ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้ตื่นสายกันหน่อยเนื่องจากเมื่อวานเพลียจากการขับรถมาทั้งวัน เช็คเอ้าท์จากโรงแรมน่านฟ้าก็เดินหาอะไรทานละแวกใกล้ๆ เช้านี้อากาศไม่ได้เย็นเหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ถือว่าไม่ร้อนมาก จุดหมายแรกของวันนี้คือวัดพระธาตุแช่แห้ง วัดที่ 1 เราจอดรถที่ฝั่งตรงกันข้ามของถนนแล้วเดินข้ามมาอีกที ยามเดินขึ้นไป มองเห็นพระธาตุสีทองเด่นสง่าตั้งอยู่ไม่ไกล แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:46:41 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 11:37:21 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 11:28:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เดินเข้ามาภายในบริเวณวัดคงไม่ต้องบอกอะไรมากเมื่อเห็นสัญลักษณ์รูปปั้นกระต่ายตั้งวางอยู่บนเสาทุกเสาร่ำไป บ่งบอกว่าเป็นวัดประจำคนเกิดปีเถาะอย่างแท้จริงตามความเชื่อชาวล้านนา แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:48:06 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 11:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนน่าน เข้ามารอดูคร้าบบบ จากคุณ : เคมีรามคำแหง - [ 28 ต.ค. 49 11:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาภายใน มองเห็นพระธาตุสีทองสะท้อนแสงเปล่งประกายออกมาสวยงามมาก พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ส่วนฐานทำเป็นทรงหน้ากระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่รองรับกับ ฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานรูปสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยมซ้อนกันลดหลั่นลงมา 3 ชั้น รับชั้นมาลัยเถาสามชั้น องค์ระฆังมีขนาดเล็กบัลลังก์ทำเป็นแท่นสี่เหลี่ยมย่อเก็จ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 11:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าไปกราบพระประธานในอุโบสถด้วยกันนะครับ สายพระเนตรมองลงมาเหมือนเป็นนัยเอ็นดูเรา ช่วงนี้จะมีช่างเข้ามาทำนุบำรุงองประประธานอยู่ คงน่าจะเตรียมการจัดงานกระฐินที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 11:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาดูอีกมุมหนึ่งเมื่อเดินอ้อมอุโบสถ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามประวัติ พระธาตุแช่แห้งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญมีอายุกว่า 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย องค์พระธาตุมีความสูง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ22.5 เมตร บุด้วยทองเหลืองปิดทองคำเปลวหมดทั้งองค์ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไปไหว้พระเจ้าทันใจกันครับ นัยว่าขอพรอะไรจะได้เร็วทันใจตามปรารถนา จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 องค์พระพุทธรูปอีกจุดหนึ่ง จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อากาศร้อนแล้วหล่ะครับ แต่ใจยังสดชื่นด้วยบุญอยู่ น้องกระต่ายเราก็หลบแดดร้อนๆอยู่เหมือนกัน จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ได้เวลาจากลาวัดพระธาตุแช่แห้งไปแล้วหล่ะครับ ตอนเดินลงมาวิวสวยมากๆขนาบข้างด้วยพญานาคสองตัว จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาดูน้าอาร์ต พาไปเที่ยว น้าอาร์ตเกิดปีเถาะ ก็แก่กว่าผม 10 ปีพอดีๆ   จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 28 ต.ค. 49 12:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เสร็จแล้วก้ขับรถย้อนกลับไปที่ตัวเมืองน่าน ข้ามสะพานแม่น้ำน่านได้เห็นบรรยากาศชาวบ้านต่างมาชมประเพณีการแข่งเรือกันเต็มสองข้างฝั่งลำน้ำน่าน แต่เราคงจะมาดูอีกครั้งในช่วงบ่าย แวะจอดรถที่จอดรถข้างวัดภูมินทร์ สายๆแดดร้อนอย่างนี้ต้องแวะเข้าไปชิมกาแฟสดหน่อยแล้ว ร้านนี้ชื่อร้าน La Vita ไม่เพียงจะขายเครื่องดื่มอย่างเดียวแต่ยังมีรายละเอียดทัวร์ต่างๆในจังหวัดน่านด้วย โดยเฉพาะเพ็คเกจล่องแก่งน้ำว้า จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอสเปรสโซ่เย็นกับโกโก้เย็น โอว....