 |
คิดถึงจัง . . . วังเวียง
คิ ด ถึ ง จั ง วั ง เ วี ย ง . . . สปป.ลาว
เป็นข้อมูลคร่าวๆนะครับ
ดูค่าใช้จ่ายกันนิ๊ดสนึงก่อน อัดตราแลกเปลี่ยน 1 บาท = 282 กีบ เมื่อวันที่ 13-07-2007 แลกคืนที่ท่าเสด็จฝั่งไทย 1 บาท = 300 กีบ (ขาดทุนกันไป) 1.) ค่ารถทัวร์ จาก กรุงเทพนั่งแบบสบายๆไปเลย 454 บาท 36 ที่นั่งนะ แน่นอนต้องคูณสองด้วยนิเพราะต้องนั่งขากลับด้วย . . .เว้นแต่ใครจะไม่กลับจะขออยู่เป็นเขยลาวก้ม่ายว่ากัน ( ไปกับรถทัวร์ของ บขส.999 สุวรรณภูมิ-หนองคาย ) http://www2.airportthai.co.th/airportnew/sun/transportation1.asp?lang=th&sub=Intercity_Bus
2.) ค่ารถ International Bus นั่งจากขนส่งหนองคาย-เวียงจันทน์ ราคา 55 บาท + ค่าล่วงเวลาอีก 5 บาท ( เพราะเป็นเที่ยวรอบ 7โมงเช้า )
บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดให้บริการรถโดยสารระหว่างไทย -ลาว http://www.transport.co.th/thai_lao_ticket48.html
3.) ค่าผ่านแดนฝั่งไทย ฟรี 4.) ค่าเหยียบแผ่นดิน ฝั่งลาว ไป-กลับ 10+10 บาท แค่นี้ก็ได้ไปอยู่ต่างประเทศแย้ว 5.) ค่ารถจัมโบ้ ( รถ3ล้อ ) 1หมื่น กีบ ( 35 บาท )เดินทางแถวๆเวียงจันทน์ คือไปแลกเงิน+ซื้อตั๋วรถไปวังเวียง+ซื้อซิมโทรศัพท์ 6.) ค่าซิม M Phone 200 บาท 7.) รถบัส จากเวียงจันทน์-วังเวียงอีก 212 บาท (60,000 กีบ) เป็นรถบัสนั่งสบายมีแอร์ 8.) ค่าที่พัก PHOUBANE GUEST HOUSE (พูพานเกสเฮ้าส์) ติดแม่น้ำซอง 150,000 กีบ 2คืนนะครับ ห้องแอร์ มีน้ำอุ่น (ประมาณ 532 บาท) 9.) ค่ายังชีพ เท่าที่จำได้น๊า -อาหารเช้าเป็นชุด 15,000 กีบ -กาแฟ 5,000 กีบ -น้ำเเปล่า 3,000 กีบ -เป๊บซี่ กระป๋อง 6,000 กีบ -กาแฟกระป๋อง 4,000 กีบ -แพนเค้ก (โรตี)10,000 กีบ ใส่ กล้วย+นม+ไข่+ช๊อคโกแลต -เฝอ + สปอนเซอร์ 12,000 กีบ (แฮะๆผมจำราคาแยกไม่ได้อะ) -เบยลาว กระป๋อง 16,000 กีบ -เบยลาว แก้ว( ขวด ) 10,000 กีบ ( เขาเรียก10พันกีบ ) -ขนมปังฝรั่งเศส 14,000 กีบ -อินเตอเน็ต 300 กีบ/min 10.) ค่าเข้าชมถ้ำจัง 10,000 กีบ +ค่าผ่านรีสอร์ทอีก 4,000 กีบ รวมๆแล้วผมหมดค่าใช้จ่ายไป 3พันกว่าบาทครับ
สิ่งที่ต้องมี 1.Passport ก่อนหมดอายุ 6 เดือน 2.คู่มือการผ่านแดนจากประเทศไทยไป สปป.ลาว (ข้อมูลจาก บริษัทขนส่ง จำกัด ) ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดหนองคายไปยังกำแพงนครเวียงจันทร์ สปป.ลาว สามารถใช้หลักฐาน คือ หนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ที่ออกให้โดยจังหวัดหนองคาย โดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ประเภทหนังสือที่ใช้ในการเดินทางข้ามแดน 1.1 หนังสือผ่านแดน (Border Pass) หรือบัตรปี สำหรับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตจังหวัด หนองคาย ค่าธรรมเนียมฉบับละ 200 บาท 1.2 หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) หรือบัตรชั่วคราว สำหรับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย มีภูมิลำเนาในประเทศไทย ค่าธรรมเนียมฉบับละ 30 บาท 2. การขอออกหนังสือผ่านแดนตามข้อ 1. จังหวัดหนองคายเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ ศาลากลางจังหวัด เวลา 8.30 - 16.30 น. 3. เอกสารและหลักฐานที่ใช้ในการจัดทำ 3.1 ภาพถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ภาพ สวมชุดสุภาพ ไม่ใส่แว่นดำ 3.