ความคิดเห็นที่ 1 ชะนีที่เขาใหญ่จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ ชะนีมงกุฏ และ ชะนีมือขาว ชะนีที่ร้อง "ผัว..ผัว..ผัว..ผัว" ให้พวกเราได้ยินกันประจำส่วนใหญ่จะเป็น "ชะนีมือขาว" ครับ พี่ไพบูลย์ บอกว่า ชะนีมงกุฏ กับ ชะนีมือขาว มันร้องต่างกัน ผมไม่เคยได้ยินชะนีมงกุฏ มันร้องสักทีเลยบอกไม่ได้ครับว่ามันร้องแตกต่างกันยังงัย หรือร้อง "เมีย..เมีย" หว่า ...................................................................... ชะนีมงกุฏ ตัวผู้จะมีสีดำ มีสีขาวเป็นวงรอบหัว ส่วนตัวเมียสีเทาเหลือง หรือน้ำตาลเหลืองแล้วมีสีดำบนกระหม่อม จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนเสียงชะนีมือขาว ที่ร้อง "ผัว..ผัว...ผัว" ให้ได้ยินอยู่เป็นประจำนั้น เราสามารถแยกว่าเป็น "ตัวผู้" หรือ "ตัวเมีย" ได้จากเสียงร้องของมันครับ คือตัวผู้จะร้อง "ผัว..ผัว..ผัว..ผัว" คือ ร้อง ผัว สั้นๆ.. ตัวเมียจะร้อง "ผัววววววว...ผัววววววว..ผัววววววววว" ร้อง ผัวววว เสียงยาวและโหยหวญคร่ำครวญ (ชะนี นะอย่าคิดว่าเป็นแม่นาค) ส่วนชะนี กระเทย.. ไม่มี "ผัว" / ล้อเล่นนะ.. ........................................................... ชะนีมือขาวตัวผู้จะมีสีดำและไม่มีสีขาวคาดหัวเหมือนชะนีมงกุฏ ส่วนตัวเมียจะมีสีเหมือนชะนีมงกุฏ แต่ไม่มีสีดำบนกระหม่อม จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลับมาชมบรรยากาศยามเช้ากันต่อ.... กับเมฆหมอกบดบังยอดเขาเขียว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนเช้าอย่างนี้นกมักจะออกมาหากินเยอะครับ... ผมเลยออกตามล่าหาส่องน้องนก.. ส่วนใหญ่ในที่โล่งๆอย่างนี้ มักจะพบนกกินแมลงเยอะครับ.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 21:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นี่งัย.."น้อง Bee" ผึ้งงาน แสนขยันออกมาหาน้ำค้างกิน ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือ แมลง ต้องกินน้ำด้วยกันทั้งนั้นครับ.. และมันก็จะถูกพวกนกจาบคา (Bee-eater) กินเป็นอาหารมื้อเช้าประจำ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 22:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินหาส่องน้องนกจนหิวแล้วค้าบบบ.. กินข้าวดีกว่า.. มัวแต่เดินส่องนกจนทำให้คนอื่นเรารอ .. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 22:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้าวต้มกุ๊ย... มีอะไรบ่างดูเอาเองล่ะกันคับ สาธยายมากเด๋วผมหิวอ่ะ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 22:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อิ่มกันแล้วช่ายม้าย... เตรียมตัวให้พร้อม.... แล้วไปเดินลุยป่ากันเล้ยยยย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 22:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดึกมากแล้ว.. พรุ่งนี้มาต่อล่ะกันครับ... แต่น..แตน..แต๊นนนนน... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 1 ส.ค. 50 22:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รอส่องสัตว์ต่อค้าบ จากคุณ : tip_te - [ 2 ส.ค. 50 09:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไรว้า..... อู้เป็นระยะ ระยะ จากคุณ : BBwindy - [ 2 ส.ค. 50 09:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไรว้า..... อู้เป็นระยะ ระยะ   จากคุณ : madamepi - [ 2 ส.ค. 50 10:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เสือนอนดึกเลยตื่นสาย  ฝากข้างบนเอาไม้ไปแหย่ตูดเสือที จากคุณ : suttiudom - [ 2 ส.ค. 50 11:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ ยืมไม้แถวเชียงใหม่ไปแย่ตูดเสือไม๊ครับ เดี๋ยวส่งไปให้ แต่ต้องไปรับที่รีราน่ะครับ 555555555 จากคุณ : ป่านทอปอถัก - [ 2 ส.ค. 50 11:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อลืมไป ไม่มีรูปเสือคุงแบบเห็นหน้าชัด ๆ บ้างเหรอครับ ตอนนี้คันไม้คันมือชะมัด คริ คริ คริ จากคุณ : ป่านทอปอถัก - [ 2 ส.ค. 50 11:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หวัดดีค้าบ.. นู๋ทิบ.. บรีบรี.. ปร๋า... เฮียสิด.. เฮียป่าน... วันนี้มีสัมมนา ต้องเข้าไปนั่งฟัง ก็เลยมาต่อช้าไปหน่อยครับ.. ไม่มีเวลาทักทายมาก.. ต่อเลยนะครับ.. .................................. วันนี้เราเลือกเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ไม่ไกลมากนัก.. ด้วยเรามีนักเดินป่าสมัครเล่นมากันหลายคน เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33-หนองผักชี จึงเป็นตัวเลือกที่ดูดเหมาะสมที่สุด คือไม่ใกล้และไม่ไกลมากนัก จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 12:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแนะนำให้พบกับ จนท.ที่จะเป็นผู้นำทางให้เราในครั้งนี้ครับ “คุณลุงภักตร์” แกอยู่กับเขาใหญ่มาตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกจัดตั้งเป็น อุทยานฯ เลยนะครับ ถึงตอนนี้อายุของลุงแกจะเลยวัยเกษียณไปแล้ว แต่ทางอุทยานฯ ยังจ้างลุงเป็น จนท. อยู่ นั่นเป็นการันตีได้เลยว่าลุงแกแจ๋วจริง ค้าบบบบ... แจ๋วไม่แจ๋ว ลุงแกก็วิ่งวันละสิบกิโลทุกเช้าล่ะครับ... (ไม่รู้วิ่งหนีตัวอะไรหรือป่าว) จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 12:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แนะนำกันหน่อย.. ฝรั่งลูกนี้.. เอ๊ย! ท่านนี้เป็นผู้จัดการองค์กรส่งเสริมการปลูกป่าภาคเอกชนของออสเตรเลีย... แกมีโมเดลในการคำนวณว่า ต้นไม้ที่มีเส้นรอบวงขนาดนี้จะมีปริมาณไม้ที่สามารถแปรรูปได้กี่ ลบ.ม. แต่เป็นต้น ยูคาลิปตัส เท่านั้น.... ตอนนี้แกกำลังสนใจทำโมเดลนี้กับไม้สักอยู่อ่ะคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 12:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับร่องรอยของสัตว์ป่าที่พบในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กม.33-หนองผักชี ที่ผมและทีมงานได้สำรวจไว้เป็นข้อมูลประกอบในการทำ แผนแม่บทในการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งได้สำรวจเอาไว้ในช่วงหน้าแล้งปีที่แล้ว ก็มี 1. กวางป่า 2. หมูป่า 3. ลิงแสม 4. กระรอกหลากสี 5. นกขุนทอง 6. นกกางเขนดง 7. นกโพระดกหูเขียว 8. นกระวังไพรปากเหลือง 9. ไก่ป่า 10. นกกก 11. นกกระรางหัวหงอก 12. นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ สำหรับพืชที่เป็นไม้ต้น ที่เราทำการสำรวจเฉพาะตามริมทางเดินและลึกเข้าไปจากทางเดิน 10 เมตร มีทั้งหมดประมาณ 50 ชนิดครับ ที่พบมากที่สุด 4 อันดับแรกก็เป็น สุรามะริด อีแรด ตองผ้า และหว้าส้ม ตามลำดับเลย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 13:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนเลย เขาก็มาเผยโฉมให้ชมแล้วคับ ชะนีมงกุฏ 2 ตัว น่าจะเป็นคู่กัน ห้อยโหนหากินบนกิ่งไม้ใหญ่เห็นได้ชัดเจน พวกเราชี้ให้กันดูจนรถที่ขับผ่านมาหยุดรถแล้วชะเง้อคอยาวอยู่ในรถดูเป็นแถว... เราก็เลยได้ดูยีราฟ ขับรถเพิ่มขึ้นอีกตัว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 13:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เดินเข้ามาได้หน่อยเดียวก็เจอเข้ากับ จำปาป่า ต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่พบได้เฉพาะในป่าดิบ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 700 เมตร