ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าขับรถไปถึง อ.อุ้มผาง จะเวียนหัวหน่อยคับ โค้งเยอะมาก อันดับ 2 รองจากปายมั้ง ไม่แน่ใจคับ ผมเคยไปแต่ว่าซื้อ เป็นpackage นะคับ ล่องแพยาง ไปประมาณ 3ชม.ชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง สวยมาก แพไปไม่เร็วนะคับ ไปช้าๆสบายๆ หาเครื่องดื่มไปด้วยระหว่างทางล่องแพก็ได้ ผ่าน น้ำตกทีลอจ่อ สวยมั่กๆ พอล่องแพเสร็จ ก็ขึ้นรถ 4x 4 (บ.เขาจัดให้)ผมไม่แน่ใจว่าช่วงเดือน พ.ย. นี่เขาปิดป่ารึป่าว ถ้าปิดก็ต้องเดินอะคับ ไกลหน่อยเข้าสู่อุทยาน พักค้างคืนที่อุทยาน มีที่พักกางเต็นท์ ในบริเวณที่ทำการอุทยาน มีห้องน้ำด้วย(จะให้เหมือนห้องน้ำในห้างคงไม่ได้นะคับเพราะอยู่ในป่าแล้ว) ค้าง 1 คืน ตื่นเช้า ก็เดินเท้าเข้าสู่ตัวน้ำตกคับ ไม่ไกลมากนะ เดินเท้าประมาณ 45นาที ไม่เหนื่อยคับ ก็จะเจอน้ำตก เมื่อเห็นน้ำตกแล้ว ความเหนื่อยมันหายไปไหนหมดไม่รู้คับ สวยมากจิงๆ คุ้มคับ ตอนนั้น ซื้อpackage ประมาณ 2500 อ่ะคับ รวมทุกอย่าง อาหาร เต้นท์ สต๊าฟที่คุมแพยาง รถ 4x4 ไป-กลับ ปล.เอาเสื้อกันหนาวตัวหนาๆไปด้วยนะคับ หมวกอุ่นด้วยยิ่งดี เพราะอากาศเย็นมาก จากคุณ : .+*^*+.ริวซากิ.+*^*+. - [ 11 ส.ค. 50 01:20:44 A:203.113.50.13 X: TicketID:095976 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าขับรถไปเตรียมถุงใส่อ้วกด้วยค่ะ ยิ่งกว่าปาย พอเข้าเขตทีลอซู เข้าได้เฉพาะรถกระบะน่ะค่ะ และเตีอนไว้อย่านั่งกระบะหลังเดี๋ยวสีผมจะเปี้ยนไป๋ จากคุณ : ///// ญิ้งญิ๋ง//// - [ 11 ส.ค. 50 01:56:04 A:210.246.74.29 X: TicketID:152490 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โดยส่วนใหญ่แล้วเดือน พ.ย. จะให้รถขึ้นไปได้แล้วไม่ต้องเดินไกลครับ ยังไงก็ตรวจสอบกับทางรีสอร์ทที่เราจะไปพักก็ได้ครับว่าจะต้องเดินขึ้นหรือป่าว จากคุณ : LekStudio - [ 11 ส.ค. 50 02:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แพคเกตประมาณ 1500-1800 บ.เดินทางไปอุ้มผางเอง ตอนเราไปขับรถไปเอง จากแม่สอด - อุ้มผาง เราใช้เวลา 3 ชม กับระยะทาง 160 กม. ขากลับเร็วกว่าครึ่ง ชม. ไปถึงรีสอร์ท กินข้าวเที่ยงก่อน เก็บของที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ เช่นมือถือ แล้วเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นต้องใช้ จอดรถทิ้งไว้ที่รีสอร์ท ขึ้นรถของทางรีสอร์ทไปลงแพยาง