ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อก่อนดอยผ้าห่มปกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ฝาง แต่ได้รับการขนานนามว่า อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ยินดีด้วยค่ะ ที่ตั้งและการเดินทาง   อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก (แม่ฝาง) ตู้ ปณ. 39 อ. ฝาง จ. เชียงใหม่  50110 โทรศัพท์ : 0 5345 3517-8   โทรสาร : 0 5345 3517-8 ต่อ 104 รถยนต์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ถึงฝางแล้วไปตามถนนฝาง-ม่อนปิ่น ประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. 4055 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ   รถโดยสารประจำทาง รถประจำทางมีรถประจำทางปรับอากาศของบริษัทขนส่งจำกัด และบริษัทรถร่วมเอกชน ระหว่างกรุงเทพ-ฝาง , เชียงใหม่-ฝาง เมื่อถึงอำเภอฝาง จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ฝาง อีกประมาณ 10 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก(แม่ฝาง) http://www.dnp.go.th/parkreserve/forprint.asp?npid=160&lg=1 จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 17:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไม่เคยขึ้นยอดดอยเลยค่ะ เคยแต่นอนที่โป่งน้ำร้อนข้างล่างทางขึ้น แค่นอนข้างล่างอากาศก็หนาวแล้วค่ะ จากคุณ : Happy Holiday - [ 10 ม.ค. 50 17:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขึ้นไปค้างบนดอย แต่ไม่ได้เดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอย สรุปก็คือ ไปเหมือนไปไม่ถึงอ่ะค่ะ... วันนั้นที่ไปเจอไป 6 องศา..หนาวเจี๊ยบๆมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา แต่ตอนนี้เจอที่หนาวกว่าวันนั้นแล้วค่ะ ถ้ามีโอกาสเราก็จะไปอีกนะ ผ้าห่มปก เนี่ย.... จากคุณ : Gemrin - [ 10 ม.ค. 50 18:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จองตั๋วนครชัยแอร์ไว้ล่วงหน้าเดือนนึงแล้วค่ะ จากกรุงเทพคืนวันศุกร์ที่ 22 ธค. 2549 3 ทุ่มตรง ต้องไป check-in ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ เลิกงานเสร็จไม่ต้องหาข้าวทานให้ยุ่งยาก บนรถมีอาหารเสิร์ฟค่ะ มื้อนั้นได้กินข้าวหมูทอดกล่องใหญ่ อิ่มแล้ว ก็รีบนอนเอาแรง เด๋ว 6 โมงเช้าก็ถึง น้องชายนั่งบ่อย confirm ว่าบริษัทนี้ ดีที่สุดแล้ว ตรงเวลา ไม่จอดแช่ที่ไหน พนักงานขับรถผลัดกัน 2 คน คันที่เราไปพนักงานต้อนรับบริการดีมากค่ะ ดีกว่า low cost airline อีกนะ ถึงอาเขตแล้วนี่บริการเปิดช่องสัมภาระหยิบกระเป๋าให้ผู้โดยสารทุกคนเลยค่ะ อ่อ ขาไป snack ก่อนข้าว ได้ เลย์ถุงเล็ก 1 ถุง น้ำเปล่า 1 ขวด น้ำผลไม้ดอยคำ 1 กล่อง ก่อนถึงอาเขตได้น้ำเปล่า 1 ขวด lactosoy 1 กล่อง แล้วอะไรอีกจำไม่ได้ค่ะ น้องมารับแล้วรีบไปอาบน้ำแต่งตัว เก็บของที่บ้านแม่ริมกัน แต่ก่อนเข้าบ้านต้องแวะตลาดแม่ริมก่อน ที่นี่อาหารสด ผัก ผลไม้ถูกมาก ของโครงการหลวงก็มีขายนะ ซื้ออุปกรณ์กันหนาวตายก่อน ถุงมือถุงเท้าคู่ละ 25 บาท หมวกจำราคาไม่ได้แต่ไม่แพงค่ะ แนะนำให้ซื้อไอ้โม่งด้วย