(ตอนนั้นทางเรือได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าได้เกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย)และได้รับแจ้งว่าอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาพวกเราน้องๆไกด์ก็ยังคงทำตามหน้าที่คอยช่วยเหลือแจ้งสถานการณ์ต่างๆให้ทุกคนทราบโดยตลอดในตอนนั้นทางฝ่ายเรือโอเชี่ยนก็ได้นำเสบียงอาหาร-น้ำทยอยนำมาให้กับสมาชิกทุกคนที่อยู่บนเกาะทั้งลูกค้าของเรือและนักท่องเที่ยวที่เกาะโดยนำมาส่งใช้เรือไม้(ที่ใช้ได้ไม่กี่ลำเท่านั้นโดยมีวิทย์เป็นคนดูแลในการส่งในช่วงที่มีการเกิดน้ำขึ้น-ลงในตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาบ่ายๆแล้วสักพักก็มีกลุ่มของ
อ้น(สราวุธ มาตรทอง),กับ นาธาน(นาธานโอมาน)ที่ไปเที่ยวที่หมู่บ้านมอแกนทางเกาะสุรินทร์ใต้มาสมทบที่ทำการอุทยาน(ไม่น่าเชื่อครับตอนเช้าก่อนอ้น-นาธานจะไปเที่ยวที่บ้านมอแกนผมแซวอ้นว่าเดี๋ยวเจอกันที่เรือแล้วกันภายหลังอ้น-นาธานช่วยโปรโมทเรือให้เราโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในงานท่องเที่ยวไทยที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตต์)ในตอนนั้นก็ยังคงหาวิธีที่จะเดินทางกลับขึ้นเรือโอเชี่ยนกันจนเราสรุปได้ว่าจะทยอยขึ้นไปเป็นกลุ่มๆไปในช่วงที่เกิดน้ำลงไปทีละ 20 กว่าคนทยอยขึ้นเรือโอเชี่ยนทั้งลูกค้าของเรือแล้วก็นักท่องเที่ยวที่ไปเดินทางเองที่เกาะขึ้นมาบนเรือประมาณรวมแล้วเกือบ 500 คนได้พวกเราเจ้าหน้าที่เรือขึ้นมาถึงเรือกลุ่มสุดท้ายในเวลาประมาณ ทุ่มกว่าแล้วเรือจะต้องจอดที่หน้าอุทยานอีก 1 คืน ส่วนเจ้าหน้าที่ของเกาะก็จะช่วยค้นหาผู้เสียชีวิต(ที่อยู่บนชายหาดก่อนที่จะมีคลื่นใหญ่มาซึ่งเป็นลูกค้าของเรือ 1 ท่าน)ให้ในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า ส่วนที่เรือก็จัดอาหาร-จุดพักผ่อนให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเองทุกๆคนเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ+พนักงานที่เกาะบางส่วนที่ขึ้นมาบนเรือก็ประมาณ เกือบ 300 คนยังไม่รวมลูกค้าของเรืออีกประมาณ 250 คนช่วงกลางคืนก็มีการแสดงของเรือเพื่อที่จะปลอบขวัญผู้ที่พึ่งจะผ่านเรื่องราวที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตก่อนที่จะแยกย้ายไปพักผ่อน
ตอนเช้าพวกเราไกด์ผู้ชายก็ได้ลงเรือไปที่เกาะเพื่อที่จะไปรับผู้เสียชีวิตที่ทางเจ้าหน้าที่เกาะช่วยกันหาในตอนเช้านำขึ้นมาบนเรือแล้วก็รับนักท่องเที่ยวของเกาะที่มาจากหาดไม้งามอีกประมาณ 100 คนเราเดินทางออกจากที่เกาะก็ประมาณเกือบจะเที่ยงแล้วช่วงที่เรือเดินทางมุ่งหน้าจะเข้าที่ภูเก็ตก็พยายามจะเดินเรือใกล้ชายฝั่งให้มากที่สุดเพื่อจะได้มีสัญญาณคลื่นโทรศัพท์จนประมาณบ่าย 3โมงจึงมีสัญญาณคลื่นโทรศัพท์แต่ก็ติดต่อสื่อสารยากลำบากมากเพราะเครือข่ายล่มและก็มีการใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาเดียวกันเยอะมากแต่ที่เห็นแต่ละคนคุยโทรศัพท์ติดต่อคนที่บ้านซึ่งต่างก็โทรไปบอกคนที่บ้านไม่ต้องเป็นห่วงเพราะได้รอดกลับมาแล้วกันแทบจะทุกคน(ทางไอทีวีรายงานว่าไม่ได้รับการติดต่อจากเรือสำราญโอเชี่ยนปริ๊นเซสที่เดินทางไปหมู่เกาะสุรินทร์)แม้กระทั่งผมเองตอนนั้นก็ได้โทรศัพท์ติดต่อกับคนทางบ้านและก็มีการให้สัมภาษณ์ออกอากาศสดก็หลายสถานีต่างก็ถามถึง