ความคิดเห็นที่ 1 9.00 รีบแหกขี้ตาออกจากโฮสเทลแต่เช้า เพื่อรีบไปวัดนางชี เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อไปนี้ บัตร Unlimited MTR ก็จะใช้การไม่ได้อีกแล้ว 9.30 แวะซื้อขนมที่แมกซิมที่สถานีไดมอนด์ฮิลล์รองท้องเสียหน่อย เป็นขนมปังยัดไส้ ข้าวโพดกับดิลโด้ ว้ายย ไม่ใช่ ไข่ตะหาก ฟังแล้วน่าทานไม่หยอก 9.32 แหวะ รสชาติห่วยแตกมาก ไส้ไข่กับข้าวโพดเย็นชืด ราคาก็ตั้ง 5 เหรียญแน่ะ 9.35 วัดมองเห็นแต่ไกลแน่ะ จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 9.40 วัดเงียบมากๆเลย ตี๋น้อยบอกว่า ห้ามใช้ขาตั้งกล้อง เราเลยหันซ้ายแลขวาตามประแสคนเชื่อใจเพื่อน อืม ไม่มีใครใช้จริงๆด้วย อย่าให้รู้ว่า หลอกกู เจอกูโบกแน่ อีนางมาร!!! จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กรีี๊ดดดดดดดดดดดดดด  รูปหลุดอีแล้ว จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วัดก็เงียบสงบดี แต่ไม่ชอบแบ๊คกราวนด์ด้านหลังที่เป็นตึกเลยอ่ะ มันทำให้ ทัศนียภาพดูขัดตามากกกกกกกก ไม่เหมือนวัดพระแก้วบ้านเรา เริ่มเข้าใจละ ทำไม เค้าถึงไม่ให้สร้างตึกสูงกว่าเขตพระราชวัง จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 9.50 เดินไปเรื่อยๆ ทำบุญสัก 10 เหรียญ ตี๋น้อยก็ยังวนว่ายอยู่ไกลๆ เราเดินเข้าชั้นใน พอจะยกกล้องขึ้น ตี๋น้อยก็บอกว่า   “เค้าห้ามถ่ายรูปนะ” อ๊ะ จริงเหรอ ด้วยความที่คนหัวอ่อนและไว้ใจในตัวเพื่อนคนนี้ม้ากมาก เลยไปถาม รปภ. สุดเท่ สรุปว่าเค้าให้ถ่ายได้ อยากเอามันไปเผานั่งยางเหลือเกิน อีมารผจญ!! ตี๋น้อยยังคงส่งสายตาแฝงแววจิตสังหารอย่างเห็นได้ชัด มองมาแต่ไกล สายตาเคียดแค้นพอจะตีความแบบใส่ไฟเพื่อนตัวเองแบบน้อยที่สุดว่า “เชอะ.... ฝากไว้ก่อนเหอะ อีตุ๊ด” จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 10.20 หลังจากที่ตระเวณสถานที่โดยรอบเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบทำเวลาเพื่อที่จะเข้าสถานี MRT โดยเร็วที่สุด เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้  บัตรนี้ก็จะสลาย ทำลายตัวเองเหมือนในหนังมิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล (ใครไม่เชื่อ ลองซื้อบัตร One Day Pass นะ มันแตกเป็นชิ้นๆเลย เวลาหมดอายุอ่ะ) “เฮ้ย มีบัตร MTR ลายดิสนีย์จริงๆด้วยเหรอ” ตี๋น้อยถามอย่างฉงนสงสัยหน้าตู้เติมเงินอัตโนมัติ “เออ ก็ชั้นบอกแกตั้งกะเมื่อวานแล้ว แต่แกไม่เชื่อ บอกว่าไม่เอาเองนะ” ตอนนั้นมันทำหน้าตาเหมือนไม่เชื่อ และคนอย่างมันจะไม่หลงกลหรือหวั่นไหวกับข้าวของหน้าตาไร้สาระ ไม่ว่ามันน่าจะสะสมขนาดไหนก็ตาม “อ้าวว แล้วทำไมไม่ซื้อแบบนี้ล่ะ” สายตาที่นางมารร้ายมองมาสามารถตีความได้หลายรูปแบบ  อาทิเช่น “:-) ทำไมมรึงไม่ซื้อ” ไม่ก็  “ทำไมไม่บอกกู (แต่กูบอกมรึงแล้วนะ มรึงไม่เชื่อกูเองอ่ะ) มรึงวอนนักใช่ไหม” หรืออาจจะ “อีนี่วอนนัก มีของดีๆ แล้วเสือกไม่บอก” อะไรทำนองนั้น บางครั้งก็สับสนว่า