEs - [ 13 ส.ค. 49 15:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปเที่ยวเกาะ Santorini ประเทศกรีซคนเดียว เดินข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือ ถูกรถเฉี่ยวกระเด็น โชคดีไม่เป็นอะไรมากและถูกชนหน้าโรงพยาบาล เลยหามไปหาหมอได้ทันที หมอบอกว่าให้หยุดพักห้ามเดินเป็นเวลา 3 วัน เรากลับไปนั่งร้องไห้ (นิดหน่อย) ด้วยความเจ็บใจว่า มาถึงดินแดนที่สวยงามขนาดนี้แล้ว กลับต้องนั่งอยู่เฉยๆ  อิอิอิ นอนหลับหนึ่งคืน  วันรุ่งขึ้น ผมก็ออกเที่ยวแล้ว ค่อยๆ เดิน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 1.  ไม่ควรเดินทางคนเดียว 2.  สุขภาพสำคัญที่สุด (อย่าทำตามอย่างผม) จากคุณ : ซานโตโลน่า - [ 13 ส.ค. 49 20:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 1. ไปพัก hostel ที่เมืองทางใต้ของฝรั่งเศส  จำไม่ได้ว่าเมืองอะไร  พอกินอาหารเช้าเสร็จ  ก็เดินออก  พอดีไปเดินออกประตูที่เขาล็อค  คนดูแลเหลือบมาเห็นเข้า  ตะโกนลั่นห้องเป็นภาษาฝรั่งเศส  เผอิญฟังไม่ออก  คงจะด่าว่าเรากินแล้วไม่เก็บมั้ง  แต่คนทั้งห้องหันขวับมามองเราทันที  แถมยังด่าต่อไม่จบ  เราแทบจะร้องไห้  หันไปพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า แล้วเก็บไว้ไหนล่ะ  ผู้หญิงคนหนึ่งใจดี  รีบบอกเราทันที   ก็อ่านภาษาไม่ออกค่ะ  จะให้ทำอย่างไร   2. ที่มาเลเซีย  ไปกินข้าวตอนสองทุ่มแถว YMCA เจอแขกดำ  อ้วน ๆ พยายามจะมาซื้อตัวเรา  หาว่าเราเป็นผู้หญิงอย่างว่า 3. อีกครั้งเจอที่สิงคโปร์  โทรศัพท์ไปถาม dorm แห่งหนึ่ง  ตอนโทรถามเป็นภาษาอังกฤษ  เขาบอกว่ามีเตียงว่าง  มาได้เลย  พอไปถึง  เห็นหน้าเรา  ถามว่ามาจากไหน  เราบอกว่ามาจากไทย  มันไล่เราเลย 4.ไปลอนดอนมา  เจอขโมยทำงานเป็นทีมในร้าน Mark & Spencer  มากระชากกระเป๋าสะพายของเราที่วางอยู่ในรถเข็น  ในนั้นมีเงิน  กล้อง  พาสปอร์ตครบ  เผอิญเราค่อนข้างระวังตัว  ก่อนวางกระเป๋า  ได้ล็อคกระเป๋าไว้กับรถเข็น  เขาเลยดึงออกไม่ได้ 5. ไปคิวบามา  พักอยู่ในเกสต์เฮ้าส์ที่ Santiago de Cuba เจ้าของบ้านมันปิดสวิทช์ไฟฟ้าทั้งหมด  เพื่อไม่ให้เราเปิดแอร์   เรื่องมันแย่ตรงที่ว่าห้องพักของเราอยู่หน้าบ้าน  จะเปิดหน้าต่างก็ไม่ได้  เพราะเดี๋ยวจะทำให้ขโมยเข้ามาได้  ตกลงเราไม่ได้นอนทั้งคืนเลย 6. ไปเมืองเล็ก ๆ ในอิตาลี  นั่งคาเธย์แปซิฟิกไป ทีนีต้องไปนั่งเครื่อง Alitalia ต่อไปเมืองเล็กนี้  เจ้าหน้าที่คาเธย์ทำงานไม่เป็น  ส่งกระเป๋าเราไปลงโรม  ทำให้เราไม่มีกระเป๋าใช้อยู่ 3 วัน  เสื้อใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก  ไม่กล้าซื้อมาก เงินไม่พอ 7. กลับจากเมืองเล็ก ๆ ทางเหนือของอิตาลี  ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 ก็เลยจัดการไม่นอนทั้งคืน  พอไปถึงสนามบิน Alitalia ประท้วง ไม่มีเครื่องบิน  ต้องรออยู่ตรงนั้นกว่าสามชั่วโมง  เพียงเพื่อจะนั่งรถบัสไปต่อเครื่องที่เวนิซ  ปรากฎว่าเครื่องที่เวนิซก็ไม่บินอีก  ต้องนั่งรอไม่รู้อนาคตอีกสองชั่วโมง  ก่อนที่จะไปอาละวาดว่า  ยูต้องรับผิดชอบ  เปลี่ยนให้ฉันบินกลับด้วยการบินไทย  ซึ่งจะมีตอนสามโมงที่กรุงโรม  ก็เลยต้องนั่งเครื่องไปโรม  ก่อนจะได้กลับบ้านในที่สุด ไปก่อนล่ะ  พอดีมีคนมา แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 49 21:13:07 แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 49 21:11:55 จากคุณ : แสงท่าเรือ (แสงท่าเรือ) - [ 13 ส.ค. 49 21:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกความเห็นที่มาเล่าให้ฟังนะคะ จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) - [ 13 ส.