ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นต้องขอแจ้งผลเล็กน้อย ว่าพอไปทำอะไรต่างๆที่เล่ามา ก้อรู้สึกว่าสบายใจนะคะ สดชื่นได้แม้ภัยมาถึงตัว เคยทำอะไรแบบนี้กันบ้างหรือป่าว หรือว่าเรางมงายแต่เพียงผู้เดียว ขอบอก ขอบอก วันที่ 16 พฤษภาคม ถูกหวยนะคะ และก้อเรื่องราวบางอย่างในชีวิต หาทางออกได้ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือป่าว จากคุณ : To be Dakanda - [ 28 พ.ค. 50 13:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าบอกว่าเราจะมีอุบัติเหตู (อันนี้ก้อเป็นวิบากกรรมอยางนึงเหมือนกันท่าทาง) ทางผู้ที่ดูวิบากกรรมให้ไปดำเนินการบริจาคเลือดทั้งหมดจะเปลี่ยนจากรุนแรงเป็นดีขึ้น (โอ้มายกอด เลยจำเป็นต้องฝ่าความกลัว คือความจริงกลัวเข็มมาก ไม่ได้ให้มาสิบห้าปีแล้ว ตั้งแต่เรียน) แต่ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ อย่างน้อยเลือดเราก้อน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นไม่มากก้อน้อย จากคุณ : To be Dakanda - [ 28 พ.ค. 50 14:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รบกวนถามนิดนึงค่ะ ที่ดูหมอนี่เค้าดูวิธีไหนคะ ต้องเสียค่าครูเท่าไหร่ หมอดูที่ไหนคะ คล้าย ๆ กันเลย เผื่อเป็นที่เดียวกัน ของเราแถว ๆ สะพานใหม่ค่ะ ขอเล่าของเราบ้างค่ะ เราก็เคยไปดูหมอ (เอ๊ะ หรือให้หมอดู ) แฟนเราเค้าเชื่อเรื่องพวกนี้เค้าก็เลยพาไปดูด้วยกัน ตอนไปก็คิดว่าเพื่อความสบายใจของเค้าไม่ได้เสียหายอะไร แต่พอไปถึงเค้าก็ดูวันเดือนปีเกิด แล้วก็ดูกราฟชีวิตทัว ๆ ไป แล้วก็ดูไพ่ (แบบให้เราหยิบไพ่ขึ้นมาแล้วเค้าก็เรียง ๆ) ซึ่งไพ่ที่เราหยิบมานั้นเป็นสีดำทุกใบ หยิบได้แต่โพดำกับดอกจิก แฟนเรายังหยิบได้สีแดงเป็นส่วนใหญ่ หมอดูเค้าก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว เจ้ากรรมนายเวรเยอะมาก ดวงผู้ชายชัด ๆ เลย ชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นนักรบ ฆ่าคนไว้เยอะ เคยเกิดเป็นผู้หญิงก็เป็นหมอตำแยอีก ทำแท้งเอาไว้เยอะ ทำให้เราตกใจเหมือนกันนะ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่เราก็ทำตามที่เค้าบอกนะเพื่อความสบายใจ แล้วก็บอกอีกว่าตอนนี้ยังไม่ควรคิดจะมีลูก เพราะเราเครียดมาก ถ้ามีลูกเราอาจแท้งได้ หมอดูเค้าบอกให้ไปแก้กรรมเหมือนกันค่ะ แต่ไม่เยอะเท่านี้ ตอนนี้ก็กำลังแก้กรรมอยู่เหมือนกัน ยังไม่ครบตามที่เค้าบอกเลย ของเราเค้าให้ทำดังนี้ 1. บวชชีพราหม จะเลือกแบบไหนก็ได้ คือ   - ถ้าบวช 3 วัน ก็บวชให้ครบ 3 ครั้ง หรือ ถ้าบวช 7 วัน ก็ครั้งเดียว ถ้าบวชแบบไปเช้าเย็นกลับ ก็ 15 ครั้ง 2. ให้ถวายชุดขาวให้กับวัด 1 ชุด 3. ไปไหว้พระธาตุภูเขาทอง 4. ไปพักผ่อนซะบ้าง เพราะเราเครียดมาก แนะนำให้ไปอาบน้ำแร่วัดวังขนายที่ จ.กาญจนบุรี แล้วก็ไปเล่นน้ำตก (อันนี้ดีเลย เพราะคิดอยู่เหมือนกันว่าจะไปเที่ยวกัน) 5. ไปท้องฟ้าจำลอง (อันนี้ก็งง ๆ ค่ะ ว่าเกี่ยวกับแก้กรรมตรงไหน) 6. สวดมนต์ก่อนนอน 3 บท คือ ธรรมจักร + ยอดพระกัน + พาหุง (แต่สวดมนต์ก็ทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นเหมือนกันนะ) จขกท. ยังมาอ่านอยู่หรือป่าวเนี่ย เราเล่าซะยาวเลย อิอิ จากคุณ : เสื้อฟ้า - [ 28 พ.ค. 50 22:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามมาอ่านต่อภาค 3 ค่ะ ของเราก็โดนทักมาเหมือนกัน ว่าให้ทำบุญตักบาตรเยอะ ๆ ก็เลยพยายามทำบุญเยอะ ๆ ไม่ได้งมงาย แต่เพื่อความสบายใจเหมือนกันค่ะ อยากอ่านต่อจังอ่ะ จากคุณ : Firesky - [ 28 พ.ค. 50 22:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เล่าไปเลยค่ะ คุณเสื้อฟ้า มาอ่านอยู่พอเมื่อวานยุ่งเล็กน้อยกลางคืนเลยไม่มีเวลามาต่อเรื่อง แล้วพอไปไหว้แล้วเค้าให้ทำอะไรเพิ่มเติมหรือป่าวคะ แล้วแต่ละที่ที่ให้ไปนั้นเค้าให้ไปทำอะไรคะ อย่างที่เราไปนะ เค้าจะให้ทำต่างกันเช่น การไปเพื่อสักการะ   การไปเพื่อขออโหสิกรรม และ การไปทำบุญ ซึ่งแต่ละอย่างกลับมาจะต้องมีการกรวดน้ำ เพื่อระลึกถึง หรือแผ่ส่วนกุศลให้บุคคลเหล่านั้นหรือไม่ก้อ เจ้ากรรมนายเวร และ ขอเปิดทางให้เราได้ทำอะไรได้สำเร็จลุล่วงอะไรประมาณนี้ค่ะ สำหรับการดูนะคะ เค้าก้อดูจากลักษณะของเรา (โหงวเฮ้ง) ดูวันเดือนปีเกิด ดูลายมือ ดูรวมๆค่ะ เค้าบอกว่าเค้าจะดูให้แค่ หนึ่งหมืนคน เค้าไม่ได้เรียน ไม่ได้ศึกษามา แต่เค้าเหมือนกับมีคนคอยบอกให้เค้าบอก หรือเค้ามี six sense อะไรอย่างเนี่ยค่ะ  ยิ่งตอนที่เค้าดูเรื่องพ่อนะคะ ที่เล่าไว้ในตอนแรก ยังอึ้งๆ เพราะตัวเองทำท่าไม่เชื่อ แต่เค้าเหงื่อกาฬ แตกเลยนะคะ แล้วก้อ ทำทีเหมือนปวดหัวอย่างแรง ไม่เชื่อก้อต้องเชื่อ เรียกว่า ขนแขนสแตนอัพเลยค่ะ และคนที่ดูนะคะ (คงไม่ได้เรียกว่าหมอ) เค้าอยู่ฝั่งธนค่ะ จากคุณ : To be Dakanda - [ 29 พ.ค. 50 16:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Firesky ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ตามมาอ่าน สำหรับเรื่องการผจญวิบากกรรมในการบริจาคเลือด อันนี้เรียกว่าเลือดตาแทบกระเด็นจริงๆ อย่างที่บอกว่าเป็นกลัวเข็มมากๆ ไปนะขาสั่นเลย (ที่เลิกมาสิบห้าปี ก้อเพราะกลัวนี่แหละ แต่นี่เกรงว่าจะมีอุบัติเหตุ เลยตัดสินใจไปบริจาคให้มันรู้แล้วรู้รอดไป) วันที่ไปบริจาคด้วยความรู้น้อยของตนเอง ก้อนึกว่าเหมือนการตรวจเลือด อุตส่าห์อดข้าวมา ตั้งแต่กลางคืน ปรากฎว่าพอเข้ามาตรวจกรุ๊ปเลือดเค้าบอกว่า ต้องไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยมารับบัตรอีกที ด้วยความรีบเราอุตส่าห์รีบไปทานข้าว ก้อมันอยูใกล้ๆ ทานแบบว่าเร็วมาก แล้วรีบมารับบัตร เค้าก้อมาซักไซ้แบบว่าเราเป็นเด็กๆ ว่าทานข้าวกับอะไร อย่างโน้นอย่างนี้โยกโย้ เราไม่อยากตอบ เพราะว่า เรารู้สึกว่าเกินไปที่ทำกับเราอย่างนี้ นี่ถ้าไม่ต้องแก้วิบากกรรมนะ เราไม่ทนหลอก เรากลับบ้านแล้ว ยุ่งยากขนาดนี้ เราก้อเห็นท่าเค้าไม่ให้บัตรเราแน่ก้อเลยเล่าให้เค้าฟัง ก้อยังมาถามย้ำอีกนะว่า ทานแล้วแน่นะ เราก้อรู้สึกปรี้ดส์เป็นกำลัง ก้อเลยวีนไปเล็กน้อยว่า เอ๊ะ เป็นไรกันคะเนี่ย นี่จะทำความดี ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้คะ แทบถอดใจเลยนะ รู้มั้ยกว่าจะฝ่าฟันความกลัวมามันยากแค่ไหน แล้วยังต้องมาทำแบบนี้อีก แต่เราก้อต้องหุบปาก ไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง จากคุณ : To be Dakanda - [ 29 พ.