หล่อนร้ายจริงๆ หรือว่าร้ายหวือหวาเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจแบบประหลาดๆกันแน่??? อ่ะ รูปวัดในมุมต่างๆ จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 10.40 ขณะที่ผ่านสถานีหวังต้าเซียน เพื่อไปมงก๊ก ก็มีหมู่ชะนีวัยรุ่นเข้ามา ดูจากหน้าตาออกแนวบ้านๆ ดูแร้นแค้น น่าจะมาจากฟิลิปปินส์ เข้ามาส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ดูยังไงก็เหมือนสก๊อย*เมืองไทย *สก๊อย: ถ้าในเมืองไทย สก๊อยจะเป็นซับเซ็ทของเด็กแว้นท์ประเภทหนึ่ง สก๊อยมักเป็นเพศหญิง มักจะแต่งตัวด้วยด้วยเสื้อยืดเป็นสีแสบๆ บ้างก็ใส่สายเดี่ยวบ้าง เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดคือ กางเกงลายดอก 3 ตัวร้อย ที่มีขายเกลื่อนตามจตุจักรหรือสะพานพุทธ สก๊อยมักจะพกหวีเสียบ ไม่ก็แปรงสีสันสดใส ไว้ที่มือข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งจะถือการ์ตูนขายหัวเราะไม่ก็คู่สร้างคู่สม สก๊อยมีความสามารถพิเศษอย่างนึงคือ ผมจะเปียกตลอดเวลา และทาปากสีแดงแป๊ดคอนทราสต์กับหน้าขาวๆที่โบ๊ะด้วยแป้งสปริงซ็อง เราจะพบว่า ตอนสก๊อยผมแห้ง พวกเธอจะตัดผมเหมือนกันหมด นั่นคือ ทรงผมของนักร้องที่ชื่อ พันช์ (เมื่อก่อน พลอย เฌอมาลย์ก็เคยตัดทรงนี้) แหล่งที่มีสก๊อยอยู่มากที่สุดคือ โรงเรียนพานิชย์เอกชนที่มักจะมียูนิฟอร์มคล้ายชุดนักเรียนญี่ปุ่นทั้งหลาย ตอนดึกๆ กลุ่มเด็กแวนท์เหล่านี้จะไปแข่งมอเตอร์ไซค์รบกวนชาวบ้านตามถนนตัดใหม่ โดยเด็กแวนท์เพศชายเราจะเรียกกันว่า “เด็กแซ่บ” จะแต่งตัวด้วยเสื้อเชิดลายสก๊อตเข้ารูป ไม่ก็เสื้อกระทิงแดง รองเท้าแตะเทวินทร์ หรือ คอนเวิร์สหุ้มข้อ กางเกงขาเดฟ ดังนั้น ที่ไหนมีเด็กแซ่บ ที่นั่นย่อมมี “สก๊อย” ให้เราเห็นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ พวกกระเทยหัวโปก กระโหลกไขว้ ไร้ฐานนม อารมณ์เกินหญิงซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าขากันได้ดีกับชะนีสก๊อยเพราะว่านิยมความแรงเหมือนกัน เราก็สามารถเรียกเจ้าหล่อนว่า เป็น “กะเทยสก๊อย” ได้เช่นกัน เอาล่ะ งั้นเราเรียกผู้หญิงเหล่านี้ว่าสก๊อยฟิลิปปินส์ก็แล้วกัน พวกหล่อน เบียดเข้ามาหัวเราะกันสนุกสนาน จนคนในรถก็ปรายตามอง พวกหล่อนก็ยังทำหน้าระรื่น ตี๋น้อย ที่เพิ่งหงุดหงิดกับการชวดบัตร MTR ลายดิสนีย์ สะกิดให้เราดูกลุ่มสก๊อยปินส์ พลางบ่นอุบอิบ  ที่พอมีเก้าอี้ว่าง สก๊อยทั้งหลายแหล่ ก็กรูกันไปนั่งโดยไม่สนคนรอบข้าง ตี๋น้อยไม่วายทำสายตาดูถูกพวกหล่อนแบบเสียมิได้ แววตาเปล่งรัศมีอาฆาตราวกับหล่อนเป็นอดีตซูเปอร์โมเดลที่โดนรุ่นน้องเทียบชั้นอย่างไงอย่างงั้น 10.50 จริงอย่างว่า พอถึงสถานีมงก๊ก เหล่าสก๊อยก็วิ่งกรู ออกมา ชนคนนู้นที คนนี้ทีโดยไม่สนใจเสียดทัดทานหรือเสียงก่นด่าของพลเมืองฮ่องกงที่โดนพวกหล่อนชน อย่างงี้ไม่ให้เรียก “สก๊อย” ยังไงไหวล่ะ จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 10.55 เท่าที่สังเกตดู