ความคิดเห็นที่ 1 เรามาเริ่มเตรียมตัวกันก่อนเลยแล้วกัน 1. อย่างแรกก็ต้องมี passport ที่มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน 2. การจะขอวีซ่า ก็ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ่ายรูปขนาดขอวีซ่า น่าจะประมาณ 2.5 x 2.5 นิ้ว ก็เตรียมเอกสารปกติ เช่น statement จากธนาคาร หรือ บัญชีธนาคาร, หนังสือรับรองจากบริษัทว่าเราเป็นพนักงานของเขา และมีวันลาหยุด โดยที่บริษัทอนุญาตให้หยุดไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ คิดว่า ฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทคงทำให้ได้ไม่ยาก (ถ้าเป็นนักศึกษา ก็ขอทางมหาวิทยาลัยแล้ว) เรื่องเงินในบัญชีก็มีถามมาเยอะค่ะ ส่วนตัวคิดว่ามันคงไม่ต้องมากมายอะไร ขนาดไปหยิบยืมเงินคนอื่นเข้าบัญชี เท่าที่เคยขอวีซ่ามา ยังไม่เคยเอาบัญชีที่มีเงินเกินแสนไปยื่นเลยค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ได้วีซ่า มาเที่ยวหลั่นล้าได้ทุกที จะมีก็ตอนขอวีซ่าไปเยอรมนีตอนปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่เค้าถามว่า "ไม่คิดว่าเงินน้อยเกินไปสำหรับไปเที่ยว หรือค่ะ เพราะคุณต้องซื้อตั๋วด้วย" เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ ว่าเรานะจะไปอาศัยเพื่อนนอน แต่เพื่อนไม่ได้จ่ายตังค์ให้ ตั๋วก็แลก ROP เอา ทำให้เขามั่นใจว่า ยังไงฉันก็กลับมาเมืองไทยแน่นอน สุดท้ายก็ได้วีซ่ามากอดนอนบนเครื่องบิน สาว ๆ คนไหนไปเป็นกลุ่มยิ่งดี ก็ไปขอวีซ่าเป็นกลุ่มเลยค่ะ ยิ่งปีนี้เค้ามีโครงการโปรโมทการท่องเที่ยว ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นก็น่าจะไม่ยากมากนะคะ อยากจะเน้นเรื่องรูปนิดนึงว่า ตัดให้พอดีกับที่เค้ากำหนด ว่าศีรษะเราต้องอยู่ประมาณตรงไหนของช่อง ถ้าติดรูปไม่ดี เค้าอาจจะไม่รับพิจารณาค่ะ  และตอนนี้ก็ต้องไปขอวีซ่าที่ทำการใหม่ ใกล้ ๆ กับสวนลุมไนท์ ห้ามไปอโศกนะคะ ไม่งั้นเสียเวลาแย่เลย ไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซด์ของสถานทูตค่ะ http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visaindex.htm จากคุณ : Travel Animal - [ 11 ก.ค. 50 17:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องตั๋วเครื่องบินก็ตามแต่สะดวก อยากไปถูก แพง ตารางการบินเยอะ ก็เลือกได้ตามชอบ แต่จะขอเตือนให้หลีกเลี่ยงช่วง Golden Week (ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม) และประมาณช่วง 2 อาทิตย์กลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคม เพราะราคาตั๋วและอื่น ๆ มันจะแพงกว่าเวลาปรกติ เนื่องจากเป็นหน้าเที่ยวของคนญี่ปุ่นเค้า ส่วนอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศหน้าไหนของญี่ปุ่นก็เลือกได้เลยค่ะ ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ชอบเดือนพฤศจิกายน เพราะชอบดูต้นเมเปิ้ล เคยเห็นซากุระแล้วก็สวยดี แต่ไม่ชอบที่มันบานได้อย่างมากก็ 7-10 วัน มันเป็นความสวยแบบไม่ทนนะ แต่ตอนเดินผ่านแล้วลุ้นทุกวันว่า ซากุระมันบานไปเท่าไหร่แล้วก็สนุกดี ถ้าใครอยากเห็นซากุระ แนะนำช่วงต้นเดือนเมษายนค่ะ แต่ก็ต้องแล้วแต่โชค เพราะบางปีก็บานช้า บางปีก็บานเร็ว แล้วแต่อากาศในแต่ละปี   ส่วนหน้าร้อนก็สนุก แต่ฝนตก และบางที่ร้อนตับแล็บ  อีกช่วงที่ชอบมากคือ ตอนปีใหม่ค่ะ สนุกดี แล้วก็ได้ไปศาลเจ้าเยอะด้วย แถมได้ไปเล่นสกีด้วย ใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็เข้าได้สองเว็บนี้ www.japan-guide.com www.yokosojapan.com จากคุณ : Travel Animal - [ 11 ก.ค. 50 17:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนที่พักซึ่งหลาย ๆ คนก็กังวล ว่าราคามันแพง แพง (ภาษาญี่ปุ่นคือ takai) ก็แนะนำให้ดูในเว็บดังต่อไปนี้ค่ะ http://www.toyoko-inn.com/eng/ ราคาประมาณ 8000 เยนต่อห้อง หรือ Youth Hostel   หรือ www.minshuku.jp/english หรือ www.hostelworld.com ราคาประมาณ 20 euro ต่อคน หรือ www.paperlantern.net พี่ที่ออฟฟิศ เค้าชอบโรงแรมของ Toyoko Inn มาก เค้าบอกสะอาด สะดวก เดินทางว่าย ปลอดภัย และสำคัญ ราคาไม่แพง มีโรงแรมในเมืองต่าง ๆให้เลือก ตัวเจ้าของกระทู้เคยไปแต่ Youth Hostel เมื่อนานมาแล้วค่ะ เดี๋ยวนี้ก็อยู่ B&B เอาซึ่งบางทีราคาก็ไม่แพงนะคะ หารายละเอียดได้จากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ แต่ถ้าใครจะถามเฉพาะที่ก็ลองส่งมา จะให้เพื่อนคนญี่ปุ่นช่วยหาให้ คราวก่อนพักโรงแรม Villa Fountain ที่ย่านใกล้ ๆ กินซ่า ราคา 14000 เยนต่อคืน รวมอาหารเช้าซึ่งก็ถือว่าโอเค และก็มีอินเตอร์เน็ทให้ใช้ในห้องนอนได้เลย อยู่ติดกับโรงแรมคอนราด จากคุณ : Travel Animal - [ 11 ก.