ความคิดเห็นที่ 1 ...เริ่มต้นเรื่องกันที่ตลาดปากช่อง ก่อนขึ้นเขาใหญ่ต้องเติมพลังและหาซื้อเสบียง (แอลกอฮอล์) มาตุนกันก่อน นี่เลย.. ไก่ย่าง+ส้มตำ โพสเองน้ำลายไหลเองซะแล้วเรา จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามด้วย...หมี่โคราช ไม่เข้าใจทำไมถึงเรียก "หมี่โคราช" ไม่เรียกว่า "หมี่นครราชสีมา" หว่า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ห่อนี้อะไรหว่า... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เปิดออกมา.. จ๊ะเอ๋ เป็นข้าวนึ่ง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อิ่มแล้ว... ขึ้นเขาใหญ่กันดีกว่า ครั้งนี้ผมและคณะขึ้นเขาใหญ่ทาง ปากช่อง จุดแรกที่แวะชมก็คือ จุดชมวิว กม.30 จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทิวทัศน์ที่เห็นเป็นทิศเหนือของ อช.เขาใหญ่ มองลงไป.. ที่ราบที่เห้นข้างหน้าก็คือรีสอร์ทได้สร้างริมถนนธนะรัชต์ ทางเข้ามายัง อช.เขาใหญ่ ด้านขวาจะเป็นป่าเบญจพรรณผสมดิบแล้ง บางส่วนที่พืชพวกไผ่ขึ้นปกคลุมเป็นดงทึบ ด้านซ้ายเป็นป่าดิบแล้งมีพืชวงศ์ยางเป็นไม้เด่น จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งหมดจัดแถว... เรียงตามลำดับความสูงดีจัง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ศูนย์ต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยว.. กำลังปรับแต่งสวนหย่อมเพื่อต้อนรับ สัญลักษณ์มรดกโลก จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภายในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คงไม่ต้องสาธยายให้เสียเวลา.. เพราะหลายคนคงเคยไปมาแล้ว.. ..เสือร้ายกินคนของ อช.เขาใหญ่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 "เสือสองตัวอยู่ตู้เดียวกันไม่ได้" ....... เพราะ ตู้มันเล็ก ตามธรรมชาติแล้วเสือส่วนใหญ่จะไม่ทำร้ายหรือกินคน.. แค่มันได้กลิ่นคนมันก็หนีแล้วล่ะคับ ยกเว้นเสียก็แต่ไปเจอกับมันโดยบังเอิญในป่า หรือว่า มันแก่หรือเจ็บ ไม่สามารถล่าสัตว์อื่นกินได้ มันจึงหันมาทำร้ายหรือกินคนแทน อย่างสองตัวนี่..เป็นเสือแก่คับ "บอกให้หันมากินหญ้าอ่อนๆ แบบเสือหลุมหลิมก็ไม่เชื่อ" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เขาและกระโหลกของ "สมัน" หรือ "เนื้อสมัน" สัตว์ที่เคยได้ชื่อว่า "มีเขาสวยที่สุดในโลก" การแตกเขาของมันจะแตกเหมือนกิ่งไม้ ซึ่งจะแตกต่างกับลักษณะการแตกของเขากวาง เพราะ ความสวยงามของเขาของมันนี่เองทำให้เผ่าพันธุ์ของมันต้องสูญสิ้น... ความสวยงามของเขาทำให้มนุษย์ต้องการ.. ขนาดของเขาที่ใหญ่ และลักษณะการแตกของเขาที่แผ่กว้าง ทำให้มันไม่สามารถอาศัยในป่าทึบๆ ได้ เพราะเขาของมันจะไปติดกับกิ่งไม้และเถาว์วัลย์ในป่าทึบทำให้ลำบากในการหลบหนีจากผู้ล่า เช่นเสือ หรือหมาไน มันจึงต้องอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งๆ หรือตามทุ่ง ซึ่งในอดีตมีมากมายตามทุ่งหญ้าแถวๆ รังสิต-ปทุมธานี และ ปัจจุบันคาดว่าน่าจะสูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว (แต่ที่แน่ๆ ไม่พบในประเทศไทยแล้ว) อาจจะมีความหวังลมๆแล้งๆ อยู่บ้างก็ในป่าแถวๆ ลาวตอนใต้ และเขมร นั่นแหละคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 12:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เขาแหละ..คือ กระทิง สัตว์ป่าหนึ่งเดียวที่ทำให้ พรานป่าคนเก่ง รพิน ไพรวัลย์ แห่ง "เพชรพระอุมา" ปางตาย เขาคือญาติ พี่ตูน "red bull" นั่นเอง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องจากในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นไป เที่ยวบนเขาใหญ่เป็นปริมาณมาก ปัญหาที่ตามมาคือ ขยะจากนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะทิ้งลงถังขยะ แต่ก็ยังมีสัตว์บางชนิด เช่น ลิง หรือ กวาง ไปรื้อ ไปคุ้ยมากินอยู่ดี แล้ว ขยะประเภทถุงพลาสติกไปติดพันลำไส้ ตายก็มีมาก จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่เคยไปอ่ะ สนุกอ่ะป่าว จากคุณ : glitterydust - [ 31 ก.