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรอื่นที่จังหวัดกำหนดในข้อ 4 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องด้วยลายมือที่อ่าน ออก 3.3 บุคคลผู้มีสัญชาติไทยอายุ 12-15 ปีให้ใช้ทะเบียนบ้านหรือสูติบัตรแทนบัตรได้ บิดาหรือมารดาต้องยินยอม และการ เดินทางต้องอยู่ในความควบคุมของบิดาหรือมารดา 3.4 กรณีขอทำบัตรผ่านแดน (บัตรปี) ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านเพิ่มเติมด้วย 4. ขั้นตอนการจัดทำบัตรผ่านแดน หรือหนังสือผ่านชั่วคราว 4.1 เขียนคำร้องคนละ 1 แผ่น ตามแบบที่จังหวัดหนองคาย ส่งให้เจ้าหน้าที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ใช้เวลา 15 นาที / ราย (หนังสือผ่านแดนชั่วคราวใช้ในเขตกำแพงนครเวียงจันทน์ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน)
. . .ขั้นตอนยื่นเรื่องผ่านแดน เข้า-ออก หนองคาย-เวียงจันทน์ 1. ที่สะพานมิตรภาพฝั่งไทย กรอกเอกสาร บัตรผ่าน เข้า-ออก แนบไปพร้อมกับ Passport เจ้าหน้าที่ตรวจเอการ ประทับตรา ส่งคืน ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 2.ฝั่ง สปป.ลาว กรอกเอกสาร บัตรผ่าน เข้า-ออก แนบไปพร้อมกับ Passport เจ้าหน้าที่ตรวจเอการ ประทับตรา ส่งคืน มีค่าใช้จ่ายครับ เข้า 10 บาท ออก อีก 10 บาท ราคาไม่แน่นอนนะครับ
ข้อแนะนำนิดหน่อยนะครับ 1.ควรจะแลกเงินกีบไปเท่าที่จะใช้ให้หมดในทริปนั้น 2.ถ้าใช้ไม่หมดควรจะหาแลกจากฝั่งลาวที่ตลาดเช้าแถวๆถ้ารถหรือที่ธนาคาร(ธนาคารหยุดเสาร์-อาทิตย์)เพราะฝั่งไทยตามธนาคารไม่รับแลกจ้า ผมต้องนั่งรถเครื่องไปแลกที่ท่าเสด็จในอัตตราแลก 300กีบต่อ1 บาท ขาดทุนไปพอสมควร 3.หากระเป๋าคาดเอวที่มีซิปสักใบไว้ใส่ กระเป๋าสตาค์ โทรศัพท์ กล้อง สะดวกมาเวลาหยิบใช้ ป้องกันการหลงลืม+หล่นหายได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลทริปคร่าๆครีาบ
...วังเวียง อยู่ห่างจากเวียงจันทน์มาทางทิศเหนือประมาณ 160 กม. บรรยากาศคล้ายๆ อ.ปาย ใน
จ.แม่ฮ่องสอน แต่ว่าภูมิศาสตร์คล้ายคลึงกับ กุ้นหลินในประเทศจีน งาม ๆ ๆ ๆ ภูเขาที่นี้จะลักษณะสูงเสียด
ฟ้า จะมีเมฆปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี เห็นแค่นี้ก็เป็นสุขใจแล้วช่ายปะ นี่ถ้ามาคนเดียวรับรองลืมๆเรื่องรกๆ
สมอง ถ้ามา 2 คนโอ้วโรแมนติกสุดๆ ถ้ามา 3 คนละ ก้เฮฮาปาจิงโก๊ะ ตลอดทริปนะสิ ...ระยะทางแค่นี้ดูเหมือนไม่ไกลเท่าไหร่ แต๊ว่า ขับรถบนเขานะ จะผ่านแค่ 3 โค้งเท่านั้น คือ โค้งซ้าย
โค้งขวา และโค้งอันตราย
...ทริปนี้อาจจะไม่ขอลุยเท่าไหร่ ขอเป็นทริปแบบเปิดประตูหัวใจสู่ วังเวียงก่อน หรือใครจะลุยเลยก็สุดแท้
แต่กำลังจ๊ะ มีข้อมูลแนะนำอยู่แล้น
...กลางคืน ถ้าฟ้าเปิด ก็นอนนับดาว นับสัก 2007 ดวงก็พอแล้ว แล้วค่อยเข้านอนหลับ ฝันหวาน ๆ ๆ
(แต่ไม่ได้นับซ้ากคืน )
...ไปช่วงไหนดีหว่า ผมว่าวังเวียงไปช่วงหน้าฝนนี้แหละกำลังดี อาจจะเจอฝนนะ แต่คงไม่เจอทั้งวัน อาจ
จะตกเป็นบางช่วงเดี๋ยวก็หยุด แต่พอหยุดแล้วนี่แหละความสวยงามมาเยือนเลยน้ำเต็มตลิ่ง ช่วงนี้จะได้เห็น
นาข้าวกำลังตั้งท้องด้วยนะ แค่นึกก็สวรรค์แล้วจิงปะ อีกอย่างแถวๆนั้นก้ยังเป็นธรรมชาติอยู่มากยิ่งฝนตกก็ยิ่ง
สวย ป่าจะเขียวๆ สดชื่น ได้สูดดมเอายอดหญ้าเขาปอดเต็มๆ หอมเชียวละ ดีใจเหมือนปลากระดี่ได้ฝนเลยละ
สิบอกไห่
. . . ติดตาม รีวิวตอน 1 ได้ที่นี่คร๊าบ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=boykrub&month=28-07-2007&group=7&gblog=1
. . . ติดตาม รีวิวตอน 2 ได้ที่นี่คร๊าบ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=boykrub&month=31-07-2007&group=7&gblog=2
. . . ภาพประกอบ
จากคุณ :
boybangplee
- [
3 ส.ค. 50 15:37:29
]
|
|
|
|
|