ค. 50 18:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พรุ่งนี้จะมาแนะนำที่เที่ยว และการเดินทางไปที่ต่าง ๆ ค่ะ วันนี้ก็ขอลงรูปยอดเขาโคยะ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกล่าสุดของญี่ปุ่นค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 11 ก.ค. 50 18:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนไป ไปช่วงเดือนธันวาคมค่ะ ซึ่งบังเอิญปีนั้น หิมะตกเยอะมาก ก็นั่งรถไฟไปจากเมืองเล็ก ๆ ชื่อ Gojo ในเขตนารา เป็นแบบ One Day trip ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 11 ก.ค. 50 18:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาเก็บ....อย่าไปบอกใครล่ะว่า แพลนไว้เหมือนกันว่าจะไปญี่ปุ่น (เมื่อไหร่ไม่รู้) 555 เงินในบัญชี ยังมีไม่ถึงพันเลยตอนนี้ เศร้า.... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 12 ก.ค. 50 05:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การวางแผนเที่ยว จริง ๆ ที่ญี่ปุ่นนะเดินทางไปมาสะดวกมาก มีรถไฟตั้งแต่ตอนตีห้าจนถึงตีหนึ่ง ตีสอง (แล้วแต่เมืองและความหนาแน่นของการใช้บริการ) แต่โดยรวมแล้วสะดวก แต่ปัญหาก็คือ ราคาของมันนะค่อนข้างโหด โดยเฉพาะถ้าเราเทียบกับ รถ ปอ. หรือ BTS บ้านเรา แต่จริง ๆ แล้วรถไฟที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้แพงเฉพาะสำหรับเรานะคะ คนญี่ปุ่นเค้าก็คิดว่ามันแพง และเค้าก็มีตั๋วเดือนราคาพิเศษขายให้พนักงานบริษัทที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ด้วย (เหมือนรถไฟใต้ดิน หรือ BTS บ้านเรา) การไปแบบประหยัดของนักท่องเที่ยวก็คือ 1. ตั๋วรถไฟ JR Rail Pass ก็เหมือน Eurail Pass ใช้ได้กับรถ JR ทั้งหมดรวมถึง Shinkansen ด้วย มีขายทั้งแบบทั่วประเทศ หรือเป็นแบบโซน (ซึ่งราคาย่อมเยากว่า) เราก็ต้องมาดูว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แล้วมันครอบคลุมกี่โซน  คนส่วนใหญ่ชอบไปเที่ยวทั้งโตเกียว เกียวโต ในคราวเดียวกันซึ่ง ก็ต้องซื้อตั๋วแบบทั่วประเทศ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มี product ใหม่ ขายแบบหลายโซนหรือเปล่า)  ราคาค่าตั๋ว shinkansen จากโตเกียว ไปโอซาก้า ราคาประมาณ 9000 เยน ( Nov. 06) ราคาค่าตั๋วรถไฟ จากสนามบิน Narita ถึง Tokyo Central Station แบบ Express ก็ราคาประมาณ 3000 เยน แต่เราสามารถนั่งรถไฟที่ช้ากว่าได้ในราคา 800 เยน ซึ่งเป็นรถไฟ Local แล้วก็อาจต้องเปลี่ยนรถไฟ 2-3 ครั้ง ไม่แนะนำสำหรับคนไปเที่ยวค่ะ เสียเวลา ยกเว้นภาษาญี่ปุ่นแตกฉาน และอยากได้บรรยากาศ ก็ไม่ว่ากัน ตั๋ว JR Rail Pass ใช้กับบริษัทรถไฟท้องถิ่นบางที่ไม่ได้ เช่น Keo Lines หรือใช้กับรถไฟใต้ดินในโตเกียว โอซาก้า และตั๋วรถบัสในเกียวโต ในเกียวโต เราสามารถซื้อตั๋วเดินทางแบบวัน แบบหลายวัน แบบอาทิตย์ ได้ที่ Kyoto Station (น่าจะมี Information Couter ที่บริเวณชั้น 1 ตรงประตูทางออก) ตั๋วนี้ก็ใช้ได้สำหรับ Public Transport ทุกอย่างในเกียวโต รวมถึงบางทีมีบัตรลดราคาค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ด้วย 2. ถ้าเราอยากเที่ยวข้ามโซน แบบว่าเที่ยวชิโคขุ แล้วอยากไปซัปโปโร ก็แนะนำให้ซื้อ JAL Pass ราคา 12500 เยนต่อเที่ยว (ระยะทางเท่าไหร่ก็ได้) แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะซื้อตั๋วแบบนี้ได้คุณต้องเดินทางเข้า - ออกญี่ปุ่น ด้วยสายการบิน JAL, JAS หรือ ANA เท่านั้น TG ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 12 ก.ค. 50 09:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การวางแผนเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับคนอยากไปหลายที่ แต่มีงบจำกัด ซึ่งอาจจะเป็นเงินจำกัด หรือเวลาจำกัด แล้วเราก็จะได้รู้ว่าเราจะไปซื้อตั๋ววัน หรือซื้อ JR Rail Pass ดีกว่ากัน หาข้อมูลสถานที่เที่ยวได้ที่ www.yokosojapan.com ซึ่งข้อมูลเป็นภาษาไทยอยู่แล้ว เพื่อน ๆ ลองเข้าไป Search ดู หรือดูจากกระทู้ต่าง ๆ ก็ได้ เพราะเพื่อน ๆ ชาว BP ก็โพสต์รูปไว้เยอะ เราจะได้เลือกถูก ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ ตอนแรก ๆ ก็วางแผนเที่ยวเยอะค่ะ ตอนนี้ก็ไปแบบชิว ๆ เดินเล่นไปเรื่อย ๆ เพราะไปบ่อยแล้ว ก็เลยเปลี่ยนจากเยี่ยมชมสถานที่ต่าง มาเป็นทัวร์กิน หรือทัวร์เชลล์ชวนชิมแทน ชอบแบบไหนอันนี้ไม่ว่ากัน เพราะญี่ปุ่นนะเป็นประเทศสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกความฝันค่ะ ไปหาความสนุกสนาน บันเทิงได้ทุกคน จากคุณ : Travel Animal - [ 12 ก.ค. 50 10:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้า คราวนี้มาดูงบกันดีกว่า ว่ามีเงินเท่าไหร่ ฉันถึงไปเหยียบญี่ปุ่นได้เนี่ย จริง ๆ ถ้าเป็นพวกลุย ๆ หน่อยแบบน้องเจ้าของหนังสือโตเกียวไม่มีขา 12000 บาทสำหรับ 9 วันก็โอเคนะ เพียงแต่อาจจะไม่ได้กิน Sukiyaki หรือ Shabu Shabu ส่วนใครจะยอมแลกที่นอนคืนละ 20 ยูโรเป็นหนังสือโป๊ หรืออื่น ๆ ที่ราคาสูงกว่าก็ตามสะดวก อันนี้ไม่ว่ากัน เพราะถือว่าเป็นรสนิยมส่วนบุคคล เจ้าของกระทู้เคยไปถูกสุด 15000 บาท สำหรับ 11 วัน (อาศัยนอนบนรถไฟด้วย ไม่ได้นอนข้างทางเหมือนน้องเค้า ตอนนั้น JR แบบ 8 วัน ราคา 8,500 บาทค่ะ ไปมาเมื่อปี 2003) ไม่รวมตั๋วเครื่องบินค่ะ และก็เคยไปแพงมาก ๆ เกือบแสนเหมือนกัน มันก็จะคนละบรรยากาศนะ แต่ไม่ว่าบรรยากาศแบบไหน ก็สนุกและประทับใจแน่นอน และก็เคยไปเสียแค่ 6000 บาท (เพราะจ่ายค่ารองเท้า Sketcher ไปหนึ่งคู่ 1300 บาท) อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่มี Homestay ดูแลค่ากินเที่ยวให้ ก็ไม่นับแล้วกัน ส่วนตั๋วราคาถูกสุดน่าจะประมาณ 15000 บาท ลองเช็คดูค่ะ เห็นเพื่อนบอกว่า www.sunsanee.co.th ตั๋วราคาถูก บางที JAL ก็มีโปรโมชั่นนะคะ ซึ่งอาจโชคดีรวมที่พักแถว Shinagawa ชานเมืองโตเกียว ซึ่งเดินทางสะดวกมาก แล้วแต่ช่วงนะคะ ส่วนช่วงแพงสุดก็อย่างที่บอก ช่วงเดือนตุลาคม ประมาณสองอาทิตย์ และ Golden week เดือนพฤษภาคม ราคาอาจจะสูงถึง 26000-27000 บาท ปีที่แล้วไปทำงานตอนเดือนตุลาคมค่ะ นั่ง TG ราคาเกือบ 26000 บาทแนะ แต่เพื่อนไปเที่ยวตอนพฤศจิกายน ราคา TG เหลือแค่ 17,xxx เองนะ จากคุณ : Travel Animal - [ 12 ก.ค. 50 10:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งมีคนเมล์มาถามค่ะ ว่าถ้าต้องไป Nagoya ซัก 1 อาทิตย์ จะซื้อหรือไม่ซื้อ JR rail pass ดี คำตอบก็คือ แล้วแต่คุณ และความต้องการเที่ยวค่ะ ซึ่งถ้าจะเที่ยวเฉพาะ จังหวัด Aichi (แถว nagoya) ซึ่งนั่งรถไฟธรรมดาได้ ก็อาจจะไม่จำเป็น แต่เนื่องจาก Nagoya อยู่ในที่ตั้งดีมาก ๆ นั่นคือ ไปเที่ยวไหนก็สะดวก สามารถไปเช้าเย็นกลับ แล้วมานอน Nagoya ได้ทุกวัน อยากไปเกียวโตก็ได้ โตเกียวก็ได้ โอซาก้าก็ได้ (แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย) ก็แนะนำให้ซื้อค่ะ ส่วนเพื่อน ๆ ที่อ่านอยู่ กำลังตัดสินใจ แนะนำให้เช็คราคาค่าตั๋ว พร้อมตารางการเดินรถได้จาก link อันข้างล่างนี้ http://japanrail.com/JR_hyperdia.html แล้วก็ click ไปที่ Hyperdia เสร็จแล้ว เค้าจะ Pop up อีกหน้ามา เราก็ใส่ Starting Point (Nagoya) แล้ว ก็ใส่ destination กด enter ก็จะได้ราคา พร้อมตารางเวลาค่ะ ลองเช็คดู บางทีอาจจะดีกว่าที่จะไปซื้อ JR Rail Pass นะคะ ขอบคุณ คุณ Aigner ที่ถามมานะคะ หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 12 ก.ค. 50 13:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น  อีกประเทศในฝัน ว่าจะเก็บตังค์ให้ได้ซักสองแสน ไปถึงโน่นจะไปช๊อปปิ้งให้หนำใจ ไอ้โน่นก็อยากได้  ไอ้นี่ก็อยากซื้อ โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวทั้งหลายนะ...พูดแล้วก็อยากกิน ว่าแต่...คุณ จขกท. โพสผิดห้องป่ะคะ?? ข้อมูลดี๊...ดี...ขอบคุณที่เขียนให้อ่านค่ะ จากคุณ : รังสิมา - [ 12 ก.ค. 50 22:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณรังสิมา ขอบคุณนะคะ จริง ๆ อยากเขียนให้เพื่อนมีความรู้เยอะ ๆ และไม่กลัวการไปเที่ยวเอง shopping ที่ญี่ปุ่นก็สนุกมากเลยค่ะ คิดถูกแล้วที่เก็บเงินไป shopping เยอะ เพราะเห็นอะไรก็อยากซื้อ แถมพวกของที่ระลึกก็น่ารัก กระจุกกระจิก สวย เท่ห์ ตามสไตล์ เรื่องโพสต์ผิดห้องไม่แน่ใจค่ะ เพราะเพิ่งมาเป็นสมาชิกเองเลยงงนิดหน่อย จะเปลี่ยนห้องทันมั๊ยเนี่ย จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 09:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากดูภาพเยอะ ๆ จัง จากคุณ : Kaper - [ 13 ก.ค. 50 09:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอเห็นคุณรังสิมาโพสต์เข้ามา เลยนึกได้ว่า ไอ้พวกของกินขนมขบเคี้ยวนะ ราคาไม่แพงเลย บางถนนเค้าจะมีเหมือนร้านสะดวกซื้อ คล้ายเซเว่น แต่ของในร้าน ทุกชิ้นราคา 99 เยน จขกท. ชอบกินเยลลี่ญี่ปุ่นมากค่า ไปแล้วต้องซื้อไม่ต่ำกว่า 10 ถุง (ในหนึ่งถุงมีประมาณ 15 อัน คล้าย ๆ กับปีโป้ แต่รสชาดสุดยอด) หรือจะไปที่แถว UENO ตรงใกล้ ๆ สถานี ก็มีตึกสูง ๆ สีม่วง ๆ ที่ตึกนั้นจะมี Department Store ที่ขายของถูกมาก ๆ โดยเฉพาะพวกขนม และเครื่องสำอางค์ ของกินขึ้นชื่อ ต้องไปลิ้มลองนอกจากบะหมี่ราเมง สุชิ ซาชิมิ หรืออาหารคาวแล้ว เครปญี่ปุ่นก็น่ากินมาก ๆ คราวนี้โพสต์มายั่วน้ำลายกันค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 09:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอารูปของกินไปก่อนแล้วกันค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 09:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คราวนี้ก็สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น ถ้านอกเมืองโตเกียวก็ตกคนละประมาณ 1500 เยน