ความคิดเห็นที่ 1 ศึกษาหาข้อมูลอยู่นาน ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าไปไหนดี ทำไมประเทศออสเตรเลียมันถึงกว้างใหญ่ไพศาล และดูน่าเที่ยวไปเสียหมด สุดท้ายก็เลือกเอาง่าย ๆ ได้มา 3 ที่ คือ Sydney ซึ่งมีเพื่อนอยู่ ก็คิดว่าคงพอเกาะอาศัยเพื่อนได้, Tasmania เพื่อนร่วมงานคนออสเตรเลียบอกว่า สวยมากกกก ควรไป และ melbourne เพราะไหน ๆ ค่าเครื่องบินก็เท่ากัน จะบินจาก tasmania ไป Sydney อีกทำไม พอไปบอกเพื่อนชาวออสซี่ว่าตัดสินใจไปตามนี้ มันดันหาว่า เราบ้า ไป Tasmania ทำไมตอนหน้าหนาว อ้าว !!! ก็บอกให้ฉันไปเอง ไหงกลับคำซะงั้น แต่ตัดสินใจแล้วไม่คืนคำ (คือ กลับตัวไม่ทันต่างหาก) ทริปเราก็เลยไปแบบนี้ โดยอยู่แต่ละที่ประมาณ 3 วัน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 12:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไม่ทันไป แววงบบานปลายเริ่มฉาย ก็ไอ้ตั๋วเครื่องบินดันราคาแพงซะงั้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น TG ก็มีโปรโมชั่น 23000 บาท all in แต่ใช้กับวันที่เราไปไม่ได้ สุดท้ายเราจ่ายไป 32000 บาท เฮ้อ ใครน้า บอกว่าค่าตั๋วไปออสเตรเลียมันถูก ไม่อยากจะเชื่อเลย จะเลื่อนวันก็ไม่ได้เดี๋ยวนายไม่ให้ลา (เป็นลูกจ้างเค้าก็เงี่ย) ก่อนไปเพื่อนที่ไปด้วยเปลี่ยนใจอาทิตย์สุดท้าย ว่าขอไปก่อนจะได้มีเวลาจิจ๊ะกับแฟนชาวออสซี่ (ก็คนที่เรากะจะไปเกาะนั่นแหละ) เพื่อนเลยต้องจ่ายไป 41000 บาทเพื่อให้ได้ Confirmed seat สำหรับวันที่เค้าอยากไป จะจำไว้เป็นบทเรียนว่าจะไม่ไปช่วงนักเรียนกลับไปเรียนเด็ดขาด ตั๋วมันแพ็ง แพง ดีนะ แฟนเราได้ตั๋วจากการแลกไมล์ ไม่งั้นคงไม่ต้องไปไหนกัน เพราะค่าตั๋วก็ปาไปหกหมื่นกว่าแล้ว แต่เค้าแลกเป็น Business class นะ ไม่ใช่ว่าอยากสบายหรืออะไร ก็ขนาดตั๋วจ่ายเงินยังหาไม่ค่อยได้ แล้วไอ้ตั๋วฟรีนะ TG คงไม่มีหรอก เลยต่างคนต่างไปคนละชั้นแล้วกัน เจอกันอีกทีที่สนามบินที่ Sydney จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปเช็คอินคืนวันศุกร์ (27 กค.) แล้วก็ไป TG Lounge เลย ขอไปใช้บริการซะหน่อยจะกินอาหารให้อิ่มไปเลย พอขึ้นเครื่องจะได้นอนอย่างเดียว พอไปถึงทำไมคนเต็มไปหมด หาที่นั่งว่างแทบไม่ได้ สุดท้ายมีคุณลุงใจดีให้ร่วมโต๊ะด้วย คุยไปคุยมา อ้าวไป Sydney เหมือนกัน โลกกลมจังเลย ขึ้นเครื่องแล้ว เครื่องเก่าเชียว เป็นเครื่องรุ่นที่ที่นั่งแบบ business class ก็ยังไม่มีจอส่วนตัวนะ เราก็ได้แต่ทำใจ ถ้าไม่ต้องแลกไมล์คราวหน้าขอไป SQ ดีกว่า เราได้ที่นั่งตรงกลางขนาบข้างด้วยน้องคนไทยที่ไปเรียนโท กับผู้หญิงแขกตัวใหญ่มาก ขนาดว่าถ้าเค้าไปนั่ง business class เค้าก็ยังคงรู้สึกว่ามันเป็น Economy Class นะ  นั่งไปซักพักทำไมคนแขกเยอะจัง ตกลงเราไปมุมไบ หรือไปซิดนีย์กันหละเนี่ย น้องคนไทยบอกเป็นแบบนี้แหละ คราวนี้ดีหน่อยกลุ่มคนแขกรอบ ๆ ตัวเราเค้ากลิ่นไม่แรง ไม่งั้นลงเครื่องไปแฟนคงคิดว่า Miracle เค้าเปลี่ยนกลิ่นใหม่แทน ตั้งใจจะไปนอน แต่สุดท้ายก็เม้าท์กับน้องเค้าสนุกเชียว ไม่รู้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่าแต่อยากให้เค้าหางานทำได้ทันทีที่เรียนจบ ก็เอาใจช่วยแล้วกันนะคะ นั่ง นอน กิน เม้าท์ มาได้ 9 ชั่วโมง สุดท้ายก็ถึงซะที ซิดนีย์ของฉัน ตอนเครื่องบินลง สวยมากเลย คิดว่าสวยสุดตั้งแต่ไปเที่ยวมา มิน่าหละ นายที่เคยอยู่ซิดนีย์ ถึงได้บ่นแทบทุกวันว่าคิดถึง อยากกลับไปอีก แล้วเพื่อนที่ออฟฟิศก็เกทับตลอดว่า Sydney สวยอย่างนั้นอย่างนี้ เห็นตอนเครื่องลงก็..... ต้องบอกว่า สมราคาคุย จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พอเดินมาถึง ตม. เห็นป้ายแต่ไกลว่าห้ามถ่ายรูปและใช้โทรศัพท์ คงเป็นเรื่องของความปลอดภัย เราผ่าน ตม. มาได้ฉลุย แต่แฟนถูกกักซะงั้น ก็เค้าดันไม่เขียน immigration form ตม.ที่ไหนจะให้ผ่านหละ สุดท้ายตัดสินใจไปรอที่สายพานรับกระเป๋าแล้วกัน เดินผ่านมาเห็นเจ้าหน้าที่ ตม.ยืนกันเป็นยี่สิบ สามสิบคน โฮ !!! มันจะอะไรกันขนาดนี้เนี่ย ไปอเมริกาว่า เคี่ยวแล้ว เทียบกับ Sydney ไม่ได้เลย เจอคนแรก ก็ถามเรื่องทั่วไป มาครั้งแรกหรือเปล่า พักที่ไหน มากับใคร ทำไมไม่รอแฟน มียามั๊ย มีอาหารมั๊ย มาทำอะไร Etc.... เดินมาไม่ทันพ้นรัศมี 50 ซม. เจอคนที่สอง ถามคำถามคล้าย ๆ เดิม เดินมา ไม่ทันสามก้าว เจอคนที่สาม ถามว่า รูมั๊ย ว่า Radisson Plaza ที่เราไปพักนะ ราคาเท่าไหร่ ได้ข่าวว่ามันแพง (ชักยัวะ อะไรฟะ ถามเยอะจัง) เลยตอบกวน ๆ ไปว่า "I don't know how much would it cost. My friend made reservation and I was invitied. If you would like to know the rate, you better give them a call" เดินมาถึงที่รับกระเป๋า เจอคนที่สี่ เลยบอกให้เอาปากกากับกระดาษมาเลย จะเขียนคำถาม คำตอบไว้ให้ เผื่อมีเจ้าหน้าที่มาถามอีกจะได้ให้อ่านเลย เพราะไม่อยากพูดอะไรซ้ำซาก ก็เลยไม่โดนถามอะไร จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอรับกระเป๋า กำลังเดินออก มีเจ้าหน้าทีขอตรวจกระเป๋าเรา ในขณะที่แฟนเราคนฝรั่งเศส เดินผ่านไปได้ซะงั้น เราก็เลยถามเค้าว่าทำไมตรวจเราแล้วไม่ตรวจแฟนเรา ก็มาด้วยกันนะ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่ตรวจกระเป๋าเรา แต่เราเห็นเค้ารื้อกระเป๋าคนเอเซียบางคนออกมาหมดเลย แบบว่าต้องจัดกันใหม่ก็มี เฮ้อ !! เรื่องอย่างนี้คงต้องทำใจอย่างเดียว เพราะมันก็หน้าที่เค้าเหมือนกัน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพื่อนมารอรับอยู่แล้ว เอา Limo ของโรงแรมมารับ พนักงานก็สุภาพดี แต่รู้สึกว่าเค้าไม่จริงใจ ถามคำถามแปลก ๆ เกี่ยวกับเมืองไทย แล้วก็แทรกการสนทนาระหว่างเรากับเพื่อนตลอด แบบว่าขอมีส่วนร่วม (ไม่แน่ใจว่าทำเพื่อ tip หรือว่าเป็นนิสัยส่วนตัว) พอมาถึงโรงแรมเราก็เช็คอิน