ล่องแพประมาณ 3 ชม. ฝั่งทั้ง2ข้างสวยมาก อากาศดีสุด ๆ เราเอาเครื่องดื่มไปด้วย 1 แพค หมดไปโดยไม่รู้ตัว ล่องแพไปเอาเท้าจุ่มน้ำไปมีความสุขมาก อ้อ ลืมๆๆบอก สัมภาระส่วนใหญ่ หรือทั้งหมด จะไปกับรถยนต์ และรถยนต์จะไปรอเราขึ้นฝั่งอีกที่ ไม่ต้องกลัวจะหาย เค้าใส่ถุงดำ กันฝุ่นให้เรียบร้อย ต่อๆๆๆ ...... แพ่ 1 ลำ นั้งได้ประมาณ 6-8 คน ถ้าไกด์ดีๆเค้าจะชี้ให้ดูของสวยงามๆไปตลอดทาง ผ่านน้ำตก ทีลอจอ ผ่านธารน้ำร้อน มีเวลาลงไปแช่ด้วย หรือจะเข้าห้องน้ำที่นี้ก็มี แต่เราผู้ชายทั้งนั้นเลยแวะที่ใหนก็ได้ตลอดทาง จนไปถึง ผาเลือด หรือท่าทรายไม่รู้จำไม่ได้แล้ว ก็ขึ้นจากแพยางและขึ้นรถโขยกไป โขยกมาอีกประมาณ 45 นาที คุณผู้หญิงควรนั้งหน้าเพราะฝุ่นเยอะมาก แล้วก็ถึงจุดกลางเต๊นท์ของศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ทางรีสอร์ ( บ.ทัวร์ ) เค้าจะจัดการกลางเต๊นท์ไว้ให้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ติดๆ กับลำห้วย พวกเราจัดการอาบน้ำที่ลำห้วยนั้นแระ น้ำเย็นมากๆ เอาเบียร์ ลงไปแช่ ขึ้นมาเย็นเจี๊ยบเลยแระ กินข้าวเย็น อร่อยดี ค่ำๆก็นั้งดื่มกันนิด หน่อย หน้าเต๊นท์ นั้งฟังเสียงน้ำใหล เสียงป่า เพลินดีเหมือนกัน เช้ามาเค้าก็มีอาหารเช้าเป็นข้าวต้ม ตั้งหม้อให้แถวๆหน้าเต๊นท์เลย ตักกินกันเอาเอง อิ่มหน่ำดีแล้วก็เดินไปน้ำตก เค้าจะห้ามเอาอาหาร และเครื่องดื่มเข้าไปนะครับ เดินประมาณ 2 กว่าๆมั๊งครับ แต่ไม่ทัน เหนื่อยก็ถึงแล้ว ตอนเราไปยังไม่ได้ทำทางเดินใหม่ แต่ได้ข่าวว่า เค้าทำทางเดินเป็นปูนแล้ว ( ไม่น่าทำเลย ไม่ได้อารมณ์เดินป่า ) ก็คงเดินสะดวกสบายขึ้น น้ำตกสวยมากสมกับที่ติดอันดับโลก น้ำเย็นจัด เวลาเดินบนก้อนหินระวังลื่นนะครับ ก่อนเที่ยงก็กลับ ลงมาที่เต๊นท์ กินข้าวเที่ยง เก็บของ ขึ้นรถเดินทางกลับอุ้มผาง ระหว่างทางก็แวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวของอุ้มผาง มาตลอด ทาง แล้วก็มาผักผ่อนกันที่รีสอร์ท ชิวๆ ....เช้าอีกวันก็ไปดูหมอก ที่ดอยหัวหมด ( ตื่นเช้าหน่อย) กลับมาซื้อของฝากแล้วก็กลับบ้าน ครับป๋มมมมมม จากคุณ : ทะเลทะเล - [ 11 ส.ค. 50 08:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เส้นทางที่อุ้มผางเราว่าวิบากกว่าที่แม่ฮ่องสอนโขเลย แม่ฮ่องสอนเส้นทางไกลกว่า แต่อุ้มผางสูงแล้วก็ชันมาก ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แค่164กม.