ความคิดเห็นที่ 1 สักสิบเอ็ดโมงครึ่งเราก็มาถึงหมู่เกาะสุรินทร์ค่ะ ที่ตรงนี้เค้าจะจัดให้คนที่พักที่เขาขาด นั่งเรือเล็กไปเขาขาด ใครนอนที่หาดไม้งามก็ต้องลงเรือไปหาดไม้งาม เราถามคนเรือเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่อ่านมาจากในเว็บเรียบร้อยแล้วว่าเพ็คเกจของซาบีน่านอนที่ไม้งาม ก็เลยลงเรือไปไม้งามค่ะ ตอนนี้กระเป๋าเราต้องดูเค้าเอาลงเรือดีๆ นะคะ เด๋วกระเป๋าเดินทางไปผิดที่แบบคนนั่งข้างๆ เรา แล้วจะมีปัญหายาวววววว เรานั่งเรือต่อไปประมาณสิบนาทีกว่าก็ถึงหาดค่ะ ตรงนี้ไม่ใช่หาดไม้งามนะคะ ต้องเดินไปอีกสองร้อยเมตร  เค้าเลยเรียกตรงนี้ว่าสองร้อยเมตร ตอนนี้ก็ต้องเดินลงจากเรือลงน้ำอีกหน่อยเพราะเรือไปไม่ถึง แล้วเราก็เดินลุยน้ำมาอีกนิด เค้าก็เอากระเป๋าขึ้นบก ตอนนี้ถึงเวลาลำบากแล้ว เพราะเราต้องหอบกระเป๋าเดินไปอีกสองร้อยเมตร ใครเอาของมาเยอะก็ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง อิๆ ดีนะ เรามีตัวช่วยมาด้วย พอไปถึงแล้ว คราวนี้ก็มีปัญหาล่ะสิ อ้าว ไหนล่ะ ที่นอนเรา ที่ที่เค้าเตรียมไว้ก็เป็นเต๊นท์ไม่เรียบร้อย ไกลหาดมาก ร้อนโครตๆ พี่เดียร์ของซาบีน่าเป็นแม่บ้านที่นั่น น่ารักมาก จัดที่นอนให้เราใหม่ ติดริมหาด โซน 7 แต่ปรากฎว่าที่นอนเราเค้ายังไม่ออก เค้าจะกลับเรือรอบบ่าย เราเลยต้องเอาของพักไว้ที่เต๊นท์เจ้าหน้าที่ซาบีน่าก่อน แล้วแต่งตัวไปเตรียมดำน้ำรอบบ่าย แต่งตัวเสร็จก็เดินไปโรงอาหาร คนเยอะมาก ยืนงงๆ กันสักพัก เค้าก็ให้เราไปหาที่นั่ง ได้ที่นั่งแล้วเดินมาบอกเค้า แล้วเค้าจะยกข้าวมาให้กิน กว่าจะได้ที่นั่งก็เหลียวกัน ดีนะเรามาคนน้อย ถ้ามากลุ่มใหญ่ๆ ก็ต้องนั่งแยก เพราะโต๊ะไม่ว่าง อาหารรสชาติกลางๆ แต่ให้เยอะ คงกลัวเราไม่มีแรงไปดำน้ำมั้ง จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อ 2 ดำน้ำเหรอ ....มันแล้วแต่ดวง พอกินข้าวเสร็จก็เดินออกไปที่สองร้อยเมตร เรือที่จะไปดำน้ำก็จอดอยู่ตรงนั้นหมด เราก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ เค้าก็จัดคนอยู่ กลุ่มนั้นหกคน กลุ่มนี้สิบ กลุ่มนี้สาม อะไรเงี้ย กว่าจะจัดได้ เล่นเอางงทั้งคนจัด ทั้งคนเที่ยว เราได้ขึ้นเรือไม่มีหลังคาแข็ง มีแต่ซาแลนกันแดด แอบเซ็งเล็กน้อย เรายิ่งเป็นโฟเบียแดดอยู่ อิจฉาลำที่ได้หลังคาแข็งจัง ไกด์(คนพาเราไปดำน้ำ ให้ข้อมูลเบื้องต้น คอยลากเราทวนน้ำ) ชื่อน้องแบงค์ น่ารักดี แต่น้องเค้าไม่ค่อยให้ข้อมูลอะไร อีกอย่าง วันที่ไปวันแรกก็ฝนตกด้วย ทำให้น้ำขุ่นมาก แถมแตนทะเลเยอะอีกตะหาก แยะจนน้องที่อยู่เรือสปีดโบ๊ทที่เรานั่งขากลับยังบอกเลยว่าแปลก ที่หน้านี้แตนทะเลเยอะขนาดนี้   พี่คนในกรุ๊ปเราที่เคยมาแล้วบอกว่า ก่อนสีนามิมา ปะการังที่นี่สวยกว่านี้เยอะ ที่เราเห็นนี่ขาวเต็มใต้ทะเลคือปะการังตาย แต่ยังมองเห็นส่วนที่ดีๆ ที่เพิ่งเกิดมาเยอะเหมือนกัน ทำให้ใจชื้นว่าอีกไม่นานที่นี่คงสวยเหมือนเดิม สิ่งที่เราเห็นที่นี่ก็คือ ปลา ปลา ปลา ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เจอปลา เยอะมากเหมือนว่ายน้ำอยู่ในอควาเรี่ยม เราไม่ได้เห็นอะไรเลย นอกจากปลาธรรมดาทั่วๆ ไป กรุ๊ปอื่นได้เห็นเต่าทะเล เห็นฉลามแต่เราเจออย่างมากก็แค่ปลาไหลมอเรย์ยักษ์ เห็นตอนแรกเราตกใจ นึกว่าใครเอางูเหลือมหย่อนไปในทะเล ตัวใหญ่มากๆ เลย แถมดุอีกตะหาก น้องแบงค์ดำลงไปชี้ให้ดู มันทำท่าเหมือนจะฉกเอางั้นล่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อ... เราเห็นว่าที่ปลากระเบน ไอ้ตัวมันน่ะ เราไม่เห็นหรอก เห็นแต่ทรายฟุ้งๆ ขึ้นมา แล้วน้องเค้าบอกว่าเป็นปลากระเบน เอาวะ ปลากระเบนก็ปลากระเบน แต่เราไม่สนหรอก แค่ได้มุดหัวลงน้ำเห็นน้ำสวยๆ ใสๆ ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว อย่างนี้ หาให้ตายกรุงเทพก็ไม่มี ความรู้สึกแบบนี้ไม่เหมือนเดินอยู่ในสยามโอเชี่ยนเวิร์ดเลย มันดีกว่ากันมากๆ เราว่าไปดำน้ำเนี่ย แล้วแต่ดวงจริงๆ บางคนได้เจอปลาแปลกๆ หายากๆ เพื่อนเราได้เจอกระทั่งแมนด้า แต่เราไม่เจอไรเลย อย่างที่บอก ที่บอกว่าดวงอีกอย่างก็คือคนที่พาเราไปดำน้ำ ไม่ได้ต่อว่าหรอกนะคะ แต่เราว่าเค้าพาไปน้อยไปหน่อย เราออกเรือไปตอนเก้าโมงกว่า กว่าจะได้ลงน้ำก็สิบโมง บางวันแค่สิบเอ็ดโมงเราก็มาถึงสองร้อยเมตรแล้ว เวลาได้อยู่ในน้ำน้อยจริงๆ บางกลุ่มเค้ากลับมาถึงกันเที่ยง กินข้าวทั้งตัวเปียกๆ งั้นก็มี เพราะงี้ถึงบอกว่า ดำน้ำน่ะ มันอยู่ที่ดวง ได้คนพาไปดี ก็ดีไป ได้คนไม่จัย ก็อดเท่านั้นเอง ทำไงได้ จ่ายตังค์ไปแล้วก็ต้องยอมรับชะตากรรมโดยดี ของงี้มันไปเองไม่ได้นี่หว่า ถ้าไปเองได้เหมือนนั่งรถไฟฟ้าไปสยาม คงไม่ต้องมานั่งบ่นหรอกว่าได้เที่ยวน้อย เสี่ยงดวงเอานะคะ ว่าจะได้เจอไกด์ทุ่มเทหรือเปล่า เพิ่มเติมค่ะ....ส่วนเรือของอุทยาน ขอไม่ออกความเห็นค่ะ เพราะไม่ได้ไปเอง ฟังแต่เค้าเล่ามา แต่ในภาพรวมก็ดีค่ะ ไม่มีใครบ่นให้ฟัง แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 09:48:11 จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 3. นอนกลางดิน กินกลางทราย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะบอกว่า คุณต้องเลือกเอาว่าอยากดำน้ำสวยๆ เห็นอะไรเยอะๆ น้ำใสๆ ก็ต้องเลือกวันที่ฟ้าแจ่มๆ ร้อนโค้ดๆ ฝนไม่ตก เราอาศัยมองฟ้าตอนกลางคืนเอา ว่าถ้าวันไหนเห็นดาวชัดๆ แจ่มๆ ประเภทแบบกางแผนที่ดาวเรียนดาราศาสตร์ได้ วันรุ่งขี้นอากาศดีแน่นอน แต่มันร้อน ร้อน แล้วก็ร้อนค่ะ ไม่มีลมเลย เอาเสื่อนั่นล่ะมากางหน้าเต๊นท์ นอนมองดาว กะจะสวีทซะหน่อย ถ้ายุงไม่ชุมขนาดนั้น ก็แน่นอนล่ะ ลมไม่พัดยุงก็มา แถมยุงทะเลนะ ตัวมหึมาจนกลัวว่าถ้ามันกัด ตัวชั้นจะเป็นรอยเข็มฉีดยาไหมเนี่ย มีอยู่คืน ลมพัดแรง หลับสบายเชียว ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นฝนตก ไปดำน้ำมองอะไรแทบไม่เห็น น้ำขุ่นจัด แถมพอน้ำขุ่นแตนทะเลก็ชุมอีกตะหาก ไอ้ตัวเล็กๆ สีชมพู ส้มๆ ตัวเท่าปลายเข็มหมุดนั่นล่ะค่ะ ตัวดี โดนเข้าทีแทบจะหมดอารมณ์ดำน้ำต่อเลย เราเจอแมงกระพรุนด้วย หลบทันอย่างหวุดหวิด ปัดมันไปโดนคนข้างๆ รับเคราะห์แทนไป น่าสงสารจิงๆ โชคดีที่พี่ในกรุ๊ปเค้าเตรียมตัวมาดี เอาน้ำส้มสายชูมาด้วย พอขึ้นจากน้ำ ใครโดนแตนมาก็เอามาชโลมผิวกันใหญ่ อืม... ระวังน้ำส้มเข้าตานะคะ แสบมากมาย เห็นเพื่อนบางลำบอกว่าไกด์ของเค้ามีน้ำส้มเตรียมไปให้ด้วย ของเราไม่มีอ่ะ หากันเองละกัน ก็บอกแล้ว มันแล้วแต่ดวง เราเตรียมแป้งเย็นไป มองเล่ยะด้วย พัดลมมือถือ แต่ก็ไม่พอสำหรับคืนที่ร้อนจัดๆ เพื่อนที่นอนที่เขาขาดบอกว่าที่นั่นลมจะพัดดีกว่าหาดนี้ ใครกลัวร้อนก็นอนที่เขาขาดดีกว่านะคะ มันร้อนจริงๆ นอนไม่หลับ จะพาลอารมณ์ไม่ดี ไม่มีแรงดำน้ำ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 4. กินกลางทราย ก็เราไปทะเลนี่น่า มองไปทางไหนมันก็ทราย ก็ต้องกินกันกลางทรายนั่นล่ะค่ะ ใครที่ไปกะทัวร์ เค้าจะจองอาหารชุดให้เลย แต่เราว่าถ้าไปเอง อาหารชุดไม่ต้องก็ได้ อาหารจานเดียวที่นี่จานใหญ่มาก เอาว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆ กินอิ่มล่ะ อาหารชุดตอนเช้า หัวละ 80 เที่ยง 160 เย็น 180 เราว่าสั่งเป็นอาหารจานคุ้มกว่า เพราะเค้าให้มาเยอะ กินไม่หมดค่ะ แต่จะช้านิดนะคะ เพราะเค้าต้องทำอาหารชุดให้เสร็จก่อน แล้วถึงทำอาหารสั่ง บางทีของก็อาจหมดได้ เราไปกะทัวร์ แต่เราก็ต้องหาที่นั่งเองนะคะ ได้ที่นั่งแล้วก็ไปบอกเค้าว่าเรานั่งที่ไหน แล้วเค้าก็จะยกอาหารมาให้ ถ้าเราซื้อเป็นอาหารสั่ง เค้าจะให้ป้ายไม้มา ก็วางไว้บนโต๊ะ แล้วเจ้าหน้าที่อุทยานก็จะยกมาเสริ์ฟ ค่ะ ถ้าใครจะเตรียมอาหารสำเร็จรูป มาม่า โจ๊กคัพ กาแฟ (ของอุทยานชุดละ 20บาท) ไปเองก็ได้นะคะ เราก็เอาไปเหมือนกัน เค้ามีจานช้อนส้อมให้หยิบใช้ได้อยู่แล้ว น้ำร้อนเค้าก็มีให้ เอาไปเติมน้ำเองก็สะดวกดี มีคนทำหลายคนด้วย ไม่ต้องเขินค่ะ มีเตาให้ปิ้งขนมปังด้วยค่ะ ที่เกาะก็มีขนมปังขาย แต่ใครจะเอาไปเองก็ได้ มีแยมให้ ระวังให้ดีนะคะ เพราะไฟแรงมากกกกกกก ไหม้กันหลายคนเลย อาหารสั่งที่นี่อาหารจานเดียวราคาตั้งแต่ 50 - 60 สำหรับหมูไก่ ไปถึง 80 ถ้าเป็นอาหารทะเล  ต้มยำกุ้งไก่ปลาหมีก ถ้วยละ 100 ให้เยอะทุกอย่างค่ะ ไม่ต้องกลัวไม่อิ่มเลย เยอะมาก รสชาติกลางๆ กลุ่มเราชอบรสจัด เอามะนาวไปด้วย บีบมะนาวใส่ไป อะไรๆ ก็อร่อยขึ้นเองค่ะ อย่างที่บอกไว้แล้วไงว่า.........มาเองก็ได้ ไม่ต้องง้อทัวร์ เพราะแค่เค้าจองอาหารชุดให้เราเท่านั้นเอง อย่างอื่นก็แทบจะทำเองหมดอยู่แล้ว จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ราคาอาหารเท่าที่จำได้ น้ำอัดลม แคนละ 20 บาท น้ำแข็งขายเป็นถุงตัก ราคา 5 –10 –15 ใครมีกระติกไป เค้าก็ตักใส่กระติกให้ค่ะ แต่เราไม่มีก็เอาใส่ถ้วนแกงนั่นล่ะ มื้อละ 5 บาท hot drink ละ 20 บาท พวกขนมถุง มาม่าก็มีขายค่ะ แต่ที่ทำการอุทยานที่เขาขาดมีเยอะกว่า มีคนสวยคนนึงอยากกินน้ำแดง (อิๆ แอบเม้าท์เพื่อน ) ยอมเดินไป 2 กิโล กลับอีก 2 กิโล ไปช่องเขาขาด เพื่อซื้อเฮลส์บลูบอยมากิน เพราะที่ไม้งามไม่มีขายค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7  5. ขาดไม่ได้เลย ...... ห้องน้ำ....... ห้องน้ำที่นี่มีค่อนข้างเยอะนะคะ แต่ก็ยังไม่พออยู่ดีสำหรับวันที่คนเยอะๆ วันแรกที่เราไปเป็นวันเสาร์ คนเยอะมากมาย เราต่อคิวเข้าห้องน้ำที่โซน 8 มีคนเข้าคิวก่อนเราแล้วสิบกว่าคน เห็นงั้นเราเลยถอย เอาสน็อกเกอร์ไปดำเล่นอยู่หน้าหาด ดูนีโม ไปพลางๆ เวลาคนเยอะๆ น้ำมันก็ไหลค่อยมากๆ น้ำฝักบัวไม่ไหลต้องรองน้ำตรงที่ใช้ราดห้องน้ำตักอาบเอาค่ะ ขนาดรองข้างล่าง น้ำยังไม่ค่อยจะไหลเลย แต่ถ้าเป็นวันอื่นๆ ที่คนไม่เยอะมาก เราก็อาบได้สบายๆ ค่ะ อ้อ.... ตอนกลางคืนเวลาไปเข้าห้องน้ำอย่าลืมไฟฉายนะคะ จริงๆ ตรงทางเดินเค้าก็มีไฟส่อง แต่มันไม่พอ เราไม่ได้กลัวเพื่อนๆ หลงหรอก แต่เรากลัวเพื่อนๆ เดินเหยียบน้องปูมากกว่า เค้าจะออกมาเดินกลางคืนเยอะมาก โดยเฉพาะแถวห้องน้ำชาย ปูเสฉวนตัวใหญ่มากๆ ใหญ่กว่ากำมือผู้ชายอีกค่ะ  ไปทุกคืน คืนละหลายรอบ เพราะเราติดเข้าห้องน้ำ เห็นทุกรอบ รอบละหลายๆ ตัว เราเห็นเพื่อนหลายคนเอาเปลือกหอยมาให้น้องปูที่ตรงห้องน้ำนี่ แต่พี่ๆ ที่อุทยานบอกว่าอย่าเลย ให้เอาไปวางตรงที่เค้าวางเรือแคนนูหน้าโรงอาหารดีกว่า เอาไปวางไม่ถูกที่ ทำกับเรากำลังทำร้ายเค้าอยู่นะคะ บางคนลงทุนขนาดไปซื้อเปลือกหอยมาจาก JJ เอามาปล่อยที่นี่ แต่เราว่า มันเป็นการอุดหนุนให้เค้าหาเปลือกหอยมาขายเราอีกอ่ะ  แล้วแต่จะคิดละกัน นานาจิตตัง จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เวลาที่ห้องน้ำ busy ที่สุด ก็คือช่วงเช้าประมาณ 7 โมงเช้าก่อนกินเข้า ตอนเที่ยงก็ไม่มากเท่าไหร่ แล้วก็เวลาเย็นช่วง 4 โมง - 5 โมงเย็นกว่าๆ ก่อนกินข้าว ถ้าเราหลีกเลี่ยงเวลานี้ได้ก็จะดีมากๆ ค่ะ ไม่เสียเวลาแล้วก็น้ำไหลแรงด้วย อ้อ.... ถ้าห้องน้ำหญิงคนเยอะ แล้วมีเพื่อนผู้ชายไปด้วย เข้าห้องน้ำผู้ชายเลยค่ะ คนน้อยกว่ากันเยอะเลย แต่ก่อนเข้า ก่อนออกให้เพื่อนดูต้นทางได้หน่อยเน้อ หนุ่มๆ เค้าจะได้ไม่แตกตื่น เวลาเรามาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน เราเข้าห้องผู้ชายตลอดเลย สว่างกว่า ใกล้กว่า เอาเพื่อนผู้ชายไปด้วย ไม่ต้องกลัวใครมาจ๊ะเอ๋ตอนดึกๆ อิๆ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 6. เวลาว่างๆ บนเกาะ เวลาว่างๆ บนเกาะของเรามีไม่มาก ถ้าเอาตามเพ็กเกจ แต่เราซื้อเพ็คเกจไป 3 วัน 2 คืน แล้วอยู่ต่อเองอีกคืน ทำให้มีเวลาเหลืออีก 1 วันเต็มๆ เราเลยว่างพอที่จะทำอะไรๆที่อยากทำได้ เพราะเห็นในรูปว่าที่ช่องเขาขาดมีสะพานไม้ สวยๆ น่าไปถ่ายรูป เราเลยตั้งใจจะเดินไปช่องเขาขาดกัน แล้วก็เดินกลับมาทางอ่าวกระทิง ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อที่จะถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดิน แต่ได้รับคำเตือนจากเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารว่าอย่าเดินเลย ถึงจะแค่ 2 กิโล แต่ทางไม่ได้ราดยางเดินง่ายๆ เหมือนถนนในกรุงเทพ บังหมานของซาบีน่าจะไปรับคนที่ช่องเขาขาดอยู่แล้ว เราเลยได้อานิสงค์ติดเรือเค้าไปลงที่เขาขาด แล้วเดินกลับมาที่เต๊นท์เอง ที่เขาขาดมีสะพานเทียบเรือ ทำให้คนที่นี่ไม่ต้องเดินลุยน้ำลงไปเหมือนที่สองร้อยเมตรของหาดไม้งาม สะพานเป็นสะพานไม้ สวยเชียว ท่าทางยังใหม่พอสมควร มีเรือจอดหลายลำ ส่วนใหญ่จะเป็นเรือสปีด โบ๊ท กะเรือของทางอุทยานเองค่ะ ถ่ายรูปบนสะพานเสร็จ ก็เดินต่อเข้ามาที่ทำการอุทยาน มีศูนย์การเรียนรู้ย่อมๆ แต่ความรู้แน่นเอี๊ยด ลมที่นี่แรงมาก แรงขนาดพัดเต๊นท์ล้มหลายเต๊นท์เลยค่ะ เราเพิ่งรู้ว่าทัวร์ของบาราคูด้าเค้าพักกันที่ช่องเขาขาด มิน่ามองหาตั้งหลายวัน ไม่เจอเลย เจอแต่ซีฮอร์ค กะซาบีน่าที่ไม้งาม ที่นี่มีบ้านพักด้วย ใครอยากนอนบ้านพักต้องจองกับกรมป่าไม้ก่อนเดินทางมาที่นี่นะคะ เดินสุ่มๆ มาจองเหมือนจองโรงแรมไม่ได้นะ เพราะเค้าเต็มตลอดเลย เท่าที่เห็นก็มีเกินสิบหลังค่ะ นอกจากศูนย์เรียนรู้แล้ว ยังมีที่ทำการอุทยาน( อย่างเป็นทางการ) กับที่ขายของ มีของเยอะกว่าที่ไม้งามแล้วก็โรงอาหาร (เล็กกว่าที่ไม้งามแต่รู้สึกจะเป็นระเบียบกว่าค่ะ มีขึ้นป้ายบอกด้วยว่าอาหารชุดมื้อต่อไปเป็นอะไร ที่ไม้งามไม่บอก เสี่ยงดวงเอา) จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อากาศที่ช่องเขาขาดดีมากๆ เราเลยเอาเสื่อกาง แล้วก็นอน...... รอพระอาทิตย์ตกดิน พอสักสี่โมงเย็น ก็เก็บที่นอน เดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จริงๆ แล้วมันก็เป็นทางเลาะชายหาดมาเรื่อยๆ ทางเดินเป็นถนนดิน ต้องออกแรงปีนป่ายกันนิดหน่อย ตลอดทาง ตรงบางที่ชันมากๆ เค้าก็ทำบันไดให้เดินได้สบายค่ะ แต่ก็เหนื่อยเอาการ เดินไป คุยไป สักพักใหญ่ๆ เห็นป้าย หาดไม้งาม 1500 เมตร Oh my God ไอ้ที่เดินมาตั้งนานเพิ่งได้แค่ 500 เมตรเองเหรอ ชักเหนื่อยแล้วนะ แต่ยังไง ก็ต้องเดินต่อไป บรรยากาศการเดินประมาณเดินขึ้นภูกระดึงไงงั้นเลยค่ะ เราก็เดินๆๆๆ โดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวกระทิง ซึ่งจากที่ได้รับข้อมูลมา เป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะ ในที่สุดเราก็เดินมาถึงอ่าวกระทิง กรี๊ดดดดดด สวยอ่ะ สวยๆๆๆๆๆ หาดก็สวย ต้นกระทิงที่เอนๆ อยู่ก้อสวย สวยไปหมด หาดเรียบๆ เกลี้ยงๆ ไม่มีรอยเท้าใคร น้ำใสๆ เขียวๆ ฟ้า สวยที่สุด ยกให้เป็นหาดที่สวยที่สุดของเกาะให้เลย อย่างเต็มใจที่สุด จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ที่อ่าวกระทิงเค้ากำลังก่อสร้างบ้านพักนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากเดิมที่มีเฉพาะช่องเขาขาดอยู่ ทำเลที่สร้างเป็นที่ ที่วิวดีมากมาย ทำให้ใจเสียว่าอีกหน่อยถ้าคนมาที่นี่เยอะๆ อ่าวกระทิงจะยังสวยเหมือนวันที่เราเห็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ต้องเชื่อใจทางอุทยานล่ะค่ะ ว่าเค้าคงไม่ทำให้สิ่งสวยงามเหล่านี้ถูกทำลายไป ห้าโมงนิดๆ เรานั่งปรึกษากันว่า เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า พระอาทิตย์จะตก เราจะรอดูพระอาทิตย์ตกกันไหม ถึงเราจะเตรียมไฟฉายมาด้วย แต่เส้นทางโหด มัน ฮา ที่เราเดินผ่านกันมากิโลเมตรกว่าๆ ทำให้เราไม่มั่นใจว่าทางเดินข้างหน้าจะเหมือนกันหรือเปล่า เพราะงั้นถ้าไม่ดูพระอาทิตย์ตกน้ำ เราก็เดินกลับกันตั้งแต่ตอนนี้ได้สบายๆ เลย แต่ถ้าจะรอดู ขาเดินกลับก็อาจจะแย่นิดหน่อย ในที่สุด ความกลัวก็เอาชนะความอยากได้ เราตัดสินใจไม่รอดูพระอาทิตย์ตก เอาเป็นว่า บ้านพักที่อ่าวกระทิงเสร็จเมื่อไหร่ มานอนที่นี่ซะเลย จะได้เห็นเต็มๆ ตา (แปลว่า เราจะกลับมาที่นี่อีกกันแน่นอน ใช่ป่ะคะ อิๆ) เราว่าพวกเราคิดถูกนะ เพราะเราน่ะเหนื่อยจนหอบเลยค่ะ ทางเดินช่วงหลังๆ ต้องมีปีนป่ายรากไม้ กระโดดเหยงๆ ด้วย ถ้ามามืดๆ คงลำบากแน่ๆ ในที่สุดเราก็มาถึงจุดสองร้อยเมตรก่อนหกโมงเย็น ด้วยความที่มันยังไม่มืด เราเลยเดินไปอีกด้านหนึ่งของสองร้อยเมตร ตรงกันข้ามกับทางที่เดินไปอ่าวกระทิง ณ ที่นั่น เราพบกองหินสวยๆ ฟ้าใสๆ น้ำทะเลเขียวๆ ตัดกับสีเข้มๆ ของก้อนหิน แล้วต้นโกงกางที่ขึ้นเป็นกลุ่มก้อน สวยมากๆ เลย เอาน่า ถึงเราจะพลาดพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวกระทิงไป แต่เราก็ได้เก็บภาพเกาะสุรินทร์สวยๆ ได้ที่นี่ ชดเชย ถ่ายจนเหนื่อย เริ่มมืด ต้องยิงเฟรช เราก็เดินกลับไปกินข้าวที่โรงอาหาร มื้อนี้เราจองเป็นอาหารชุดไปตั้งแต่เที่ยงแล้ว ไปถึงแจ้งชื่อ เค้าก็ยกมาให้ เพราะกลุ่มเราเกือบจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้ว กินกันเป็นเสือโหยเลย เสร็จเรียบร้อยก็เดินเรียงแถวไปอาบน้ำ นั่งเล่น อากาสร้อนตามเคย เอาเสื่อมานอนเรียงกันเป็นปลาทูแห้งอยู่หน้าเต๊นท์ริมหาด ตามเคย จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 7. อยู่ห้องกล้อง ไม่พูดเรื่องถ่ายรูปได้ไง ที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสวรรค์อีกที่ของนักถ่ายภาพค่ะ มองไปทางไหนก็สวยๆๆๆๆ สวยไปหมด สวยจนกดไปหลายร้อยรูป ดีนะที่เอาตัว Portable Harddisc ไปดูดไฟล์ ดูดกันหลายกล้อง หลายรูปจนจำไม่ไหว งวดนี้เราเอากล้องตัวเล็ก Fuji F10 ไปด้วย ซื้อซองกันน้ำ ยี่ห้อ Aquapac มาจากร้านแถวทองหล่อ ตามที่อ่านเจอในเว็บ มันประกอบได้กิ๊กก๊อกมาก จนเราไม่แน่ใจว่ามันจะกันน้ำได้จริงๆ หรือเปล่า แต่ปรากฎว่าจากที่ลองทั้งในสระว่ายน้ำที่หมู่บ้านกะเอาไปทะเลกลับมา น้ำก็ยังไม่ซึมเข้า แปลว่าผ่าน ที่เราเห็นซองกันน้ำที่เค้าใช้กันเยอะๆ ก็รุ่นที่ TKT ขายน่ะค่ะ ที่มีซองกันน้ำแล้วก็ตัวซองมีที่ให้ที่ซูมยื่นออกมาได้ รู้สึกว่าจะจับง่ายกว่าแบบของเรา แต่พี่ในกรุ๊ปดำน้ำของเรามีอยู่คนใช้รุ่นนี้ เห็นว่าซื้อมา 1500 บาท แล้วพี่เค้าคงจะแพ็คไม่ค่อยแน่น น้ำเลยซึมเข้า พี่เค้าหน้าเสียเลยค่ะ เป็นกล้องโซนี่ แต่พอเช็ดๆ แล้วก็ใช้ได้เหมือนเดิม เจ้าของค่อยยิ้มได้หน่อย เรื่องถ่ายรูปใต้น้ำ เป็นอะไรที่ยากมาก โดยเฉพาะสองวันแรกซึ่งน้ำค่อนข้างขุ่น ความหักเหของแสงค่อนข้างมาก ทำให้มืด มองอะไรไม่ค่อยชัด จับโฟกัสกล้องไม่ได้เลย ทำให้ได้รูปไม่ดี ถ่ายมาร้อย ใช้ไม่ได้เลยสักรูป ด้วยความกลัวน้ำซึมเข้ากล้อง เราเลยเอาซองยาใส่ซิลิก้าเจลไปด้วย ปรากฎว่าบางรูปถ่ายออกมามีซองกันชื้นเต็มๆ หน้ากล้องก็มีแต่ยังค่ะ ยังไม่ท้อ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอกลับมาที่พัก คราวนี้เอาใหม่ ลองถ่ายที่ตื้นๆ ที่หน้าหาดดู ลองหลายๆ แบบ ปรับ WB ปรับโน่น ปรับนี่ แล้วภาพที่ได้ก็ยังไม่ดี จนในที่สุดไปเจอปลาการ์ตูนหรือนีโม่ลายส้มขาว หรือนีโม่ เลยถ่ายเป็นวีดีโอกะจะเก็บไว้ให้แม่ดู ปลากฎว่าสวยแฮะ ดีกว่าที่ถ่ายๆ มาทั้งวันอีก อาจเป็นเพราะพอเป็นวีดีโอแล้วมันออโต้โฟกัส ชัดตลอดช่วง วันต่อๆ มาเราเลยถ่ายเป็นวีดีโอตลอด แต่เสียอย่างเดียวตรงที่ Portable Harddisc ของเรามันอ่าน XD ไม่ได้ เรามีการ์แค่ 512 +256 เท่านั้น เลยต้องถ่ายอย่างประหยัดที่สุด ที่เราชอบมากที่สุดก็คือต้นโกงกาง รากไม้ของต้นโกงกางมีเอกลักษณ์เด่นประจำตัวของมันเอง สวยมากค่ะ อีกอย่างที่ชอบก็คือฟ้าใสๆ กับทะเลสีสวยๆ ที่ไม่ว่าจะพยายามถ่ายรูปอย่างไร มันก็ไม่สวยได้เสี้ยวหนึ่งเหมือนที่ตาเห็นเลยค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 8. ว่าจะไม่เล่า แต่เอาสักหน่อย ... ตกเรือ .... ตัดฉากมาเป็นวันกลับเลยนะคะ เราตื่นมาแต่เช้า คว้าสน็อกเกิ้ลไปดำน้ำ สั่งลาเกาะ มาอาบน้ำ เอามาม่าคัพไปเติมน้ำที่โรงอาหาร กินข้าวเช้าแล้วก็เดินไปถ่ายรูปที่สองร้อยเมตร ฝั่งกองหินสวยๆ ปีนกองหินไปเรื่อยๆ เพราะได้ข่าวลือ ที่คนเต๊นท์ข้างๆ เค้ามาบอกว่า มีคนเห็นปลาฉลามที่แถวนั้น (เมื่อวานชั้นก็มา ทำใมไม่มีสักกะตัว) ปีนหินไป ถ่ายรูปไป สักสิบเอ็ดโมงกลับมาเก็บของที่เต๊นท์ เที่ยงตรงไปกินข้าวสั่งที่โรงอาหาร เสร็จเรียบร้อย ลาเพื่อนใหม่ๆ ลาเจ้าหน้าที่อุทยาน ลาสต๊าฟซาบีน่าที่เหลืออยู่ ลาพี่เดียร์แม่บ้านที่หาเต๊นท์ทำเลทองให้เรานอน แล้วก็แบกของเดินมาที่สองร้อยเมตร รอขึ้นเรือกลับ คนที่นี่เค้าเรียกเรือเมลล์กะเรือเร็วนะคะ ถ้าบอกว่าเรือเมลล์ก้อแปลว่าเรือช้านั่นล่ะ ตอนนี้คนแบกกระเป๋าให้เรามีแอบบ่น ว่าของกินก็กินไปตั้งเยอะแล้ว ทำใมกระเป๋ามันหนักกว่าขามา ก็แหม....เสื้อเปียกทั้งนั้นนี่คะ ไม่หนักได้ไง จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 12.50 เจ้าหน้าที่อุทยานเรียกคนที่กลับฝั่งขึ้นเรือ ตามรายชื่อที่เค้ามี ว่าคนไหนให้ไปขึ้นเรือลำไหน เราก็ไปถามเค้า เค้าก็บอกว่าเพ็คเกจของซาบีน่าให้รอสต๊าฟซาบีน่าเรียก เราก็นั่งรอ รอจนบ่ายโมงเกือบครึ่ง บังหมาน สต๊าฟของซาบีน่าก็เดินมากะกรุ๊ปอีกกรุ๊ปหนึ่ง พอเราเดินไปถาม เค้าก็ตกใจ บอกว่าลืม !!!!! เพราะเรือเมลล์ออกไปแล้ว บังหมานเค้าก็เลยให้เราไปกะเรือของอีกกรุ๊ปที่กลับ Speed Boat แฟนเราก็บอกว่าดี จ่ายเงินเรือช้า แต่ได้กลับเรือเร็ว แต่คนมันเกินออกมา เราเลยได้นั่งกะพื้น จริงๆ ที่มันก็พอล่ะ ด้านหน้าเรือ แต่หน้าเรือน่ะมันร้อนมาก ไม่มีหลังคา เราเลยมานั่งตรงทางเดินซะเลย เรือเร็วซิ่งมาก ออกจากช่องเขาขาดก่อนบ่ายสองโมงครึ่ง ไม่ถึงบ่าย 3 ครึ่ง เราก็มาถึงท่าเรือแล้ว จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 09:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ถ้ามองกลับกันล่ะ ถ้าวันนั้นไม่มีเรือเร็วกลับล่ะ เรามิต้องนอนที่นั่นอีกคืนเหรอ รถก็จองไว้แล้ว ที่ทำงานก็ลาไว้แค่สามวัน เอากะเค้าสิ แถมยังเหมือนเอาป้ายมาปั๊มไว้ที่หน้าผากว่า เราตกเรือ..... ตกเรือ ทั้งที่เรามาตั้งแต่เที่ยงกว่าเนี้ยนะ... อันนี้จริงๆ เพราะเค้าวิทยุคุยกัน เรียกเราตลอดการเดินทางเลยว่า กลุ่มที่ตกเรือ ตกเรือ ตกเรือ... อยากจะตะโกนว่าไม่ได้ตกเรือเฟร้ยยยยยยย  สต๊าฟมันลืมชั้นอ่ะ เจ้าหน้าที่อุทยานบอกให้ทางของซาบีน่ามาเรียก ชั้นรอตั้งแต่ เที่ยงห้าสิบ ยังไม่เจอใครสักคน จะเจอก็เจอบังหมานนี่ล่ะ เดินมาทีหลังอ่ะ ถามจริงๆ เหอะ ถ้าวันนั้นไม่มีคนกลับฝั่งโดยเรือเร็ว คิดกันเล่นๆ นะ ว่าเค้าจะไปส่งเราขึ้นรถที่คุระบุรียังงัย ถามให้คิดเล่น ถ้าทางซาบีน่าคิดออก ก็ค่อยบอกก้อแล้วกันค่ะ แต่ยังไงๆ ก็ขอบใจที่เอาเราใส่เรือเร็วมา ให้มาถึงก่อน ได้อาบน้ำอาบท่ากินข้าวก่อนขึ้นรถ ขอบคุณนะคะ สำหรับการหลงลืมในครั้งนี้ +++ +++ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 10:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สรุป กำหนดการของหมวยค่ะ กำหนดการทริปหมู่เกาะสุรินทร์ ก่อนวันที่ 8 มีนาคม นับจำนวนคนให้แน่นอน วันที่ 9 มีนาคม 50 ไปจองทัวร์ในงานไทยเที่ยวไทย ก่อนหน้าวันไปอาทิตย์หนึ่ง เขียนใบลาส่งเจ้านายว่าจะไปเที่ยว  3 วัน