นึกอะไรไม่ค่อยออก แต่อยากเขียน ก็เลยคิดว่าเขียนเรื่องพวก Transportation ในเมืองจีนละกัน เพราะเท่าที่ผ่านมา ก็นั่งมาหมดเกือบทุกอย่างแล้ว

~~~ จักรยาน ~~~

อันนี้เป็นการเดินทางที่สำคัญมากในเมืองจีน ตอนที่ได้ใช้ขี่ตอนนี้เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง บ้านอยู่ห่างจากมหาลัยประมาณ 3-4 ป้านรถเมล์ พูดถึงก็ไม่ใกล้นัก ขี่จักรยานจะง่ายกว่า แต่ก็ต้องระวังให้ดีเพราะมีโจรชอบมาขโมยจักรยานใหม่ๆ บ่อยๆ โดยส่วนตัวก็หิ้วจักรยานขึ้นไปไว้ที่ชั้น 2 ของที่อพาตเมนท์ (ห้องอยู่ชั้น 3) หิ้วขึ้นหิ้วลง สุดท้าย เหนื่อยจัด ขึ้นรถเมล์ไปเรียนดีกว่า

อ้อ คนเกาหลีเขามีวิธีขึ้นจักรยานเท่มากเลย คือเขาจะยืนอยู่ด้านข้างจักรยาน เอาเท้าข้างหนึ่งวางไว้บนที่วางเท้าจักรยานสำหรับปั่น เท้าอีกข้างก็แถดๆๆๆ กะพื้น พอจักรยานวิ่งเขาก็เอาเท้าทั้ง 2 ขึ้น ทิ้งไว้ซักพักแล้วค่อยนั่งคร่อมถีบ ดูเท่สุดๆ (แต่ทำไม่เป็น)

~~~ รถเมล์ ~~~

มันก็แตกต่างไปตามเมือง ที่ปักกิ่งมีรถเมล์หลายแบบ แบบไฟฟ้า ก็มีสายไฟอยู่ข้างบน แล้วก็วิ่งไปตามสาย อันนี้ราคาจะเที่ยวละ 1 หยวนตลอดสาย มีแบบเก่าๆ แบบรถร่วม 2 หยวนตลอดสาย แบบรถเมล์เล็ก รถแอร์ จะตามระยะทาง (ขอบอกว่ามันไม่เปิดแอร์) ตอนอยู่ปักกิ่ง ไฟฟ้าสถิตย์จะเยอะ เวลาจะจับอะไรที่เป็นเหล็กๆ ไฟก็จะช็อตดังเปรี๊ยะ มีประกายไฟด้วย ต้องระวัง รถเมล์ขับได้สุดยอด เมล์เล็กบ้าเราชิดซ้าย ขอบอก คนขับรถจะบีบแตรตลอดเวลา ไม่รู้บีบทำไมไม่เข้าใจ

~~~ รถไฟฟ้า ~~~

เอาที่ปักกิ่งละกัน ประทับใจจริงๆ มันจะมีเหมือนบ้านเรา ที่จะมีรถใต้ดินกะรถลอยฟ้า รถใต้ดินจะวนในเมือง รถลอยฟ้าจะวนนอกเมือง เคยนั่งนถลอยฟ้าที่ต้นสาย สุดยอด คือจะได้ขึ้นที่ท้ายขบวน คนก็รอขึ้นกันเยอะ พอรถจอด เปิดประตู ก็พยายามจะกรูเข้าไปกันใหญ่ มีคนนึงกลัวว่าไม่ได้นั่งจัด พอก้าวเข้าประตูปุ๊ป ก็โยนกระเป๋า (ใหญ่มาก) ไปที่เบาะนั่งทันที (คิดถึงบีทีเอสบ้านเราก็ได้) พวกเราชาวต่างชาติมองกันตาค้าง โห เจ๊แกทุ่มทุนสร้างจริงๆ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ถือว่าเป็น Culture Shock ของทุกๆ คนที่ไปด้วยกันเลยนะเนี่ย (ช็อคกันทุกชาติ)

~~~ รถทัวร์ ~~~

มันก็มีหลายแบบอีกนั่นแหละ แบบไฮโซก็จะเหมือนรถชั้นหนึ่งบ้านเรา ที่ไม่เหมือนก็คือ มันจะติดป้ายว่า ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามถุยน้ำลายบนรถ (ขอบอกว่าพื้นรถเป็นเหมือนพรม) เราก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ ว่า ใครมันจะไปถุยว่า แค่คิดเท่านั้นแหละ ไอ้คนข้างหน้ามันถุยเลย -_-' คนเมืองจีนมันถุยน้ำลายได้ทุกที่จริงๆ บนรถไฟฟ้าก็เคยเจอ ช็อคซีนีม่ากันไปหมด