ค. 49 21:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แย่สุดที่เคยเจอคือ ไปซิดนีย์ คนเดียว แล้วต้องเถียงกับ ตม. รวมถึง ได้รับเกียรติ เชิญเข้าไปคุยในห้อง เสียเวลาเป็นชั่วโมง มันค้นตัวผมซะละเอียดยิบ ดูพาสปอร์ตผม แล้วถามว่า ไปซูริค ไปทำไม ค้างแค่คืนเดียว รื้อกระเป๋าซะทุกซอกทุกมุม แล้วยังเอาประเป๋าเปล่าไปสแกนอีกรอบ ไอ้เราไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะเราบริสุทธิ์ ไม่มีอะไร เถียงกันไป เถียงกันมา จนผมบอกว่า ช่วย confirm เที่ยวบินขากลับให้หน่อย ไม่เข้าแล้ว มันยังบอกอีกว่า ไม่มีความผิดจะเป็นกลับทำไม ก็บอกว่ามันเซ็ง เรื่องไม่เป็นเรื่อง เหตุเพราะเราไม่เก่งภาษา เค้าถามมา ตอบผิด ตอบถูก พอโดนค้น ก็สงสัยเราเรื่อง ทำไมไปไกลๆ แต่กลับพักแค่ 1 หรือ 2 คืนแล้วกลับ คงคิดว่าผมไปส่งยา หรือไปก่อการร้ายแน่ๆ เซ็งจริงๆ แต่ไม่เข็ด เพราะว่าอาทิตย์หน้า จะไปลุยเมลเบิร์นและซิดนีย์อีก ก็เตรียมใจไว้เหมือนเดิมว่าจะเจออะไรบ้าง จากคุณ : ละอ่อนดึก - [ 13 ส.ค. 49 22:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ครั้ง 1. ไป LA กับ JAL ครับ เครื่องดีเลย์ ตอนเครื่องออกจากไทย ไม่ดีเลย์ นะครับ ไปถึงสนามบินนาริตะ เครื่องบินลงไม่ได้ เพราะเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ดีเลย์ไปเกือบสี่สิบนาที ทำให้ไปต่อเครื่องไป LA ไม่ทัน กว่าจะหาคนรับผิดชอบได้ ก็เหนื่อยเลยครับ ดีนะมีไฟล์ ที่กำลังจะออกไปซานฟราน พอดี เลยไปกับไฟล์นั้น แล้วก็นั่งจาก ซานฟรานมาลง LA เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าควรเผื่อเวลาเปลี่ยนเครื่องไว้เยอะๆ หน่อย เพราะตอนไปครั้งนั้น มีเวลาเปลี่ยนเครื่อง 45 นาทีเองเพราะ คิดว่า ดี ไม่ต้องรอนานๆ จะได้ไปถึงเร็วๆ แต่ผิดคลาด ต้องเสียเวลา อีกตั้งหลายชั่วโมงเลยครับ ครั้งที่ 2. ไปเที่ยวลอนดอนสองสามวันแรกไปเที่ยวกันก่อนก็ไม่มีอะไร พอวันที่สี่ พอดีจะไปส่งน้องเรียนต่อก็เลยถือโอกาสมาเที่ยวก่อน น้องที่เรียนตามมาทีหลัง ก็ได้จัดการเช่ารถ ตอน เก้าโมงเช้า พอประมาณสิบโมงกว่าๆ ขับรถไปรับน้อง แล้วก็ไปหาอะไร ทานกัน ไปจอดรถข้างถนน ซึ่งไม่รู้ว่าห้ามจอด เพราะตอน เราไปจอดมีคนจอดตั้ง เป็นสิบคัน เจอใบใบสั่งครับ แปะไว้ หน้ารถเลย เลยเดินไปดูนึกว่าเราโดนแค่คันเดียว โดนกันหมดเลยครับ ก็ไม่ได้สนใจว่าจะเสียเงินเท่าไหร่คิดว่าเป็นรถเช่า อะไร ประมาณนี้น่ะครับ ก็ขับไปส่งน้องที่ ไบร์ตัน เพื่อไปเรียน ตอนขากลับ ก็อยากแวะเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อน เพื่อตอนคืนรถ จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋า ขึ้นรถไปเข้ามาในเมือง รถเป็นรถ เกียร์ธรรมดาครับ เพราะเห็นว่าเกียร์ธรรดาราคา ถูกกว่าเกียร์ออโต้ แล้วโรงแรมนั้นก็ไม่มีที่จอดรถเลย เราก็จอดไว้ข้างถนนแป๊บเดียวเองไม่ถึงห้านาที ให้แฟนเฝ้ารถไว้ แล้วเราก็เอาของขึ้นไปเก็บ พอดีแฟนขับรถเกียร์ธรรมดา ไม่ได้ ปรากฎว่า ตำรวจที่นั่นไม่ฟังเลยว่า บอกเดี๋ยวคนขับ ก็ลงมาแล้ว เขียนใบสั่งให้อีกใบ เราก็คิดเหมือนเดิมอีกว่า เดี๋ยวบริษัทรถเช่ามันก็จัดการเองแหล่ะเรื่องใบสั่ง พอกลับมาเมืองไทยประมาณ เดือนกว่าๆ มาเลยครับค่าใบสั่ง 2 ใบ 16000 บาท ตัดจากบัตรเครดิตมาเลย ค่าเช่ารถสองวัน สี่พันกว่าบาท เจอใบสั่ง ซะอ่วมเลยครับ เรื่องนี้สอนว่าเวลาจอดรถ ควรดูหน้าดูหลังให้ดีครับที่ต่างประเทศ จอดไม่ได้ก็ไม่ควรจอด เรื่องที่สอง เวลาเช่ารถ ให้เช่าเกียร์ออโต้ไปเลยครับ ดัน ไปประหยัดไม่กี่ตังค์ โดนซะ 16000 เข็ดเลยครับ จากคุณ : ไม่ต้องรู้หรอกว่าใคร - [ 14 ส.ค. 49 01:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องของผมคล้ายๆกับ #14 เลย แต่เป็นแป็บซี่ ไปเยื่อยมน้องที่ ปีนัง มาเลฯ ไปเจอแป็บซี่จำไม่ได้ว่ารุ่นอะไร แต่มีที่มาเลเซียที่เดียว กินดูแล้วติดใจ เลยยกแพ็คกลับมาทั้งลัง มี 32 กระป่อง คราวนี้ผมแพ็คใส่ในกระเป๋าลาก วางให้สวยงาม และเอาเสื้อผ้าวางทับไว้ข้างบนแป็บซี่อีกที คราวนี้ไปสนามบิน และตรวจเพื่อจะเอากระเป๋าโหลด ตอนผ่านเครื่องX-ray ภาพมันเป็นก้อนสี่เหลื่ยมใหญ่ๆ แถมมีผ้ามาปิดอีก เขาเลยเรียกตรวจ ซึ่งมันเรียกไม่ธรรมดาด้วยซิ มันเรียกตำรวจในนั้นอ่ะไม่รุ้เรียกว่าอะไรเหมือนกัน มาล้อมผมไว้ แล้วก็มีอยุ่คนมีงจับปืนด้วยนะ ประมาณว่ามรึงตุกติงกรูยิงทิ้งทันที ตอนนั้นคนที่สนามบินเริ่มแตกตื่นละ ก็มันจะไม่แตกตื่นได้ไง