สดชื่น อะไรนะน้าปลานิล รอบไหนกันหล่ะน้า คำนวณดีๆเด้อ ผมแค่ 19 เองนะน้า อิอิ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อจากนั้น เราเดินเข้าวัดภูมินทร์ วัดที่ 2 ทางด้านข้าง ซึ่งผมยังเข้าใจว่าด้านหน้าซะอีก วัดนี้แปลกอยู่อย่างตรงที่ว่า อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหารและพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:49:20 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้าไปดูภาพเขียนจิตรกรรมบนฝาผนังภายในโบสถ์วิหารหลวง วัดภูมินทร์กันเลยครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 12:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จากประวัติ วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมนานถึง 7 ปี จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงก็เขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ในวัดภูมินทร์เป็นชาดกในพุทธศาสนา และภาพจิตรกรรมรายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น ภาพที่น่าสนใจเช่น ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วง ของชาวไทลื้อ พ่อแม่ จะอนุญาตให้หนุ่มสาวพบปะกันที่ชานบ้านในเวลาค่ำ ขณะหญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย หรือ “อยู่ข่วง” หากสาวเจ้าตกลงปลงใจด้วยก็จะจัดพิธีแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “เอาคำ ไปป่องกั๋น” หรือเป็นทองแผ่นเดียวกัน จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองน่าน หญิงสาวกำลังทอผ้าด้วยกี่พื้นเมือง นอกชานมีเรือนเล็กๆตั้งหม้อน้ำดินเผาที่เรียกว่า “ร้านน้ำ” ส่วนชายหนุ่มไว้ผมทรงหลักแจวหรือทรงมหาดไทย แสดงให้เห็นอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามาผสมผสานในวิถีพื้นเมืองน่าน จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพนี้ดูเหมือนกับว่าหญิงสาวคงเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหรือร้องไห้ก็ไม่ทราบได้ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพสวยงามเช่นเคย  พร้อมกะได้ความรู้ด้วยค่ะ จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) - [ 28 ต.ค. 49 13:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การค้าขายแลกเปลี่ยนในชุมชน ภาพชาวพื้นเมือง ซึ่งอาจเป็นชาวเขา “เป๊อะ” ของป่าบนศรีษะ เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับคนเมือง เอ๊ะ...แต่ผมสงสัยว่าผู้หญิงทำไมใส่เสื้อไม่ติดกระดุมหล่ะเนี่ย หรือว่าอากาศมันร้อน สวัสดีครับป้าเกษ ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวเมืองน่านด้วยกันครับ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 13:18:09 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาเมืองน่านช่วงรัชกาลที่ 5 ทรงผม และเครื่องแต่งกายของผู้หญิงเป็นรูปแบบเดียวกับที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปขณะนั้น จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้ผมมีความสุขกับการค่อยๆดูภาพเขียนบนฝาผนังของวัดแห่งนี้ ไม่ต้องรีบร้อน ดูแบบรอบ 4 ทิศไปเรื่อยๆจนวนมากกว่า 1 รอบแล้ว อาศภายในก็เย็นสบายด้วย ไม่ร้อนครับ มาดูงานแกะสลักบนเสาไม้กันบ้าง สวยงามไม่แพ้ใคร จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพนี้คงเป็นเรือกำปั่นขนส่งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทยเรา มีรายละเอียดต่างๆ เช่นรูปธงชาติติดอยู่บนเสาเรือ รูปนกที่บินเข้ามาเล่นบนผิวน้ำรอบๆเรือ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพเขียนโดยรวมบนฝาผนัง จะมีบางส่วนที่หลุดลอกไปแล้ว เป็นที่น่าเสียดายมาก ใครยังไม่เคยมา รีบมาชมให้เห็นกับตาเลยนะครับ เพราะถ้าเนิ่นนานไปแล้ว นับวันภาพจะหลุดลอกออกไปเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หญิงสาวนางนี้ช่างชาวเหนือสมัยก่อนบรรจงสร้างสรรค์ผลงานวาดออกมาได้สวยงามมากครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาดูพระประธานภายในบ้างครับ วัดภูมินทร์แห่งนี้ เป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนครดังปรากฏชื่อตำบลในเวียงในปัจจุบัน อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ตามพงศาวดารของเมืองน่าน พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์เจ้าผู้ครองนครน่านได้สร้างวัดภูมินทร์ขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี เมื่อ พ.