ส่วนเพื่อนไปโวยกับเจ้าหน้าที่โรงแรมเลย แล้วเพื่อนเค้าก็มาขอโทษเราเรื่องคนขับรถ แถมยังบอกว่า พนักงานที่นี่ น่าจะถูกส่งไปฝึกงานที่หลวงพระบาง 5555 ก็นิสัยคนมันไม่เหมือนกันเนอะ คนลาวนะเค้ามีใจบริการและก็จริงใจอยู่แล้ว แต่ที่ออสเตรเลียเค้าคงคิดไม่เหมือนกัน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เช็คอินเสร็จ ก็เที่ยวเลย ไม่ให้เสียเวลา ก่อนมา Boss ฝรั่งก็ยังว่าเลย ว่าเราทำตัวเป็น Japanese Around the World ก็แหม !!! ถ้านายให้ลานานกว่าหนึ่งอาทิตย์ หนูก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้หรอกค่ะ เราก็ต้องบริหารทรัพยากรเวลาที่มันมีจำกัดนะ รูปนี้ระหว่างทาง จากโรงแรม Radisson Plaza Sydney ไปยัง Darling Harbour จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดินผ่าน mall (ถนนคนเดิน) มา แล้วเกิดกิเลส อยากช็อปนะ แต่แหมแฟนเราและเพื่อนเราทำไม เอาแต่เดินฟะ ไม่เป็นไรมาใหม่คนเดียวก็ได้จะได้เดินชิว ชิว จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดินมา เห็นตึกที่เพื่อน ๆ ในเว็บ บอกต้องขึ้นดูวิว แต่วันนี้คงไม่มีโอกาส ถ่ายรูปตึกมาดูก่อนแล้วกัน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 13:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เดินมาเรื่อย ๆ ก็ถึงสะพานข้าม ซึ่งเราจะเดินข้ามสะพานก็ได้แต่เราตัดสินใจเดินอ้อม ดูบรรยากาศแถว ๆ นั้นแทน ชอบซิดนีย์ ตรงที่ฟ้าสวยเชียว อากาศก็ดี นี่ขนาดหน้าหนาวนะ จะส่งรูปไปให้เพื่อนที่ยุโรปดู ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เพราะที่ยุโรปนะตอนหน้าหนาว อากาศดำทมึนเชียว ฟ้าไม่ใสสว่างอย่างนี้หรอก จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนเดินแถว Darling Habour เห็นนกเยอะเชียว เห็นเพื่อนถ่ายกันเยอะแล้ว แต่ของจริงน่ารักกว่า เด็ก ๆ เค้าก็มาให้อาหารนกด้วย เป็นกิจกรรมครอบครัวที่เข้าท่าดี เข้าไปให้อาหารนก อย่างไม่กลัวว่าจะเป็นหวัดนกกันเลย จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบตรงนี้มากที่สุด คิดว่ามันเป็นดีไซน์ที่เก๋ดี นี่ถ้าอายุไม่ปาไปเลขสามก็ไปแจมเล่นกับเด็ก ๆ เค้าเหมือนกัน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เด็ก ๆ เล่นกันสนุกเชียว จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เดินไป เดินมา ไม่รู้ทำอะไรดี จะขึ้นเฟอร์รี่ก็กลัวหลับ เพื่อนเลยบอก เล่น jet Habour แล้วกัน จะได้ตื่นตาตื่นใจ เค้าคิดคนละ 20 AUD จ่ายเงินแล้วก็ไปเดินเล่นได้ 15 นาที ก่อนนัดลงเรือ ตอนสี่โมงเย็น ก่อนลงเรือต้องแต่งตัวซะหน่อย เค้าบอกว่ากันเปียก แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 50 14:20:59 จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พร้อมขึ้นเรือ ไปลุยกันเลย พอนั่งเรือ เค้าก็ถามว่ามีใครมีปัญหาสุขภาพ โรคหัวใจ ความดัน เพิ่งผ่าตัด ปวดหลัง เอ !!! จะพาเราไปทำอะไรหละเนี่ย ถามอย่างกะจะไปออกรบ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ขอโทษที่ปาดนะคะ แต่ทริปน่าสนุกจังค่ะ จากคุณ : บักมี่ - [ 13 ส.