ความคิดเห็นที่ 1 อันตรายจากเรือ    เมื่อไปทะเลทุกคนมักกลัวฉลาม แต่ในความเป็นจริง อันตรายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว เกือบร้อยละร้อยมาจากเรือ บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ที่น่าเสียใจคือเหตุการณ์เหล่านั้นสามารถป้องกันได้ถ้าพวกเขาทราบข้อมูลล่วงหน้าและไม่ประมาท จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บนท่าเรือ    ท่าเรือหลายแห่งของเมืองไทยสร้างด้วยไม้ บางแห่งชำรุดทรุดโทรม บางแห่งอาจใช้รวมกับท่าเรือประมง มีซากปลาเน่า น้ำ หรือน้ำมันเครื่อง นักท่องเที่ยวบางคนเดินไปคุยไปโดยไม่ระมัดระวัง อาจพลัดตกไปในร่องไม้จนบาดเจ็บ บางคนเหยียบซากปลาไถลลื่นตกท่าเรือ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีตัวอย่างมาแล้ว เวลาเราเดินบนท่าเรือ จึงควรระมัดระวังให้มาก    หลายครั้งเราต้องปีนป่ายเพื่อขึ้นลงเรือ นี่คือช่วงอันตรายที่สุด เพราะถ้าตกน้ำไปอาจโดนเรือลอยมากระแทกอัดกับเรืออื่น ถ้าคุณใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าแตะ ส้นสูงควรถอดก่อนปีนป่าย อย่าถือของอะไรพะรุงพะรัง ใช้วิธีส่งต่อให้เพื่อนแทน อย่ารีบหรือประมาท จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บนเรือ    กองเชือกและสายสมอ: พยายามหลีกเลี่ยงอย่าเข้าใกล้เด็ดขาด บางครั้งคุณอาจไปยืนบนเชือกสมอโดยไม่รู้ตัว ขณะที่คนเรือทิ้งสมอ เชือกจะมัดเท้าแล้วดึงคุณลงไปในน้ำ บางครั้งเรืออาจต้องลากโยงหรือผูกไว้กับท่า เชือกตวัดมาโดนคุณตกน้ำ ขาดแล้วสะบัดโดนคุณจนเป็นแผล (โดยเฉพาะสายสลิงบางครั้งถึงขั้นแขนขาขาด) รอกหรือกว้านอาจหลุดจากที่เกี่ยวมาโดนคุณ แนะนำให้คุณพยายามอยู่ห่างจากเชือก สมอ กว้าน หรือรอก อย่าพยายามเข้าไปช่วยคนเรือทิ้งสมอหรือจับเชือก ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน    กราบเรือ: หลายคนมักชอบไปนั่งเรือเดินตามกราบเรือ บางครั้งอาจมีน้ำมันเครื่องติดอยู่ทำให้ลื่นจนตกเรือ บางคนชอบจับกราบเรือ เมื่อเรือวิ่งเข้าท่าหรือเทียบกับเรืออื่น มืออาจโดนทับจนกระดูกแตกละเอียด (โดยเฉพาะเรือหางยาวเกิดขึ้นบ่อยมาก) ถ้าไม่จำเป็น อย่าไปแถวกราบเรือไม่ว่าเวลาเรือจอดหรือเรือวิ่ง    ท่อไอเสีย: เรือท่องเที่ยวหลายลำดัดแปลงมาจากเรือประมงขนาดเล็ก อาจต่อท่อไอเสียโดยตรงจากเครื่อง ชี้ลงทะเลหรือชี้ขึ้นฟ้า บางครั้งเราไม่ทราบ เดินเข้าไปใกล้ เมื่อเรือเอียงก็คว้าไว้เพื่อช่วยพยุงตัวท่อไอเสียเหล่านี้ร้อนมาก มือสุกแน่นอน และอาจจะตกใจจนตกเรืออีกต่างหาก จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดินทางกลางคืน    -    ใส่เสื้อขาวหรือสีสด อย่าใส่เสื้อสีคล้ำ เผื่อคุณตกเรือ จะเห็นได้ง่าย    -    ระวังตัวอย่างมาก อย่างเข้าไปใกล้กราบเรือหรือท้ายเรือตอนกลางคืน    -    อย่ากินเหล้าหรือของมึนเมาจนเกินไป ทำให้พลาดตกเรือได้ง่าย    -    หากจะไปไหนใกล้กราบเรือ เช่น แปรงสีฟัน ให้บอกคนอื่นเสมอ หากคุณหายไปนานจะได้ทราบ    -    สังเกตเพื่อนในกลุ่มไว้เสมอ หากหายไปจนผิดสังเกต ให้รีบติดตาม    -    ถ้าเห็นคนตกเรือ ให้รีบโยนชูชีพหรือของลอยน้ำลงไป เช่น เบาะฟองน้ำ แล้วรีบตะโกนบอกคนอื่นให้บอกกัปตันอย่าขาดสติถึงขั้นกระโดดตามไป โดยไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน    -   ระหว่างเดินทางถ้าเจอพายุคลื่นใหญ่ แต่เรือยังวิ่งเอาหัวสู้คลื่นโดยไม่เบาเครื่อง ยังไม่ต้องกังวลแต่ควรเข้ามาอยู่ข้างในเรือ เพื่อป้องกันตกเรือ หากเมาเรือจนอาเจียน ใช้ถุงพลาสติกใส่อ้วกอย่างไปชะโงกหัวอาเจียนลงทะเล มีคนตกเรือเพราะเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้ว    -  ถ้าคลื่นใหญ่มาก เรือจะสู้คลื่นโดยเบาเครื่องเป็นระยะ ให้หาชูชีพมาใส่ เก็บของมีค่าขนาดเล็กไว้กับตัวหาขวดน้ำจืดเทน้ำทิ้งหน่อยพอให้ลอยน้ำไว้ติดไว้ ส่วนของอื่นไม่ต้องไปห่วง    -   ในกรณีที่เรือสู้คลื่นนานจนเครื่องพัง กัปตันจะพยายามทิ้งสมอ แต่บางครั้งสมออาจไม่ถึงพื้นเรือจะถูกคลื่นซัดจนขวางคลื่น และอาจพลิกคล่ำได้ ในกรณีเช่นนี้ ให้คุณมาอยู่ใกล้ทางออกจากเก๋งอย่าเข้าไปอยู่ข้างใน เพราะหากเรือคว่ำอาจหาทางออกไม่เจอและติดอยู่ในเรือ    -  เมื่อเรือคว่ำ ว่ายออกห่างจากเรือเร็วที่สุด จากนั้นค่อยหาอะไรประคองตัวไม่ต้องขาดสติกลัวฉลามหรือสัตว์อื่นมาทำร้าย ปัจจุบันฉลามในทะเลไทยมีน้อยจนเกือบสูญพันธุ์แล้ว คนที่ตายเพราะเรือจมไม่ใช่เพราะฉลาม แต่เป็นเพราะขาดสติหรือกลัวจนจมมน้ำตายมากกว่า จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อไปดำน้ำ    -   อันตรายน่ากลัวที่สุดคือโดนเรือชนหรือโดนใบพัดเรือฟัน มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่เสียชีวิตการป้องกันคืออย่าว่ายเข้าใกล้เรือวิ่งเด็ดขาด เวลาขึ้นจากน้ำต้องนับจำนวนคนก่อนออกเรือ   -    ถ้าไปดำน้ำแบบ Snorkelling โดยใช้เรือหางยาว ควรเลือกไปจุดดำที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนักระวังตัวเสมอเวลาดำน้ำในเขตที่มีสกูตเตอร์ เรือเร็ว หรือกีฬาทางน้ำแบบอื่น    -   เกือบทุกครั้งที่ไปดำน้ำ เรามักได้แผลจากเรือกลับมาด้วยเสมอ โดยเฉพาะตอนขึ้นลงเรือ (หางยาว) บางครั้งใช้การลากหรือดันขึ้น เนื้อเราอาจครูดกับข้างเรือหรือเพรียงจนเป็นแผล บางครั้งอาจตกลงไปไหล่หลุด หากเป็นคุณผู้หญิงไม่มีแรง ควรหาเรือที่มีบันไดช่วยปีนได้ง่ายขึ้น    -   เวลาลอยตัวในน้ำ อย่าห้อยโหนกับเรือหรือกับเชือกสมอเรือ อาจเกิดอันตรายหลายรูปแบบ จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันตรายบนเกาะ    -   โบราณว่าไว้ อันตรายมักอยู่ใกล้ตัว คุณอาจไปดำน้ำมาทั้งวันสนุกสนานเฮฮา แต่มาโดยตะขาบต่อยในถุงนอนหรืองูกัดในเต็นท์ จากนี้ไปถือข้อแนะนำบางประการ    -   ชายหาดเมืองไทย   ถึงแม้จะเป็นเกาะห่างไกล อาจมีเศษแล้วหรือไม้ติดตะปู หลอดไฟจากเรือไดหรือฝาขวดเบียร์ ระวังทุกครั้งที่ย่างก้าวลงไปบนชายหาด    -   แมลงหรืองูมักเข้าไปอยู่ตามกองเสื้อผ้าหรือที่อับ บางครั้งอาจแอบอยู่ในรองเท้า ควรตรวจสอบก่อนเสมอ อย่าวางใจ    -   เวลาเดินตามทางในป่า พึงระลึกว่างูกับกิ่งไม้คล้ายกันมาก เคยมีคนเดินเหยียบงูตามเกาะหลายครั้งกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลกินเวลาหลายชั่วโมง   ใช้ไฟฉายทุกครั้งอย่าใช้แสงจันทร์ มีกิ่งไม้ติดมือเอาไว้จุดที่ไม่แน่ใจ    -   หากไปเดินย่ำน้ำตามชายหาด ระวังเศษปะการัง เพรียง หรือหอยนางรม อย่าประมาทปลากระเบนขนาดเล็กที่มักหมกตัวอยู่ตามพื้นทรายในน้ำตื้น พยายามเดินก้าวสั้นๆ    -   อย่าทิ้งขนมหรือของหวานไว้ แล้วกลับมากิน ครั้งหนึ่งเราเคยเจอแมลงสาบนอนยิ้มอยู่ในกระป้องนมข้นหวาน ปัญหาคือเราเจอเค้าเมื่อกินนมหมดกระป๋องแล้ว ช่วยกันรักษาความสะอาดเสมอ      -   เกาะหลายแห่งมียุงอาศัยอยู่เยอะ บางเกาะอยู่ใกล้ชายแดน อาจมีปัญหาโรคติดต่อ เช่น มาลาเรีย ไข้เลือดออก เตรียมยากันยุงไปด้วยเสมอ บางครั้งอาจต้องกินยาป้องกันมาลาเรีย จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อันตรายระหว่างดำน้ำ    -   ห้ามไปดำน้ำคนเดียวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น Snorkelling หรือ SCUBA ต้องมีเพื่อนไปด้วยอย่าประมาท เคยมีคนไปดำน้ำลึกแค่สองเมตร แต่โดนกระแสน้ำพัดแรงไหลออกทะเล ต้องเอาเรือไปช่วยมาแล้ว โปรดดำน้ำไปช่วงเวลาและสถานที่ซึ่งผู้ควบคุมกำหนดให้ ถ้าไม่แน่ใจโปรดถาม หากไป Snorkelling โปรดใส่ชูชีพไว้ อย่าใช้เกาะเพราะอาจหลัดหลุดได้    -   การไปดำน้ำ SCUBA ต้องปฏิบัติตามกฎโดยเคร่งครัด ต้องมีบัตรดำน้ำ อย่าคิดเรียนด้วยตัวเอง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ร้องบอกคนอื่น แต่อย่าตกใจว่ายน้ำโครมคราม