หวัดดีครับ
  ข่าวฝากจากยอดเขา  chomo  lhari  ปี 2006  เป็นการปีนของทีมจาก  slovenian  6  คน  2  คนในทีมนี้ได้แยกจากที่เหลืออีก  4 คน  ใช้เส้นทางใหม่ซิ่ง ๆ สันเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือ  ยอดเขานี้เรียกอีกอย่างว่า  jomo  lhari  ก็ได้  ตัวเลขความสูง  7,350 เมตร  บางข้อมูลตัวเลขเป็น  7,314  เมตร  เป็นยอดเขาอยู่ตรงแนวพรมแดน  bhutan กับ ธิเบต  ถ้าจะลองโฉบมาบริเวณพื้นที่แถว ๆ ยอดเขานี้มาจากทาง  lhasa ก็ได้  หรือว่ามาจากสิกขิมก็ได้  ( เค้าเพิ่งเปิดด่านแนวชายแดนสิกขิม/ธิเบต  เมื่อวันที่ 6/ก.ค./2549  ค่ายรถ  4wd  น่าจะลองเอารถมาทดสอบดูนะ จาก ก.ท.ม. ปลายทางที่  gangtok/สิกขิม, อินเดีย ) ยอดเขานี้มีสมญานามว่า "เจ้าสาวของ  kangchenjunga " ( ยอดเขาสูงอันดับ 3 ของโลก ) ตามความเห็นของผม  ผมว่าเส้นทางที่อีก 4  คนในทีมนี้เลือกใช้น่าจะง่ายกว่าเส้นทางใหม่  เมื่อวานท่องเน็ตยอดเขา  kamet  7,756  เมตร ยอดเขาสูงอันดับที่ 3 ของอินเดีย ( สูงอันดับที่ 29 ของโลก ) ภาพสวยดีอยู่ตรงแนวชายแดนธิเบต/รัฐ uttaranchal, อินเดีย หรือว่าจะมาลองทดสอบรถ 4 wd แถวนี้ก็ได้นะจาก  lhasa ซิ่งยาวมาทางด้านตะวันตกมีถนนตัดผ่านไปแถวยอดเขา  kamet  มองเห็นได้ไกล ๆ  จากถนน  สูงกว่ายอดเขาที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งหมด  เชิญอ่านกันได้เลยครับ

