Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องสึนามิที่เกาะสุรินทร์copyมาให้อ่านกัน..(1)

    เรื่องเล่าสึนามิ(1)ไม่เคยเขียนที่ไหนมาก่อนเลย-ไกด์เรือสำราญโอเชี่ยนปริ๊นเซสทริปหมู่เกาะสุรินทร์
    วันที่ 24-27 ธ.ค 2547 ช่วงนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ผมคิดว่าชาตินี้ก็คงจะไม่ได้เจอกับเหตุการณ์นี้อีกเป็นแน่ทริปนั้นเรานำสมาชิกกรุ๊บเหมาของ บ.แจนเซ่น ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายยาประมาณ 200 กว่าคนรวมกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเองอีกประมาณเกือบ 50 คนไปท่องเที่ยวทริปหมู่เกาะสุรินทร์กันซึ่งตัวผมเองเป็นไกด์เรือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายออฟฟิคด้วยมีไกด์ที่ทำออฟฟิคที่ไปด้วยทั้งหมด 4 คนมี ผม โชติ,พี่น้อย(รุ่นพี่ที่อันดามันปริ๊นเซส),วิทย์(เพื่อนผม),น้องชุ(แฟนเพื่อนผม),ต้อย(ญาติผม),หนุ่ย(อันดามัน),โป่ง(เด็กชีวะ รามฯ),วิน(น้องไฟแรง),บอย(เด็กเหนือ),เอ๊ะ(เด็ก จ.สุรินทร์คนบ้านเดียวกับพี่น้อย),อั๋น(น้องแถวบ้าน),บุ้ง(สมุทรปราการ),อารีย์(เด็กนครสวรรค์),เล้ง (น้องใหม่ล่าสุด)ทั้งหมด 14 คนพอดีคิดดูแล้วกันครับวันนั้นวันเกิดสึนามิเป็นวันคล้ายวันเกิดผม คืนวันที่ 25              วันคริสต์มาสมีปาร์ตี้เล็กๆวันเกิดผมกับเพื่อนผม  2 คน ผมวันที่ 26 เพื่อนผมวิทย์ วันที่ 24 โดยพี่สมภพ พี่ที่ผมเคารพที่สุดในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงบนเรือสำราญโอเชี่ยนนำเครื่องดื่มมาฉลองกันเล็กๆน้อยๆก่อนแยกย้ายไปพักผ่อนพรุ่งนี้เราต้องทำงานต่อ โดยพวกเราก็จะแยกกันไปประจำตรงจุดที่แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบตรงตำแหน่งงานนั้นๆไม่ว่าจะเป็นไกด็ประจำเรือ(รับส่งลูกค้า)เช่นเรือสปีดโบ๊ท-เรือบด(หรือเรือช่วยชีวิตลำสีส้ม)เรือท้องถิ่น(เรือไม้),ไกด์ทำแนวเชือกเซฟตี้(แนวเชือกบริเวณจุดที่ๆมีปะการัง),ไกด์ประจำแกงเวย์(ทางขึ้น-ลงเรือของลูกค้า),ไกด์ประจำชายหาด(รอรับ-ส่งลูกค้าจากเรือ)ดูแลลูกค้าตามจุดต่างๆเช่น ดูวีซีดีแนะนำเกาะ,ไปถ่ายรูปวิวสวยๆที่หาดหลังแล้วค่อยพาไปดำน้ำ ก่อนที่จะกลับขึ้นเรือในตอนกลางวันตามลักษณะของงานเรือโอเชี่ยนโดยทั่วไป
    เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ....ในเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เราทยอยนำลูกค้าลงจากเรือพาไปเที่ยวที่เกาะสุรินทร์เหนือบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ลำแรก ในเวลาประมาณ 08.30 น ก่อนหน้านี้ก็จะมีหนุ่ย,ต้อย,ไปทำแนวเซฟตี้. มีวิทย์เป็นหัวหน้าประจำแกงเวย์จะถือวิทยุรับส่ง,วิน,อั๋น ส่วนผมโชติก็เป็นหัวหน้าประจำหาดก็จะมีวิทยุรับส่งมีพี่น้อยเป็นหัวหน้าชุดสำหรับทริปนี้พอลูกค้ามาถึงชายหาดผมก็จะรับเรือแล้วก็แจงงานให้น้องๆพาลูกค้าไปตามจุด    ต่างๆบนเกาะเริ่มจากให้ลูกค้ารับเสื่อไปปูนั่งพักผ่อนแล้วพาไปชมวีซีดีแนะนำเกาะตรงอาคารใหม่เป็นกลุ่มๆไปประมาณกลุ่มละ 60 คน เสร็จแล้วก็จะพาลูกค้าไปถ่ายรูปบริเวณหาดหลังซึ่งมีวิวที่สวยงามมากก็ทยอยไปเป็นชุดๆจนสมาชิกลำสุดท้ายมาถึงที่ชายหาดผมก็รับลูกค้าแล้วก็บอกน้องๆให้ไปช่วยถ่ายรูปลูกค้าที่หาดหลังกันก็ประมาณ 09.30 น.