เจ้าหน้าที่มาไม่ต่ำกว่า 10 คน ล้อมหน้าล้อมหลัง จับปืน แล้วบอกให้คนอื่นไปช่องอื่นแทน คือมันปิดช่องนี้เพื่อผมเลยอ่ะ ตอนนั้นหน้าผมเริ่มถอดสีละ แล้วมันก็ถามผมว่าในนั้นมีอะไร ผมก็บอกว่าแป็บซี่ มันบอกว่าจริงอ่ะ ที่บ้านไม่มีแป็บซี่หรอถึงซื้อเยอะอย่างงี้ ผมก็มันว่าที่ไทยน่ะมี แต่รุ่นนี้มันไม่มี ตอนนั้นยังไม่เปิดกระเป๋าด้วยนะ ยืนคุยอย่างนี้ประมาณ ครึ่งขั่วโมง ซึ่งมันก็ไม่เปิดกระเป๋าตรวจซักที จะได้จบหมดเรื่องหมดราว ผมเลยตัดสินใจเดินไปเปิดกระเป๋า ให้มันดูว่านี่อ่ะแป็บซี่เชื่อยัง แถมแกะเอาออกมาดื่อโชว์ด้วย เท่านั้นแหล่ะ ไอ้10กว่าคนที่ล้อมผมตั่งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว หายไปไหนหมดไม่รุ้ แถมยังมีการบอกด้วยนะว่า เอ้าทำไมไม่บอกว่าเป็นแป็บซี่ ไม่งั้นปล่อยไปตั้งนานแล้ว ตอนนั้นนี่อยากเอาเท้าทาบหน้ามันจริงๆ กรูบอกพวกมรึงแล้วนะ เสียเวลามากๆเพราะยังไม่check-inเลย flightเช้าด้วย ข้าวก็ยังไม่กิน รีบมาจะได้มีเวลาทำอะไรฟหลายๆอย่าง เจออย่างงี้แล้วเซ็งเลย จากคุณ : HARDYTOON - [ 14 ส.ค. 49 02:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ยุโรปค่ะ ไปกันสองคน ตอนที่จะออกจากอิตาลีไปสวิส จองรถไฟตู้นอนกลางคืนผ่านทางเนต ไป confirm ตั๋วกับเจ้าหน้าที่ๆนั่นเรียบร้อย พอใกล้ๆรถไฟจะออก ยังไม่รู้ชานชลาซักที แต่มีประกาศภาษาอิตาลีว่า supresso จนเริ่มวิตกกังวล เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ๆเดินผ่านมา ดั๊นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ บอกแต่ว่า... ยู โก ๆ บอร์ด (ประมาณว่าให้ไปดูชานชลาเองที่บอร์ด) เราก้อบอกว่ามันไม่บอกชานชลา จนมีผู้หญิงอิตาลีคนนึงเดินผ่านมาแล้วหยุดฟัง เค้าเลยช่วยดูให้ แล้วบอกว่ารถไฟสายนี้ cancelled โอ้....ช็อค ไปเลย ทำอะไรไม่ถูก ผู้หญิงคนนั้นก้อใจดีปลอบว่า ไม่เป็นไรให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตั๋วเดี๋ยวก้อได้ตั๋วใหม่ ที่นี่ก้อเป็นแบบนี้แหละ รถไฟยกเลิกมีประจำ พอเรามาถึงเคาท์เตอร์ตั๋วคนไม่เยอะมาก แต่มีเจ้าหน้าที่อยู่คนเดียว(ที่เหลือเป็น domestic ticket) แต่กว่าแต่ละคนจะซื้อตั๋วได้ ไม่มีใครใช้เวลากว่า 10 นาที ตอนนั้นทั้งเครียด ทั้งเหนื่อย คนข้างหลังเค้าถามว่าเรามาทำอะไร รีบรึเปล่า เค้ารีบ ขอก่อนได้มั๊ย ไม่มีทางซะล่ะ วินาทีนั้นจะหาว่าใจจืดก้อไม่สนแล้ว เครียดมาก จะ 5 ทุ่มอยู่แล้ว และแล้วก้อถึงคิวจนได้(จับเวลายืนรอประมาณ 1ชม. 20นาที) เจ้าหน้าที่ผู้หญิงหน้าบึ้งบอกว่า เราต้องทำเรื่องขอ refund ตั๋วแล้วจะ debit ให้ทางบัตรเครดิต เราบอกว่าหักเงินไปเลยได้มั๊ย เค้าบอกไม่ได้ ซื้อใหม่ต้องเสียเงินใหม่ ส่วนเงินคืนต้องทำเรื่องทิ้งไว้ก่อน เซ็ง...เอาก้อเอา(ฟะ) ซื้อตั๋วใหม่ก้อได้ รถไฟเร็วสุดก้อต้องตอน 7 โมงเช้า ไปถึงก้อ 5โมงเย็น เสียดายค่าสวิสพาสไปวันนึงเลย แถม refund form ดันเป็นภาษาอิตาลี(ไม่มีภาษาอังกฤษซักนิดเลย) ต้องกรอกไปถามไป เจ๊แกก้อยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ (ฮึ่ม...ชั้นคนไทย ไม่รู้ภาษาอิตาลีมันผิดตรงไหน) กว่าจะกรอกเสร็จ ซื้อตั๋วใหม่ ก้อปิดทำการพอดี พนักงานก้อมาไล่คนข้างหลัง(พอหันไปมองตกใจมากคนมาต่อคิวอีกเกือบ 20 คน) ว่าพรุ่งนี้ค่อยกลับมาใหม่ปิดแล้ว ทุกคนโวยวายกันใหญ่ เรารู้สึกผิดเล็กน้อยแล้วสงสารคนพวกนี้มาก ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น แล้วคืนนี้เค้าจะทำยังงัยกัน ว่าแล้วห่วงตัวเองดีกว่าเราก้อไม่รู้จะไปนอนที่ไหนเหมือนกัน โทรกลับเมืองไทยหาพี่ พี่บอกว่าอันตรายมากถ้าจะนอนที่นั่น คนจรจัดเยอะแล้วไปแค่ผู้หญิง 2 คน หาโรงแรมดีกว่า ลากกระเป๋าเดินกลับโรงแรมเดิม เจ้าของโรงแรมบอกว่าห้องเต็มแล้ว วันนี้คืนวันศุกร์หาห้องยากนะ ว่าแล้วเค้าก้อช่วยโทรหาเพื่อนๆเค้ามาใครมีห้องว่างเหลือบ้าง ไม่มีซักราย เราเลยต้องเดินคอตกออกมาเดินหาโรงแรมเอง หาเป็นสิบๆที่ เต็มหมดเลย เดินวนไปวนมาแถวสถานี จนมีฝรั่งเห็นเรากับเพื่อนเดินไปเดินมาเลยเข้ามาถาม r u ok? ซึ้งในน้ำใจน้ำตาแทบไหล แต่ไม่รู้ว่ามาดีรึเปล่า เลยบอกไม่เป็นไร เรากำลังหาโรงแรมเดินไปเดี๋ยวก้อได้ เดินไปอีกก้อเจอคนเดินเข้ามาถามว่าหาห้องเหรอ เค้าพาเราไปหา hostel ได้ ตามมาๆ เราบอกไม่เป็นไร แล้วรีบเดินหนี เค้าก้อเดินตามตื้อจนหน้ากลัว จนกระทั่งเจอโรงแรมนึงว่าง 1ห้องแต่เป็นห้องแบบ 3 คน(ราคาก้อเลย3คน) 120 ยูโร โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...