อาจเหนื่อยจนหมดแรงได้    -   เลือกเวลาลงน้ำให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงช่วงคลื่นหรือกระแสน้ำแรง (ดูจากตารางน้ำหรือถามผู้ชำนาญ) อย่าเสี่ยงลงดูที่สวยแต่อันตราย ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ    -   หากโดนกระแสน้ำ อย่าพยายามว่ายสวนเพราะจะเหนื่อยได้ง่ายมากให้รีบบอกคนอื่น ลอยตัวไปตามกระแสน้ำจนกว่าจะมีเรือมารับ    -   นับจำนวนเพื่อนหลังดำน้ำเสมอ พยายามเกาะกลุ่มกันไว้ อย่าแยกไปคนเดียว    -    สัตว์ในทะเลทุกชนิดไม่ต้องการจู่โจมเพื่อกินหรือทำร้ายมนุษย์ เมื่อเจออาจหลีกเลี่ยง แต่ไม่ต้องกลัวถึงว่ายน้ำหนีจนขาดสติ อาจเกิดอันตรายอย่างอื่น จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 13:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สัตว์ทะเลที่อาจมีอันตราย    คู่มือเล่มนี้ไม่ใช้คำว่า "สัตว์ทะเลมีพิษ"   เพราะฉลามหรือเม่นทะเลไม่มีพิษ   แต่อาจมีอันตรายได้ เราจึงรวมเรื่องของสัวต์ทะเลที่มีอันตรายไว้ทั้งหมด   ทั้งมีพิษและไม่มีพิษ แต่ทั้งนี้ไม่รวมสัตว์ทะเลที่กินแล้วมีพิษ เช่น แมงดา ปลาปักเป้า ฯลฯ   แต่อยากแนะนำว่าอย่ากินอะไรแปลก ๆ ไม่น่าไว้ใจ    อนึ่ง   สรรพชีวิตทั้งหลายในทะเล มิได้ต้องการจู่โจมทำร้ายมนุษย์ อันตรายที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดเป็นเพราะเขาป้องกันตัว มีน้อยมากที่ทำร้ายเราเพราะต้องการอาหาร และในจำนวนนั้นทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตหลายแสนชนิดของท้องทะเล ไม่มีชนิดใดที่ล่ามนุษย์เป็นอาหารโดยตรง    คนที่ทำร้ายสัตว์ทะเลก่อน เพราะกลัวเขาจะทำร้ายเรา คนพวกนี้มักได้รับอันตรายจากสัตว์ทะเล จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปลา : ปลาหลายชนิดมีพิษอยู่ที่เงี่ยง   พิษเหล่านี้ใช้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น   เช่น  ปลากระเบน  ปลาหิน   ปลาสิงโต  ปลาดุกทะเล   ปลาสลิดทะเล ฯลฯ   โอกาสที่เราจะโดนพวกเขาทำร้ายมีน้อยมาก ทุกกรณีเกิดจากเราไปทำร้ายเขาก่อน ตัวอย่างต่อไปนี้คือเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาแล้ว        -   นักท่องเที่ยวไปเดินในน้ำตื้นแล้วเหยียบปลากระเบน        -   นักท่องเที่ยวไปจับปลาดุกทะเลหรือสลิดทะเลที่ตายแล้ว   แต่เงี่ยงยังมีพิษอยู่        -   นักดำน้ำไปจับหรือโดนปลาหินหรือปลาสิงโตเพราะไม่ระวังตัว        -   นักดำน้ำไปขี่หรือเกาะปลากระเบน   บางตัวใหญ่มาก   เงี่ยงอาจทะลุตัวเหมือนโดนแทงได้ อาการ -   เมื่อโดนจะปวดแผลฉับพลัน   อาจตกใจหรือเกิดตะคริวจนจมน้ำได้ รักษา -   ดึงเงี่ยงที่อาจหักค้างอยู่ออกจากแผล   ใช้ของร้อนประคบ  เช่น   น้ำอุ่น  ที่เป่าผม   หินเผาไฟดูอาการว่าถ้ารุนแรงให้นำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งูทะเล : ในทะเลมีงูประมาณ 50 ชนิด   พบบ่อยที่สุดในแนวปะการังเมืองไทยคืองูทะเลปล้องดำมีพิษร้ายแรง   แต่โดยธรรมชาติงูทะเลจะไม่ทำร้ายมนุษย์โดยเจตนา (ยกเว้นในช่วงผสมพันธุ์และเป็นเพียงบางครั้ง)              ตามปรกติงูทะเลจะไม่สนใจเราเลย   เขาจะว่ายน้ำหาอาหารโดยมุดหัวไปตามซอกแล้วใช้จมูกดมเพื่อกินไข่ปลาหรือกุ้ง   บางครั้งเขาอาจเข้ามาใกล้เรามาก   ไม่จำเป็นต้องตกใจจนว่ายหนีฉุกละหุกเมื่อเจองูทะเลให้ว่ายหนีออกมาช้าๆ อาการ -  พิษงูทะเลเป็น Myotoxic มีผลต่อกล้ามเนื้อ   ปัสสาวะมักเปลี่ยนสี รักษา -   ให้ปฐมพยาบาลเหมือนโดนงูกัด   แล้วหาแพทย์ทันที   อย่างไรก็ตาม   ผู้เขียนไม่เคยได้ยินว่ามีนักท่องเที่ยวหรือนักดำน้ำโดนงูทะเลกัด   ทั้งหมดที่ทราบคือชาวประมงที่หาปลาในป่าชายเลน จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เม่นดอกไม้ : เม่นดอกไม้และเม่นขนสั้นบางชนิด พบตามพื้นทรายนอกแนวปะการัง มีพิษร้ายแรง อย่าจับโดยเด็ดขาด แต่หากโดนให้ไปพบแพทย์โดยด่วน ดาวหนาม : ดาวหนามเป็นสัตว์กินปะการัง พบได้ทั่วไป หนามตามตัวแข็งและแหลมมาก หากโดยเข้าไปจะรู้สึกเจ็บแปลบ แผลจะหายยากมาก บางครั้ง 6 เดือนแล้วยังไม่หาย (โดนมาแล้ว) หมึกทะเล : หมึกทะเลเป็นสัตว์เป็นสัตว์กลุ่มหอย ทุกชนิดสามารถกัดเราด้วยฟันแหลมคล้ายปากนกแก้ว บางชนิดมีพิษ เช่น หมึกกระดอง แต่ส่วนใหญ่พิษมักไม่มีผลต่อมนุษย์ ยกเว้นหมึกสายวงฟ้า มีพิษร้ายแรงมากจนถึงตาย แต่เท่าที่ทราบ ไม่มีรายงานหมึกสายกลุ่มนี้ในเมืองไทย หอยเต้าปูน : หนึ่งในสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก (ใช้ยิงไดโนเสาร์ในเรื่อง The Lost World) ฟันหอยเปลี่ยนรูปเป็นฉมวก เมื่อหอยเจอเหยื่อหรือป้องกันตัว จะยื่นงวงออกมาก่อนยิงฉมวกใส่ หลายชนิดมีพิษถึงตาย เช่น หอยเต้าปูนลายแผนที่ การหลีกเลี่ยงทำได้ง่ายมาก คือไม่พยายามไปจับหอยเหล่านั้นหรือเก็บหอยมาไว้ในกระเป๋าเพื่อเอากลับบ้านเป็นของที่ระลึก แมงกะพรุน : พิษเกิดจากเข็มพิษเรียกว่า Nematocyst (นีมาโตซิส) ความรุนแรงของพิษแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดและขนาดตัว พิษเหล่านี้อยู่ที่หนวดและยังมีพิษอยู่แม้แมงกะพรุนตายแล้ว หนวดบางเส้นยาวแต่ใส ทำให้พวกเรามองไม่เห็น วิธีการว่ายหลบแมงกะพรุนจึงควรหลบทางหัว อย่างหลบทางหนวดโดยเด็ดขาด แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษรุนแรงถึงตาย เช่น แตนทะเล แต่มีอยู่น้อยมากไม่ค่อยพบในน่านน้ำไทย จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากๆๆ จากคุณ : Hongnoi - [ 29 ม.ค. 50 14:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รับแซ่บบบบบบ   ก๊าบบบ จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง - [ 29 ม.ค. 50 14:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปะการัง ดอกไม้ทะเล ไฮดรอยด์ : มีเข็มพิษที่หนวดเช่นเดียวกับแมงกะพรุน อาการ - เป็นผื่นแดง คันมาก บางชนิดมีพิษแรงอาจถึงขั้นแผลไหม้ รักษา - อย่าใช้น้ำราดแผลเพราะจะทำให้เข็มพิษยิงต่อไป ให้รีบหยิบหนวดที่อาจติดอยู่ทิ้งไป (คนหยิบต้องใส่ถึงมือด้วยนะครับ) ใช้น้ำส้มสายชูจำนวนมากราดแผล ฤทธิ์ของน้ำสมสายชูจะหยุดการทำงานของเข็มพิษ หากเป็นมากให้ส่งแพทย์โดยด่วน สัตว์อื่น : มีสัตว์หลายชนิดที่มีพิษ เช่น บุ้งทะเล ปะการังไฟ ฟองน้ำไฟ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงพิษเหล่านั้นได้ ถ้าเราระวังตัวอยู่เสมอ ข้อแนะนำที่ได้ผลดีที่สุดคือ "อย่าจับสัตว์ทะเลทุกชนิด ไม่ว่าคุณจะรู้จัก คิดว่ารู้จัก หรือไม่รู้จัก"   เราจะไม่ทำร้ายสัตว์ทะเลและไม่ทำร้ายตัวเราเอง จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ได้ความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณ ninue จากคุณ : Gigolina - [ 29 ม.ค. 50 14:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ฉลาม : สัตว์ชอบงับมนุษย์ตามสายตาของคนทั่วไป แต่เป็นปลาที่สง่างามและยิ่งใหญ่ที่สุดของท้องทะเลในสายตาบางคน สำหรับเรา หลายสิบครั้งที่เจอ เราไม่เคยว่ายหนีฉลาม เพราะทราบดีว่าเขาไม่ใช่สัตว์ดุร้ายฉลามบางชนิดอาจเป็นอันตราย เช่น ฉลามเสือ แต่หลายชนิดไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่น ฉลามครีบเงินฉลามหัวค้อน มีรายงานว่าจู่โจมมนุษย์น้อยยิ่งกว่า ส่วนใหญ่เป็นคำร่ำลือในท้ายที่ผิดมากกว่า        ไม่มีรายงานว่าฉลามจู่โจมมนุษย์ในเมืองไทย มากกว่า 30 ปีแล้ว แต่ถ้าคุณเจอฉลาม จงใช้ความระมัดระวังทุกครั้ง อย่าประมาท อาจค่อยๆ ว่ายน้ำหนีห่างออกมา แต่ไม่จำเป็นต้องตกใจ โอกาสฉลามกินคนในเมืองไทย น้อยกว่าโอกาสที่รถจะวิ่งเข้าไปชนคุณถึงเตียงนอนในบ้านเสียอีก ปลาสาก : รูปร่างที่น่ากลัว ทำให้หลายคนกลัวปลาสาก ความเป็นจริงแล้วเราไม่เคยได้ยินว่าปลาสากจู่โจมมนุษย์ในเมืองไทย