ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวที่อ.ช แก่งกระจานกับเพื่อนๆ ค่ะ
ตั้งใจจะไปดูทะเลหมอกบนเขาพะเนินทุ่ง
พวกเราขับรถจากบ้านกร่างไปยังเขาพะเนินทุ่งระยะทาง 15 กม ตอน 7 โมงเช้า
กะๆ กันดูนะคะ ว่าปกติถ้าขับรถขึ้นเขาระยะทาง 15 กิโลเมตร อย่างมากน่าจะใช้เวลาเท่าไหร่
ซึ่งปกติ ช้าสุดๆ ก็น่าจะไม่เกินชั่วโมงครึ่ง
แต่พวกเรากว่าจะขึ้นไปถึงพะเนินทุ่งได้ ต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงค่ะ !
ขึ้นไปถึงตอนบ่ายโมงพอดี ทะเลหมอกก็หายหมดแล้ว เศร้า ฮือๆ เด็กกรุงเทพ ไม่มีบุญได้เห็นทะเลหมอก T_T
คือระหว่างทางขึ้นเขา ก็จะมึบางจุดที่หนทางโหดพอใช้ ประมาณโค้งตัวเอส แล้วก็ชัน 50 องศา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เค้าจะปล่อยให้รถขึ้นไปทีละคัน
จึงทำให้รถติด พอรถติดมากๆ คนก็ลงไปดูว่าติดอะไร
พอเค้าเห็นทาง ก็เปลี่ยนใจไม่ขึ้นไปแล้วค่ะ กลับรถสะงั้น !
ก็เลยทำให้เกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากเส้นทางเป็นทางที่รถวิ่งได้เลนเดียวค่ะ
คือทางอ.ช จะมีการกำหนดเวลาให้รถวิ่งขึ้น - ลงจากเขา ไม่ให้วิ่งสวนกันค่ะ
พวกที่กลับรถก็ไม่สามารถขับลงได้เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลาปล่อยรถขึ้นมา
เค้าก็ต้องจอดรถอยู่ข้างทาง แล้วคิดดูนะคะ ทางวิ่งได้เลนเดียว แถมรถดันมาจอดไว้ข้างทางตั้งหลายคัน จะให้พวกหนูไปยังไงค้า....
จริงๆแล้วน่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยกำกับอยู่ข้างทาง ไม่ให้กลับรถ หรือถ้าจะกลับรถจริงๆ ก็ให้แนะนำว่าที่ไหนสามารถจอดรถได้บ้าง นี่คุณพี่ทั้งหลายนึกอยากจะกลับก็กลับ อยากจอดตรงไหนก็จอด ไม่ได้นึกถึงส่วนรวมเลยว่าเค้าจะเดือดร้อนแค่ไหน
ยังไม่หมดค่ะ พอพวกเราขับรถพ้นช่วงวิกฤติรถติดมาได้แล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 11 โมงได้ ขับๆอยู่ก็มีรถวิ่งสวนลงมา 1 คัน
พวกเราก็อึ้งค่ะ เอ๊ะ เค้าปล่อยให้รถจากเขาลงมาแล้วหรอ
ไม่หรอกแก รถขาขึ้นยังขึ้นไม่หมดเลย จะปล่อยรถลงมาได้แล้วหรอ
ยังไงเจ้าหน้าที่ก็น่าจะรู้นะ สงสัยคงเป็นรถที่เค้าเปลี่ยนใจไม่ไปม้าง
ปลอบใจกันไปสักพัก มีรถวิ่งสวนลงมาอีกแล้วค่ะ คราวนี้มาเป็นขบวนเลยประมาณ 5-6 คันได้
ใช่เลยค่ะ ทางอ.ช เค้าปล่อยรถวิ่งสวนลงมาค่ะ
โอ้ชีวิต ได้ผจญภัยไปอีกแบบ หลังจากรบรา ฆ่าฟันกับพวกลุงๆ ที่จอดรถแบบตามใจฉันมาแล้ว
คราวนี้มาเจอความตื่นเต้น ลุ้นระทึกว่าจะตกหน้าผาหรือไม่เพราะต่างคนก็ต้องหลบให้กัน แต่ฝั่งขาขึ้นตื่นเต้นกว่าเพราะติดหน้าผา ส่วนฝึ่งขาลงจะติดภูเขาค่ะ
คันพวกเราก็เป็นคันแรกของชุดสุดท้ายที่กำลังขับขึ้นอยู่ ยิ่งทำให้หวาดเสียวขึ้นไปอีก เพื่อนที่ขับรถต้องบีบแตรไปตลอดทางค่ะ
เพราะทางคดเคี้ยวมาก บางครั้งเจอโค้งหักศอก ก็ต้องนั่งภาวนากันไปว่าอย่ามีรถสวนมาช่วงนี้เลย
กว่าจะกระเสือกกระสนขึ้นไปถึงได้ใจหายไปหลายครั้งค่ะ ทุกคนนั่งเกร็'ไปตลอดทาง พอขึ้นไปถึงก็ไม่มีไรให้ดูละ ได้แต่ถ่ายรูปกับป้าย " พะเนินทุ่ง " ไว้เป็นทีระลึกกับแวะเข้าห้องน้ำ ที่เก็บไว้เพื่อมาใช้บริการห้องน้ำบนพะเนินทุ่งโดยเฉพาะ
" นี่พวกเราขึ้นมาเสี่ยงตายเพื่อมาเข้าห้องน้ำกันใช่มะ"
ทุกคนโดนใจกับคำถามนี้มากค่ะ แต่ละคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะขึ้นมาทำไม ในเมื่อหมอกก็หายไปตั้งแต่เก้าโมงกว่าละ ขึ้นไปก็ไม่มีอะไร
แต่พอถามทุกคนว่าจะขึ้นมั้ย หรือเราจะกลับรถแบบพวกลุงๆ เค้า ทุกคนก็ตกลงใจว่าจะขึ้นกันนะ ในเมื่อมาถึงที่แล้ว ระยะทางอีกไม่กี่กิโล ก็น่าจะไปให้ถึง ก็เลยได้เรื่องมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
สุดท้ายอยากจะฝากให้ทางพี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ จัดระบบระเบียบของนักท่องเที่ยวให้เข้มงวดกว่านี้ค่ะ
เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ครั้งนี้ถือว่าโชคดีของพวกเรา แต่ต่อไป ใครจะรู้หละคะ อาจจะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นก็ได้
ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์นั่งอ่านคำบ่นของพวกเรานะคะ ^^
จากคุณ :
เบื้องหลังภาพวาด
- [
3 ม.ค. 50 16:40:40
]