ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากเครื่องขึ้นไปได้สักหลายชั่วโมง แอร์ก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ อุตสาห์หวังไว้กับอินเดียแอร์ไลน์เต็มที่ว่ามันต้องเป็นอาหารแขก แต่ข้าวที่เสิร์ฟบนเครื่องกลับเป็นของจากครัวการบินไทยซะงั้น! อาหารไทยก็ดีอยู่หรอก แต่เราอยากกินแกงจิ้มโรตีนี่นา T^T อิ่มอร่อยกับอาหารไทย 100% บนสายการบินอินเดียแล้ว ก็นั่งๆนอนๆ ดูแอร์เอาน้ำเอาขนมมาแจกเป็นระยะๆ จนหลับไปไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีเครื่องบินก็กำลังจะแลนด์ดิ้งแล้ว ภาพของเมืองเดลลีในยามบ่ายคล้อยที่เห็นผ่านหน้าต่างเครื่องบินค่อยๆชัดเจนขึ้น แม้จะไม่ได้สวยงานจนน่าประทับใจ แต่ก็ทำให้บังเกิดความตื่นเต้นจนถ่ายรูปไปซะหลายยก ++++++++++++++++++++++ ทุ่งนาเหลืองอร่าม จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องบินลงจอดที่สนามบินอินทิรา คานธี ประมาญเกือบ 5 โมงเย็น หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆและแอร์ที่เย็นสบายในสนามบินแล้ว ก็มาปะทะเข้ากับความร้อนเกือบ 40 องศาของอินเดีย จนทำให้ต้องรีบวิ่งขึ้นไปหาแอร์เย็นฉ่ำบนรถทัวร์อย่างด่วนที่สุด ในวันแรกนี้ยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ใหน แค่พักที่เดลลี 1 คืน แล้วถึงค่อยต่อเครื่องบินไปแคชเมียร์บ่ายวันรุ่งขึ้น สภาพเมืองนิวเดลลีที่เห็นจากสองฝั่งถนนที่รถทัวร์ผ่านนั้นดูโทรมๆ บ้านเรือนแต่ละหลังเหมือนสร้างไม่เสร็จ และบ้านหลายหลังเป็นอิฐเปล่าๆ ไม่ได้ฉาบปูนหรือทาสีอะไรทั้งนั้น คุณไกด์สาวอธิบายว่าถ้าบ้านไหนฉาบปูนแปลว่ามีฐานะ และต้องเสียภาษี คนส่วนใหญ่ไม่อยากเสียภาษีเลยไม่ฉาบปูนมันซะเลย โชว์อิฐแดงๆไปแบบนี้แหละ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บ้านเรือนสองฟากถนนจะดูโทรมๆแบบนี้ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บนท้องถนนของอินเดีย เราจะเห็นวัวเดินไปมาอย่างสบายใจราวกับเป็นเจ้าของถนนอยู่เป็นระยะๆ เพราะคนอินเดียส่วนมากนับถือศาสนาฮินดู จึงถือว่าวัวเป็นสัตว์ศักสิทธิ ไม่มีใครกล้าทำอันตรายใดๆ เลยเดินกร่างไปทั่วถนนได้อย่างน่าหมั่นไส้น่าดู -_-“ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกสิ่งหนึ่งที่เราสะดุดตาบนท้องถนนของอินเดียก็คือ รถเมล์ค่ะ รถเมล์ของอินเดียยี่ห้อ TATA เคยอ่านจากหนังสือเล่มใหนซักเล่มเค้าว่าตาต้าแปลว่า อดทน ซึ่งดูจากที่เห็นแล้วก็สมกับคำว่าอดทนกันจริงๆ ทั้งรถทั้งคนโดยสาร เพราะคนจะแน่นเป็นปลากระป๋องอยู่ตลอดเวลา บางคันถึงขนาดมีคนขึ้นไปนั่งบนหลังคา หรือห้อยออกมาข้างนอกก็มี ตรงไหนที่มีอะไรพอจะให้เกาะห้อยโหนได้ ก็จะมีอาบังห้อยอยู่เต็มไปหมด น่าหวานเสียวแทนจริงๆ ส่วนรถทุกคันก็มีสภาพโทรม-โทรมมาก บางคันประตูตรงคนขับหลุดหายไปทั้งบานเลยก็มี น่าแปลกใจจริงๆที่ยังเอามาวิ่งกันได้อยู่ หน้าต่างรถจะกั้นด้วยราวเหล็กหรือตะแกรง ทำให้ดูน่าอึดอัดสมเป็นปลากระป๋องยิ่งขึ้น มิน่าล่ะ รถเมล์ถึงได้เป็นหนึ่งสิ่งที่แม้แต่คนอินเดียเองก็ยังไม่ค่อยอยากใช้บริการ อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเล้ยย ^^” แต่ที่เราว่าน่าทึ่งก็คือเวลาที่ต้องการให้รถจอดเวลาคนที่มีคนจะขึ้นหรือจะลง เค้าก็มีวิธีคือใช้ฝ่ามือตบที่ข้างรถให้เสียงดังปังๆ ชัดเจนมากค่ะ เสียงดังฟังชัดยิ่งกว่ากริ่งรถเมล์เมืองไทยซะอีก คงเพราะไม่มีกริ่งให้กดละมั้ง ก็แปลกดีนะ ++++++++++++++++++++ รถเมลล์อินเดีย จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บังห้อยโหนรถเมลล์เป็นสามารถ ^^" จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราเข้าพักและกินข้าวเย็นที่โรงแรม Hotel Grand Sartaj ลอบบี้ของโรงแรมนี้ตบแต่งสไตล์อินเดีย สวยมากๆ ถึงจริงๆแล้วพื้นที่ค่อนข้างจะแคบแต่ก็ติดกระจกซะด้านนึงเลยดูกว้างขึ้นเป็นสองเท่า เป็นไอเดียที่แจ๋วน่าดูเลย ++++++++++++++++++++++++++++++ โรงแรม Grand Sartaj จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลอบบี้ชั้น 1 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดูกันให้ชัดๆอีกครั้ง.... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในห้องพักค่ะ สะอาดกว่าที่คิดมาก มีแอร์+พัดลมพร้อม แอร์เย็นเจี๊ยบเลย >_< จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ่ายเงินอินเดียมาให้ดู แบงค์มี 500, 100, 20, 10 และ 5 รูปี (แต่ไม่มีแบงค์ 5 รูปีให้ถ่าย -_-") แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 50 00:16:50 จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ด้านหลังของแบงค์ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 1 ทุ่มตรงทัวร์ทั้งคณะก็มาพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรมด้วยความหิวโหย อาหารเย็นวันนี้เป็นอาหารมื้อแรกในอินเดีย เป็นบุฟเฟต์แกงสารพัดชนิด มีทั้งดาล (แกงถั่ว) แกงแพะ แกงเต้าหู้ และอีกหลายๆแกง กินกับจาปาตีและไบรยานี (ข้าวหมก) ผสมถั่ว วี๊ดวิ่ว~ในที่สุดก็ได้กินอาหารแขกแล้ว ไชโยๆๆ >_< [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กินกันอย่างเอร็ดอร่อย ที่เห็นส้มๆในถ้วยนั่นคือซุปมะเขือเทศค่ะ เค้ามาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ อร่อยมากๆ >_< จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ่ายจานอาหารมาให้เห็นกันชัดๆ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 50 23:45:48 จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อิ่มจากอาหารคาวแล้วก็พบกับของหวานน่าสนใจ มีชื่อว่า Sewiya Kheer ตอนแรกที่กินคิดว่าเป็นขิงอ่อนต้มกับนม แต่จริงๆแล้วเป็นเส้นหมี่สีน้ำตาลเส้นเล็ก คล้ายๆวุ้นเส้น ต้มกับนม ใส่มิ้นท์ ขิง และเครื่องเทศหลายชนิด กับถั่วนิดหน่อยพอให้มีรสกรุบๆ อร่อยน่าดูเลย ขนาดอิ่มแล้วยังกินไปตั้งหลายถ้วย เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าจริงๆแล้วเรามีสี่กระเพาะรึเปล่าหว่า -_-“ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก่อนออกจากห้องอาหารเราก็ตบท้ายด้วย “ซาล” ซึ่งเป็นเครื่องเทศสำหรับอมดับกลิ่นปากหลังกินข้าวเสร็จของอินเดีย ซาลมีหลายอย่าง ทั้งเมล็ดยี่หร่า หมากฝานเป็นแผ่นบางๆอบแห้ง มีทั้งแบบธรรมดาและเคลือบน้ำตาล และเป็นน้ำตาลกรวดก้อนเล็กๆก็มี จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากอิ่มหมีพีมันกันแล้ว ก็เป็นเวลาย่อยอาหารด้วยการเดินชมเมืองเดลลี แต่แม่เราเพลียจากการเดินทางเลยขอนอนดีกว่า เราเลยออกมาเดินเล่นชมเมืองกันแถวๆโรงแรมกับพ่อและบัว (ลูกเพื่อนพ่อ) กัน 3 คน สภาพกรุงเดลลีที่เห็นยังดูล้าหลัง เทียบได้กับประเทศไทยเมื่อ 20-30 ปีก่อน จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เดินๆไปเห็นแผงขายขนมอะไรซักอย่าง อ๊ะ! น่าสนใจดี เลยเดินเข้าไปมองๆ ยังไม่ทันจะถามจะพูดอะไรเลย บังคนขายแกก็จัดการหยิบขนมก้อนกลมๆนั่นใส่กระทง โปะด้วยอะไรซักอย่าง ราดทับด้วยซอสสีเขียวข้นๆ แล้วก็เหยาะพริกป่นสีแดงๆตบท้าย แล้วก็ยื่นมาทางเราพลางพูดว่า “มังกี้ดอล์ 20 รูปี” แล้วกัน...มัดมือชกกันนี่นา เรายังไม่ได้บอกว่าจะซื้อซักหน่อย ++++++++++++++++++++++ แผงขนมของอาบัง จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เท่านั้นยังไม่พอ บังแกยังทำท่าจะหยิบมาให้อีกกระทง เล่นเอาร้องกันใหญ่ว่า ไม่เอาแล้ว แทบไม่ทัน ลองชิมดูก็พบว่าเป็นมันอะไรซักอย่างปั้นก้อนแล้วคงจะเอาไปอบ เนื้อยาบๆสากๆยังไงไม่รู้ ส่วนไอ้ที่โปะทับมานั่นก็เป็นมันแบบเดียวกันฝานเป็นแผ่นเล็กๆ มีรสมันๆเค็มๆเผ็ดๆปะเล่มๆจากซอสสีเขียวสยองที่ราดมา สรุปคือไม่อร่อยเลยอ่ะ กินกันไปคนละลูกก็ไม่มีใครยอมกินต่อ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการฝากไว้กับถังขยะแถวนั้น =_= จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 23 เม.ย. 50 23:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ร้านขายขนมอีกร้าน (คราวนี้ไม่กล้าเข้าใกล้มากแล้ว กลัวจะโดนยัดเยียดให้ซื้ออีก) จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 24 เม.ย. 50 00:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ดูเหมือนว่าที่เดลลีนี่ ไฟมักจะดับอยู่เสมอเป็นปกติวิสัย ตอนเดินชมเมืองก็เกิดไฟดับขึ้นมา แต่คนเค้าก็เฉยๆกัน ร้านค้าหลายร้านมีเครื่องปั่นไฟเป็นของตัวเองอย่างเป็นกิจลักษณะ ตั้งเรียงกันอยู่หน้าร้านเสียงกระหึ่มเชียว บางร้านไม่มีเครื่องปั่นไฟก็จุดเทียนเอา แต่ผู้คนก็ยังขาย-ซื้อของกันตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อึ้ม...ไฟดับนี่คงเป็นเรื่องธรรมดาของอินเดียสินะ +++++++++++ ไม่บอกคงไม่เชื่อ นี่ไฟดับอยู่นะเนี่ย ^^" จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 24 เม.ย. 50 00:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หลังจากซื้อขนมสุดไม่อร่อยมากิน เดินเล่นชมสภาพบ้านเมือง+กระหน่ำถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็ค่อยกลับโรงแรม ก่อนขึ้นห้องพักก็แวะกินกาแฟที่คาเฟ่หน้าชั้น 1 ของโรงแรม (ตอนนี้มีไฟแล้ว) ทำให้เราได้รู้ถึงสัจธรรมอีกอย่างหนึ่งของอินเดีย คือการสั่งอาหารนั้น ถ้าคุณต้องการสิ่งของหลายรายการ คุณจะต้องบอกคนขายทีละอย่างว่าต้องการอะไร แล้วบังคนขายแกถึงจะค่อยทำหรือหยิบให้ แต่ถ้าเราสั่งหลายรายการรวดเดียวเหมือนที่สั่งกันตามปกติที่เมืองไทย บังคนขายแกจะงงมาก แล้วจะทำผิดๆถูกๆขาดๆเกินๆมาให้เรา ซึ่งดูเหมือนคนอินเดียจะเห็นว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ละคนสั่งอาหารไปแล้วก็นั่งรอยืนรอกันอย่างใจเย็น แต่กะเหรี่ยงนักท่องเที่ยวอย่างเราเนี่ยสิ จะลงแดงตายแทน ++++++++++++++++ ภายในร้านกาแฟ จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 24 เม.