ความคิดเห็นที่ 52
ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมนะครับ
เกี่ยวกับในเรื่อง " ความคุ้มค่า "
หากพิจารณาว่าเงิน 3000 บาท/เที่ยว ได้เพียงขนม 1 ชิ้น น้ำส้ม 1 แก้ว น้ำเปล่า 1 แก้ว ชา และ กาแฟ ถ้าเป็นเช่นนี้ผมก็ว่าไม่คุ้มครับ เพราะเงิน 3000 บาท สามารถทานบุฟเฟ่ในโรงแรมชั้นดีได้ถึงสองท่าน หรือถ้าร้านอาหารธรรมดาก็อิ่นกันได้ทั้งครอบครัว
แต่. . . เมื่อพิจารณาว่าเงิน 3000 บาท ทำให้ท่านถึงที่หมายในเวลาอันรวดเร็ว ปลอดภัยไม่มีความเสี่ยงจากการใช้รถใช้ถนน (เครื่องบินโดยสารมีอัตราความปลอดภัยสูงที่สุด) ไม่เสี่ยงกับการนั่งรถนานๆๆซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพบางประการ อีกทั้งหากเวลาของท่านเป็นเงินเป็นทอง(สำหรับนักธุรกิจ) การเดินทางทางอากาศก็นับว่าคุ้มเกินคุ้ม
เราลองมาพิจารณาว่าเงิน 3000 บาทน่าจะเป็นค่าอะไรบ้าง ???
- ค่าเครื่องบินมูลค่าหลายพันล้านบาท ค่าเสื่อมราคา
- ค่าบำรุงรักษา ตรวจเช็คให้เครื่องบินมีความพร้อมบินอยู่เสมอ (ซึ่งการบินไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ได้รับความเชื่อมมั่นให้บริการแก่สายการบินนานาชาติอื่นๆเสมอมา ) ซึ่งตรงจุดนี้ก็จาแยกย่อยไปถึงค่าอะไหล่ ค่าสำรองอะไหล่ ค่าจ้างช่างเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญต่างๆๆ etc .. ***หัวใจสำคัญของการเดินทางทางอาการ คือ ความปลอดภัยครับ *** แม้จะมีองค์กรคอยตรวจสอบ แต่ แต่ละสายการบินมีมาตรฐานต่างกันแน่นอนครับ
- ค่าน้ำมัน เติมใส่รถยังครั้งละเป็นพัน ยิ่งถ้าจะต้องขับไปเชียงใหม่ก็คงจะหลายพันอยู่นะสมัยนี้ แล้วเติมใส่เครื่องบินคิดว่าน่าจะเป็นมูลค่าสักเท่าไหร่คับ ???
- ค่าธรรมเนียมการท่าอากาศยาน ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะมีค่าปลีกย่อยต่างๆๆไปอีกครับ
- ค่าพนักงานภาคพื้นดินทั้งต้นทางและปลายทาง ground staff, check-in , loader ,red cap ,ช่างเทคนิค etc ...
- ค่าทำความสะอาดเครื่องบิน ล้างห้องน้ำ เปลี่ยน head rest ,clean seat, ดูดฝุ่น etc ... ซึ่งการบินไทยทำทุกเที่ยวบินครับ
- ค่าพนักงานบนเครื่องบิน กับตัน , นักบิน ,ลูกเรือ ค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยง ต่างๆๆ อยากรู้ว่าเท่าไหร่ถามคนใกล้ชิดกันเอาเองครับ แต่ถ้าน้อยคงไม่มีใครอยากเอาชีวิตไปเสี่ยง กิน นอน ไม่เป็นเวลา ความกดอากาศ ออกซิเจนก็น้อยกว่าบนพื้น
- ค่า training อบรม นักบิน ลูกเรือ ช่าง กว่าจะได้พนักงานที่สามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องลงทุนให้แต่ละคนไม่รู้เท่าไหร่ครับ กว่าจะได้กัปตันสักคนใช้เวลาเป็นสิบปี กว่าจะได้นักบินสักคนก็ต้องใช้เวลาเทรนอย่างน้อยๆๆก็ปีครึ่งเกือบสองปี
-ค่าสิ่งอุปโภค บริโภค บนเครื่อง etc . . .