ก็ราคาสูงแต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์ก็เอาหนะ แต่อันนี้ไม่ใช่เนื้อโกเบนะคะ เนื้อโกเบ จขกท. เคยไปกินกับ host family ที่ Sannomiya, Kobe ราคาประมาณ คนละ 5000 เยนค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 09:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เวลาท้องร้องแล้วอยากหาร้านที่มีอะไรให้เลือกหลายอย่าง ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะว่าหน้าร้าน (แทบทุกร้าน แม้แต่ร้านเล็ก ๆ ก็จะมีรูปจำลองอาหารโชว์ให้ดู) ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง ก็พาพนักงานในร้านออกมาแล้วชี้ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเขินอาย คนญี่ปุ่นเค้ายินดีบริการอยู่แล้ว แล้วก็เวลาไปกินข้าว ไปโรงแรม ก็ไม่ต้องทิปนะคะ เค้าไม่มีวัฒนธรรมการทิปเหมือนอเมริกาค่ะ มีแต่ใจให้บริการเท่านั้น จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 09:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องการกินอยู่ที่ญี่ปุ่นเนี่ย ก็สุดแสนสบาย เพื่อน ๆ จะมีความสุขกับการกินมากถึงมากที่สุด ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ แต่แพงกว่าบ้านเราที่ก๋วยเตี๋ยวราคา 30 บาทแน่นอน แต่ก็ไม่ถึงกับต้องอดอยาก หรือหาของกินยากเท่ายุโรป แหล่งของกินถูกก็อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อทุกประเภท เค้าจะมีทั้งข้าวกล่อง หรือสุชิขายให้เราได้เลือก ราคาก็ตั้งแต่ประมาณ 250 เยน ไปจนถึงประมาณ 800 เยน แล้วแต่ options นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถหาซื้อข้าวกล่องได้ตามสถานีรถไฟ ราคาตั้งแต่ 400 เยนไปจนถึงเป็นพันเยน เค้ามีหน้าตาว่าของข้างในมีอะไรบ้างให้เราดูด้วย เราก็เลือกตามชอบ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ชี้เอาได้เลย คนญี่ปุ่นเค้าเข้าใจ หรือจะเข้าร้าน yoshino ya ซึ่งเป็นร้านที่เน้นขายข้าวหน้าเนื้อ หน้าหมูก็ไดค่ะ ราคาตกคนละประมาณไม่เกิน 300 เยน เป็นร้านที่ได้ความนิยมมาก ไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้แรงงานนะคะ หนุ่มออฟฟิศเค้าก็ไปกินกัน แถมรสชาดก็เด็ดสะระตี่มาก ๆ  จขกท.นะชอบมาก ๆ ไปทีไรต้องกินอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกเที่ยว จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 10:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หน้าตาภายในร้านก็เป็นแบบนี้ คนขายตะโกนโหวกเหวกนิดหน่อย ให้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 10:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คราวนี้ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเหยียบเมืองโอซาก้าก็ต้องลองของดีของขึ้นชื่อ นั่นคือ พิซซ่าญี่ปุ่น หรือพวก okonomiyaki หรือพวก takoyaki ทาโกะยากิ เพราะเค้าบอกที่เมืองนี้นะเด็ดสุดยอด รูปที่โพสต์เป็นร้านดังที่สุดในเมืองโอซาก้าค่ะ อยู่แถว ๆ ตึก Umeda Sky Building เจ้าถิ่นเค้าพาไปชิมค่ะ ราคาตกประมาณ 850 เยนต่อหัว (จริง ๆ เค้าคิดเป็นชิ้น ๆ ค่ะ แต่เรากินกันเยอะมาก) จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 10:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หน้าตา Okonomiyaki หรือพิซซ่าญี่ปุ่น เป็นแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 10:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เกาะขอบกระทู้ค่ะ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลยจะไปสิ้นปีนี้ค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : kaajibjib - [ 13 ก.ค. 50 10:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อไปบะหมี่ราคา 550 เยน ถนนไหนซักอย่างแห่งในโตเกียวค่ะ ไปตามร้านไม่ต้องกลัวว่ากินแล้วจะไม่มีเงินจ่ายนะคะ เค้ามีป้ายบอกราคาไว้เสร็จสรรพ ที่หน้าร้าน ก็ราคาตามนั้น  เป็นไงค่ะ ราคา พอสู้ไหวเนอะ ??? ไม่ได้แพงมากมายอย่างที่กลัวใช่ม้า ??? จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 10:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องโพสต์ผิดห้องไม่แน่ใจค่ะ เพราะเพิ่งมาเป็นสมาชิกเองเลยงงนิดหน่อย จะเปลี่ยนห้องทันมั๊ยเนี่ย จากคุณ : Travel Animal  - [ 13 ก.ค. 50 09:22:05 ] ^ ^ ^ อิฉันไม่ได้ว่าอะไรคร่าาาาาาา เพียงแต่รู้สึกว่ากระทู้สาระดีๆ แบบนี้  คุณ Travel Animal ตั้งใจโพสไว้หน้ารวมรึเปล่าไม่รู้ แต่อาจจะคลิ๊กผิด...มันเลยมาโผล่ในคลับย่อยอ่ะค่ะ.... โดยส่วนตัวแล้ว...ดิฉันชอบอ่านกระทู้ทำนองนี้อยู่แล้วค่ะ ยิ่งญี่ปุ่น...ประเทศในฝัน (ต่อจากตามหาลุงซานต้าที่ฟินแลนด์) มีข้อมูลดีๆ มาให้อ่านยิ่งชอบมากกกกกกก ช่วงนี้ตัวเองไม่ค่อยว่างเสนอหน้าไปอ่านห้องใหญ่......