ค. 50 16:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 และแล้ววิบากกรรมก้อมาถึงจริงๆ เรามาถึงที่ให้เลือด หมายว่าจะเป็นแขนซ้ายนอนตรงข้ามกับผู้ชายท่านนึง เราสบตาเค้าเพื่อเรียกร้องความสนใจ (เผื่อฟลุค ว่าทำความดีแล้วได้แฟนติดมือกลับไปด้วย) พยาบาล (ในความคิดเราเพชรฆาต) เดินมาหมายจะหาเส้นเลือดเรา ฟันไปเถอะจ้ะ จะหาง่ายๆ ตบก้อแล้ว ตีก้อแล้ว รัดก้อแล้ว จนแขนนะแดงไปหมด ก้อยังไม่ได้ ในที่สุดก้อตัดสินใจเลือกแขนซ้าย จิ้มแล้วจิ้มเลย ใจสลายหมดแรง กำก้อนอะไรก้อไม่รู้ไม่มีแรงบีบเลยค่ะ เค้าให้บีบแรงๆ ก้อพยายามสุดชีวิตเลยนะ ปรากฏว่าเครื่องเราดัง (หนุ่มนั้นมองหน้าแบบให้กำลังใจ แล้วเค้าก้อเรียบร้อยเดินจากไป) พยาบาล (เพชรฆาต) มาขยับเข็มเรา เจ็บปวดเป็นที่สุด เครียดเป็นที่สุด บอกว่าเลือดเรา ไม่เดิน ต้องให้เราบีบไอ้ก้อนดังกล่าวให้แรงๆ เราก้อบีบสุดชีวิต (หนุ่มคนใหม่เข้ามา แปลกเหมือนกันนะ เตียงตรงกันข้ามมีแต่หนุ่ม หน้าตาดีพอประมาณคนนี้) เครื่องเราดังอีกแล้ว พยาบาล (เพชรฆาต) เดินมาบอกว่าจะลองอีกวิธี ให้ดื่มน้ำ เค้าก้อไปเอาน้ำหวานแดงมา พยาบาลเวียนวนมาให้กำลังใจ เราต้องดื่มไปสามแก้ว (บริจาคเลือดได้ เบาหวานขึ้นแน่เลยตรู ) ก้อได้เลือดอีกเล็กน้อยนะ หนุ่มคนใหม่ก้อยิ้มให้กำลังใจอีกตามเคย อาจจะเป็นเพราะเตียงเราคนรุมล้อมมากๆ อีกพักนึงพยาบาลหลายคนก้อเดินมาขยับเข็มเราเป็นระยะ หนุ่มคนนั้นก้อออกไป คนใหม่เข้ามา กำ กำ กำ แล้วพยาบาลก้อบอกว่า เค้าหมดความสามารถ เค้าไปเรียกหัวหน้ามา หัวหน้าบอกว่าพอดีกว่า ถ้าขืนรอเวลาไปมากกว่านี้เลือดอาจจะใช้ไม่ได้ จากคุณ : To be Dakanda - [ 29 พ.ค. 50 18:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม -- ส่วนตัว  ถ้าทำตามที่บอก เป็นการทำบุญ ไม่เดือดร้อนผู้อื่น ไม่เดือดร้อนต่อหน้าที่การงงาน ไม่เสียเงินทองมากจนเกินไป  ทำแล้วสบายใจก็ทำได้ครับ  แต่การเดินทางไปกับคนแปลกหน้า อันนี้ก็ต้องระวังตัวหน่อยนะครับ  และที่ควรกังวลอีกอย่างก็คือ  ในตอนแรกเค้าก็อาจจะแค่ชวนให้ไปทำบุญธรรมดาๆ  แต่พอนานๆ ไปพอเราเริ่มจะคุ้นเคยมากขึ้น เชื่อใจเค้ามากขึ้น ก็อาจจะโน้มน้าวให้ทำอะไรอย่างอื่นมากขึ้นก็ได้  อันนี้ก็ต้องพิจารณาให้มากๆ และมีสติอยู่ตลอดเวลานะครับ จากคุณ : David_kop - [ 29 พ.ค. 50 18:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เคยหลังมัยมาถามครั้งนึงแล้วอะคะ เรื่องแก้กรรมไม่ทราบได้รับรึเปล่าคะ เค้าดูให้คนอื่นทั่วไปมั๊ยคะ อยู่แถวไหน ต้องทำยังไงบ้าง รบกวนได้มั๊ยคะ ที่หลังมัยก็ได้คะ อยากได้ข้อมูลว่าติดต่อได้ที่ไหน ขอความกรุณาด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ จากคุณ : แมวน้อยห้อยขา - [ วันวิสาขบูชา 17:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แก้กรรม ด้วยวิธีนี้นะครับ  อาจารย์สอนไว้  ชีวิตจะดีขึ้น  ดีขึ้น  ไปเรื่อยๆ และตลอดไป  3 ข้อ  ครับ 1. คิดดี 2. พูดดี 3. ทำดี ถ้าเราคิดดี  สิ่งที่เราพูดก็จะไม่ไปให้ร้ายใครและเราก็จะไม่ไปทำสิ่งไม่ดีใดๆด้วย จากคุณ : maruman - [ 16 มิ.ย. 50 17:02:55 ]