ค. 50 14:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไอ้ jet Habour เนี่ยสนุกมาก หัวกระเจิง แถมเจ็บเวลาที่น้ำทะเลสาดเข้าหน้า เพราะคุณคนขับซิ่งยิ่งกว่ามอเตอร์ไซด์รถแข่งแถวถนนพระรามเก้า ขอยืมรูปจากคุณเจ้าของกระทู้ E5604095 เพื่อความสมบูรณ์ ท่านใดสนใจไปเยี่ยมกระทู้ของคุณ ==oki== ได้เลยค่ะ มีรูปสวย ๆ ตรึม http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5604095/E5604095.html จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หมดเวลาไป 50 นาที กลับมาตัวเปียกโซก ดีนะที่ใส่ชุดช่างทาสีไว้ ไม่งั้นคงหนาวแย่ น้ำทะเลนะก็ไม่ใช่อุณหภูมิบ้านเราอีกต่างหาก ขึ้นจากเรือปุ๊บ ตรงดิ่งไปหาห้องน้ำแทบไม่ทัน มาสะดุดที่ป้ายตรงประตูห้องน้ำ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 14:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืม ประเทศพัฒนาแล้ว กับกำลังพัฒนามันก็ต่างกันตรงเนี้ย ตรงสวัสดิการสังคม ถ้าเมืองไทยมีบ้างคงดี อ้าว นักการเมืองท่านใดมาอ่าน ผ่านเลือกตั้งคราวหน้า ก็รับไปพิจารณาด้วยค้า...... เข้าห้องน้ำเสร็จ ก็นั่ง Monorail กับโรงแรม มาถึงแทนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ม่ายยยยย ตรงไปที่ Excutive Lougne แล้วก็หาของว่างกินรองท้อง ก็มีพวก Canape หรืออาหารกินเล่นให้เลือกเอาตามชอบ เราก็กิน สตอเบอร์รี่อย่างเดียว ก็แหม !!! มาประเทศที่เค้าสั่งออกสตอเบอร์รี่เป็นสินค้าอันดับต้น ๆ จะให้ไปหาสับปะรด มังคุด ลำไย ก็ใช่ที่ เราต้องเน้นอาหาร Local กินและพักผ่อนพอหายเหนื่อย ก็แต่งตัวไปลั่นล้า กินดินเนอร์สุดหรู เพื่อนบอกจองล่วงหน้าเป็นเดือน เดือน ร้านอะร้ายยยย มันจะขายดีขนาดต้องจอง เอ้าไปดูกันหน่อย จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราตรงไปที่โรงแรม Establishment Hotel ที่ถนน George Street พอไปถึงคุณบอร์ดี้การ์ด เกือบไม่ให้เข้า (หน้าตาอาจดูไม่ไฮโซพอ) สุดท้ายบอกว่าจองโต๊ะไว้ที่ร้าน Est Restaurant เค้าก็เลยพาเราเข้าไปในร้าน บรรยากาศเริ่ดมาก ๆ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บริกรพาไปนั่งที่โต๊ะ แจกเมนูแล้วโต๊กกะใจ วางเมนูแทบไม่ทัน ทำไมราคามันแพงปานนี้ แล้วราคาอย่างนี้มันยังเต็มอีกหรือเนี่ย ราคา Testing menu  7 course อยู่ที่ 140 AUD ต่อคน พวกเราตัดสินใจเลือก Chef's Menu 5 course ราคาที่ 120 AUD ต่อคน อ่านที่ Chef's Menu แล้วตาลาย four freshly shucked rock oysters from today’s market, mignonette sauce (or 4 each) chestnut mushroom and rocket tortellini