มีประโยชน์มากๆ ใช้ได้ทั้งตอนนอนเต็นท์และเดินในป่า จากเชียงใหม่ไปฝางประมาณ 160 กม. ประมาณ 3 ชม. จากอุทยานขึ้นดอยเค้าบอกว่า 2 ชม. ใช้เวลาค่อน ข้างเยอะ ต้องวางแผนการเดินทางให้ดี เราแวะซื้อของไปกินบนดอยที่ตลาดแม่มาลัย แต่ถ้าใครเอารถมาเองมาซื้อของ ที่ฝางก็ได้ค่ะ ตลาดใหญ่กว่าบางจังหวัดซะอีก แต่เคยซื้อที่แม่มาลัยแล้วอร่อยติดใจค่ะ จากนั้นเราก็รีบขับรถทำเวลา ไปหามื้อกลางวันที่ฝางกัน ไปถึงก็บ่ายโมงกว่าแล้ว ขอแนะนำก๋วยเตี๋ยวร้านทิพรสค่ะ น้องชายติดใจ ชอบมากินร้านนี้เหลือเกิน จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 18:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กองทัพอิ่มแล้วก็ออกลุยได้ ที่จริงก่อนถึงอำเภอฝางจะมีป้ายดอยผ้าห่มปกเห็นเด่นเป็นสง่า ให้เลี้ยวซ้าย ตรง 3 แยกเลี่ยงเมือง ซึ่งเราควรจะย้อนไปทางนั้น แต่น้องชายไม่ได้ไปทางนั้น ออกจากฝางเจอแยกก็เลี้ยวขวาเลย น้องบอกว่ามันก็ไปเจอทางเลี่ยงเมืองเส้นนั้นแหละ เห็นว่าอยู่เชียงใหม่มาหลายปี ขึ้นลงแม่ริม-ไชยปราการบ่อยๆ ฝึกงานตามป่าตามเขาบ่อยๆ ก็เลยเชื่อใจ ทั้งๆ ที่ไม่ควรเล้ย ขับไปได้ซักพักก็เจอป้ายดอยผ้าห่มปกเล็กๆ ให้เลี้ยวขวา ก็เข้ามาเลย เลี้ยวปุ๊บก็เป็นทางลูกรังปั๊บ ขับไปซัก 500 เมตรก็จะเจออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สวยงามทีเดียวค่ะ จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 18:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วก็แบบนี้ จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 18:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาอ่านเรื่องราว ขยันเขียนจิง ๆ เลยนะค่ะ จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 10 ม.ค. 50 18:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อกี๊ทางยังเป็นพื้นราบอยู่เลยเผลอแป๊บเดียวมาอยู่บนเขาซะแล้ว ไม่มีวี่แววจะเจอทางลาดยางไปที่ทำ การอุทยานแห่งชาติเลย หรือจะมีทางขึ้นได้หลายทางนะ ขับไปก็มีแต่ทางแบบนี้ จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 18:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วก็แบบนี้ ทางชันขึ้น อันตรายมากขึ้น ไม่เจอรถสวนไปสวนมาซักกะคันเดียว มีแต่รถใหญ่ๆ ทำถนน เจอคุณลุงใจดีคุมการก่อสร้างถนน แกก็บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่ กม. 5 ที่ทำการอุทยานที่เราต้องการไปน่ะ กม. 18 สรุปว่าเราเข้าใจไม่ตรงกันค่ะที่เราต้องการไปคือที่ทำการอุทยานข้างล่างเพื่อที่จะไปเปลี่ยนรถ เช่ารถ 4 WD ขึ้นไป เช่าที่รองนอน แล้วน้องชายก็ไม่มีถุงนอนอยู่คนเดียวด้วย ก็ว่าแล้วเชียวป้ายมันน่าจะเขียนว่าอุทยานแห่งชาติเนอะ เรายังขับไปไม่ถึงก็เลี้ยวเข้ามาเลย มารู้ตัวก็ตอนกดนาฬิกาน้องชายดูเราอยู่ที่ความสูง 1100 กว่าเมตร hahaha ครึ่งนึงของยอดดอยแล้ว สรุปว่าเราขึ้นมากันเองโดยไม่ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ช่างกล้าทะเล่อทะล่าซะจริง จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 18:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตาร้อนผ่าวๆๆๆ ชวนเพื่อนไปดอยผ้าห่มปก เพื่อนไม่สนใจ บอกจะไปภูกระดึง (ซึ่งเราก็ไม่สนใจ) ตกลงกันไม่ได้ ทริปล่ม 555+ มาแอบดูคุณ jent พาเที่ยวละกันค่ะ จากคุณ : luvammie - [ 10 ม.