แพงมาก โรงแรมก้ออยู่ในหลืบดูเก่าๆทำมัยคิดแพงอย่างนี้ แถมก้อเที่ยงคืนกว่าแล้ว เราต้องออกตั้งแต่ 6 โมงอาหารเช้าเราก้อไม่เอา เค้าก้อไม่ยอมลดให้เลย บอกว่าไปนอนสถานีรถไฟน่ากลัวนะ ยูควรพักที่นี่แหละ(เป็นห่วงกันจริงใจมากเลย) สุดท้ายเจอแหม่มอเมริกาคนนึงตกรถไฟเหมือน จากการพูดคุยแล้วก้อน่าไว้ใจได้  เลยชวนกันแชร์ห้องกัน พอบอกเจ้าของโรงแรม เจ๊ก้อบอกว่า 3 คนต้อง 150 ยูโรนะ วินาทีนั้นไม่ต่ออีกแล้ว ไม่ไหวแล้ว(แต่ในใจ...จำไว้เลยนะเจ๊) คืนนั้นพอเข้าห้องทุกคนไม่อาบน้ำ ...หลับเป็นตายเลยค่ะ วันรุ่งขึ้นก้อได้ขึ้นรถไฟไปสวิสสมใจ แต่....รถไฟมีที่นั่งว่างพอเยอะ ทำมัยที่นั่งเรากับเพื่อนถึงนั่งหันหน้าเข้ากัน แต่นั่งกันคนละ ฝั่งของหน้าต่าง เรานั่งติดหน้าต่างฝั่งขวาของรถไฟ เพือนเรานั่งติดหน้าต่างอีกด้านนึง(ฝั่งซ้าย) ....ไม่มีคนมานั่งด้วยซะหน่อย....จนอดคิดไม่ได้ว่ายายพนักงานจองตั๋วคนนั้นมันจงใจรึเปล่า นี่แหละค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีที่สุดที่เคยมีมา แต่ตอนนี้มาย้อนคิดถึงเหตุการณ์ก้อสนุกดี ประทับใจมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 49 10:36:09 จากคุณ : Pobi_jang - [ 14 ส.ค. 49 10:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประสบการณ์บอกเพื่อน ๆ รถไฟ กับสายการบินของอิตาลีและฝรั่งเศส ชอบหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกค่าแรงสูงขึ้น เพราะฉะนั้นทั้งสายการบินและรถไฟจะยกเลิกบ่อย ๆ เราไม่รู้สำหรับกรณีของรถไฟ แต่ถ้าเป็นสายการบินปุ๊บ ไปเฉ่งเลย ทางสายการบินจะต้องรับผิดชอบแม้ค่าห้อง และเที่ยวบินใหม่ ตอนเราบินตอนนั้น นั่ง Alitalia แค่ domestic แล้วไปต่อ คาเธ่ย์เพื่อกลับเมืองไทย แต่เพราะการประท้วงนี้แหล่ะ ทำให้ต่อเครื่องคาเธ่ย์ไม่ทัน แต่กรณีนี้เกิดขึ้น เขาจะต้องรับผิดชอบ เผอิญเรารู้ว่า การบินไทยจะบินต่อหลังจากนั้น เราก็เลยโม้ว่า ยูทำให้ฉันเสียหาย ฉันจะต้องกลับไปทำธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องกลับวันนี้เท่านั้น เขาก็เลยให้เราบินการบินไทยเลย แหะ แหะ ดีกว่าเดิมเสียอีก อีกอย่าง ถ้าทำประกันการเดินทางแบบรวมทุกอย่าง เขาจะรับผิดชอบค่าห้องพักด้วยค่ะ แต่เสียแพงหน่อยเท่านั้น ถ้าจะไปอิตาลีและฝรั่งเศสเมื่อไร ควรจะยอมลงทุนสักหน่อย เพราะเขาขยันประท้วงกัน ตัวเองไปสองประเทศนี้ทุกปี ก็เจอตลอด ปีนี้เจอสามครั้งที่อิตาลี จากคุณ : แสงท่าเรือ (แสงท่าเรือ) - [ 14 ส.ค. 49 12:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม...จะว่าแย่ ตอนเจอก็รู้สึกแย่นะคะ แต่พอผ่านมาแล้วก็ตลกดี และกลายเป็นความทรงจำดีๆ ได้ซะอีก - ที่สเปน จำไม่ได้แล้วค่ะว่าเมืองอะไร แต่เป็นเมืองเล็กๆ ไปกับเพื่อน สงสัยว่าจะเช้าไปหน่อย กลุ่มของไอซ์จะหาของกิน เดินตั้งนานเจอร้านนึง สั่งอาหารแล้ว รอนานมากกกกกก และพออาหารมา สั่งหมูสเต็ก กลายเป็นหมูดิบอะ แถมยังมีพลาสติกห่อหมูติดมาอยู่เลย เจ้าของร้าน - เด็กเสิร์ฟไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น แถมพวกนั้นพูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เซ็งไปเลยอะค่ะ งือ - อียิปต์ ฮะๆๆ อันนี้ประสบการณ์สุดแสบในชีวิตค่ะ เดินทางอยู่ใน อียิปต์สามสัปดาห์ ปรากฎว่า วันสุดท้ายจะขึ้นเครื่องตอนกลางคืน ไอซ์กับเพื่อนสาวอีกคนก็ไปเดินเล่นที่ อัล มาทฮาฟ และแวะกิน อาหารที่ มิดาล ทาริล ... เคเอฟซี ค่ะ ... กินๆ อยู่ กระเป๋าสะพายของไอซ์ หายไปทั้งใบเลยค่ะ ทุกอย่างอยู่ในนั้น พาสปอร์ต กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ กล้อง ((พร้อมฟิลม์ที่ถ่ายแล้วอีก 