PANTIP.COM : E4682120 ประเทศไทยมีสายการบินต้นทุนต่ำ ตั้งแต่เมือ่ไหร่? อันไหนเป็นเจ้าแรกค่ะ? []

ความคิดเห็นที่ 3

ตอบคร่าวๆ นะครับ

ถ้าที่นับเป็นโลว์คอสต์ อยู่ในกลุ่ม 3 ทหารเสือ คือ วันทูโก ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์

1.วันทูโก --- ให้บริการเที่ยวบินแรกสู่เชียงใหม่
วันเปิดให้บริการ : 3 ธันวาคม 2546
จุดเด่น : คิดค่าโดยสารราคาเดียว (Flat Rate) สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ฟรีภายใน 30 วัน และมีเครื่องดื่ม กับของว่างบริการบนเครื่อง
จุดอ่อน : ภาพลักษณ์ที่อาจจะสู้สายการบินอื่นไม่ได้ ในแง่เครื่องบินเก่า... การดีเลย์และยกเลิกของเที่ยวบิน

2.ไทยแอร์เอเชีย ... ให้บริการเที่ยวบินแรกสู่เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่, ขอนแก่น(ปิดเส้นทาง กค.48)
วันเปิดให้บริการ : 3 กุมภาพันธ์ 2547
จุดเด่น : มีโปรโมชั่นถูกๆ อยู่เรื่อยๆ และเป็นโลว์คอสต์ที่มีเส้นทางบินที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ
จุดอ่อน : การไม่ระบุที่นั่ง, ภาพลักษณ์การดีเลย์ของเที่ยวบิน เป็นต้น

3.นกแอร์ -- ให้บริการเที่ยวบินแรกสู่ เชียงใหม่, อุดรธานี, หาดใหญ่
วันเปิดให้บริการ : 23 กรกฎาคม 2547
จุดเด่น : ด้วยความที่เป็นบริษัทลูกของการบินไทย เครื่องบินเช่ามาจากการบินไทย มาตรฐานการบำรุงรักษาเครื่องบินแบบการบินไทย ... มีบริการเสริมต่างๆ ให้ใช้บริการมากมาย เช่น จ่ายเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม, เช็คอินในห้าง, Telephone Check-in, PDA Check-in เป็นต้น เมื่อเที่ยวบินเกิดปัญหาสามารถโอนไปการบินไทยได้ ในกรณีทีการบินไทยมีที่นั่งว่าง
จุดด้อย : ราคาเริ่มต้นไม่ค่อยถูกนัก, เส้นทางบินค่อนข้างน้อย มีแต่ภายในประเทศ และจำนวนเครื่องบินมีค่อนข้างน้อย

-----------------------------------------------------------------------------------

กระทบกับการบินไทยไหม ?

ความเห็นผมนะ ผมว่ากระทบน้อย อีกทั้งมาเกื้อกูลกันด้วยซ้ำไปครับ
1. สายการบินโลว์คอสต์ ได้สร้างกลุ่มผู้โดยสารใหม่ ที่อยู่ในระดับ C+, B ที่เดิมเคยเดินทางด้วยรถทัวร์ และ รถไฟ ให้เห็นว่า เพิ่มเงินอีกนิด ก็ได้ขึ้นเครื่องบิน แล้วหันมาใช้บริการเครื่องบินมากขึ้น
2. กลุ่มผู้โดยสารระดับ B, B+ ที่ขึ้นเครื่องบินเป็นประจำอยู่แล้ว อาจจะมาลองของใหม่ ซึ่งเป็นโลว์คอสต์ แต่ด้วยเงื่อนไขของสายการบินโลว์คอสต์ที่ ราคาถูก แต่ก็ลดต้นทุนต่ำ มีเงื่อนไขที่จุกจิกมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินมีค่าใช้จ่าย, การดีเลย์หรือยกเลิกเที่ยวบิน .... ความมั่นใจในการเดินทางสู้สายการบินราคาปกติ อย่างการบินไทยไม่ได้ ... ก็จะกลับมาเลือกใช้บริการการบินไทยเหมือนเดิม
3. กระแสปากต่อปาก ... เมื่อหลายๆ คนเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีจากโลว์คอสต์ เช่นดีเลย์กระจาย ยกเลิกเที่ยวบินบ้าง ก็จะเริ่มบอกปากต่อปาก ... และหันมาใช้บริการการบินไทยมากยิ่งขึ้น

ลองสังเกตเที่ยวบินในช่วงเทศกาลสิครับ การบินไทยเต็มก่อนเพื่อนเลยนะครับ เพราะกลุ่มที่มีกำลังจ่ายสูง เขาก็ไม่สนใจโลว์คอสต์กันเท่าไหร่ นอกจากกลุ่มที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย หรือเดินทางแบบไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็จะมาเลือกใช้บริการโลว์คอสต์กัน ...

อ้อ อีกทั้ง อย่างหลายๆ เส้นทาง เช่น พิษณุโลก กับ ขอนแก่น สายการบินโลว์คอสต์เป็นฝ่ายที่ต้องยกธงขาว ยอมแพ้ปิดเส้นทางไปก่อน เพราะว่า ... ราคาค่าโดยสารของการบินไทย กับสายการบินต้นทุนต่ำ ราคาไม่แตกต่างกันมาก (เนื่องด้วยต้นทุนราคาน้ำมันที่สูง ต้นทุนการจัดการที่ทำให้ราคาออกมาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่) ... ส่งผลทำให้ คนเลือกใช้บริการการบินไทยมากกว่า (เพราะมีความยืดหยุ่นมากกว่า) ... สายการบินโลว์คอสต์ก็เลยต้องปิดเส้นทางไป อย่างล่าสุด เส้นทางขอนแก่น ก็ยังคงเป็นเส้นทางปราบเซียนครับ ....

สรุปก็คือ การบินไทยไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่สายการบินโลว์คอสต์ มาเพิ่มกลุ่มผู้โดยสาร ที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ให้ได้ขึ้นเครื่อง, กลุ่มที่นั่งรถทัวร์รถไฟ ก็มาขึ้นเครื่องบิน, กลุ่มที่ต้องการความประหยัด ก็มาขึ้นโลว์คอสต์ แต่กลุ่มที่ไม่พึงพอใจโลว์คอสต์ ก็ไปขึ้นการบินไทยแทน เป็นต้นครับ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นของผมนะครับ
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 49 18:53:17

จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 4 ก.ย. 49 18:44:42 ]