ค. 50 18:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไปถึงก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ขอเช่าที่รองนอน 4 ถุงนอน 1 เค้าก็เลยงง ถามว่าไม่ผ่านอุทยานมาหรอ แหะๆ จ่ายค่าธรรมเนียมไป 260 แล้วค่อยมาตอน 1 ทุ่ม ต้องรอให้รถขนคนขึ้นมาหมดก่อน เพราะนักท่องเที่ยว จองเต็นท์ จองเครื่องนอนจากข้างล่างมาแล้ว แป่ว สรุปว่าคืนนั้นแห้ว นอนหนาวกันไปตามระเบียบ หนาวยิ่งกว่า นอนอยู่ในตู้เย็นซะอีก ไม่ทันข้ามคืน อุณหภูมิลด 10 กว่าองศา ไปถึงเกือบ 4 โมงเย็น 19 องศา 4 ทุ่ม 6 องศา คิดูละกา หนาขนะหนายย เที่ยงคืนลุกมาเข้าห้องน้ำ 4 องศา น้ำมูกไหลแบบไม่รู้ตัวเลยอ้ะค่ะ ขนาด exercise เตรียมตัวมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะแล้วนะเนี่ย tourdoi.com บอกให้ลุก-นั่งวันละ 20 ครั้ง เพื่อการเดินป่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่พอค่ะ เกือบตายเลยจริงๆ นะ นึกว่าจะไม่รอดออกมาจากป่าซะแล้ว ขอบอกว่าดาวที่นี่สวยเริ่ดมากๆ เต็มฟ้าไปหมด นึกว่าอยู่ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพ แต่นี่น่ะของจริง โรแมนติคสุดๆ ไปเลย ไม่เคยเห็นดาวที่ไหนสวยบาดใจอย่างนี้มาก่อน แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 50 09:24:52 จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 19:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปที่ลานกางเต็นท์มาให้ดู รูปไม่สวยอย่างมืออาชีพนะคะ แปะรูปให้ดูกันเลยแล้วกัน ถ้ามีคนติดมาต้องขออภัยไว้ก่อง จากคุณ : jent - [ 10 ม.ค. 50 19:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คนนำทางมาปลุกตี 3 ให้เราได้เตรียมตัวเพิ่มอุปกรณ์กันหนาว แล้วก็มารับพวกเราอีกทีก่อนตี 4 เดินไปไม่ถึงครึ่งชม. ก็แย่แล้วค่ะ มีคนในห้องนี้นี่แหละบอกไว้ ถ้าเดินถึงม่อนวัดใจได้ก็ฉลุย ของจริงมันโหดกว่าเยอะเลยค่ะ ต้องบอกว่าเกือบตายเลยจริงๆ ความกดอากาศสูง + Oxygen ที่เบาบาง + ความหนาวสุดขั้วหัวใจ + ตื่นเช้าแต่ตี 3 + พักผ่อนไม่เพียงพอ หลับๆ ตื่นๆ + ร่างกายขาดน้ำ มื้อค่ำกินข้าวเสร็จดื่มน้ำไปไม่ถึงครึ่งแก้ว ไม่เกิน 100 CC แน่นอน กลัวเข้าห้องน้ำบ่อย อากาศมันหนาววววว ทีนี้แหละ โรคประจำตัวอะไรๆ ที่ไม่ออกอาการหรือเป็นนิดๆ หน่อยๆ ตอนอยู่พื้นราบประดังกันหมดเลยค่ะ เดินไปพักไปแทบทุก 5 นาที เบยา (คนนำทางชื่อเบยา จะที) คงอ่อนใจ ทำไมคนกรุงเทพกลุ่มนี้มันอ่อนปวกเปียก ไม่แข็งแรงเอาซะเลย แต่เบยาเดินแบบสบายสุดๆ ไม่มีทีท่าจะเหนื่อยแม้แต่น้อย ตอนหาข้อมูลยังงงเลยอะไรกันทางแค่ 3-4 กม.