3 ม้วน)) ฯลฯ พนักงานในร้านดันบอกให้ไปหาตำรวจท้องที่ ((ตำรวจท่องเที่ยวก็มี ดันมารู้ทีหลัง)) ตำรวจท้องที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย กร๊ากกก ของไอซ์พูดอารบิค ได้ติ๊ดนึง สื่อสารกันอยู่ตั้งนาน กว่าจะมีตำรวจพูดภาษาอังกฤษได้โผล่มา ไปๆ มาๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้อะค่ะ ได้แต่แจ้งความ แล้วตรงไปสถานทูตไทย เพื่อทำพาสปอร์ตใหม่ ... ดันติดวันหยุดของอียิปต์อีก เลยได้อยู่ต่อ อีกสัปดาห์นึงอะค่ะ เหอๆๆๆๆ แต่ก็เป็นอีกสัปดาห์ที่สนุกดีค่ะ ได้ไปอยู่บ้านท่านทูตไทยในอียิปต์ ได้เที่ยวต่ออีกนิด ถึงจะตุ๊มๆ ต่อมๆ แถมหมดตัวก็ตามที ฮี่ๆๆๆ .... ที่อื่นก็มีนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่มากมายอะไรค่ะ แต่ยังไงก็ยังชอบเดินทางอยู่ดี เพราะความทรงจำดีๆ มีมากกว่าอะไรแย่ๆ อะค่ะ  ^^ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 49 13:26:14 จากคุณ : Clear Ice - [ 14 ส.ค. 49 13:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบอ่ะ ขอมั่ง ตอนไปสิงค์โปร์ กำลังจะขึ้นเรือสตาร์ครูซ เจ้าหน้าที่สาวแก่หน้าเจ๊ๆหน่อยกำลังจะสแกนกระเป๋าผม แล้วเธอก็ตะโกนมาเป็นภาษาอะไรบางอย่างว่า "พุก ยอ เซลโฟง อิง ดา แบ็ก" ผมก็ "หา...." เธอทำหน้ารำคาญประมาณไอ้นี่โง่ พูดไม่รู้เรื่อง "พุก ยอ เซลโฟง อิง ดา แบ็ก" ผมก็อึ้งอีกสัก 3 วินาที อ๋อ Put your cellphone in the bag โถ...นังเจ๊สิงค์ลิช สำเนียงหล่อนน่ะสุดยอดมากเลยนะ ยังมาทำเป็นค้อนใส่เค้าอีก จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 14 ส.ค. 49 13:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ที่อาเจนติน่า ตอนขาเข้า โดน ตม. กักตัวค้น เป็นชม. คุยก็ไม่รู้เรื่อง ทางโน้น ก็พยายามจะพูดช้าๆ ชัดๆ เราก็ just say "dunno ว้อยย"  ฮ่าๆๆ จะพูดช้าแค่ไหนก็ฟังไม่ออก เข้าจ๋ายย??? ตอนหลังเค้าเอาล่ามมา เรื่องของเรื่องคือตอนนั้นเราถือ วีซ่านร. อยู่ 3 ประเทศ เค้าเลยงง  (แค่เนียะ??? ทำเราตกเครื่องบินนะเฟ้ยย) ตอนขาออก วันจะกลับ (ต้องกลับวันนี้เพราะถ้าไม่กลับมันนั้นจะติดประท้วง) แต่ดวงซวย โดนล้วงกระเป๋าตอนกลางคืน บนรถเมลล์ ก็เลยไปหมดเลยพวก เงินสด บัตรเครดิต ที่โมโหมากคือ ใบขับขี่ เพราะตอนนั้นมีใบขับขี่ที่คิดเอาเองว่ารูปเราสวยมากๆๆ ฮ่าๆๆๆ  กลับมาเข้าเรื่อง ก็เลย กลับบ้านไม่ได้ ต้องรอ ทำเรื่อง ไปแจ้งตร. แล้วก็ต้องโทรกลับมาให้พ่อแม่ อาญัติบัตรให้ที่ไทย แล้วก็ต้องทำบัตรใหม่ด้วย แล้วก็ต้องรอ 3 วันกว่าบัตรใหม่จะส่งมาถึง เพราะเมืองที่อยู่ไม่มี ที่ทำการของ amex สุดท้าย ก็เลย ติดประท้วง สนามบินปิด ก็รอ วันนึง สองวัน สามวัน ดูไม่มีแววจะเปิด ก็ต้องซื้อตํวรถบัสเอา เพื่อจะเดินทางกลับ ติดต่อไปที่สายการบินเค้าไม่ refund ให้เพราะเงื่อนไข คือให้รอจนกว่าจะหยุดประท้วง ************** ข้ามประเทศมา ที่ alitalia จองตั๋วไว้เรียบร้อย ปรากฏว่า สายการบินเปลี่ยน เครื่องบิน มาเป็นลำที่เล็กกว่า เราไปเชคอิน คนหลังๆ เครื่องเต็ม - -' สายการบินให้ไปเที่ยวถัดไป (รออีก 6 ชม.) หรือไม่ก็เอาเงินคืนไป ง่ายเน้อะ ฮ่าๆๆๆ ก็เลยเอาเงินคืนมากก็ได้ ได้มา 4 ล้าน!! (ลีร์ นะ ม่ะใช่บาท ฮ่าๆๆๆ) เอามานั่งแทกซี่ไปแทน จ่ายไปไม่กี่แสน ฮ่าๆๆ สมัยก่อนยังไม่ได้รวมเป็นยูโรอ่ะ แล้วก็โดนตำรวจจับ ตั๋วรถไฟที่โรม จะต้อง validate ซึ่งเราก็ได้จิ้มเข้าเครื่อง แล้ว แต่เครื่องมันห่วย ไม่ปั๊มตั๋วเรา เราก็ไม่ได้มอง ออกจากสถานี มีตำรวจมารอเชค ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ ก็ยื่นตั๋วไป ตร. บอกว่า เราไม่ได้ validate ตั๋ว ต้องออกใบสั่ง ต้องจ่ายค่าปรับ เราก็ไม่ยอม บอกว่าเราทำแล้ว แต่ทำไมเครื่องห่วยเอง ไม่ปั๊ม เราไม่ผิด ยืนเถียงกันเป็น ชม. สุดท้ายไอ้ตำรวจหน้าหม้อ มันเลยหยวนๆ แต่มันขอจุ๊บ ทีนึง ฝันไปเหอะ แล้วก็รีบๆ เดินไป เช้อะ! ไม่มีทาง ************** ข้ามมาใกล้ๆ เพื่อนบ้าน ตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก เผอิญ เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่โตเกียว นิดหน่อยเอง ตอนเย็นๆ แค่สั่นๆ ก็ไม่ได้คิดไร เดินเที่ยวต่อ จนกระทั่ง ค่ำๆ ก็เดินมาที่สถานีรถไฟ จะกลับที่พัก กลายเป็นว่า รถไฟยกเลิก ถามใครก็ไม่มีใครช่วยบอกว่าทำไม พยายามจะหาสาเหตุ แล้วก็อยากรู้ว่าจะหาทางกลับที่พักยังไง ถามคนเป็นยี่สิบ ทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชนเดินถนน ไม่มีใครคุยกับเราเลย แถมโดนตะคอกกลับว่า NO ENGLISH! ตอนนั้นเกลียดคนญี่ปุ่นไปเลยนะ แล้งน้ำใจมาก จนสุดท้าย มาถามพนักงานที่ขายตั๋วคนนึง เธอก็ยังยืนยันตอบคำเดิม NO TRAIN!! เราเหลืออด ขอด่าซักที เหอะ ไม่ไหวแล้ว อ้าว ฟังออกนี่หว่า แล้วเธอก้เลย บอกว่า ต้องทำการตรวจสอบราง ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดบริการ เมื่อไหร่ เราถามแล้วมีทางอื่นกลับบ้านได้มัย IT IS NOT MY BUSINESS! เธอใช้คำนี้ รู้สึกแย่มากๆ พยายามจะโทรหาคนรู้จัก ก็ใช้โทรศัพท์สาธารณะไม่เป็น (ยกหูมาแล้วฟังไม่ออก กำ - -') สุดท้ายก็เลย  ต้องเรียกแทกซี่เอาก็ได้ คุยไม่รู้เรื่องหรอก แต่เอานามบัตรโรงแรม ให้คนขับดู ก็เลยถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ แต่หมดค่าแทกซี่ไปน่วมเลย แต่หลังจากนั้น ต้องไปญี่ปุ่นอีก เลยซื้อ lonely planet มาอ่าน จำเบอร์ที่จำเป็นจนขึ้นใจ แล้วก็ซื้อ phrase book ,มาติดกระเป๋าไว้ด้วย เพราะเข็ดเลย ฉุกเฉินขึ้นมา สื่อสารไม่รู้เรื่อง จากคุณ : PAPA BUENO - [ 14 ส.ค. 49 14:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ก็ยังชอบเที่ยวอยู่นะ หลังจาก ญี่ปุ่น ก็เลยทำให้เราทำการบ้านมากขึ้นเวลาจะไปเที่ยวไหน โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารเนียะแหละจ้ะ :D จากคุณ : PAPA BUENO - [ 14 ส.ค. 49 14:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สงสารคุณ PAPA BUENO จัง   เป็นผมคงร้องไห้ประชดมันไปแล้วพวกญี่แปนนี่ จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 14 ส.ค. 49 14:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หูย เข้าใจความรู้สึกคุณ PAPA BUENO จริงๆ เรื่องญี่ปุ่น เวลาเจอตะคอกว่า NO ENGLISH แล้วสะดุ้งทุกทีเลยอ่า ฮา พอพยายามพูดภาษาญี่ปุ่น ((พูดได้ตี๊ดดดดนึง)) บางคนก็ไม่ค่อยจะช่วยเหลือด้วย ((สงสัยว่าจะฟังไม่ออกยิ่งกว่าภาษาอังกฤษของเรา ฮา)) ย้ำว่า บางคนนะคะ บางคนก็น่ารักมากๆ โดนตะคอกซะจนชินค่ะ หน้าหนาไปเอง ถามคนอื่นก็ได้ ((วะ)) ..... อีกเรื่องค่ะ เพิ่งนึกออก อันนี้แย่ปนฮา ในปรากที่เชคค่ะ ... ไปอยู่ 4 วัน โดนล้วงกระเป๋าแบบจับได้จะๆ สองวันติดๆ กันเลยค่ะ ครั้งแรกในรถราง รู้สึกว่ากระเป๋ามันกระตุกๆ หันไปมอง มือของมันยัง อยู่ในกระเป๋าข้าพเจ้าเลย ตะโกนลั่นรถค่ะ ฮา ไม่มีใครสนใจ นายนั่นก็ไม่รู้ไม่ชี้ พอถึงป้ายต่อไป ก็ลงรถ ง่ายๆ ซะงั้น รอบสอง เดินๆ อยู่ในเมือง ย้ำว่า "กำลังเดินอยู่ในเมือง" นะคะ รู้สึกว่าด้านหลังมันตึงๆ หันไปมอง เป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายกลุ่มหนึ่งค่ะ และหนึ่งในนั้นมือกำลังพยายามแกะซิปของเราอยู่ค่ะ คือเราเดินอยู่หน้า มันประกบอยู่หลัง พยายามล้วงกระเป๋าเราอะ โหย...ซึ้งมากๆ ต้องระวังเรื่องกระเป๋ามากๆ ค่ะ แต่คราวนั้นไม่มีอะไรหายนะคะ จากคุณ : Clear Ice - [ 14 ส.ค. 49 16:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนไปเบลเยี่ยม ในโปรแกรมทัวร์มีพาไปชมโรงงานช็อคโกแลต แต่คนขับรถบอกว่าไปไม่ถูกไม่พาไป งงมาก หัวหน้าทัวร์เลยติดต่อทางโรงงานให้มารับ มานำทางเข้าไปโรงงาน แต่ว่าทางโรงงานกลับบอกว่าไม่สามารถออกมารับได้ ความฝันของทุกชีวิตบนรถ ดับสลาย มีโอกาสคราวหน้าจะไปถล่มโรงงานช็อคโกแลตให้ได้ คอยดู นึกขึ้นได้อีกครั้งนึง ตอนกลับจากฝรั่งเศส ได้ที่นั่งริมทางเดิน ตอนที่นอนอยู่ชายชาวต่างชาติที่นั่งด้านใน ปีนก้าวข้ามตัวเราออกไปเข้าห้องน้ำ  รู้สึกแย่มาก เพราะว่าข้ามทั้งหมด 4 รอบ แล้วเราคล้องพระไว้ที่คอ ซึ่งเราถือมาก เราไม่ชอบเลย แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะพูดไปเค้าก็อาจจะไม่เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 49 12:54:24 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 49 12:53:41 จากคุณ : moo por (moo por) - [ 14 ส.