มาแว๊ว..ววววว รายงานตัวหลังจากหยุดพักผ่อนประจำสัปดาห์ขอรับ...
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ nickyblood ที่ช่วยทำ Link ย้อนอดีตให้ ผมยกมอบรางวัลขาประจำดีเด่นประจำสัปดาห์เลยครับ...แปะ..แปะ...แปะ... แถมตีมือให้ด้วย 3 ที และเพื่อไม่ให้เป็นการลำบากแก่พี่ป้าน้าอาว์และขาประจำทั้งหลาย ผมเลยทำ Link ไว้ให้เผื่อใครเปิดมาอ่านครั้งแรก จะได้ไม่งง ว่าไอ้นักพล่ามคนนี้มันมาจากไหน
ภาคเปิดตัว - หาแนวร่วม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4778844/E4778844.html
กระทู้อู้งานมาเล่า (ภาค 1) - ว่าด้วยเรื่องทำ VISA
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4784899/E4784899.html
กระทู้อู้งานมาเล่า (ภาค 2) - จองตั๋วเครื่องบินครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4787793/E4787793.html
กระทู้อู้งานมาเล่า (ภาค 3) - จากนาริตะเข้าโตเกียว
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4790936/E4790936.html
วันหยุดที่ผ่านมา แทนที่จะหยุดพักผ่อนเหมือกับชาวบ้านชาวช่องเขา ผมก็วุ่นวายอยู่กับการกริ๊งกร๊างโทรถาม และนัดกับเหล่าสหายและกระเหรี่ยงรุ่นพี่ไปทำการซักซ้อมดื่มสาเกแกล้มปูอัดเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับบรรยากาศของญี่ปุ่น(ขี้เมา) และก็ได้ของแถมเป็นข้อมูลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่จะหอบไปใช้ที่ญี่ปุ่น (จริง ๆ ต้องใช้คำว่าหยิบนะ เพราะมันน้อยเหลือเกิน) มาฝากทุกท่านดังนี้
1. อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้ กำลังดีอยู่ที่ 31 บาทก่า ๆ ต่อ 100 เยน แต่ถ้าเอาไปขายคืนแบงค์ ก็ต้องขาดทุนนิดหน่อยอยู่ที่ 30 บาทแก่ ๆ
2. จากที่ประชุม ครม. (คณะรักการเมา) ได้กล่าวสรุปถึงอัตราแลกเปลี่ยน ณ ห้วงนี้ว่าเหมาะแก่การไปท่องญี่ปุ่นเป็นยิ่งนัก เพราะเงินบาทกำลังแข็งตัวได้ที่ จากปีก่อนจะไปทีก็ต้องกำเงินไปแลกถึง 37 - 38 บาทต่อ 100 เยน ปีนี้ได้กำไรถึง 6 บาทกว่า และจากการคาดการของหม่อมอ๋อย รัฐมนโทว่าการกระทรวงกระติกน้ำแข็งและโซดา กล่าวด้วยเสียงลิ้นคับปากว่า ให้รีบฉวยโอกาสกักตุน เอ๊ย!โอกาสไปเที่ยว เพราะปีหน้าอาจจะไม่แข็งเท่านี้ เนื่องจากได้รับอิทธิพลของเหล่าป๋า ๆ ญี่ปุ่นแถว ๆ ซ.ธนิยะ ที่ชักจะเงินฝืดไม่มีกำลังส่งเสียอีหนูแล้ว....กล่าวจบ รัฐมนโทท่านอื่นต่างพยักหน้าหงึกหงักไม่ใช่เพราะเข้าใจ แต่เพราะมึน ว่าแล้วก็ลากคอหม่อมอ๋อยไปนอนพัก เนื่องจากฟุ้งซ่านได้ที่แล้ว....
3. สถานที่แลกเงินที่น่าจะได้ราคาดีที่สุด คือตามร้านรับแลกเงินรายย่อย หรือในวงการเขาเรียกตลาดมืด (แต่เห็นเดินเข้าไปก็เปิดไฟสว่างทุกที่) ซึ่งมักจะตั้งอยู่ตามซอกซอยแถว ๆ ประตูน้ำ สะพานควาย หรือ ถนนข้าวสาร ที่นี่จะคิดค่าน้ำร้อนน้ำชาต่ำสุด ถ้าไปแลกที่ธนาคารอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม (ก็แน่ล่ะพนักงานธนาคารเงินเดือนหลายตังค์ทั้งนั้น) และถ้าไม่ยอมวางแผนไปตายเอาดาบหน้าแลกกันที่สนามบิน ก็จะได้ราคาที่อาจจะต้องตัดสินใจแวะ 7-11 ซื้อมาม่าไปกินเป็นข้าวเย็นที่ญี่ปุ่นทุกมื้อ... ส่วนสถานที่จะเป็นที่ไหน ใน Board นี้มีบอกอยู่หลายกระทู้แล้ว ขี้เกียจฉายซ้ำ... สำหรับผม เอาใกล้ที่ทำงาน Superrish ประตูน้ำ คือคำตอบสุดท้ายครับ
และกระเหรี่ยงตัวดำ ๆ อย่างผมก็พึ่งจะรู้ว่า ไม่ว่าจะที่ตลาดมืด หรือตามธนาคารเขาให้แลกแต่แบงค์ครับ ไม่มีเหรียญให้แลก และไม่รับซื้อเหรียญคืนนะจ๊ะ (ที่ไหนรับซื้อคืนช่วยบอกด้วย เสียดาย)