อ้น-นาธานกันแทบจะทั้งนั้น ในช่วงการเดินทางเมื่อเรือเราแล่นผ่านบริเวณพังงา-ภูเก็ตก็เห็นแต่สภาพท้องทะเลเต็มไปด้วยเศษไม้เต็มไปหมดเลยแต่เราไม่เห็นภาพเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเลยเพราะเราไม่มีสัญญาณทีวีถ้าเราเห็นภาพเหตุการณ์นั้นๆเราคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเราโชคดีมากๆที่เสียหายน้อยกว่าที่เขาหลักหรือที่หมู่บ้านน้ำเค็ม(ภายหลังจากที่เดินทางถึงกรุงเทพฯแล้วผมกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทั้งที่อันดามันปริ๊นเซสกับโอเชี่ยนปริ๊นเซสและทางเวิล์ดสปิริตได้รวบรวมสมาชิกและของใช้ต่างๆเป็นหน่วยเฉพาะกิจไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใดลงไปสมทบพี่ๆที่มาก่อนกันที่จังหวัดพังงา) กว่าเรือจะเข้าเทียบท่าที่ภูเก็ตก็ประมาณเกือบจะ 3 ทุ่มแล้วของวันที่ 27 ธันวาคม 2547 แล้วครับ ก็มีทั้งผู้สื่อข่าว,ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่,ทหารและตำรวจ,หมอ-พยาบาลมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ส่วนพวกเราก็มีการติดต่อให้มีรถรับส่งไปทั้งที่สนามบินและที่กรุงเทพฯโดยมีรถของโกเห่า(เจ้าของรถที่ภูเก็ต)มาอำนวยความสะดวกให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และที่ผมต้องชื่นชมด้วยใจจริงอีกหลายต่อหลายท่านไม่ว่าจะเป็น
รองแป๊ะขออภัยถ้าผมจำชื่อจริงท่านไม่ได้(ตำแหน่งในตอนที่ท่านดูแลที่อุทยานฯหมู่เกาะสุรินทร์ในตอนนั้น)ในการอำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือในทุกๆด้านในช่วงเหตุการณ์นี้และเจ้าหน้าที่อุทยานทุกๆคนที่ร่วมมือร่วมใจกันดูแลนักท่องเที่ยวโดยไม่รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยเลยแล้วก็คุณพัฒนาเจ้าของเรือโอเชี่ยนปริ๊นเซสที่ดูแลนักท่องเที่ยวทุกๆคนเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นอาหาร-น้ำ-ที่พักต่างๆแม้ว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้นไม่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวกับเรือด้วยก็ตาม(ซึ่งผมก็ขอนับถือจากใจจริง)เจ้าหน้าที่ฝ่ายเรือทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นกับตันพิชัย,คุณไพโรจน์และจะขาดไม่ได้คือคุณสมภพพี่ใหญ่ที่พวกเราให้ความนับถือที่สุดคนนึงของเรือรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของเรือ(ภายหลังทางแจนเซ่นได้มีผู้ที่บันทึกภาพเหตุการณ์นี้ได้ส่งวีซีดีภาพเหตุการณ์สึนามิมาให้เราที่ออฟฟิคโอเชี่ยนปริ๊นเซสที่กรุงเทพฯกับบางช่วงบางเหตุการณ์ที่ได้บันทึกไว้ที่เกาะจนถึงบนเรือโอเชี่ยนว่างๆจะนำมาให้ชมกันครับ)แต่แปลกนะครับจะเรียกว่าความบังเอิญ,ความโชคดี,หรือปาฏิหารย์ก็แล้วแต่จะคิดนะครับว่า ณ.เหตุการณ์นั้นนะเรามีกลุ่มคนที่ทำงานสัมพันธ์กันตลอดคิดดูครับ เช้าวันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดผมคืนวันที่ 25 ก็เลี้ยงพร้อมกันเลยทั้งคริสต์มาสและวันเกิด วิทย์วันที่ 24 พอรุ่งขึ้นผมกับวิทย์ก็ต้องมาแก้ไขสถานการณ์ด้วยกันแล้วพี่ๆน้องๆที่มาอยู่ ณ.ที่แห่งนั้นอีก ไม่น่าเชื่อนะครับ ประสบการณ์ชีวิตจริงๆ.......
สรุปโดยรวมเรามียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ท่านเป็น(ลูกค้าที่เกาะ 1 ท่านเป็นสุภาพบุรุษเจ้าของร้านดำน้ำในหาดป่าตองจ.ภูเก็ต) เสียชีวิตเพราะนอนอยู่ในเต็นท์
อีก สุภาพสตรีทั้ง 2 ท่านเป็นสมาชิกที่ร่วมเดินทางกับเราเรือโอเชี่ยนฯ คาดว่าจะสำลักน้ำและถูกคลื่นม้วนอาจจะไปถูกปะการังก้อนใต้น้ำ หนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นเป็นลูกค้าเก่าที่เคยร่วมเดินทางมากับเรือท่องเที่ยวตั้งแต่เรืออันดามันปริ๊นเซสและเรือโอเชี่ยนปริ๊นเซสและบังเอิญผมค่อนข้างจะสนิทกับครอบครัวนี้ในช่วงการเดินทางทริปนี้ด้วย บางทีถ้าผมไม่เป็นคนบอกกับครอบครัวนี้ว่าถ้าร้อนก็ให้ถอดเสื้อชูชีพไว้ก่อนแล้วเข้าไปดูวีซีดีแนะนำเกาะก่อนที่พวกเค้าจะเดินไปถ่ายรูปที่ชายหาดด้านหลังเค้าอาจจะไม่เจอกับเหตุการณ์สูญเสียนี้ก็เป็นได้
เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนใจตลอดให้กับผมว่าเมื่อผมออกทริปการเดินทางทุกครั้งทางทะเลผมจะต้องแจ้งสมาชิกให้ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองเช่นเดียวกันกับการเล่นน้ำ-ดำน้ำดูปะการังก็ต้องใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งห้ามประมาทโดยเด็ดขาดสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอุทธาหรณ์ย้ำเตือนใจผมทุกครั้ง
**** สุดท้ายนี้ก็ขอให้ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทุกดวงทุกท่านจงไปสู่สุขคติครับท่านเหล่านั้นคงมีความสุขอยู่บนสวรรค์แล้วครับ****
*นี่คือเหตุการณ์ที่ประสบจากเหตุการณ์สึนามิ 24-27 ธ.ค 2547ครับยังมีเหตุการณ์ที่เราลงไปสัมผัสกันที่จังหวัดพังงาไม่ว่าจะเป็นที่คุระบุรี,เขาหลัก,บ้านน้ำเค็ม,บ้านคอเขา,วัดย่านยาว,วัดบางม่วงและศูนย์ผู้ประสบภัยสึนามิอีกครับเอาไว้ว่างๆผมจะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันที่พวกเราได้ไปพบ-สัมผัสกันมาในช่วงหลังเหตุการณ์สึนามิช่วง 28 - 03 ม.ค 48นี้ครับ
จากคุณ :
วรมัน
- [
26 ธ.ค. 49 15:48:19
]