ช่วงนั้นวิทย์ก็ได้วิทยุมาบอกผมว่าอย่าให้ลูกค้ามาเล่นน้ำน้ำไหลแรงเป็นน้ำตกเลยซึ่ง ณ.ที่ตรงนั้นวิทย์มาถึงบริเวณเรือบดที่จอดแสตนด์บายรอลูกค้าดำน้ำบริเวณด้านนอกปลายแหลมเห็นคลื่นมาจากทางด้านหาดไม้งามผมจึงรีบวิ่งมาที่บริเวณชายหาดด้านหน้าของอุทยานแล้วเห็นลักษณะของน้ำเหมือนกับน้ำป่าไหลมาแรงมากๆในขณะที่มือถือวิทยุสื่อสารด้วยสักพักก็เห็นสมาชิกลูกค้าของผมรวมกับนักท่องเที่ยวที่เกาะรวมกันราวๆ 80 – 90 คนลอยจากหาดหลังมาถึงบริเวณหาดหน้ามีทั้งที่ใส่เสื้อชูชีพและที่ถอดเสื้อชูชีพถ่ายรูปก็มีรวมทั้งที่อยู่ในเต้นท์ด้วยกระจายอยู่เต็มทั้งหน้าหาดทั้งทางด้านนอกแล้วก็มีบางคนที่กระแสน้ำพัดพาเข้ามาบริเวณชายหาดพวกเราที่อยู่บริเวณนั้นก็เข้าไปช่วยเหลือสมาชิกกันทุกคน ผมในตอนนั้นก็ไม่เคยจะกลัวอะไรมากกว่านี้มาก่อนทั้งกลัวทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็พยายามควบคุมตัวเองให้ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นผมก็ได้วิทยุติดต่อกับวิทย์แล้วก็เจ้าหน้าที่ทางเรือว่าไม่ต้องให้เรือต่างๆเข้ามาให้รอสมาชิกทางด้านนอกเพราะทางด้านนอกนั้นคลื่นจะเบากว่าก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มความสามารถทุกคนทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทางเรือทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวด้วยกันเองก็ยังช่วยเหลือกันเต็มที่ หรือภาพที่ ต้อเจ้าของร้านตั้งท่าร้านถ่ายรูปบนเรือ(ไกด์เก่าอันดามัน)ยังไม่สนใจที่จะถ่ายรูปเหตุการณ์นี้ซึ่งอาจทำรายได้ให้มากมายภายหลังยังวางกล้องแล้วช่วยสมาชิก ภาพที่  พี่น้อย อุ้มสมาชิกในน้ำขึ้นมาหรือในตอนนั้นน้องๆไกด์ที่เจอกับเหตุการณ์นี้ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดหาดด้านหลังที่ผมจำได้คือ  ให้ เล้ง - ต้อยไปดูแลลูกค้าทางด้านหาดหลัง                                  (มารู้ภายหลังว่าทั้งคู่ได้ลอยไปกับคลื่นแล้วโดยสภาพไม่ได้สวมใส่เสื้อชูชีพเล้งลอยไปแล้วต้อยได้ดึงขึ้นมาหรือต้อยลอยออกไปแล้วลูกค้าดึงขึ้นมา)น้องคนอื่นเช่น โป่ง,บอย,เอ๊ะ ลอยไปกับลูกค้าในสภาพใส่เสื้อชูชีพลอยไปขึ้นอีกด้านนึงของแหลม       ส่วนวิทย์,วิน,อั๋นก็นำสมาชิกขึ้นที่เรือบดก่อนที่จะนำขึ้นเรือใหญ่ ตอนนั้นก็มีผู้เสียชีวิต   2 ท่าน ชายหนึ่งคนและหญิงอีกหนึ่งคน น้องๆอีกหลายคนที่ผมไม่ได้เอ่ยต่างก็เจอเหตุการณ์ต่อตัวเองต่างๆกันไป  ภาพที่เจ้าหน้าที่อุทยาน-นักท่องเที่ยวที่เป็นหมอ-พยาบาลช่วยกันทำแผลลูกค้าบริเวณชายหาดมี่ทั้งเจ็บมากน้อยกันแทบจะทุกคน พอดีเห็นต้อยเดินมาทางผมมีเรือยางของอุทยานเข้ามาพอดีผมจึงถอดเสื้อชูชีพของผมโยนให้กับต้อยบอกกับต้อยว่าให้ไปกับเรือยางดูข้างนอกเคลียร์สมาชิกว่ามีอีกไหม(ถ้าผมสังเกตุสักหน่อยจะเห็นความกลัวกับความตกใจซึ่งเหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับตัวเองของต้อยปรากฏอยู่บนใบหน้าของเค้า)เมื่อเรือยางออกไปแล้วผมจึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่อุทยานว่าจะทำไงดีก็เลยแจ้งให้สมาชิกขึ้นไปบนภูเขาบริเวณเรือนประทับ ทางเดินขึ้นแถวๆด้านหลังของร้านอาหารสวัสดิการเคลียร์ให้ทุกคนนั้นขึ้นไปบนนั้นทางรวมทั้งทางเดินขึ้นทางฝั่งขวาที่เป็นที่พักนั่นเอง  ก็มีน้องชุ คอยดูแลบริเวณนั้น   ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเป็นสาเหตุเกิดจากอะไรหลังจากนั้น ผมจึงเดินเลาะบริเวณทางด้านหน้าหาดไปอ่าวช่องขาดไปที่หาดหลัง(ซึ่งเป็นช่วงน้ำลง)ก่อนที่จะเดินเคลียร์สมาชิกให้ขึ้นไปด้านบนอีกครั้งนึง(ซึ่งตัวผมถือว่าโชคดีถ้ามีคลื่นมาตอนนั้นผมคงจะไม่รอดแน่ๆ)ดูว่ายังมีสมาชิกหลงเหลืออยู่บริเวณนั้นหรือไม่ช่วงนั้นก็มีเหมือนกับเป็นน้ำป่าคล้ายช่วงแรกอีกครั้งนึงจะขึ้นเร็วมากภายใน 5 นาทีเท่านั้นเมื่อผมถึงบริเวณด้านหน้าชายหาดเรือยางเข้ามาจอดเรียบร้อยแล้วที่ชายหาดยังคงมีเจ้าหน้าที่อุทยาน-หมอ-ผู้เสียชีวิตแล้วก็หนุ่ยอยู่บริเวณบ่อเต่าผมก็เดินเข้าไปทางที่ทำการอุทยานเดินไปที่วิทยุ(มดดำ)ติดต่อแจ้งทางเรือประมงหรือใครก็ได้ที่รับสัญญาณวิทยุได้ให้ช่วยแจ้งทางกองทัพเรือว่ามีผู้เสียชีวิตและมีบาดเจ็บเป็นจำนวนมากหลังจากนั้นผมก็เดินลงมาที่ชายหาด
    ผมเจอะกับคลื่นที่ผมว่าใหญ่กว่าที่ผมเคยเจอเพราะโอบเลาะทางเกาะสุรินทร์เหนือและสุรินทร์ใต้เข้ามาทางหาดด้านหน้าตรงที่ทำการอุทยาน*ในตอนนั้นวิทย์ที่อยู่เคลียร์ลูกค้าที่เรือบดกลางทะเลได้พยายามแจ้งไปที่ผมที่อยู่ที่ชายหาดเห็นคลื่นโอบภูเขาแล้วเลาะไปเรื่อยๆอัดไปที่ชายหาดแต่แจ้งไม่ได้เพราะแบตฯวิทยุสื่อสารวิทย์หมดส่วนผมก็กลัวสุดขีดกดวิทยุแล้วพูดว่า คลื่นยักษ์ แล้ววิ่งหนีสุดชีวิตขึ้นไปที่เรือนประทับทางด้านหลังโรงอาหาร แบบเฉียดฉิวแล้วรีบหยิบเสื้อชูชีพขึ้นมาใส่พร้อมกับบอกทุกคนให้ใส่เสื้อชูชีพ เชื่อไหมครับว่าคลื่นลูกนี้ทำให้ภูเขาสั่นเลยทำให้ผมรู้แล้วว่าเหตุการณ์นี้นอกเหนือธรรมดามากแต่ละคนเริ่มที่จะกลัว-กังวล ควบคุมไม่อยู่ผมก็กลัวที่สุดในชีวิตเช่นเดียวกันแต่ทำไงได้ผมก็พูดทั้งๆที่กลัวนั้นแหละพยายามให้ทุกคนมีสติมีช่วงนึงเป็นความประทับใจผมมาก ผมบอกสมาชิกทุกคนบริเวณนั้นว่า ตอนนี้เราจะขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้เราจะต้องช่วยตัวเองก่อน(ทั้งที่ตัวผมเองก็กลัวมากๆพูดไปกลัวไปแต่ต้องทำเป็นเข็มแข็ง) บอกว่าใครมีเสบียงอาหาร-น้ำอยู่ที่ตัวให้เอามารวมเป็นกองกลางทางด้านหน้าเชื่อไหมครับว่าผมถึงกับน้ำตาซึมเลยเพราะแต่ละคนเดินมานำน้ำและเสบียงนำมารวมด้วยความเต็มใจซึ่งสมาชิกแต่ละคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากนั้นเราก็พยายามเช็คลูกค้าของเรือกันไม่ว่าจะเป็นกรุ๊บแจนเซ่นก็เริ่มที่จะเช็คจำนวนคณะว่าครบหรือไม่หรือครอบครัวที่ไปเที่ยวกันเองก็มีการประสานกับทางเรือตลอด

    จากคุณ : วรมัน - [ 26 ธ.ค. 49 15:45:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom