ความคิดเห็นที่ 1 การเดินทางมาน้ำตกขุนพะวอ ของคณะเราในวันนี้บอกตรงๆครับทุกคนพร้อมมากๆ และคิดว่าคงใช้เวลาไม่มากในการเดินเท้าเข้าไปสำรวจส่วนหัวน้ำตกที่อยู่บนยอดเขาก่อน จากนั้นจะเปิดทางโดยการโรยตัวลงไปด้านล่างสุดของน้ำตก แล้วปีนเขากลับขึ้นมาซึ่งดูแล้ว มันไม่น่าจะยากกว่าที่วางแผนไว้เมื่อคืนนี้... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 00:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เช้าวันที่ 11 มีนา 50 เราออกเดินทางจากบ้านพี่พันธ์ ที่แม่ละเมามุ่งหน้าเข้าแม่สอดแล้วเลี้ยวขวาไปทาง อ.แม่ละมาด บ่ายหน้ามุ่งสู่ อช.ขุนพะวอ  วันนี้ท้องฟ้าดูยังไงก็ไม่สดใสเอาซะเลย อากาศขมุขมัวบอกไม่ถูก  หลังจากรถคณะเราแล่นมาถึงด่านตรวจของทหารเพื่อความมั่นคง แจ้งความประสงค์ของการเดินทางมาครั้งนี้ให้ทหารทราบเรียบร้อย รถเราก็แล่นเข้าสู่เทือกเขาขุนพะวอ ค่อยๆไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ  ยิ่งการเดินทางของเราสูงขึ้นกว่าระดับน้ำทะเลไปเรื่อยๆกลุ่มหมอกควันก็ยิ่งหนาตามากขึ้นทุกที ขณะที่รถไต่ระดับมาถึงจุดสูงที่ 1,100 เมตร  เราจะสามารถมองเห็นควันปริศนาได้อย่างชัดเจน มันเป็นไฟป่าที่เผาผลาญผืนป่ารอบๆเขตอุทยานแห่งนี้นี่เอง...... ภาพบน: ร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 00:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คณะเราได้พบกับท่านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ พี่ประสาท ได้แนะนำตัวเองกับพวกเราเรียบร้อยแล้ว ก็เชิญชวนพวกเราทุกๆคนประมาณเกือบ 20 ชีวิต ทานอาหารเที่ยงที่ร้านค้าสวัสดิการของ อช.ด้วยกัน... จากนั้นพี่ประสาท ก็เริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆและวัตถุประสงค์ของท่านที่ตั้งใจเชิญพวกเราๆมากันในวันนี้ เริ่มจากเรื่อง... -ความคิดของท่านต้องการปรับเปลี่ยนทัศนวิสัยของชุมชนรอบๆผืนป่าขุนพะวอแห่งนี้ จากคนเคยทำไร่เลื่อนลอยและหาของป่าจนในปัจจุบันนี้ป่าบางที่ก็เสื่อมโทรมไปมากและเร็วกว่าที่คิด ท่านต้องการให้ชุมชนชาวม้งก็ดีหรือกระเหรี่ยงก็ดี หยุดการปลูกสร้างถากถางภูเขาเพื่อทำไร่เลื่อนลอย นั่นก็เพราะว่าป่าแห่งนี้ใกล้ๆจะกลายเป็นเขาหัวโล้นหมดแล้ว  ท่านบอกว่าเมื่อมีการจับกุมผู้บุกรุกป่าครั้งใดก็ตาม ท่านจะรู้เลยว่าเรื่องจะเดินต่อไปแบบลึกๆอย่างใด ก็เพราะว่าคนม้งหรือกระเหรี่ยงคือผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ใดๆแต่จะมีนายทุนจากในเมืองมาประกันตัวออกไป แล้วก็จ้างคนเหล่านี้บุกป่าถางไร่ให้ทิ้งร้างไว้หลายๆปีโดยไม่ได้ทำการเกษตรแบบต่อเนื่อง จากนั้นไม่นานไร่ร้างดังกล่าวก็จะกลับมามีเจ้าของที่เป็นผู้มีฐานะ แล้วค่อยจ้างกระเหรี่ยงมาปลูกพืชไร่ เค้าเหล่านี้ที่เข้ามาได้ก็เพราะกฏระเบียบของอุทยานฯประกาศสภาวะช่วยเหลือชุมชนภูเขาโดยเฉพาะพื้นว่า ไร่ที่เคยทำมาหากินมาก่อนสามารถปลูกผักพืชผลต่อเนื่องได้โดยไม่ผิดกฏหมายนั่นเอง และอีกปัญหาที่ต้องการความขยายจากคนของรัฐด้วยกัน ที่จะต้องเข้าช่วยกันแก้ปัญหามากกว่าต่างคนเข้ามาทำงานเพื่อชิงมวลชนในพื้นที่ป่าสงวน โดยนำปุ๋ยมาแจกฟรีแบบโครงการของเกษตรจังหวัด...แต่ป่าไม้ชาวบ้านจะเกลียดมากเพราะป่าไม้..คือจับกุมไม่มีแจกแบบเกษตร... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 01:59:57 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 01:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นี่คือลูกหมี...ชื่อดวงดี  แม่หมีตายเพราะถูกยิง ส่วนพ่อหมีไม่มีใครทราบความเป็นมา... เรามาสรุปเรื่องราวการพูดคุยคราวๆที่ว่า ท่านหัวหน้าประสาท ต้องการเปิดตัวน้ำตกแห่งนี้ให้มีผู้คนได้รู้จักมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และต้องการสร้างรายได้จากการให้ชุมชนนำเดินป่าพาเที่ยวน้ำตกและผลิตสิ่งของที่ระลึกจำหน่ายพร้อมกับให้เค้าเหล่านักล่าชาวม้งได้รู้จักว่า เมื่อป่าสมบูรณ์มีธรรมชาติที่ดีพร้อม นักท่องเที่ยวจัเข้ามาหาและทำให้เกิดรายได้มีผลดีต่อชุมชนของเค้า...นั่นก็คืออีกหนึ่งเหตุผลในจำนวนหลายๆสิ่งที่ตั้งใจจะพัฒนาที่นี่... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ท่านต้องการความช่วยเหลือจากเราก็คือ.. ช่วยกันสำรวจและเก็บข้อมูลจากผลดีและเสียมานำเสนอให้ระดับกรมทราบถึงการจะพัฒนาน้ำตกแห่งนี้ขึ้น. -เรารับทราบถึงวัตถุประสงค์ของท่านเรียบร้อยแล้ว  ต่อจากนั้นก็ต้องทราบถึงจุดพิกัดของน้ำตกและรายละเอียดของเส้นทางเข้าสู่น้ำตกแห่งนี้ เพื่อการเตรียมการต่างๆจะได้ไม่มีการผิดพลาดใดๆ  เมื่อสรุปกันได้แล้วคือว่า คณะเราต้องเดินไปตามสันเขาเรื่อยๆทีละลูกยอดต่อยอด โดยข้อมูลอุทยานบอกว่าระยะทางประมาณกิโลเศษ เราคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม.ถึงหัวน้ำตก จากนั้นก็โรยตัวลงไปพร้อมกับการเคลียร์เส้นทางที่รกร้าให้ดูดีด้วย แล้วก็เก็บบันทึกพันธุ์ไม้ระหว่างทางนำมาประกอบเอกสารแนะนำ.. 11.30 น.  เราจึงเริ่มออกเดินทางไปสำรวจน้ำตกแห่งนี้กัน จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้องริน-น้องลี่-น้องป้อม  สามสาวบอกว่างานนี้เข้าทางนักเดินอย่างเราๆ วันไหนไม่ได้เดินด้วยเท้าแล้วมันจะลงแดง... ทุกคนต่างรับทราบถึงแผนการแต่ละคนแต่ละหน้าที่ ที่ต้องช่วยกันตั้งแต่ต้องแบกเชือกยาว 200 เมตรถึง 3 เส้นและอุปกรณ์อีกหลายร้อยโล ไม่มีบ่นเมือช่วยกันกินแล้ว ก็ต้องช่วยกันแบกว่างั้น.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินเท้าจากนี่กิโลเศษหากในป่าปกติก็ถือว่าไม่ง่ายนัก เพราะไหนจะไต่ความสูงขึ้นลงตามยอดเขาลงหุบผ่านเหวไปเรื่อยๆก็เหนื่อยไม่ไช่น้อย เราเดินเร่งเท้าเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพราะเวลามีน้อยที่สำคัญ ทางเดินแต่ละเส้นทางจะผ่านกลุ่มหมอกควันและจุดที่ไฟป่ากำลังเผาผลาญแบบไม่มีท่าทีจะหยุด อากาศหายใจยิ่งสูงและมีหมอกควันหนาแน่นอย่างนี้ยิ่งหายใจลำบาก และเหนื่อยง่าย  เราเดินไปหยุดไปช่วยดับไฟป่าเป็นระยะๆเท่าที่สามารถจะทำได้ เนื่องจากไฟป่าขณะนี้ได้ขยายวงกว้างไปกว่าที่เราจะหยุดมันได้ แถมบางแห่งกำลังลุกไหม้ขอบเหวพอดีเราก็ไม่เสียงจนเกินไป อาจจะพลาดได้กลายเป็นปัญหาหนักว่าเดิมเข้าไปอีก... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราเดินไปหยุดไปตลอดเส้นทาง เพื่อดูพื้นที่รอบๆผืนป่าแห่งนี้ที่เกิดปัญหาไฟป่าเต็มพื้นที่ด้านล่างไปหมด จากระดับความสูงที่เรายืนอยู่ก็น่าจะประมาณ 1,200 เมตร สามารถมองเห็นไกลๆเขาต่อเขา จากเวลา 1 ชม.ยิ่งเดินยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆและคาดว่ามากกว่ากิโลเศษแน่นอนกับระยะทางที่เราเดินผ่านมา จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อเท็จจริงแล้วเส้นทางที่เราเดินนี้ จะเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านกระเหรี่งกลุ่มใหญ่ใช้เดินเข้า-ออกเพราะมีไร่ภูเขาและบ้านที่อยู่อาศัยในป่าแห่งนี้ด้วย เดินเท้าต่อไปลูกแล้วลูกเล่า 2 ชม.เศษเริ่มได้ยินเสียงของน้ำตกดังมาจากด้านล่างหุบเขาที่ยืนอยู่ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 02:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราเริ่มจะมองเห็นน้ำตกขุนพะวอที่ว่าแห่งนี้แล้วล่ะครับ... ตัวน้ำตกจริงๆแล้วจะอยู่คนละด้านกับจุดที่เรายืนอยู่ เพราะฉนั้นเราจะต้องเดินตัดข้ามเขาอีกลูกลงไปหาน้ำตกดังกล่าว วันนี้ถึงแม้นว่าท้องฟ้าจะปิดเพราะหมอกควัน แต่ดีกับเราตรงที่ว่าแสงแดดไม่แรงและลมเย็นๆพัดมาไกลๆต้นไม้ใหญ่แผ่ร่มกว้างบังเงาให้เราร่มเย็นจริงๆ เราสัมผัสธรรมชาติที่ไร้แสงสีได้ดีมากๆ เราวางแผนใหม่หลังจากได้เห็นสภาพพื้นที่จริงแล้ว โดยส่งทีมแรกไต่เขาลงไปที่หัวน้ำตกด้านล่างหุบเขาก่อน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานและหัวหน้าประสาทนำขบวนชักแถวล่วงหน้าไป ส่วนน้อยไม่กี่ท่านพร้อมน้องๆจาก อช.ขุนพะวอจะเดินเหยียบต้นไม้ใหญ่ที่ละต้นลงไปที่พื้นราบใต้สุดของน้ำตกที่มีสองชั้น จากความลึกกว่าร่วมครึ่งกิโลแต่ชันมากเกือบๆ90องศา ทำให้เราต้องระมัดระวังอย่างสูงในการเคลื่อนย้ายที่ละนิด สำหรับคนที่ลงไปด้านใต้ของน้ำตก เหตุผลหนึ่งก็คือจะคอยแจ้งจุดให้ทางทีมงานที่บุกขึ้นไปสำรวจหัวน้ำตกได้ทราบจุดต่างๆของด้านล่างทั้งหมดว่าเป็นอย่างไรบ้าง.... เดี๋ยวลองตามไปดูทีมสำรวจหัวน้ำตกกันก่อนว่าเค้าจะทำอย่างไรเมื่อเจอต้นน้ำดังกล่าวและจะช่วยสำรวจจุดต่างๆของหน้าผาที่สายน้ำพาดผ่านอย่างไรกัน... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 03:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับน้ำตกขุนพะวอ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เดียว ความสูงประมาณ 65-70 เมตร เกือบๆตั้งฉาก 90 องศา สายน้ำจะไหลผ่านตอนบนมาจากเทือกเขาขุนพะวอหลายสายแล้วมารวมที่จุดเขาขาดก่อนจะไหลลงสู่แผ่นผาที่กว้างกว่า 30 เมตร แต่ช่วงที่ไหลลงด้านล่างนั้นได้แยกตัวสายน้ำออกเป็นสองทาง ด้านหนึ่งจะลงสู่อ่างลึกด้านล่างสุด ส่วนอีกด้านหนึ่งได้ไหลลงลาดๆไปตามผ่นหินแล้วไปรวมกันที่อ่างใหญ่  น้ำตกอห่งนี้ขนาบข้างไปด้วยภูเขาทั้งสองด้าน มองดูแล้วงดงามยิ่งใหญ่จริงๆ เมื่อคณะเราถึงจุดที่ถือว่าเป็นด้านบนสุดของน้ำตกแล้ว ก็ออกเดินดูรอบๆบริเวณทั้งพืชน้ำและบกตลอดจนหินสีที่เกิดเกาะตัวตามธรรมชาติของภูมิภาคแถบนี้ที่เป็นหินปูนแน่นมาก สัตว์ป่าแถบนี้จะมาอาศัยดื่มกินแหลงน้ำจากที่นี่เสมอๆในฤดูร้อนนี้ก็เช่นกัน... ในที่สุดเราก็ตัดสินใจจะโรยตัวลงจากทางด้านนี้ลงไปขดูข้างล่าง จึงสรุปการทำงานอีกครั้งเพื่อตืดตั้งระบบเซฟตี้และแบล็คอัพของการโรยตัวและวางจุดเพื่อบันทึกภาพเก็บรายละเอียดตามหน้าผาลงไปด้วย......... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การทำงานที่สูงทุกๆครั้งปราการสำคัญคือการหาจุดสร้างแองค์เคอร์ เพื่อยึดเชือกที่จะใช้งานโรยตัว เพราะฉนั้นหลักๆก็คือต้นไม้ เราจะไม่ทำการเจาะฝั่งวัสดุสิ่งใดที่แปลกปลอมลงไปในหินทั้งสิ้น ทุกๆครั้งที่เราเดินทางไปสำรวจกันจะไม่ทำให้เกิดความเสียแก่ผืนป่าแต่อย่างใด... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 04:13:53 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อเราทำการติดตั้งระบบอุปกรณ์เรียบร้อย คนแรกหรือสองคนก็ตามจะทำการหาไลน์ เพื่อโยนเชือกลงสู่ด้านล่างหรือโรยตัวลงไปเช็คเชือกเส้นที่เป็นเมนหลัก โดยนำเชือกใส่ถุงเชือก ค่อยโรยตัวลงไปปล่อยออกจากถุงเก็บเชือกช้าๆ จนสิ้นสุดถึงพื้นดินจึงเคลียร์เชือกด้วยแยกออกจากกันเป็นสองไลน์หรือสามก็แล้วแต่ที่พื้นที่จะอำนวย... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 04:19:27 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อเชือกถูกเคลียร์เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ด้านล่างจะแจ้งผ่าน วอแดง.ขึ้นมาให้ด้านบนทราบ เพื่อให้พร้อมทุกๆอย่างจึงเริ่มปล่อยลูกทีมลงไปตามจุดต่างๆที่กำหนด วันนี้เส้นทางโรยตัวถูกบังคับให้เชือกสองเส้นโดนสายน้ำที่เย็นมากๆ ตั้งต้นน้ำตกลงไปเลย ส่วนอีกเส้นผู้นทึกภาพจะใช้แขวนตัวกลางหน้าผาเพื่อรอถ่าพในท่าทางต่างๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับถุงเชือกที่มีความยาว 200 เมตร หนักเอาเรื่องที่เดียวจะค่อยถูกปล่อยลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ คุณภาพของเชือกที่ใช้สำหรับการโรยตัวผ่านน้ำตกนี้ จะเน้นเฉพาะทางเพราะเชือก Static เหมือนกันแต่ชีลที่หุ้มใยเชือกภายในจะหนากว่าทุกชนิดที่ใช้งานโรยตัว เนื่องจากการป้องกันฉีกขาดของใยเชือกนั่นเอง  อุปกรณ์การโรยตัวที่เห็นในภาพต่างๆนี้ จะเป็นอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งบ้านเรายังไม่มีการผลิตที่เป็นมาตรฐานตามกฏของสมาคมปีนผาระดับต่างประเทศ หรือสมาคมIUAA จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากเคลียร์เส้นทางเรียบร้อบทุกอย่างพร้อม..คู่แรกลงได้...เคลียร์ๆๆ เสียงจาก วอแดง ส่งสัญญาณบอกขึ้นมา คู่แรก..หัวหน้าอุทยานฯ พี่ประสาทขอลงก่อนคู่กับมิเชลล์ หลานสาวคนเก่งจากสาริกา แอดเวนเจอร์ นครนายก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาด้วยน้องมิเชลล์.... ต่างก็ลื่นไหลลงมาตามสายน้ำที่เย็นระเยือก ในความสูงกว่า 65-70 เมตร จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีกช๊อตเด็ดๆ....ท่ามกลางสายน้ำ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น้องอิ๋ว....คนต่อมาที่โดนน้ำเต็มๆจนถึงพื้น จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มุมเสยๆขึ้นท้องฟ้าเล็กๆ........... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น้องป้อม..สาวน้อยจากเทคกิ้งไทย ยืนส่งยิ้มพร้อมที่จะลงไปดูบรรยากาศข้างล่าง........ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความมั่นที่มีเกินร้อย...บวกกับความตั้งใจที่ช่วยกันทำงานและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆไม่ว่าที่ไหน..ป้อมไปด้วย... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อีกภาพที่ประทับใจในสีหน้าแววตา ของหญิงมั่นคนนี้... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มุมนี้มองยาวๆ......... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก่อนลงแตะพื้นน้ำในอ่างวังวนที่ชุ่มฉ่ำ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามลงมาอีกสองท่าน...... ท่านหนึ่งคือคุณทัช..จากเทคเกอร์ฮัท ที่เราๆยอมรับว่างานหลักๆคือเดินป่าเพื่อค้นหาตัวตน ความฝันล่าสุดอยากไปโรยตัวลงถ้ำที่น้ำบ่อผี ปางมะผ้า เพื่อดูต้นไม้ใต้ถ้ำแห่งนั้นเติบโตได้อย่างไร... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับคนที่ถึงพื้นดินก่อนเพื่อน ก็ต้องรีบก่อกองไฟเพื่อรอเพื่อนๆที่ลงมาชุ่มฉ่ำกับสายน้ำได้รับไออุ่น...มันหนาวมากๆครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 04:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นี่แหล่ะครับที่เราเรียกว่า...งานสำรวจซึ่งมันเป็นงานที่บางครั้งต้องท้าทายไม่ไช่แอ๊คชั่น เพราะทุกจุดที่ไปไม่มีใครทราบถึงปัญหาต่างๆที่อยู่ข้างหน้า...แต่เราต้องไปและปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น้องคมสัน..จากเทคกิ้งไทย กับก้าวยาวๆแบบหนีน้ำที่ถาโถมเข้าใส่.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกมุม...คนๆนี้มาทางขวาพยายามหนีน้ำแบบสุดฤทธิ์... สุดท้ายโดนเพื่อนๆยำซะเละเทะเปียกปอนไป.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพอาจจะเบลอๆไปบ้าง เพราะว่าไอน้ำฟุ้งกระจายตลอดเวลา... น้องหนึ่ง..เทคกิ้งไทยงานติดตามเรื่องราวในป่าทุกแห่งของเมืองไทย เค้าบอกว่าชื่นชอบมากๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อีกมุมหลุดพ้นก้อนหิน.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น้องอิ๋วกับอีกหนึ่งลีลา.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เกือบจมน้ำกลางผาแห่งขุนพะวอ...... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยืนลุ้นเพื่อนๆ... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นั่นคือเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ออกมาทำสิ่งหนึ่งในผืนป่า ไม่ไช่เป็นการแสดงโอ่อวดความเก่งแต่อย่างใดไม่ เพียงเพื่อทดสอบและสำรวจทุกๆอย่างให้รู้แจ้งเห็นจริงเท่านั้น การโรยตัวจากที่สูงสำหรับเรา ถือว่าเป็นพาหะนะอย่างหนึ่งที่จำพาเราไปได้ทุกๆแห่งไม่ว่าสภาวะใดๆก็ตามและไปให้เร็วขึ้นโดยมิได้เสียเวลาเดินอ้อมป่าและหุบเหวนั้น... นั่นคือเหตุผลของการเดินป่าสำรวจถ้ำหรือน้ำตกต่างๆ... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจต่างๆคณะเราก็เดินเก็บข้อมูลที่ต้องการให้ครบถ้วน แล้วก็อำลาน้ำตกแห่งนี้กลับไปสู่โลกของความจำจริงต่อไป... สำหรับเส้นทางดินขึ้นสู่ยอดเขาทางเดิม จุดตรงนี้ถือว่าชันมากๆขนาดที่ทุกๆคน ต้องปีนต้นไม้บ้างเกาะหินดึงกอไผ่ตลอดทาง ด้วยความชันที่สูงกว่าครึ่งกิโล เล่นดอาหอบพักใหญ่แบบยาวๆที่เดียว จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็วช่วงที่เราเดินกลับหน่วยฯขุนพะวอ  แสงแดดอ่อนๆตัดกับกลุ่มหมอกควันดูๆก็สวยงามอีกแบบตามธรรมชาติที่เป็นไปและเปลี่ยนแปลง... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อีกมุมของน้ำตกขุนพะวอ....... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แสงแดดชุดสุดท้ายของวันนี้ใกล้ลับขอบฟ้า...ในผืนดินถิ่นพะวอ  เราต่างเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเพราะใกล้ค่ำแล้ว จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วเราก็เดินเท้ามาถึง ณ.จุดเดิมที่เราไป ต่างแยกย้ายล้างหน้าตาบางคนถึงกับลมใส่ไข้จับ.... พี่ประสาท ขอให้เราอยู่ทานข้าวมื้อค่ำและร่วมเสวนากลางป่าพะวอ และสรุปการเดินทางเข้าสำรวจน้ำตกในวันนี้ เราจึงต้องอยู่ตามคำขอ พร้อมกับเก็บข้อมูลเพิ่มเติมของเรื่องการเป็นอยู่ของชาวม้งและกระเหรี่ยงที่นี่เพิ่มเติม เพื่อหาทางออกให้กับพี่ประสาทเรื่องการทำงานด้านชุมชนและแก้ปมปัญหาใหญ่ เรื่องของชาวม้งที่เค้าถนัดไปทางบุกเบิกแผ้วถางป่าเพื่อปลูกข้าวบนเขามากกว่าทำมาหากินอย่างอื่น... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 11:24:57 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สุดท้ายเราต้องอำลาพี่ประสาทและเจ้าหน้าที่ อช.ขุนพะวอทุกๆท่าน... 19.30 น. เวลาที่บ่งบอกถึงขณะนั้น เราคงสรุปเฉพาะด้านการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบกว้างๆว่า เหมาะที่จัเปิดให้ผู้คนทั่วๆไปได้เข้ามาชมถึงความงดงามของสถานที่แห่งนี้และน้ำตกที่บริสุทธิ์เช่นห้วยโป่งหรือชื่อใหม่ว่าขุนพะวอ แต่การจัดการเรื่องของขยะต้องมาอันดับหนึ่งรวมถึงเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะความลาดชันของยอดเขาที่จะลงไปดูน้ำตกที่นี่สูงมากๆ อาจจะต้องปรับปรุงบางอย่างแต่ต้องไม่แตะต้องต้นไม้และพันธุ์พืชที่อยู่ตามรายทางให้เกดความเสียหายใดๆทั้งสิ้น นี่คือบทสรุปกว้างๆจากเรา เราไม่อาจจะกล่าวสรุปทั้งหมดได้ในเวลาที่รวดเร็วเช่นนี้ เพราะทุกๆอย่างต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯทุกๆแห่ง เพราะพื้นที่ที่เป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ มันมีความละเอียดอย่างมากทั้งเรื่องของต้นไม้-สายน้ำ-สัตว์ป่าและผู้คนที่อยู่อาศัยในเขตที่เราเรียกว่าอุทยานแห่งชาตินั่นเอง......ต้องพึ่งระวังให้ดีที่สุดก่อนที่เราๆจะไม่มีโอกาสได้เยียวยารักษาธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นนี้ตลอดไป ขอขอบคุณ อช.ตากสินมหาราช - อช.ขุนพะวอ จ.ตาก ขอขอบคุณ พี่พันธ์ แม่ละเมา คนจนที่ยิ่งใหญ่แห่งบ้านพะวอ ขอขอบคุณ น้องๆจากเทคกิ้งไทย-เทคเกอร์ฮัทและเกาะช้าง ขอขอบคุณ นักสืบสายน้ำ นายปู คนดูนก และน้องชายโจ นินจา คน1000ทิพนี่เอง ขอขอบคุณ สื่อOutdoor Thailand-ดิจิไทยแลนด์-สำนักพิมพ์ต้นปราชญ์ น้องฝน-เล็ก-เกียรติ์และเอ็ด แก่งกระจาน       ขอขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมเดินทาง แล้วเจอกันปลายเดือนเมษา 50 ที่ยอดเขาปราสาทธรรม กลางเกาะช้าง จ.ตราด แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 11:26:25 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 05:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากคุณ : Radiance (เรเดียน) - [ 23 มี.ค. 50 08:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตามดูอีกตอนครับ  ยอดเยี่ยมจริงๆอยากไปลุยอย่างนี้บ้าง แต่น้ำหนักคงไม่เอื้ออำนวย 55 จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 มี.ค. 50 08:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 น่าไปมั่งจังเลย ซักวันๆๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะครับ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 23 มี.ค. 50 08:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น่าไปมากๆ ค่ะ..  ชอบจัง ผจญภัยแบบนี้ ขอบคุณมากๆ สำหรับภาพและเรื่องราวดีๆ ค่ะ ขอ save นะคะ ไม่ทราบว่า ถนนโค้งเยอะ เหมือนอุ้มผาง หรือเปล่าคะ แต่ยังเข็ดกับ พันกว่าโค้ง ของอุ้มผาง ยังไม่หายค่ะ เมารถแทบแย่ P.S. คนซ้ายสุดในรูปสุดท้าย นั่น พี่โจ ใช่ป่าวคะ เหอๆๆ จากคุณ : Select Star - [ 23 มี.ค. 50 09:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาดูจากทู้โน้น คคหที่21-23 ขอบอกว่าแจ่มจริงๆ น้องป้อมแห่ง Trekkingthai พี่สาวฝาแฝดเราเองจ้า จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 23 มี.ค. 50 11:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณทุกท่านครับ คุณRadiance (เรเดียน)....มีโอกาสคงได้เดินทางร่วมกัน พี่แก่.....น้ำหนักไม่เกิน 2 ตันฉลุยครับ คุณ`SEPULTURA_`FROM_`HELL ...ถูกต้องครับสักวันต้องได้เดินทางบนถนนคนลุยๆด้วยกันแน่ๆ คุณSelect Star...ไม่มีปัญหาครับยินดีอย่างมากๆครับ สำหรับเส้นทางไม่เหมือนอุ้มผาง(น้อยกว่าครับ) สำหรับบุคคลในรูปทางซ้ายมือนั้นถุกต้องแล้วคร๊าบบบ โจ นินจา ผู้ที่เดินทางมามากกว่าแสนโลบนถนนสายนี้ น้องที่ผมรักมากคนนึ่ง... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 11:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณสันกาลาคีรี  ป้อมเป็นสาวมั่นและแกร่งมากๆคนนึ่ง เค้าใช้ชีวิตแบบงดงามครับ... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 11:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เน้นจังๆๆๆๆๆ  น้ำหนักไม่เกิน 2 ตัน 555 ทริปหน้าขอสมัคร (ให้น้องหนึ่ง) ไปด้วยคนซิคะ เป็นทริปที่มีคุณค่าและน่าจดจำมากเลยค่ะ น้องมีนดูพี่มิเชลแล้วบอกว่า...พี่มิเชลเก่งจัง   เดี๋ยวพอหนู 10 ขวบจะไปโรยตัวบ้าง (ที่งานอิมแพคอ่ะค่ะ   โรยตัวผาจำลองเตี้ย ๆ   คราวที่แล้วมีงานโอทอป  เจ้าหล่อนไปขอพี่เค้าโรยตัว  แต่อด...เพราะอายุไม่ถึง) ตกลงว่า  คุณสหายสาริกานี่คนไหนอ่ะคะ   ทายนะคะระหว่าง 2 หนุ่มนี่แน่เรยยย   หนุ่มที่ม่ายใส่เสื้อมีหนวดกะไม่มีหนวดอยู่ 2 ข้างรูป   ....เอาคนไม่มีหนวดล่ะกัน 555555555555555555 จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 23 มี.ค. 50 11:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พี่ป้อมสุดยอดเลยค่า เท่จิง ๆ จากคุณ : nutitle (nutle) - [ 23 มี.ค. 50 11:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณโจนินจา แห่งสาริกาแอดเวนเจอร์ใช่ไหมครับ เห็นกิตติศัพย์จากคุณหมอ achai  อยู่ว่าขาลุย คุณแม่ซากานะครับ  แบบว่า ชั่วโมงบินผมยังไม่คู่ควรกับพี่ๆเหล่านี้แน่ๆครับ แค่เอ่ยชื่อ งะยันนิยวกตอง , ประดาบสามทวน ก็ร้อนๆหนาวๆแล้วครับ สำหรับผม คงยังอีกนานครับ กว่าฝีมือจะเข้าขั้นพี่ๆเหล่านั้น http://www.trekkingthai.com/board/show.php?Category=trekking&No=62171&forum=12&page=2 จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 23 มี.ค. 50 12:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณแม่น้องมีน..ครับ ผมพยายามปลูกหนวดหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ขึ้น..อ่ะนะ ก็เลยล้มเลิกความตั้งใจทั้งหมดจนถึงปัจจุบันนี้..แฮ่ๆ ยินดีครับหากหลานมีน...ชื่นชอบในสิ่งที่ลุงๆทุกคนทำอยู่ยินดีอย่างยิ่งครับ...(เดี๋ยวรีบไปเผยตัวตนที่ทู้บนก่อนครับ) คุณnutitle (nutle) ......ขอบคุณครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 12:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ`SEPULTURA_`FROM_`HELL ...... ถูกต้องครับ มันคือตำนานงะยันนิยวกตอง เขาหมาหลงแห่งแก่งกระจาน... คือไม่ไช่สิ่งที่ยากยิ่งแก่การเรียนรู้ครับ เราเดินเพื่อทำงานที่หวังด้วยว่าป่าต้องอยู่คู่แผ่นดิน..คุณ`SEPULTURA_`FROM_`HELL ก็ทำได้เช่นเราๆนี่แหล่ะครับ..ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มี.ค. 50 12:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เยี่ยมมาก .. สถานที่บรรยากาศดีมากเลยค่ะ จากคุณ : ระแนงไม้ - [ 23 มี.ค. 50 13:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 . . . น่าสนุก จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 23 มี.ค. 50 13:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แต๊แนว่าน่าประทับ สุขใจ อิ่มใจ ดีนะจ๊ะ กับการผจญภัยแบบนี้ จากคุณ : แต๊แน(ตัวจริง) - [ 23 มี.ค. 50 15:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เสียดายไม่ได้ไปด้วยอ่ะ จากคุณ : เสรีสัญจร (เสรีสัญจร) - [ 23 มี.ค. 50 16:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 well done !! จากคุณ : เปิ้ลRIS - [ 23 มี.ค. 50 18:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นการทำงานแบบนี้แล้วนึกถึง....ทีมงานติดตั้งรังนกเงือก ต่างก็เป็นงานที่หนักหนาสาหัส   เพื่อผลงานเล็ก ๆ ***  เดินป่า..โรยตัว...เสี่ยงตาย  เพื่อไปดูว่ามีเลียงผาจริงมั๊ย ถ้ามีต้องดูแลอย่างไรต่อไป   ซึ่งก็อาจเป็นเลียงผาแค่ 1 ครอบครัว  หรือไม่มีเลย ***  แบกอุปกรณ์  เดินป่าเข้าไป  ขึ้นต้นไปสูงเป็นสิบเมตร   เพียงเพื่อให้นกเงือก  1  ครอบครัว  ได้มีที่อยู่อาศัย หลายคนยังมองดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ.....