คนฮ่องกงมักจะไม่ลุกจากที่นั่งให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนแก่ ยกเว้นที่แก่จริงๆ ขนาดเดินไม่ค่อยไหว ถึงจะลุกให้นั่ง พ่อแม่เด็กๆ ก็ดูไม่ได้รู้สึกรู้สาอันใดกับการไม่มีใครลุกจากเก้าอี้ให้เด็กพวกนี้นั่ง นี่แหละมั้ง สังคมเมืองที่ทำให้ทุกคนห่างกันไกลทุกทีๆ ขณะที่สิ่งรอบข้างก็ถูกแทนที่ด้วยวัตถุและความสะดวกสบายมากขึ้น!! 11.00 มาที่ลังห่ำพลาซ่าอีกรอบ ก็เดินๆ เข้าร้านมูจิ เข้าร้านนู้น ร้านนี่ ปีนบันไดเลื่อนที่ยาวโคตรๆ (หวาดเสียวมากมายฮ่ะ) รู้สึกไปเองหรือปล่าวนะ ว่าที่นี่ ใหญ่กว่าปลาร้าก้อน ที่จริง ห้างที่เคลมๆกันมามันวัดยังไงกันแน่นะ วัดด้วยปริมาตร หรือพื้นที่กันแน่หว่า ??? 12.00 มาเดินเรื่อยเปื่อยในมงก๊ก หาร้านข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ดทาน ในที่สุดก็เจ๊อะร้านนึง อยู่ในตลาดหลังมงย่านมงก๊ก ร่านแบบว่าขลังมากๆ ตามไสตล์ร้านอาหารในไทยอ่ะ ร้านเก่าๆ ดูขลังๆ อยู่ในตลาดจอแจๆ สกปรกๆ แต่แบบได้อารมณ์มากๆ ข้าวหมูกรอบ จานหญ่ายส์มากๆ ราคาเท่าไรไม่รู้อ่ะ แต่ช่างมันเหอะ หิวมากๆ อร่อยดีแฮะ ข้าวหน้าเป็ดของตี๋น้อยก็อร่อย จานเบ้อเริ่มเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 12.40 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จานละ 20 เหรียญเองอ๊า.................. ปริมาณก็ 20เหรียญเหมือนกันนะ เคยได้ยินว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก กินข้าวหลายหนแล้ว ไม่รู้ราคา พอจ่ายเงินก็ไม่ได้โอเวอร์บัดเจ็ทสักเท่าไร (ห้ามมาเมนท์นะ ว่ามีใครกินข้าวหมูกรอบราคาถูกกว่านี้ ไม่งั้นเค้าจะงอน!!) ชักประทับใจแฮะ แต่ที่จริงไม่รู้ว่าที่กรุงเทพจะเป็นแบบนี้ไหมนะ แต่ก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไรนะ (ใครคอนเฟริมที) 13.00 เดินเล่นไปเรื่อยๆ แวะoutlet ร้านบอสสินี่ ที่ถนน แกรนวิลล์ ก็เฉยๆนะ ของไม่มากเท่าไร จำได้ว่า ตอนนั้นไปเซ็นทรัลของเยอะกว่านี้อีก แต่ไม่เป็นไร ซื้อไปก่อนค่อยเก็บตกเอาทีหลังก็แล้วกัน   เจอป้ายโฆษณาสินเชื่อบุคคล “ธนสินทรัพย์” กับ “พร้อมมิตร” ด้วย ทาร์เก็ตคงเป็นเมืองแม่บ้านฟิลิปปินส์ ไม่ก็พวกชนชั้นแรงงานที่มาทำงานที่ฮ่องกง กู้ไปซื้อมือถือเหมือนบ้านเราแน่ๆเลย จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 13.15 อ๊ะ แวะตรง ปาร์คเลน ชอปเปอร์ดีกว่า 13.20 เพียงไม่กี่นาทีก็ได้รองเท้ามา 1 คู่ คราวก่อนก็ซื้อรองเท้าที่นี่แหละ แถมขอส่วนลดได้ 10% ด้วย ราคารองเท้าสวยๆที่นี่ ถูกกว่าเมืองไทยครึ่งๆแน่ะ ขนาดไม่ได้เซลล์นะ 14.00 เดินมาตรงโรงแรมกวางตุ้ง ตรงข้าง beneton ที่เคยเป็นเอาท์เลทใหญ่ยักษ์ของเอสปรี บัดนี้ได้กลายเป็นแคลิฟอเนีย ว้ายยยย เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่เป็น นางมารร้ายของเราหลังจาก หมดฤทธิ์จากการเดิน มาราธอนจากมงก๊ก จนถึงจิมซาโจ่ย นางก็พาเราไปเอาท์เลทอีกแห่งของเอสปรีที่เปิดใหม่แต่โดยดี