ความคิดเห็นที่ 1 Candi Bentar “ซุ้มประตูผ่าครึ่ง” เอกลักษณ์ของสถาปัตย์บาหลี...เห็นว่าเดี๋ยวนี้รีสอร์ทในเมืองไทย ก็นิยมเอามาทำตามอย่างเพื่อตกแต่งสถานที่กันพอสมควรนะครับเนี่ย... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บริเวณโดยรอบน้ำพุธรรมชาติ Tirta Empul ได้รับการสถาปนาเป็นเทวสถานศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยแท่นบูชามากมายเพื่ออุทิศถวายแด่เทพเจ้าต่างๆที่ชาวบาหลีเคารพนับถือครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่นี่...พิธีกรรมบูชายังคงมีปฏิบัติอยู่เสมอวันละหลายๆครั้ง สะท้อนถึงแรงศรัทธาและความเชื่อที่ตั้งมั่นอยู่ในศาสนาฮินดู ซึ่งชาวบาหลียึดถือปฏิบัติเคร่งครัดกันมายาวนานนับพันปีแล้วอ่ะครับ... การเฝ้ามองหรือบันทึกภาพพิธีกรรมเหล่านี้ ชาวบาหลีมิได้หวงห้ามนะครับ หากแต่ต้องให้ความเคารพต่อผู้คนและพิธีกรรม และไม่แสดงอาการรบกวนจนเกินพอดีนะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เทวสถานที่ Tirta Empul นี่ชาวบาหลีนับถือยกย่องมากเป็นพิเศษ...ภายในขอบเขตปริมณฑลจึงเต็มไปด้วยอาคารต่างๆมากมาย ทั้งศาลา ปราสาทเมรุ แท่นบูชา ปะรำพิธี คละเคล้ากันไปทั้งของใหม่ของเก่า ล้วนแต่ประดับประดาตกแต่งอย่างประณีตทั้งสิ้นเลยล่ะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ....ถ้าใครอยากมาชมสถาปัตยกรรมบาหลีแบบโบราณที่หลากหลาย ต้องไม่พลาดที่จะมาชมเทวาลัยแห่งนี้นะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตรงนี้แหละครับ “น้ำพุศักดิ์สิทธิ์” ที่พระอินทร์ทรงเนรมิตไว้...ดูใสสะอาดเป็นสีเขียวราวกับพลอยรัตนชาติ น่าอัศจรรย์จริงๆอ่ะครับ...ในสระนี้เป็นตาน้ำผุดตามธรรมชาติ ที่เห็นเป็นรอยทรายพวยพุ่งอยู่ใต้น้ำทางขวามือของภาพอ่ะครับ จึงสงวนไว้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อนุญาตให้ลงอาบตรงจุดนี้นะครับ เห็นน้ำใสๆแบบนี้ผมก็นึกถึง “ท่าปอม-คลองสองน้ำ” ที่เมืองกระบี่บ้านเรา น้ำใสแบบเดียวกันไม่มีผิดเลยครับ...เมืองไทยของเราก็มีดีไม่แพ้เค้านะครับเนี่ย หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จุดที่ให้ลงอาบน้ำนั้น คนโบราณเค้าต่อเป็นท่อศิลาผ่านมาจากต้นตาน้ำ ปล่อยผ่านให้น้ำไหลมาออกที่สระอาบน้ำ ซึ่งกั้นบริเวณไว้ต่างหากเรียบร้อยแล้ว...สระอาบน้ำแห่งนี้ มีตาน้ำพุเรียงรายกันมากมาย ล้วนถือว่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น เพราะมีชื่อระบุไว้ทุกท่อ และมักจะมีเครื่องเซ่นสักการะวางอยู่เป็นประจำครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บางท่อก็ทำเป็นรูปศีรษะของ “มกร” พาหนะแห่งองค์พระวรุณและเทพีคงคา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “น้ำศักดิ์สิทธิ์” ตามคติศาสนาฮินดูด้วยนะครับ...อาบน้ำตรงท่อนั้นแล้ว จะได้รับสวัสดิมงคลเพิ่มพิเศษเป็นทวีคูณเชียวล่ะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทุกวันนี้ ชาวบาหลียังนิยมมาอาบน้ำที่สระของ Tirta Empul กันอยู่เนืองๆ จากความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ดุจดั่งน้ำอมฤตของพระอินทร์นั่นเองครับ...