ทำไปทำไม ??? เปลือง... เหนื่อย.... เสียเวลา..... จะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม....เห็นความสำคัญของสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ เพราะเมื่อไหร่ที่พวกเค้ามีจิตสำนึกที่ว่า.... นกกระสาคอขาว (ทู้บน) คงไม่ถูกยิง... สัตว์บนเขาใหญ่คงไม่ถูกรถทับ.... ฉลามวาฬคงไม่ถูกหลอดกาแฟตำกระเพาะตาย... ฯลฯ แต่สำหรับพวกเราอีกหลายคน.......ซาบซึ้งและประทับใจในภารกิจเช่นนี้นัก แวะมาคารวะอีกรอบ ****************************** บ่นมากแระ...ไปดีกั่ว จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 23 มี.ค. 50 19:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ช่วงบ่ายผมเดินทางไปปราจีนบุรี กลับมาช่วงดึกๆ เห็นกระทู้เผยตัวตนแล้วดีใจมากๆครับ...อบอุ่นจริงๆทุกๆคนนำเสนอความเป็นมิตรภาพและสานสัมพันธ์กันด้วยวาทะที่หยิบยื่นไมตรีให้แก่กันอย่างดี..... ผมอายที่จะเปิดเผยภาพที่ชัดเจนให้ชม ผมขอแสดงตัวตนที่นี่ก็แล้วกันนะครับ หากคุณแม่น้องมิน...เข้าเยี่ยมเยียนอีกครั้ง (เจอะเจอทักทายได้ทุกทีครับ) ผมขอขอบคุณจริงๆและชื่นชอบกับนิยามต่างๆที่คุณแม่น้องมีน ได้บันทึกเรื่องราวถึงการเดินทางและการทำงานของเราๆทุกคน ก็เพียงแค่ที่แม่น้องมีนกล่าวอ้างนั่นแหล่ะครับ คือตัวตนที่ต้องทำและยึดถือปฎิบัติตามที่ว่า " การทำงานสำรวจแบบผจญภัย โดยที่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน ความรู้ความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศวิทยา " ผมขอจดจำข้อความของแม่น้องมีน เพื่อระลึกถึงคนที่เข้าใจเราๆ ไว้เป็นกำลังใจในยามที่ก้าวเดินสร้างฝันต่อไป...เพียงแค่นี้จริงๆครับที่ผมกระทำและจะทำอีกต่อไป... แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 22:19:25 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 24 มี.ค. 50 05:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ........อีกมุมหนึ่งครับ... เพื่อความมั่นใจในตัวตน....ที่แท้จริง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 24 มี.ค. 50 05:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 63 รีบไปทำงานก่อง เด๋วเถอะ....จะก๊อบไปลงทู้นู้น   เอิ๊กๆๆๆๆ ^_^ จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 24 มี.ค. 50 08:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ครับผม..ตามที่เห็นว่าสมควรหรือไม่... ....เพราะแก่แถมดำ...ไร้จุดโชว์ แต่ไม่ไร้น้ำใจ ผ่านคอนยก ซดกาแฟร้อนๆ-มะยงชิดกะมะปรางหวานบ้างก็ดีนะครับ เชิญๆๆๆครับเชิญๆๆๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 24 มี.ค. 50 12:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มี๋ๆๆๆ  ตามที่เห็นว่าสมควร....มิกล้าเลยค่ะ เอิ๊กๆๆ แต่ไง ๆ เรามีเจ้ามือเลี้ยงไอติมเลี้ยงกาแฟแล้ว   เอิงเอยยยยย มีนน่ะอยากไปแอดเวนเจอร์มากค่ะ   แบบบ้านผางามอ่ะค่ะ เธอจำได้หมดทุกเครื่องเล่นเลยค่ะ   อยากเล่นจิ้งจอกฯกับวอเตอร์ชาแลนจ์มากๆๆๆๆๆ ขอบคุณค่า จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 24 มี.ค. 50 23:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แม่น้องมีน...ครับ ตามสบายนะครับผมพิจารณาไม่ถูก...เพราะเขินจังงงง.. น้องมีน...เยี่ยมๆมากๆนะค่ะ โอโฮ..มาลุยผางามได้ก็เก่งมากๆแล้วจ๊ะ ยังไงต้องขอบคุณอีกครั้งที่มาเยี่ยมเยียนถึงถิ่น ของ ททท.เขต8 ที่ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว-ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ เห็นมั้ยครับแถบนี้ก็ไม่แพ้ทางทะเลเหมือนกัน... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 25 มี.ค. 50 01:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ย๊งค่ะ...ยัง.... เจ้าหล่อนยังไม่เคยไปบ้านผางาม   .........แต่อยากไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เด๋วว่าจะพาไปอ่ะค่ะ ทีเคยไปลุยมาก็นี่ค่ะ.....ปีผาจำลองงานโอทอปปีที่แล้ว  ที่อิมแพค 555 จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 25 มี.ค. 50 09:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ดีจัง เด็กสมัยนี้ยังมีคนที่มีใจรักธรรมชาติ และความท้าทายเหลืออยู่ คุณสหายสาริกา หลังเดืน พค. ถ้ามีทริป รบกวนมาชวนด้วยนะครับ  อยากลองไปดูด้วยซักหน แต่รอๆกันด้วยนะครับ  ผมมือใหม่ครับ เหนื่อยง่าย -_-' จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 25 มี.ค. 50 19:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ`SEPULTURA_`FROM_`HELL ....ช่วงหลังจากเดือนพฤษภายังไม่แน่ใจนะครับ เพราะว่าผมเหลือสำรวจอีกสองแห่งคือยอดเขาปราสาทธรรม เกาะช้าง กับโรยตัวสำรวจน้ำตกเหวนรก เขาใหญ่ ครั้งที่ 3  ทั้งหมดจะอยู่ช่วงเดือนมีนา-เมษา  เพราะว่าเข้าเดือนพฤษภาฝนเริ่มจะมาแล้วคือการทำงานอาจจะลำบากเกินไปนะครับ.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 26 มี.