ความคิดเห็นที่ 1 มาเกาะจอ รอดูคะ ......... ใกล้ได้เวลาโดนลากตัวไปลงทะเลแล้วเหมือนกัน ......  รู้จักแต่หน้ากาก กะท่อหายใจ จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 9 ก.ย. 49 14:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอปูเสื่อรอรับความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : AthlonVidia - [ 9 ก.ย. 49 14:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 - GPS คือ เครื่องบอกพิกัดตำบล พูดง่ายๆ คือ มันจะบอกเราว่าเราอยู่ที่ไหน กำลังไปทางไหน เรือต้องใช้เพราะ พอคุรออกไปห่างฝั่ง คุณจะไม่ทราบได้เลยว่า ฝั่งอยู่ไหน และจะเดินทางไปไหน และที่สำคัญที่สุดคือ "เราอยู่ไหน" โดยส่วนใหญ่เรือ  LIVEABOARD จะมีกันอยู่แล้ว 1-2 ตัว เรือดำน้ำที่เป็น DAY TRIP  บางลำก็ไม่มี เพราะว่า เขาคิดว่าวิ่ง เช้าเย็นกลับ ส่วนเรื่องยี่ห้อ ไม่ต้องไปใส่ใจครับ ผมเจอเยอะเหลือเกิน ในเวบแนะนำเรือ ใส่ยี่ห้อ รุ่นกันวุ่นวาย จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 14:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 - SOUNDER บางครั้งก็เรียกว่า DEPTH ขึ้นอยู่กับเรือที่ใช้ เอาไว้ดูความลึกครับ เรือประมงจะเอาไว้หาปลา เรื่องคุณสมบัติของมันจะมาต่อกันวันหลัง ประโยชน์ของมันคือ เอาไว้ดูความลึก ถ้าคุณออกเรือไป คุณจะเห็น แต่ทะเล ไม่มีทางคาดเดาความลึกได้ หรือ ร่องน้ำ ตื้นเท่าไหร่ เราเลยต้องใช้ เจ้า SOUNDER ครับ อันนี้ทุกลำต้องมีครับ ไม่งั้น นำร่องลำบาก ถึง ไม่ได้เลยทีเดียว เรือเจ้าหญิงน้อย มี SOUNDER 2 ตัวครับ ตัวนึงเป็น ซาวเดอร์ แบบนำไปใช้หาปลาได้เลย คือเห็นก้อนปลา เห็นพื้น อีกตัวนึง เป็น MINI SONAR SOUNDER ที่สามารถ กวาดหาสิ่งกีดขวาง หรือ หิน ใต้น้ำได้ ซึ่งปกติ เรือทัวร์ หรือ LIVEABOARD จะไม่มีครับ ลำนี้เขาติดเพิ่มเน้นความปลอดภัยครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 14:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 - RADAR อันนี้คงเคยได้ยินกันบ่อยในหนังดังๆ แนววิทยาศาสตร์ การทำงานของเรดาร์ ก็คือ จะกวาด แล้ว ยิงคลื่นชนิดนึงออกไป แล้วให้มันสะท้อนกลับมา พอมัน สะท้อนกลับมา มันก้จะแสดงภาพที่มันไปกระทบมา เช่น เรือลำอื่นๆ หรือ กระทั่งขอนไม้ที่ลอยน้ำอยู่ แล้วมีไว้เพื่ออะไร มีไว้เพื่อ หนีตำรวจน้ำ เอ้ย เอาไว้ป้องกันการชน การเฝ้าระวัง และการนำร่องครับ อ้อ เรดาร์ มี 2 แบบนะครับ คือ แบบ RADAR คือมีปีก หมุนๆได้ อีกแบบคือ RADOME คือจะเป็นแบบ เจ้าหญิงน้อยในภาพ คือเป็นโดม มีปีกอยู่ข้างในครับ และที่ทางเรือต้องทำแท่นเพิ่มขึ้นมาเพราะ ต้องการให้ระดับของวงการหมุนอยู่สูงที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ ส่วนใหญ่เรือ ที่เป็น LIVEABOARD นี่จะมีครับ พวกเดย์ทริป ส่วนใหญ่ไม่มีครับ หรือบางที อาจจะเห็นว่ามีปีก หรือโดมอยู่บนเรือ แต่จริงๆแล้ว หลายๆลำ หมกเม็ดฮ่ะ มีปีกแต่เครื่องไม่ทำงานก็เยอะนะที่เห็น ปล. ไม่ควรนั่งบน โดมของเรดาร์หรือ จุดที่อยู่ระดับเดียวกับเรดาร์นะครับ เพราะ ท่านอาจไม่มีทายาทได้ (เป็นหมันครับ ) แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 49 14:46:52 จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 14:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อไปก็ วิทยุสื่อสารละกันครับ วิทยุสื่อสารที่ใช้กันในเรือนี่ จะขอแบ่งเป็นส่วนๆคือ วิทยุสื่อสารระยะสั้น ใช้ติดต่อ กันในเรือ เพื่อประสานงานการนำร่อง เช่นช่วยบอกท้ายกัปตัน ดันเรือเข้าตำแหน่งไดร์ฟ เป็นต้น วิทยุมดดำ ส่วนใหญ่จะเอาไว้ใช้ติดต่อกันระหว่างเรือประมง ส่วนใหญ่เอาไว้คุยกันระหว่างเรือ และ เอาไว้แจ้งข่าวกัน เช่น เรือประมงบางลำเจอ ฉลามวาฬ ก็กดมาบอกกัน ใครเรืออยู่ใกล้ก็ อาจเจอฉลามวาฬ วิทยุใหญ่ เอาไว้ฟังข่าวอากาศ หากเรือออก ทริป ซักวันที่ 2 แล้ว คลื่นลมเริ่มมา นี่คือสิ่งจำเป็นอย่างมาก ในการแจ้งข้อมูลเรื่องคลื่นลม น้ำ พายุ ให้เราทราบ และทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกเรือและผู้โดยสารได้ วิทยุนี่ถือเป็นหูเป็นตาของเรือ เพราะฉะนั้นโดยส่วนใหญ่เรือจึงดูแลวิทยุเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีวิทยุอื่นๆอีก แต่สำหรับเรือ LIVEABOARD เท่านี้ก็พอครับ ขอบคุณกัปตัน แอ๊ด เรือเจ้าหญิงน้อยสำหรับภาพประกอบครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 49 15:07:24 จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อุปกรณ์นำร่องหลักน่าจะครบแล้วครับ เพราะผมไม่เน้นเรื่องเครื่องยนต์ ส่วน AUTO PILOT นี่เรือจะมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลมาก สำหรับ LIVEABOARD ในประเทศครับ เพราะถ้าเปรียบเปรย มันก็ประมาณ พวงมาลัยธรรมดา กับ พวงมาลัยออโต้ครับ ต่อไป เรามาดูอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยกันบ้างนะครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เริ่มที่ LIFERAFT หรือแพชูชีพ ซึ่งท่านจะหาชมได้จากดาดฟ้าเรือหรือกราบเรือ ใครที่เคยไปเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่จะเห็นได้เลยว่ากราบนึงจะมีเป็น 10 ๆ ลูก ประโยชน์ที่สำคัญของ LIFERAFT คือ เมื่อเกิดเหตุต้องสละเรือ ไม่ว่ากรณีใดใด เจ้าแพชูชีพนี่จะเป็นที่พักชั่วคราวให้กับลูกเรือและผู้โดยสาร ครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ ส่วนใหญ่ท่านๆ คงจะได้เห็นเจ้าแพชูชีพ มันจะอยู่ใน CAPSULE สีขาวๆ ซึ่งนั่นเป็นร่างที่ 1 (อย่างกะฟรีซเซอร์ กะ เซลล์เลยแฮะ) ไหนๆก็ไหนๆแล้วจะพาไปดูร่างที่ 2 กันครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 49 16:27:23 จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นอกจากนั้นภายในยังมี อุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตครับ โดยอุปกรณ์ข้างในจะต้องได้รับการรับรองจาก องกรณ์ระดับชาติเช่น IMO = INTERATIONAL MARITIME ORGANIZATION สนธิสัญญา SOLAS และ กรมเจ้าท่า ครับ อุปกรณ์ที่จำเป็นก็อาทิ พลุส่งสัญญาณ ขัน ชุดปะแพ ยา เบ็ดตกปลา สมอน้ำ อาหารแห้งและน้ำแบบแพ๊กส่วนตัว ฯลฯ  (ต้องแพ๊กครับ เพราะเวลาคนเราวิกฤติ จะเห็นแก่ตัวและจะทานอาหารส่วนกลางเยอะ จึงต้องแบ่งเป็นแพ๊กแบบซองซอส เพื่อแบ่งเป็นสัดส่วนว่า ของใครของมันครับ) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ภายในแพชูชีพจะมี กลไกลม ที่จะทำหน้าที่กางแพเมื่อดึงเชือก ในกรณีที่สละเรือ แต่เรือยังไม่จม จึงต้องปล่อยแพแบบแมนวล เช่นในภาพครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรืออื่นๆนอกจาก LIVEABOARD ก็ต้องมีนะครับ เจ้า LIFERAFT เนี่ย อย่างเรือยอร์ช หรือเรือใบก็ต้องมีครับ เพียงแต่รูปร่างมันจะเล็กกว่าและดูหรูกว่าเท่านั้นเอง จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาละมาเข้าเรื่องละ เท่าที่ผมสังเกตุดูเนี่ย เรือหลายๆลำจะมีเจ้า LIFERAFT อยู่หลายๆลำอยู่ แต่คุณเชื่อไหม ส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้จริงๆ หรือไม่ก็วัดดวงเพราะ ส่วนใหญ่ LIFERAFT จะต้องมีการตรวจเช็ก กลไกลม และ อุปกรณ์ภายในอยู่ทุกๆปี แต่เรือส่วนใหญ่ (ต้องใช้คำว่าส่วนใหญ่จริงๆ) มักละเลย หากไม่เชื่อ คุณลองสังเกตดูได้ด้วยตนเองครับ "แพชูชีพทุกลูกจะมีวันที่ทำการตรวจสอบครั้งล่าสุดและวันที่ตรวจสอบครั้งต่อไปอยู่" คุณลองสังเกตุดูถ้าตัวเลขเลือนลางอ่านไม่ออกก็ชัวร์ครับ หมดอายุ หมดอายุ ก็คือ เมื่อเกิดเหตุ % ที่แพจะกางแบบในรูป ก็น้อยลงตามอายุที่มันหมดครับ และหากกางได้ในเวลาที่ฉุกเฉิน อุปกรณ์ภายในก็อาจหมดอายุ เช่น ถ่านไฟฉาย อาหารแห้งเสีย ลองนึกภาพดูสิครับ สละเรือก็แย่พอแล้ว ยังต้องเจอกันอุปกรณ์ยังชีพไม่ครบอีก ดูไม่ปลอดภัยเลยนะครับ ฤดูกาลที่จะถึงนี้หากใครไปดำน้ำขอให้ช่วยสังเกตกันดูนะครับ เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณๆเองนะครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอาละ ต่อๆๆ ต่อไปก็ พลุควันละกันครับ พลุควันที่ต้องติดไว้ในเรือเสมอตามกฎของเจ้าท่า ประกอบไปด้วย พลุสัญญาณชนิดยิงขึ้นทางสูง (Parachute Signal) 4 ชุด พลุสัญญาณชนิดมือถือ (Hand Flare) 6 ชุด พลุควันสีส้ม(SMOKE BOUY)  2  กระป๋อง พลุสัญญาณชนิดยิงขึ้นทางสูง (Parachute Signal) ก็คล้ายๆกับพลุที่พวกเราเล่นกันน่ะครับ พวก วิ๊ดบึ้ม อะไรประมาณนั้น แต่สว่างกว่ากัน เป็นล้านแรงเทียนครับ ใครเคยดู หนังเรื่อง TITANIC คุณจะเห็นได้ตอนที่เรือจะจมแล้วลูกเรือยิงพลุขึ้นฟ้าเพื่อให้เรือที่เห็นสัญญาณเข้ามาช่วยเหลือครับ พลุสัญญาณชนิดมือถือ (Hand Flare) เอาไว้ส่งสัญญาณควันเพื่อขอความช่วยเหลือจากที่สูงเป็นหลักครับ เช่นหนังเรื่อง THE ROCK ตอน เคจ ส่งสัญญาณให้ ฮ. อ่ะครับ พลุควันสีส้ม(SMOKE BOUY) เอาไว้แจ้งสัญญาณแบบระยะไกล ครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่า ขอโทษคนที่ปูเสื่อด้วยนะครับ พอดี มีธุระด่วนต้องไปก่อนครับ เดี๋ยววันจันทร์จะมาต่อให้จนจบครับ ต้องขออภัยด้วยนะครับ จากคุณ : miller31 - [ 9 ก.ย. 49 15:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โอ้โห...แค่นี้ก็ได้ความรู้เพียบแล้วครับ ต่อไปเวลาไป ขึ้นเรือทุกครั้งจะได้ตรวจเช็ค ขอบคุณมากๆครับ รีบกลับมาเขียนต่อเร็วๆนะครับ ตอนนี้ขอม้วนเสื่อกลับบ้าน ไปอาบน้ำอาบท่าเหมือนกัน แล้วจะมาปูเสื่อรอรับความรู้รอบ 2 มีประโยชน์จริงๆครับ จากคุณ : AthlonVidia - [ 9 ก.ย. 49 16:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบแพชูชีพจังง  เพิ่งเคยเห้นค่ะ  ก็คงเหมือนอุปกรณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบินแหละคะ  กูอ่านก็ดูทุกครั้ง  แต่ไม่แน่ใจว่า ถึงเวลาฉุกเฉินจริงๆ สิจะแตกไปก่อนหรือเปล่า อิอิ มีที่ไหนสอนขับเรือมั้ยค่ะ   เอาแค่  speed boat ก็ได้ จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 9 ก.ย. 49 18:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เสริมเรื่อง Life Raft หน่อยนะครับ.. จำได้ว่า การตรวจเช็ค ไม่จำเป็นต้องทำทุกปี แต่จะมีกำหนดไว้หลังจากการตรวจสอบครั้งล่าสุด โดยจะพิมพ์วันที่ที่ตรวจสอบครั้งล่าสุด (Last Inspect on) ไว้ และวันที่ที่ต้องตรวจสอบครั้งต่อไป (Next Due หรือ Next inspection) ถ้าต้องทำทุกปี พวกเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่จะมีปัญหามากครับ เพราะเขาไม่มีเวลาพอที่จะรอ จากคุณ : Wobbegong - [ 9 ก.ย. 49 19:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุรมากกกสำหรับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือค่ะ จากคุณ : FairyPla - [ 9 ก.ย. 49 19:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หาดูยากนะเนี่ย THX คับ จากคุณ : benz47 - [ 9 ก.