ไปจองตั๋วรถทัวร์ เอาลิกไนท์ทัวร์ เค้าว่ากันว่ารถที่นี่ดีที่สุดแล้ว อยากได้ 32 ที่นั่ง แต่ได้มา 36 เพราะไม่ได้วิ่งวันนั้น เย็น 23 มีนาคม แว๊บออกจากที่ทำงานตั้งแต่บ่าย 3 มาถึงสายใต้ 4 โมง เอาของไว้ที่บริษัท แล้วไปเดินเล่น กินข้าวที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ค่อยมาใกล้ๆ รถออกตอนทุ่ม 10 นาที 24 มีนาคม 2550 ตี 5 ครึ่ง ไปถึงคุระบุรี เอาของลงจากรถทัวร์ มีรถจากซาบีน่าไปส่งที่ท่าเรือคุระบุรี นั่งเรือไปตอน 9 โมงเช้า ถึงหมู่เกาะสุรินทร์ตอน 11 โมงครึ่ง เที่ยงกินข้าว บ่ายดำน้ำ เย็นกลับมาเอาของเข้าเต๊นท์ อาบน้ำ กินข้าวเย็น นอน 25 มีนาคม เช้ากินข้าว ออกไปดำน้ำ กินข้าวเที่ยงที่เรือ บ่ายดำน้ำต่อ กลับมาถึงหาดไม้งามตั้งแต่บ่ายสามกว่า ๆ เล่นน้ำหน้าหาดต่อ กินข้าวเย็น นอน 26 มีนาคม 50 เช้าไม่ไปดำน้ำ  เป็นไข้นิดหน่อย เลยไปหมู่บ้านมอแกนแทน เที่ยงกลับมากินข้าวที่ไม้งาม บ่ายไปช่องเขาขาด เดินกลับมา ดูพระอาทิตย์ตกน้ำที่อ่าวกระทิง กินข้าวเย็น นอน 27 มีนาคม 50 เช้าไปดำน้ำสั่งลาหมู่เกาะสุรินทร์ เที่ยง กลับมาเก็บของ อาบน้ำ กินข้าวมื้อสุดท้ายบนเกาะ บ่าย กลับท่าเรือคุระบุรี ไปขึ้นรถที่ท่ารถคุระบุรี 28 มีนาคม 50 กลับถึงกรุงเทพตอนตี 5 ครึ่ง เรียก Taxi เข้าบ้าน หลับเป็นตาย เพราะลางานเผื่อไว้อีกวันแล้ว อิๆ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 10:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สรุปค่าใช้จ่าย Net net พยายามจะคิดเป็นรายหัวนะคะ เพราะบางอย่างก็กิน+ใช้ด้วยกันหลายคน เพ็คเกจ คนละ 3,200 (ซื้อในงาน ททท.) ค่ารถทัวร์ไปกลับ 505+550 = 1,010 ค่าข้าวเหนียวไก่ทอด ก่อนลงเรือ 80 บาท ค่าน้ำอัดลมกะน้ำแข็ง 5 แคน = 100 +20 = 120 บาท ค่าเช่าฟิน (ต่อรองราคาเอา) 300 บาท ค่าสน็อกเกิ้ลกะค่าชูชีพไม่คิดเพราะรวมในเพ็คเกจค่ะ ค่าเช่าเต๊นท์ต่ออีกคืน 100 บาทต่อเต๊นท์ ค่าอาหารวันที่อยู่ต่อ 180 (อาหารชุดเย็น) + 120 (อาหารตามสั่งมื้อเที่ยงวันกลับ)  = 400 (ไม่คิดค่ามาม่าคัพ โจ๊กคัพ ขนม ลูกอมอีกร้อยแปด รวมถึงขนมแจกเด็กๆ มอแกน) ค่าข้าวเย็น + โรตี + น้ำปั่น วันเดินทางกลับ 70 บาท ค่า Taxi ไปกลับบ้าน 400 บาท รวมค่าเสียหาย  4,670 บาท ต่อคน โดยประมาณค่ะ สำหรับทริป 4 วัน 3 คืน ลาด้วยภาพสึนามิที่เด็กมอแกนวาดนะคะ +++ขอบคุณทุกวินาทีบนเกาะค่ะ มีความสุขมากมาย สัญญาว่าจะกลับไป แน่นอน +++ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 10:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รูปสวยคับ อยากไปเกาะสุรินทร์อีกที่สุดเล้ยยยยยยย จากคุณ : pony_pop - [ 5 เม.ย. 50 10:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 4670 ก็ถือว่าถุกนะครับ เพราะว่าได้ไปตั้ง 3 คืน แล้วเราจะกลับไปอีก     มก.สุริน จากคุณ : @Fanciful@ - [ 5 เม.ย. 50 10:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาฟัง จขกท. บ่น   ^__^ อิอิ จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง - [ 5 เม.ย. 50 10:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บรรยายเยอะจังค่ะ จากคุณ : Mashiboro - [ 5 เม.ย. 50 11:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ละเอียดดีครับ จากคุณ : แฟนสวย - [ 5 เม.ย. 50 12:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สร้างสรรค์กระทู้ได้ยอดเยี่ยมไปเลยครับ เนื่อหาที่มีรายละเอียดสำหรับคนรุ่นหลังที่ดีเยี่ยม ภาพถ่ายที่เยี่ยมไม่แพ้กัน กรอบภาพก็สวย แถมเรื่องความรู้เกี่ยวกับซองใส่กล้องกันน้ำด้วย :) จากคุณ : ThinkMan - [ 5 เม.ย. 50 12:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ละเอียดมากๆเลยคะ ภาพปลากรอบน่าจะเยอะๆกว่านี้นะ แต่ก็เจ๋งมากเลยคะ จากคุณ : แมวน้อยห้อยขา - [ 5 เม.