แล้วก็มีรถแบบพื้นบ้าน อันนี้สุดยอด เมืองไทยไม่มี มันเป็นรถ 2 ชั้น ไม่ได้หมายความว่ามี 2 ชั้นแบบเมืองไทยนะ จินตนาการเอาง่ายๆ ขึ้นไปบนรถเมล์ แล้วก็มีที่กึ่งนั่งกึ่งนอน (เหมือนที่นอนที่มีพนักที่นั่งพิง) ทำจากหวาย แล้วมี 2 ชั้นเหมือนเตียง 2 ชั้น จะขึ้นไปข้างบนก็ต้องปีนบันไดขึ้นไป ตอนนั้นจำได้ว่านั่งจากเมืองที่บ้านนอกสุดยอดขนาดว่าเลี้ยงควายไว้ข้างบ้าน ถนนเป็นลูกรัง เพื่อจะเข้าไปที่เมืองหนานหนิง เมืองหลวงของมณฑลกว่างซี ทำให้รู้ว่ารถแบบนี้จะวิ่งระหว่างเมืองเล็กๆ แล้วก็ไม่รู้เวลาว่าจะมาเมื่อไหร่ ตอนนั้นรอตั้งแต่บ่าย 2 คนจีนบอกว่า "เดี๋ยวมันก็มา" แล้วันก็มา 5 โมงเย็น -_-'

~~~ รถตู้ ~~~

จริงเขาก็มีรถตู้ใหญ่ๆ แบบบ้านเราแหละ แต่รถตู้ที่พูดถึงเป็นรถตู้ที่ข้างนอกเป็นรถตู้ แต่ภายในแคบเยี่ยงรถกระป๋องบ้านเรา สุดยอดนั่งแล้วตะคริวจะกิน เคยได้นั่ง 2 ครั้ง ครั้งนึงเป็นรถที่วิ่งระหว่างเมืองเล็กๆ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง อีกครั้งนึงเช่ารถแบบนี้ไปเที่ยวที่กำแพงเมืองจีนที่ซือหม่าไถกับเพื่อนๆ (เราเรียกว่าเช่าแท็กซี่ป้ายดำ) โชคดี เพื่อนๆ ไซส์เอเชียกันหมด เลยเมื่อยน้อยหน่อย

~~~ แท็กซี่ ~~~

อันนี้จะมีประโยชน์หน่อย แท็กซี่ของแต่ละเมืองจะอัตราไม่เหมือนกัน อย่างที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ราคาแรกจะ 10 หยวน แล้วค่าแท็กซี่ขึ้นเร็วมาก ไม่ค่อยอยากนั่งแท็กซี่ 2 เมืองนี้เพราะลุ้นจนหัวใจจะวาย แพงมากๆ ไม่แนะนำให้นั่งเลย เน้นที่ปักกิ่งก่อนละกัน อัตราค่าแท็กซี่จะมีบอกที่ข้างรถว่าเป็น 1.2, 1.6, หรือ 2.0 ถ้า 1.2 มันก็ต้องถูกกว่า 1.6 อยู่แล้ว วิธีดูเราจะดูจากเสาอากาศของรถ จะมีรถแบบที่เสาอากาศอยู่ตรงกลางและเสาอากาศอยู่ด้านข้าง ปัญหาคือว่า จำไม่ได้ว่าด้านข้างคือ 1.2 หรือ 1.6 ใครจำได้ช่วยบอกที T-T แต่เป็นประโยชน์มาก เพราะเราควรจะเรียกคันที่ 1.2 มันจะได้ขึ้นมิเตอร์ช้าๆ ^^" (งกไง)

ส่วนแท็กซี่เมืองอื่นๆ ราคาก็จะถูกหน่อย บางเมืองราคา 7 หยวน บางเมืองแค่ 5 หยวน แล้วแต่เมืองที่ไป

~~~ รถไฟ ~~~

เมืองจีนเนี่ย คนจีนส่วนใหญ่จะโดยสารรถไฟ เพราะเมืองจีนใหญ่มาก เมื่อก่อน (นานมาแล้ว) จะมีเป็น รถนั่งเบาะแข็ง รถนั่งเบาะนิ่ม รถนอนเบาะแข็ง รถนอนเบาะนิ่ม (ไม่รู้ว่าแปลแบบนี้ได้ไหม) แล้วก็รถด่วน (รถนอน) ตอนนี้รู้สึกจะมีรถหัวจรวดแล้วหรือไงเนี่ยแหละ บริการดีทีเดียว เคยนั่งรถนั่งแข็ง มันก็ถูก แต่เบาะก็แข็งๆ แล้วก็แย่งกันนั่ง ถ้าหากว่าเราจองตั๋วแบบมีที่นั่ง มีเลขที่นั่งเรียบร้อย ก็อย่าได้คิดเชียวนะว่าจะได้นั่งจริงๆ เพราะว่าอาจจะมีคนจีนที่ใบหน้าอาจจะหนาพอควรมาแย่งที่ แล้วเมื่อเราโวยวาย มันก็จะทำเป็นง่วง หลับไปเลย เราก็ต้องมายืนเบียดๆๆๆๆ เป็นเวลานานด้วยเพราะระยะทางไกล แต่ถ้าเป็นรถนอนก็สบายใจได้ว่าที่นอนจะฟิก ไม่มีใครแย่งที่เราได้ยกเว้นมีคนขอเปลี่ยนที่แล้วเรายินยอมให้เปลี่ยน

เมืองจีนกว้างมากๆ เคยนั่งรถด่วนจากทางใต้ไปปักกิ่ง ใช้เวลา 30 ชั่วโมง แล้วบางทีอาจจะดีเลย์เพราะว่ารถไปชนวัวควายเข้า (เคยเจอมาแล้ว ดีเลย์ไป 1 ชั่วโมง) เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า มีคนจีนจะกลับบ้านแล้วบ้านก็อยู่ไกลกันดาลมาก เงินก็ไม่ค่อยมี ก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟที่ราคาถูกที่สุด รถก็หวานเย็น เขาใช้เวลาบนรถไฟ 3 วัน ถึงจะกลับถึงบ้านได้ -_-'