ขับอย่างต่ำไม่น้อยกว่า3ชม. ปกติเดือนพ.ย.เข้าเปิดให้รถเข้าได้แล้วนะ แต่ก็แล้วแต่โอกาสด้วย เราไปต้นเดือนธ.ค.เตรียมตัวเตรียมรถโฟร์วิวไปด้วยพร้อมตะลุยเต็มที่ แต่ปรากฎว่าไปถึงมีฝนพรำๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าสองสามวันที่ผ่านมาฝนตกหนักมาก เค้าไม่ห้ามถ้าเราจะเอารถเข้าไป แต่ก็เตือนว่าอย่าดีกว่า เพราะรถที่เข้าไปช่วง2-3วันที่ผ่านมานี้ 80%ต้องติดหล่ม ตกหลุม หม้อน้ำแตก ค้างเติ้งอยู่ในป่า ประมาณว่าถ้ารถแรงไม่พอ คนขับฝีมือไม่ถึง ก็ไม่ควรขับเข้าไป บ้านเราตัดสินใจกันอยู่ตั้งนานว่าเอาไงดี ก็ว่าไม่เอารถไปเสี่ยงดีกว่า ซื้อแพจเกจของรีสอร์ทคนละ2500 ได้ทุกอย่างแบบที่คุณริวซากิบอกไว้ใน#1 แต่ของเราเค้าไม่รับปากว่ารถโฟร์วิวของทางรีสอร์ทจะไปได้แค่ไหน แต่ก็จะพยายาม เค้าแถมห้องพักที่รีสอร์ทให้กรุ๊ปเราอีก1คืน เพราะวันกลับเรากลัวกันว่าจะกลับออกมาจากอุทยานเย็นแล้วจะขับรถออกจากอุ้มผางไม่รอด เพราะว่ากรุ๊ปเรามีพ่อกับแม่เราด้วย อาจเดินไม่ไหว(แต่พ่อแม่ผ่านภูกระดึงมาแล้วนะคะ ^_^) สิ่งที่ทำให้กังวลมากขึ้นไปอีกคือ คืนแรกที่ค้างที่รีสอร์ท ประมาณ2ทุ่มมีกรุ๊ปที่มาจากระยอง 21คน กลับมาจากข้างในอุทยาน สภาพแต่ละคนสะบักสะบอมเหมือนไปออกรบเลย ฟังเค้าเล่าประสบการณ์ตอนเดินเข้าแล้วเริ่มวิตก เค้ามาถึงเมื่อวาน5โมงกว่า เค้าบอกตอนเดินไปก็เริ่มมืดแล้ว 21คนมีไฟฉาย 2กระบอก เดินปิดหัวปิดท้าย ทุลักทุเล กว่าจะเข้าไปถึงที่กางเต้นท์ 5ทุ่ม ฟังแล้วแทบถอดใจ แต่ก็ยังดีที่พรุ่งนี้เราจะเดินทางตอนเช้ากัน เรื่องลำบากคงน้อยกว่ากรุ๊ประยองเยอะอ่ะ วันรุ่งขึ้นจอดรถไว้ที่รีสอร์ท ไกด์ที่นำไปเก่งมากค่ะ เราเรียกเค้าว่าคุณพี่แท๊กซี่(เพราะแกเหมือนนักร้องนำวงแท๊กซี่ หัวโล้น) พี่แกคล่องมากเลย ล่องไปจนถึงท่าทราย ขึ้นฝั่ง พี่โล้นแกบอกให้รอรถของรีสอร์ทที่จะมารับเราก่อน ตอนนี้รถกำลังมาจากอุทยาน กรุ๊ปอื่นๆที่มาพร้อมหรือหลังเราก็เริ่มออกเดินบ้าง นั่งรถบ้าง แต่ของเรารออยู่ประมาณ1ชม.จนไกด์บอกว่าให้เราไปกันเลย เพราะคนขับรถโทรมาบอกว่ารถมารับไม่ได้แล้ว หม้อน้ำแตกอยู่ในป่านั่นแหละ พ่อเราบ่นใหญ่เลยว่าไหนบอกรวมรถด้วย เราเข้าใจเค้านะคะ เค้าไม่ได้โกงเราหรอก เดินไปนิดเดียวก็ต้องหยุด เพราะข้างหน้ามีคนมุงอะไรกันเต็มเลย เข้าไปดูบ้าง ที่แท้มีโฟร์วิวคันนึงติดหลุมอยู่ กำลังพยายามเร่งเครื่องใหญ่เลย