บรรยากาศหน้าร้านแลกเงินที่มันเหมือนกับตามซอกหลืบแถว ๆ ห้างพันธ์ทิพย์เลย.. คือจะมีผู้ชายหน้าตาโหด ๆ ออกมายืนดูต้นทาง และเรียกลูกค้า... พอเหยื่อ..เอ๊ย! ลูกค้าหน้าตาเลิกลั่กอย่างเพิ่มเฉียดเข้าไปหน้าร้าน พี่เขาก็จะรี่เข้ามาราวกับฉลามเจอเหยื่อ พร้อมกับถามว่า "โป๊มั๊ยพี่??" ฉะอุ๋ย! ไม่ใช่..นั่นมันที่พันธ์ทิพย์ คือเขาจะกระซิบด้วยเสียงอันแผ่วเบาแต่กลิ่นปากอันรุนแรง ว่า "แลกเงินไม๊พี่..." พอเราพยักหน้ารับ เขาก็คุมตัวเดินเราเดินเข้าร้านทันที (คงกลัวเราหนีไปร้านตรงข้าม)
ว่าแล้วผมก็ควักกระเป๋าดังหนึบ แลกกับเงินเยนอุ่น ๆ (คนนับเงินเขาตะโกนคุยกันว่าพึ่งออกจากห้องน้ำมา - แล้วมาให้ผมได้ยินทำไมล่ะพี่....)ได้มา 45,000 เยน สำหรับ Trip นี้ - คิดเป็นเงินไทยเท่ากับอัตราเงินเดือนเกือบค่อนเดือนของพนักงานชั้นผู้น้อยอย่างผม แต่พอแลกเป็นเงินเยนมันกลับเบาหวิว ๆ ได้มาแค่ 5 ใบ โอ้... ทำไมเราไม่เกิดมานามสกุลชินวัตรมั่งนะ......
เป้าหมายอันท้าทายมาแล้ว 40,000 เยน คือทุกสิ่งทุกอย่างใน 5 วันข้างหน้า ทั้งค่าที่พัก คืนละ 2,700 เยน / ค่ารถไฟ / ค่ากิน / ค่าเที่ยว / ค่าซื้อของเล่น(ผู้ใหญ่) รวมถึงค่าของฝาก ที่แทบทุกคนจะฝากแต่ลม แล้วจะเอาของแพง ๆ มาอีกเป็นบัญชีหางว่าว...... อ๊าก.กกกกก ถ้าผมจะเอาชีวิตรอดในเมืองมหาแพงอย่างโตเกียวได้ คงต้องทำแบบคุณนิ้วกลมซ่ะกระมัง ว่าแล้วต้องกลับไปเช็คถุงนอนก่อน ว่ายังอยู่ดี หนูไม่ได้แทะขาดกระจุยไปซ่ะ เตรียมไว้ก็ไม่เสียหลาย --- เฮ้อ...ใครมีบ้านอยู่ญี่ปุ่นขอนอนด้วยคนได้ไหมคร๊าบ......... นี่แหละหนา พวกไปโดยไม่มีการเตรียมตัว ลำบากเยี่ยงนี้แหละ... อย่าได้เอาเยี่ยงอย่างนะ
ว่าแล้วก็ต้องใช้ shortcut เดินเข้า Lotus แถวบ้านมองหาของคู่ใจคนยาก ไวไว ครับคือคำตอบสุดท้าย (ผมไม่ชอบกินมาม่า) ขนไปซักครึ่งโหล แถมได้ข้าวหอมมะลิบรรจุกระป๋องมาอีก 4 กระป๋อง (กระป่องละ 13 บาท).... และซุปข้นปูอัดแบบผงมาอีก 4 ซอง.... ขนมปังอีก 1 ถุง ปลากระป๋องไม่เอาเพราะกินที่เมืองไทยบ่อยแล้ว... จริง ๆ อยากเอาพวกหมูหยองหมูแผ่นไปด้วยนะ แต่กลัว ตม. เข้าคิดว่าเป็นกัญชาตากแห้ง เดี๋ยวจะได้นอนกินข้าวแดงที่ญี่ปุ่นเขาเสียเปล่า ๆ....
เท่านี้ผมก็ประหยัดเงินค่าอาหารมื้อเช้า กับมื้อเย็นของบางวันไปได้โขแล้ว.... เน้นซื้อกินมื้อกลางวันกับมื้อเย็นวันท้าย ๆ .... ฮ่า กะดูคร่าว ๆ เท่านี้ผมก็มีเงินเหลือไป Disney land แล้วล่ะ...(ตั้ง 5,800 เยนแน่ะ) และเมื่อความประมาทอาจเป็นหนทางของความอดตาย ยิ่งไปต่างบ้านต่างเมืองอยู่... เลยแลกเงินไปเผื่ออีก 5,000 เยน ถ้าไม่ใช่ก็เอามาขายคืน.. และไม่ลืมเอาบัตรเครดิตไปด้วยดีกว่า กันเหนียว..... แต่เห็นรุ่นพี่บอกว่าที่ญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยชอบรับเงินพลาสติคกันนะ....
คิดว่าคงรอดนะครับ?
วันนี้คุยเรื่องเงินค่อนข้างซีเรียด ไม่ค่อยขำนะครับ... ขออภัยขาประจำที่มาปูเสื่อคอยฮาด้วย มันเศร้าครับ เจอพลังพิฆาตเยนเตร็กเข้าไป.... จุกไปหลายมื้อ.....
หมดเวลาอู้แล้วครับ แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้...
แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 49 20:24:50
จากคุณ :
NumAromDee 
- [
16 ต.ค. 49 20:02:54
]
กระทู้อู้งานมาเล่า (ภาค 4) - เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่มีก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้