การปีนยอดเขา  chomo  lhari  ปี 2006 ของทีมจากประเทศ  Slovenian
รูปภาพประกอบ  รูปที่  1  สันเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือของยอดเขา  chomo  lhari
ภาพโดย  นาย  marko  prezelj
    ในวันที่  27  ตุลาคม  ทีมปีนเขาจากประเทศ  Slovenian ซึ่งมีสมาชิกอยู่ด้วยกันถึง  6  คน  (  ได้แก่  marko  prezelj , boris  lorencic , rok  blagus , tine  cuder , matej  kladnik และ  samo krmelj ) ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศ  Slovenian  โดยพวกเขาได้เดินทางกลับมาจากการปีนยอดเขาที่ประสบความสำเร็จในเขตธิเบตของพวกเขา   เป้าหมายของพวกเขาก็คือการปีนยอดเขา  chomo  lhari ( 7,350  เมตร  ) , ซึ่งรู้จักกันในนามว่า  “ เจ้าสาวของยอดเขา  kangchenjunga ” , เป็นยอดเขาที่มีรูปทรงเป็นพีรามีด , ดูสง่างาม  ตั้งอยู่ตรงแนวชายแดนธิเบต - Bhutan
    สำหรับแคมป์ฐานนั้น  ทีมปีนเขาเลือกเอาสถานที่ๆ อยู่ใกล้กับทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์  chomo  lharang ( ระดับความสูงทะเลสาปประมาณ  5,100  เมตร )  ซึ่งอยู่ภายใต้ด้านเหนือของยอดเขา  choma  lhari  หลังจาก  10  วันในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศบนที่สูงและทำการปีนยอดเขา  jangmo  gopsha ที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กัน ( 6,706  เมตร )  ทีมปีนเขาชาว  Slovenian จึงตัดสินใจที่จะพยายามปีนยอดเขา  chomo  lhari  
รูปภาพประกอบรูปที่  2  เส้นทางการปีนยอดเขา  jangmo  gopsha ( 6,706  เมตร ) , เป็นการปีนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับอากาศบนที่สูง  ภาพโดย  marko  prezelj  
     Rok  blggus , tine  cuder , samo  krmelj และ  matej  kladnik ได้เลือกเส้นทางการปีนที่เป็น  couloir  ที่อยู่ทางด้านซ้ายบนยอดเขาทางด้านเหนือ  ในวันแรกพวกเขาปีนขึ้นไปถึงแคมป์ความสูง  6,800  เมตร  ซึ่งเป็นแคมป์ที่พวกเขาได้พักค้างคืนกันในวันนั้น  เส้นทางการปีนที่เป็น  couloir นั้นเต็มไปด้วยหิมะที่เพิ่งตกลงมาได้ไม่นานนักและก็น้ำแข็งมีมุมเอียงประมาณ  45  องศา และ  60 องศา  ในวันที่  14  ตุลาคม  พวกเขาได้ปีนขึ้นไปอยู่เหนือส่วนบนของ  couloir ( เส้นทางการปีนประมาณ  60 ถึง 80 องศา ) โดยมุ่งไปยังสันเขาด้านตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของแคมป์  7,100  เมตร  พวกเขาได้ปีนไปตามสันเขาด้านตะวันออกจนไปถึงยอดสูงสุด  พวกเขาได้ปีนกลับลงไปเพื่อทำการพักค้างคืนในแคมป์ด้านล่างของยอดเขาและก็ทำการปีนกลับลงไปอีกในวันถัดไปซึ่งการปีนกลับลงมานั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เทคนิค  rappelling พวกเขาได้จัดระดับความยากในการปีนในเส้นทางของพวกเขาเอาไว้ดังนี้  TD+, 80/45-60, C1900 เมตร  
รูปภาพประกอบรูปที่  3  การปีนไปตามเส้นทางบนยอดเขา  chomo  lhari  ภาพโดย  marko prezelj  
     ในขณะที่  prezelj , ซึ่งร่วมทีมกับนาย  boris  lorencic  ตัดสินใจที่จะปีนขึ้นไปให้ถึงยอดสูงสุดโดยใช้เส้นทางใหม่ซึ่งเป็นการปีนขึ้นไปตามสันเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนืออันน่าตื่นเต้น  จากแคมป์ฐานพวกเขาปีนขึ้นไปตาม  couloir  โดยการปีนไปในแนวทะแยงไปทางด้านขวาไปบน  buttres ที่มีลักษณะผสมกันหลายรูปแบบและก็ปีนขึ้นไปถึงยอดด้านบนของสันเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือ  ในบริเวณที่เป็น  couloir พวกเขาได้เจอเข้ากับหิมะที่หนาถึงหัวเข่าและก็ต้องปีนไปตามเส้นทางการปีนหลายเส้นทางที่สูงชันที่เป็นน้ำแข็งและก็หิมะที่มีการแข็งตัวแล้ว็น็็็