แต่ล้อมันฟรีแล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้ คนเอาใจช่วยกันใหญ่ สุดท้ายมีรถอีกคันมาช่วยดึง เราไม่ได้ดูจนจบว่าตกลงขึ้นได้หรือเปล่า รู้แต่ว่าเราคิดถูกแล้วที่ไม่ได้เอารถเข้ามา เดินไปยังไม่ถึงสิบนาทีเลย เจอทางชันเขา พ่อเรา(57)เหนื่อยมากจนทนไม่ไหว เพราะไม่ใช่แค่เดินขึ้นเขาเหมือนภูกระดึง แต่ที่นี่มันเละมาก ถนนไม่เป็นถนนเลย เป็นทะเลโคลน+ลูกรังทั้งนั้น ก็เลยคิดว่าพ่อคงไม่ไหวแน่ เลยหารถที่ผ่านฝากพ่อไปด้วย กว่าจะได้ก็นานเหมือนกัน เพราะแต่ละคันคนก็เต็มๆทั้งนั้น ขอบคุณรถนครนายกใจดีคันนั้นด้วยค่ะ ฝากพ่อกะแม่ไปแล้วก็โล่งใจขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง เหลือเราแค่4คน เดินไปไม่ถึงครึ่งชม.พี่สาวเราก็ชิ่งไปโบกรถอุตรดิดถ์ ทั้งๆที่เมื่อสิบนาทีก่อนบอกว่าไหว สบายมาก 555 นี่ขนาดชีเคยเดินเขาที่อินเดียว เนปาลมาแล้วนะ มาที่นี่ยังขอยอมเลย เหลืออีก3คน ไกด์อีก1 พี่แท๊กซี่แกเก่งมากเลยค่ะ เดินเหมือนเดินพื้นดินธรรมดาๆ แต่ที่จริงมันคือโคลนแบบที่เหยียบลงไปแล้ว กว่าจะชักขาขึ้นมาได้นี่ลำบากสุดๆ พี่แท๊กซี่แกใส่รองเท้าแตะ(แบบaddaอ่ะ) ไม่น่าเชื่อว่าพี่แกจะคล่องได้ขนาดนี้ เราเดินไปล้มไป เพราะเราหลักไม่ค่อยดีอยู่แล้ว มันลื่นมากด้วย พอคนนั้นล้มที อีกสองสามคนก็เข้าไปช่วยดึง เหนื่อยมาก แทบขาดใจ ถามพี่แท๊กซี่ตลอดทาง ถึงหรือยังๆๆ พี่แกก็เนียนๆ ใกล้แล้วๆ บอกว่าใกล้มาตั้งแต่ชม.แรก 55 ระหว่างเดินไปตลอดทางเห็นรถจอดเสียอยู่เป็นระยะๆ เจอรถรีสอร์ทเราด้วย จอดหม้อน้ำแตกอยู่ในหลุ่ม เดินๆไปถึงช่วงเป็นลูกรังก็ค่อยยังชั่วหน่อย แป๊ปๆ กลับมาเป็นโคลนอีกแล้ว เฮ้อ โครตตตตตเหนื่อยเลย ที่สุดในชีวิตแล้ว แล้วก็เดินไปเห็นรถกระบะคันนึงถูกทิ้งค้างเติ้งอยู่บนสะพาน(เป็นสะพานที่เอาท่อนซุง2ท่อนมาวางไว้เพื่อให้รถผ่านโตรกนั้น) กรุ๊ปเราก็อ้าว แล้วจะไปไง(ฟะ) จอดขวางอยู่เต็มๆเลย พอมองไปที่ล้อแล้วเสียวแทน ล้อหน้าด้านซ้ายตกซุงไปแล้ว -_-" ไกด์ไปด้ายขวาของตัวรถ ให้ค่อยๆเหยียบซุงด้านขวาแล้วเกาะรถให้แน่ๆ ค่อยๆไปทีละคน เรากระดึ๊บๆแล้วก็ไปลื่นเพราะโคลนเกาะรองเท้าจนถึงเข่าเต็มไปหมด เราคว้ากระจกข้างรถแน่เลย เกือบไปแล้ว น้ำตาไหลเลย กลัวมาก รองเท้าเราไม่สนแล้ว แทบจะโยนทิ้ง มันทำให้เราขึ้นจากโคลนได้ยากมากขึ้นไปอีก แต่พอถึงช่วงที่เป็นลูกรัง มันช่วยเราได้มาก เพราะไม่ใส่ก็เจ็บเท้าน่าดู พี่แท๊กซี่ชี้ให้ดูเสาธงชาติไทย ถึงแล้วๆๆๆๆ ดีใจมากๆ ในที่สุด 4ชม.