PANTIP.COM : E5640190 @@@@@....ต้องการผู้อุปการะเจ้าบัส.....@@@@@ [ดูนก]

ความคิดเห็นที่ 4

นานๆ จะเขียนเรื่องไม่ค่อยสนุก แต่มีสาระสักที ก็ขอต่อด้วยข้างล่างนี้เลยค่ะ
ศูนย์ฟื้นฟูนกล่าเหยื่อเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ[/b]
(Kasetsart University Raptor Rehabilitation Center: KURRC)
ดำเนินการโดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่าในธรรมชาติระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช คณะวนศาสตร์และคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลกองทุนฟื้นฟูนกเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ (Wild Bird Rehabilitation & Release Fund) ซึ่งเดิมคือกองทุนฟื้นฟูสุขภาพแร้งดำหิมาลัยเพื่อเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูนกในธรรมชาติอย่างต่อเนื่องในอนาคต และกลุ่มศึกษาเหยี่ยวและนกอินทรีในประเทศไทย
จุดประสงค์
1. ฟื้นฟูสุขภาพนกที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติและเจ็บป่วยเนื่องจากการขาดอาหารหรือบาดเจ็บ
ด้วยการวินิจฉัยและบำบัดรักษาทางสัตวแพทย์ให้มีสุขภาพแข็งแรงและปรับพฤติกรรมให้สามารถดำรงชีวิตได้ด้วยตนเองเพื่อคืนสู่ธรรมชาติในถิ่นอาศัยที่เหมาะสม
2. เพื่อพยุงประชากรของนกในธรรมชาติที่ถูกคุกคามเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เป็นการอนุรักษ์สัตว์ป่าด้วยการฟื้นฟู
3. เป็นแหล่งศึกษาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับนกในธรรมชาติให้กับสาธารณะ
แนวทางการดำเนินการ
1. รับนกที่มีความจำเป็นต้องฟื้นฟูสุขภาพและมีความเป็นไปได้ที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติด้วยการคัดกรอง
นกภายใต้ดุลยพินิจของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ โดยให้ความสำคัญนกชนิดที่ถูกคุกคามเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Endangered species) ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพเป็นลำดับแรก
2. ดำเนินการด้วยเงินบริจาคของสาธารณะภายใต้การรณรงค์ของกองทุนฟื้นฟูนกเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
ของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย และกองทุนเพื่อรักษาช้างและสัตว์ป่าของคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
3. มุ่งฟื้นฟูสุขภาพนกเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในถิ่นอาศัยที่เหมาะสม ในกรณีที่นกได้รับการฟื้นฟูจนพ้น
ภาวะวิกฤตต่อชีวิตแล้วแต่พิการอย่างถาวร เช่น ตาบอด ปีกถูกตัด จนทำให้นกไม่สามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้เมื่อถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ทางศูนย์ฟื้นฟูฯ จะเลี้ยงไว้เป็น “ตำรามีชีวิต” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับนกในธรรมชาติกับเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาหรือประชาชนที่สนใจ หรือจัดหาผู้อุปการะนกที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงนกรับเลี้ยงต่อไป เช่น สวนสัตว์ หรือผู้เลี้ยงเอกชน โดยดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฏหมายภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

ขั้นตอนการดำเนินงาน
1. รับนกที่บาดเจ็บจากประชาชนทั่วไป หรือที่ติดต่อผ่านสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศ
ไทย เช่น นกบินชนกระจก โดนยิง บินตกเพราะขาดอาหาร ในกรณีนกอินทรีหรืออีแร้ง ซึ่งสำหรับนกขนาดเล็กจะดำเนินการ ตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และเมื่อมีความจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมหรือฝึกบินในระยะสั้น จะเคลื่อนย้ายไปฝึกบินที่กรงฝึกบิน คณะสัตวแพทยศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยเฉลี่ย การปรับพฤติกรรมและฝึกบินใช้เวลา 1-2 เดือน โดยประมาณ
2. จัดทำทะเบียนประวัตินกแต่ละตัวที่เข้ารับการฟื้นฟู เมื่อนกมีสุขภาพแข็งแรงและมีสภาพขนสมบูรณ์
แล้วจะตรวจวัดเพื่อเก็บข้อมูลพื้นฐานด้านชีวรูปพรรณ (biometric data) และใส่ห่วงขา (leg banding/ringing) หรือรหัสอื่นๆ เช่น รหัสปีก (wing tag) หรือเครื่องส่งสัญญาณวิทยุหรือดาวเทียมตามความเหมาะสมของขนาดตัวของนก เพื่อเฝ้าติดตามนก หากมีผู้พบเห็นหรือจับนกได้อีกครั้ง ทำให้ได้รับข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นหรือการเคลื่อนที่ของนกในกรณีที่เป็นนกอพยพ
3. เมื่อนกมีสภาพพร้อมที่จะดำรงชีวิตในธรรมชาติ จะดำเนินการปล่อยในถิ่นอาศัยหรือสถานที่ที่
เหมาะสมต่อการดำรงชีพของนกชนิดนั้นและตามฤดูกาลที่เหมาะสม เช่น นกอพยพต้องปล่อยในช่วงฤดูกาบอพยพ แต่นกที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วไม่น่าจะดำรงชีวิตด้วยตนเองได้ จะถูกเลี้ยงหรือดำเนินการดังที่แจงไว้ในแนวทางการดำเนินการ ข้อ 3.

จากคุณ : นกร่าเริง - [ 24 ก.ค. 50 03:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19

ชื่อของศูนย์ฟื้นฟูใช้คำว่า "นกล่าเหยื่อ" แต่เราพร้อมให้ความช่วยเหลือนกทุกชนิด (เท่าที่ปัจจัยสนับสนุนเอื้อให้ดำเนินการ) หากการดำเนินการไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินจากหน่วยงานราชการ (แต่ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญจากบุคลากรของหน่วยงานฯ) และรับการสนับสนุนจากสังคมในเรื่องทุนดำเนินการผ่านทางสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกองทุนยังมีจำกัด จึงให้ความสำคัญนกที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เช่น นกล่าเหยื่อหรือนกขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก จึงเป็นที่มาของชื่อครับ

เรื่องอนาคิน อ่านความคืบหน้าที่ลิงค์
http://thairaptorgroup.com/TRG/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1015

ผมคิดว่าไม่ควรคาดเดาเรื่องของอนาคินบนพื้นฐานของความไม่รู้ข้อเท็จจริงอย่างทั่วพร้อมทุกด้านมุมและไม่มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการฟื้นฟูนกเพื่อปล่อย และใช้อคติส่วนตัว (จะด้วยความรู้สึกรักหรือชังก็ตาม) แม้จะเป็นธรรมชาติของคน (กับข่าวลือหรือการคาดเดาตามจริต) ก็ตาม แต่เมื่อยังสติได้ตามประสาผู้ใหญ่และบรรลุนิติภาวะพึงกระทำอันเป็นตัวอย่างต่อบุคคลอื่นในสังคม โดยเฉพาะเยาวชน น่าจะตระหนักได้ว่าควรมีท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรครับ

หลักการดำเนินงานข้อหนึ่งของศูนย์ฯ คือ "ฟื้นฟู" เพื่อปล่อย "คืน" สู่ธรรมชาติ ไม่ใช่ "เลี้ยง" ไว้เป็น "สัตว์เลี้ยง" แล้วสักแต่ว่าปล่อยไปในสภาพที่ไม่พร้อมจะดำรงชีวิตด้วยตนเอง หมายความว่า นกที่ได้รับการฟื้นฟู ไม่ใช่ทุกตัวที่จะปล่อย แต่เป็นเจตจำนงค์ของศูนย์ฟื้นฟูนกฯ และผู้ดำเนินงานที่หวังเช่นนั้นเพื่อช่วยต่อชีวิตให้นกที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ (ไม่ได้ถูกเพาะเลี้ยงในกรง) ได้รับโอกาสอีกครั้งด้วยการช่วยเหลือของมนุษย์ (ที่ประเสริฐกว่าคน) จึงอาสาเข้ามาทำงานด้านนี้ และจะยึดเป็นแนวทางการพิจารณาเสมอว่านกที่ฟื้นฟูแล้วจะปล่อยนั้นต้องมีพฤติกรรมที่ส่อให้เชื่อได้ว่าน่าจะดำรงชีวิตในธรรมชาติได้ด้วยตนเองภายใต้ดุลพินิจของสัตวแพทย์ ซึ่งส่วนนี้เราได้กระทำการทุกอย่างเพื่อให้นกพร้อมที่คืนสู่ธรรมชาติ

หากคิดอย่างรอบด้านจะทราบว่ายังมีปัจจัยอื่นอีก ที่อาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อตัวนกที่รับการฟื้นฟูเมื่อปล่อยไปแล้ว (ที่ควบคุมหรือจัดการไม่ได้จากกระบวนการฟื้นฟู) ซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ หรือลดจำนวนจนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของนกหลายชนิดในบ้านเราในอดีตด้วยการยิง ล่าหรือจับมาเลี้ยงในกรงขัง มีตัวอย่างอยู่เนืองๆ ในอดีตและเร็วๆนี้ โดยเฉพาะนกขนาดใหญ่ เช่น นกกระสา หรือแร้งขนาดใหญ่ถูกยิงตกหรือตีให้ตายเพียงเพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็น "ตัวซวย" น่าขยะแขยงเพราะกินซากสัตว์ ทั้งที่ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่นด้วยการพรากชีวิต ซึ่งต้องอาศัยการรณรงค์เพื่อเปลี่ยนทัศนคติในสังคมครับ แน่นอนว่าเป็นเรื่องใหญ่และยากเพราะเกี่ยวข้องกับความคิดที่ฝังรากลึกมานาน แม้จะมีความหวังแต่ถ้าไม่เริ่มทำ ไม่คิดจะเปลี่ยน ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทิศทางที่เราคิดแล้วว่าควรปรับเปลี่ยนหรือกระทำให้ดีขึ้นหรือพึงกระทำในฐานะมนุษย์ผู้ประเสริฐครับ

จากคุณ : Trogon - [ 31 ก.ค. 50 09:20:41 ]