นับว่าเป็นบุญหัวของดิฉัน ที่คุณเจ้าของกระทู้ (อาจจะ) ตั้งกระทู้ผิดห้อง ดิฉันเลยได้อ่านข้อมูลดีๆ โดยไม่ต้องแสวงหา.... ขอบคุณอีกครั้งนะคะ...สำหรับกระทู้ดีๆ ข้อมูลดีๆ (save as พร้อมกับคลิ๊กเก็บเข้าคลังฯ ไปเรียบร้อยแล้วจ้ะ) ไหนๆ ก็หลงเข้ามาแล้ว  วันที่ 28 ว่างป่ะจ๊ะ  ไปเดินเล่นด้วยกันป่ะ?? http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5604104/E5604104.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - พูดถึงโอซาก้ากับทาโกะยากิ  คิดถึง ไอจัง (เพื่อนโดเรมีจัง) ขึ้นมาทันที คนนี้หลานสาวดิฉันชอบมากกกกกกกก จากคุณ : รังสิมา - [ 13 ก.ค. 50 16:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #21, #23 น้ำลายไหล จากคุณ : ก้างปลา'ป๋อง - [ 13 ก.ค. 50 16:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ คุณรังสิมา และก็ดีใจที่เห็นว่ามันมีประโยชน์ ก็อยากให้เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านได้เอาไปเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทาง ส่วนเรื่องวันที่ 28 ต้องขอตัวนะคะ เพราะจะไปเที่ยวออสเตรเลียกับแฟนค่ะ  ถ้าไปแล้วจะเขียนมาแนะนำนะคะ แต่กลัวข้อมูลจะไม่ดีเหมือนไปญี่ปุ่น เพราะจะเป็นการไปออสเตรเลียครั้งแรกค่ะ ฝากประชาสัมพันธ์ดีกว่า ว่าถ้าจบจากกระทู้นี้ (หรืออาจจะทำไปพร้อมกัน) ก็คือ กระทู้การเดินทางไปยุโรปเองนะคะ เพราะก็มีคนเมล์มาถามเยอะมาก ๆ จะพยายามทำให้มันครอบคลุมทั้งยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก รวมไปถึง เคนยาด้วยดีกว่า  การไปยุโรปนะก็เหมือนการไปญี่ปุ่น ไม่ยากหรอกค่ะ แต่ต้องการ กำลังใจในการเริ่มต้น รับรองถ้าเพื่อน ๆ ได้เดินทางเองซักทริปแล้วจะติดใจ จนไม่คิดจะมองหาทัวร์สาระพัดนึกเลยค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 21:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่งได้มีโอกาสเข้าไปอัพเดทเว็บ ก็เจอเว็บหน้าสนใจสำหรับเพื่อน ผู้มีฝันอยากไปดินแดนซากุระ ก็คือเว็บข้างล่างค่ะ http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/attractions/affordable/index.html หัวข้อมันก็บอกแล้วว่าเป็นการท่องเที่ยวแบบจ่ายได้ รายละเอียดก็เลยเป็นแบบว่า การไปเที่ยวหาประสบการณ์ในญี่ปุ่นต้องทำยังไง มีอะไรบ้าง ตั้งแต่การเดินเที่ยว การหาของกิน การหาที่พัก หรือการเดินทาง ก็หวังว่ามันจะเป็นข้อมูลช่วยเพื่อน ๆ อีกทางนะคะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 21:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นอกจากนี้นะคะ เว็บของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเนี่ยก็จะให้รายละเอียดเราแม้กระทั่งว่าเราจะเดินทางจากจุดนี้ไปอีกจุดยังไง เช่นถ้าเราต้องการไปเมือง คามาคุระ ซึ่งเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ แต่ไม่รู้จะเดินทางยังไง เราก็ใส่ชื่อเมืองเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็ search หาได้เลย แล้วข้างขวามือเราตรงหน้าจอ จะมีตัวหนังสือเขียนว่า JNTO's travel tips เป็นข้อมูลแบบ pdf  เสร็จแล้วก็จะมีข้อมูล ออกมาบอกเราละเอียดมาก ตั้งแต่แถวนั้นมีอะไรเที่ยว ไฮไล้ท์สำคัญมีอะไร แต่ละที่เดินทางใช้เวลาเท่าไหร่ เดินทางจากโตเกียวไปยังไง เดินทางจากโอซาก้าไปยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ นั่งรถไฟสายอะไร ขึ้นที่ไหน แล้วตั๋วลดราคามีมั๊ย แถมด้วยการแนะนำเส้นทางการเที่ยวและที่พัก หวังว่าเพื่อน ๆ คงได้ประโยชน์ในการหาข้อมูลเตรียมตัวไปเที่ยวนะคะ www.jnto.go.jp จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 22:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีคนเขียนมาให้แนะนำการเที่ยวที่โตเกียว เวลาประมาณ 5 วัน จขกท. แนะนำตามความชอบส่วนตัวและความสนใจแล้วกันนะคะ เพื่อน ๆ ก็ลองดูเผื่อ ๆ ไว้ แต่ถ้าไปเช็คใน JNTO แล้วสนใจไปที่อื่นก็ได้ค่ะ โปรแกรมเป็นประมาณนี้ Day 1 Tokyo, tokyo tower, Nihon bashi (หน้าพระราชวังอิมพีเรียล), ตอนเย็นกินข้าวแถว Ginsa Day 2 Shibuya, Roppongi Day 3 shopping เครื่องใช้ไฟฟ้าแถว Ikabukuro   Day 4 Asakusa and Ueno Day 5 Shinjuku area (หรือ อาจจะไป Tokyo Disney Land or Tokyo disney Sea) เพื่อน ๆ อาจจะอัดรายการให้แน่น แล้วเหลือวันว่างไปเที่ยวนอกเมืองโตเกียวแบบ One day trip ได้นะคะ เช่น Yokohama, Yokohama port & China town (อาจรวมเมือง Kawasaki ที่มีวัดของศาสนาพุทธที่ใหญ่ ๆ ก็ได้) หรือจะไปเมืองมรดกโลก Nikko (ไปแบบค้างคืน แล้วหาโอกาสแช่น้ำพุร้อน หรือ Onsen ก็ได้ค่ะ) หรือจะเที่ยวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบทั้งห้า หรือไปแต่ Hakone ก็ได้ค่ะ เพื่อน ๆ บางท่านอาจจะถาม เอ!!!! ทำไมไม่เห็นแนะนำให้ไป ฮาราจูกุ แหล่งขึ้นชื่อของชาววัยทีนเลย ก็จะเฉลยว่า อยากจะให้ไปในวันอาทิตย์ เพราะเค้าจะมีวัยรุ่น แต่งตัวสุดแสนจะประหลาดหลากหลาย มาเดินอวดความสวย หล่อ กัน อย่างคับคั่ง เมื่อ ห้าปีก่อนไปมาใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ พอไปเดินแล้ว เราเองเสียความมั่นใจไปเลย ว่าแหม แต่งตัวมาน้อยไป นอกจากนี้ถ้าไป ฮาราจูกุ แล้วก็แนะนำให้ไปเที่ยวสวน (ชื่อจำไม่ได้) แต่อยู่ตรงสถานีรถไฟ JR เลย ในสวนนั้นก็จะมีศาลเจ้าชินโตชื่อว่า Meiji Shrine (Meiji Jinkyu) ในสวนบรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ ก็ลองดูแล้วกันค่ะ ว่ามีที่เที่ยวไหนโดนใจเพื่อน ๆ กันบ้าง จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 22:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายที่สวนแถวฮาราจูกูค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ก.ค. 50 23:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ต่อไปก็เป็น ชิบุยะยามค่ำค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วก็ วิวเมืองโตเกียว ถ่ายจากห้องอาหารของโรงแรมนิวโอตานิค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ต่อไปเป็นวัด อาสะกุสะ ที่ขึ้นชื่อ ต้องไปเพราะนอกจากจะไปดูวัดแล้ว หน้าวัดยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อมาฝากคนที่เมืองไทยได้เต็มที่ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถนนคนเดินหน้าวัดค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพนี้ถ่ายแถว ท่าเรือโตเกียวค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ของที่ระลึกแถวหน้าวัด อาสะกุสะเป็นประมาณนี้ค่ะ กระเป๋าใส่เหรียญตั้งแต่ 300-500 Yen พวกพวงกุญแจก็แล้วแต่ความงาม และรายละเอียด หาซื้อได้ตั้งแต่ 250-1000 yen  หรือไม่ก็สามารถซื้อผ้าเช็ดหน้า หรือที่คั่นหนังสือได้ราคาประมาณพอ ๆ กัน แต่ถ้าใครได้มีโอกาสไปวัดคิโยะมิซึ ที่เกียวโตแนะนำให้ไปซื้อแถวนั้นค่ะ เพราะเท่าที่เที่ยวมา แถวนั้นราคาดีที่สุด ถูกกว่าที่อะสากุสะ ค่ะ แล้วก็มีของให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไปโตเกียวอย่างเกียว หน้าวัดอะสากุสะ ก็ทำให้เพื่อน ๆ สูญเงินไปหลายแล้วค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มีคนถามซื้ออะไรดีที่ญี่ปุ่น ก็เลยขอลอกที่เพื่อน ๆ ได้ทำกระทู้ถามตอบกันมาแล้วนะคะ รายละเอียดก็คงประมาณนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5585759/E5585759.html จขกท. ซื้อแต่กล้อง กับพวกเครื่องสำอางค์ และของที่ระลึกนะคะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 00:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีเพื่อนถามมาว่า ชาบุ ชาบุ กับสุกี้ยากี้ ต่างกันตรงไหนจ๊ะ เฉลยก็คือ น้ำซุปมันต่างกันค่ะ ชาบุ ชาบุจะเป็นน้ำใส แล้วก็มีน้ำจิ้มมาให้สองแบบ แบบแรกจะเปรี้ยว แบบที่สองจะใส่เซซามิ (คิดว่านะคะ)และมันจะเป็นน้ำข้น ๆ เหมือนน้ำสลัดข้นแบบญี่ปุ่น ส่วนสุกี้ยากี้น้ำซุปจะสีน้ำตาล ออกรสหวาน เวลาทานก็คีบเอาเนื้อกับผักมาใส่ในชามที่มีไข่ดิบอยู่ แล้วก็กินค่ะ รสชาดออกหวานเค็ม ในกระทู้นี้ก็มีรูปให้ดู แล้ว คราวนี้เลยขอโชว์ รูปชาบุ ชาบุแล้วกันค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 11:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คราวก่อนมีพูดถึงอาหารกล่อง หรือเบนโตะไปแต่ยังไม่ได้ใส่รูป คราวนี้เลยเอารูปมาให้ดูเป็นรูปเบนโตะบนรถชิงคันเซนค่ะ ราคาประมาณ 800 เยนมั้ง จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 11:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ภายในรถไฟจรวด หรือชิงคันเซ็น ก็หน้าตาแบบนี้แหละ อันนี้เป็นรถที่เรานั่งไปเกาะชิโคขุค่ะ เราลงที่ odawara เพื่อต่อรถไฟธรรมดาอีกที จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ก.ค. 50 11:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 จุใจเลย ยังไงทริปหน้าแวะเข้ามาอีกนะคะ รอชมค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 14 ก.ค. 50 13:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 วางแผนไปปีนี้หละค่ะ แวบเข้ามากระทู้แรกก็เจอของดีเลย ถามนิดนึง.... ไปตอนไหนดี ที่หิมะตกโปรยลงมาหนะค่ะ และราคาตั๋วไปไม่แพงมาก มองๆไว้ ว่าไปแถว ตีนภูเขาไฟฟูจิน่ะค่ะ คงเป็นแบบทริปพักผ่อน เมือง 2 เมืองไม่ถึงกะตะลอนทัวร์ และคงต้องมีส่วนที่เด็กชาย 5 ขวบเอ็นจอยได้ด้วย แนะหน่อยซิคะ จากคุณ : ปั้นหยาขาจร - [ 16 ก.