ความคิดเห็นที่ 1 มารอเก็บข้อมูลต่อค่ะ จากคุณ : แม่มะนาวหวาน - [ 1 พ.ย. 49 19:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากสะพานในรูปที่แล้ว พอหันหลังกลับ ก็จะเจอสถานีมินามิเซ็นจู เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่บนดิน..... ใช่แล้ว ท่านไม่ได้เบรอ หรืองง มันเป็นสถานีรถใต้ดินที่อยู่บนดินจริง ๆ รถสายนี้คือสาย ฮิบิย่า มีสีประจำสายคือ สีเทา รถไฟญี่ปุ่นในเขนเมืองเดียวกัน จะมีสีไม่ซ้ำกัน เพื่อให้แยกแยะได้ง่าย โดยสีของสายรถ จะเป็นแถบสีคาดไว้ที่ข้างตัวรถ ไม่ใช่ทาทั้งคันนะ       พอวิ่งออกจากสถานีนี้ ก็จะมุดลงดินทันที จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความไม่เตรียมการณ์อะไรล่วงหน้าตาม concept เที่ยวแบบศิลปินอีโก้สูง..... เลยต้องมายืนบ่นคนเดียวงึมงัมหน้าแผนที่ทางรถไฟใต้ดิน ว่าถ้าเราอยากไป Odiba ควรซื้อตั๋วไปยังไงดี......... ถีงจะคุ้มที่สุด จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 "ความประมาทเป็นหนทางแห่งความพินาศ" หลวงพ่อที่วัดใกล้บ้านให้พรไว้.... ผมเลยเลือกทางที่ safe ที่สุดด้วยการซื้อตั๋ววันของ Tokyo Metro จากเครื่องขายตั๋วนี้ ซึ่งใช้ง่ายกว่าเครื่องขายตั๋วของ JR เยอะเลย เพราะมีภาษาอังกฤษติดไว้ที่ใกล้ ๆ ปุ่มกด ไม่ต้องหาปุ่มเปลี่ยนภาษาให้งงเต็ก..... และที่สำคัญกด 2 ปุ่มก็เสียวววว. เอ๊ย! กดแค่ 2 ปุ่มพร้อมหยอดตังค์ ก็ได้ตั๋วมาแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นี่คือหน้าตาของตั๋ววันของ Tokoy Metro ใช้ได้จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 24 ต.ค. นี้ (ตัวแรกในกรอบตัวแรกคือปีญี่ปุ่น ตัวกลางคือเดือน ตัวสุดท้ายคือวันที่) ส่วนไอ้รูด้านซ้ายของตั๋ว หรืออาจอยู่ด้านขวาก็ได้ แล้วแต่ว่าเราจะเอาด้านในยัดเข้าไปในช่องรับตั๋ว (ไม่จำกัด) จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเสียบตั๋วผ่านช่องทางเข้าครั้งแรก ถ้ายังไม่มีเจ้ารูนี้ สามารถขายตั๋วคืนได้ (ไม่กล้าลองเพราะคุยกับคนขายตั๋วไม่รู้เรื่อง)    ซึ่งระบบการใส่ตั๋วจะคล้าย ๆ รถไฟ BTS บ้านเรา แต่ใช้ได้ทั้งตั๋วกระดาษ และใช้บัตรแตะ(บัตรสะสมมูลค่า) แบบรถใต้ดินบ้านเรา จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อแตกต่างของรถไฟญี่ปุ่น(ทุกสถานี ทุกแบบ) คือประตูทางเข้า ตรงที่เสียบบัตร จะเปิดปิดค่อนข้างช้ามาก ใช้เวลาประมาณเกือบ 10 วินาที หลังจากดึงบัตรออกไปแล้ว ถึงจะปิด ทำให้คนที่แบกของพะรุงพะลังไม่ต้องกลัวประตูหนีบช้างน้อย(หรือแมมมอธ) เหมือนกับที่ผมโดนจากประตูเก็บตั๋วของ BTS บ้านเรา    รูปนี้ยืมคุณ Skybox แหน่ง Trackingthai.com มา ขออนุญาตใช้รูปหน่อยนะครับ...... จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ป้ายแสดงสถานีและสัญลักษณ์ของรถไฟ Tokyo Metro จำกันให้ดีนะคร๊าบ... จะได้ไม่ขึ้นผิดสถานี เพราะตรงนี้มีทั้งรถไฟ JR , Subway Tokyo และ Tsukuba Express จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะ รบกวนถามหน่อยจิ!! คือจะไปญี่ปุ่นวันที่1-5 DEC นี้อ่ะค่ะ อยากรู้ว่าอากาศจะหนาวมากมั้ย แล้วจะยังมีฝนเหมือนที่บอกอยู่รึป่าว จากคุณ : กะปอลอ (กะปอลอ) - [ 1 พ.