ของในเอสปรีก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะแพงๆทั้งนั้นเลย หลังจากนั้นก็แวเรื่อยเปื่อย จิออร์ดาโน่ที่มาทีไรก็ไม่เคยเซลล์ มีแต่ซื้อแล้วแถมๆๆ 15.00 จู่ๆ กระดาษใบปลิวก็ปลิวมา เห็นใบปลิวลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ของเสื้อผ้าแนวๆ อยาก Firerope, Underground, FCUK, Puma เป็นอาทิ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่มันแซมเปิ้ลแบบที่เมกาเค้ามีกันนี่นา ว้าววววว มันเซลล์ที่ Bazaar ตรง Ocean Terminal นั่นแหละ แค่เดินข้ามถนนก็เจอแล้ว 16.00 ทำไมมันหายากจังวะ ก็บอกว่า อยู่ฝั่งตรงข้ามจิออร์ดาโน วีเมนนี่หว่า  อ๊ะ!! เจอป้ายละ เดินไปตามป้ายดีกว่า จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 6.10 งาน Bazaar Mega Sale สภาพสถานที่จัดงานดูเหมือนงานเซลล์เสื้อผ้าส่งออกไม่มีผิด มีเสื้อผ้ากองๆ อยู่ในกระบะ เสื้อส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าสไตล์ประหลาด ไม่ก็เสื้อผ้าที่เราเคยสงสัยมาตลอดว่า เสื้อผ้าแฟชั่นพวกนี้จะมีคนซื้อไปใส่หรือไม่ เช่น เสื้อยืดที่มีคอเสื้อสองคอ ไม่ก็ผ้าขนมิงค์สีชมพูสะท้อนแสง รองเท้าพูม่า สีเขียวลายพาดสีส้ม (ดีไซเนอร์มีรสนิยมบ้างไหมวะเนี่ย) เป็นอาทิ ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า เค้าเอาเสื้อผ้าพวกนั้นไปทำอะไร 16.30 โอ๊ะ ขนาดว่าคนงกๆ อย่างเจ๊นางมารสวมซาร่าของเรา ยังอดไม่ได้ที่จะสอยเสื้อลายอุบาทว์ๆ สีก็เฝ่ย เนื้อผ้าก็ประหลาด เพียงเพราะป้ายลด 80%!! ไร้สาระมากๆ พวกใช้เงินไม่เป็นเนี่ย อุแม่เจ้า.......... กระเป๋าผ้าใส่กับข้าวไปเดินตลาด ลดตั้ง 90%!!! ตายล่ะ ถึงชาตินี้จะไม่ได้ใช้ก็ต้องซื้อเพราะว่าลดตั้ง 90%แน่ะ ไม่ซื้อต้องโดนเมาท์ว่าโง่แน่ๆที่ไม่ชอบซื้อมา 17.00 กระเหรี่ยงสองตัว ได้ของลดราคาแบบสะใจแต่ตัวเองคงไม่มีวันได้ใช้กัน คนละตัวสองตัว และจากอาการตื่นเต้นกับส่วนลดจนลืมเช็คราคา ทำให้ได้ของลดราคาที่ลดแล้วก็ยังแพงอยู่ดี แถมยังไม่สวยและเป็นของตกยุคที่ใครๆก็ไม่เอามาเป็นที่ระลึก เราสองคนยังคงยืนเงียบ ออกจากลิฟท์ด้วยกัน เนื่องจากตอนนี้เริ่มตาสว่างและกำลังคิดว่า ตัวเองโง่มากกกกกกก!!! 17.05 “ไปดูโปโลกันเหอะ” เสียงนางมารร้ายทำลายความเงียบ เพื่อเราออกจากภวังค์ความคิดนึกที่ใช้เงินไปอย่างโง่ๆ เมื่อตะกี้ โปโล ม้าหญ่ายยส์ แพงมากกกกกกกกกกกกก ตัวนึงก็สองพันกว่าบาท ขนาดว่าลดแล้วนะเนี่ย   17.20 เดินผ่านท่าเรือสตาร์เฟอรี่ที่อีกไม่กี่วันก็จะกลายเป็นอดีต เราเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงลานน้ำพุ จุดชมอ่าววิคทอเรียฮาเบอร์ จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 17.30 นั่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเราเห็นตุ๊กหลิง (Duk Ling) เรือสำเภา มาสคอทของฮ่องกง ตี๋น้อยทำหน้าใส่เราเหมือนมีคำถามว่า ไหนเราบอกว่า ตุ๊กหลิงมีแต่วันเสาร์ และไม่วิ่งวันอาทิตย์ ดีที่มันไม่ได้ใส่ใจจะนั่งเรือสำเภาฮ่องกงตั้งกะที่แรก