ค. 50 13:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จากการศึกษาและวิจัย ของ อช.เขาใหญ่ พบว่า นักท่องเที่ยว 1 คน จะทำให้เกิดขยะอย่างน้อย 2 กก. ทาง อช.เขาใหญ่ จึงมีโครงการจัดทำถุงดำใส่ขยะแจกแก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่ขึ้นไปใช้บริการบนเขาใหญ่ โดยขากลับ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีขยะติดตัวลงมาด้วย ประมาณคนละ 2 กก. เห็นพี่เขาว่างั้น.. ....ในอนาคตคาดว่า ปัญหาขยะบนเขาใหญ่น่าจะลดลง แต่ปัญหาใหม่ที่จะมาแทน น่าจะเป็นปัญหาการขโมยขยะกันซะมากกว่า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เชยว่ะ..หมูกริ๊ด ไม่เคยไปเขาใหญ่.. เด๋วขอปร๋า.. ให้จัดกิจกรรม "คืนหมูสู่ป่า" ก่อนนะ แล้วจะพาไป ................................................................................. ...การไปของทีมงานครั้งนี้ ไปเพื่อถ่ายวิดีโอ และภาพ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ อช.เขาใหญ่ แทนของเก่าที่เก่าและไม่ทันสมัยเท่าไหร่ ประกอบกับตอนนี้ อช.เขาใหญ่ ได้เป็น มรดกโลกแล้วก็เลยต้องอัพเดทข้อมูลกันหน่อยน่ะครับ.. ภายในห้องฉายวิดีทัศน์ แนะนำ อช.เขาใหญ่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 บรรยากาศในห้องฉายวิดีทัศน์ แบบใช้แฟล๊ช สว่างขึ้นมานิดนึง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วิดีทัศน์จบแล้วก็มาเดินดูนอกห้องกันต่อ.. พรานป่าเขาใช้อะไรล่าสัตว์กันบ้างเอ่ย ดูในภาพข้างล่างนะครับ.. แต่ถ้าจะล่าเสือหลุมหลิมล่ะก็ ของตามภาพข้างล่างใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ.. ต้องมอมด้วย..สุรา สถานเดียว แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 50 13:55:28 จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 13:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไปขาวววๆหย่ายยยยยๆด้วยคน จากคุณ : suttiudom - [ 31 ก.ค. 50 14:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ห้องน้ำชาย ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ.. มีให้เลือกแบบ 2 เวอร์ชั่น มีทั้งแบบคนเมือง.. ฉี่ใส่โถ และ แบบคนพื้นเมือง.. ฉี่ใส่ต้นไม้ เข้าใจถูกป่าวหว่า?.... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หวัดดีค้าบ.. เฮียสิด เรื่องขาวๆ หญ่ายๆ... เฮียเป็นไม่พลาดทุกที ค่อยๆ ตามมาคับเฮียอย่าเสียงดัง เด๋วซ้อได้ยิน ..................................................................... สองสาว เธอถ่ายรูปหน้าสัญลักษณ์ มรดกโลก ที่ตั้งอยู่หน้าศูนย์บริการฯ มิน่าล่ะ ทำไมเธอทั้งสองคนถึงยังไม่มีแฟน.. เพราะเธอคือมรดกโลก นั่นเอง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยังบ่อเคยไปเลยครับ .... ขอบคุณตี้เอามาฮื้อผ่อครับ จากคุณ : ฮิมดอย - [ 31 ก.ค. 50 14:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่ไพบูลย์ ผช.หัวหน้าอุทยานฯ มารอต้อนรับ... ส่วนคนที่ยืนหันหลัง ชื่อพี่บุญทวี เป็น อาจารย์ ม.แห่งซาดลาว (เขาอ่านว่างี้นะ) จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หวัดดีคับน้าฮิม.. ยังบ่เคยไปผ่อก๊ะ...อั้นโตยไปผ่อตวยกั๋นเน่อ ......................................................................................... เบื่อศูนย์บริการฯ ล่ะ ไปดูจุดชมนักท่องเที่ยว ที่ผากล้วยไม้กันดีกว่า.. ที่จุดกลางเต้นท์ผากล้วยไม้ ยามนี้คนไม่เยอะมากเท่าไร ข้างๆ จุดกางเต็นท์ มีแปลงเพาะกล้วยไม้หวายแดงเพื่อปลูกคืนสู่ป่าด้วย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 "กล้วยไม้หวายแดง" หน้าตาหยั่งงี้แหละ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทางเดินลงสู่น้ำตกผากล้วยไม้ ซึ่งสามารถเดินทะลุออกสู่น้ำตกเหวสุวัตได้ เส้นทางนี้ เมื่อปีที่แล้วผมเป็นหัวหน้าทีมในการเดินสำรวจผลกระทบกิจกรรมเดินป่าที่มีต่อพืชพรรณและสัตว์ป่า... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ต้นยางและต้นตะแบกปากทางเดินศึกษาธรรมชาติ ผากล้วยไม้-เหวสุวัต จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 "พลับพลา" กำลังออกผลพอดี นกชอบมากิน ลำต้นก็เอาไปเป็นส่วนผสมยาแก้โรคหืดได้ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไปต่อกันที่ "น้ำตกเหวสุวัต" กันครับ ห้ามโดดนะคับ เฮียสิดกับน้าฮิม ถ้าดื้อเด๋วคราวหน้าไม่ให้ตามมาเที่ยวอีกนะคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บริเวณหน้าผาด้านบนของน้ำตก... และฝั่งตรงข้าม จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อูย..หวาดเฉียว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หมูกรี๊ด อยู่ป่ะ.. มายืนตรงนี้เร๋ว... เด๋วผีจะผลักไปให้ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า สาเหตุที่ชื่อ น้ำตกเหวสุวัต เพราะมีคนชื่อสุวัต ตกลงไปตายมั้ง ซึ่งผมก็รู้ตัวว่ามันเป็นสัณนิษฐานที่ไร้สาระมาก... แต่ บังเอิญมันจริงคับ ถามพี่ ผช.ไพบูลย์ แกตอบว่างั้นครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ้าว...เบลอลืมรูปแล่ว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่นี่มีคนตายบ่อยมาก ไม่รู้ทุกปีรึป่าว... แต่รู้สึกจะทุกครั้งที่ผมมาจะได้ยินข่าวมีคนตายที่ น้ำตกเหวสุวัต ทุกที จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 14:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ในอดีต อช.เขาใหญ่ ยังไม่มีป้ายห้ามกระโดด ก็มีทั้งกระโดดน้ำตกเล่นตายและจมน้ำตาย แต่หลังๆ มานี้มีแต่คนจมน้ำตาย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 15:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ง่วงแล้ว..เด๋วมาต่อ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 15:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาปาดดูด้วยคนค่ะ  เคยไปแต่น้ำตกเหวนรก (แล้วใครตกไปตายหล่ะ) อิอิ...... แต่มีช้างตกลงไปนะ  .......น้ำตกสวยเหมือนกันค่ะไปมาแล้วด้วยแถมล่องแก่งหินเพิงอีกต่างหาก จากคุณ : Love_tonka - [ 31 ก.ค. 50 15:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พี่เสือ ใส่ถุง ซะด้วย ที่จริงถุงกันทาก มัน กันไม่ได้ ...เพราะมันจะไต่ ๆ ไปถึง ... ตรงไหนที่ไม่มี ผ้า ... จริงไหม พี่เสือ ปล. เพิ่งไปเมื่อ 2เดือนก่อน แต่ ตอนนั้น แล้ง ชะมัด ... เลยไม่มีรุปมาฝาก จากคุณ : pop_e30coupe - [ 31 ก.ค. 50 15:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ต้องมาห้ามหรอก!   จ้างให้ก็ไม่โดด มารอดูเฉลยไอ้ลูกที่เหมือนอัณฑะช้าง   อย่าลืมหละค่ำๆจะมาดู จากคุณ : suttiudom - [ 31 ก.ค. 50 16:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาแล้ว... หวัดดีจ้า คุณต้นข่า... ถ้าประเทศไทยมี คนชื่อ นายนรก หรือ นางสาวนรก ผมก็อาจจะตั้งสัณนิษฐานตามนั้นเหมือนกันคับ หวัดดีค้าบ เฮียปอบ.... จริงอย่างที่เฮียว่าแหละค้าบ มันก็แค่ทำให้เราสังเกตเห็นตัวมันง่ายขึ้นมาอีกหน่อยแค่นั้นเอง แต่ถ้าอยากให้เป็นถุงกันทากจริงๆ ต้องเอาถุงที่ว่า ไปชุบกับน้ำปูนที่เขากินกับหมากแล้วตากให้แห้งก่อนค่อยเอามาใส่ มันก็จะช่วยกันได้ดีครับ มันไม่กล้าไต่ขึ้นมาเลยเชียวแหละ เฮียสิด.. ยังจำได้อีกวุ้ย "humช้าง" ปล. hum เป็นคำต้องห้าม ด้วยวุ้ย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 16:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 "น้ำตกเหวสุวัตใต้ร่มไคร้ย้อย" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 16:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่รู้คู่นี้เขามานั่ง "จู๋จี๋" หรือ "ปรับทุกข์" กันอยู่ ถ้านั่งปรับทุกข์ ก็คงต้องติดตามชมกันต่อไป... ว่าเขาและเธอจะโดดน้ำตกกันหรือไม่.