ที่นี่จะแบ่งแยกสระไว้เรียบร้อย ผู้ชายลงข้างนึงผู้หญิงลงข้างนึง... และอย่างที่ผมเคยเล่าไว้กระทู้ก่อน ว่าแต่เดิมสตรีบาหลีจะเปลือยอกอาบน้ำตามธรรมเนียมโบราณที่นี่เสมอ มาบัดนี้กลายเป็นอดีตไปซะแล้วครับ เพราะนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยี่ยมชมที่นี่ไม่ขาดสาย รวมไปถึงเรื่อง “อื้อฉาว” ที่อดีตประธานาธิบดีสุการ์โน มาสร้างทำเนียบไว้บนเนินสูงเพื่อรอชมสาวบาหลีอาบน้ำที่นี่อีกด้วย...จึงทำให้การอาบน้ำตามธรรมเนียมโบราณดังกล่าวหายไปจาก Tirta Empul ในที่สุด...ทุกวันนี้สตรีบาหลีที่มาอาบน้ำที่นี่ ล้วนกระโจมอกอย่างทะมัดแทม่งกันหมดทุกคนแล้วล่ะครับ หุหุ ตามความเชื่อของชาวบาหลีแต่โบราณ การอาบน้ำที่ Tirta Empul ไม่ใช่แค่การชำระร่างกาย หากแต่เป็น “พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์” ในการชำระมลทินทั้งกายใจ เพื่อรับความเป็นสิริมงคลมาสู่ตนเองและชีวิตในภายภาคหน้า...ดังนั้นจึงไม่ควรถ่ายภาพสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ ด้วยถือว่าจะไปหลบลู่ธรรมเนียมโบราณของเค้า... แต่ถ้าอยากจะถ่ายรูปเช่นนี้จริงๆ ควรเอ่ยปากขออนุญาตอย่างสุภาพต่อผู้นั้นก่อนยกกล้องเสมอนะครับ โดยทั่วไปถ้าไม่ขัดข้องอะไรเกินไปนัก ชาวบาหลีก็มักจะอนุญาตให้ถ่ายรูปตามที่ขอไว้อยู่แล้วครับ...อย่าลืมข้อนี้นะครับทุกท่าน จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อพ้นจากเขตวัด Tirta Empul ก็เจอเอากับ “โลกแห่งความเป็นจริง” แผงขายของมากมายละลานตา ล้วนส่งเสียงเชิญชวนให้เข้าไปชมร้านของเค้าทั้งนั้น...ผมเองนี้วัตถุประสงค์แน่วแน่ว่า “ไม่ช็อป” ก็ฝ่าด่านผ่านไปได้รวดเร็วเลยครับ เหอๆๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จาก Tampaksiring รถของผมก็วิ่งไต่ระดับขึ้นที่สูงมาเรื่อยๆ ประมาณซักเกือบๆชั่วโมง ก็โผล่มาตรงที่เรียกว่า “Penelokan” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงมากตรงขอบปล่องภูเขาไฟเก่าพอดี...อากาศบนนี้เย็นมากๆ ลมพัดตึงเลย ทิวทัศน์นี่ก็สุดยอดจริงๆครับ มองเห็นทะเลสาบบาตูร์ (Danau Batur) และภูเขา Gunung Abang ในม่านเมฆหมอกไกลๆ...ได้มายืนชมวิวตรงนี้แล้วชื่นใจจริงๆครับ แต่ที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อความรื่นรมย์ในการชมวิว ณ จุดนี้ก็คือ บรรดาพ่อค้าแม่ค้านักตื้อมือพระกาฬนี่ล่ะครับ แต่ละคนตื้อเก่งจริงๆ ผมเองดำเนินนโยบายว่า “ไม่ช็อป” อย่างเคร่งครัดก็ยังตื้อไม่เลิก เดชะบุญมีกรุ๊ปฝรั่งมาลงชมวิวพอดี บรรดานักตื้อเลยเฮโลสาระพาไปตื้อนักท่องเที่ยวตาน้ำข้าวแทน นักท่องเที่ยวหัวดำอย่างผมเลยรอดตัวกลับมาขึ้นรถได้ซะทีอ่ะครับ แฮ่ๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนขับรถพาเลยจาก Penelokan มาไม่ไกลนัก ก็จะถึง Kintamani จุดชมวิวยอดฮิตเช่นเดียวกับเมื่อซักครู่ หากแต่บริเวณ Kintamani นี้จะมีร้านอาหารเรียงรายมากมายเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็ราคาไม่ใช่ถูกๆนะครับ แต่ถ้าแลกกับวิวสวยๆที่เห็นเบื้องหน้าเมื่อยามรับประทานอาหาร ย่อมทำให้ได้รับความอิ่มเอมมากขึ้นอีกเป็นทวีคูณล่ะครับ ไหนๆมาแล้ว จะถูกจะแพงอะไร ผมไม่แคร์ล่ะครับ บ่ายสองโมงกว่าแล้ว หิวจนสามารถจะบริโภคควายเป็นตัวๆได้แล้วครับ 55555 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มื้อนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ครับ คิดราคารวมน้ำอัดลม และภาษี (ภาษีร้านอาหารที่บาหลีแพงมากๆครับ) เบ็ดเสร็จแล้ว 