พอดิบพอดี แต่เป็น4ชม.ที่ทรมาน เหนื่อย และโหดสุดๆแล้ว เราไม่เคยบ่นให้กับภูกระดึง เพราะเมื่อมาเจอทีลอซูทริปนั้นเข้าไป ภูกระดึงกลายเป็นเด็กๆ(สำหรับเรา)ไปเลย พ่อแม่ พี่สาวมาถึงตั้งนานแล้ว รอเราลงไปล้างที่ลำธารตรงที่กางเต้นท์ก่อน พักเหนื่อยแล้วถึงเดินไปน้ำตกกันต่อ ขอให้จขกท.โชคดีไม่เจอฝนนะคะ เพราะถ้าเจอฝน(หลงฤดู)แบบเรา มันก็เหนื่อยขึ้นไปอีกมากกกกกกกกกกกกกกก แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 50 12:54:12 จากคุณ : bas (Bas) - [ 11 ส.ค. 50 12:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากมากสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ อบอุ่นกับความมีน้ำใจจริงๆๆคะ ยังไงจะเข้ามาดูกระทู้เรื่อยๆๆนะคะ เผื่อพี่ๆน้องๆท่านไหนมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม ขอบคุณจากใจคะ แล้วสุขสันต์วันแม่นะคะพี่น้อง จากคุณ : เจี๊ยบจัง - [ 11 ส.ค. 50 14:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมไปมาเมื่อตอนต้นปีนี่เองครับ ขับรถเข้าไปเองเลยสะใจมากที่ไปถึง ระหว่างทางเจอฝนตกหนักอีกแล้วทางมันน่าอ้วกจริงจริงครับ พอไปถึงโดยไม่ตกเขาตายผมก็เลยสะใจมากมาก ผมอยากไปตั้งนานแล้วครับ จากความเห็นของผม ผมแนะนำว่าไปกับทัวร์ดีกว่าครับ สะดวกกว่ามากมาก ขับรถไปจอดแม่สอดแล้วให้รีสอทร์มารับดีกว่าครับ นั่งแพยางชมธรรมชาติ แจ่มมากมากครับ  ระหว่างไปอุ้งผางจะผ่านถนนลอยฟ้าผมอยากให้ลงไปดูตรงป้ายที่เขียนบอกชื่อถนนลอยฟ้าครับ แล้วคุณจะขำก๊าก ลองไปดูครับ ผมกับเพื่อนขำกันจนปวดท้องเลยครับ อีกอย่างนึงตอนขึ้นจากแพมาต่อรถเข้านํ้าตก เอาผ้าชุบนํ้าขึ้นรถไปด้วยนะครับ ฝุ่นมันเยอะจริงจริงครับ หัวแดงกันแน่แน่ จากคุณ : ไกด์เถื่อน - [ วันแม่แห่งชาติ 00:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราไปมาเมื่อต้นเดือนพยปีที่แล้วนะ แต่คนละอารมณ์กับคุณๆ ข้างบนเลย เพราะว่าทริปนี้เป็นอีกทริปที่เกือบจะสบายที่สุดในชีวิตแล้ว(นอกจากนอนป่า) เพราะปกติเราเที่ยว backpack ตลอด แต่คราวนี้ซื้อเป็นแพคเกจทัวร์ซึ่งรีสอร์ทจัดการให้หมดทุกอย่าง ราคาแพคเกจเราแพงกว่านิดหน่อยเพราะว่านอนรีสอร์ทสองคืน นอนอุทยานอีกหนึ่งคืน เริ่มต้นเดินทาง.. คุณป้าเราอายุเกือบๆ หกสิบกับเพื่อนๆ อยากไปเที่ยวทีลอซูกันเลยเหมารถตู้จากกทมไป