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 16:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตามมาแร้วววววววววว จากคุณ : madamepi - [ 31 ก.ค. 50 17:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ต้นหะนี้มีชื่อว่า "ไคร้ย้อย" นะจ๊ะ มันชอบขึ้นอยู่ตามริมน้ำในป่าดิบอ่ะจ๊ะ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เพิ่งตื่นเร๊อะ ปร๋า... ...................................................... ผลของมันนกกินได้... แต่คนกินได้รึป่าวไม่รู้ ผมทดลองชิมดูแล้ว ขมปริ๊ด เลยค้าบ... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพนี้ถ่ายโดย พี่ดวง มือถ่ายภาพของทีมงานทำสื่อฯ ค้าบ ความเหมือนบนความแตกต่าง (ภาพเหมือนกันแต่ฝีมือต่างกัน) จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไคร้ย้อยจะออกดอกสีขาว เป็นช่อห้อยย้อยลงมา (น่าจะเป็นที่มาของชื่อ) ดอกมีกลิ่นหอมเวลากลางคืน.. ชื่อ ไคร้ย้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeocarpur grandiflorus วงศ์ ELAEOCARPACEAE จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ระหว่างที่รอทีมงานอยู่บริเวณลานจอดรถน้ำตกเหวสุวัต ก็เจอเข้ากับจิ๊กโก๋เจ้าถิ่น เข้าจนได้ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามธรรมชาติลิงจะอยู่รวมกันเป็นฝูง... แต่เจ้าตัวนี้คงโดนขับไล่ออกมาจากฝูงเนื่องจากมันเป็นตัวผู้ที่โตเต็มที่จนถึงวัยเจริญพันธุ์แล้ว.. ขืนให้อยู่ในฝูงต่อไป ชะรอยจะแอบไปเป็นกิ๊กกับเหล่าภรรยาน้อยใหญ่ของตัวเอง จึงต้องขับไล่ออกมาจากฝูง...ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของสัตว์อีกนั่นแหละครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เงอะ... ภาพซ้ำ ................................... เจ้าตัวนี้ จะได้กลับเข้าฝูงอีกครั้งก็ต่อเมื่อมันสามารถต่อสู้และเอาชนะลิงจ่าฝูงได้ หรือไม่ก็พยายามตามฝูงไปเรื่อยๆ แล้วอาศัยจังหวะที่ลิงจ่าฝูงเผลอ เข้าไปจีบลิงตัวเมียให้ได้สักตัว แล้วก็หนีไปอยู่ร่วมกันสร้างฝูงขึ้นมาใหม่นั่นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 50 17:55:14 จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แล้วคราวนี้รู้ยังว่ามันมาทำอะไรเอ่ย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 17:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มีอะไรให้ตูกินมั่งไหมหว่า... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เย้.. ได้ข้าวโพดกินแย้ว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อุ๊ย..มีคนแอบมองตูกินด้วย เขิลจังเยย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ลิง ในประเทศไทย มีอยู่ 5 ชนิด คือ ลิงเสน ลิงกัง ลิงแสม ลิงไอ้เงี้ยะ และ ลิงวอก จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ส่วนเจ้าตัวนี้เป็น ลิงกัง (Macaca nemestrina) คับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ไปต่อกันที่ พระตำหนักที่ อุทยานฯ สร้างถวายสมเด็จพระราชินีกันต่อดีกว่า.. ข้างบนนี้อากาศเย็นสบายมากเลย... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 พระตำหนักสร้างจากไม้สักทั้งหลังเลยนะเนี่ย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ที่โคนเสาธง ของพระตำหนักฯ ถูกประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผา (ไม่รู้ด่านเกวียนรึป่าว) น้อยใหญ่วางเรียงรายอยู่หลายใบทำให้ดูไม่โล่งตา แต่ผมไม่กล้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ หรอกครับ กลัวมีตัวอะไรอยู่ในรู... ไม่ได้กลัวงู หรือกลัวสัตว์ร้ายอะไรหรอกนะครับ.. แต่ไม่ชอบความรู้สึกเวลาต๊กกะใจอ่ะคับ... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ทิวทัศน์ เมื่อมองลงไปจากพระตำหนักฯ เห็น ถ.ธนะรัชต์ อยู่ลิบๆ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตามไปเที่ยวด้วยคนค้าบ จากคุณ : tip_te - [ 31 ก.ค. 50 18:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ห้าโมงเย็นแล้ว... อากาศบนนี้เย็นแต่ยังไม่ถึงกับหนาว.. เสียงนกและ ชะนี ร้องตรงนู้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เป็นระยะๆ... มันเป็นเสียงที่ผมฟังแล้ว สงบ และมีความสุขดีจัง... ......... ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับเสียงบรรเลงแห่งพงไพรอยู่นั้น... ก็มีเสียง "แกร๊ก..แกร๊ก" ดังขึ้นจากยอดไม้ด้านซ้ายมือ.. แล้วนกขนาดใหญ่สีดำสองตัวก็กระโดด เหยงๆ.. โผล่ขึ้นมาจากยอดไม้ ...................... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 18:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หวัดดีนู๋ทิบ... ดีเลยเวลาเดินในป่าให้ "นู๋ทิบ" เดินนำหน้าจะได้แหวกทางเดินให้กว้างๆ เดินสบายๆ หน่อย ไม่ต้องก้มไม่ต้องมุด .......................................... มันเป็น "นกแก๊ก" หรือ "นกแกง" (Anthracoceros albirostris) นั่นเอง เป็นนกในวงศ์ นกเงือก ที่มีขนาดเล็กที่สุด นกเงือกทุกชนิดจะพบเฉพาะในบริเวณที่เป็นป่าดิบ (ยกเว้นพวกที่โดนจับมาไว้ในกรง หรือถูกเลี้ยงไว้จนเชื่อง) เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่ และลักษณะนิสัยชอบอาศัยและวางไข่ในโพรงไม้ ต้นไม้จึงต้องมีขนาดใหญ่พอที่เขาจะอยู่อาศัยและวางไข่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นต้นไม้ในป่าดิบ และเนื่องจากว่า นกแก๊ก เป็นนกเงือกที่มีขนาดเล็กที่สุด (จากปากถึงหางประมาณ 70 ซม. นกเงือกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ นกชนหิน จากปากถึงหางประมาณ 127 ซม.) มันจึงเป็นนกเงือกที่พบเห็นได้ง่ายกว่านกเงือกชนิดอื่นๆ และกระจายพันธุ์ได้ง่ายกว่านกเงือกชนิดอื่นๆ เช่นกัน (ตัวเล็ก = ขนาดของรังก็เล็ก = ขนาดของต้นไม้ที่ใช้ทำรังจึงไม่ยากเท่าชนิดอื่นๆ) แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 50 19:14:43 จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 19:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาเดาว่า  นกเงือก จากคุณ : madamepi - [ 31 ก.ค. 50 19:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ว๊า...ไม่ทัน เสียใจหว่ะ จากคุณ : madamepi - [ 31 ก.ค. 50 19:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เก่งมากครับ ปร๋า....  ถึงมันจะเป็นคำตอบที่กว้างไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่ไม่ตอบว่า "เป็ด" ครับ ................................................ ...คืนนี้เราพักกันที่นี่ครับ "บ้านพักรัฐมนตรี" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 19:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อุณหภูมิยามหัวค่ำ 22 องศา ครับ... อาจจะดูชิลๆ สำหรับป้าแตน กับป้า ไบก้อน แต่สำหรับผมต้องหาอุปกรณ์ช่วยคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 19:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อาหารมื้อค่ำเต็มโต๊ะเลยคับ... ที่เห็นนี่สำหรับ 4 คนแค่นั้นนะครับ พุงปลิ้นเลย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 19:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ว่าแล้วก็หิว... ขอพักเบรคไปกินข้าวก่อนดีกว่า แล้วจะพาไปส่องสัตว์กันต่อ... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 19:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ต่อครับ.... ราว 2 ทุ่ม ก็มีรถมารับพวกเราไปส่องสัตว์กันครับ ลักษณะของรถที่ใช้ส่องสัตว์ ก็คล้ายรถสองแถวธรรมดาๆ นี่เอง เพียงแต่ติดสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่ไว้ที่รถ... และจะมีเจ้าหน้าที่ส่องไฟไปมาหาสัตว์ให้พวกเราได้ดู ซึ่งคนส่องไฟต้องตาไว และมีความชำนาญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังต้องรู้จักชนิดของสัตว์ดีอีกด้วย ไม่งั้นเวลานักท่องเที่ยวถามว่าตัวอะไร คงจะตอบได้แต่ "แคงการู... แคงการู" อย่างเดียว จะพลอยทำให้เสียอรรถรสในการส่องสัตว์หมด จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 20:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 72 บรรยากาศระหว่างส่องสัตว์ แสงไฟจากสปอร์ตไล้ท์ ฉายไปให้เห็นฝูงเก้ง และกวาง กำลังกินหญ้าอย่ตามทุ่ง แต่กล้องถ่ายไม่เห็นอะไรเลยอ่ะครับ.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 20:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดด หวัดดีคะพี่หลิม ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ จากคุณ : ชานมใส่มะนาว - [ 31 ก.ค. 50 20:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แรกๆ ก็ตื่นเต้นกันดีกับบรรยากาศในการส่องสัตว์.... แต่เวลาผ่านไปซัก 30 นาที ชักจะน่าเบื่อแล้วสิ เห็นแต่เก้งกับกวาง จนชินแระ "เนี่ยทำไมเราถึงเห็นแต่เก้งกับกวางรู้มั้ย?" พี่ดวงตั้งคำถามเพราะเห็นหลายคนชักเซ็ง "ทำไมหรือค่ะพี่ดวง" หนึ่งในสองสาวมรดกของโลกอยากรู้คำตอบ "ก็เพราะ.. บรรดา เสือ สิงห์ กระทิง แรด มันมาอยู่บนรถนี้กันหมดงัยล่ะ" คำตอบของพี่ดวงทำเอาฮาแตก ...................................... รูปกวางป่า (Cervus unicolor) ปล. ขอบคุณภาพจาก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 "เอ้า!... จอดรถเด๋วเฮีย เจ๊ชานมจะอาศัยเกาะรถไปส่องดูสัตว์ด้วยค้าบบบ.." ............................................... สัตว์ชนิดต่อไปที่ได้เห็นในคืนนั้น ก็คือ "ชะมดเช็ด หรือ ชะมดเชียง" (Viverricula malaccensis) ครั้งแรกที่พี่ไพบูลย์ ถามว่ามันคือตัวอะไร ผมตอบได้แค่ "ชะมด" แต่ไม่รู้จริงๆ ว่ามันชนิดไหนกันแน่ เพราะเคยเห็นแต่ในกรงไม่เคยเห็นมันตามธรรมชาติสักที เราเห็นมันคลานอยู่ใน ทุ่งหญ้าเตี้ยๆ ห่างจากรถประมาณ 20 เมตร เห็นจะได้ ทันทีที่มันถูกส่องไฟ.. มันหยุด!..แล้วหันหน้ามองดูเราครู่หนึ่งประมาณ 3 วินาที หลังจากนั้นก็ย่อตัวแล้วคลานช้าๆ เข้าดงหายไป ................................................ ชะมดเช็ด หรือ ชะมดเชียง (Viverricula malaccensis) ฉี่ของมันจะมีกลิ่นฉุนมาก สามารถเอาไปผสมทำหัวน้ำหอมได้ ปล. ขอบคุณภาพจาก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 76 'ไม่ต้องเสียค่ารถ  ส่องกระจกดูก็เห็นแล้ว ฮ่าฮ่า จากคุณ : suttiudom - [ 31 ก.ค. 50 21:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 รถเคลื่อนตัวจากจุดที่เห็น ชะมดเช็ด ได้ประมาณ 100 เมตร ก็มาเจอสัตว์อีกชนิดหนึ่ง มันวิ่งหนีเข้าดงเห็นแต่ก้นกับหางหยอยๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นสัตว์ชนิดไหนกันแน่เพราะมองไม่ทัน... ก็ได้คำตอบจากพี่ที่ส่องไฟว่ามันเป็น "ชะมดแผงหางปล้อง" นั่นเองครับ ........................................ ชะมดแผงหางปล้อง (Viverra zibetha) ลักษณะเด่นของมันคือ ที่หางจะเป็นมีแถบเป็นปล้องๆ สีดำเหมือนในภาพครับ ปล. ขอบคุณภาพจาก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 78 หวัดดีรอบมิดไนท์ ครับเฮียสิด.. เฮียส่องกระจกแล้วเห็นตัวอะไรในกระจกหรือคับ อยากรู้จัง ........................................................ สัตว์ชนิดต่อไปที่เห็น เรามองกันแทบไม่เห็นมันเลย เพราะลายของมันที่พรางเข้ากับพุ่มไม้และมันก็มีความไวมากเสียด้วย ดีที่อยู่ไม่ไกลรถมากนัก ห่างจากรถไม่ถึง 10 เมตรเห็นจะได้ มันวิ่งๆ หลบอยู่ในพุ่มไม้รกๆ เราต้องส่องไฟดักมัน แล้ววิ่งรถเดินหน้าถอยหลังตามส่องไฟดูมันจึงได้เห็นตัวชัดๆ ตอนแรกที่เห็น... จากลายที่ลำตัวผมว่าน่าจะเป็นเสือ... แต่ด้วยขนาดตัวเท่าๆ กับแมวบ้าน ก็เลยไม่แน่ใจ ตอบพี่ไพบูลย์ไปว่าไม่รู้เหมือนกัน... พี่ไพบูลย์ เองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นตัวอะไรแน่จึงถาม จนท.ส่องไฟ ก็ได้คำตอบว่าเป็น "เสือปลา" แต่มันยังไม่โตเต็มที่ครับ สรุปแล้วคือ "เสือปลา(ซิว)" ......................................................... เสือปลา (Prionailurus viverrinus) ปล. ขอบคุณภาพจาก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สัตว์ชนิดสุดท้ายแห่งค่ำคืนนี้... เราพบมันกำลังยืนด้อมๆ มองๆ เก้ง ฝูงหนึ่งอยู่กลางทุ่งใกล้ๆ กับอ่างเก็บน้ำมอสิงโต มันยืนอยู่ตัวเดียว ลักษณะคล้ายสุนัข สีน้ำตาล หางเป็นพวง ไม่บอกก็รู้ว่าคือ "หมาจิ้งจอก" มันจะกินสัตว์เล็กๆ และซากสัตว์เป็นอาหาร บางครั้งก็จะพบเป็นคู่ แต่ส่วนใหญ่ชอบอยู่ตัวเดียว ............................................................. หมาจิ้งจอก (Canis aureus) ปล. ขอบคุณภาพจาก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หมดไปหนึ่งวันพอดี พรุ่งนี้มาต่อใหม่กับวันใหม่ ใน อช.เขาใหญ่ ล่ะกันค้าบ.. สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่าน.... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 31 ก.ค. 50 21:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คห.12 บังอาจพาดพุง เอ้ย!!!!......พาดพิง คำถาม : ญาติของกระทิง มันต้องเป็นพวก rhino  ชิมิ?  ลืมไปหมดแล้วอ่ะ จากคุณ : red bike - [ 1 ส.ค. 50 00:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เสือหลิมลุยเขาใหญ่ แต่เซ้งน้อยอยากลุย เสือหลิมมั่งอ่ะ เห็นมีคนบอกว่า  เค้าใหญ่   เหมือนกันอ่ะ! จากคุณ : Zeng รับลม - [ 1 ส.ค. 50 01:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คาดว่าน้ำตกเหวนรก ไม่ได้มีที่มาจากชื่อคนหรอก แต่เพี๊ยนมาจากเหวนารก....... เพราะแถวนั้นเคยทำนา  แล้วถูกทิ้งร้าง นาก็เลย...รก จากคุณ : ว.วินาศ#3 - [ 1 ส.ค. 50 07:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณเสือหลุมหลิม รอด้วย ผมกระดื๊บตามไม่ทันครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 1 ส.ค. 50 08:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มีหน้าผาสวยๆ ที่นั่งริมผาได้ ชื่อผานางคอยหรือเปล่าไม่แน่ใจ ตรงนั้นก็สวยนะ จากคุณ : วันพุธสีเขียว - [ 1 ส.ค. 50 09:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตูน red bull........... rhino ตัวอะไรหรอ ไม่ได้เรียนทางนี้อ่ะคับ เฮียเซ้ง..... ผมว่าเขาเฟี้ยของเฮียทั้งใหญ่ทั้งยาวกว่านะเฮีย เฮียวิปลาศ.... "เหวนรก" น่าจะมาจากความสูงและความแรงของน้ำตกที่ดูน่ากลัว และการที่ช้างตกไปตายบ่อยๆ มากกว่าครับ ถ้ามีคนไปทำนาแถวนั้นได้ก็น่าจะเป็น "เหล่ายอดคนตระกูล ว.วิปลาศ ทั้ง 3" นั่นแหละครับ ผมว่าเฮียน่าจำสับสนกับ "นครนายก" รึป่าวคับ เฮียเบียร์สด.... กระดึ๊บๆ มาอย่างนั้นเหนื่อยเปล่าคับ รอเก้ง กวาง เดินผ่านมาแล้วกระโดดเกาะไข่มันมาดีกว่ามั้งคับเฮีย ไวกว่า ไม่เหนื่อยด้วย คุณยายวันตู๊ด.... อยู่ตรงไหนของเขาใหญ่หรอคับผานางคอย รู้จักแต่ ผาเดียวดาย อ่ะคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 11:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 87 rhino มิสามารถแปลเป็นไทยออกอากาศได้ เพราะคาดว่าจะเป็นคำต้องห้าม ลองพิมพ์จากกูเกิ้ลแล้วเลือกเป็นดูรูปจิ  เดี๋ยวจะออกมาเอง พี่เสือ วนฯ ก็ต้องมีเรียน zoology บ้างไม่ใช่เหรอ? จากคุณ : red bike - [ 1 ส.