ไม่งั้นคงโดนเชือดเฉือนทางสายตาไปแล้ว แต่ที่จริง ตุ๊กหลิงก็เล็กกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ จากนั้น เราก็ข้ามเรือ เพื่อไปเก็บภาพที่เว็นทรัลก่อนจะชอปปิ้งแถวที่พักเราเสียที แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 50 17:31:53 จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 18.00 ตลอดทางเดินมีแต่หญิงทั้งสาวและไม่สาวนั่งล้อมวงกันอยู่มากมาย หน้าตาก็ไม่เหมือนคนจีนสักเท่าไร ดูคล้ายๆคนบ้านเรา “แกว่า นี่ใช่พวกแม่บ้านฟิลิปปินส์ป่าววะ วันนี้วันอาทิตย์ ตึกสำนักงานไม่มีงาน เค้าก็ได้พัก” ตี๋น้อยถามพร้อมใช้สายตาวิเคราะห์เหล่าชะนีหลากหลายชาติพันธุ์ที่กำลังนั่งเรียงรายสองข้างทางตั้งแต่ทางเดินท่าเรือเซ็นทรัล ยันไปจนถึงถนนเด โว่ ที่วันนี้ปิดเพื่อให้เป็นลานคนเดิน “เออว่ะ ทำไมมานั่งกันตรงที่สาธารณะวะ น่ากลัวว่ะ ดูเด่ะ ยาวไปจนถึงลานคนเดินโน่นเลยอ่ะ ดูเด่ะ มีปิคนิค มีเล่นไพ่ ดูๆไป แถวนี้ก็คล้ายๆ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตเนอะ เป็นจุดสกัดลาวอ่ะ  งั้นเราเรียกที่นี่ว่า จุดสกัดฟิลิปปินส์ดีมะ ต่างกันตรงที่ว่า ฟิวเจอร์สกัดหนุ่มสาวโรงงาน ไม่ให้เข้าเมือง แต่อันนี้สกัดให้อยู่แต่ในเมือง” ฉันเสนอไอเดีย แม้แต่ตี๋น้อยก็อดขำไม่ได้ “อื้มม อีนี่ ไปดูถูกเชื้อชาติ เด๋วเจอรุมยำตีนแถวนี้หรอก” ตี๋น้อยสวมวิญญาณนักสิทธิมนุษยชน ปกป้องการดูถูกเชื้อชาติ ทั้งๆที่ตัวมันก็ไม่เคยเป็นแบบนั้นสุดฤทธิ์ “แหม แต่ก็นะ ว่าฉันเป็นคนพวกนี้ ฉันจะหาวิธีผ่อนคลายอย่างไรนะ ฉันอาจจะไปเดินห้าง แต่อาหารที่ห้างก็คงแพงเกินกว่าจะใช้จ่าย บางที นี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วก็ได้เนอะ” เราเริ่มตระหนักถึงหลักการหาความสุขที่แท้จริง ที่บางครั้ง เงินก็อาจมิใช่ทางออกของมันเสมอไป “เค้าบอกว่าคนฮ่องกงนี่ใช้งานโหดนะ แม่บ้านฟิลิปปินส์ที่ทำงาน กินอยู่กับคนฮ่องกง บางคนต้องนอนในห้องน้ำ เพราะว่าไม่มีห้องให้นอน เวลาเจ้าของบ้าน จะเข้าห้องน้ำ พวกนี้ก็ต้องตื่น ดึกขนาดไหนก็ต้องตื่น คิดดูเด่ะว่าทรมานขนาดไหน” ตี๋น้อยพูดจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับทำให้คนฟังอย่างเราถึงกลับตระหนักความจริงของชีวิต บางครั้ง เราก็ไม่สามารถที่จะเลือกมีชีวิตอย่างที่คนอื่นมีได้ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 50 15:52:19 จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 19.00 ฉันถ่ายรูป บริเวณนั้นสักพัก ก็ตัดสินใจกลับคอสเวย์เบย์กันด้วยรถราง ฉันมองกลับหันหลังไป มองรายทางจุดสกัดฟิลิปปินส์นั้น วันนี้ฉันอาจจะยังไม่เข้าใจชีวิตทั้งหมด แต่ฉันอาจจะได้อะไรมาไว้ครุ่นคิดสักนิดกระมัง 20.00 เดินเล่นใน IKEA ตี๋น้อยแนะนำว่า ควรซื้ออะไรจากร้านนี้ไปสักชิ้นสองชิ้น เพราะแค่เดินถือถุง IKEA ขึ้นสนามบินก็เป็นอะไรที่เก๋มากแล้ว จะว่าไป ของที่นี่ หลายอย่างราคาถูกกว่าเมืองไทยเยอะเหมือนกันนะ 