ย. 49 23:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ น่าสนใจมากเลย เราเองก็สนใจ แต่ไม่รู้จะไปถามใครนี่นะซิ มีคนช่วยหาข้อมุลให้แล้ว อิอิ จากคุณ : Saba|A|da - [ 10 ก.ย. 49 00:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่ายังเอามาลงไม่หมดนะ ของสำคัญที่ควรมีและควรศึกษาก่อนที่จะออกเดินเรือนั้น ก้อคือชุดปฐมพยาบาลและชุดอ๊อกซิเจนฉุกเฉิน ที่ควรจะรุ้ที่อยุ่และวิธีการใช้ล่ะครับ หลังๆเนี่ยไปดำน้ำกับเรือ ไม่ค่อยได้ยินการบรีฟในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ฝากเอาไว้กับท่านที่จัดทริปหรือเป็นDMประจำเรือทั้งหลาย การบรีฟเรือ มักจะถูกมองข้ามกันไปหมดแล้วนะครับ จากคุณ : ตะวันใต้น้ำ (ตะวันใต้น้ำ) - [ 10 ก.ย. 49 01:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาลงชื่อ รอ ด้วยคน เคยแต่ขึ้นเรือ ไม่เคยรู้เลยเรื่องพวกเนี้ย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หมีน้อย แสนขยัน - [ 10 ก.ย. 49 14:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วันจันทร์แล้ววว....อิอิ กลับมาปูเสื่อรอแต่เช้า คนแรกครับ จากคุณ : AthlonVidia - [ 11 ก.ย. 49 02:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ครับ ไม่นึกว่าจะมีคนมารอดูเยอะครับ ขอโทษครับ แอบ ไปดู SEASON CHANGE มา อิอิ ขอตอบ คุณ wobbegong ก่อนนะครับ ใช่ครับ "การตรวจเช็ค ไม่จำเป็นต้องทำทุกปี แต่จะมีกำหนดไว้หลังจากการตรวจสอบครั้งล่าสุด โดยจะพิมพ์วันที่ที่ตรวจสอบครั้งล่าสุด (Last Inspect on) ไว้ และวันที่ที่ต้องตรวจสอบครั้งต่อไป (Next Due หรือ Next inspection) ถ้าต้องทำทุกปี พวกเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่จะมีปัญหามากครับ เพราะเขาไม่มีเวลาพอที่จะรอ" แต่เรือ LIVEABOARD มี เวลาครับ เพราะไม่ต้องวิ่งไกล ข้ามมหาสมุทร อย่าลืมนะครับ ว่า LIVEABOARD น่ะ พอถึง หน้ามรสุม (ยกตัวอย่างเรือในอันดามันนะครับ) เรือส่วนใหญ่ก็ขึ้นคาน จอดพัก ซ่อมแซมกัน เวลาที่จะเปลี่ยนจะตรวจมีแน่ๆๆครับ ยกเว้นเรือบางลำ ที่เขารับงานต่อ หรือก็คือไปวิ่งที่อื่นแทนเช่น ฐาปนา พอหมดซีซั่น ก็ ซ่อมแซมแล้วก็ข้ามฝั่งไปทางเกาะเต่า โน่นเลย ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า คูนหรือ สคูบาเนทนี่แหละตามไปรับงานต่อด้วย  ก็ตามๆกันไป คือไปใกล้ๆเวลาเดียวกัน จะได้มีเรือนำร่อง ที่จะช่วยเหลือกันได้ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 09:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ้อ ลืมบอกไปว่า เจ้าแพชูชีพเนื่ย หากจะให้มันทำงานอัตโนมัติ ต้องมีอุปกรณ์ ชิ้นนนี้ด้วยครับ มันคือ ไฮโดรสตาติกรีริส หรืออุปกรณ์ตัดสายอัตโนมัติ สมติว่าต้องสละเรือ แล้วไม่มีเวลาเตรียมการ์ณ ในการกางแพชูชีพ เมื่อเรือจม เจ้าไฮโดรนี้ ก็จะทำงานที่ความลึก 3-5 เมตร อุปกรณ์ตัวนี้จะทำการตัดสายและแพชูชีพก็จะปล่อยลมจากถังภายในเพื่อดันให้แพกางออก ครับ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 10:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ต่อไปๆๆๆๆ กระโจมวิทยุแจ้งตำบลที่ฉุกเฉินหรือทุ่นส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม หรือ  EPIRB ย่อมาจาก (Emergency Position Indicating Radio Beacon) เป็นเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตามระบบ GMDSS (Global Maritime Distress and Safety System) ที่กำหนดโดย IMO (International Maritime Organization) หรือองค์การทะเลโลกที่ให้เรือเดินทะเลขนาด 300 ตันกรอสขึ้นไป