เดินเข้าไปได้ตั้ง 2 ชม. ยังคิดเลยว่าออกตี 3 ครึ่ง ตี 5 ครึ่งเราก็ถึง ยอดดอยนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นชิวๆ ที่ไหนได้ ทำลายสถิติ ออกตี 4 ไปถึงนู่นเกือบ 7 โมงเช้าค่ะ เบยาพยักหน้ารับ เมื่อถามว่า "กลุ่มพี่เดินช้าที่สุดตั้งแต่เคยทำงานมาเลยใช่ไหม เบยา" พี่จะตาย พี่ไม่ไหวแล้ว จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขึ้นมาแล้วจะบอกว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งก็คงจะโกหก แต่ว่า ณ จุดสูงสุด ของยอดดอยแห่งนี้ คุณต้องมาเห็นด้วยตาตนเอง บรรยายยังไงก็ไม่เท่าตาเห็น มันสวยงามมหัศจรรย์มากๆ เราสามารถหมุนตัวดูวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา เห็นเส้นขอบฟ้าสวยงาม ชัดเจนเป็นวงกลมโอบล้อมโลก รอบตัวเรา ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่มีสิ่งใดมาบดบังสายตาเราได้อีกแล้ว รู้สึกภูมิใจในตัวเองจริงๆ ที่ฝ่าฟันเดินมาจนถึง ไม่ล้มความตั้งใจไปเสียกลางทาง ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ "No Pain No Gain, it's True" บนนี้ไม่เห็นทะเลหมอก ทะเลหมอกคงจะลอยตัวอ้อยอิ่งใกล้ๆ จุดกางเต็นท์ ต่ำลงไปเกือบ 300 เมตร เท่าที่เคยเห็น ส่วนมากทะเลหมอกมักจะขังอยู่ในช่องเขา หุบเขา สูงๆ ขนาดนี้หมอกฟุ้ง รอบตัวเราไปหมด ภาพพระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่พ้นเส้นขอบฟ้ามันวิจิตรพิสดาร สวยงามแทบจะหยุดลมหายใจ ประทับใจมากๆ จำวินาทีนั้นได้ไม่มีวันลืม ที่นี่วิเศษจริงๆ ดาวก็สวยบาดจิต พระอาทิตย์ขึ้นก็สวยบาดใจ เที่ยวป่าเมืองไทย มีอะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ เป็นการกระจายรายได้ ช่วยเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย ลืมบอกไป ที่เราซื้อของจากข้างล่างขึ้นมากินกันนั้นเพราะเค้าบอกว่าข้างบนไม่มีของขาย แต่วันที่เรามา 23 ธค. 49 ใกล้จะปีใหม่ คนเริ่มเยอะ มีชาวบ้านมาตั้งร้านขายของด้วยล่ะตั้ง 1 เจ้าแน่ะ ก็มีน้ำอัดลม น้ำเปล่า มาม่า ของขบเคี้ยวง่ายๆ ทั้งหลาย มันเผา พี่เค้าใจดี ไปขอน้ำร้อนใส่มาม่าคัพก็ไม่คิดเงิน จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กั๊กเขียว ตรงกลางในรูป คือเบยา คนนำทางค่ะ ขอบคุณเบยา ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ถ้าไม่ได้เบยาล่ะก็ แย่แน่ๆ นั่งพักแล้วก็เปิดเป้ออกมา ก็จะเจอ sandwich ที่ทำไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ + น้ำ 1 ขวด + ไฟฉาย ว่าแล้วก็จัดการ มื้อเช้าซะเลย แหมกิน sandwich บนจุดสูงสุดอันดับ 2 ของประเทศมันวิเศษขนาดไหน อยากรู้ต้องมาลองเองค่ะ เวลาเดินป่าเฉลี่ย ไป-กลับ 4 ชม. กว่าจะถึง camp ก็เกือบ 8 โมง ใช้เวลาขนาดนี้ของเหล่านี้ขาดไม่ได้ซักอย่างค่ะ ขามาก็จะแย่แล้ว ถ้าขากลับต้องหิ้วท้อง ตาลาย แล้วยังต้องเดินบุกป่าฝ่าดงอีก คงไม่มีแรงไปถึง camp แน่เลยค่ะ น้ำคงไม่ต้องบอกทำไมต้องเอามา บางกลุ่มไม่ได้เตรียมไฟฉายมา ใช้แสงจากมือถือเอา นันถือจริงๆ เล้ย คุณคิดว่าตี 3 ตี 4 ในป่าในเขา บนยอดดอยสูงเสียดฟ้าขนาดนี้มันจะมืด ตึ๊ด ตื๋อ ขนาดไหนกัน ทางแคบเดินเรียง เดี่ยวได้เท่านั้น บางช่วงก็ชันขนาดเดิน 4 ขา เหวนี่ใกล้แค่ก้าวเท่านั้น ถ้าไม่มีไฟฉาย เราคงได้กลิ้งตกเขาไปแล้วล่ะ อยู่ข้างบนยอดดอยมัวแต่ตะลึง ตึงๆ กับธรรมชาติ + เหนื่อยโคตระ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเท่าไร ลงมาแล้วยังอดเสียดายไม่ได้ ที่ไม่ได้ถ่ายยอดดอยที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไว้เยอะๆ ลงมาหารูปที่ถนนคนเดิน ยังไม่มีเลย พี่เค้าถาม มันอยู่ตรงไหน ยังไม่เคยไปเลย แป่ว บางคนก็บอกอยากไปเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสซะที จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ได้เวลาเดินทางกลับ camp แล้ว การเดินป่าผ้าห่มปก ณ ดินแดนมหัศจรรย์ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว กล้องก็แบ็ตจะหมดอีก T_T จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลืมรูปซะงั้น จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นี่มันเป็นการเดินป่าในฝันเลยนะเนี่ย อย่างงี้แหละถึงจะเรียกว่าเดินป่าของจริง จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรากำลังเดินออกจากป่าใส่เสื้อ ป่าที่นี่สมบูรณ์มาก แทบจะเรียกได้ว่าใส่เสื้อทั้งนั้นแหละ มีมอส ไลเคนห่มคลุม เหมือนต้นไม้ ดึกดำบรรพ์ เริ่มมีเสียงแมลง เสียงนกแล้ว ดีจังที่เมื่อคืนขามา ป่าหลับไหล เงียบมาก ไม่ได้ยิน เสียงอะไรเลย พอเริ่มเข้าป่าก็เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลุดไปอยู่ในดินแดนอะไรซักอย่าง ประหนึ่ง Alis ในแดนมหัศจรรย์ก็ไม่ปาน ทำให้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ไม่จินตนาการหลอนตามเสียงป่า ไปเที่ยวที่อื่น พอป่าเริ่มมืดก็มีเสียงแมลง เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของป่า เสียงอะไรไม่รู้เต็มไปหมด น่ากลัววววว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ธรรมชาติสวยขนาดนี้แล้ว ช่วยกันรักษาหน่อยนะคะ อย่าทำลายเค้าเลย เค้าก็อยู่ของเค้าดีๆ แถมยังให้ประโยชน์ อันยิ่งใหญ่แก่มวลมนุษย์อย่างเรามาไม่รู้เท่าไร อย่างน้อยก็ช่วยกันรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมบ้างก็ยังดี ว่าแต่ทำไมรูปข้างบน ถึงโดนย่อแบบนั้นได้น้า [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นมั้ยว่ามันสวยขนาดไหน นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเดินป่า ร้องเพลงเสียงดัง พูดจากันเสียงดังมากๆ แถมยังแซวกลุ่มเราอีก อยากจะแซงจะรีบไปก่อนก็บอกกันได้ พร้อมจะหาที่หลบทางให้ เราไม่ได้แข่ง rally กะใคร เราคนไทยเจรจากันดีๆ แบบสุภาพชนกันดีกว่านะ เข้าป่าไม่เกรงใจคนอื่นก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เคารพสถานที่ เคารพธรรมชาติบ้างซักนิดก็ยังดี อุตส่าห์เข้าป่า หนีผู้คน มาหาความสุขสงบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้อีกหรือเนี่ย T_T จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เดินมาได้ 1.6 กม. เกือบครึ่งทางแล้วนะ กำลังจะออกจากเขตล้มขอนนอนไพรแล้ว สวยอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นมั้ยว่าทางมันเป็นแบบนี้ ถ้าเดินไม่ระวัง สะดุดขาตัวเองเข้าล่ะก็ ได้กลิ้งโค่โร่ไปทางซ้ายมือ ทางลัดกลับบ้านก่อนใคร ไปเข้าเฝ้า คุณลุงยม แน่เลย จะอึ๋ยยย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 บางช่วงชันมากๆ ขาลงนึกว่าจะง่าย ที่ไหนได้ ถ้าไม่มีเบยาเป็น braeker ให้ล่ะก็ คงกลิ้งหลุนๆ ไปไหนแล้ว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขึ้นก็ก๊วนสุดท้าย ลงก็ก๊วนสุดท้าย รอให้ก๊วนอื่นเค้าเดินไปห่างๆ ก่อน ทั้งเค้าและเราจะได้ชื่นชมธรรมชาติ กันอย่างเต็มที่ ถามเบยาว่าเคยมีใครตกเขาลงไปมั้ย "ไม่มีครับ" "ก็ดี พี่ก็ไม่อยากเป็นคนแรกล่ะก้า" จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ออกจากดงหาญช้างร้อง ก็แสดงว่าเดินมาได้ครึ่งทาง 1.8 กม. แล้ว เย้ เย เดินไปก็สัมภาษณ์เบยาไปเรื่อย คนนำทางรอบเช้ามืด ตี 3 ครึ่ง จะได้ค่าจ้าง 300 บาท รอบกลางวันไม่แน่ใจว่า 150 รึเปล่า ชาวบ้านจะได้เต็มๆ เลย เจ้าหน้าที่ให้เราจ่ายกะเค้าเมื่อเราลงมาถึงแล้ว เบยาจะขึ้นมาทำหน้าที่คนนำทางเฉพาะเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาเค้าทำงานที่ไร่ชาข้างล่าง ประกอบกับวันธรรมดา คนมาน้อยมาก ปีนึงก็ทำแค่ช่วง 3 เดือนท่องเที่ยว พย. ธค. มค. หมดช่วงนี้ก็ไม่มีคนแล้ว ใครจะมานำทางทางการก็มีเสื้อกั๊กสีเขียวให้ ปักชื่อ นามสกุลเรียบร้อย เบยา จะที คนนำทางของเราบอกว่าเค้าก็ต้องช่วยทางการตัดหญ้า ดูแล ทำความสะอาดเต็นท์ ก็ดีนะคะแลกกับค่าจ้างนำทาง ก็ถือว่ารายได้ไม่เลวทีเดียว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 09:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อากาศที่นี่มันสดชื่นเหลือเกิ๊น มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว สบายตา สบายใจเกินจะบรรยาย จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เดินป่าอย่าใส่ขาสั้น เตรียมเครื่องแต่งตัว ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยนะคะ มิฉะนั้นจะเจอเจ้าต้นแบบนี้เกี่ยว ถลอกปอกเปิก ไม่รู้ด้วย จ๊อบบอกว่านี่คือส้มปู หรือส้มปู๋ในภาษาเหนือ กินได้ด้วยนะ เป็นพืชตระกูล raspberry ป่า เสียดายตอนนี้ไม่มีลูก จะได้ถ่ายมาให้เพื่อนๆดู จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สูงชันอะไรอย่างนี้ เดินจนข้อเท้าจะหลุดยังไงก็คงยังไม่ถึงซะที "เบยาถามจริงๆ เหอะ นี่เราเดินข้ามเขากันกี่ลูกหรอ" "7 ครับ" จ๊ากกกกก ถามเล่นๆ นะเนี่ย รู้งี้ไม่ถามดีกว่า ถามแล้วเหนื่อยยยยยย "ตอนนี้เราอยู่ลูกที่เท่าไหร่แล้วอ้ะ" "4 ครับ" พูดน้อยต่อยหนักจนไม่กล้าถามมากแล้ว เบยาไม่ได้ขู่ เบยาพูดความจริง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตัวแมลง คล้ายๆ แมลงกว่างแบบนี้มีเยอะมาก บินตัดหน้าเราไปบ่อยๆ จ๊อบเลยขอชักรูปเป็นที่ระลึกไว้ซะเลย เห็นแมลงแบบนี้ถูกจับมาขายเป็นที่ระลึก ที่ถนนคนเดิน แล้วก็เศร้าใจ ไม่รู้จะพูดยังไงดี จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อลังการจริงๆ ชอบรูปนี้เหมือนเค้าโน้มตัวลงมา แล้วก็ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาทักทายนักเดินป่าที่เดินผ่านไปมา ในรูปเพื่อนก็หันมาแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเหมือนกัน บังเอิญจริงๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ธรรมชาติล้วนๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ต้นไม้ที่หักโค่นลงมา ตายแล้วยังเป็นประโยชน์ได้อีก [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พักตรงนี้...ดีกว่า [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เดินไปนับไป อยู่บนเขาลูกที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เดินออกมาได้ 2.2 กม. แว้วววววว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 และแล้วเราก็มาถึงงงงงงง ขณะนี้เราอยู่บนยอดเขาลูกที่ 7 เห็นไกลๆ ลานโล่งๆ สีแดง นั่นคือลานจอดรถ ตรงนั้นมีห้องน้ำใหญ่สุด ขวามือบนยอดเขา นั่นคือลานกางเต็นท์ ขาวๆ ข้างล่างลงมาคืออาคารของอุทยาน ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอด พี่เค้าใจดี เมื่อคืนยังไปขอยืมกาต้มน้ำพี่เค้าเรยยยย จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขาลงนึกว่าหมูกันใช่มะ เพื่อนเราขาขึ้นนี่ปร๋อเลย แต่ขาลงที่ไหนได้ต้องถอดรองเท้ากันเลยทีเดียว ทางมันชัน เท้าคงชนกะรองเท้าตลอด ไหนจะต้องพยายามจิกพื้นไว้ ไม่ให้หน้าทิ่มลงไปอีก จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ม่อนวัดใจ ม่อนนี้ จำจนตายเลย ลงมาแล้วแต่ละคนยังหลอนไม่เลิก เจอเนินอะไรนิดอะไรหน่อย ก็ม่อนตลอด จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ลืมรูปได้ไง จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เด๋วมาเล่าต่อนะคะ shot to ma te ne จากคุณ : jent - [ 11 ม.ค. 50 10:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เล่าได้สนุกมากเลยค่ะ.... น่าไปมากเลย ดูแล้วยังเป็นไปได้ง่ายกว่าเชียงดาว (ที่อยากไปตะกายอีกรอบ) 555 จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 11 ม.ค. 50 11:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวยครับ จากคุณ : โกอ้วน - [ 11 ม.ค. 50 12:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ป่าเขียวได้ใจดี แต่ให้ไปเองคงม่ายหวายยยยยย ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 11 ม.ค. 50 13:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปดอยหลวงเชียงดาวปีหน้า เจอดอยผ้าห่มปกไปกลับแค่ 5-6 ชม. ยังแทบไม่รอด เลยไม่รู้ว่าเชียงดาวจะได้ไปรึเปล่าค่ะ อันนั้นมันโหดกว่าเยอะเลย T_T จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 10:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นึกไม่ออกว่าเค้าเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นใบที่อยู่รอบๆ ต้นไผ่แต่ละปล้องอ้ะค่ะ มันร่วงอยู่บนถนน เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ น้องเลยแวะลงไปชักรูปเป็นที่ระลึกค่ะ ใบใหญ่มั่กๆ ต้นไผ่ภาคกลางใบเล็กกระจึ๋งนึง เอาถุงดำติดไปด้วยนะคะ เอาขยะลงมาทิ้งข้างล่างช่วยผ่อนแรงเจ้าหน้าที่กันคนละไม้คนละมือ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 11:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 46 บรรยายได้เห็นภาพดีนะคะ เป็นอีก 1 ที่ ที่เราอยากไปสัมผัสค่ะ จากคุณ : cowboyland - [ 12 ม.ค. 50 12:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ป่านนี้เบยาคงลงดอยไปกินข้าวเช้าที่บ้านเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเรายังทะแล้ดแท้ดแถตามข้างทางอยู่เลย อ่อ ตอนเดินป่าลงมา ถามเบยาว่า "ขาลงคนอื่นเค้าไม่แวะถ่ายรูปกันมั่งหรอ เบยา ไปไหนกันหมดแล้ว" "ถ่ายครับ แต่ไม่นานขนาดนี้" hahaha นั่นสินะ ก๊วนเรามัวชมนกชมไม้กันเพลินไปหน่อย ลงมาจะ 10 โมงสวนกะคนเดินป่ารอบเช้าแล้วอ้ะ เลยจ่ายค่านำทางไป 400 ที่อดทนกะพวกเรามาขนาดนี้ ถามหิวข้าวมั้ย ก็บอกไม่หิว แต่จ่ายตังปุ๊บก็รีบบึ่งแมงกะไซกลับบ้านไปเลย ไว้คราวหน้าจะใช้บริการใหม่นะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 13:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ซ้ายมือเป็นทางเข้าหมู่บ้านของชาวป่าชาวเขาที่นี่ ที่เค้าอยู่กันมาแต่ดั้งแต่เดิม ชะแว้บลงมาดูอีกแระ ใครจะไปดอยผ้าห่มปกก็ตรงไปอีก 300-400 เมตรก็ใกล้จะถึงลานกางเต็นท์แล้วค่ะ จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 13:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขับรถลงตอนกลางวันนี่นึกว่าจะสบายกว่าขาขึ้นที่ไหนได้ ช่วงกลางวันจะมีรถทั้งขึ้นและลง เวลาสวนกันนี่ลำบาก มากค่ะ เพราะรถวิ่งได้แค่เลนเดียว ขับไปก็ภาวนาอย่าให้มีรถสวนมาเลย บางคันขับมาก็ชูนิ้วมาแต่ไกลเลย ถ้าชู 3 ก็มีมา 3 คัน ถนนบางช่วงไม่มีที่ให้กลับรถยาวเป็นกิโลๆ เดินหน้าถอยหลังก็ไม่ได้ ต้องหลบกันด้วยการ ขับรถตะแคงขึ้นไปแปะอยู่ข้างทาง เล่นเอาใจหายใจคว่ำเหมือนกันค่ะ ลงมาเกือบถึงพื้นราบก็เจอคุณลุงใจดี ที่คุมการก่อสร้างถนนคนเดิม ก็แวะทักทายแกด้วยความดีใจ ก็สอบถามคุณลุงได้ความว่าโครงการถนนลาดยางนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทำได้ถึงประมาณ กม. 11 ค่ะ ก่อนจุดพักที่ทำการอุทยานแห่งชาติของเจ้าหน้าที่ประมาณ 1 กม. กำหนดแล้วเสร็จกันยายนปี 50 แต่คุณลุงบอกว่าจะเร่งให้เสร็จเมษาก่อนหน้าฝนค่ะ ต้องส่งกำลังใจไปช่วยคุณลุงให้ทำเสร็จไวๆ ค่ะ แต่ถ้าหมดหนาวนี้แล้วเพื่อนๆ อย่าเพิ่งขึ้นไปเลยนะคะ รอให้เค้าทำถนนลาดยางให้เสร็จก่อนดีกว่าค่ะ ขนาดตอนที่ขึ้นไปนั้นเพิ่งทำถนนถึง กม. 5 ก็ลำบากจะแย่แล้วค่ะ ก็ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ ที่วางแผน จะไปปีหน้านี้ไว้เลยค่ะ เป็นทางลาดยางแล้วก็สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าดอยผ้าห่มปกจะรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นไหวหรือเปล่าน้า เป็นห่วงๆ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 50 13:46:39 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 50 13:41:23 จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 13:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ก็ขอฝากเรื่องราวของดอยผ้าห่มปกไว้เพียงเท่านี้นะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครองเพื่อนๆ และชาติไทยของเราทุกคนผ่านพ้นปีหมูไฟไปด้วยดี นะคะ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 50 13:43:36 จากคุณ : jent - [ 12 ม.ค. 50 13:42:12 ]