แม้แต่ในเมืองนอกก็น้อยเต็มที ปรกติปลาสากจะรวมฝูงเพื่อพักผ่อนในตอนกลางวัน บางครั้งอาจว่ายมาดูเราจนใกล้หรือติดตามเราตลอดดำน้ำ ถือเป้นเรื่องปรกติ ในตอนกลางคืนปลาสากจะล่าเหยื่อ คนที่ไป Night Dive อาจจะเป็นปลาสากพุ่งเข้าใส่ แต่ไม่ต้องกลัว เพียงหลบออกจากบริเวณนั้นหรือดับไฟหลอกล่อ ปลาสากจะหนีไปในที่สุด ปลาไหลมอเรย์ : แม้รูปร่างจะน่ากลัว แต่ปลากลุ่มนี้ไม่ดุร้าย โอกาสที่เราโดยเขากัด มักเป็นช่วงผสมพันธุ์หรือเขาอยู่ในโพรง เรามองไม่เห็นไปจับข้างโพรง จึงโดนกัด เม่นทะเล : เม่นดำหนามยาวเป็นสัตว์ที่ทุกคนรู้จักดี หลายคนเคยโดนหนามเม่นทิ่มมาก่อน วิธีการแก้ไขไม่ยาก ใช้ขวดนวดแผลไปมา หนามข้างในจะแตกและหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง อย่าบ่งหรือทุบแผลรุนแรง อาจอักเสบให้กินยาแก้ปวดช่วย การป้องกันให้ระวังตัวเสมอ โดยเฉพาะนักดำน้ำแบบ Snorklling อย่ายืนบนก้อนปะการัง อย่าเข้าไปในบริเวณที่ตื้นมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นลม คลื่นอาจซัดเราไปโดนเม่นทะเลได้ สัตว์อื่น : มีสัตว์อีกหลายชนิดที่อาจเป็นอันตราย เช่น กั้งตั๊กแตน ปลาปักเป้า เพรียง หอยนางรม ฯลฯ แต่ทุกอย่างมีทางป้องกันโดยไม่ประมาท สำหรับแผลที่เกิดขึ้นจากปะการังหรือสัตว์ใต้ทะเลทำร้าย บางครั้งอาจติดเชื้อจากน้ำทะเล ให้ใช้ยาฆ่าเชื้อและรักษาความสะอาดแผลอย่างดี จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ จากคุณ : northo - [ 29 ม.ค. 50 14:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ ไปทำงานก่อน ถ้าว่างๆ จะหารูปมาลงประกอบให้นะคะ ปล. ถ้าใครมีรูปก็มาช่วยกันแปะด้วยนะคะ ขอได้รับความขอบคุณ[ค่ะ] จากคุณ : ninue - [ 29 ม.ค. 50 14:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : Radiance (เรเดียน) - [ 29 ม.ค. 50 14:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ...แล้วจะระมัดระวังตัวเอง... แต่ก็จะไม่ระแวงจนหมดสนุกค่ะ... ขอบคุณอีกครั้งจ้ะ..... จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 29 ม.ค. 50 14:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อควรระวัง เกี่ยวกับเรือหางยาว ผมว่า เวลาขึ้นไปนั่งรอบนเรือ ห้ามเอามือจับกราบเรือเด็ดขาด เพราะบางทีเรืออาจจะไปกระแทก ลำข้าง ๆ มืออาจแตก หักได้เลย แล้วเวลาขึ้นเรือ ก็ ค่อย ๆ ควรรู้จังหวะด้วย เพราะเรือมันจะเอนคับ เวลาที่เราเหยียบบันได กำลังจะขึ้นน่ะ ขอแนะนำเวบคู่มือเที่ยวทะเล เวบนึงคับ http://www.talaythai.com/ ของ อ.ธรณ์ ใช้เป็นคู่มือได้ดีมาก จากคุณ : benz47 - [ 29 ม.ค. 50 14:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยอ่านเจอมาเหมือนกัน ขอบคุณมากที่เอามาให้ดูอีก แล้วคุณนินิวไปหลีเป๊ะวันไหนครับ จากคุณ : Athlons - [ 29 ม.ค. 50 17:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาเผื่อแผ่ค่ะ จากคุณ : noo_jar - [ 29 ม.ค. 50 17:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีจัง ขอบคุณจ๊ะ จากคุณ : enjoy na - [ 29 ม.ค. 50 17:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ มีประโยชน์มาก ๆ เลย จากคุณ : Dolphin007 - [ 29 ม.ค. 50 17:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้านิด - [ 29 ม.ค. 50 17:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะ ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 29 ม.ค. 50 17:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณครับ เป็นประโยชน์มากเลย ผมช่วยเติมให้อีกอย่างแล้วกัน --- ผีทะเล : ชื่อภาษาอังกฤษ The Pee Talay ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Sea Ghost ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มักอาศัยอยู่ตามซอบหลืบหรือโขดหินและสุมทุมพุ่มไม้ต่างๆ ลักษณะทางกายภาพ หน้าหม้อ หูแดง ขอบปากมีน้ำลายไหลยืดตลอดเวลา มือถือกล้องดิจิตอลที่มี Optical Zoom ตั้งแต่ 10x ขึ้นไป Digital Zoom ไม่จำกัด สายตาคมดั่งเหยี่ยว สามารถสอดส่ายหาสาวๆ ในชุดบิกินนี่ได้เสมอ หากพบเห็น ห้ามสบตาหรือพูดคุยเด็ดขาด อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตสมรส วิธีป้องกัน สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดขณะเล่นน้ำหรือเดินชายหาด เสื้อสีขาวบางๆ ห้ามใส่ลงน้ำ หากสาวๆ คนใดมี "กระดุมคอ" เป็นของตัวเอง กรุณานำติดตัวไปทะเลด้วยทุกครั้ง จากคุณ : I love หมอหญิงซินปี - [ 29 ม.ค. 50 18:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โชคดีจริงๆที่เกิดมาเป็นผู้ชายไม่ต้องกลัวผีทะเล จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 29 ม.ค. 50 18:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์มากเลยครับ จากคุณ : . (กะลาสี) - [ 29 ม.ค. 50 19:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาอ่านค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : mojojojo - [ 29 ม.ค. 50 20:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เกิดเป็นผู้ชายก็มีอีกผีนะครับ น่ากลัวมากๆ ผมเจอมาแล้ว ^_^ จากคุณ : Mr.KwAnG.. - [ 29 ม.ค. 50 21:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โห...ข้อมูลเตือนเพียบเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ เพิ่งรู้ว่าอันตรายมากมายใกล้ตัวเหลือเกิน แต่ที่เห็นและใกล้ตัวที่สุดก็ใบพัดเรือสปีดโบทเนี่ยแหละค่ะ โดยเฉพาะจุดที่มีคลื่นแรง เรือก็โยกขึ้นลง ดำน้ำทีไร เวลาจะดำกลับมาขึ้นเรือกลัวทุกที เพราะต้องว่ายเข้าหาและปีนบันไดกลับขึ้นเรือ ก็เสียวๆ ทุกทีเลย เพราะบันไดกับใบพัดอยู่ใกล้กันมากเลย จากคุณ : ทะเลตะวัน - [ 29 ม.ค. 50 21:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อีกอย่างที่พบได้บ่อยมาก  แถวๆจาบัง คือแตนทะเลเมื่อโดนมันจะเจ็บจี๊ดกว่ามดกัดนิดหน่อย  แล้วกลับมาคันต่อที่ที่พัก 555 ตอนนี้ยังคันอยู่เลยขอบอก จากคุณ : kaisujitra - [ 29 ม.ค. 50 23:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาขอบคุณด้วยค่ะ จากคุณ : GATTO - [ 29 ม.ค. 50 23:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณนะครับ..มีประโยชน์มากเลย จากคุณ : รอชม - [ 30 ม.ค. 50 07:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณจ้า จากคุณ : รอยร้าวไม่เคยจาง - [ 30 ม.ค. 50 08:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คลิกคลังแล้วครับ จากคุณ : LIFE AFTER DEATH - [ 30 ม.ค. 50 10:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากค่า จากคุณ : อันปัง (unpungjr) - [ 30 ม.ค. 50 13:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากครับ ถ้าได้อ่านก่อนไปทะเลกระบี่ครั้งก่อนคงไม่สำลักน้ำจากสน็อกเกิลชำรุด   ต่อไปจะได้เตรียมตัวให้พร้อมและระมัดระวังมากขึ้นครับ จากคุณ : ทองกาญจนา - [ 30 ม.ค. 50 13:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณคร๊าบ จากคุณ : คนไม่มีดี - [ 30 ม.ค. 50 16:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาอีกครั้ง ขออนุญาตโหวตกระทู้ดีๆนี้นะครับคุณนินิว จากคุณ : Athlons - [ 30 ม.ค. 50 21:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หนีงานไปเที่ยวมาซะนาน..