ทุกลำจะต้องมีไว้ประจำเรือ ทำงานโดยส่งสัญญาณคลื่นความถี่ขนาด 121.5 MHz หรือ 406 MHz ผ่านระบบดาวเทียม EPIRB มีใช้อยู่ 2 แบบ คือ แบบติดตั้งประจำที่บนเรือ ซึ่งสามารถดีดตัวเองให้ลอยน้ำได้เมื่อเรือจมลง โดยจะส่งสัญญาณออกมาด้วยตัวเองอัตโนมัติ และอีกแบบหนึ่งเป็นแบบเคลื่อนที่ (มือถือ) สามารถนำลงไปใช้ในเรือช่วยชีวิตหรือแพช่วยชีวิตขนาดเล็กได้ การทำงานก็เป็นลักษณะเดียวกัน คือ เมื่อปล่อยให้ลอยน้ำ (Float Free) เครื่องจะส่งสัญญาณได้ทันที ปกติแล้วเรือสินค้าหรือเรือขนาดใหญ่นี่จะต้องมีอยู่แล้ว เพราะหากประสพเหตุทางทะเล การที่หน่อยค้นหาจะหาคุณเจอในเวลาอันสั้นที่สุดคือ การใช้ เจ้า EPIRB อ่านว่า อีเปิบ ไม่ใช้อีเป๋........ นะ คุณเคยเห็นอุปกรณ์หน้าตาแบบนี้บนเรือ ขาประจำคุณบ้างหรือเปล่าครับ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 10:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 (ขอแก้ไขครับ จำผิดไปนิด) อาจจะไม่เคยเห็นเพราะเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นอุปกรณ์บังคับ ในเรือขนาด 300 ตันกรอสขึ้นไป (แต่มีอีกกฎนึงบอกว่า เรือที่เดินทะเลภายใน 30 -40 ไมล์ทะเลต้องมี 1 ตัวครับ ) ผมว่ามันอยู่ที่จิตใจของเจ้าของครับ คือไม่ติดตั้งก็ไม่ผิดอะไร ราคาก็ไม่ถูกเท่าไหร่ 4 - 6 หมื่นบาท LIVEABOARD ก็หนักแค่ 50 - 120 ตัน ไม่ต้องติดก็ได้ "เวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันละ" เท่าที่สำรวจดูพบว่าเรือต่างๆมีบ้างไม่มีบ้างครับ เจ้าท่าก็บังคับจริงจังไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเรือลำไหนพอมีเงินเหลือก็ จัดซื้อกันไป เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือและผู้โดยสารครับ ขอบคุณภาพจากเรือเจ้าหญิงน้อยครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 49 10:41:00 จากคุณ : ชาบู ชาบู นะ (miller31) - [ 11 ก.ย. 49 10:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ต่อไป เรามาดู โทรศัพท์กันบ้าง โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม ก็เป็นสิ่งนึงที่มีความจำเป็นขั้นสุดยอดในการติดต่อสื่อสาร นึกภาพ ไดร์ฟไซท์ ที่มีสัญญาณมือถือสิครับ มีกี่ไดร์ฟ คิดได้แล้วก็เอาผลลัพที่ได้ มาคิดดูเองว่า มันเยอะ มันน้อยยังไง ยิ่งใครไปสิมิลัน แล้วไม่ได้ใช้ AIS ก็โยนเครื่องเก็บได้เลย หรือเอาไว้ฟัง MP3 ก็ได้ ถึงจะเป็น AIS ก็ใช้ได้แค่วงจำกัด ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นเรือ LIVEABOARD จึงควรมีโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม ครับ จะเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ไม่สำคัญ สำคัญคือ ต้องมี ต้องใช้ได้ จริงๆแล้ว โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม แบบมือถือมีกันอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ของเอเซีย 1 อเมริกา 1 อาหรับ 1 การใช้งานไม่พูดถึง โดนติงเรื่องห้ามวิจาร์ณสินค้ามา ขอข้ามไป เรื่องบทเรียนราคาเกือบแพงเลยละกันครับ เรื่องมีอยู่ว่า กัปตันแอ๊ด หรือที่เรียกกันติดปากว่าพี่แอ๊ด (รูปอยู่ด้สนบนครับ) กัปตันเรือเจ้าหญิงน้อย เมื่อประมาณ ปีกว่าๆมาแล้ว ระหว่างกำลังนำร่องออกจารก สิมิลัน เพื่อกลับฐาน "ท่ารัฎฎา" ภูเก็ต กัปตันมีอาการปวดท้องหน่วงๆ สักพักจึงเริ่มบอกต้นเรือ ว่าปวดท้อง และก็เริ่มเปลี่ยนคนขับ โดยที่ผู้โดยสารไม่ทราบเรื่อง (ทริปนั้นผมก็อยู่) ทางลูกเรือก็เข้ามาประถม พยาบาลเบื้องต้น กินยาก็ไม่หาย จะโทรไปแจ้งเหตุฉุกเฉิน ก็โทรไม่ได้ เรือกำลังวิ่งอยู่ในเขตไม่มีสัญญาณ จนต้องพยายามเบี่ยงเส้นทางเรือให้ใกล้ฝั่งเพื่อจะโทรศัพท์ ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆ ที่พี่แอ๊ดแกทนได้ จนเรือถึงฝั่ง และพาแกไปส่งโรงพยาบาลได้ ปรากฎว่า ไส้ติ่งแกอักเสบ ไม่แน่ใจว่าแตกไหม และเย็นวันนั้นแกก็ทำการผ่าไส้ติ่งออก ตอนนี้ยังสามารถขอดูแผลผ่าตัดที่ท้องของแกได้ครับ หลังจากวันนั้นเพียง 1 วัน จึงมีการติดตั้งโทรศัพท์มือถือผ่านดาวเทียมที่เรือเจ้าหญิงน้อยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาครับ เจ้าโทรศัพท์ที่ติดมานี้สามารถโทรออก รับสาย ส่ง SMS ส่งตำแหน่ง (ได้ตำแหน่งจาก GPS ภายในเครื่องรับโทรศัพท์เอง) ไปยังมือถือของ ใครก็ได้ ครับ สมัยก่อนไม่อนุญาติให้ ผู้โดยสารโทร แต่ตอนนี้อนุญาติแล้วครับ โดยท่านก็จ่ายค่าโทรศัพท์เองต่างหาก แต่ในกรณีต้องโทรหรืออยากจะโทรจริงๆ ก็คุ่มครับ บอกเลยแล้วกันว่านาทีละประมาณ 70-80 บาท ครับ จากคุณ : บูดาเปส อยู่เยอรมัน (miller31) - [ 11 ก.ย. 49 11:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จาก ความคิดเห็นที่ 22 นี่ก็ใช่เลยครับ ที่ผมเจอนี่ บางทีทางเรือ บรีฟให้ แต่ คนตั้งใจฟังส่วนใหญ่จะ พวกเพิ่งเคยมา มือใหม่ ส่วนพวก มากไดร์ฟ ก็ ฟัง IPOD อ่านหนังสือ เป็นส่วนใหญ่ครับ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 11:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กลับไปอ่านด้านบนกลัวจะงงเรื่อง MINISONAR เลยเอาภาพมาให้ดูครับ ด้านซ้ายคือความลึกปัจจุบันของตำแหน่งเรือ ด้านขวาระยะกวาดไปข้างหน้าซึ่งจะปรับได้ครับ ส่วนก้อนๆ ที่อยู่หน้าเรือคือ สิ่งที่ลอยมากับน้ำ อาจเป็นปลา หรือ อะไรก็ได้ ส่วนเจ้าก้อนดำทมึนนั่น คือ กำแพงคลื่นที่สัญญาณกวาดไปไม่ถึงครับ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 11:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เยี่ยมยอดคร้าบบบบบบ ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับ จากคุณ : Black Pig - [ 11 ก.ย. 49 12:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อา สมองตัน จะไปทางไหนต่อ ดี กลับมาเรื่องใกล้ตัวกันดีกว่าครับ สิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางแต่ละทริปคืออะไรครับ อะไรที่ถ้าไม่มีแล้ว การเดินทางก็จะเป็นไปไม่ได้เลย น้ำมัน ถูกต้องนะครับ แต่ที่จะพูดถึงเนี่ยคือ สิ่งที่สำคัญรองลงมา นั่นคือ น้ำ ครับ ในการทำทัวร์ดำน้ำเนี่ย น้ำเป็นปัจจัยนึงที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดประการนึงในการออกเรือ เพราะว่า หากมีปัญหาใดใด ก็ตาม น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นมากมายบนเรือ ทั้งซักล้าง ทำความสะอาด อาบ ดื่ม ใครที่ขึ้นเรือครั้งต่อไป ดู ที่ ชิป พาทิคูล่า ได้เลยว่า เรือลำนั้นๆ มีถังเก็บน้ำจืดอยู่ที่เท่าไหร่ และเรือลำนั้นมี เครื่องทำน้ำจืด ด้วยหรือไม่ ทั้ง 2 ข้อสังเกตดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกันค่อนข้างมากครับ 1. เรือ LIVEABOARD ที่มี เครื่องทำน้ำจืด และมีถังเก็บน้ำจืดขนาด xxx  เมื่อเรือเดินทางออกจากท่า ได้ความลึกสักระดับนึง ก็จะเริ่มเปิดเครื่อง โดยเครื่องจะนำน้ำเค็ม มาแปรสภาพเป็นน้ำจืด ด้วยกระบวนการ REVERSE OSMOSIS อ้างอิง http://teenet.chiangmai.ac.th/emac/journal/2003/20/05.php เมื่อน้ำถูกใช้ เครื่องก็ผลิตป้อนคืนเข้าไป ผู้โดยสารทุกท่าน ก็จะมีน้ำใช้ได้โดยสะดวก ถามว่าถ้าลำไหนมี RO นี้แล้วก็สามารถใช้น้ำทิ้งขว้างได้เลยใช่ไหม ไม่ครับ เครื่องก็มีกำลังการผลิตของมันเอง ขึ้นอยู่กับขนาดการผลิต ว่าจะผลิตมาทดแทน น้ำที่พวกท่านใช้ไปทันหรือไม่ครับ ถ้า อาบกันวันละ 4-5 ที ก็ ผลิตเติมให้พอเพียงยากครับ 2 เรือที่ไม่มี ระบบ RO จะใช้วิธีเพิ่มถังเก็บน้ำและ เติมน้ำขึ้นเรือ (แบกน้ำใช้ของท่านไปด้วยตลอดการเดินทาง จะสังเกตุได้ว่าขากลับเร็วกว่าขาไปเพราะน้ำหนักน้ำนี่แหละครับ) ซึ่งแน่นอนว่า น้ำมีวันหมด ถ้าน้ำหมดทำอย่างไร อะฮ้า ............ ...................... บางเกาะเช่นเกาะ........... จะมีน้ำให้เติมในกรณีฉุกเฉินครับ แต่น้ำสำรองดังกล่าวก็ไม่ได้มีกมากเพราะเป็นน้ำจากแหล่งธรรมชาติครับ เพื่อนนักดำน้ำ บางท่านคงเคยได้ยินลูกเรือเดินมาเตือนว่า อย่าเพิ่งใช้น้ำเยอะ หรือ งดอาบบางไดร์ฟไหมครับ มีอยู่ครั้งนึงช่วงสงกรานต์ เรือทุกลำ เต็ม เนื่องจากเป็นเทศกาล บางลำรับลูกค้า ปกติ 18 คน 23 คน พอเทศกาลก็ อัดเพื่มกันเข้าไป บางลำ จุปกติ 22 สงกรานต์ จุจริง 25 คน จำนวนเพิ่มแค่ 3 แต่ ปริมาณการทา การใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีกเยอะครับ ปรากฎว่าหลังทริป เรือทุกลำทยอยเข้าจอดที่ท่า เรือ R(นามสมติ) ตะโกนถามว่า เรือ L R "น้ำเหลือม๊ายย" L "เหลือ" R "ของผมโหมดเลยย" พอดีกับ เรือ T กลับเข้ามา ก็ได้รับคำถามแบบเดียวกัน R "น้ำเหลือม๊ายย" T "หมดพอดี" ตัวอย่างเพียงเท่านี่แล้วกัน ถามว่า หากเรือเกิดปัญหา เช่นเรือเสีย หรือมีเหตุให้จอดลอยลำ เครื่องหยุดน้ำมันก็หยุด แต่ น้ำยังเดิน เอ้ย น้ำยังถูกใช้ต่อ หากน้ำหมด ทริปการเดินทางที่คาดการ์ณไว้ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามสภาพการ์ณ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการเดินทางเป็นอะไรที่เราๆ ท่านๆ ผู้ใช้บริการเรือ ไม่อยากเจอเลย ไดร์ฟไกลๆที่ฝันไว้ อาดัง ราวี ตะรุเตา เรือมีปัญหาเรื่องน้ำ ขอเปลี่ยนการเดินทางไป ..............แทน เซ็งนะ ว่าไหม เรือขาประจำท่าน มีเครื่องทำน้ำจืดหรือป่าวครับ ปล. ไม่สามารถลงภาพได้ ครับ ทางเรือไม่อนุญาติ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 12:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อยากให้อ่านๆ กันทุกคน ครับ ยังไง SEASON CHANGE เอ้ย SEASON ต่อไป เราทุกคนก็ต้องไปผจญภัยต่อในทะเล ตามเสียงเรียกปริศนา จากท้องทะเล เลยอยากให้ทราบไว้ ว่าเรือหรืออีกนัยนึงคือที่พักของท่านตลอดการเดินทาง มีความปลอดภัยที่ให้กับตัวท่านยมากน้อยแค่ไหน ครับ จริงๆแล้วผมเคยถาม DIVE MASTER ท่านนึงว่า คนจะมาเที่ยวเรือเนี่ย ต้องมีองค์ประกอบใดเปนสำคัญบ้าง เขาตอบว่า 1.จำนวนไดร์ฟ 2.อาหาร 3.ความสามารถของครู 4.ห้องพัก 5อุปกรณ์อำนวนความสะดวกในการดำน้ำและยามพักผ่อน 5 ข้อนี้ คือ ปัจจัยหลัก ซึ่งผมเถียงหัวชนฝาว่า ต้องมีเรื่องของ อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยและ อุปกรณ์ยามฉุกเฉินด้วย ซึ่งแกก็ส่ายหัวว่า ไม่จำเป็น อุปกรณ์ต่างๆเนี่ยยิ่งมาก คอสก็สูง พอสูงก็ต้องเก็บลูกค้ามาก ลูกค้าก็โดดไปเรือถูกๆหมด นั่นเป็นแรงบรรดาลใจให้ผมเขียนกะทู้นี้ครับ เพราะผมไม่เห็นด้วยจริงๆๆ SEASON ที่จะถึงนี้ ลองขอเช็คอุปกรณ์บนเรือก็ดีนะครับ ว่าที่ท่านจ่ายแพงๆเนี่ย มันคุ้มค่าหรือเปล่า   ใครชอบ ก็ ช่วยโหวต ละกันครับ จากคุณ : miller31 - [ 11 ก.ย. 49 12:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอโหวตให้เลยจ้า...ชู 2 จักกะแร้เลย...safety first เนี่ยสำคัญมั่กๆๆๆนะ..ขนาดว่าเจ๊เพิ่งหัดดำ..พออ่านแล้วรู้สึกเลยว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะเนี่ย...มีโอกาสต้องลองขอดูบางแล้ว... ปล..