20.30 หลังจากแวะชมและเลือกซื้อสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ซื้อหรอก เพราะว่าของส่วนใหญ่มักจะชิ้นใหญ่ และบางอย่างก็ถูกเหลือเชื่อจนไม่กล้าซื้อ (ผ้าปูที่นอนผืนละ 500 มีปลอกหมอนให้ด้วย จริงเหรอวะ) ได้หมอนขนเป็ดมาใบนึงใบละ 29 เหรียญเอง ขณะนั้น นางมารร้ายก็ขอตัวไปห้องน้ำ บอกว่าท้องเริ่มไม่ดี ขอตัวไปห้องน้ำ ฝากหมอนสีเหลือง สวยก็ไม่สวย เอาไว้ 2 ใบก่อนบึ่งไปเข้าห้องน้ำแบบใส่เกียร์ 5 21.00 หลังจาก จ่ายเงินเสร็จ เรากะว่าจะเอาของไปเก็บกันก่อนแล้วค่อยลงมาเดินในคอสเวย์เบย์กันต่อ เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องไปรีพัลส์เบย์แล้วเดินเล่นในเซ็นทรัลอีก อาจจะไม่มีเวลามาแวะคอสเวย์เบย์มากนัก 21.15 แวะเวลคัม ซื้ออาหารกล่องจากที่นี่เลยดีกว่า อาหารในเวลคัมกล่องใหญ่มากๆ ราคาส่วนใหญ่ก็ไม่เกิน 20 เหรียญ เราซื้อน้ำเปล่าจากที่นี่เพิ่มไปอีก (มาฮ่องกงไม่ต้องพกน้ำ พกมาม่ามาหรอก เพราะที่เวลคัมราคาอาหาร น้ำดื่มก็ราคาแพงกว่าเมืองไทยไม่มากนักหรอก) อย่างน้ำแร่ก็ 2.50 เหรียญ 21.20 อ๊ะ นางมารร้ายยืนบิดไปบิดมา ยื่นบ๊ะจ่างให้เราไปจ่ายเงิน พร้อมขอตัวกลับห้องก่อน เพราะว่าตัวเองปวดท้องอีกแล้ว เราใช้สายตาแบบเดียวที่มันใช้กับเราตอนที่ไปซิตี้เกทสาดใส่มัน แต่มันไม่อาจรับรู้สารอื่นใดอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตอนนี้ มันได้พุ่งพรวดออกนอกประตู ดิ่งไปยังที่พักเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 22.00 ตี๋น้อยเดินเข้าๆออกๆ ห้องน้ำเป็นรอบที่ 7 แล้ว ก่อนจะฟุบหน้าลงบนเตียงนอน พร้อมโอดครวญอย่างที่ไม่ได้ดูน่าสงสารอะไรนัก “อ๊ะ มารร้ายหมดฤทธิ์ นี่ถ้าที่กรุงเทพหล่อนเป็นแบบนี้นะ หล่อนจะน่ารักมาก รู้ตัวปป่าว” คราวนี้ถึงทีกูบ้างแหละโว่ยยยยย สายตาที่มันจ้องตอบกลับมา สาดแสงใส่ ดุจงูพิษที่รอขย้ำเหยื่อ แต่หากถูกกับดักดีดติดจนขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ สายตาพอตีความได้ในทำนองว่า ‘อย่าให้เห็นทีกูบ้างนะมึ๊งงงงง อีชาติชั่ว’ แต่เรากลับเพิกเฉย เพราะคนที่ไม่ถือสาหาความ ไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้นแบบเรา ก็ทำเป็นมองไม่เห็นสายตามัจจุราชนั้น แถมยังแสดงว่าความเป็นห่วงสไตล์นางเอกแสนดีละครช่อง 7 อย่าง กบ สุวนันท์ อย่างไงอย่างงั้น “ไปซื้อยาให้เอามั้ย” กบเป็นคนเข้าใจเพื่อนมนุษย์ค่ะ “เสือกกกกกกกกกกก” แววตาเคียดแค้นยังคงตอกย้ำภาพนางร้ายแบบกิ๊ก สุวัจนี ของตี๋น้อย ที่ไม่เคยรู้จักความมีน้ำใจของใคร มันทำให้ลุกส์แบบกบ สุวนันท์ อย่างเราๆ ต้องสวมวิญญาณนางเอกร้ายๆอย่างอั้ม พัชราภา “ตามใจ ขี้แตกไปแบบนี้เหอะ” เพื่อนร้ายๆแบบนี้ เป็นอั้ม อั้มเชิ่ดใส่ค่ะ!!! 22.30 ไม่นานนัก หลังจากหมดเรี่ยวแรงจากห้องน้ำเป็นเวลาสองนาน กิ๊ก สุวัจนีก็เอาร่างบางๆ มาฟุบลงที่เตียง แล้วก็กรนตามสไตล์เธอ ส่วนอั้ม พัชราภาอย่างเราก็ได้นั่งรอห้องน้ำที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นดินประสิวที่กิ๊ก