ขึ้นไป ผมได้เจอกับมันครั้งแรกตอนเก็บข้อมูลป่าที่ดอยอินทนนท์.. คราวนั้นมันกำลังออกดอก ผมก็มัวแต่ยืนแหงนหน้ามองดูดอกจำปาป่า จนเพลิน พอก้มมองดูตัวเองอีกที อ้าว!.. โดนตัว "คุ่น" กัดเสียแล้วเรา เลยจำมันได้มาจนทุกวันนี้เลย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 13:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห.18  พี่ฝาหรั่งอ่ะ  ดูน่ารักดีนะฮะ ยืนท่านี้ คล้ายๆ เซ้งน้อยเลยอ่ะ อีตาบ้าเนี้ยะ.........................! จากคุณ : Zeng รับลม - [ 2 ส.ค. 50 13:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แค่ส่องกระจก ก็เห็นสัตว์นานาชนิดเต็มจอแล้ว ไม่เห็นต้องถ่อไปถึงเขาใหญ่เลยพี่หลุมหลิม .. แป่ววววววววววว 5555555555 จากคุณ : artkorapin - [ 2 ส.ค. 50 14:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พี่เสือ ไม่ได้ไป ตาม มอ ... ที่เขาชอบไปกันเรอะ อยากเหงภาพ ตอนเย็นๆ ที่ สระ มอสิงโตอะ ... ใช่ป่าวหว่า มีไหมๆ จากคุณ : pop_e30coupe - [ 2 ส.ค. 50 17:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หวัดดีเฮียเซ้ง... ผู้นิยมดูดของนอก (บุหรี่) หวัดดีคับป้าอาร์ท.... ผู้โชคดีเหนือใครไม่ต้องเข้าป่าแค่ส่องกระจกก็ได้เห็น หวัดดีคับเฮีบปอบ...ผู้นิยมสระ "มอสิงโต" มีคับ แต่เป็นอ่างเก็บน้ำ ที่ไปส่องสัตว์เจอหมาจิ้งจอกเมื่อคืนไงคับ .......................ไปต่อกันคับ.......................... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 19:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 "ต้นเลือดกวาง"... ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นรอยมีดฟันที่ต้นไม้หลายแห่ง เนื่องจาก ไม้พวก เลือดกวาง เลือดควาย หรือ เลือดแรด จะมียางสีแดงคล้ายเลือด รอยที่เห็นจึงเกิดจาก "เซียนพรรณไม้สมัครเล่น" หรือพวกชอบโชว์ "ว่าข้าแน่เรื่องพรรณไม้" จากนั้นก็เอามีดฟันเปลือกไม้ให้มีน้ำยางสีแดงไหลออกมา... เพื่อโชว์ให้เห็นว่า เป็น "ต้นเลือดกวาง" จริงๆ... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 "กระเพราต้น" ต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าดิบอีกชนิดหนึ่ง.. ใหญ่ขนาดไหนเปรียบเทียบกับสองสาวมรดกของโลกเอาเองครับ น่าจะสัก 5 คนโอบได้... แต่ถ้าใครคิดจะทดลองวัดขนาดของต้นไม้ด้วยการโอบบ้าง... ขอแนะนำว่า อย่าปฏิบัติอย่างน้องเสื้อสีน้ำตาลนะครับ.. เราไม่ควรเอาด้านหน้าโอบ เพราะบางทีอาจจะมีแมลงมีพิษ เห็บ หรือ ทาก เกาะอยู่... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เนื้อไม้ของ "กระเพราต้น" จะมีกลิ่นฉุน เวลาเดินป่าเหนื่อยๆ ถากเอาเปลือกหรือเนื้อไม้ มาดมแทนยาดมได้เลยแหละครับ... แก้วิงเวียน หน้ามืด ดมแล้วชื่นใจ๊ ชื่นใจ... ......................................................................... รอยคนถากเปลือกรากของกระเพราต้น จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รอยหมูป่าขุดหารากไม้ หรือ สัตว์เล็กๆ และแมลง ในดินกิน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หมูป่าส่วนใหญ่จะอยู่และหากินกันเป็นฝูง หรือครอบครัว ยกเว้นตัวผู้ที่โตเต็มไว จะแยกออกไปท่องเที่ยวหากินตัวเดียว ที่เรียกว่า "หมูป่าโทน" นั่นแหละครับ และมันจะกลับเข้าฝูงอีกครั้งเมื่อฤดูผสมพันธุ์ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เฮียสิดค้าบ... อัณฑะช้างของเฮียออกแล้วค้าบ ลูกที่เห็นนี่..