ขอบคุณมากๆๆเลยที่เอาเรื่องมีประโยชน์อย่างงี้มาให้อ่าน...จุ๊บ ..จุ๊บ...จุ๊บ.. จากคุณ : @ ~ @ เ จ๊ ห น้ า บ า น @ ~ @ - [ 11 ก.ย. 49 15:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กำลังใจดีแบบนี้ ลุยต่อละกันครับ เรามาดู RADAR REFECTOR กัน เจ้าเนี่ย จะมีอยู่ใน แพชูชีพด้วย คือเป็นอุปกรณ์ในหมวดความปลอดภัย เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้โดยสารต้องลอยอยู่กับสิ่งพยุงตัว หรือในแพชูชีพ และเราต้องการแจ้งให้เรือที่ผ่านมาผ่านไปในรัศมีทำการของเรดาร์ (16 24 36 48 64 NM แล้วแต่รุ่น) ก็ชูเจ้าเรดาร์ รีเฟล็กเตอร์ เวลาที่เรดาร์กวาดผ่านมัน มันจะทำปฎิกริยากับสัญญาณ ทำให้เกิด จุดบนจอเรดาร์ บนเรือลำที่กวาดเจอ และเรือลำที่ได้รับจุดสัญญาณ ก็จะเข้าทำความช่วยเหลือครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 49 16:09:28 จากคุณ : ไม่ชอบกินผักทำไมไม่บอก (miller31) - [ 11 ก.ย. 49 16:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาทุกครั้งกดเก็บเข้าคลักระทู้ตลอดเลยครับ จากคุณ : AthlonVidia - [ 11 ก.ย. 49 20:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบแคปซูลฉุกเฉินค่ะ.. เท่ห์มั่กๆ จากคุณ : หมีโคล่า - [ 11 ก.ย. 49 21:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้ขนาด 6 คนครับ โดยส่วนใหญ่ ขนาด 4-12 คนจะเป็นของ เรือใบ ครับ เพราะเรือใบนี่ เดินทางไกลกว่า LIVEABOARD อีกนะครับ จากคุณ : miller31 - [ 12 ก.ย. 49 09:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อันนี้ผมถ่ายที่ เรือ STAR VIRGO (แหะ แหะ เรือ คาสิโนก๊าบ)ที่ ฮ่องกง เฉพาะราวข้างเดียวของชั้นที่ผมเดิน ก็มีเป็น 10 ๆ ลูก อืม คือเกินจำนวนผู้โดยสารไปบ้างเขาก็เตรียมไว้ แต่ละลูก มีการตรวจเช็คอย่างดี วางเป็นระเบียบมาก ประทับใจ จนต้องถ่ายรูปมา จากคุณ : miller31 - [ 12 ก.ย. 49 09:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อันนี้ก็ประทับใจ ต้องถ่ายรูปมา เรือ เดินทะเลชื่อดังของไทย ที่ประกาศพาท่านทัวร์ อันดามัน และ ฝั่งอ่าวไทย ด้วยเรือสำราญหรู บลา บลา บลา ......... กราบเรือมี LIFERAFT อยู่ ประมาณ 10 ลูก หมดอายุแบบ RANDOM ครับ บางอันก็ ไม่ได้ตรวจเช็คตั้งแต่ 1999 มีตรวจล่าสุด ปี 2001 ประมาณ 1-2 ลูก คิดดูสิครับ แถมหลังเรือ มี แค่ 1 ลูกด้วย เขาโฆษณาความสวยงามของทะเล โลมา จุดดำน้ำ ฯลฯ เป็นจุดขาย ทำราคาให้ถูกให้คุณสัมผัสได้ แล้วเขาลดบริการด้านการปลอดภัย เพราะต้องทำราคา น่าคิดดีนะครับ และเรือลำนี้แหละครับ ที่พาผมและพรรคพวก ไปจอดเสียอยู่หน้าชุมพร กว่า 14 ชั่วโมง แต่ก็ให้ปิดข่าวไว้ไม่ให้เสียภาพพจน์ พวกเรากลับช้ากว่าปกติ ถึง 1 วัน แถมเมื่อเกิดปัญหา ทางเรือก็ไม่ได้รองรับอะไรไว้มาก ขนาดอาหาร ที่ถือเป็นโครตปัจจัยในการดำรงชีวิต ทางเรือก็ไม่ได้เผื่อไว้ ซึ่งผิดธรรมเนียมปฎิบัติอย่างร้ายแรง ในมื้อสุดท้ายพวกเราได้ทานข้าวต้ม 1 หม้อ แบ่งกันกิน เป็นข้าวต้มหมอใหญ่ ถ้าคุณไม่กินหมู ไก่ ปลา คุณไม่มีทางเลือกครับ ทางเรือเหลืออยู่เท่านี้ อ้อ ผู้โดยสาร 100 กว่าคนนะครับ ผมอยากให้ผู้ประกอบการไทย หันมาห่วงใยเรื่องความปลอดภัยมากกว่านี้จริงๆ ปล. ขออนุญาติเซนเซอคนในภาพ จากคุณ : miller31 - [ 12 ก.ย. 49 10:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาโหวตให้ครับ  ^.^  -''' ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : behrin - [ 19 ก.ย. 49 09:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เยี่ยมจริง ๆ จากคุณ : suwimon_pu - [ 28 ก.ย. 49 00:50:01 ]