~~~ เครื่องบิน ~~~

เป็นสุดยอดของความเจ็บใจ เคยดีเลย์มาหลายครั้ง ครั้งที่จำได้ก็คือ เครื่องต้องออก 5 ทุ่มกว่าๆ ได้บิน 8 โมงเช้า อีกครั้งก็เครื่องต้องขึ้น 8 โมงเช้า แต่ได้ขึ้นเครื่องอีกทีตอนบ่าย 3 เพราะฉะนั้น อย่าได้ไว้ใจเกี่ยวกับเครื่องบินเลย นั่งรถไฟยังมั่นใจได้กว่า -_-' เครื่องบินที่นี่เหมือนรถทัวร์ จะบินต่อที่โน่นที่นี่เรื่อยๆ เพราะงั้นเวลาดีเลย์ที ก็จะดีเลย์เป็นทอดๆ เช่น จากหนานหนิงไปอู่ฮั่นดีเลย์ จากอู่ฮั่นไปอี่ชั่งก็จะดีเลย์ด้วย เพราะเครื่องนี้จะบินจากหนานหนิงไปอู่ฮั่น แล้วจะบินต่อไปอี่ชังเลย แล้วจากอี่ชังอาจจะบินต่อไปที่อื่นอีก

ปล ช่วงตรุษจีน วันกรรมกร แล้วต้นเดือนตุลาเป็นวันหยุดยาวของจีน ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าไปเลย นรกสุดๆ

~~~ เรือและแพ ~~~

เคยได้ล่องเรือราคาถูกท่องแม่น้ำแยงซีเกียง สวยมากๆ ได้ไปตอนที่เขาเพิ่งเริ่มทำเขื่อนซานเสียที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำยังไม่สูง แต่ถ้าตอนนี้ไป จะได้ทิวทัศน์คงจะเปลี่ยนไป แต่ขอโทษเถอะ เรือที่ขึ้นเหมือนเป็นเรือขนของ สกปรกสุดยอด มีอาหารบนเรือด้วยแต่เราไม่กิน เราซื้อมาม่ากิน เคยเห็นในทีวีว่าคุกเป็นยังไง ห้องในเรือก็เป็นอย่างนั้นเลย ผนังคอนกรีตไม่ทาสี เตียง 2 ชั้นแบบทำจากเหล็กแล้วเป็นสนิม เบาะแข็งๆพร้อมผ้าปูดำๆ มีที่ล้างหน้าในห้องแบบโทรมๆ ให้ด้วย โห แค่คิดถึงก็ยังขนลุกไม่หาย ขอแนะนำว่าถ้าไปเที่ยวล่องเรือแบบนี้ ดีมากๆ แต่ไปแล้วขอให้ไปแบบแพงๆ หน่อย จะได้เรื่อที่สวยงามไฉไลไฮโซ เพราะมีคนบอกว่าทริปนี้น่าประทับใจมากๆ

นอกจากเรือแล้วก็มีแพ แต่แพเนี่ยก็เหมือนแพที่พระประแดง มีจุดประสงค์ก็เพื่อนำรถข้ามฝั่ง ตอนที่ไปเราต้องการข้ามแยงซีเกียง แล้วแม่น้ำมันสุดจะบรรยาย แยงซี่ตรงจุดนี้กว้าง 18 กม เป็นรู้สึกจะจากเซี่ยงไฮ้ไปเมืองหนานทง อยู่บนแพนั่นแหละประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนอยู่กลางแม่น้ำเนี่ยมองไม่เห็นฝั่งเลย แต่แพก็ใหญ่มากๆ จุรถได้เยอะมากๆ เลย

นึกไม่ออกว่ามีอะไรอีก ลองกลับไปอ่านดู รู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นความรู้อะไร เหมือนเล่าเรื่องมากๆ กว่า ^^" ไว้วันหลังจะหาความรู้มาให้ละกัน วันนี้เอาเรื่องเล่าไปก่อน แหะแหะ ขอบคุณค่ะที่อ่าน