พอลงจากเครื่องบิน เราก็มารอรถของรีสอร์ทมารับ ตอนแรกก็หาเจ้าหน้าที่จากรีสอร์ทไม่เจอ ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีเล็กน้อยว่าทำไมถึงมารับช้า แต่พอพบกับเจ้าหน้าที่แล้วเค้าชี้แจงเหตุผลให้ฟังว่ามารออยู่แล้วแต่เนื่อง จากทางสนามบินไม่ประกาศว่าเครื่องบินลงจอดแล้ว และด้วยความสุภาพของเจ้าหน้าที่จึงทำให้เราไม่หงุดหงิด พอขึ้นรถก็มีน้ำและผ้าเย็นไว้รอรับทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และตื่นเต้นกับสองข้างทาง พนักงานคนที่มารับน่ารักมากๆ ให้ข้อมูลที่น่าสนใจของจังหวัดภูเก็ตและสถานที่เที่ยวหลายอย่าง แต่ไม่ใช่สไตล์ของพนักงานที่พูดตลอดเวลาจนทำลายความสงบของบรรยากาศ เมื่อเราถึงมาถึงรีสอร์ทก็ประทับใจกับบรรยากาศและสไตล์การออกแบบที่มาให้ แขกรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรก ที่นี่ไม่มีเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับให้เกะกะตา และเราไม่ต้องเดินไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์เหมือนโรงแรมปกติทั่วไป หากแต่พนักงานจะพาเราไปนั่งรอที่ขุดรับแขกแสนสบายพร้อมทั้งเครื่องดื่มต้อน รับและมาลัยดอกมะลิหอมกรุ่นที่เราไม่ได้กลิ่นนี้มานานแล้ว และพนักงานก็เอาเอกสารเช็คอินที่มีข้อมูลส่วนตัวเราที่เราได้ให้ไว้ตั้งแต่ ตอนจองห้องพักเรียบร้อยแล้ว เราเพียงแค่เซ็นชื่อทีเดียวก็เรียบร้อย จากนั้นพนักงานต้อนรับก็พาเราไปที่ห้องพักและให้ข้อมูลเกี่ยวกับรีสอ ร์ทและบริการ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร, สปา, ห้องออกกำลังกาย, ฯลฯ ห้องพักที่นี่ถูกออกแบบมาในลักษณะตึกสองชั้น ชั้นละสี่ห้อง หนึ่งตึกจึงมีแปดห้อง สิ่งที่น่าประทับใจคือบางตึกห้องที่อยู่ชั้นล่างทั้งสี่ห้องจะสามารถกระโดด ลงสระว่ายน้ำจากระเบียงหน้าห้องได้เลย ซึ่งจะดีมากหากไปเที่ยวกับเพื่อนซักแปดคน แล้วจองห้องแบบนี้ พอค่ำก็นัดกันจัด Pool Party และถ้าเป็นแปดคนเราจะพอดีสี่ห้องชั้นล่างไม่ต้องรบกวนใคร
มาครั้งนี้ห้องพักเราอยู่ชั้นสองจึงไม่มีโอกาสได้กระโดดลงสระจากห้องพัก ก็คิดเหมือนแค่สองชั้น กระโดดไปจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี ภายในห้องพักค่อนข้างกว้างขวาง ตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary โดยมีสีขาว-ดำเป็นหลักตามหลักความสมดุลแห่งหยิน-หยาง เตียงนอนที่มีโต๊ะทำงานเชื่อมต่อทางหัวเตียง พร้อมอุปกรณ์ต่างๆอย่างพร้อมเพรียง รวมถึง Internet Wi-Fi ด้วย มินิบาร์และตู้เซฟถูกเก็บไว้ในตู้อย่างเรียบร้อย พร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร หรือ แก้วสำหรับเครื่องดื่มซึ่งมีให้เลือกตามเครื่องดื่มแต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็น น้ำ, ไวน์ หรือ วิสกี้ นอกจากที่นั่งดูทีวีหรือฟังเพลงแล้ว ที่ระเบียงยังมีโซฟายาวไว้สำหรับนั่งเพลิดเพลินกับบรรยากาศภายนอกที่มีต้น ลีลาวดีที่มีดอกเต็มส่งกลิ่นหอมหน้าห้องด้วย ส่วนห้องน้ำก็มีอ่างล้างหน้าแบบคู่ ฝักบัวที่มีให้เลือกทั้งแบบถือหรือแบบ Rain Shower แต่ที่เราไม่ชอบคือไม่มีอ่างอาบน้ำเพราะทำให้เสียบรรยากาศความผ่อนคลายที่ จะได้แช่น้ำอุ่นที่มีกลิ่นหอมของ Aroma Bath Oil ไป ภายในห้องน้ำสามารถมองผ่านกระจกบานใหญ่ไปยังสวนสีเขียวได้ซึ่งปลูกไว้ สำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ สิ่งที่เราชอบมากที่รีสอร์ทนี้คือมีน้ำเป็นองค์ ประกอบเยอะมาก ทั้งสระว่ายน้ำแบบ Free Form ที่ยาวและเลาะเลี้ยวไปตามหน้าห้องพัก หรือ สระน้ำที่สร้างไว้ตกแต่งเพื่อความสวยงาม และซึ่งโดยปกติแล้วสายน้ำทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอยู่แล้ว