ย. 49 19:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้วขอประชาสัมพันธ์ webboard traekkingthai.com หน่อย ที่นั่นมีกูรู และ เซียนญี่ปุ่นอยู่มากมาย ผมได้ความรู้หลายอย่างจาก board นี้หล่ะครับ เลยพอเอาตัวรอดกับ Trip แรกนี้ได้ ตัวอย่างเช่น link นี้ เขียนแนะนำวิธีการใช้ระบบรถไฟในญี่ปุ่นไว้ละเอียดมั่ก ๆ  ๆ ๆ ๆ  น่านับถือจริง ๆ ขออนุญาติเผยแพร่ด้วยครับ... http://www.trekkingthai.com/board/show.php?Category=trekking&forum=2&No=2748&picfolder=trekking&PHPSESSID=9413366f3b6765d1720af6a7273b2ee5#top สิ่งที่แตกต่างจากรถไฟฟ้าบ้านเราอีกอย่างหนึ่งคือ ที่นี่เขาให้กินขนมกินน้ำบนรถได้ (มีตู้ขายน้ำอยู่ในสถานีเพียบ...)ขออย่างเดียวอย่าสูบบุหรี่... ที่สำคัญไม่มี รปภ. มายืนเป่านกหวีดปรี๊ด ๆ ให้รำคาญใจ ถ้าอยากเรียกเจ้าหน้าที่ก็ต้องไปกดปุ่มที่เจ้าเสาต้นนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณกะปอลอไปญี่ปุ่นวันเดียวกะเราเลยค่ะ แต่เราไปวันที่ 1-15 ค่ะ (ฮันนีมูนยาวววว) คุณกะปอลอได้ตั๋วของที่ไหนเหรอ?? จากคุณ : tharinee_bum - [ 1 พ.ย. 49 19:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณกะปอลอครับ...   ไปญี่ปุ่นช่วงธันวา สงสัยว่าจะหนาวจับขั๋วแล้วครับ ขนาดตอนผมไป ใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสีดีเลย อุณหภูมิเฉลี่ยยังหล่นโครมไปที่ประมาณ 18 องศา(ซี) โดนสบายไม่มีเหงื่อเลย ฝนคงน้อยแล้วครับ แต่ไม่แน่ ญี่ปุ่นมันเป็นเกาะ มีทะเลล้อม ถ้าไม่เจอฝนก็หิมะหล่ะครับ.....เตรียมเสื้อหนา ๆ กับหมวกไหมพรมอุ่น ๆ ไปด้วยล่ะกัน   ลองดูพยากรณ์อากาศตาม Link นี้เลยครับ http://www.weather.com/outlook/travel/businesstraveler/local/JAXX0085?site=GENXH&par=OAP&code=null  แต่เขาพยากรณ์ล่วงหน้าแค่ 10 วันนะ  มาต่อกันครับ  รถ subway สาย Hibiya นี้ เป็นรถรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ สังเกตที่เหนือประตู จะมีป้ายเป็นไฟวิ่ง บอกทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ แถมมีประกาศจากคนขับทั้ง 2 ภาษาด้วย รับรองไม่หลง (ถ้าฟังออก) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิจฉาคุณ tharinee_bum จังเลย!! เราไปกับทัวร์ค่ะ เป็นตั๋วของ AL ไปกับน้องอีกคน อยากไปจัด... เลยตัดสินใจเมื่อวานนี้เอง (แบบว่าดู UBC โฆษณามากไปหน่อย) จากคุณ : กะปอลอ - [ 1 พ.ย. 49 19:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ถ้าเป็นรถรุ่นเก่า เช่นของสาย Ginza (สีไข่ไก่)  จะเป็นป้ายแบบ BTS บ้านเรา แต่ Hi-tech กว่า ด้วยสัญญานไฟกระพริบที่ชื่อสถานีนั้น ๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 19:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมมาเปลี่ยนสายรถที่สถานี Ueno จาก Hibiya Line (สีเทา) เป็น Ginza Line (สีไข่ไก่) เปิ่นอีกหล่ะ ดันเดินผิดทางไปหลงอยู่ในสถานี JR Ueno เลยเจอกับป้ายโฆษณานี้เข้า............ มันเป็นสะพานที่สวยม๊ากกกกกกกกกก แล้วมันคือที่ไหนหล่ะนี่... ว่าแล้วก็เดินเข้าไปถามที่ Tourist Center ก็ได้ความว่ามันคือสะพานแดงแห่งเมืองนิคโก้อันแสนโรแมนติค......!!!! ซึ่งกระเหรี่ยงรุ่นพี่แนะนำว่าช่วงนี้ใบไม้ที่ Nikko มันเปลี่ยนสีแล้ว    เอาหล่ะซิ อยากไป ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ทำยังไงถึงจะได้ไป... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณ numaromdeeมากนะคะสำหรับข้อมูลที่ให้ รอติดตามดูอยู่นะคะ..... จากคุณ : กะปอลอ - [ 1 พ.ย. 49 20:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากคุยกับคุณป้าเจ้าหน้าที่ของ Tourist Infomation ซึ่งพูดภาษาอังกฤษชัดมาก.... ขอบอก ช้าและชัด ผมงี้อายภาษาอังกฤษสำเนียงกระเหรี่ยงของผมไปเลย... ก็ได้ความว่าสามารถเลือกไปเที่ยวโดยใช้ Package ของรถไฟสาย TOBU line ได้..... เอ๊ะ เรามีข้อมูล ที่ Pirnt มาจากเมืองไทยอยู่นี่... ว่าแล้วก็ถามทางจากคุณป้าต่อ...       แกให้ไปซื้อตั๋ว ที่ Tourist Service Center ของ Tobu Line ที่สถานี TOBU Asakusa ซึ่งอยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะ ตรงข้ามกับตึกรูปอุนจิของฮาซาฮี....       ว่าแล้วก็จับรถ subway สาย Ginza นั่งไปสุดทางที่สถานี G19 Asakusa Station ในทันใด ชะเอิงเงย..... จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากวนเวีนหาทางออกอยู่นาน.... ขอบอกว่าทางออกสถานีรถไฟในโตเกียวมันหยุบหยับซับซ้อนทุกสถานี ไม่มีสถานีไหนง่ายเลย... อย่างน้อย ๆ สถานีหนึ่งก็มีทางออกซัก 3-4 ทางออก (สถานีโตเกียวมีมากถึง 100 ทางออก!!!!) ก็มาเจอตึกรูปทรงเปลวไฟของบริษัทอาซาฮีกที่เขาล่ำลือกัน (แต่ผมดูยังไงก็เหมือนอุนจิ) จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พอหันหลังกลับ เดินมาที่สี่แยกไฟแดง ก็จะเจอตึกห้องสรรพสินค้าหลังนี้ ... Tourist Service Center ของ Tobu Line ที่จะไป Nikko มันอยู่ที่ท้ายตึกหลังนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าหน้าที่ของ Service Center นี้พูดภาษาอังกฤษดีอีกแล้ว ฟังง่ายมาก เขาถามความต้องการของผม และให้คำแนะนำว่า คน Hiper มีตังค์น้อยแต่อยากไปหลาย ๆ ที่ และชอบดูของแปลก ๆ อย่างผม ควรซื้อตั๋ว แบบที่เรียกว่า Kinukawa Them Park Pass ซึ่งนอกจากจะรวมการเหมาจ่ายค่ารถไฟไปเที่ยว Nikko และเมืองใกล้เคียงแล้ว ยังสามารถเข้าดู Edo Wonderland และ Tobu World Square ได้ในราคม 7,200 เยน โดยตั๋วจะมีอายุ 2 วัน.... ซึ่งก็พอดีกับที่ผมจองที่พักตามคำแนะนำของรุ่นพี่ที่ Nikko ไว้แล้ว 1 คืน ชื่อ Rindo-no-ie (ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่พักได้ยังไง แต่ก็จองไว้ก่อน เพราะเขาบอกว่าสุดคุ้ม.... และดีสุด ๆ)      รายละเอียดของตั๋วแต่ละประเภทตาม Link นี้เลยครับ http://tobu-discountpass.tobutravel.co.jp/ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 20:40:31 จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 และก็ไม่ลืมขอเจ้านี่มาด้วย แผนที่แหล่งท่องเที่ยวในเมือง Nikko และคำแนะนำสั้น ๆ ถึงสถานที่ที่สำคัญ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลับมาที่สถานีรถไฟอีกครั้ง เพื่อนั่งรถ Subway Ginza ไปต่อ Hibiya เพื่อลงสถานี Akihabara .... เปล่าครับผมไม่ได้ไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าหรอก (เพราะไม่มีตังค์) ผมต้องการไปกินราเมงที่อร่อยที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น (ไม่รู้อันดับหนึ่งอยู่ที่ไหน) ซึ่งร่ำลือกันว่าซ้อนตัวอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ JR Akihabara ตามรายแทงที่ได้มาจาก Treckkingthai.com......   