ซึ่งออกเดินทางกลางวันเพื่อความปลอดภัย(กลัวคนขับหลับใน)เพราะทางไปอุ้มผางอันตรายกว่าแม่ฮ่องสอนมาก - เส้นนี้รถประจำทางวิ่งไม่ได้อ่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณสิบชั่วโมงก็ถึง (ทั้งหมดมี 1219 โค้ง) ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านผู้อพยพด้วย เป็นเขตพื้นที่หวงห้ามห้ามเข้านะคะ จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หมู่บ้านที่บอกคะ จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เส้นทางก็คดเคี้ยว.. แล้วก็อันตรายมากสำหรับคนที่ไม่ชำนาญทางถ้าคุณขับกลางคืน ระหว่างทางอาจจะได้เจอเพื่อนร่วมทางแบบนี้ จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เส้นทางที่ล่องแพก็จะเป็นประมาณนี้คะ จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำตกระหว่างทาง เช่น นี่คือน้ำตกสายรุ้ง จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ระหว่างทางเค้าจะมีแวะพักให้นะคะ ลงมาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย ตรงหน่วยของอุทยาน มีทางน้ำร้อนขนาดที่ต้มไข่ได้ ซื้อของชาวบ้านที่มาขาย เสร็จแล้วกลับมาล่องแพต่อ พอขึ้นจากแพก็รับประทานอาหารกลางวันง่ายๆ เป็นข้าวกล่อง แล้วรถของรีสอร์ทต่างๆ ก็จะมารับพาไปที่จุดตั้งแค้มป์ของอุทยาน จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากนั้นคุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะเดินไปชมน้ำตกตอนบ่ายเลย หรือว่าจะรอไปชมตอนเช้า ซึ่งปกติรีสอร์ทจะให้เลือกนะคะเพราะต้องเสียค่าเข้าอุทยาน แต่เราขอไปถ่ายรูปช่วงบ่ายวันนั้นและวันรุ่งขึ้นอีกวัน ซึ่งจากจุดตั้งแค้มป์ไปที่น้ำตกก็ไม่ไกลนะคะ คุณป้าเราเดินเรื่อยๆ ก็ครึ่งชั่วโมงแค่นันเอง น้ำตกทีลอซู (ภาพนี้ถ่ายจากชั้นบนจริงๆ แล้วลงจากนี้มีอีกชั้นนะคะ) จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับนอนป่าก็ไม่ลำบากมาก.. ถ้าไม่ชินกับการนอนพื้นดินที่มีแค่ผ้าปู ก็ควรจะหาเบาะลมไป นอกจากนั้นควรนำไฟฉายไปด้วย แต่ทางรีสอร์ทก็เตรียมเทียนไขไว้ให้ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยตลอด (อุ่นใจ) แต่ที่พลาดไปอีกอย่างคือ เราขอแนะนำให้พกพระไปด้วย (พูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นอ่ะ) พอตอนเช้าเราเข้าไปดูน้ำตกอีกรอบกับคุณป้า ส่วนเพื่อนๆ คุณป้าก็เดินเล่นถ่ายรูป