สำหรับสระว่ายน้ำ โดยปกติเราจะไม่ค่อยชอบสระว่ายน้ำ Free Form ที่ไม่มีความยาว เพราะทำให้เราไม่รู้ว่าจะว่ายไปทางไหน แต่ที่นี่เราไม่มีปัญหานั้น เพราะมีส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมธรรมดาที่ทำให้เราว่ายแบบมีทิศทาง สระว่ายน้ำที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแต่ไม่มีผู้ดูแล แขกจึงต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเอง และที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือที่นอนอาบแดดที่ตั้งอยู่ในสระว่ายน้ำเลย ทำให้รู้สึกเหมือนเรานอนอยู่ในสระจริงๆ ส่วนข้างสระว่ายน้ำก็มีที่นอนสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบอาบแดดเท่าไหร่แต่อยาก อยู่ริมสระอย่างเรา เพราะเป็นเบาะที่นอนวางบนเตียงไม้สี่เสามีผ้าบังแดดด้านบน และสามารถปล่อยผ้ามาบังด้านข้างได้ด้วย แค่นั่งอยู่บริเวณสระน้ำก็ทำให้เราหมดเวลาไปทั้งวันได้ แต่การที่อยากจะเดินไปเดินมาระหว่างสระว่ายน้ำและทะเลสลับกันเป็นเรื่องยาก สำหรับการอยู่ที่รีสอร์ทนี้ เพราะที่นี่ไม่ติดทะเล เราจะต้องเดินข้ามสวนสาธารณะประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีที่นอนริมหาดของรีสอร์ทจัดไว้แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล อย่างไรก็ตามมีร้านอาหารที่อยู่บริเวณนั้นดูแลในการจัดเตรียมผ้าขนหนูซึ่ง เป็นของรีสอร์ทแทน และเราก็จะสั่งเครื่องดื่มหรืออาหารจากเค้า ซึ่งหากเรามองในแง่การกระจายรายได้ให้ชาวบ้านแล้วก็เป็นการดีที่ชาวบ้านจะ ได้รับส่วนแบ่งของรายได้จากการที่แขกของโรงแรมใหญ่มาสั่งเครื่องดื่มหรือ อาหารจากเค้าในช่วงที่มาใช้เวลาที่ทะเล และถ้าหากชอบการมองพระอาทิตย์ตกและหายลับไปกับทะเล ที่ชายหาดแห่งนี้ก็สามารถเห็นได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่เราจะใช้เวลาพักผ่อน อยู่แต่ในรีสอร์ทได้ทั้งวัน เพราะรู้สึกอยากพักผ่อนให้เต็มที่ และไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรมาก เราจึงไม่ได้ออกกำลังกายในห้องออกกำลังกายเลย ซึ่งในห้องนี้มีอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายไว้ครบแต่จำนวนไม่มาก เพราะที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กที่มีจำนวนห้องพักเพียง 74 ห้อง
เราได้มีโอกาสไปใช้บริการสปาของทางรีสอร์ท ซึ่งในวันที่ฝนตกคิวจะเต็มมากต้องจองล่วงหน้า บรรยากาศในสปาก็เป็นแบบสบายและกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยทำให้เราผ่อนคลาย ได้เป็นอย่างดี เครื่องดื่มที่มาเสริฟต้อนรับก็เป็นน้ะสมุนไพรกลิ่นหอม เมนูมีให้เลือกหลายรายการทั้งสำหรับผู้หญิงผู้ชาย มีทั้งการนวด อบ ขัด ตัวและหน้า ส่วนราคาโดยรวมก็ประมาณ 2,000 บาทต่อชั่วโมง และยังมีเป็นแพ็คเก็จด้วย พนักงานที่ทำสปาก็คอยถามถึงความรู้สึกเราตลอดเวลาเพื่อจะทำให้ถูกใจเรามาก ที่สุด เมื่อทำเสร็จแล้วก็มีน้ำขิงให้เราดื่ม ซึ่งอันนี้เราว่ารสชาติหวานไปหน่อย ทำให้ไม่รู้สึกว่าดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซักเท่าไหร่