รูปนี้สังเกตเห็นจากการยืนรอรถสาย Ginza ตรงใกล้ ๆ รางรถไฟจะมีวงกลม 3 วง (สีตามสายรถไฟ) มีเบอร์อยู่ตรงกลาง ลองทายดูซิครับว่ามันคืออะไร พรุ่งนี้ผมถึงจะเฉลย....... จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 20:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ว๊า 3 ทุ่มอีกล่ะ ยังไปไม่ถึง Odiba ซ่ะที สังสัยต้องมีตอนที่ 2.1 และ 2.2 ต่อแน่ ๆ เลย พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ วันนี้กลับบ้านก่อนหล่ะ เมื่อคืนเผลออยู่ดูบอลแชมเปียนลีคจนดึก (เด็กหงส์ครับ)   ตบท้ายด้วยรูปถ่าย Rainbow bridge อันเป็นสัญลักษณ์ของ Odiba ให้ดูเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วพรุ่งนี้จะมาเล่าต่อ... ไปล่ะ คนไม่มีคอมฯ ให้ต่อ Net ที่บ้านก็ลำบากหยังงี้แหละ.. จากคุณ : NumAromDee - [ 1 พ.ย. 49 21:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณหนุ่มฯคะดิฉันเคยพักที่นี่(RINDOU- NO- IE)  ตอนไป NIKKO เมื่อตุลาปีที่แล้ว   เดินค่ะเมื่อยดีจัง จากคุณ : Daytime Lantern - [ 1 พ.ย. 49 23:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ODAIBA สามารถไปทางเรือได้ด้วยนะคะ  เรือที่ใช้เหมือน ยานอวกาศมาก  สนุกไปอีกแบบ  ลงเรือที่ท่าเรือแถวๆ ASAKUSA นั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 23:37:39 จากคุณ : Daytime Lantern - [ 1 พ.ย. 49 23:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอตอบเรื่องวงกลม 3 วงมีเลข 5 อยู่ตรงกลางว่า ประตูทางขึ้นรถไฟ ตู้ที่ 5 ค่ะ จากคุณ : MinnyChan (MinnyChan) - [ 2 พ.ย. 49 06:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยากถามคุณ NumAromDee ครับว่า ryokan ที่คุณไปพัก NumAromDee ต้องจองล่วงหน้านานเท่าไรครับ จากคุณ : new slang (new slang) - [ 2 พ.ย. 49 10:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบคุณ New Slang... ครับ  ถ้า New Koyo Hotel น่าจะจองล่วงหน้าซัก 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพราะเป็นโรงแรมราคาถูก มีคนหมุนเวียนเข้าพักตลอดเวลา....     เข้าไปจองได้เลยที่ Web นี้ครับ http://www.newkoyo.com/  ส่วน Rindo-no-ie ที่ Nikko เป็น Minshoku ครับ คือเจ้าของเอาบ้านเก่าของตัวเองมาทำเป็นที่พัก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีเจ้าของมาทำกับข้าวให้กิน... น่ารักมาก ที่นี่มีแค่ 5 ห้อง ผมไปพักไม่ใช่ช่วงเทศกาล จองล่วงหน้าแค่ 5 วัน ก็มีห้องแล้ว รายละเอียดเข้าไปดูที่ Web นี้เลยครับ http://www3.ocn.ne.jp/~garrr/Rindou.html จากคุณ : NumAromDee - [ 2 พ.ย. 49 12:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนต่อไป http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4842909/E4842909.html จากคุณ : meepooh - [ 26 พ.ย. 49 13:20:50 ]