สุวัจนีเพิ่งจะจรดลงคอห่านให้กลิ่นจางลงเสียก่อน จนกระทั่ง เผลอผลอยหลับไปไม่รู้ตัว แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 50 17:17:26 จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ง่วงมาก งีบแป๊บนะ แล้วเจอกันใหม่น้าาาาาาาาาาา จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 14:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ้าว... กลับมาเร็วๆนะน้องร็อก -_-' กาลังมันส์ จากคุณ : แม่หนูนวล - [ 4 ม.ค. 50 15:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้ตอนที่ 1 อยู่ตรงไหนคะ  ของลิงค์ได้มั้ยคะ จะตามไปอ่าน กำลังจะไปอยู่พอดี เอาไว้จะไปตามรอยค่ะ จากคุณ : stawberry - [ 4 ม.ค. 50 15:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อากาลังมันส์เลยอ่ะ.........ไปแล้วเหรอ จากคุณ : Radiance - [ 4 ม.ค. 50 15:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มันจบตอน 2 แค่นี้ง่ะ ตอน 1 อยู่นี่จ้า http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5001738/E5001738.html จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 15:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้วว น้องร็อค ขยันพิมพ์หลายย... รออ่านเน้อ จากคุณ : กาแฟถ้วยสีฟ้าและห้องรับแขก - [ 4 ม.ค. 50 16:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนไปเที่ยวก็เจอเหมือนกันครับ คนจับกลุ่มนั่งกัน ตอนแรกนึกว่าเขาจะมีเปิดท้ายเหมือนบ้านเราเลยเดินไปดูใกล้ ๆ อ่อ เป็นคนมาพักผ่อนจริง ๆ คนไทยก็เยอะครับ เห็นกำลังบวกเลข (ตอนเดินผ่านได้ยิน บ๊อก8 ด้วย) กันใหญ่เลย บางคนก็เอากับข้าวมากินกัน สงสัยจะเป็นที่พักผ่อนครับ จากคุณ : naijoke - [ 4 ม.ค. 50 16:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฮามากๆน้องร๊อก คำบรรยายสก๊อยนี่สุดยอดนึกภาพออกเลย จากคุณ : bangkok dream - [ 4 ม.ค. 50 16:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่ฝันเมืองกรุงเคยเห็นสก๊อยด้วยเหรอฮะ จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 17:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตกลง ผู้หญิงที่นั่งตามสวน ตามใต้สะพาน ตามที่ต่าง ๆ เยอะไปหมด เค้ามานั่งทำอะไรกัน เห็นนั่งตั้งแต่กลางวัน ยันกลางคืน ก็ไม่ยักจะกลับบ้าน กัน มีใครรู้บ้างอะ จากคุณ : Sir_SeanPaul - [ 4 ม.ค. 50 17:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เฉลยตอน 3 แล้วกัน ว่าเค้าทำอะไร จากคุณ : น้องร๊อก - [ 4 ม.ค. 50 18:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาอ่านค่ะ ตอนไปฮ่องกงถ้าไปตรงกับวันอาทิตย์จะเจอเหล่าชาวฟิลิปปินส์ มานั่งเล่นไพ่กันเพียบเลย จากคุณ : napatson - [ 4 ม.ค. 50 18:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กร๊ากกกกกก....