74,000 รูเปี๊ยะครับ แพงปานนี้ต้องวนตักหลายๆรอบ ละเลียดกินหลายๆอย่างให้คุ้ม หุหุ ที่น่าสนใจก็คือ ผมเพิ่งมารู้ว่า “Satay” สะเต๊ะของบาหลีแท้ๆ จะไม่เหมือนสะเต๊ะแบบอินโดนีเซียทั่วไปนะครับ สะเต๊ะบาหลีดั้งเดิม จะเป็นหมูหรือไก่สับบดผสมมะพร้าว แล้วเอามาปั้นๆพอกไม้แล้วนำไปทอดครับ (เห็นว่าบางสูตรเอาไปย่างก็มี) ส่วนสะเต๊ะอินโดนีเซียทั่วไปก็เป็นเนื้อวัวหรือไก่ชิ้นๆเสียบไม้ย่างอ่ะครับ ผมลองทั้งสองแบบก็อร่อยดีนะครับ อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ของคาวแล้วก็ของหวานครับ อันนี้ก็น่าสนใจครับ ไต่ถามได้ความว่าเป็นขนมพื้นบ้าน เรียกว่า “ปิเลง ปิเลง” ดูหน้าตานี่เหมือนกะขนมเล็บมือนางของไทยเราเป๊ะเลย ทั้งที่เป็นแป้งแท่นสั้นๆกลม มีมะพร้าวขูดโรยหน้า แต่มีจุดต่างกันนิดนึงตรงที่ ขนมเล็บมือนางไทยจะโรยน้ำตาลผสมงาคั่ว ส่วนขนมบาหลีอันนี้เค้าราดน้ำเชื่อมน้ำตาลโตนดแทน (แบบเดียวกับขนมต้มของไทยนี่ล่ะครับ) อืมมม ไม่รู้ว่าไทยกับบาหลีจะมีสายสัมพันธ์ในเรื่องวัฒนธรรมการกินด้วยรึเปล่าเนี่ย แต่ที่รู้ๆก็คือ “อร่อยดี” อ่ะครับ อิอิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หน้าตาร้านอาหารเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ ตั้งอยู่ประชิดริมขอบหน้าผาออกปานนั้น จะไม่เห็นวิวก็ให้มันรู้กันไป!!! จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เบื้องหน้าของเรานี้ก็คือ “Gunung Batur” ภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ลำดับสองของเกาะบาหลี ถัดไปไกลๆโน่นก็คือทะเลสาบบาตูร์ ที่เราไปชมมาเมื่อซักครู่ไงล่ะครับ นี่ถ่ายจากหน้าจานข้าวผมเลยนะครับเนี่ย กินไปชมวิวภูเขาไฟไปหาที่ไหนไม่ได้แล้วล่ะครับ เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ภูเขาไฟบาตูร์ ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างนึงของเกาะบาหลี ด้วยเชื่อว่าพระอิศวรทรงนำบางส่วนของเขาพระสุเมรุ มาไว้ในเกาะบาหลีโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนนึงตั้งเป็นภูเขาไฟบาตูร์ และอีกส่วนนึงปักไว้เป็นภูเขาไฟอะกุง (Gunung Agung) ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่สุดและศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับหนึ่งของบาหลีครับ สำหรับภูเขาไฟบาตูร์นี้ ยังถือว่าเป็น Active Volcano อยู่นะครับ อย่างพื้นที่ที่เห็นเป็นสีดำๆข้างหน้านั่นก็คือ “เถ้าถ่านลาวา” ที่ทะลักออกมาจากการระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อปี 1926 นี่ล่ะครับ เคยดูสารคดีของ Lonely Planet เค้าว่า มีทัวร์ปีนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเขาไฟนี้ด้วยนะครับ แถมมีอาหารเช้าที่อบด้วยถ่านลาวาร้อนๆด้วย น่าสนใจดีเหมือนกันอ่ะครับ แต่คงต้องอึดซักเล็กน้อยในการปีนภูเขาไฟยามเช้ามืดน่ะครับ ท่านใดได้ไปลองทัวร์นี้ ก็มารีวิวให้ชมกันมั่งนะครับ เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่ออิ่มท้องและอิ่มวิวทิวทัศน์แล้ว ตอนแรกผมมีแพลนว่าจะไปชมเทวสถาน “Pura Ulan Danu Batur” ที่อยู่ถัดออกไปหน่อย แต่คนขับรถผมเตือนว่า เวลาตอนนี้ล่วงเลยเข้ายามบ่ายแก่ๆมากแล้ว เกรงว่าถ้าไปวัดนั้นแล้ว อาจจะกลับลงไปไม่ทันชมพระอาทิตย์ตกที่ Tanah Lot ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ ผมเองเลยจำใจต้องตัดเทวาลัยดังกล่าวนี้ด้วยความเสียดายครับ (((แต่ถึงตอนนี้ก็ไม่เป็นไรอ่ะครับ เพราะตอนที่มีโปร 0 บาทรอบล่าสุดเมื่อช่วงเดือนมกรา 2550 ที่ผ่านมา ผมก็จองตั๋วไปบาหลีได้อีกแล้วล่ะครับ เดี๋ยวคราวนี้คงได้ไปเก็บวัดสำคัญๆที่ขาดไปครั้งก่อนแน่ๆเลยครับ อิอิอิ))) คนขับรถผมก็ขับบึ่งยาวลงมาจาก Kintamani เลยครับ เพราะจุดหมายปลายทางที่ Tanah Lot นั้นไกลไม่ใช่เล่น ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านและวัดวาอารามมากมาย แม้แต่ตามทางแยกต่างๆก็จะเห็นแท่นบูชาเทพเจ้าได้เสมอ นี่แหละครับเอกลักษณ์ของบาหลีอย่างแท้จริงเค้าล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนื่องจากระยะทางยาวไกลพอสมควร ผมเองเลยนั่งหลับงีบมาในรถด้วยความง่วง พักใหญ่ๆคนขับรถก็ปลุกผม แล้วบอกว่า มาถึง Mengwi แล้วนะ สนใจจะเข้าไปชม Pura Taman Ayun มั้ย มีเหรอครับที่ผมจะปฏิเสธ หุหุหุ Pura Taman Ayun เป็นวัดที่อายุไม่เก่านักคือประมาณ 300 ปีมาแล้ว จุดเด่นอยู่ตรงที่ถือกันว่า วัดนี้เป็น “ราชเทวาลัย” (Royal Temple) ของกษัตริย์ผู้ครองเมือง Mengwi ที่นี่จึงตกแต่งสถานที่ได้งดงามลงตัวมากๆเลยครับ มีหมู่อาคารท่ามกลางสวนร่มรื่นและมีสระน้ำล้อมรอบ น่าจะเป็นที่พักผ่อนจากการเดินทางยาวไกลได้เป็นอย่างดีเลยครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ที่นี่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชมได้เฉพาะในเขตลานชั้นนอกเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องนุ่งโสร่งเข้ามาครับ เพราะยังอยู่นอกส่วนกำแพงชั้นในซึ่งเป็นวัดจริงๆอ่ะครับ ถึงจะเข้าไปข้างในไม่ได้ แต่การได้ชมวิวเทวสถานจากริมกำแพงนี้ ก็คุ้มค่าในการมาเที่ยวที่นี่นะครับ เอกลักษณ์ที่ทำให้ใครต่อใครชื่นชอบ Pura Taman Ayun ก็คือ ”เมรุ” ปราสาทเทวาลัยสไตล์บาหลี ซึ่งมีมากมายในเขตวัดแห่งนั้น จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมรุแต่ละหลัง ก็อุทิศให้แก่เทพยดาแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน ถ้าเมรุหลังคาสูงก็แสดงว่าเป็นที่อุทิศแด่เทพเจ้าสำคัญมาก แต่ถ้าเมรุหลังคาต่ำก็อุทิศแด่เทพชั้นรองๆลงไปครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กล่าวกันว่าใน Pura Taman Ayun แห่งนี้ มีเมรุและแท่นบูชาอุทิศถวายแด่เทพเจ้าแทบทุกองค์ที่ชาวบาหลีเคารพบูชา รวมไปถึงแท่นบูชาภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์แต่ละลูกด้วย ที่นี่จึงเป็นเทวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งยวด จนต้องสงวนไว้ไม่ให้ชาวต่างชาติกล้ำกรายเข้ามานี่เองล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมใช้เวลาเดินชม Pura Taman Ayun อยู่พักใหญ่ๆ ก็เห็นต้องจำใจรีบจรลีแล้วล่ะครับ เนื่องจากพระอาทิตย์ก็หาคอยท่าไม่ กลับเลื่อนลอยคล้อยต่ำลงเรื่อยๆอยู่แล้ว ถ้าไม่รีบไปตอนนี้อาจไม่ทันแน่ๆ พี่โชเฟอร์ครับ เหยียบมิดเลยนะครับพี่!!! จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วผมก็มาทันเวลาพอดีครับ กว่าจะเดินฝ่าด่านร้านค้าอันแสนวกวนได้ ก็แทบงงหลงทางเอาน่ะครับ และแล้วผมก็เห็นท้องทะเลมหาสมุทรอินเดียที่เบื้องหน้า ถึงแล้วจ้า Tanah Lot !!! จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใกล้ๆกับ Tanah Lot มีโขดหิดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล ถูกแรงน้ำกัดเซาะจนเป็นช่องโหว่เหมือน “เกาะทะลุ” ของเมืองไทยเรา ลองสังเกตคลื่มลมของท้องทะเลในรูปสิครับ แรงดีไม่ใช่เล่นเลยนะครับเนี่ย หน้าผาชายฝั่งแถวๆนี้ก็เลยมีริ้วรอยกัดเซาะเว้าแหว่งมากมาย ดูแปลกตาไม่เหมือนชายทะเลที่เคยเห็นทั่วไปเลยนะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เพราะว่าท้องทะเลตรงนี้เป็นเขตทะเลเปิด ไม่มีเกาะอื่นใดขวางกั้นคลื่นลมจากมหาสมุทรเลยครับ ที่นี่เลยมีคลื่นลูกโตๆถาโถมกระทบฝั่งตลอดเวลา เสียงนี่ดังตึงตังสะใจดีแท้ เหอๆๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แหละครับ “Sunset at Tanah Lot” ไฮไลท์ของวันนี้ บรรยากาศดีวิวสวยสุดๆไปเลยครับ เห็นวิวโรแมนติคปานนี้แล้ว ชักอยากจะมีคู่เหมือนคนอื่นเค้าเหมือนกันนะเนี่ย (เกี่ยวกันรึเปล่าหว่า อิอิอิ) จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แล้วพี่คนขับก็พาผมมาส่งที่ Ubud ตอนเกือบสองทุ่มแล้ว หิวมากๆเลยไปพึ่ง Warung Makan หรือร้านข้าวแกงแถวๆ Jalan Hanoman อิ่มท้องได้ราคาไม่แพงเลยครับ ระหว่างทางเดินกลับโรงแรม ผมได้ยินเสียงดนตรี Gamelan ดังง่างเง่งมาแต่ไกล จึงไปเลียบๆดูเลยได้รู้ว่า เป็นวงดนตรีประจำหมู่บ้าน Padangtegal ซ้อมมือเช่นนี้เป็นประจำทุกคืนครับ ยืนฟังเพลินไปเลยครับ ถ้าไปติดว่ามียุงคงได้อยู่นานกว่านี้แน่ๆครับ ชอบจริงๆเสียง Gamelan เนี่ยฟังแล้วรู้สึกเร้าใจระคนลี้ลับยังไงไม่รู้อ่ะครับ รู้แต่ว่าชอบ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วันนี้ตระเวนมาทั้งวันชักง่วงล่ะครับ ผมคงต้องขอลากลับขึ้นไปนอนซะทีแล้ว...เอาเป็นว่า สวัสดียามดึกและขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมกระทู้เก่าเก็บของผมนะครับ อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เดี๋ยวกระทู้หน้า...เป็นตอนจบของรีวิวเก่าเก็บค้างปี "บาหลี" อันนี้ของผมแล้วนะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 03:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวยเมิ่กๆ!! จากคุณ : อุนากัณ - [ 7 ก.พ. 50 03:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นแล้วอยากกลับไปบาหลีอีกครั้งจังชอบมากๆ จากคุณ : น้าปังปอนด์ - [ 7 ก.พ. 50 04:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ่ายได้สวยทุกรูปเลยครับ อยากไปมั่งจัง จากคุณ : besu1 - [ 7 ก.พ. 50 04:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งเคยเห็นเกาะทะลุ สวยครับ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 7 ก.พ. 50 07:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตามมาดูต่อค่ะ :) ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ นะคะ จากคุณ : แมวเหมียวลาย ๆ สบาย ๆ อ้วนพี - [ 7 ก.พ. 50 08:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อยากไปมั่งจังเลยค่ะ คงจะสวยน่าดูเชียว จากคุณ : MeeMi - [ 7 ก.พ. 50 08:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวยงามน่าไปมากๆ จากคุณ : bicycle_trend - [ 7 ก.พ. 50 10:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รูปสวยครับ ตามเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 7 ก.