ค. 49 19:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนไป ออสเตรเลีย กล้องถ่ายรูปหายที่รัฐสภา เซ็งมาก หายตอนเข้าเครื่องสแกนกระเป๋าที่เหมือนตามสนามบิน เซ็งมาก พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่นั่นเขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย บอกปัดปฏิเสธทุกอย่างแย่มากๆ แล้วมาหาว่า พวกเราโกหกอีก จะบ้าตาย จะไปโกหกเพื่ออะไรมิทราบ เสียทั้งเวลาและอารมณ์ จากคุณ : farfalla - [ 14 ส.ค. 49 21:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ clear ice เราก็ว่าปกติเราก็เจอคนญี่ปุ่นน่ารักอ่ะ แต่ทำไมวันนั้นมันเจอแต่อะไรก็ม่ะรู้ T_T เรื่องยิปซี พอเราอ่ะ เคยโดนล้วงบนรถไฟ แบบ มันมากันเป็นทีม (พ่อบอก) คนนึงมาสะกิด พอหัน อีกคนมาประกบจะล้วง ถ้าไม่ได้อีกคนมาจับมือ อีกคนจะล้วงประมาณเนียะ แต่พ่อเราเค้าโหด เค้าผลักเลย แล้วด่าไล่ อีก ฮ่าๆๆๆ ไอ้เด้กไหนเอามือมาจับพ่อเราก็จับมันมั่ง สุดท้ายพ่อบอกมันก็งึมงัมๆ หันไปล้วงคนอื่นต่อ - -' อ้อๆ เรานึกออกอีกแระ มาเล่าอีก อิอิ เคยต้องบินกะสายการบิน ศรีหลังคา ตอนนั้นนั่ง แถวกลาง (แถวกลางจะมีเก้าอี้ผู้โดยสาร 4 ตัว) คุณเพื่อนนั่งริมทางเดิน เรานั่งตัวใน ติดกะเราไม่มีคนนั่ง แต่ริมอีกด้านมีแขกผู้ชายนั่งอยู่ พอนั่งๆไปซักพัก อยู่ดีๆ มีแขก โผล่มาจากไหนไม่รู้ ปีนข้ามตักคุณเพื่อน ข้ามตักเรา แล้วก็มาหย่อนก้น นั่งที่เบาะข้างๆ เราเฉยเลย เราตกใจมากเลยนะ แต่แขกคนนั้นเหมือนจะรู้จักกะแขกอีกคนที่นั่งริมอีกด้าน ก็เห็นเค้าคุยกัน (ก็ไม่ได้ว่าไร ..แต่แอบด่าในใจ ไร้มารยาทจังวุ๊ย) แป๊บนึงไอ้คุณแขกหันมาจะคุยกะเรา เราก็เลยหันขวับ ทำหน้าตุดใส่มัน ก็ไม่อยากคุยนิด มาเหยียบตรูแล้วยังจะมีหน้ามาคุย แล้วไอ้คุณแขกนั้น มันก็เลยปีนเอาขาแหย่เข้ามาจะข้ามมาอีก เราก็เลยโวยย บอกว่า เฮ้ย!! ไปออกทางเพื่อนแกโน่นเด่ มาข้ามไรทางนี้ละ คุณแขกก็ โน โน โน ทำหน้ากวนตื๊บมาก แล้วมันก็ผลักเราแล้วมันก็ปีนข้ามเรา ข้ามเพื่อนเราออกไปหน้าตา เฉย เก็กซิมเจงๆ แล้วก็ที ศรีหลังคา เนียะได้ไปเดินเที่ยว ที่วัดอะไรก็ไม่รู้ แล้วแบบมีแขก อุ้มลูกเดินตาม T_T ท่าทางน่ากลัวมากเลย อุตส่าห์เดินหนี แขกก็เดินตาม ฮาโหล~~ ฮาโหล~ เราน่ะ อย่างกลัวเลย ไล่ ก็ไม่ไป ตอนหลังมีคุณพี่ผู้ชาย เค้ามาช่วยไล่ - -' ขนาดในวัดในวาก็ไม่เว้น *************** เอาเรื่องตลกๆ มั่งม๊ะ ที่อิตาลี เราเข้าร้านอาหาร ไปกะคุณพี่อีกคนนึง กะว่าจะสั่งอาหารคนละอย่าง แล้วมาแบ่งกันกิน แต่ไม่รู้ตอนสั่งคลาดเคลื่อนยังไง ได้มาสองอย่าง สองชุด!!! - -' ก็เลยต้องกินกันจนหมด (ด้วยความงก) ฮ่าๆๆๆ แล้วไงรู้ป่ะ เราอ่ะ แน่นพุง มากเลย จนต้องปลดกระดุมกางเกง แล้วเผอิญซิปมันหลวมอ่ะ พอเดินๆซักพัก กางเกงมันหลุด!! อ๊ากกก!! ก็เลยต้องเดินๆ ดึงๆ เอา  อายอ่ะ ^^" ************ ต่อไปเรื่อง แหว่ะๆ ใกล้ๆบ้าน นะ ตอนไป สปป.ลาว อ่ะ ทั้งทริปดีหมดเลย แต่ว่า แบบมีเด็ก เอาเนื้อเก้งมาขาย เราก็ไม่เคยกินก็เลยซื้อมา เน้อเก้งที่ว่าอ่ะ มันเป็นเนื่อเค็มตากแค้ง กินก็เหนียวๆ เค็มๆดี แต่ว่าพอกินเสร็จ กลับมาอ่ะ มีคนทัก ว่า เฮ้ย ไปซื้อ เก้งเอ๋งมาแหงๆเลย เราก็ยังไร้เดียวสา ไม่รู้จักเก้งเอ๋ง ก็เลยถาม ได้คำตอบมาว่า เก๋งเอ๋ง อ่ะ หมาไงเล่า เท่านั้นแหละ ไอ้เก้งเอ๋ง ที่กินไปมันขยอกออกมาเต็มปากเลย แหวะๆๆๆ ความรู้สึกอยากจะตายเป็นไง ตอนนั้นคิดออกเลย T_T จบแระค่ะ ไว้นึกไรออกอีกมาเล่า จากคุณ : PAPA BUENO - [ 14 ส.