เราได้ลิ้มลองอาหารที่นี่ทั้งมื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น และ อาหารทานเล่นระหว่างมื้อ เริ่มต้นจากมื้อเช้าที่เราสามารถทานได้ถึง 11 โมงเช้า เราจึงตื่นสายได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องรีบตื่นเพราะกลัวไปทานอาหารเช้าไม่ทัน การจัดวางอาหารเช้ามีสไตล์ที่ไม่น่าเบื่อแบบโต๊ะยาวๆทั่วไป อาหารถูกจัดวางรอบๆบู๊ทที่นั่งได้ออกแบบไว้โดยเฉพาะ อาหารแต่ละชนิดก็มาจากวัตถุดิบชั้นดี และมีให้เลือกทั้งแบบฉบับอินเตอร์, เอเชีย, หรือแบบเพื่อสุขภาพ แต่อาจจะมีให้เลือกไม่มากเหมือนโรงแรมใหญ่ๆ เพราะจำนวนแขกไม่มาก แต่เท่าที่มีก็ค่อนข้างหลากหลายสำหรับมื้อเช้าแล้ว รายการที่เป็นของโปรดเรามากที่สุดคือเบคอนอบที่ไม่อมน้ำมันเหมือนแบบทอด กลิ่นหอมและกรอบ ชิ้นใหญ่และมีมันกำลังดี สำหรับชา กาแฟ นั้น เป็นแบบธรรมดา หากอยากดื่มในแบบต่างๆ เช่น Earl Grey หรือ Cappuccino ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ หากจะทานอาหารแบบ A La Cart ที่นี่จะมีเมนูให้เลือกไม่มากนัก ซึ่งอาจจะขัดใจคนไทยอย่างเราซักหน่อย เมนูจะมีทั้งแบบฝรั่ง และอาหารไทย เราเลือกสั่งเมนูฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ เพราะอาหารไทยเราสามารถหาทานที่อร่อยได้ทั่วไป และเราจะเลือกเมนูที่มีอาหารทะเลประกอบ เพราะเรามาเที่ยวทะเลทั้งที Seafood Platter ที่นี่ประกอบด้วย ปูม้า, กุ้งลายเสือ, หอยนางรม, หอยแครง และหอยแมลงภู่ จะเห็นว่าหอยเยอะมาก และไม่สดเท่ากับร้านอาหารทะเลทั่วๆไป เราจึงไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ สำหรับเวลาว่างบ่ายๆ เราจะเลือกทานไอศกรีมเพราะเป็นแบบโฮมเมด ซึ่งรสชาติเข้มข้นมากโดยเฉพาะรสสตอเบอรรี่ที่รสชาดปรี้ยวจัดจ้านแบบ Sorbet ถ้าใครชอบทานไอศกรีมสตอเบอรรี่ของ Hagen Daz ก็น่าจะชอบแบบนี้เหมือนเรา ส่วนเวลาที่นอนเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ ก็มีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบบต่างๆให้สั่ง ซึ่งก็ยังไม่ค่อยประทับใจเราเท่าไหร่ แต่อาจถูกใจใครหลายคนก็เป็นได้สำหรับเรื่องการต้อนรับและการบริการของ พนักงาน มีพนักงานหลายๆท่านที่เราประทับใจไม่มีวันลืม แต่ก็มีพนักงานบางท่านที่ไม่ค่อยจะเต็มใจต้อนรับเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเราเป็นคนไทยหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะรู้สึกเศร้าใจมาก แต่โดยรวมๆแล้ว Twin Palms Resort เป็นรีสอร์ทที่เราประทับมากที่หนึ่ง ทั้งบรรยากาศ, ความรู้สึกอบอุ่น, เบคอนตอนเช้า และแน่นอนการบริการจากพนักงานที่น่ารัก และอีกอย่างที่แน่นอนคือเราก็จะกลับไปที่นี่อีกสำหรับวันหยุดพักผ่อนคราวหน้า
สามารถอ่าน review ของResortอื่นๆที่เราเขียนไว้ได้ที่ www.mythailandhotel.com นะ
จากคุณ :
iammink
- [
11 ต.ค. 49 16:30:20
A:10.239.33.31 X:203.170.231.232 TicketID:073987
]