ลุงภักตร์ แกเรียก "นมช้าง" แต่พวกผมเรียกว่า "HUMช้าง" ครับ เรียกอย่างที่ผมว่าจริงๆ นะครับ ไม่ได้ล้อเล่น ในรายงานประเมินผลกระทบกิจกรรมการเดินป่าที่มีผลต่อสัตว์ป่าและพรรณพืช ผมก็รายงานว่าชื่อต้น "HUMช้าง" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อเราลองบริ "HUMช้าง" ดู ก็จะพบเมล็ดของ HUMช้าง อยู่ข้างใน ซึ่งจะมีเนื้อหุ้มเมล็ดลื่นๆ นุ่มๆ สีขาว คล้าย เมล็ดของกระท้อน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเองรู้ก็แต่ว่าผล HUMช้าง กินได้ แต่ไม่เคยลอง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลุงภักตร์ เลยกินให้ดูเป็นตัวอย่าง... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เพื่อความสมบูรณ์ของเรื่อง ถ้าไม่ลองเดี๋ยวจะอธิบายให้พวกเราฟังไม่ถูก... จำต้องยอกพลีชีพคร้าบบ... เสือดูด HUMช้าง แล้ว... "จุ๊บๆๆๆๆๆ" อืม... นิ่มๆ ลื่นๆ เหมือนเมล็ดกระท้อน แต่รสชาติหวานออกเลี่ยนๆ คือไม่มีรสเปรี้ยวเจืออยู่เลย หวานแบบจืดๆ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ้ายพี่เสือมันหล่อจริงๆ วุ้ย เสือคู่กับป่าจริงๆ  ถ้าแก้ผ้าเหลือแต่เตี่ยว คงจะแปลงร่าง จากเสือเป็นทาร์ซานแน่ๆ โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ      ฮิ้ว! จากคุณ : Zeng รับลม - [ 2 ส.ค. 50 20:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นี่งัยล่ะ หน้าตาของต้นHUMช้าง... สังเกตดีๆ มีผลHUMช้าง คาต้นอยู่ด้วย เพียบเลย โอ้ว!.. หลากหลาย HUM(ช้าง) มาก จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รอยเล็บหมีปีนต้นไม้ครับ.. รอยหมีที่เห็นเป็น..รอยหมีคนครับ ไม่ใช่คนชื่อหมีนะ.. แต่เป็นหมีชื่อคน อ่ะ!..ไม่ใช่.. งงวุ๊ย. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ต้นเดิมนั่นแหละ.. แต่เป็นด้านข้าง เห็นได้ชัดว่ามันพยายามฉีกต้นไม้เพื่อแหวกช่องของพูพอนต้นไม้ จากนั้นก็จะเอาปากยื่นๆ ของมันทิ่มเข้าไปตามรอยแยกเพื่อกินน้ำหวานจากรังของผึ้งโพรง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 20:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กินไปแล้วระวังจะกลายเป็น  ช้างหลิม แทนเสือหลิมนะฮับ! จากคุณ : Zeng รับลม - [ 2 ส.ค. 50 21:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ^ ^ ^ ดีจะได้ดัง... ต้นHUMหลิม  เท่ห์มะ ................................. "เถาวัลย์" ไม่รู้ว่าชื่ออะไร มีใครลองสังเกตดูบ้างรึป่าวว่า เถาวัลย์แทบจะทุกชนิด จะเวียนจากขวาไปซ้าย คือวนทวนเข็มนาฬิกา นั่นเอง.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 21:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เถาวัลย์ประหลาด ไม่สามารถระบุชนิดได้ แต่ลวดลายสวยดี จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 21:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพนี้ฝีมือพี่เด็ดดวง ของเราครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 21:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วมันก็มาครับ "ทากน้อยคอย(ดูดเลือด)เธอ" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 21:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รอยหมีอีกแล้ว.. คราวนี้มันปีนต้นสุรามะริดขึ้นไปหากินน้ำหวานจากรังผึ้งบนต้นเลย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 2 ส.ค. 50 22:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นรอยหมีแล้ว ... สรุปว่า ได้"เห็นหมี" ด้วยป่ะ ... จากคุณ : artkorapin - [ 2 ส.ค. 50 22:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ^ ^ เพิ่งรู้นะเนี้ยะ ว่าพี่อาท  เห็นหมี ด้วยอ่ะ เซ้งน้อยขอเอามืออุดตะหมูกก่อนนะ! จากคุณ : Zeng รับลม - [ 2 ส.ค. 50 23:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอภาพหมีตัวเป็นๆได้เปล่า พี่เสือหลิม เอาชัดๆนะ อุอุอุอุ จากคุณ : จาแมน (jaman2000) - [ 3 ส.