ค. 50 11:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ^ ^ ^ มี แต่ผมศึกษาทางด้านการฟื้นฟูป่านะ... เรียนแค่ไอ้เกี่ยวกับ พรรณไม้ และระบบนิเวศวิทยาป่าไม้ ดิน น้ำ ลม ไฟ สัตว์ป่า ไม่เกี่ยว.. แต่ไอ้ที่รู้นั่นศึกษาเอาเอง เพราะเข้าป่าบ่อยแค่นั้นแหละค้าบ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 12:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 89 บอกพิกัดไม่ถูกน่ะหลุม ไปกับเพื่อนที่เป็นพวกทำสารคดี แล้วเค้าบอกว่าเป็นผาใหม่ (ตอนนั้น หลายปีดีดัก) ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ก็กะจะถามหลุมนี่แหละ เห็นรู้จักป่าไม้เยอะ ดันไม่รู้ซะอีก นอกจากไม่รู้เรื่องสัตว์แล้ว ยังไม่รู้เรื่องเขาใหญ่อีก เพราะฉนั้น เรื่องเรียน (จนอาจารย์บางคนเรียกพี่).... ไม่น่าสงสัย จากคุณ : วันพุธสีเขียว - [ 1 ส.ค. 50 12:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ^ ^ ^ ก็ อาจารย์บางคนเป็นรุ่นน้องผมงัยยาย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 13:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โหหลายปีแล้วหรอคับ..สมัยยังสาวๆ รึป่าว คุณยายวันตู๊ด... ถ้านานอย่างนั้นสงสัยผานั่นคงพังไปแล้วมั้งครับ.. มันอยู่ใกล้ถนนหรือป่าว.. ไม่มีข้อมูลของผาที่ว่าในแผนแม่บทอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลยนะครับ ผมว่าเพื่อนๆ ยายตั้งชื่อกันเองหรือป่าว.. "ผาเดียวดาย" ละม้าง มีชื่อใกล้เคียงที่สุด เรื่องมีอยู่ว่า... บนยอดเขาเขียว ยอดเขาที่สูงที่สุดของเขาใหญ่ จะมีค่ายทหารตั้งอยู่.... พวกทหารที่เฝ้าค่ายอยู่ข้างบนจึงมักชอบเดินมานั่งเล่น ชมวิวบริเวณนี้ประจำ.. (ห่างจากค่ายประมาณ 200 เมตร) ด้วยความหนาว ความเงียบของป่า และห่างไกลจากผู้คน ทำให้ทหารข้างบนชอบมานั่งเหงาคิดถึงแฟนที่ผานี่ประจำ... จึงเป็นที่มาของชื่อ "ผาเดียวดาย" ปล. เรื่องผาเดียวดาย เพื่อนผมเป็นคนเล่าให้ฟัง...เพราะพ่อมันเคยมาประจำการที่นี่.. แล้วก็นั่งเหงาคิดถึงแม่ของมัน ปัจจุบันพ่อมันเกษียณอายุราชการแล้ว แปลว่าชื่อ "ผาเดียวดาย" น่าจะมีมานานแล้วเหมือนกัน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 16:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 92 โอ้โห อุตส่าห์ไปหารูปมาให้ น่าจะใช่แหละ แต่จากรูปดูไม่ค่อยสูงเลยแหะ ก็จอดรถริมถนน แล้วเดินเข้าป่าพอเหงื่อซึม ก็จะถึงหน้าผา ชอบเพราะตอนนั่งริมผาแล้วมองลงไปข้างล่าง จะรู้สึกได้เลย แล้วเราก็ แค่เศษเสี้ยวผงธุลีท่ามกลางโลกกว้างใหญ่ และที่ยิ่งใหญ่สุดๆก็คือธรรมชาตินั่นเอง ว่าแต่ว่าทำไมคนไม่นิยมล่ะ สวยดีออก ก็คิดว่าเพื่อนมันโม้นั่นแหละ ถึงถามหลุมอีกที น่ารักอย่างนี้ จบเมื่อไร จะบรรจุเป็นคณะบดีทันที (หลังจากนั้นอีกสองปี หลุมก็เกษียณอายุพอดี) จากคุณ : วันพุธสีเขียว - [ 1 ส.ค. 50 18:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ^ ^ ^ ผมก็ชอบ "ผาเดียวดาย" มากเลยครับ รู้สึกเหมาะกับตัวเองจัง สาเหตุที่คิดว่านักท่องเที่ยวไม่ค่อยชอบแวะเพราะ 1. นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาถึงบนเขาเขียวได้ส่วนใหญ่จะมีรถ และจะขึ้นไปดูยอดเขาเขียวก่อน จากนั้นก็จะขี้เกียจดูอะไรแล้วเลยไม่แวะ 2. ขี้เกียจเดินเข้าไปดูและไม่รู้ว่าจะไกลแค่ไหน ถึงจะมีระยะทางบอกก็เหอะ ไม่แน่ใจว่าจะเป็น กิโลแม้วรึป่าว 3. ชื่อ "ผาเดียวดาย" ฝังแล้วไม่เป็นมงคล ไม่ไปดีกว่า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ตามไปชมวันที่ ๒ กันที่นี่เลยนะค้าบบบ //ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ตามไปชมวันที่ ๒ กันที่นี่เลยนะค้าบบบ //ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตามมาเกาะรถพี่หลิมไป ส่องสัตว์ด้วยคน มาช้าทุกกระทู้เลยเรา... จากคุณ : คุณตัวเล็กตัวน้อย - [ 3 ส.ค. 50 11:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขำ ความคิดเห็นที่ 29 ไม่บอกไม่รู้นะว่าินตราย ขอบคุณค่ะที่พาเที่ยว จากคุณ : แตนต่อย - [ 5 ส.ค. 50 23:16:59 ]