- ค่าการตลาด น้ำหอมหนึ่งขวดราคาหลายพันบาท ต้นทุนการผลิตจริงฟังแล้วอาจจะตกใจว่าแค่ไม่กี่บาท แต่ทำไมคนถึงยังซื้อ ก็เพราะผู้ผลิตมีการตลาดที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความพิเศษ ความหรูหรามีเอกลักษณ์ ความมีรสนิยม เป็นต้น ราคาขายจึงรวมค่าการตลาดเข้าไปด้วยครับ
- ค่าภาษี ,ค่าประกันภัย
- ค่าบริหารจัดการ (มากแค่ไหนก็ติดตามอ่านข่าวกันเอาเอง ) ประชุมกันทีก็รับกันไม่รู้เท่าไหร่ ฟังที่ไรก็สงสารบริษัท
- ค่านู้นนี่จิปาถะ etc . . .
ลองเทียบดูกับการชมคอนเสริต หรือการแสดงละครเวทีดีๆๆสักเรื่อง ราคา 5000-10000 ใช้เวลาการแสดง 2-3 ชั่วโมง ไม่มีแม้แต่น้ำที่จะเสริฟ (คุ้มหรือไม่ ? ทั้งๆๆที่ต้นทุนน้อยกว่าการเดินทางทางอากาศ )แต่ทำไมที่นั่งยังเต็มและก็ไม่เห็นมีการเรียกร้องบริการระหว่างชม นั่นก็เพราะทุกคนคาดหวังที่จะได้เสพอรรถรสของการแสดง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการมาชม การเดินทางทางอากาศเป้าหมายหลักก็คือการเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
เอาเป็นว่าผมมาให้ข้อมูล มาแชร์กัน
โดยสรุป ::: จะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ขึ้นอยู่ที่ท่านจะตัดสินใจ เงินอยู่ในมือท่าน ท่านจึงเป็นผู้มีสิทธิเลือก ( ผมซะอีกที่เลือกผู้โดยสารไม่ได้ มีทั้งดีและเลวปะปนกัน โชคดีที่คนส่วนใหญ่ยังเป็นคนดี ^ ^) หากท่านอยากได้กล่องใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องบินในช่วงเวลาใดบ้างก็เลือกช่วงเวลานั้น หากท่านเห็นว่ายังไงก้ตามก็ยังไม่คุ้มท่านก็สามารถเลือกสายการบินอื่นๆๆที่ท่านคิดว่าคุ้มและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวท่าน
ลองคิดดูว่าเวลาให้บริการ 30-45 นาที สำหรับการบินภายในประเทศ กับผู้โดยสารหลายร้อยคน ความเหมาะสมในการบริการอาหาร ชา กาแฟ ควรจะอยู่ ณ จุดใด
โดยปกติในเส้นทางบินระหว่างประเทศเราก็มีทั้งถาดเล็กและถาดใหญ่ครับ (คล้ายๆๆกับกล่องเล็กและกล่องใหญ่) ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากพื่นที่ในครัวมีจำกัด ไม่สามารถโหลดเป็นถาดใหญ่ได้ทั้งหมด เป็นต้น
ท้ายสุดผมเสียใจกับคำพูดเหล่านี้ครับ :
"ผมไม่ชอบการบินไทย อย่างรุนแรงครับ" "ผมอคติกับลูกเรือมากไป ... ทำให้อะไรก็ขวางหูขวางตา " "ที่แท้ก็แค่คนบริการบนเครื่องเท่านั้นเอง" "สมควรแล้วที่เจ๊ง ห่วยแตกจริงๆครับการบินไทย " "ผมจะเกลียดคนอย่างคุณเข้าใส้ครับ ...ทรรศนคติของคุณ ก็คงทำให้เป็นผู้ให้บริการที่ดีไม่ได้หรอกครับ ..."
จากคุณ :
คนมีปีก
- [
16 เม.ย. 50 18:27:06
A:203.155.226.124 X: TicketID:143096
]
|
|
|