in kangaroo tail consomme, porcini pearls, girolles and snap peas raviolo of egg yolk, ricotta and western australian manjinup truffle on asparagus and parmesan sashimi of south australian kingfish, pink grapefruit, red chilli, coriander and ocean trout caviar งง สุด สุด เลยเลือกคนละจานในแต่ละคอร์ส เพราะเพื่อนรับประกันความอร่อย  หน้าตาอาหารเค้าก็ประมาณนี้ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หอยนางรมที่เราเลือก ดูน่ากิ๊น น่ากิน จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สั่งไวน์กันมาเต็มที่ กินกันไปสี่คน สามขวด พร้อมด้วยแชมเปญ ขอขอบคุณ คุณเพือนที่พาไปพร้อมเป็นเจ้ามือ ถ้าให้ไปกินเอง อาจต้องรอเก็บเงินโบนัส หรือรอชาติหน้าเลย ทุกจานเกลี้ยง ไม่เหลืออะไรเลย อร่อยจริง จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กลับไปนั่งดริ๊งค์ที่โรงแรมอีกแก้ว อ้าวเพื่อนเรา หลับคาเก้าอี้ไปซะงั้น (ก็ตอนอยู่เมืองไทยนะ นายฝรั่งเค้าใช้งานเยี่ยงทาส) ก็เลยแยกย้ายกันไปนอนตอนตีหนึ่ง ณ เวลาท้องถิ่น คืนแรกที่ซิดนีย์ ก็เหนื่อยแล้ว หลับฝันดี เจอกันอีกทีพรุ่งนี้นะจ๊ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 วันแรกหมดไปแล้ว อยากรู้ต้องดูตอนต่อ Sunny Sunday @ Sydney จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 15:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ใครที่เข้ามาอ่าน จะอ่านต่อขอให้ไปกระทู้นี้แล้วกันนะคะ จะได้ไม่สับสน (เพราะคนโพสท์ก็เริ่มสับสน 5555) เข้าไปลุ้นว่าทริปนี้เป็นยังไง จากคุณ : Travel Animal - [ 13 ส.ค. 50 16:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้วเครียดเลย กำลังจะไปพอดี ภาษายิ่งอ่อนๆ อยู่ด้วย จะผ่าน ตม. ได้มั้ยเนี่ย จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 14 ส.ค. 50 09:07:45 A:58.136.16.215 X: TicketID:116227 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณเล็บขบ ลงพุง ไม่ต้องวิตกไปหรอกค่ะ เค้าถามอะไรมา เราก็ตอบไป ทำตัวมั่นใจ ถ้าเราไม่ทำอะไรผิดเจ้าหน้าที่เค้าก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอกค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ จากคุณ : Travel Animal - [ 14 ส.ค. 50 12:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทำไม ตม.ดูโหดจัง  ตอนเราไปเมื่อต้นปี  ไปคนเดียวไม่เห็นจะถามไรเลย ถามแค่ว่าพักอยู่ที่ไหน มาทำไม เราก็ตอบแล้วก็ยิ่มนิดๆๆ  เขาก็บอกว่าเรา friendly  จัง แถมยังดุเด็กกว่าอายุ  เหอๆๆ  อุตสาห์เตรียมตอบไปตั้งเยอะ หายเกร็งเลย    แต่พออ่าน จขกท เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเหมือนกันน่ะเนี่ย ว่าจะไปอิกตอนกันยนยน จากคุณ : ความไกลรักษาใจได้จริงหรือ - [ 17 ส.