ค. 50 00:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ยอดปราสาทธรรมนี่ โหดไหมพี่ แล้วค่าใช้จ่ายแพงไหม ไปช่วงไหนครับ เผื่อจะติดไปด้วย จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 26 มี.ค. 50 16:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มาเชียร์น้องหนึ่งให้ไปเกาะช้าง ไม่โหดหรอกค่ะ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ไปเหอะนะ....จะรอดูรูปตากล้องโรคจิต 555 จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 26 มี.ค. 50 21:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สารถึง..แม่น้องมีนและน้องมีน...มีโอกาสเมื่อใดจะชวนน้องมีนไปเที่ยวบ้านผางามครับ. น้อง`SEPULTURA_`FROM_`HELL.... พี่จะเดินทางเที่ยงคืน 27 เมษา  เช้า 28 เมษาข้ามเกาะช้าง จากนั้นเดินทางไปพบกับผู้นำชุมชนของบ้านสลักเพชร คือบ้านชาวเลที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำเสียที่มีบริษัทซีพี แอบไปซื้อที่ดินแล้วก่อสร้างบ่อกุ้งจำนวนมาก จากนั้นมีการปล่อยน้ำเสียลงคลองผ่านหมู่บ้านประมง ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับชุมชน เนื่องจากชุมชนพยายามสร้างจุดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (เดี๋ยวมีภาพและละเอียดเพิ่มเติมให้ชม)  จากนั้น 29 เมษาจะประชุมกันกับชาวบ้านและทางตัวแทนสิ่งแวดล้อมจังหวัด-นายอำเภอ-กำนันผู้ใหญ่และผู้นำชุมชนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว 30 เมษา จะเดินป่าสำรวจเขาสลักเพชร แคมป์ยอดปราสาทธรรม 1 คืน ยอดเขาสูง600กว่าๆ แต่ชันใช้ได้ต้องเดินรวดเดียว 4 ชม..... 31 เมษา ถึงจะเริ่มหาเส้นทางเดินลงมาผ่านหน้าผาไม่มีชื่อโดยโรยตัวร่วมๆ100เมตรลงมา แล้วเจาะช่องหาทางเดินต่อเข้าหมู่บ้าน 3-4 ชม. 1 พค. ก็ไปพายเรือคายัคออกสำรวจตามคลองบ้านสลักเพชร จนถึงปากอ่าวทะเล จุดนี้จะมีเรื่องต้นลำพูที่ตายลงเพราะน้ำเสียและป่าชายเลนที่เสียสมดุลของระบบนิเวศต่างๆ.......... ตามโปรแกรมการสำรวจจะเป็นแบบนี้ก็กลัวน้องจะไม่สะดวกเรื่องวันเวลาที่แน่นอน เพราะมันเป็นการเข้าไปรับทราบปัญหาและช่วยกันแก้ไข  พร้อมจะต้องหาหนทางสร้างอาชีพเสริมช่วยเหลือชุมชน ก็คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเดินป่า-โรยตัวลงทะเลอะไรประมาณนั้นน่ะครับ ซึ่งใช้เวลาอยู่กับชุมชนหลายวันที่เดียว.... ติดตามดูรูปประกอบของเหตุและผล สำหรับการเข้าไปสำรวจและช่วยเหลือครั้งนี้....... แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 13:31:33 แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 04:22:11 แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 03:05:32 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 02:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สถานที่นัดประชุมก็คือวัด.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 74 บ้านพักของ"จู้"ผู้นำชุมชนที่นั่น.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จู้...เหมือนคนบ้าบนเกาะช้าง...ในสายตาของนายทุน จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เขาสลัเพชร กับยอดจอมปราสาท สูง 600กว่าๆจากระดับน้ำทะเล เดินเท้า 4 ชม.กว่าๆ  ตอนลงต้องเดินลัดป่าแล้วโรยตัวลงมาตามหน้าผาเรื่อยๆจนถึงพื้นดิน จากนั้นเจาะทางไปหาหมู่บ้านหรือเดินป่าไปลงที่ น้ำตกคลองหนึ่ง สูง 44 เมตรแล้วเดินอีก 1 ชม.เจอถนนเข้าหมู่บ้าน...... แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 13:32:53 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 77 น้ำตกคลองหนึ่ง ในวันที่ไม่มีสายน้ำ สูง 44 เมตร เป็นจุดที่เดินเท้าจากถนนหมู่บ้านเข้ามาทางด้านล่างได้ โดยเดินตามสายน้ำรินทวนขึ้นมาจนพบกับผาชันขวางหน้า...... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สะพานไม้ยาวกว่า 2 กม. ทอดไปตามป่าโกงกางออกสู่ทะเล สถานที่แห่งนี้จะมีต้นลำพูขึ้นตามชายเลน กลางคืนมีหิ้งห้อยมากมายส่องแสงแววว้าว ทำให้นักท่องเที่ยวมาเดินชมในเวลากลางคืน แต่ว่าขณะนี้มีปัญหาน้ำเสียไหลแทรกซึมเข้ามากำลังแย่กับผลกระทบอย่างสูง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ภาพกว้างๆที่จะมองเห็นด้านหลังเป็นยอดจอมปราสาท ปลายสะพานแห่งนี้จะไปสิ้นสุดที่ป่าชายเลนตรงปากอ่าว ที่เราสามารถจะพายเรือออกจากหมู่บ้านมาเที่ยวได้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 13:33:38 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ปลายสะพานมาสิ้นสุดที่ตรงนี้.....ขณะนี้บริเวณดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็นมากๆจากน้ำเสียของบ่อเลี้ยงกุ้ง ที่แอบก่อสร้างไว้เหนือต้นน้ำของหมู่บ้านชาวเล จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อีกจุดที่เราจะต้องพายเรือคายัค ไปตามคลองของหมู่บ้านเพื่อสำรวจคราบน้ำเสีย ที่ว่าส่งกลิ่นและทำให้ต้นลำพูล้มตายจุดใดบ้าง...... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ชุมชนบ้านประมงคนพื้นที่ดั่งเดิมของสลักเพชร... ปัญหาน้ำกร่อยในคลองเค้าเคยใช้จนชินซึ่งถือว่าเป็นวงจรชีวิตที่ปกติ..