ย. 50 12:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 24 มีนาคม 2550 ตี 5 ครึ่ง เจ้าของกระทู้ไปถึงคุระบุรี ผมกลับมาถึงสายใต้พอดีครับ  ไปครั้งแรก  ไปคนเดียวด้วย ประทับใจสุดๆครับ    โชคดี เจอวาฬ ที่หน้าอ่าวแม่ยายด้วย   สิ้นปีจะกลับไปอีกรอบครับ จากคุณ : ..sp@wn.. - [ 5 เม.ย. 50 14:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รูปน้อยไปเหรอคะ เรากลัวว่าจะโหลดนานเลยไม่ได้ใส่รูปเยอะอ่ะ สำหรับข้อความที่เขียนเยอะไปหน่อย ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นความรู้คนที่จะไปน่ะค่ะ เพราะเราเองก็กเก็บๆ หาๆ แถว BP print เป็นปึกๆ เอาไปอ่านก่อนไปจิงๆ ที่เขียนก็อยากเล่าให้ฟัง เผื่ออะไรๆ จะเป็นประโยชน์กะคนอื่นได้มั่ง เท่านั้นเองค่ะ ถ้าเขียนยาวไปก็โทษทีละกันค่ะ ดูรูปอย่างเดียวละกัน จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 14:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อีกละกันค่ะ เพิ่งทำเสร็จ กะจะเอาลงบล็อก อ่าวกระทิงค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 14:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่าวกระทิง อีกมุมค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 15:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบจังค่ะ เรือมีร่มเนี่ย ถึงจะร้อน แต่ก็ไม่ดำ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 15:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คิดถึงน้ำทะเลใสๆ จังเลย จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 15:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพสุดท้ายค่ะ ชื่อรูปว่า "Just only you and I" ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านและดูรูปค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 5 เม.ย. 50 15:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รูปสวยดีคะ ชอบมุมมองนะ (มีรูปโม่อีกป่าวคะ อยากดูๆๆๆ ว่าแต่โม่ตัวไหนเอ่ย?) ขอเซฟนะคะ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 15:16:56 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 50 15:16:55 จากคุณ : Daijobudai - [ 5 เม.ย. 50 15:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ว๊าว น่าไปมากๆค่ะ จากคุณ : แม่โบนัส - [ 5 เม.ย. 50 15:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รูปสวยค่ะ  ขัอมูลของ จขกท. ละเอียดดี ตอนเราไป  ไปเองคือไปเองจริงๆ ค่ะ ไม่มีอะไรที่ใช้บริการของทัวร์เลย ยกเว้นเรือไป - กลับ ของคุระฯ จากคุณ : รอยร้าวไม่เคยจาง - [ 5 เม.ย. 50 16:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ข้อมูลเยอะดีครับ สนใจเรื่องซองกันน้ำ ว่าจะหาซื้อไว้ใช้เวลาไปดำน้ำอยู่เหมือนกัน  ภาพก็สวยดีนะครับ มุมมองใช้ได้เลย จากคุณ : jk (016) - [ 5 เม.ย. 50 20:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นกระทู้ที่แจ๋วอีกกระทู้ค่ะ จากคุณ : ขนมปังกับนมสด - [ วันจักรี 01:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ภาพสวยมากๆครับ และขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆด้วยครับ จากคุณ : อาร์ตตะลอน (Athlons) - [ 8 พ.ย. 50 00:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ และยืนยันว่าไปเองได้แน่นอนเลยกับหมู่เกาะสุรินทร์ :D จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA - [ 11 มี.ค. 51 17:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เขียนเยอะสิดี ได้ข้อมูลและความรู้มาก ๆ ค่ะ จากคุณ : erny - [ 16 ก.พ. 52 17:00:22 ]