ค. 50 21:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณความไกลรักษาใจได้จริงหรือ เพิ่งถามเพื่อนมาค่ะ เค้าบอกว่าตั้งแต่มันมีเหตุการณ์แปลก ๆ ที่อังกฤษนะ เค้าก็เข้มงวดกว่าเดิม แต่จริง ๆ เราว่า ออสเตรเลียปลอดภัยนะ พอเข้าไปในออสเตรเลีย เที่ยวได้ทุกที่อย่างสบายใจเลยหละ เราอาจจะซวยเองก็ได้ จากคุณ : Travel Animal - [ 18 ส.ค. 50 11:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พูดถึง ตม. ขอเล่าเรื่องหนึ่งตอนที่ขึ้นเครื่องบิน พอดีลืมเล่าให้ฟัง ตอนขึ้นเครื่องมีคนเค้าตะโกนเสียงดัง เป็นฝรั่งนะ บอกว่า ขอพบหัวหน้าคนดูแลพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน เราก็ เอ อะไรหว่า..... พอไปถามน้องคนที่เค้าค้นกระเป๋า (สำหรับเที่ยวบินไปอังกฤษ ออสเตรเลีย และอเมริกา จะมีการตรวจกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องอีกที) น้องเค้าบอกว่า สำหรับ 3 ประเทศสุดโหดนี้ ห้ามน้ำพวกของเหลวขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด และบังเอิ้น บังเอิญ คุณฝรั่งเค้าซื้อเหล้ามาจากร้าน King Power ไป 3 ขวด เค้าไม่สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ ต้องทิ้งนะ เค้าก็เลยวีนสุดใจ เฮ้อ เล่าให้ฟังจะได้ระวังไว้ งานนี้เราสงสารทั้งคู่เลย น้องเค้าก็ต้องทำตามหน้าที่ (เหมือนคุณ ตม. ไง) และคุณฝรั่งเค้าก็คงเสียดายเงิน เราก็ถามหัวหน้ายามว่าทำไม King Power ไม่บอกลูกค้าหละ เค้าก็บอกว่า ทางการท่าฯ ได้แจ้ง King Power ไปแล้ว แต่พนักงานเค้าก็อาจจะไม่รู้ เราก็เอ..... แล้วทำไมการท่า ไม่ทำป้ายประกาศอีกทีหละ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแบบนี้ ถ้าผู้ใหญ่การท่าฯ มาอ่านก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน สงสารคนทำงาน เค้าคงทำใจลำบาก แล้วมันก็ไม่สนุกเลยที่ถูกด่า ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จากคุณ : Travel Animal - [ 18 ส.ค. 50 11:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราเคยต่อว่าพนักงาน King Power ไปแล้วสำหรับเรื่องนี้  เพราะเพื่อนชาวต่างชาติเคยโดนเป็นประจำ พนักงานอยากทำยอดและได้ค่าคอมฯ หรือเปล่าเราไม่แน่ใจ  ไม่ควรขายให้เขาก่อนขึ้นเครื่องบินค่ะ อีก case นึง  พอฝรั่งลงจากเครื่องบินมาถึง ควรแนะนำฝรั่งว่า ตามกฏหมายไทย ยูสามารถซื้อได้คนละไม่เกิน 1 ลิตร (ถ้าไวน์ 750 มิล.ก็ได้แค่ขวดเดียว)  แต่นี่ปล่อยให้ฝรั่งซื้อไวน์คนละ 2 - 3 ขวด  บางทีก็โฆษณาว่ามี promotion ซื้อ 2 แถม 1 พอฝรั่งถือเข้ามา ก็โดน customs จับทันที  เสียค่าปรับเป็นหมื่น ๆ  ต้องลากกระเป๋าไปโรงพัก เพือลงบันทึกประจำวัน  คุณลองคิดดูซิว่าเขาจะเสียความรู้สึกขนาดไหน จะมาเที่ยวแล้วต้องลากกระเป๋าเดินทางไปโรงพัก ทั้งที่เพิ่งเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จากคุณ : ya-lek - [ 7 ก.ย. 50 13:47:19 ]