รูปภาพประกอบรูปที่ 4  นาย  marko  prezelj กำลังนำการปีนขึ้นไปบนสันเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือของยอดเขา  chomo  lhari  
     สภาพอากาศในระหว่างการปีนทุกช่วงเส้นทางนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมากโดยมีกระแสลมที่แรงและก็มีหิมะตก  กระ แสลมที่พัดแรง , ผสมเข้ากันกับผลึกคริสตัลที่แข็งของหิมะ  และการปีนนั้นเป็นการปีนทีสาหัสมากจนระดับความยากในการปีนขึ้นไปถึงระดับ  M6+  พวกเขาได้จัดการปีนไปตามช่วงเส้นทางที่มีความสูงชันที่มีลักษณะพื้นผิวแบบผสมซึ่งเส้นทางปีนเหล่านี้นั้นได้พบว่าบางช่วงเส้นทางการปีนบางช่วงนั้นมีความท้าทายที่มีลักษณะเป็นเนินหิมะตั้งชันขาวดั่งน้ำตาลและก็หลายช่วงเส้นทางการปีนนั้นมีน้ำแข็งแผ่นบาง ๆ ที่ไม่ได้ยึดติดกับก้อนหิน  การออกไปจากช่วงเส้นทางที่เป็นหินไปยังช่วงเส้นทางที่เป็นหิมะนั้นมีความท้าทายเป็นอย่างมากเพราะว่าที่นั้นมันมีกระแสลมผสมเข้ากันกับผลึกแข็งที่เป็นหิมะซึ่งพัดมาอย่างต่อเนื่องและมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะมองขึ้นไปด้านบน
รูปภาพประกอบรูปที่  5  สมาชิกทีมปีนยอดเขา  chomo  lhari  ปี  2006  ภาพโดยนาย   marko  prezelj
      ในวันที่  5 ของการปีนยอดเขา  chomo  lhari ตอนเช้าตรู่ทีมปีนเขาเริ่มต้นการปีนไปตามช่วงเส้นทางที่มีลักษณะเป็นพื้นผิวผสมช่วงสุดท้าย  หลังจากที่ได้ทำการ  pitches ถึง  3  ช่วงยาว ๆ แล้ว  พวกเขาก็ได้ปีนขึ้นไปถึงช่วงเส้นทางที่สูงชันโดยมีหิมะอยู่หนามาก ๆ  จากตรงจุดนั้นมันเหลืออยู่เพียง  100 เมตรเท่านั้นที่จะต้องปีนขึ้นไปให้ถึงยอดสูงสุด  ในตอนแรกนาย  prezelj และก็  lorencic ตั้งใจที่จะปีนลงเขาโดยผ่านสันเขาทางด้านใต้ , อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ประเมินสภาวะต่าง ๆ ในตอนนั้นมันอันตรายมากเกินไป   ทั้งคู่จึงตัดสินใจปีนกลับลงไปโดยใช้เส้นทางสันเขาตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นเส้นทางที่พวกเขาได้จัดเตรียมจุดพักแรมต่าง ๆ ของพวกเขาเอาไว้แล้ว  ในวันที่ 6 ของการปีนยอดเขา  chomo  lhari  พวกเขาได้ปีนกลับลงไปถึงแคมป์ฐาน
      โดยทั่วไปแล้วถือว่ามันเป็นการปีนเขาที่สาหัสเลยทีเดียวซึ่งมันเป็นยอดเขาที่การช่วยเหลือสนับสนุนและการเลือกกลยุทธ์บางที่อาจจะมีความสำคัญมากกว่า “การเคลื่อนไหวของร่างกาย ” เพียงเท่านั้น  ผมได้นำการปีนเขาในเส้นทางทั้งหมด  และเราได้กำหนดระดับความยากในการปีนของเส้นทางนี้ไว้คือ  ED2 , M6+/30-70, c1950 เมตร
ภาพประกอบ  ทีมปีนเขาถ่ายกับเจ้าสาว kangchenjunga ยอดแหลม ๆ ทรงพีรามิดด้านหลัง

อ้อมีข่าวฝากอีกอันนึง  จะมีการก่อสร้างทางรถไฟสายเอ๊าะ ๆ ใหม่ล่าสุดของประเทศจีนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า  เป็นเส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศจีน  ที่จะเชื่อมมณฑล  qinghai เข้ากับ มณฑลซินเกียง  เป็นเส้นทางรถไฟจากเมือง  golmud ( qinghai ) ไปยังเมือง  korla ( ซินเกียง ) คาดว่าคงประมาณ 1,000 ก.ม. กว่า ๆ ได้มั๊ง เดาว่าเค้าคงสร้างวางแนวใกล้ ๆ ทางหลวงที่สร้างอยู่ก่อนหน้าแล้ว พื้นที่แถวนี้ผมว่ามันลึกลับดีนะ  ไม่ค่อยมีภาพให้ดูตามเน็ต  จากคุนหมิงถ้าจะไปซินเกียงก็ใช้เส้นทางนี้ไปมันจะลัดกว่าไม่ต้องอ้อมเข้าไปทางมณฑล  gansu  
   และก็มีอีกเส้นทางนึงที่จะก่อสร้างใหม่  เส้นทางรถไฟสาย  golmud  ไปยังเมือง  dunhuang , มณฑล  gansu  อันนี้เดาว่าก็คงจะวางแนวใกล้ ๆ ทางหลวงสายเก่าที่มีอยู่ก่อนแล้ว  ระยะทางคงประมาณ  500 - 600 ก.ม. ส่วนเส้นทางรถไฟสายนี้คาดว่าวิวคงจะออกสไตล์ทะเลทราย  ผสมกับภูเขา  ออกไปทางสไตล์รัฐ nevada น่าจะแล้งกว่าทาง nevada  มั๊ง  ข้อมูลตรงไหนผิดพลาดขออภัยด้วยครับ  
 คาดว่าในอนาคตเมือง  golmud จะเป็นชุมทางรถไฟสำคัญอีกแห่งหนึ่งเพราะว่ามันจะมีแนวเส้นทางรถไฟกระจายออกไป  4  เส้นทาง  เอาไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าครับ


http://www.climbandmore.com/climbing,283,0,1,news.html

[คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง]