ความคิดเห็นที่ 1 แรกสุดที่ต้องมีคือ "สติ" ณ เวลานั้นทุกคนย่อมต้องคิดหนีตายกันทุกคน ขึ้นกับว่าใครมีสติสัมปชัญญะดี ก็อาจจะรอด แต่สำหรับเราเองต่อไปนี้ถ้าใช้บริการบนรถทัวร์ก็คงจะไม่กล้าหลับ แล้วก็ต้องคอยมองอุปกรณ์ต่างๆบนรถเสมอ (เมื่อก่อนเคยสงสัยว่าไอ้ที่เหมือนคีมที่อยู่ตรงหน้าต่างมันคืออะไรกันน๊า) แล้วก็จะพกน้ำขวด+ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าขนหนู ... เผื่อมีเหตุไฟไหม้ น่าจะพอช่วยได้ อย่างน้อยก็สำลักควันน้อยลงหน่อย จากคุณ : moshiko - [ 21 มี.ค. 50 21:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นเราก่อนอื่นก็ขอนั่งใกล้ ๆ ประตูฉุกเฉินทางออกไว้ก่อนอ่ะนะ (รถทัวร์มีประตูฉุกเฉินรึเปล่าอ่ะ ) หรือไม่ก็ตอนขึ้นรถต้องคอยมองหาอะไรแข็ง ๆ ไว้ก่อน เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้เอาไว้ทุบกระจกออกมา แต่เราว่าถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ  ขึ้นมาอะไร ๆ มันคงสับสน วุ่นวายน่าดู เมื่อก่อนตอนช่วงที่เรือล่มเป็นข่าวบ่อย ๆ เวลาไปเที่ยวแล้วต้องนั่งเรือ เราแบบว่าเหมือนคนวิตกจริต ก่อนขึ้นเรือต้องมองหาชูชีพไว้ก่อนเลย แล้วก็คิดไปเองว่าถ้าเรือมันล่มเนี่ย ต้องโดดหรือว่ายน้ำไปทางไหนถึงจะปลอดภัยที่สุด จากคุณ : fox-uk - [ 21 มี.ค. 50 21:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ครับ  ขอบคุณครับที่เข้ามาแชร์ไอเดีย เผื่อเพื่อนจะเอาไปใช้บ้าง ความคิดเห็นด้านล่างรออยู่นะครับ v v จากคุณ : Athlons - [ 21 มี.ค. 50 21:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ความคิดเห็นที่ 4 หาย จากคุณ : Athlons - [ 21 มี.ค. 50 22:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งสติค่ะ  แล้วเราจะหาวิธีที่ดีที่สุดได้เองค่ะ จากคุณ : Happy Holiday - [ 21 มี.ค. 50 22:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กระจก รถทัวร์นี่มันน่าจะหนามาก ๆ ไม่ได้ เอาเท้าถีบแตกได้ง่าย ๆ เลยนะคับ จากคุณ : benz47 - [ 21 มี.ค. 50 22:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ครับ....หนาเป็นเซ็นติเมตรเลยมั้ง ผมเลยมาคิดๆว่าทำยังไงดี มีจุดไหนที่หนาน้อยกว่าหรือ weak กว่าเพื่อนเปล่า คุณ Happy Holiday ครับ ต้องมาร่วมกันช่วยๆหาตอนนี้เลยครับ ไปหาวิธีตอนที่เกิดเรื่องก็คงไม่ได้กลับมาพิมพ์อีกแล้วครับ  ป้องกันไว้ก่อนครับ อย่าประมาทๆ จากคุณ : Athlons - [ 21 มี.ค. 50 22:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใกล้คนขับมั้งครับ เห็นข่าวที่ไร คนขับมันรอดหนีไปได้หลายทีแระ ที่เหลือไม่บาดเจ็บ ก็ตาย จากคุณ : Panda-baker - [ 21 มี.ค. 50 22:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากข่าว -ผู้โชคร้ายบอกรถจอดซ่อมตลอดทาง หากผมเจอแบบนี้ ควรจะโวยกันตั้งแต่แรกได้เลยว่าให้เปลี่ยนรถ -รถที่เกิดอุบัติเหต จดทะเบียนปี 2514  ใช้มาแล้ว 30 ปี ก่อนทีมันจะเป็นป.2  มันเป็น ป.1  มาก่อน   มีโอกาสเสี่ยงรถมีปัญหาสูงแน่นอน   ผมว่ารถโดยสารใช้เกิน 20 ปีนี่ก็น่าจะโละได้ละนะครับ   ไม่งั้นก็พาคนไปตายแบบนี้ ที่แย่ไปกว่านั้นผมกำลังมองว่าถ้ารถคันนี้ไม่เกิดอุบัติเหตุ  มันจะกลายเป็นรถวิ่งระยะสั้นอีกเช่นเคย   ลดระดับจาก ป.2วิ่งกทม.  มาวิ่งระหว่างจังหวัดแทน  ก็เสี่ยงอยู่ดี ใครอยู่เชียงใหม่  ลองไปดูรถเมล์เขียว ที่วิ่งระหว่างจังหวัดเดะ  น่ากลัวที่สุด   เก่ามากๆๆ  ขึ้นดอยขุนตานที  ลุ้นแทบตาย ความเห็นผมมันเป็นเหมือน ตัดไฟแต่ต้นลม เพราะผมมองว่าในขณะที่รถวิ่ง แล้วไฟลุกนี่ โอกาสรอดยาก   วันนี้ทราบข่าวว่าคนที่เสียชีวิตรายล่าสุดคือนายทหารที่เป็นคนออกแรงถีบกระจกรถ ให้แตกเพื่อให้คนอื่นกระโดด ก็ได้เสียชีวิตเป็นรายที่  30 แล้ว ขอไว้อาลัยครับ.......................... จากคุณ : pach111 - [ 21 มี.ค. 50 23:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ เมื่อวานเห็นภาพแล้วน่าสลดใจมาก อยากเห็นการให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยให้มากกว่านี้ในทุกเรื่องของประเทศเราค่ะ เป็นคนวิตกจริตกับเรื่องพวกนี้พอสมควร อย่างไปเกาะล้าน....ทราบว่าบนเรือไม่มีชูชีพ / มีน้อย   ก็ซื้อไปเองเลยค่ะ จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 21 มี.ค. 50 23:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ณ. สถานการณ์เช่นนั้น จะบอกว่า "ให้ใช้สติ"  คงยากนะครับ เพราะ "สัญชาติญาณของการเอาตัวรอด" ของแต่ละบุคคล มันไปคนละทิศ-ละทาง เหมือนตัวหอยเม่นในทะเลล่ะครับ  (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) ลองคิดตามดูนะครับว่าจะมีผู้โดยสารซักกี่ท่านที่รู้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ ฉุกเฉินขึ้นมาจะทำยังไง ? มันคงไม่มีสูตรสำเร็จล่ะมั้งครับ ( เป็นประโยคบอกเล่า นะครับ ขอย้ำ พร้อมขีดเส้นใต้ สองเส้น ) จากคุณ : Draught Beer - [ 21 มี.ค. 50 23:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 งั้นผมขีดเส้นใต้ให้ละกันครับ แต่ได้แค่เส้นเดียวนะครับ 2 เส้นทำไม่เป็น แล้วเพิ่มเป็นตัวหนาด้วย มันคงไม่มีสูตรสำเร็จล่ะมั้งครับ จากคุณ : Athlons - [ 21 มี.ค. 50 23:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอร่วมไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิต  และขอภาวนาให้ผู้ประกอบการช่วยกันตรวจเช็คสภาพรถให้ดีกว่านี้   ขอให้ทุกคนมีสติ  แต่สติอย่างเดียวอาจจะช่วยไม่ได้  ขอให้ทุกคนโชคดี  อย่าได้เจอะเจอกับเรื่องแบบนี้เป็นดีที่สุดค่ะ ประเทศไทย  คำว่า safety first  ยังห่างไกล  และไม่ตระหนักกันค่ะ จากคุณ : fantastic GiRL - [ 21 มี.ค. 50 23:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลองมองมุมนี้นะครับ เคยมีหลายครั้ง ที่สถานประกอบการหลายๆ แห่งทำการ "ซ้อม" อพยพหนีไฟ หรือว่าเหตุฉุกเฉิน กันเป็นอย่างดี แต่พอเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จริงๆ ขึ้นมา ไอ้ที่ซ้อมว่า ต้องไปทางขวานะ ทางซ้ายนะ  ห้ามออกทางนี้นะ ! ท่านทั้งหลายครับ เชื่อมั้ย ?   เกือบจะร้อยทั้งร้อย วิ่งกันแตกกระเจิง ขณะนั้นคิดแต่ว่า  "หนีตาย" จากคุณ : Draught Beer - [ 21 มี.ค. 50 23:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แตกกระเจิง..........แล้วไปเจอทางออกที่ถูกล็อคไว้ เคเดอร์  (ถ้าจำไม่ผิด) จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 21 มี.ค. 50 23:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณอาร์ตครับ ช่วยมาทำการขีดเส้นใต้ คำว่า  "หนีตาย"     ให้หน่อยซิครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 21 มี.ค. 50 23:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ได้เลยครับ หนีตาย ขอผมหนีตายไปนอนก่อนนะครับ จากคุณ : Athlons - [ 22 มี.ค. 50 00:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเลย อุบัติเหตุมันมาแบบเร็วกว่ากระพริบตา คิดแต่ว่าขอให้มีสติในขณะนั้นค่ะ แล้วก็ค่อย ๆ ดูสถานการณ์เอาว่าจะทำไงต่อไปดี เฮ่อออ พูดลำบากเพราะไม่เคยเจอกับตัวเอง คิดเล่น ๆ จะถีบกระจกให้แตกนี่คงไม่มีปัญญาค่ะ มองไว้ก็แต่ทางหนีทีไล่ ออกไปให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ ปล.อ่านข่าวแล้วเศร้าจัง แค่ความประมาท มักง่าย และเห็นแก่ได้ของคนไม่กี่คน ต้องสังเวยชีวิตกันอีกสักเท่าไหร่หนอ จากคุณ : ephi - [ 22 มี.ค. 50 03:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งี้ถ้าเกิดเวลาเราไปเที่ยวโดยการนั่งรถทัวร์ เราก็พกค้อน หรือ คีมล๊อก ตัวใหญ่ ๆ หนัก ๆ ไปด้วยดีมั้ยคับ มีไรได้เอาทุบกระจกได้ ปีนึงจะนั่งรถทัวร์สักหน ผมยอมแบกครับ สงสารแต่คนที่ต้องนั่งเป็นประจำนี่ดิครับ จากคุณ : benz47 - [ 22 มี.ค. 50 04:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สูตรของผมท่องไว้ รถ " แถวซ้ายกลางแถว " เครื่องบิน " หางเครื่อง " ทนกลิ่นเอาหน่อย..เพราะใกล้สุขา ....ให้รางวัลเจ้าของรถไป 2 แปะ... จากคุณ : เขยอัมพวา. - [ 22 มี.ค. 50 07:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กรมขนส่งทางบก และ บขส. ควรควบคุมดูแลรถโดยสาร ทั้งหมด  ให้เตรียมอุปกรณ์  (ฆ้อน,ชะแลง,ที่ทุบกระจก) ครบทุกครั้งที่ออกเดินทาง   ผมมีประสบการณ์อุบัติเหตุ 2 ครั้ง  1.รถตู้ชนรถ 18 ล้อ  หมุนหลายรอบ  คว่ำเอียง ด้านประตูถูกทับ   ต้องออกโดยทุบกระจกหน้าออกมา 2. รถปรับอากาศ ป.2 พขร.หลับใน คว่ำหงายท้องล้อ ชี้ฟ้า  ประตูหน้าติดออกลำบาก  ต้องออกตรงกระจกที่ เป็นหน้าต่าง  โชคดีกระจกแตก ถ้ามีเครื่องมือก็สะดวก ในการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ จากคุณ : คนรามอินทรา - [ 22 มี.ค. 50 07:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยทำงานเกี่ยวกับรถโดยสารขนาดใหญ่(นานมาก5-6 ปีแล้วนะครับหากปัจจุบันปรับปรุงแล้วก็ขออภัย)  ในที่ทำงานของผม ส่วนมากประตูฉุกเฉินจะขาดการดูแล บางคันเปิดด้วยมือไม่ได้ ในรถพวกเนี้ยเค้าจะมีที่ทุบกระจก ที่เป็นด้ามแดงๆแล้วหัวเป็นเหล็กติดอยู่ และมีถังดับเพลิง ด้วย เวลาเอารถไปตรวจสภาพ ก็ใช้วิธีเวียนอุปกรณ์พวกนี้เอาเพราะไม่มีคันไหนที่ครบหรอกครับ จากคุณ : mswing32 - [ 22 มี.ค. 50 07:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ : เขยอัมพวา  ผมนั่งรถปรับอากาศ ป.2 พลิกคว่ำ นั่ง " แถวซ้ายกลางแถว " ซี่โครงหัก 7 ซี่  แขนหลุด ไหปลาร้าหัก ต้องใส่เหล็กทุกวันนี้  นอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์  ไม่มีอะไรแน่นอน จากคุณ : คนรามอินทรา - [ 22 มี.ค. 50 07:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ฟังจากข่าวเค้าบอกว่า โดยปกติรถทัวร์จะมีเครื่องมือ ที่เค้าเรียกว่า กากเพชร (ได้ยินมาแบบนี้) เป็นเครื่องมือ สำหรับใช้กรีดขอบกระจก ติดไว้ตามผนังรถ ใช้เวลาต้องการเปิดกระจก คงจะใช้กรีดขอบกระจกเพื่อให้หลุดง่ายขึ้น เท็จจริงแค่ไหนก็ไ่ม่ทราบนะ เพราะเวลาขึ้นรถก็ไม่เคย สังเกตุซักที  และขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ จากคุณ : chommanad - [ 22 มี.ค. 50 09:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ : คนรามอินทรา      เสียใจด้วยนะคะ... นั่งคิดๆ อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่า ถ้าเป็นเราสงสัยไม่รอดแหง๋ๆ - ไม่ใจเด็ดพอจะกระโดดขณะรถวิ่ง - แล้วทำไมโชคร้ายซ้ำซ้อน มีเหตุให้มีสิ่งกีดขวางประตูรถ ทำให้ลงจากรถไม่ได้อีก คิดว่า..ต่อไป ถ้าดูท่าทางรถไม่ดี อาจจะลงก่อน แบบ อาจจะต้องยอมเสียดายค่าตั๋ว จากคุณ : ผมม้าหน้าเหมือนแมว - [ 22 มี.ค. 50 09:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อเดือนสองเดือนก่อน เราต้องไปทำงานที่ศรีราชา นั่งรถทัวร์ ป.1 จากเอกมัยออกราวๆ ตี5 ก็นั่งหลับไปพักนึง มาถึงตรงบางนาก่อนขึ้นบูพาวิถี เราเริ่มได้กลิ่นเหม็นๆ พอตื่นขึ้นมาในรถก็มีควันขาว เต็มไปหมดแล้ว ควันเนี่ยมาจากทางด้านหลังรถ ก็มีคนเรียกคนขับให้จอดรถมาดูหน่อย (คันนี้ไม่มีเด็กรถ) คนขับพอมาดูก็บอกไม่มีไรเดี๋ยวก็หาย ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติมากๆ แต่พอแป๊บเดียวควันก็ออกมามากกว่าเดิมเยอะ ผู้โดยสารทั้งคันรถวิ่งรถมาจากรถกันหมด ควันก็ออกมาจากใต้ท้องรถอีกเพียบเลย แต่สุดท้ายก็หาย แล้วทุกคนก็ขึ้นรถคันเดิมอีก พอมาตอนนี้ก็ได้แต่คิดว่าถ้าเราไม่โชคดีเหมือนตอนนั้น เหตุการณ์รุนแรงกว่าหรือมาเป็นเอาตอนที่รถวิ่งเร็วๆ บนบูรพาวิถีจะเป็นยังไง เหตุการณ์มันใกล้ตัวจริงๆคะ เลิกซักทีเถิดคะ ผู้ประกอบการที่คิดแต่ผลประโยชน์ไม่คิดถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร เอารถทัวร์ไปแต่งหน้าทาปากภายนอกใหม่เอี่ยม แต่ความปลอดภัยเป็นไงไม่รู้ ขอไว้อาลัยกับผู้จากไปคะ จากคุณ : Teru Teru Bozo - [ 22 มี.ค. 50 09:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รถคันที่เกิดเหตุนี้ ผ่านการตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปีมาได้อย่างไร อายุการใช้งาน 36 ปี รถที่มีอายุการใช้งานนานขนาดนี้ การตรวจสภาพควรจะต้องมีมาตรฐานในการตรวจที่เข้มงวดมากที่สุดอย่างยิ่งยวด อยากรู้จริงๆว่าได้รับการตรวจสภาพรถจากที่ใดระหว่าง กรมการขนส่งทางบกและเอกชน จากคุณ : ผ่านได้อย่างไร - [ 22 มี.ค. 50 09:43:50 A:58.9.43.72 X: TicketID:008578 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เคยดูรายการหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นรายการ "เมกะเครวเวอร์ ฉลาดสุด ๆ " ของ สวทช. หรือเปล่า เค้าเคยเอากระจกมาทดสอบให้ดู เป็นกระจกนิรภัย หรือกระจกธรรมดาก็ไม่แน่ใจ(ดูนานแล้ว) จำได้เพียงว่ากระจกชนิดนี้เค้ามีจุดอ่อนไหว หรือจุดอ่อนอ่ะ ที่เวลาไปกระทบถูกจุดนี้ กระจกก็จะแตกเป็นเม็ด และถล่มลงมาทั้งบาน หรือเป็นกระจกที่ใช้ในการแสดงหว่า??? ไม่แน่ใจจริง ๆ อันนี้ต้องขออภัย ถ้าหากผู้ประกอบการขนส่ง เปลี่ยนมาใช้กระจกชนิดนี้แทนน่าจะปลอดภัยขึ้นอ่ะ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถออกทางประตูได้ตามปกติ ก็สามารถเคาะกระจกตรงจุดอ่อนไหวของเค้าได้ ทำให้รักษาชีวิตของผู้โดยสารได้มากขึ้น จากคุณ : บัตรผ่าน 133xxx - [ 22 มี.ค. 50 09:48:31 A:10.14.9.136 X:203.150.46.99, 203.154.77.9 TicketID:133046 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไว้อาลัยกับผู้จากไป ตอนเกิดเหตุก็อยากมีสติน่ะค่ะ  แต่คนอื่นไม่มีสติไปด้วย เลยพาลสติแตกกันไปใหญ่  ที่แคบๆ คนเยอะๆ อย่าง รถทัวร์ ทุกคนต้องพากันเอาตัวรอดก่อนหล่ะค่ะ แต่นึกภาพแล้วก็ใจหาย สงสารพวกเค้า ไอ้พวกเห็นแก่ตัวนี่มันน่า..จิงๆ จากคุณ : รอยร้าวไม่เคยจาง - [ 22 มี.ค. 50 09:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ ดูจากข่าวแล้วน่ากลัวมาก เป็นเราคงคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำยังไง กระจกรถทัวร์หนามากจริงๆ แรกเลยคงดูว่าคนที่คุ้นกะรถที่สุด คือ คนขับ เด็กรถ ทำยังไง แล้วเราจะตามท่านไป แต่ถ้า 2 คนนี้สลบไปแล้ว จะทำยังไง ยังคิดไม่ออก - -" จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 22 มี.ค. 50 10:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ต้องประเมินสถานการณ์ไว้แต่แรกแล้วละครับ ยิ่งถ้าเกี่ยวกับไฟและน้ำมัน เพียง 1-2 นาที ก็จะกลายเป็นไฟที่ควบคุมไม่ได้แล้ว เป็นผม จะไม่รอให้ถึงสถานการณ์นั้น ลงก่อนเลยครับ เพราะมีลำดับเหตุการณ์หลายขั้นตอน กว่าจะมาถึงจุดที่เกิดเพลิงไหม้ ผมจะตัดตอนก่อนนั้นแล้ว แต่ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้น สถานที่คับแคบ ไฟลามมาจากด้านหลัง ควันพิษเต็มรถ ผู้คนราว 50 คนที่สับสนอลม่าน วิ่งไปออกันที่ประตูทางออก (ที่จริง ไม่ต้องโดนไฟคลอก แค่ควันพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ เพียง 1-2 นาที ก็หมดสติแล้วครับ) รถก็วิ่งอยู่ ทางเดียวที่จะรอด(ไปตายเอาดาบหน้า)คือ พุ่งหลาวออกจากตัวรถ  แล้วทางออกล่ะ?   ต้องอย่ารอให้รถคว่ำ เพราะถ้าคว่ำ ทางออกจะถูกปิดกั้นเกือบหมด ด้านที่คว่ำ ไม่มีทางแน่ ด้านตรงข้าม เอื้อมไม่ถึงแน่ มันจะพลิกมาอยู่เหนือหัวเรา เหลือแต่กระจกทางด้านหน้า แต่ถึงตอนนี้ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะอาจบาดเจ็บจนหมดสติตอนรถคว่ำ รอไฟคลอกอย่างเดียว สยอง อะไรอยู่ใกล้มือก็ต้องเอาทุบกระจกก่อนละครับ จากคุณ : นายทะเบียน - [ 22 มี.ค. 50 10:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ  เห็น ภาพ สะเมือนใจมากๆ ส่วนตัวเรา บางทีก็ ใช้ รถ ทรัว์ กลับบ้าน บ่อยๆ 1-2 ครั้งต่อเดือน รถส่วนตัวบ้าง ..เดินทางไปกลับ  10 ชม . ตั้งสติ ค่ะ .. บางทีก็ พูดยากนะ  นั่งตรงไหนดี .. ตาม ดวง ตามเวรกรรมที่  ชะตาลิขิต .. รถทรัว์ เราที่นั่งกลับบ่อยๆ จะโชคดีที่  เพื่อน เป็น คนขับเลย สั่งได้ เฮ้ย ขับช้านะเว้ย  จะนอนหลับ .. ส่วนใหญ่เราจะเลือก กลางๆ 20 กว่า นั่งฝั่งคนขับ  เพราะจังหวะแซง  จังหวะเบียด อะไรพวกนี้ และก็ ถ้าขับเร็วนี่จะไม่หลับ  ก็ เหมือนระวังตัว  เพราะ ส่วนตัวเคยเจออุบัติเหตุ รถ ส่วนตัว หลายๆครั้ง 5-6 ครั้ง  ไม่เจ็บอะไรเลย มันจะ ระวังตัวเองไปเลย..  ตอนที่เรามีสติจะ ป้องกันตัวได้ดีกว่า  ตอนที่เราหลับ .. ถ้าเห็นอะไร ไม่ชอบ มาพากล  ก็ โวยวาย ก็เคยมาแล้ว โวย วายกันทั้งคัน .. อยู่ที่สติ  ..เพราะ ฉนั้น  อย่า ใชวิตประมาท  หมั่นทำบุญ ทำทาน  เสริมบุญ บารมีมั่ง เอาธรรมมะ  มาช่วย ทำให้เรามีสติ น่ะ .. จากคุณ : honeybfit - [ 22 มี.ค. 50 10:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อคืนก็คุยกับแม่เรื่องนี้เหมือนกันพี่อาร์ต หนูยังบอกแม่เลยว่าเวลาหนูไปจันทบุรี ต้องนั่งรถทัวร์ ทุกครั้ง .. หนูไม่เคยคิดเอะใจเลยค่ะว่าต้องพกฆ้อน พกอะไรหนา ๆ สำหรับทุบกระจก คิดแต่ว่า ไปยังไง ให้แบกเป้ได้สบายที่สุด ตัวเบาที่สุด .. มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ สภาพศพเรียงรายกัน ดูแล้วนึกถึงตัวเองที่รอดมาได้ทุกครั้งจากการนั่งรถทัวร์ สาธุและขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เลยค่ะ ครั้งหน้า สงสัยต้องพกฆ้อนเล็กๆ ติดตัวแล้วล่ะ ไม่ว่าจะในรถส่วนตัว หรือพกขึ้นรถทัวร์เนี่ย สติเนี่ยหนูพยายามมีติดตัวตลอดเวลา แต่อย่างที่หลายความเห็นบอก .. ถ้าคนอื่นไม่มีสติ บางที มันก็รอดยากเหมือนกันอ่ะพี่อาร์ต จากคุณ : ยูโด - [ 22 มี.ค. 50 10:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ทุกครั้งที่ผมใช้บริการรถทัวร์ ผมมักจะมองเสมอว่า หากเกิดอะไรขึ้น ผมจะถีบกระจกบานไหน จริงอยู่ครับ กระจกรถทัวร์หนา อาจจะแตกยาก แต่โอกาสหลุดทั้งบานก็มีครับ นอนหงายลงกับที่นั่ง แล้วถีบ 2 เท้าพร้อมกัน ดีกว่าไปออกันอยู่ที่ประตู ลงตามสถานีธรรมดาก็แย่อยู่แล้ว ลงเหตุฉุกเฉินคงไม่ต้องคิด จากคุณ : ฟุราเกะ - [ 22 มี.ค. 50 11:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นายทหารกล้า ตัวจริง  นายลำพูน     จักรพล ช่วยถีบกระจก ให้คนอื่นหนีออกมา ส่วนตัวเอง  ต้องจบชีวิตลง ด้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหว ขอร่วมไว้อาลัย และสดุดีในความกล้าหาญ และมีน้ำใจ ส่วนตัวคิดว่า  ต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้  แต่ถ้าเลือกไม่ได้  ก็ต้องมีสติอยู่เสมอ คืออย่าหลับ  และคอยมองหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน  หากเห็นว่ามีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และเห็นด้วย ที่ควรพก น้ำดื่ม ผ้าเช็ดหน้า และค้อนเล็กๆ ติดตัวเวลาเดินทาง จากคุณ : ยินดียิ่ง - [ 22 มี.ค. 50 11:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ปกติ บนรถทัวร์ก็จะมีฆ้อนทุบกระจกอยู่แล้วรึเปล่าครับ ผมเคยเห็นของ บขส.(VIP) กับนครชัยทัวร์ (หลายปีแล้ว) ตอนที่เห็นนั้นยังนึกในใจว่า " แขวนอยู่อย่างนั้น โอกาสที่จะได้ใช้คงยาก"   พอมีข่าวนี้ขึ้นมา ผมยังนึกถึงตอนนั้นเลย จากคุณ : Draught Beer - [ 22 มี.ค. 50 11:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ได้ฟังเรื่องกากเพชรในคห.25 เหมือนกัน ว่าเป็นเครื่องมือกรีดกระจก ที่เค้ามีติดตามผนังรถทัวร์ แต่ก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าหน้าตาเป็นไง ติดตรงไหน ใช้กรีดนำแบบร้านกระจกร้านกรอบรูปรึเปล่า หรือถ้าใช้ฆ้อนที่คุณ Draught Beer ว่า จะง่ายกว่ามั้ย พวกทัวร์เค้าน่าชี้แจงเรื่องพวกนี้อีกนิดเนอะ จากคุณ : LIFE AFTER DEATH - [ 22 มี.ค. 50 12:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาร่วมแสดงความเสียใจด้วยครับ...รถไฟใต้ดินที่เมืองนอกก็จะมีฆ้อนกับถังดับเพลิงติดไว้ สำหรับบ้านเราเผื่อเหนียวเอาไว้ก็พกฆ้อนไปด้วยก็ไม่น่าเสียหาย ผมก็เอาติดรถไว้ใต้เบาะเหมือนกัน มีไว้แล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าเวลาจำเป็นไม่มีจะใช้นะครับ..เผื่อไว้ในการเดินทางจะดีกว่า  เรื่องไฟใหม้รถผมเคยเจอบนรถทัวร์เช่าเหมาเมื่อปีที่แล้วสภาพรถดูดี  ข้างในเยี่ยม ขับมาถึงมวกเหล็กมีกลิ่นไหม้ คนขับบอกกว่าไม่เป็นไรจะถึงที่หมายแล้วก็ขับต่อ ไปได้ไม่ไกลมีควันโขมงออกมา ทุกคนโวยและรถคันหลังบีบแตรไล่มาบอกถึงจะได้จอด..ขนาดทุกคนมีสติไม่แตกตื่นค่อยๆทยอยลงกันแต่เนื่องด้วยช่องทางเดินที่แคบพอทุกคนยืนขึ้นมันก็ติดโดยอัตโนมัติขยับไม่ได้แล้วทางออกต้องก้าวลงทีละขั้นประตูก็แคบออกได้ทีละคน กว่าจะลงได้หมดใช้เวลาเกินกว่า5นาที ที่รู้สึกว่ายาวนานมากทีเดียว จากคุณ : Red Fox - [ 22 มี.ค. 50 15:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เพิ่งเข้ามาดู ข้อมูลเยอะแยะเลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาร่วมแชร์กันครับ จากคุณ : Athlons - [ 22 มี.ค. 50 15:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เคยอยู่ในสถานการณ์นั่งรถทัวร์แล้วก็จู่ๆ มีควันโขมงขึ้นมาจากข้างหลังเหมือนกันค่ะ พอคนขับรู้ว่ามีควันโขมงมาจากท้ายรถ เค้าก็จอดรถและวิ่งไปดูท้ายรถเลยค่ะ โดยคนขับก็ผลักประตูปิดตามหลังเลย และรถก็ล็อคอัตโนมัติ เปิดไม่ได้ทั้งสองฝั่ง (ทั้งซ้าย+ขวา--ด้านคนขับ) คนในรถก็ตกใจเมื่อเด็กรถบอกว่าเปิดไม่ได้ ประตูล็อค จำได้ว่าครั้งนั้นมีน้องเขย(ตัวโต)ไปด้วย น้องเขยเค้าก็มองหาที่ทุบกระจก (สีแดงๆ ที่แขวนข้างกระจกนั่นแหละค่ะ) โชคยังดีที่คนขับนึกได้ว่าประตูล็อค+คนจะออก คนขับก็วิ่งมาเปิดประตูให้ และทุกคนก็แทบกระโจนออกมาจากรถเลยค่ะ   ปัญหาที่เห็นๆตอนนั้นคือว่า 1. ประตูฉุกเฉินปกติจะอยู่ค่อนไปทางด้านหลัง  ในกรณีที่มีเหตุการณ์หยั่งงี้จากด้านหลัง ก็หมดโอกาสที่จะเปิดประตูฉุกเฉิน  2. ประตูที่จะออกได้คือ ด้านหน้า - ซ้ายและขวา(ด้านคนขับ) แคบและออกได้ทีละคนซึ่งในเวลาฉุกละหุกหยั่งนี้ มีแต่คนรีบ ฉะนั้นทางออกที่มีไม่พอแน่นอนค่ะ   ดังนั้นจึงเห็นว่าควรหาวิธีที่จะเปิดทางออกให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะกระจกด้านข้างที่ว่านั้น หนาจริงๆนะคะ ต้องใช้ที่ทุบกระจก+ใช้แรงงานผู้ชายที่แข็งมากๆ ด้วยค่ะ ถึงจะทุบแตกได้ แต่อย่าลืมว่าต้องทำให้ได้ภายในเวลาที่น้อยนิดด้วยนะคะ และก็... ขอแสดงความเสียใจสำหรับเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอให้เหตุการณ์อย่างนี้อย่าเกิดขึ้นอีกเลย และขอให้ทุกๆบริษัทเข้มงวดทั้งเรื่องสภาพรถและทางออกในกรณีฉุกเฉินด้วยค่ะ รวมทั้งทางการก็น่าจะมีบทลงโทษที่ร้ายแรงมากที่สุดเพื่อให้บริษัทที่ละเลยในเรื่องความปลอดภัยกลัวที่จะละเลยในเรื่องนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : เบื้องญวน (เบื้องญวณ) - [ 22 มี.ค. 50 16:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ ครับ ผมเคยอยู่ในประสบการณ์รถไหม้เช่นกันครับ เป็นรถ ปอ. ครับ จำสายไม่ได้แล้ว ขับๆ แล้วควันมันออก เชื่อมั้ยครับ ว่าแป๊บเดียวหลังจากควันออกมาแป๊บเดียว ไฟลุกใหม่ทั้งคันเลยครับ บอกตรงๆ ว่าตอนนั้น ทุกคนแย่งกันจะลงแต่ประตูรถตรงกลางรถ ผมซึ่งนั่งอยู่ทางด้านหลัง รู้ก็รู้ว่ามีประตูฉุกเฉิน และทุกคนในรถ เวลานั้นไม่มีใครนึกถึงครับ พยายามจะเบียดลงจากรถตรงประตูกลางให้เร็วที่สุด ผู้โดยสารลงจากรถได้หมด ประมาณไม่เกิน 5 นาที เชื่อมั้ยครับว่าไฟใหม้รถคันนั้นทั้งคันครับ หลังจากวันนั้นยังนึกเลยว่าทำไมไม่เปิดและลงทางประตูฉุกเฉิน ซึ่งก้ยอมรับว่า นาทีนั้น มันคิดอะไรไม่ออกหรอกครับ พยายามแต่จะออกอย่างเดียวให้เร็วที่สุด จากคุณ : ละอ่อนดึก - [ 22 มี.ค. 50 19:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอนอ่านข่าวก็นั่งนึกค่ะ ถ้าเป็นเราจะลงตั้งแต่เค้าซ่อมรถเลยหรือเปล่า แล้วต่อรถคันใหม่ ถ้าเห็นอาการมันไม่ดี แล้วจะขอลงระหว่างทางเลย แต่เราว่าคนขับรถเค้าก็ไม่บอกหรอกว่ารถสภาพไม่ดี ปล.ใครมีรูปเจ้ากากเพชรที่ไว้กรีดกระจกให้ดูมั่งมั๊ยคะ เราจะได้สังเกตไว้ครั้งต่อๆ ไป นอกประเด็นนิดหน่อยนะคะ อย่าว่าแต่รถทัวร์เลย รถที่เราขับอยู่ก็เหมือนกัน เคยคิดด้วยถ้ารถล็อค รถไฟไหม้ จะทำอย่างไร เห็นทีต้องซื้อฆ้อนติดรถไว้มั่งก็ดี ถามผู้รู้นิดนึงค่ะ เจ้าเข็มขัดนิรภัยเกิดมันล๊อค เราสามารถใช้กรรไกร หรือคัตเตอร์ตัดได้หรือเปล่าคะ จากคุณ : ทะเลตะวัน - [ 22 มี.ค. 50 22:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กระจก safety จะมีจุดสำหรับทุบแล้วแตก กับเหล็กเคาะกระจกคล้ายๆ ที่ฉีดรถน้ำต้นไม้ เคาะตรงนั้นกระจกก็จะแตกง่ายๆ  ในรถไฟฟ้าก็มีครับ จากคุณ : dadd - [ 23 มี.ค. 50 23:51:51 ]