และกำลังจะแอบหนีไปอีก เลยต้องเคลียร์งานหัวหมุนเลย แทบไม่มีเวลาเล่นเน็ต จริงๆ เรื่องของเรื่องคือ จะพาแม่กับน้องๆ ไปหลีเป๊ะเดือนมีนา แล้วพาลุงๆ ป้าๆ ไปสุรินทร์กับสิมิลันเดือนเมษา เห็นว่าช่วงนี้มีคนเจอแตนทะเลกันเยอะ เลยหาข้อมูลของแตนทะเลดู แล้วเจอข้อความที่น่าสนใจ น่าจะเป็นประโยชน์ เลยเอามาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ปะการัง หลายคนอาจคิดว่าประการังเป็นพืชแต่ความจริงแล้วปะการังเป็นสัตว์ [เป็นญาติกับดอกไม้ทะเล และแมงกะพรุน] โดยภายในเนื้อเยื่อของปะการังมีสาหร่ายเซลเดียวอาศัยอยู่ สาหร่ายชนิดนี้จะสังเคราะห์แสงให้พลังงานแก่ปะการัง รวมทั้งช่วยเขาสร้างหินปูน ปะการังแต่ละตัว จะมาอาศัยอยู่รวมกัน สร้างหินปูนขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วเคลือบอยู่บนผิว ปะการังตัวใหญ่จะขึ้นทับตัวเก่าทำให้ก้อนปะการังขยายขนาดขึ้น จนเป็นระบบนิเวศ ที่ยิ่งใหญ่ในที่สุด นอกจากได้พลังงานจากการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายเซลเดียวแล้ว ยามกลางคืนไม่มีแสงสาหร่ายถึงเวลาพักผ่อน ปะการังจะยื่นหนวดออกมา ที่ปลายหนวดมีเข็มพิษ (Nematocyst) เมื่อแพลงก์ตอนผู้โชคร้ายลอยผ่านเข้ามาจะโดนเข็มพิษยิงใส่ จากนั้นปะการังจะใช้หนวด ดึงแพลงก์ตอนเข้าสู่ปาก รูปและเนื้อหาจาก  http://www.talaythai.com/ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 13:20:31 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 13:19:44 จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อถึงคืนหนึ่งกลางฤดูร้อน สองสามวันหลังจากพระจันทร์เต็มดวงและน้ำทะเลขึ้นสูงสุด ปะการัง ตัวแรกเริ่มปล่อยไข่ จากนั้นต่อเนื่องกันไปหลายแสน หลายล้านตัว ภายในสองสามชั่วโมงปะการังมากกว่า ร้อยละ 70 ทั่วท้องทะเล จะปล่อยไข่และสเปิร์มออกมาผสมกันในมวลน้ำ..นี่คือคืนแห่งจุดกำเนิดอันยิ่งใหญ่ ลูกปะการังลอยไปทั่วท้องทะเลจนถึงเวลาเหมาะสม พวกเขาเริ่มลงเกาะจากนั้นจึงเติบโตและเพิ่ม จำนวนโดยอาศัยการแตกหน่อต่อไป รูปและเนื้อหาจาก  http://www.talaythai.com/ จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดอกไม้ทะเล ดอกไม้ทะเลเป็นสัตว์กลุ่มเดียวกับแมงกะพรุน ปะการัง ปะการังอ่อน กัลปังหา ฯลฯ ดอกไม้ทะเลจะมีเข็มพิษใช้เพื่อป้องกันตัวและหาอาหาร ดอกไม้ทะเลกินสัตว์เป็นอาหาร โดยอาศัยหนวดที่มีเข็มพิษอยู่ข้างใน ยิงใส่สัตว์เคราะห์ร้ายที่เข้ามาใกล้ๆ แต่เข็มพิษของดอกไม้ทะเลไม่รุนแรงนัก โอกาสที่จะโดนเข็มพิษของดอกไม้ทะเล มีอยู่น้อยมาก ยกเว้นคุณไปโดนดอกไม้ทะเลก่อน การหลีกเลี่ยง ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่อย่าไปจับไปกอดดอกไม้ทะเล แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้ว แต่ถ้าคุณบังเอิญไปโดน อาจลองใช้น้ำส้มสายชู ราดที่แผลเพื่อล้างพิษ ปฐมพยาบาลในลักษณะเดียวกับแมงกะพรุน รูปและเนื้อหาจาก  http://www.talaythai.com/ จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 "ไฮดรอยด์" หรือ "ขนนกทะเล" มีหน้าตาเหมือนขนนก พวกเขาเกาะอยู่ตาม พื้น ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ยาวไม่ เกิน 5 เซนติเมตร ตามขนของเขา ล้วนมีพิษ อันเกิดจากเข็มพิษที่ไว้ใช้หาอาหาร แต่ถ้าใครไม่ระมัดระวังไปแตะต้อง เข็มพิษเหล่านี้จะสร้างความ เจ็บปวดได้ไม่แตกต่างจากโดนแมงกะพรุน ไฮดรอยด์คือสัตว์ที่ผู้ไปเยือนแนวปะการัง โดนบ่อยมากเนื่องจากไม่รู้จักหรือไม่สังเกตเขา รวมทั้งชอบจับชอบแตะอะไรในแนวปะการัง ไฮดรอยด์มีอยู่ทั่วไปในทุกทะเลไทย จากที่ตื้นถึงที่ลึก ส่วนใหญ่จะ พบตามก้อนปะการังตาย และก้อนหิน เมื่อใครเผลอไปโดน ข้อแนะนำคือ ใช้น้ำส้มสายชูราดแผล วิธีการดังกล่าวจะช่วยลดพิษได้ แต่สิ่งพึงปฏิบัติคือ อย่าพยายามจับต้องแตะโดนทุกสิ่งใต้ท้องทะเล รูปและเนื้อหาจาก  http://www.talaythai.com/ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 13:42:57 จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หอยเต้าปูน หอยเต้าปูนเป็นจัดหอยฝาเดียว มีเปลือกเป็นรูปกรวยหนาและหนัก ขนาดเปลือกมีตั้งแต่ 2-3 เซนติเมตร ไปจนถึงใหญ่ขนาด 20 เซนติเมตร