หลังจากนั้นรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ รีสอร์ทก็พาไปดูสวนทานตะวัน ซื้อส้มจากไร่ (อร่อยมากๆ ) แวะถ้ำ เสร็จแล้วก็กลับมาที่รีสอร์ท ทานข้าวเย็นแล้วก็ไปชมพระอาทิตย์ตก พอรุ่งเช้าก็ตื่นตีห้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกรอบแล้วก็ไปเดินตลาด หลังจากนั้นก็รับประทานอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางกลับนะคะ ps. เอารูปมาฝากนะคะประกอบการตัดสินใจ.. เพราะความจริงแล้วธรรมชาติสวยกว่าที่เห็นในรูปมากๆ เชื่อได้ว่าถ้าไม่ไปตอนหน้าฝนละก็.. ความลำบากที่เค้าร่ำลือกันคุณจะไม่ได้สัมผัสเลย ขนาดเส้นทางจากที่ขึ้นแพมายังอุทยาน พี่คนขับบอกว่าถ้าฝุ่นจะเยอะมากถ้าฝนไม่ตกเพราะว่าเป็นดินแดงไปตลอดทาง แต่ถ้าฝนตกก็จะกลายเป็นหล่ม แต่รีสอร์ทที่ซื้อทัวร์ไปสุดยอดมากๆ พี่ที่เป็นไกด์มีแม้กระทั่งหน้ากากกันฝุ่นแบบที่หมอผ่าตัดใช้ แถมสัมภาระทั้งหมดที่แบกมายังมีผ้าใบคลุมกันให้อีก บริการสุดยอดจริงๆ อ่ะ ภาพนี้พระอาทิตย์ตกคะ จากคุณ : ยูคุง - [ 13 ส.ค. 50 04:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมไปมาน่าจะสิบปีเหนจะได้ครับ ไม่แน่ใจ เด็กมากๆ นั่งอ้วกแตกเมารถอย่างเดียว แต่ขนาดตอนเด็กๆอย่างนั้นยังจำได้ว่าสวยมากๆ (ทางล่องแก่งอะนะ) มีเสียงลิงร้อง นกร้อง สองฝั่งของหน้าผา ไม่รุตอนนี้เปนยังไงมั่ง ไปช่วงที่ทีลอซูเพิ่งถล่มใหม่ๆอะครับ ความสวยเลยลดลงไปเยอะมากๆ  ตอนนี้อยากไปมากๆ ถ้ามีใครจะไป แล้วไม่รังเกียจคนตัวดำๆอย่างผม (ไม่สกปรกนะฮะ) จะขอติดรถ แล้วก้อขอแชร์ด้วยคนครับ เพราะอยากจะ แต่ไปคนเดียว ไม่รุจะไปยังไง ปล.ผมอยู่ กทม. (ติดรถไปด้วยคนจิ Y Y) แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 50 23:06:19 จากคุณ : self n sulf - [ 15 ส.ค. 50 23:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จะไป พย นี้เหมือนกันเลย แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเดินทางไปยังไง ไปด้วยกันมั้ยค่ะ คุณ ยูคุง ถ่ายรูปสวยจังเลย เห็นแล้วยิ่งอยากไป จากคุณ : tj (cereal bar) - [ 17 ส.ค. 50 11:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ่ายรูปได้สวยมากค่ะ  อยากไปเที่ยวนำตกทีลอซูค่ะ เข้ามาดูรูปที่เพื่อน ๆ ชาว BP โพสหลายครั้งแล้ว  แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเลย จากคุณ : TwAin (TwAin) - [ 27 ส.ค. 50 16:23:40 ]