ค. 50 14:26:32 A:58.137.36.114 X: TicketID:110645 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบ คุณปั้นหยาขาจร ถ้าคุณไม่ติดเรื่องเวลา และอยากเห็นหิมะ แนะนำให้ไปเที่ยวช่วงปีใหม่หรือหลังปีใหม่ค่ะ ปรกติก็ราคาตั๋วช่วงนั้นไม่แพงเท่าไหร่ (ไม่เหมือนไปยุโรปช่วงนั้น อย่างกับสายการบินปล้นเราเลย เพราะตั๋วแพงมาก ๆ ) แต่อาจจะไม่ถูกเท่าตอนหน้าร้อนเพราะมันเป็นหน้าสุด low ถ้าช่วงนั้น คุณไม่เน้น TG ก็น่าจะหาตั๋วได้ที่ราคาประมาณ ถ้าคุณอยากไปพักผ่อนนะคะ แนะนำว่าอาจจะอยู่ Tokyo ประมาณ 3 วันเที่ยวในโตเกียว แล้วก็พาเด็กไป Disney Land (ซึ่งส่วนตัว คิดว่ามันสนุกกว่า Disney Sea แต่ disney Sea มันโรแมนติกกว่า เหมาะกับวัยรุ่นไปออกเดทมากกว่าค่ะ) ไปขึ้น Tokyo Tower แล้วก็ไปเดินซื้อของเล่นที่ Aoyama หรือ Harajuku เสร็จแล้วก็ไป Odawara ประมาณ ตีนภูเขาไฟฟูจิ อาจจะพักที่นั่นทุกคืน แล้วเที่ยวรอบ ๆ เอา เช่น mt Fuji &  5 lakes. hakone หรือ Fujinomiya (เมืองที่เค้าบอกเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดสุด มันก็เลยชื่อ Fujinomiya ซึ่งแปลว่ามองภูเขาไฟฟูจิค่ะ) ถ้าไปช่วงปีใหม่ ก็จะได้ไปตามศาลเจ้าและวัด เห็นคนใส่ชุดกิโมโนมาวัดกันเยอะมากค่ะ ไปเป็นครอบครัวแนะนำให้พักเรียวคังค่ะ จะสนุกมาก ถ้าอยากให้ช่วยหาที่พักให้ก็บอกมาล่วงหน้านะคะ จะให้เพื่อนที่ญี่ปุ่นเค้าลองถาม ๆ ให้ เพราะเค้าเคยอยู่บริษัททัวร์ของกลุ่ม sumitomo ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 17 ก.ค. 50 09:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วันนี้ขอพูดเรื่องการสื่อสารนิดนึงนะคะ มีคนถามมาว่า ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ เดินทางโดยรถไฟลำบากมั๊ย คำตอบคือ ไม่ลำบากค่ะ แต่คงไม่ smooth as silk เหมือนโฆษณาของ TG แต่ก็ไม่ได้ลำบากขนาดทำให้เราไปไหนไม่ได้เลย ที่ญี่ปุ่นเค้าจะมีแผนการเดินรถชัดเจน ทั้งภาษาญี่ปุ่นที่เป็นตัวคันจิ และภาษาโรมันจิซึ่งเป็นตัวอักษรเหมือนภาษาอังกฤษ เราก็อาจตรงบอร์ดที่เป็นภาษาอังกฤษเอา แล้วพอไปตามชานชาลา หรือ Plat Form เค้าก็จะมีป้ายแบบรูปที่โพสท์ เราก็ดูได้ว่าเราไปถูกเส้นทางหรือ เปล่า จากคุณ : Travel Animal - [ 17 ก.ค. 50 16:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แล้วพอออกมาจากรถไฟ เค้าก็จะมีป้ายแผนที่ขนาดใหญ่บอกเราว่าเราอยู่ประมาณตรงไหน ถ้าออกประตูต่าง ๆ แล้วจะไปเจออะไร เรื่องการออกให้ถูกทางออก สำคัญมากค่ะ เพราะบางทีมันไปกันคนละถนน คนละทางกันเลย เคยหลงบ่อย ๆ แต่ไม่เป็นไร ก็ลงมาที่รถไฟใหม่ ตั้งหลัก แล้วก็ถามทาง คำพูดที่มีประโยชน์มาก ๆ นะคะ ก็คือ ......... Do ikimasu ka ??? หรือ ......... do ko desu ka ??? (ตรงที่เป็นไข่ปลาก็ใส่ สถานที่ที่เราอยากไป) เช่น ดิสนีย์แลนด์ do ikimasu ka ??? (โด้ อิคิมัสสึกะ) - ดิสนีย์แลนด์ ไปยังไงค่ะ คนญี่ปุ่นคงบอกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ถ้าเราไม่เข้าใจ เค้าจะพาเราไปดูที่แผนที่เองค่ะ (ถ้าเค้าใจดี) ถ้าเจอคนใจร้าย ก็หาเหยื่อรายต่อไป 55555 ไม่ยากใช่ม้า ???? ถ้าจะพูดภาษาอังกฤษ แนะนำให้พูดช้า ช้า สำเนียงบ้าน ๆ ยิ่งดี แล้วก็พยายามให้มันลงท้ายด้วยสระเสียงสั้น เช่น โดะ โกะ ทะ ขุ อย่างถ้าจะบอกว่า นม (milk) ก็ให้ออกเสียงช้า ๆ ว่า mi lu ku (มิ ลุ ขุ) หรือ Mc Donald ก็ ออกเสียง Mak ku Do na lu do (แม็ค ขุ โด นา ลุ โดะ) เค้าก็จะเค้าใจ ว่าเราหมายถึง ร้าน Mc Donald นั่นเอง ขอเสริมเรื่องการใช้แผนที่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีการวางแผน เพราะฉะนั้น ตามสถานีรถไฟ หรือ Tourist Information เค้าจะมีแผนที่ไปเที่ยวที่ต่างให้เราอย่างละเอียด และฟรี (ไม่เหมือนที่ยุโรป คราวก่อน ไปเมือง Cologne ที่เยอรมนี ยังต้องเสียตั้งเกือบร้อยบาท เพื่อแผนที่คร่าว ๆ แถมด้วยโฆษณาอีกเพียบ) Tourist Information เนี่ยก็ให้บริการคนญี่ปุ่นด้วยนะคะ เพราะเค้าก็กลัวหลงทางเหมือนกัน เห็นมั๊ยหละ ขนาดเค้าพูดภาษาเค้าเอง เค้าก็ยังต้องมีแผนที่ เพราะฉะนั้น เราก็ไปเถอะ หลงก็ถามเอา ชาวต่างชาติทำอะไรผิดก็ไม่น่าเกลียด ก็มันไม่ใช่บ้านเรานิ แต่ขอบอกว่ามันไม่ยากเลย ถ้าใครสามารถเดินทางในกรุงเทพฯ ได้ก็ไปเกียวโตได้ค่ะ เพราะถนนมันไม่ได้ซับซ้อน อย่างบ้านเรา บ้านเราเนี่ย ขนาดเราอ่านภาษาไทยออก เรายังไปไม่ถูก เพราะมันเป็น one way 55555 จากคุณ : Travel Animal - [ 17 ก.ค. 50 16:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าสมมติ เราเกิดหลงทางขึ้นมาจริง ๆ แนะนำให้ไปที่สถานีรถไฟใกล้เคียง แล้วถามทางค่ะ เจ้าหน้าที่เค้าจะบอกทางเราได้ โดยเราอาจจะเขียนชื่อสถานที่ให้เค้า เค้าก็จะอ่านออก และรู้ค่ะ ว่ามันคืออะไร ส่วนจะอธิบายยังไง คงขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว จากคุณ : Travel Animal - [ 17 ก.ค. 50 16:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วนรูปนี้ฝากให้คุณปั้นหยาขาจรค่ะ เป็นรูป Ski resort ที่เมือง Niigata จากคุณ : Travel Animal - [ 17 ก.