พ. 50 10:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 รีวิวได้สวยงาม และน่าติดตามมาก บาหลีเราอยากไปมาตั้งแต่เด็กๆ แต่หลายๆคนบอกไม่น่าสนใจ แต่พอมาดูรีวิวนี้ ทำให้อยากไปอีกครั้ง แต่ไม่มีไกด์เนี่ยซิ ^^ จากคุณ : i can't do it !! - [ 7 ก.พ. 50 10:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ละเอียดมากครับ ไปอีกครั้งจะขอชมอีกรอบ จากคุณ : Tanoshii (Tanoshii) - [ 7 ก.พ. 50 12:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เยี่ยมครับ...ขอเซฟเก็บไว้เป็นลายแทง เผื่ออนาคนได้ไปบาหลีบ้าง จากคุณ : wut3616 - [ 7 ก.พ. 50 12:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โห....รูปสวย สวย ทั้งน้านเลยอ่ะ จากคุณ : บุหลันลอยฟ้า - [ 7 ก.พ. 50 15:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 บาหลีเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มากทีเดียวค่ะ เห็นแล้วก็นึกอยากไปเหมือนกัน จากคุณ : Red Leaves - [ 7 ก.พ. 50 15:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตามมาอ่านอีก อ่านได้เพลินดีจริงๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : [Cha] - [ 7 ก.พ. 50 18:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โอ้...ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมรีวิวของผมอีกครั้งนึงครับ...ส่วนอันนี้เป็นรวมลิ้งค์ของรีวิวบาหลีทั้ง 4 ตอนนะครับ ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5105522/E5105522.html ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5115570/E5115570.html ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5115588/E5115588.html ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5117115/E5117115.html จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 7 ก.พ. 50 19:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สุดยอด จากคุณ : ฟองโซดา - [ 7 ก.พ. 50 21:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 โห กำลังจะพูดคำเดียวกับคุณฟองโซดาเลยงะ จากคุณ : marzo (marzo) - [ 8 ก.พ. 50 02:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ลงชื่อว่าอ่านแล้ว ทานาลอทตอนพระอาทิตย์ตก สวยจับใจจริงๆ ค่ะ ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 8 ก.พ. 50 11:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จมูกบานไปกับของกินค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 8 ก.พ. 50 11:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบรูปพระอาทิตย์ตกที่ Tanah Lot จังค่ะ  สวยมาก ๆ เสียดายที่คราวที่แล้วไป ไม่ได้แวะที่ Mengwi เป็นวัดที่สวยมาก ๆ โดยเฉพาะปุระที่เรียงรายซ้อนกันหลายชั้นเป็นแนว ดูงดงามมากจริง ๆ ค่ะ ตามไปอ่านตอนจบดีกว่า จากคุณ : Trip Tracking - [ 9 ก.พ. 50 14:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาคอนเฟิร์มค่ะ ว่าคลื่นบาหลีแรงจริงๆ ไปเดินลงที่ Tulumben โดนซัดซะกลิ้งไม่เป็นท่าเลยแหละ แหะ แหะ จากคุณ : ++แขวน++ - [ 10 ก.พ. 50 20:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สวยๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : sueko - [ 13 มี.ค. 50 11:26:02 ]