ค. 50 09:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หวัดดีคับปร้าอาร์ท.. วันนั้นไม่เห็นหมีครับ เห็นแต่รอย เฮียเซ้ง.. พรุ่งนี้ถ้าโดนปร้าอาร์ทถล่มด้วยโคลนผมไม่เกี่ยวนะครับ.. หวัดดีคับจาแมน... หารูปหมีหมา มาให้ดูแล้วเด้อคับ.. ........................................... หมีหมา หรือ หมีคน ลำตัวจะยาวประมาณ 150 ซม. ขนสีดำทั้งตัว มีสีเหลืองแกมขาวเป็นรูปตัววีที่หน้าอก ที่ปากและจมูกสีน้ำตาลอ่อนปนเหลือง ชอบออกหากินเวลากลางคืน อาหารของมันคือพวกสัตว์เล็กๆ แมลง และชอบปีนต้นไม้หากินน้ำผึ้ง ไปถึงผลไม้สุกตามป่าทั่วไป กลางวันจะนอนบนต้นไม้... เสียงร้องของหมีชนิดนี้ ฟังดูคล้ายหมา จึงเป็นที่มาของชื่อ "หมีหมา" พอเวลามันได้กลิ่นแปลกๆ หรือ ต้องการดมเพื่อกลิ่นของอาหารมันจะยืนสองขาคล้ายคน จึงเป็นที่มาของชื่อ "หมีคน" ขอบคุณภาพจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 12:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ต้นไทร เป็น “นักบุญแห่งป่า” เพราะ ต้นไทรในป่าจะมีลำต้นขนาดใหญ่และแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปก้างขวางมาก ทำให้เกิดร่มเงาขนาดใหญ่เป็นที่พักพิงอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด (รวมทั้งผีสาง เทวดา นางไม้ด้วย) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารของสัตว์เล็กๆ พวก กระรอก กระแต เก้ง กวาง และนก ต่างๆ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 13:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 51 และต้นไทร ยังเป็น “นักฆ่าแห่งพงไพร” อีกด้วย เพราะ ต้นไทรส่วนใหญ่จะเติบโตในลักษณะของกาฝาก เกาะและดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชที่มันยึดเกาะ จากนั้นก็จะค่อยๆ เจริญเติบโตคลอบคลุมต้นไม้ที่มันยึดเกาะอาศัยอยู่ แล้วต้นไม้ที่มันอาศัยก็จะตายลง ฉายา “นักบุญแห่งป่า นักฆ่าแห่งพงไพร” จึงเหมาะแก่ต้นไทรในป่าเป็นที่สุด จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 13:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ฉายา “นักบุญแห่งป่า นักฆ่าแห่งพงไพร” เป็นฉายาที่รุ่นพี่วนศาสตร์ ม.เกษตร คนหนึ่ง เป็นคนคิดขึ้นครับ จากนั้นพวกน้องรุ่นหลังๆ ที่เรียนจบแล้วไปทำงานในอุทยานฯ ต่างๆทั่วประเทศ ก็เอามาไปใช้จนแพร่หลาย ...ภาพที่เห็นนี่เป็นตัวอย่าง ต้นไทรเจริญเติบโตจนหุ้มต้นไม้ที่มันอาศัยอยู่จนมิด ถ้าไม่สังเกตเราจะคิดว่าต้นไทรมีขนาดใหญ่มาก.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 13:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ด้วยความซุกซนตามประสา เสือแสนซน “ฉันคือรูปเสือหลุมหลิมในกรอบไม้” จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 13:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 วันนี้จะจบมั๊ย จากคุณ : suttiudom - [ 3 ส.ค. 50 14:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ต้นสุรามะริด กินแล้วมาววว..เปล่าพี่หลิม จะได้หามาปลูกบ้าง  จะได้มาวทุกวัน จากคุณ : คุณตัวเล็กตัวน้อย - [ 3 ส.ค. 50 14:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หวัดดีคับเฮียสิด..นั่นดิ มีเรื่องโม้มากเหลือเกิน จะพยายามให้จบวันนี้นะครับ งานยุ่งเหลือเกิน ตัวเล็กตัวน้อย.. ถ้ากินแล้วเมาคงไม่เหลือถึงเธอหรอกนะ ............................................................................................ ต้นทองหลางป่า เปลือกต้นมีร่องรอยถูกฉีกทึ้งจากสัตว์ และมีรอยถูกเจาะด้วยอะไรบางอย่าง.. ลุงภักตร์ บอกว่าถูกช้างเอางาฉีกและแทงเล่น จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 18:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมเลยเข้าไปตรวจสอบและพิจารณาเผื่อโชคดีเจองาช้างหักติดกับต้นไม้.. ซึ่งตามตำราเครื่องรางของขลัง เขาว่า เป็นของดี เรียกว่า "งาช้างกำหนัด" หรือ "งาช้างกำจัด" ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะเป็น "งาช้างกำหนัด" เพราะเป็นงาที่ได้จากช้างตกมันกำลังเกิดความกำหนัดมันในอารมณ์ เอางามาแท้งกับต้นไม้ระบายอารมณ์เปลี่ยว แต่ลองหาอยู่นานก็ไม่เจอ เจอแต่ "ขี้ช้างกำหนัด" ไม่รู้ใช้แทนกันได้รึป่าว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 18:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เถาวัลย์น้ำ เวลาอยู่ในป่าหาน้ำกินไม่ได้ เราก็หากินกับเถาวัลย์น้ำ นี่แหละคับ ตัดมันแล้วน้ำก็จะไหลออกมา "ปิ๊ดๆๆๆๆๆ" แล้วเราก็เอาปากดูด "จ๊วบๆๆๆๆ" 5555.. ล้อเล่นครับ... ไม่ต้องดูดก็ได้แค่เอาปากรองหรือหาอะไรมารองน้ำก็ใช้ได้แล้ว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 18:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 59 "ปอหูช้าง" ใบจะมีลักษณะกลม ปลายใบ 5 แฉก เป็นไม้เบิกนำชนิดหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ที่ชี้ให้เห็นว่าครั้งหนึ่งสภาพตรงนี้เคยถูกเปิดโล่งจากการบุกรุกแผ้วถางของมนุษย์ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ทายซิอะไรเอ่ย... เฉลย "กระสุนพระอินทร์" ค้าบ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 กระสุนพระอินทร์/กิ้งกือป้อม/กิ้งกือเม็ด ลักษณะเด่นของมันคือเวลามันมีอันตรายมันจะขดตัวได้กลมเลยแหละ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เคยมีน้องคนหนึ่งถามผมว่า "พี่..กิ้งกือมีกี่ขาอ่ะ" มึนเลยคับ..ไม่รู้มันกวนหรืออยากรู้จริงๆ ถ้าจะให้จับมันมานั่งนับขา ผมว่าลูกกะตาผมคงต้องหลุดออกมานอกเบ้าก่อนแน่ มีวิธีเดียวคือต้องนั่งนับปล้องของมันครับ. “กิ้งกือจะมี 4 ขาต่อปล้อง” ครับ แต่ก็อีกนั่นแหละเพราะกิ้งกือแต่ละตัวจะมีจำนวนขาไม่เท่ากัน ตอนมันเป็น “กิ้งกือทารก(เพิ่งออกจากไข่)” อยู่นั้น มันมีจำนวนเพียง 5 ถึง 6 ปล้องเท่านั้น ต่อจากนั้น พอมันโตขึ้น มันก็จะเพิ่มจำนวนปล้อง โดยปล้องใหม่จะแทรกตรงบริเวณปล้องรองสุดท้ายกับปล้องสุดท้าย นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราไม่สามารถบอกได้ว่า กิ้งกือทุกตัวมีจำนวนขาที่เท่ากันครับ... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพนี้ผมให้ชื่อว่า "การก่อเกิด" ผลของยางเสียนแทงรากที่งอกออกมาจากลงสู่ดิน และรอเวลาที่จะเติบโตเป็นต้นยางเสียนที่สูงใหญ่ต่อไป จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ต้นไม้ที่เห็นในภาพคือต้น "กฤษณา" ครับ ถูกพวกลักลอบเก็บของป่าถากเอาเปลือกไปจนเหลือแค่ครึ่งต้นแล้ว จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ต้นไม้บางต้นตาม้สนทางเดินป่าก็จะมีป้ายชื่อบอกไว้ด้วย ส่วนที่เห็นเป็นต้น "ตังตาบอด" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ทุกส่วนของต้น "ตังตาบอด" มีพิษทำให้ตาบอดได้คับ กิ่ง ใบ ดอก ผล ราก แม้กระทั่ง ลำต้น ถ้าเข้าตาทำให้ตาไม่บอดก็บวมค้าบ ...5555 ล้อเล่นครับ.. ของจริงคือยางของมันต่างหากเล่า ยางของมันมีพิษ เข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้ ในภาพคือ ผลของตังตาบอด จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อแกะเปลือกผลออกมา ก็จะเจอเมล็ดมีหน้าตาอย่างเนี้ยะ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อ้ายเจ้ากิ้งกือตัวกลมๆ ชื่อเพราะแหะ จากคุณ : วันพุธสีเขียว - [ 3 ส.ค. 50 19:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ^ ^ ^ หวัดดีคับยายวันตรู๊ด..จะเอาไปตั้งชื่อลูกหรือหลานก็ได้นะครับ ...................................................................... เอารากของต้นไม้มาให้ดูต้นอะไรไม่รู้ แต่อยากให้ดูว่า ดูแล้วมันเหมือนอะไร จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เดินมาได้ครึ่งทางก็เจอกับ ชะนีมงกุฏ อีกครอบครัวหนึ่งครับ คราวนี้เจอทั้งพ่อ แม่ลูกเลยครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 19:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เรายืนนิ่งอยู่กับที่จนแทบจะกลั้นหายใจ.. เพราะกลัวมันจะรู้ว่ามีพวกเราแอบมองอยู่ แล้วก็จะหนีไป... ..สมัยก่อน จะเอาลูกชะนี ต้องยิงแม่มันให้ร่วงลงมาครับ แล้วค่อยตามไปเก็บตรงที่แม่ชะนีร่วง ส่วนลูกน้อยของมันก็ยังคงกอดแน่นอยู่ที่อกแม่ไม่หนีไปไหน ...ใจร้ายมากเลย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เถาวัลย์ประหลาดอีกแล้ว.. จนปัญญาในการระบุชนิดจริงๆ คับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อ้างลืมภาพ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ภาพนี้ฝีมือพี่ดวง อีกแล้วครับท่าน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เถาว์วัลย์นี้มีชื่อว่า เครืองูเห่า ครับ ใบยอดอ่อนของมันกินได้ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กินเข้าไปแรกๆจะมีรสจืด.. เมื่อเคี้ยวจนแหลกสักครู่ก็จะมีรสเผ็ดครับ กินแทนพริกน่าจะดี จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 แล้วเราก็เดินออกจากป่ามาสู่ทุ่งหญ้า.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ทุ่งหญ้าในบริเวณนี้เกิดจากการจัดการให้เกิดทุ่งหญ้าโดยใช้ไฟเป็นปัจจัยในการทำให้เกิด เพื่อให้มีทุ่งหญ้าสำหรับใช้เป็นแหล่งอาหารของเก้งและกวาง รวมทั้งสัตว์กินพืชชนิดอื่นๆ ด้วย จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 20:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นหอคอยส่องสัตว์และหนองผักชีอยู่ตรงหน้าแล้วค้าบ ก่อนประกาศเป็นเขตอุทยาน... บริเวณนี้เคยมีคนเข้ามาอยู่อาศัยและปลูกผักชีฝรั่งเอาไว้กินด้วย.. ต่อมาภายหลังจากที่ได้ประกาศเป็นอุทยานฯ ก็ได้อพยพโยกย้ายผู้คนลงไปอยู่บริเวณตีนเขาข้างล่าง แต่ผักชีฝรั่งมิได้จากไปกับคนที่ปลูกมันด้วย... หากแต่มันยังคงเจริญงอกงามอยู่ตามริมหนอง บริเวณนี้จึงได้ชื่อว่า "หนองผักชี" จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สองสาวมรดกโลก รีบเดินนำหน้าคงเพราะอยากจะถึงหอดูสัตว์ไวๆ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 การรีบเดินมากเกินไปของพวกเรากลายเป็นการ "แหวกหญ้าให้เก้งตื่น" มีเก้งตัวหนึ่งกำลังกินดินโป่งอยู่ในบ่อดินโป่งข้างหน้า.. พอมันได้ยินเสียงคนเดินมา.. มันเลยตกใจวิ่งหนีจากไปเห็นแต่ก้นวับๆ แวมๆ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 82 พอเก้งน้อยจากไป.. พวกเราก็ยึดโป่งกินแทน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ร่องรอยเท้าของสารพัดสัตว์ที่ลงมากินดินโป่ง... (แต่ที่เห็นเท้านั่นไม่ใช่นะครับ) จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขี้หมาไน ครับ.. หมาไนจะมาป้วนเปี้ยนบริเวณนี้เพื่อคอยไล่ต้อนและจับสัตว์พวกเก้งและกวางเป็นอาหาร พี่ไพบูลย์บอกตอนกินอาหารมื้อเที่ยงภายหลังกลับจากเดินป่าว่า พบซากเก้งที่ถูกหมาไนฆ่าตายบริเวณริมหนองผักชีเป็นประจำ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กินดินโป่งกันจนอิ่มแล้วก็เดินไปหอคอยส่องสัตว์กันต่อ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คนอื่นๆ เดินนำหน้าไปกันหมดแล้วเหลือแต่ผมที่เดินก้มๆ เงยๆ หาร่องรอยของสัตว์ต่อไป.. แล้วก็เจอจนได้.... คนส่วนใหญ่จะเดินหลบบริเวณที่ดินเปียกแฉะ จึงเป็นโอกาสที่เราจะสามารถพบรอยเท้าสัตว์ในบริเวณนี้ง่าย เนื่องจากไม่โดนคนเดินเหยียบทับรอยซะก่อน "รอยเท้าเก้ง" ครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เดินต่อไปสักประมาณ 15 เมตรก็เจออีกรอย.. แต่คราวนี้เป็น "รอยเท้าหมาไน" ช่วงนี้หมาไน อาละวาดไล่กัดกินกวาง และเก้งบนเขาใหญ่เหลือเกิน ทำให้ทาง อุทยานฯ ต้องหามาตรการในการทำอะไรซักอย่างเพื่อควบคุมปริมาณของหมาไนไม่ให้มากไปกว่านี้ วิธีการจับหมาไนตัวผู้มาตอน ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตอนนี้เราขึ้นมาอยู่บนหอคอยส่องสัตว์หนองผักชี กันแล้วครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โป่งดินที่แวะไปเล็มๆ มาเมื่อครู่.. มองดีๆ จะเห็นว่า มีเก้งลงมากินดินโป่งด้วย... สงสัยจะเป็นตัวเดียวกับที่วิ่งหนีเราไปเมื่อตอนที่พวกเราเดินอยู่ในทุ่งหญ้า จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ฝีมือผม.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ฝีมือพี่ดวง... จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 92 พี่ดวงอีกแล้วครับ แบบมีกรอบ.. ถ่ายภายในหอคอยดูสัตว์มองผ่านช่องหน้าต่างส่องสัตว์ออกไป สวยดีครับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ภาพแอบถ่าย "เสือหลุมหลิมกำลังสอนสองสาวมรดกโลกดูนก" ฝีมือพี่ดวงอีกแล้วครับท่าน จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เหยื่อในการถ้ำมองของเรา... "นกตะขาบดง" กำลังเกาะยอดมามองหาเหยื่อที่เป็นแมลง จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 95 จบเรื่องราวของเส้นทางเดินป่า กม.33-หนองผีกชี ไว้แค่นี้พอนะครับ ความจริงยังมี เส้นทางเดินไปน้ำตกเหวนรกอีกนะเนี่ย... แต่ไม่ไหวแล้วคับ.. ไม่คิดเลยว่ามันจะมากมายขนาดนี้.. พอแค่นี้ก่อนล่ะกันครับ... วันหลังค่อยมาต่อ... บาย.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 3 ส.ค. 50 21:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อ้าว....จะรีบไปไหน นึกว่าจะมีโชว์  ทำหมันหมาไน....ซะอีก จากคุณ : madamepi - [ 4 ส.ค. 50 06:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 97 รูปเยอะมาก แถมคำบรรยายประกอบภาพก็ละเอียดยิบ เสริมความรู้ดีคับ อ่านซะจนเริ่มกลับไปทบทวนความรู้เดิมแระ คห.64 สงสัยจะเป็นต้นกฤษณา ต้นเดียวกับที่เคยไปเห็นเมื่อหลายปีก่อนโน้น นึกว่าจะโดนลักลอบตัดไปซะแล้ว แต่คงโชคดีว่าอยู่ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เลยเอาไปไม่ได้... หรือจะเป็นคนละต้นกันหว่า? จากคุณ : red bike - [ 4 ส.ค. 50 09:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณเสือหลุมหลิมค่ะ ทำกระทู้แต่ละกระทู้ต้องใช้เวลามากมายเหลือเกิน กระทู้อย่างนี้ต้องขอบคุณจริงๆ สาระดีๆเพียบ จากคุณ : แตนต่อย - [ 5 ส.ค. 50 23:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 99 หลิมจ๊วง กลับจากคลองโคนหรือยังฟระเนี่ย... จากคุณ : madamepi - [ 6 ส.ค. 50 08:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ^ ^ ^ กลับมาแล้วค้าบ ปร๋า.. แทบตายเหมือนกัน (เมา) ตูน red bull_ เส้นทางเดินป่า กม.33-หนองผักชี มีต้นกฤษณา อยู่หลายต้น ถ้าต้นเดิมที่ตูนเคยเห็นมีรอยคนเอามีดไปถากเปลือก ก็น่าจะเป็นต้นเดียวกันครับ หวัดดีคับป้าแตน_ คนอื่นทำ กท. อาจจะไม่นานครับ แต่ผมมันขี้โม้มากไปหน่อยก็เลยนานอ่ะคับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 7 ส.ค. 50 12:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 101 กระทู้มีสาระมาก  ขอชมเชย จากคุณ : วิ่งขวาแต่ช้ามาก - [ วันแม่แห่งชาติ 23:29:29 ]