ค. 50 16:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตามมาเก็บข้อมูลต่อ เดี๋ยวเจอกันแน่นิปปอน จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 18 ก.ค. 50 04:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มีหลายคน เมล์มาถามเรื่องตั๋วถูกและ package promotion อืม ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน แต่รู้ว่า JAL และ ANA มีจัดโปรโมชั่นบ่อย ๆ อย่างเมื่อเดือนมีนาคม มีพี่ที่ออฟฟิศ เค้าไปมาด้วย Package ของ JAL ที่ราคา ประมาณ 22000 บาท (ราคารวมตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ - นาริตะ ขากลับเป็น โอซาก้า - กรุงเทพฯ  แล้วแถมด้วยที่พักในโตเกียว 2 คืน โรงแรมประมาณ Shinagawa Prince  4 ดาวค่ะ) และก็รู้สึกว่าตอนนี้ก็มีตั๋วราคาไม่แพง เพราะมันเป็นหน้าร้อน ถ้ายังไงเพื่อน ๆ ก็ลองหา ๆ ดู หรือติดต่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ตึก Pan Pacific ตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้เลยค่ะ เค้ามีข้อมูลให้เพียบ จากคุณ : Travel Animal - [ 19 ก.ค. 50 10:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เมล์ต่อมาถามว่า ซื้อตั๋ว JR Rail Pass ที่ไหนดีจ๊ะ อืม อันนี้ก็แล้วแต่นะคะ มีรายชื่อแนะนำตามนี้ JTB Corp. Ltd. (Bangkok) Harindhorn Building,8th Floor Room８A－8B-54 North Sathorn Rd. Kwang Silom, Khet Bangrak,Bangkok10500 TEL 02-632-2803 FAX 02-267-9237   Siam MC TOURS (Bangkok) 4Fl, THANIYA PLAZA BLDG, 404 SURIYAWONG,BANGRUK,BANGKOK 105000  TEL 02-231-2505 FAX 02-231-2508   T.V. Air Bookings Co., Ltd. (Bangkok) 795 Silom Road, Neearwat Khek, Bangkok 10500,   TEL 02-233-5160 FAX 02-236-4426 TOKYO ASIAN SERVICE CO., LTD. (Bangkok) 116/7, Soi Sukhumvit 23(Prasarnmit), Sukhumvit Road, Klongtoeynue, Wattana, Bangkok 10110,   TEL 02-662-3175 FAX 02-259-9758 WORLD SURPRISE TRAVEL (Bangkok) 91/1 Soi Anumarnrajathon Decho Road Suriyawong Bangkok 10500   TEL 02-634-8877 FAX 02-634-7365 JTC  (Bangkok) 281/5 SOI-1 Silom Road, Bangruk Bangkok 10500   TEL 66-2237-7498 FAX 66-2237-2291 Thaniya Travel (Bangkok) 9/13 Thaniya Road, Bangrak Bangkok 10500   TEL 66-2235-8686 FAX 66-2236-7230   อาจจะมีเพิ่มเติม ลองสอบถามที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นฯ ค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 19 ก.ค. 50 11:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 51 จขกท. เคยซื้อที่ Siam MC Tours เพราะรู้สึกว่าตอนนั้น ราคาเค้าดีที่สุด และเค้าก็ให้จ่ายเป็นเงินเยน (ซึ่งหมายความว่า เค้าไม่เก็บค่าส่วนต่างของค่าเงินเยน กับเงินไทยค่ะ) แต่เพื่อน ๆ ก็ลองสอบถามดูอีกที เพราะอะไร อะไรก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ จากคุณ : Travel Animal - [ 19 ก.ค. 50 11:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มีคนขอให้โชว์รูปถนนคนเดิน หน้าวัดคิโยะมิซี เดระ ในเกียวโต (เดระ หรือ เทระ แปลว่า วัดของศาสนาพุทธค่ะ) ก็เลยโพสท์กันให้ดู บนถนนนี้จะมีร้านหนึ่ง ซึ่งของทุกอย่างราคา 1000 เยน เป็นของที่ระลึกสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ก่อนประมาณตั้งแต่ปี 2000 จขกท. ก็จะซื้อตุ๊กตาญี่ปุ่นมาแจกลูกค้าและเพื่อน ๆ จากร้านนี้เท่านั้น เนื่องจากมันราคาถูกที่สุด ถ้าเป็นตุ๊กตาแบบเดียวกันซื้อที่ Asakusa ในโตเกียวจะราคาประมาณ 5000 เยน ค่ะ เพื่อน ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ เพราะเจ้าของร้านจะออกมาตะโกนหน้าร้าน แถมมีป้าย เขียน 1000 Y ตัวเบ้อเริ่ม ถ้าหาไม่เจอ ถามใครก็รู้จักค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 19 ก.ค. 50 11:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าเพื่อน ๆ ได้เข้ามาอ่านแล้ว ยังไม่กระจ่าง ก็เขียนมาถามได้ ทั้งหลังไมค์ (จขกท. ทำไม่เป็นค่ะ) หรือ จะเมล์มาถามที่ izaul@hotmail.com จากคุณ : Travel Animal - [ 24 ก.ค. 50 10:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 กระทู้นี้ดีมากๆ กำลังหาคนชวนไปอ่าค้าาบ จากคุณ : kit20m - [ วันอาสาฬหบูชา 13:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตามมาเก็บข้อมูลอย่างไว กะจะไปประมาณ ตค. ค่ะ ได้ข้อมูลดีดีเพียบเลย ^^ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มาก ๆ เลยนะคะ จากคุณ : โดดเด่นแต่ว่าเดียวดาย - [ วันเข้าพรรษา 03:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เจ้าของกระทู้ กลับมาหรือยังน้อ.... ติดตามข้อมูลการเดินทาง และ ภาพถ่าย นะคะ จากคุณ : Kaper - [ 3 ส.ค. 50 07:23:05 ]