ย. 50 00:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตาจะปิดแล้ว... ~_~ เดี๋ยวจะมาแปะต่อในโอกาสหน้านะคะ ราตรีสวัสค่ะ (_ _) z z Z Z จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 24 เม.ย. 50 00:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามอ่านค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 24 เม.ย. 50 07:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาเที่ยวอินเดียด้วยคนครับ ถ้านับตามจำนวนประชากรแล้ว ผมเชื่อว่าเดลลีน่าจะเป็นมหานครอันดับหนึ่ง ที่มีประชากรเยอะที่สุด สกปรก ผู้คนแออัด ภาพของคนปูผ้านอนบนฟุตบาทตอนดึก มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ภาพของคนนั่งยองถ่ายอุจาระริมถนนมีให้เห็นทุกเช้า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อินเดียก็ยังเป็นอินเดีย ที่มีความแข็งแกร่งทางวัฒนธรรม ที่ทำให้หลายคนยังอยากไปเยือนอยู่เสมอๆ รอชมตอนต่อไปนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 50 07:58:50 จากคุณ : CoBraGolD - [ 24 เม.ย. 50 07:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : Art999. - [ 24 เม.ย. 50 09:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องเกี่ยวกับอินเดีย อ่านทีไรก็สนุก ฝันไว้ว่าจะมีโอกาสได้ไปสักวันหนึ่ง แต่นึกถึงกลิ่นแขก กับอาหารแล้ว ต้องชั่งใจมากๆ ตามอ่านต่อค่ะ จากคุณ : pingtam - [ 24 เม.ย. 50 09:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มารออ่านครับบ สำหรับผม อินเดียติดที่เรื่องอาหารมากกว่า ไม่ชอบอาหารอินเดียเลยย จากคุณ : Mr.JT - [ 24 เม.ย. 50 10:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ใช่ เราก็ไม่ชอบอาหารอินเดียเหมือนกัน โดยเฉพาะอาหารที่ขายตามท้องถนนอ่ะ รู้สึกว่ามันเหมือนจะไม่สะอาดด้วยอะ เห็นรูป คคห ที่ 20 แล้วจะอ๊วกอะ จากคุณ : Carktui - [ 24 เม.ย. 50 13:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มารอชมนะครับแล้วจะตามไปปีหน้า จากคุณ : ล่องลอยไปตามสายลม - [ 24 เม.ย. 50 18:22:47 A:58.8.80.7 X: TicketID:120836 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนที่ 2 แปะแล้วนะคะ ^^ 7 วันในอินเดีย แคชเมียร์-ทัชมาฮาล [ตอนที่ 2 : เหินฟ้าสู่ศรีนาคา] http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5348497/E5348497.html จากคุณ : เพลงดวงดาว - [ 24 เม.ย. 50 22:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น่าไปเที่ยว แต่ก็น่ากัวจังค่ะ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 25 เม.ย. 50 10:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พี่ๆคับ ทำไมถึงเรียกคนอินเดียว่าบังละคับ บังนี้ไม่มีในภาษาของอินเดียเลยนะคับ จากคุณ : capt S2 (capt S2) - [ 25 เม.ย. 50 23:24:06 ]