ค. 49 23:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราเคยตอนบินกลับมาจากเวียนนา (ไปเที่ยวแบคแพคคนเดียว  ตอนอายุ18)   บินคนเดียว  ทีนี้ที่นั่งมันเป็นแถวสี่ที่นั่ง ก็มีพ่อ(อายุประมาณห้าสิบ)  แม่(สามสิบปลายๆได้) และลูก (เด็กอายุประมาณเจ็ดแปดขวบ)  ทีนี้เราก็ย้ายที่นั่งจากที่เดิม  ที่จอทีวีมันเสีย  เราก็บอกแอร์ ขอเปลี่ยนที่  เขาก็ให้เรามานั่งที่แถวสี่ที่นั่งของครอบครัวนี้ ทีนี้พอเรานั่งไปได้สักพัก  เราเห็นเขาพูดภาษาไทย  เราก็เลยทักทาย  เออแฮะ  ดีใจที่เจอคนไทย  ได้นั่งด้วยกัน   แรกๆ ยัยแม่ที่นั่งข้างๆเราก็ดีอ่ะค่ะ  พอเรานั่งไปได้สักพัก       เขาก็บอกว่า  "ถ้าจะนอน  กลับไปนั่งที่เดิมได้มั๊ย  จะได้ให้ลูกชายนอน" (ประมาณว่า  ตัวเองจะเอาที่นั่งสองที่นั่งให้ลูกชายนอน)    เราก็บอกว่า  "ไม่ได้ค่ะ  แอร์จัดที่ให้แล้ว  เราไม่ย้ายไปย้ายมาแล้วนะ" (คือพ่อเราเป็นไกด์  เคยสอนว่าถ้าใครขอมาแลกที่  อย่าแลก พูดถึงเรื่องแลกที่แล้วนึกถึงทัวร์จีนทุกที  ทำไมเขาชอบแลกที่กันจัง  อ้อ  และพ่อเราสอนว่า  ถ้าแอร์เปลี่ยนที่นั่งให้แล้ว  ไม่ต้องย้ายที่อีก  ไม่งั้นเราก็จะย้ายที่อยู่อย่างนั้น)    เขาก็ดูไม่พอใจ   พอตอนที่เขาจะลุกไปเข้าห้องน้ำ  เขาแกล้งเหยียบเท้าเราอ่ะ  เต็มๆเลย  เหยียบแบบตั้งใจด้วยอ่ะ  แบบ  หันหน้ามาหาเราและทำหน้าไม่พอใจอย่างแรง  พอคุณเธอไปเข้าห้องน้ำเสร็จ  เราก็เบี่ยงตัว  ให้คุณเธอเข้าไปนั่ง      สักพักเราก็ได้ยินเสียงคุณเธอ  ทำเป็นคุยกับสามีตัวเองเสียงดังว่า "ดูสิ  คนไทยด้วยกันไม่มีน้ำใจเลย" และคุณเธอก็ว่าเราต่างๆนาๆ  ว่า " เป็นเด็กไม่ดียังงั้นยังงี้  ดูซิเป็นเด็กผู้หญิงมาเที่ยวคนเดียว  มาทำงานอะไรกันแน่"       !!!??  งงค่ะ  เป็นทริปขากลับจากเวียนนาที่ทำเอาหมดสนุกไปเลย  เข็ด  ทำเอากลัวไม่กล้าทักคนไทยด้วยกันบนเครื่องไปเลย แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 49 01:06:02 จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) - [ 15 ส.ค. 49 01:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เหอๆ  เจอมาหมดแล้วค่ะ ตัวเหม็น  ตัวใหญ่ ต้องนั่งกลางระหว่างอาหรับร่างยักษ์ คุยข้ามหัวเรา น้ำลายกระเด็นมาแปะ ที่ถาดอาหารเราด้วย หลงทาง จนต้องหาที่พักใหม่ ก้อเคย เมารถอ้วกแตก ก้อเคย แต่ที่แย่ๆสุดๆ จริงๆ  ก้อพาสปอร์ตหายนี่แหละค่ะ แบบที่ต้องเดินทางต่อไปประเทศอื่นด้วยนี่ ยิ่งเซ็งหนักสุดๆ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นฟ้า จากคุณ : เพิ่งหายมะวานซืน (letsgokrabi) - [ 15 ส.ค. 49 03:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาบอกอีกรอบ ชอบกระทู้นี้จัง ทุกท่านประสบการณ์สุดยอด จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 15 ส.ค. 49 10:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กระทู้นี้สนุกดีจัง ขอเล่ามั่ง เราเจอที่อิตาลี หลายปีมาแล้วล่ะ ตอนนั้นไปเที่ยวเวนิส หลังจากเดินชมเมืองซะขาลาก หิวก็หิว เข้าร้านอาหารได้ ก็สั่งทันที สั่งกับ ตา แก่ คน เสริฟ เราชอบสปาเก็ตตี้ใส่หอยตัวเล็กๆ ที่เขาเรียกกันว่า Spaghetti de Vongole ก็สั่งจานนี้แหละ แล้วทีนี้เราก็ชอบเนยป่นด้วยนะ พอคนเสริฟ อีก คน หนึ่ง ยังหนุ่มๆอยู่เดินผ่านมา เราก็เรียกหาเนยป่น เขาก็ยกถ้วยเนยป่นมาให้ ตอนนั้น อาหารยังไม่มาถึงโต๊ะเรา พออาหารมา เราก็คว้าถ้วยเนยป่น กำลังจะตักใส่ในจานสปาเก๊ตตี้ กะว่ากินซะให้หายอยาก หม่ำซะให้หายหิวหน่อยเหอะน่า แต่ แต่ แต่ อี ตา แก่ คนเสริฟ หันมาเห็นเท่านั้นแหละ (มานเดินมาอย่างกะแข่งเดินเร็ว) คว้าถ้วยเนยไปจากมือซะเฉยๆงั้นเอง พร้อมทำสีหน้าบูดๆอย่างแรง โอ้! เราเป็น งง เราก็....ตกใจ ร้อง (((เฮ้ยๆ เอาเนยคืนมา))) มานไม่ให้คืนนะ แถมด่าเป็นภาษาอิตาลีอีกด้วย โชคดีที่เราฟังไม่ออก ฮึ ไม่งั้นเสร็จตรูแน่ ตาแก่เอ๋ย ภาษาอิตาลีนี่แค่ขอข้าวกินได้ก็บุญแล้ว ก็ตอนนั้นยังไม่รู้นี่นา ว่าสปาเก็ตตี้ใส่หอยนี้เค้าจะไม่ทานใส่เนยป่น มันเป็นการผิดธรรมเนียมการกินอะไรปานนี้แหละ เปรียบเหมือนฝรั่งที่ไม่รู้จักอาหารไทย พอฝรั่งนั่งโต๊ะอาหารได้ ก็ตักทุกอย่างโปะลงในจานข้าว เหมือน ข้าวหมู ไม่มีผิด นี่แหละประสบการณ์ที่เรายังจำขึ้นใจ เพราะอดกินเนยป่นของโปรด คนแก่อิตาลีนี่แสบจริงๆ จากคุณ : แตนต่อย - [ 15 ส.ค. 49 17:02:41 ]