แต่เรื่องน้ำเสียที่ไหลมาจากต้นน้ำเทือกเขาดังกล่าว ทำให้เค้าเริ่มอยู่กันอย่างลำบาก ทั้งเรื่องน้ำอาบและกิน-น้ำใช้สอยซักผ้า จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สายน้ำข้างหน้าที่เห็นช่องเขาขนาบข้าง จะทะลุไปสู่ปากอ่าวลงทะเลของเกาะช้าง เราตามเส้นทางน้ำเสียจนรู้ที่ไปและที่มาของมันแล้ว  จากนี้ไปก็คงเหลือแต่การเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ให้ลุล่วงเป็นผลบวกมากกว่าเก่าเท่าที่เราๆจะเข้ามาช่วยได้ เพราะมันมีตัวแปรบางอย่างที่คนอย่างเราๆจะเอื้อมถึงตันตอของปัญหาได้...เพราะว่าขณะนี้มันถูกลากไปพันกับเรื่องการเมืองน้ำเน่าซะแล้ว.... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอขอบคุณน้องแม็คและน้องบี.....(แหล่งข่าว) หนึ่งในทีมงานสำรวจของเรา  ที่เดินทางไปเซอร์เวย์ในพื้นที่เมื่อวันที่ 24-25 มีนาคม 50 เพื่อเก็บข้อมูลสถานที่ต่างๆนำมาใช้ประกอบการวางแผนของการปฎิบัติงานในวันที่ 27-28-29-30-31 เมษาถึง 1 พค.50....ขอบคุณน้องแม็คมากๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 03:58:37 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 03:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 85 -เรือคายัค จำนวน 3 ลำ กรมประมงเป็นผู้มอบให้ไว้เป็นสมบัติของชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักเพชร- "จู้" คนบ้าจนๆจากเกาะช้าง จ.ตราด........ จู้ เดินทางไปดักพบเราที่ จ.ตาก เมื่อครั้งที่เราไปสำรวจถ้ำผาขาว... จู้ เล่าเรื่องราวและปัญหาต่างๆให้เราทราบ พร้อมขอความช่วยเหลือจากเรา อยากให้เราช่วยสำรวจป่าและผานิรนามบนยอดเขาปราสาทธรรมให้ พร้อมกับช่วยวางแผนพัฒนาให้เกิดคุณค่านำมาซึ่งรายได้ให้แก่คนในชุมชนของ"จู้" "ถึงจู้"....เราจะเดินทางไปหานาย  ก็เพื่อนายเราจึงไป...."จากเพื่อนจู้" แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 04:17:50 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 27 มี.ค. 50 04:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 86 โปรโมทลูกชายเหรอจารย์หมู อิ อิ จากคุณ : JUNGLE MAN - [ 27 มี.ค. 50 20:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 87 JUNGLE MAN ........นายแน่มากตามหาจารย์จนเจอ ระวังกล้วยไม้หายยกบอร์ดเด้อ............ จากคุณ : เด้าลมหลังเทา - [ 28 มี.ค. 50 01:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แห่ะๆ พี่สหายฯ เรื่องวันหยุด ไม่มีปัญหาครับ แต่ปัญหาคือ วันที่พี่ไป ตรงกับวันที่ผมไปสันเย็น นครศรีธรรมราชน่ะครับ อยากไปไต่ผาจริงๆนะเนี่ย -_-' จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 28 มี.ค. 50 17:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ ^ . . . พี่หนึ่ง . . . . ไปไต่หน้าผาเถอะ . . . . . ทริปสันเย็นขาดพี่หนึ่งสักคนไม่ใช่ปัญหาหรอก . . . . . . เพราะว่าไปไม่ไปก็ไม่มีประโยนช์ราย 5 5 5 ----------------------------------------------------------- 14-17 เมษ.........................สถานที่ สันเย็น 3 คืน 4 วัน                                           สมาชิก 2 คน รับเพิ่มได้ และต้องการด่วนมาก                                           *-* สันเย็นไปสงกรานต์ดิ 5 5 5 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 50 17:47:14 จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 28 มี.ค. 50 17:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ^ ^ ^ ^ . . . นู๋ฟ้าจะผิดไหมอ่ะค่ะ . . . . เค้ามะได้โฆษณาน๊ะ จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 28 มี.ค. 50 17:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มาโป้งนู๋ฟ้าแทนน้องหนึ่ง ได้ไงอ่ะ.... ********************* . . . . . ทริปสันเย็นขาดพี่หนึ่งสักคนไม่ใช่ปัญหาหรอก . . . . . . เพราะว่าไปไม่ไปก็ไม่มีประโยนช์ราย 5 5 5 **************************** เดี๋ยวมีงอนเด๊อค่ะ จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 29 มี.ค. 50 00:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เอ....วันนี้แม่น้องมีน ...นอนดึกจังครับ หรือว่าคุณพ่อน้องมีนชวน....เอ่ออ่าเอ่อ...ชวนคุยแฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ น้อง`SEPULTURA_`FROM_`HELL ...เรายังมีเส้นทางต้องเดินกันอีกยาวไกลครับ งานนี้เจอพี่หมอ achai คงได้นอนคุยกันหลายวัน เพราะห่างกันไปเกือบเดือนกว่าๆแล้ว อาจจะคิดกลับไปเก็บตกทริปอื่นๆแล้วจะแจ้งให้ทราบนะครับ....... นังนู๋ฟ้า...ได้ข่าวว่าทริปสันเย็น ถูกวางเป็นลูกหาบมือหนึ่งไม่ไช่หรือครับ...แกร่งดุจดั่งหญิงเหล็กคุณย่าโม มือก็ไกว ดาบก็แก่วง  แต่น้องนังนู๋ฟ้า...มือก็หอบ บ่าก็แบก แถมปากก็คาบ อุ้ยแถมปากก็หวานนนนนนนนนน.......จ๊ะๆๆๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 29 มี.ค. 50 01:47:21 ]