ศ.2139 มีปรากฏในคัมภีร์เมืองเหนือว่าเดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็นวัดภูมินทร์ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพข้าราชการหรือราษฎร์เข้าเฝ้าเจ้านายชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้าผู้ครองนครน่านสมัยนั้น แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 13:44:16 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพผู้ชาย เดาว่าน่าจะเป็นเจ้านายเพราะเหน็บกระบี่ด้วย ไว้ทรงผมหลักแจวหรือมหาดไทยกำลังสูบยาสูบอย่างสบายใจ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แหงนมองขึ้นไปด้านบนก็จะเป็นภาพเขียนเรื่องราวพุทธประวัติตามเรื่องเล่าชาดก จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 13:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จุดเด่นของวัดนี้คือพระประธานจตุรทิศหรือสี่ทิศ ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาแบบพิเศษ การออกแบบที่สอดคล้องกันทุกจุด ฐานเจดีย์ที่อยู่ ณ ศูนย์กลางจุดตัด เป็นแกนประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยทั้ง 4 องค์ แต่ละพระพักตร์ล้วนแตกต่างกันไป สื่อถึงพระพุทธเจ้า 4 พระองค์คือ พระเจ้ากกุสันโธ โกนาคม กัสสปะ และโคตมะ จนได้รับการโปรโมตจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วงปี 46 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบ Unseen in Thailand จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วกเดินออกมาที่ด้านหน้าโบสถ์วิหาร จตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว ประวัติทราบมาว่า รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้มาด้วย นับว่าเป็นวัดที่มีประวัติสำคัญทีเดียว จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วัดภูมินทร์ยังไม่จบนะครับ เราเข้าไปชมภายในสถูปเจดีย์พระมาลัย โปรดโลกกันครับ ภายในก็จะเป็นรูปปั้นจำลองนรกสำหรับคนที่ทำบาป ขอบคุณครับน้าปลานิลที่ร่วมมาแจมรูปครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ใครประพฤติผิดอะไรไว้ระวังจะโดนแบบที่เห็นนะครับ :) จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อันนี้หวาดเสียวพอสมควร แต่คงเป็นตัวอย่างไม่ให้พวกเราทำบาปนะครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไปยังวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดที่ 3 วัดหนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ในภาพเป็นมุมที่มองจากสี่แยกไฟแดง แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:50:53 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ช่วงนี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่ต่างนำมาออกร้านในงานเทศการแข่งเรือนั่นเอง ด้านหน้าวัดเลยไม่โล่งเหมือนปกติ ตามเรามาครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มองจากด้านหน้า พระธาตุค้างค้ำสีทองแอบหลบอยู่ตรงกลางระหว่างวิหารด้านซ้ายและหอไตรด้านขวา จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ฝีมือแกะสลักรูปครุฑและลวดลายต่างๆบนไม้หน้าบรรณหอไตร จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อีกรูปหนึ่งของพระธาตุช้างค้ำกับวิหารหลวง จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไหว้พระในวิหารหลวงก่อนนะครับ พระพัตร์มองลงมาช่างงดงามเหลือเกิน จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เราเดินมาดูพระธาตุช้างค้ำใกล้ๆกันบ้าง พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีลิกธาตุไว้ภายใน นับเป็น ปูชนียสถานสำคัญ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อมนั่นเอง พระธาตุเจดีย์ สร้างด้วยอิฐถือปูนมีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลื่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสอง มีรูปช้างค้ำอยู่ในลักษณะเหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ช้างแต่ละตัว โผล่ส่วนหัวลอยออกมาครึ่งตัว ขาหน้าทั้งคู่ยื่นพ้นออกมาจากเหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว) ซ้อนกัน 3 ชัน และเป็นองค์ระฆังแบบลังกา ต่อจากองค์ระฆังทำเป็นฐานเขียงรองรับมาลัยลูกแก้วลดหลั่นกันไป เป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำได้รับการบูรณะซ่อมแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ มีความสวยงามมาก จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ต่อจากนั้นเราเดินข้ามมาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านซึ่งอยู่คนละฝั่งของถนน  ณ ทางเดินเท้าแห่งนี้ดูคลาสสิคมากครับ เพราะอยู่ระหว่างต้นไม้ทั้งสองข้าง จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เดินไปที่อาคารด้านในกันดีกว่า ร้อนแล้ว จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 14:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ภายในพิพิธภัณฑ์ก็จะแบ่งเป็น 2 ชั้นคือชั้นล่างกับชั้นบน โดยชั้นล่างจะเป็นการแสดงประเพณีชนเผ่าต่างๆในน่าน เครื่องมือเครื่องใช้ ส่วนชั้นบนจะแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน และที่สำคัญมี งาช้างดำ ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุคู่เมืองน่านตามประวัติกล่าวว่า ได้มาจากเมืองเชียงตุงตั้งแต่โบราณ จริงๆเขาไม่ให้ถ่ายรูปแต่ผมแอบถ่ายมา อิอิ ใครอย่าเอาอย่างนะครับ จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 15:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ต่อจากนั้นข้ามถนนเล็กๆไปยังอีกฝั่งหนึ่งเพื่อไปไหว้พระที่วัดหัวข่วง วัดที่ 4 วัดที่เราได้ถ่ายรูปมาเมื่อค่ำของเมื่อวานนี้ รูปปั้นพระภายในอุโบสถครับ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:51:59 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 15:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เจดีย์วัดหัวข่วง ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงประสาท หรือเรือนทอง อิทธิพลศิลปะล้านนา จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 15:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ข้างๆกันก็จะเป็นหอไตร ซึ่งเป็นหอที่ใช้เก็บพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ลักษณะเป็นอาคารสี่เหลี่ยมทรงสูงใต้ถุนก่อทึบ มีทางเข้าทางเดียว มีบันใดภายใน ตัวอาคารชั้นบน ฝาทำด้วยไม้ มีหน้าต่างด้านละหนึ่งช่องยกเว้นด้านหลัง หลังคาจั่วลดชั้นแบบปั้นหยา หลังคาชั้นบน มีช่อฟ้าใบระกา ก็เป็นอันว่าจบการสำรวจศิลปะวัฒนธรรมของเมืองนานช่วงเช้า(ก่อนเที่ยง)ไว้แค่นี้ก่อน แล้วจะมาค่อช่วงต่อไปวันวันคือช่วงบ่ายครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามชม โดยเฉพาะน้าปลานิล ที่เข้ามาแจมรูปกันสดๆครับ ทำให้ไม่เหงาขณะโพสต์เรื่องราว อ่านต่อในตอนต่อไปตามนี้ ========== ตอน 2.2 ได้เวลาสำรวจศิลปะวัฒนธรรมชาวล้านนาตะวันออก ณ ดินแดน "นันทบุรีศรีนครน่าน" ช่วงบ่าย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4831010/E4831010.html แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 49 19:53:37 จากคุณ : Athlons - [ 28 ต.ค. 49 15:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตามติดอย่างกระชั้นชิด อิอิ จากคุณ : ตัวเรา - [ 28 ต.ค. 49 20:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เข้ามารับความรู้แบบเต็มๆกะคุณอาร์ตเลยค่ะ ยังไม่เคยไปเลยค่ะเมืองน่านเนี่ย  เห็นอย่างนี้กระตุ้นต่อมเที่ยวอีกแล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : Red Leaves - [ 28 ต.ค. 49 21:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : คนจีนตัวน้อย - [ 29 ต.ค. 49 17:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ชอบ คห.47 ค่ะ สวยจัง ตามไปไหว้พระด้วยคนค่า จากคุณ : แพนเค้กอุ่นๆ - [ 29 ต.ค. 49 20:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 63 รูปสวยมากครับ ท้องฟ้าแจ่มมากเลย เห็นแล้วอยากไปมากๆเลยครับ จากคุณ : CoBraGolD - [ 30 ต.ค. 49 23:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หุหุ...ดูเพลินไปเลยครับ...ขอบคุณนะครับสำหรับรีวิวรูปสวยๆและเรื่องราวดีๆจากน่านครับ ได้ยินแว่วๆว่าคนแถวนี้อายุ 19 เหรอครับ วัยรุ่นตอนต้นนี่ครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 30 ต.ค. 49 23:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ตามมาดูภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อของวัดภูมินทร์ค่ะ ...พาเที่ยวแต่วัดอย่างงี้  ไม่ใช่อายุ19แน่ๆอิ อิ จากคุณ : น่ า น ฟ้ า (Nanfah) - [ 2 พ.ย. 49 01:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ตามมาดู ... จากคุณ : สะเทื้อน - [ 23 พ.ย. 49 16:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีครับเพื่อนๆ BP ทุกท่าน ขอให้เพื่อนๆที่เข้ามาดูรูปและอ่านเรื่องราวจงมีแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพลังพร้อมต่อสู้กับวันใหม่นะครับ H A P P Y  N E W  Y E A R  2 0 0 7 จากคุณ : Athlons - [ วันปีใหม่ 20:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 จขกท. คห.21 คือภาพเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆครับ(ก่อนพระสมณโคดม-พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ไม่ใช่แม่ค้า ที่คุณเข้าใจผิดว่าเป็นแม่ค้านั่นคือแม่ของพระพุทธเจ้า กำลังชี้ให้พระพุทธเจ้าท่านดูว่า นั่นคือรอยเท้าโคครับ แต่ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าพระพุทธเจ้าองค์ไหน และรอยเท้าโคมีความสำคัญอย่างไร ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ จากคุณ : กลับมาแล้วคนดี - [ 22 พ.ย. 50 13:32:23 ]