ลวดลายบนเปลือกแตกต่างกันไปตามชนิดของหอย   ทางด้านหน้าของลำตัว (ปลายเรียวเล็กของกรวย) มีท่อน้ำยื่นยาวออกมา เรียกว่า ไซฟอน (Siphon) อยู่ที่ส่วนบนสุดทางด้านหน้า สำหรับทางน้ำออก ช่วยขับให้ตัวหอยเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แบบ jet ใต้ไซฟอนเป็นหนวด 2 เส้นใช้เป็นประสาทสัมผัส กับงวง 1 อัน เป็นท่อกลมยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ภายในงวงมีฟัน ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปไปคล้ายฉมวกหรือลูกธนู ภายในฟันรูปฉมวกนั้นกลวง มีท่อน้ำพิษซึ่งต่อมาถึงถุงใส่พิษที่อยู่ในตัวหอย ถุงน้ำพิษใช้เก็บเข็มพิษและน้ำพิษซึ่งสร้างจากท่อน้ำพิษ โดยมีเซลล์ภายในมากมายทำหน้าที่ผลิตน้ำพิษ จากการสำรวจพบว่าหอยเต้าปูนทั่วโลกมีมากกว่า   500 ชนิด พบมากในเขตอินโดแปซิฟิก รวมทั้งน่านน้ำ ไทยซึ่งพบกว่า 300 ชนิด โดยจะอยู่ตามพื้นทะเลใกล้แนวปะการังที่ชายฝั่งความลึกประมาณ 1-2 ฟุต หรืออาจอยู่ลึกเป็น 10 ฟุต ในขณะที่บางชนิดอาจอยู่ได้ที่ก้นทะเลความลึกนับ 100 ฟุตเลยทีเดียว หอยเต้าปูนที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ก็คือ หอยเต้าปูนลายแผนที่ พิษของเจ้าหอยชนิดนี้ ทำให้คนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 36 ราย ส่วนอีกชนิดที่ควรจับตามองเช่นกันคือหอยเต้าปูนลายผ้า ซึ่งมีพิษร้ายแรงใกล้เคียงกับชนิดแรก นอกจากนี้ยังมีหอยเต้าปูนลายหินอ่อน และหอยเต้าปูนจักรพรรดิ ที่มีพิษเช่นกัน ทั้งสี่ชนิดพบได้ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม หอยเต้าปูนไม่ได้มีแต่พิษภัยอย่างที่หลายๆ คนคิด ในทางตรงกันข้ามพิษของหอยเต้าปูนยังมีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมหาศาล และเจ้าหอยชนิดนี้ยังช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศอีกด้วย หลีกเลี่ยงการไปจับ แตะ ต้อง สิ่งต่างๆ ใต้ท้องทะเล จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 13:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ดาวหนาม : ดาวหนามเป็นสัตว์กินปะการัง พบได้ทั่วไป หนามตามตัวแข็งและแหลมมาก หากโดยเข้าไปจะรู้สึกเจ็บแปลบ แผลจะหายยากมาก บางครั้ง 6 เดือนแล้วยังไม่หาย จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 14:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แมงกะพรุน : พิษเกิดจากเข็มพิษเรียกว่า Nematocyst (นีมาโตซิส) ความรุนแรงของพิษแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดและขนาดตัว พิษเหล่านี้อยู่ที่หนวดและยังมีพิษอยู่แม้แมงกะพรุนตายแล้ว หนวดบางเส้นยาวแต่ใส ทำให้พวกเรามองไม่เห็น วิธีการว่ายหลบแมงกะพรุนจึงควรหลบทางหัว อย่างหลบทางหนวดโดยเด็ดขาด แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษรุนแรงถึงตาย เช่น แตนทะเล แต่มีอยู่น้อยมากไม่ค่อยพบในน่านน้ำไทย จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 14:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ ข้อมูลที่เจอบอก แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษรุนแรงถึงตาย เช่น แตนทะเล แต่มีอยู่น้อยมากไม่ค่อยพบในน่านน้ำไทย แต่ทำไมช่วงนี้มีคนเจอแตนทะเลบ่อยจัง มันอันเดียวกันป่าวเนี่ย.... จากคุณ : ninue - [ 31 ม.ค. 50 14:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ู^ ^ คงเป็นการเสียชีวิตที่เกิดจากการแพ้นะครับ แบบว่าเจอแตนทะเลต่อยตามผิวหนัง บางคนที่ไม่แพ้ ก็แค่คันๆ แต่บางคนแพ้มาก อาจจะเกิดอาการทางเดินหายใจอุดกั้นและเสียชีวิตได้ครับ จากคุณ : ก้อนหินละเมอ_V2007 - [ 2 ก.พ. 50 20:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ได้ความรู้มากๆ เลยค่ะ เห็นสีสันสวยงามแต่ผิดร้ายกาจใช่ย่อยนะเนี่ย จากคุณ : firesky (Firesky) - [ 15 ก.พ. 50 15:30:55 ]