อ่านเเล้วขำน้ำตาเล็ด กับสก๊อยของน้องร๊อก ทำให้พี่นึกถึง สก๊อยอิตาเลี่ยนที่นี่ กริยามารยาทไม่ต่างกับของน้องร๊อก ผิดเเต่ว่าพวกนี้มันใส่ดีเซล รองเท้าเเดส เข็มขัด D&G เเจ๊คเก็ตลอยๆ ซอยผมทรงพั๊นซ์(เหมียนกัล) ทาตาดำๆ เวลาผ่านพวกกลุ่มนี้ต้องระวังเเก้วหู เเละปอดของท่านให้ดี เพราะเเต่ละนางจะส่งเสียงเเปร๋นมาก เเถมพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าชาวบ้าน อย่างไร้รสนิยมอย่างเเรง....ที่ไหนๆก็มีสก๊อยเนอะ ((จะรออ่านตอน 3 นะคะ)) จากคุณ : ปลาทอง9 - [ 5 ม.ค. 50 03:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้วววว กางเกงยีนส์ดีเซลกับรองเท้าดาสที่ไม่ใช่ Y-3 สก๊อยอย่างแรงเลย จากคุณ : น้องร๊อก - [ 5 ม.ค. 50 09:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เพิ่งรู้ว่าเค้าเรียกสก๊อย จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 5 ม.ค. 50 10:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาขำสก๊อย บรรยายซะเห็นภาพเลย 5555555555 จากคุณ : ถ้ามีตังค์นะจะกินให้หมดเลย - [ 5 ม.ค. 50 15:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ง๊า.....อะไรคือ Y-3 คะ อันนี้พี่ไม่เก็ทเเระ ดีเซลกับรองเท้าเเดส ของวัยรุ่นอิตาเลี่ยนที่นี่ ถือเป็นเรื่องปรกติค่ะ ที่ไม่ปรกติของพวกนี้คือ ต้องการเรียกร้องความสนใจ ทำตัวเเปลกๆ ให้เเตกเเยกจากวัยรุ่นทั่วๆไป เราจะพบเจอได้ตามร้านจั๊งฟู๊ด(ไม่ขอเอ่ยนาม) เเละเเหล่งช้อปปิ้งทั้งหลาย คงเปรียบได้กับสก๊อยที่น้องร๊อกว่าเเหละ เพียงเเต่ว่าพวกนี้เเต่งตัวด้วยเเบรนด์ เเต่ดูออกเเนวรกๆ ด้วยหมวก เเละผ้าพันคอ กระเป๋าสะพายเเบบเฉียง จากคุณ : ปลาทอง9 - [ 5 ม.ค. 50 17:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ร๊อกไม่ชอบดาสอ่ะฮะ ร๊อกชอบโอนิซึกะไทเกอร์มากกว่า ที่อิตาลีมีให้เลือกเยอะไหมเอ่ย?? จากคุณ : น้องร๊อก - [ 5 ม.ค. 50 18:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่งรู้นะเนี่ย..ว่าเรียกสก๊อย..อิ่..อิ่.. ตอนไปเซ็นทรัลพระราม 2 วันเสาร์อ่ะ อ้ายเราก็งง เห็นเด็กแซ่บ (หรือแซ๊บเนี่ย) เต็มไปหมดเลย ที่แท้ก็มาดู 7 คอนเสิร์ตนี่เอง..ฮ่วย.. แต่ก่อนจัดที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ตีกันหน้าห้าง อ้ายเราก็ย้ายห้างเดินแล้วนะ ดันมาป๊ะอีกจนได้ ว่าแล้ว ไปฮ่องกงอีกรอบน่าจะดีแฮะ จากคุณ : Hermy - [ 7 ม.ค. 50 20:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตามมาชมค่ะ จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 17 ม.ค. 50 12:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มานั่งรอค่าน้องร๊อกกกกก มาไวๆ จากคุณ : หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal) - [ 11 มี.ค. 50 02:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอน สาม http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5049560/E5049560.html จากคุณ : น้องร๊อก - [ 12 มิ.ย. 50 17:24:52 ]