ความคิดเห็นที่ 1 เช้านี้ฝนตกเอาฤกษ์เอาชัยแต่เช้าเหมือนเดิม เราตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนแยกย้ายไปนอนว่า ทุกคนจะจำใจสละอาหารมื้อเช้าของโรงแรม เพื่อไปต่อคิวรับบัตรขึ้น Petronas กันให้ทัน 7.30 น. ตามโพยที่ศึกษามา (ราคามื้อเช้ารวมอยู่ในค่าห้องแล้ว แต่ห้องอาหารสำหรับทานมื้อเช้าของโรงแรม Radius เปิดตั้ง 7.00 น.  บวกลบคูณหารเวลาเดินทางกับเวลาหลงแล้วกลัวจะอดขึ้นตึกแฝด เลยจำต้องตัดใจไป 1 มื้อ ^^") นัดกันออกเดินทางประมาณ 7.00 น. ข้างนอกยังไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แถมฝนตกอีกต่างหาก แต่ความอยากเที่ยวมีมากกว่า หุหุ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันนี้เดินทางตามรอยเดิมเมื่อวันก่อน เลยถือโอกาสก็อปมาแปะอีก 1 รอบ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีการเดินทางจาก Bukit Bintang ไป KLCC ก็คือ ขึ้น monorail จาก Bukit Bintang ไป 2 สถานี ลงที่สถานี Bukit Nanas แล้วไปขึ้น Putra LRT (Kelana Jaya Line) ที่สถานี Dang Wangi ต่อไปอีก 2 สถานี ลงที่สถานี KLCC จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พอออกจากสถานี เดินมาตามป้ายมาก็จะมาถึงห้าง Suria KLCC เหมือนเดิม เดินตรงไปเรื่อยๆ แวะถามทางจากคุณ รปภ. เพื่อความแน่ใจ  คุณ รปภ.ชี้ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนก่อน เดินตรงไปจนสุดทาง เกือบออกนอกตึก จากนั้นให้เลี้ยวขวามองหาป้าย Sky Bridge Visit แล้วลงบันไดเลื่อนไปที่ Concourse Level   อธิบายยากเหมือนกันนิ -_-" ขออภัยไม่มีรูปค่ะ รีบเดินไปหน่อย ไม่ทันได้ถ่ายไว้ แต่ว่าถามคุณ รปภ.เอาก็น่าจะได้ เราไปถึงหน้าเคาน์เตอร์รับตั๋วประมาณ 7.35 หรือ 7.40 น. ใกล้เคียงกะเวลาที่ตั้งเป้าไว้ มีคนต่อแถวเรียงเดี่ยวเหมือนงูคดไปคดมาประมาณ 2 ขนดครึ่งได้  ไม่รู้ว่าตื่นนอนมาเข้าคิวกันตั้งแต่กี่โมง แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 50 17:13:58 จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รออยู่ราวชั่วโมงนึง แถวก็ยิ่งยาวขึ้นๆๆๆ เพราะมีคนทยอยมาเข้าแถวมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีประมาณซัก 7 ขนด แต่กว่าเคาน์เตอร์รับตั๋วจะเปิดจริงๆ ก็ 8.30 น.   ตึก Petronas หรือตึกแฝดความสูง 452 เมตร เปิดให้ขึ้นฟรีทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. -17.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ โดยจะจำกัดจำนวนคนขึ้นชมไม่เกิน 1,300 คนต่อวัน (คุ้นๆ เหมือนเคยอ่านเจอข้อมูลว่า Petronas ให้คนขึ้นแค่วันละ 250 คนต่อวัน แต่อันนี้เราไปหาข้อมูลจาก www.petronas.com.my มา เค้าระบุว่า A total of 1300 tickets are issued per day on a first-come-first-served basis.) นักท่องเที่ยวจะขึ้นชมได้ถึงชั้น 41  ซึ่งเป็นชั้นของ  Sky Bridge หรือสะพานเชื่อมระหว่างตึกแฝดพี่กับแฝดน้อง   ระหว่างรอแถวจะมีเจ้าหน้าที่มาลงเบียนและให้บัตรคิวกับเรา โดยจะถามว่ามากี่คน และมาจากประเทศอะไร หน้าตาของบัตรคิวที่เพื่อนสาวเป็นพรีเซ็นเตอร์นำเสนอด้วยความภูมิใจ We come from Thailand. จ้า ^^ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ระหว่างรอ มองไปที่เคาน์เตอร์รับตั๋วด้านหน้า จะมีจอมอนิเตอร์บอกว่า ตอนนี้กำลังแจกตั๋วรอบไหนอยู่ ตอนที่เรารอน่าจะประมาณ 9.00 น. หน้าจอมอนิเตอร์ขึ้นเป็นรอบ 9.45 น. ต้องรออีกเป็นชั่วโมงเลย ส่วนคิวก็ยังอีกไกล แต่คงเป็นโชคดีของเรา อยู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่สวมยูนิฟอร์มสีแดงเลือดหมูเดินเข้ามาถามว่า พวกยูมากันกี่คน พอตอบไปว่า 5 คน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าอยู่ตรงนี้ครบหมดทุกคนมั้ย ตอบ Yes ปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า ยูจะขึ้นเลยหรือจะรอรอบต่อไป อ้าว ถามแบบนี้ก็ต้องตอบว่าขึ้นเลยสิพี่ หนูรอมาตั้งกะ 7 โมงกว่าๆ โน่น ^^" ว่าแล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาตั๋วขึ้น Petronas รอบ 9.30 น. มาขอแลกกับบัตรคิวของเรา หุหุ   ได้ตั๋วมาครอบครองแล้ว เย้ๆ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรณีนี้สันนิษฐานเอาเองว่า คงมีใครที่เข้าแถวในคิวก่อนหน้าส่งตัวแทนมารับตั๋วแทนเพื่อน แต่ตัวเพื่อน No-Show เจ้าหน้าที่เลยตัดสิทธิ แล้วเอาตั๋วมาให้คนอื่นๆ ที่เข้าคิวแทน เพราะตามระเบียบเค้าระบุไว้ว่า 1 คนรับบัตรได้ 1 ใบ ก่อนขึ้นชมตัวตึกก็แวะชมนิทรรศการกันหน่อย อยู่ด้านหลังทางขวาของเคาน์เตอร์รับตั๋วนั่นเอง เราผลัดกันไปวัดส่วนสูงเทียบกับตึก Petronas เพื่อรอเวลา จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงเวลาปุ๊บก็จะมีเสียงประกาศเรียกไปรับบัตรคล้องคอเป็นกลุ่มสีดำกับกลุ่มสีแดง แล้วแจกแว่นตาให้เข้าชมหนังสั้น 3 มิติ เกี่ยวกับที่มาของตึก Petronas พอออกมาก็เข้าแถวสแกนร่างกายและตรวจสิ่งของต้องสงสัยก่อนขึ้นตึก โดยขาตั้งกล้องต้องฝากค่ะ Petronas มีทั้งหมด 88 ชั้น แต่เราขึ้นไปได้ถึงแค่ชั้นที่ 41 โดยมีเวลาชมรอบละ 10 นาที (ตอนแรกอ่านมาว่าให้ขึ้นได้รอบละ 15 นาที แต่วันนี้เค้าให้ขึ้นแค่ 10 นาทีเอง ) ขึ้นลิฟท์กันเล้ยยย... จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตึกแฝด Petronas เป็นแฝดจากพ่อและแม่คนละสัญชาติ เนื่องจากตึกนึงสร้างโดยญี่ปุ่น และอีกตึกนึงสร้างโดยเกาหลี มีหน้าต่างทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นกว่าบาน กว่าจะทำความสะอาดเสร็จแต่ละครั้งใช้เวลาถึง 5 เดือน จึงทำความสะอาดได้แค่ปีละ 2 ครั้ง สะพานเชื่อมระหว่างตึกแฝดพี่กับแฝดน้อง จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วิวจากด้านบน มุมนี้ใครๆ ก็นิยมถ่ายกลับมา ^^ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลงจากเจ้าตึกแฝดประมาณเกือบ 10 โมง เราเดินผ่านเคาน์เตอร์รับตั๋วอีกครั้ง แอบเหลือบดูจอมอนิเตอร์เห็นเป็นบัตรรอบ 17.00 น. ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของวันแล้ว ความจริงใครอยากดูวิวจาก Petronas ตอนเย็นๆ จะมาเข้าคิวรับบัตรสายหน่อยก็ได้ แต่คงต้องระวังเรื่องบัตรหมดไว้ด้วย หลังจากได้เยี่ยมชมตึกแฝดสมความตั้งใจเราก็แปลงกายเป็นน้องผู้หิวโหยทันที เพราะตั้งแต่เช้าอาหารยังไม่ตกถึงท้องเลย สอบถามเส้นทางจากคุณ รปภ. เสร็จ เราก็ดิ่งไปตามหาของกินกันที่ฟู้ดคอร์ทซึ่งอยู่บน Level 2 ของห้าง ลาซานญ่าเนื้อของเรา ^^ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนอันนี้ Nasi  Lemak ของเพื่อนผู้ตามหา Laksa ตลอดทั้งทริป แล้วก็มีอันต้องถือ Nasi  Lemak ติดมือกลับมาเกือบทุกครั้ง จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อิ่มหนำสำราญดีมีแรงเที่ยวต่อ ตอนนี้สมาชิกพร้อมออกเดินทางอีกครั้ง สถานีต่อไปของพวกเราคือ Masjid Jamek วิธีการเดินทางจาก KLCC ไป Masjid Jamek ง่ายนิดเดียวคือขึ้น LRT สาย Putra Line จากสถานี KLCC ไปอีก 3 สถานี ลงที่สถานี Masjid Jamek เลย จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงแล้ว Masjid Jamek เราไปเวลาที่มัสยิดปิดช่วงกลางวันพอดี เลยได้แต่เกาะรั้วมองจากด้านนอก จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จากตรงนี้ไปจะเป็นรายการเดินตลอด เราเดินย้อนกลับมาเพื่อทางสถานี Masjid Jamek เพื่อจะ ไป Merdeka Square หรือจัตุรัสแห่งการประกาศเอกราชของมาเลเซีย   วิธีการเดินตรงนี้อธิบายไม่ค่อยถูกค่ะ ตอนไปก็อาศัยคอยถามคนแถวนั้นและเดินตามป้ายบอกทางเอา คร่าวๆ คือถ้าตั้งต้นจากสถานี Masjid Jamek ที่ลงรถมา ตัวมัสยิดกับ Merdeka Square จะเลี้ยวไปคนละทางกัน ประมาณว่าถ้าจะไปที่นึงให้เลี้ยวซ้าย ส่วนอีกที่นึงให้เลี้ยวขวา เดินเลาะมาทางนี้ จะมองเห็นเสาธงแห่งการประกาศเอกราชอยู่ลิบๆ เสาธงนี้มีความสูงถึง 100 เมตร ว่ากันว่าเป็นเสาธงที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้ามสะพาน ผ่านจุดที่แม่น้ำสองสายได้แก่ Gombak river และ Klang River มาบรรจบกัน เป็นที่มาของชื่อ “กัวลาลัมเปอร์” ซึ่งแปลว่า “แม่น้ำสีโคลน (muddy river)” อันเป็นชื่อที่ชาวเหมืองซึ่งมาตั้งรกรากที่นี่เมื่อประมาณปี 1860 เป็นผู้ตั้ง จุดตรงนี้เคยเห็นพี่ไก่แก่แม่ปลาช่อนลงรูปไว้ในกระทู้ของคุณ luvammie เลยลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดู ^^ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มองจากสะพานด้านซ้ายมือ ทางนี้สามารถเดินเลาะไปยัง Central Market และ China Town ได้ด้วย แต่เราจะไป Merdeka Square กันก่อน จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วก็เดินมาถึง Landmark สำคัญอีกแห่งของกัวลาลัมเปอร์ คือ ตึก Sultan Abdul Samad Building ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1897 โดยสถาปนิกชาวอังกฤษที่ทำงานในรัฐบาลมาเลเซียสมัยนั้น จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รูปแบบของอาคารเป็นทรงแขกมัวร์ และมีหอนาฬิกาสูง 41 เมตร หน้าตาเหมือนหอนาฬิกา Big Ben ในประเทศอังกฤษ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อากาศตอนกลางวันแถว Merdeka Square ร้อนมากๆ ถ้าใครจะไปแนะนำให้ไปเดินตอนเย็นๆ น่าจะได้บรรยากาศกว่า ว่าแล้วเราเลยไปพักหลบแดดใน National History Museum ที่อยู่บริเวณเดียวกันก่อนจะโดนแดดเผาจนเกรียม จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พิพิธภัณฑ์นี้เก็บค่าเข้าชมคนละ 1  RM หรือประมาณ 10 บาทไทย ชั้นล่างมีห้องน้ำให้เข้าด้วยนะคะ แต่ไม่ฟรีค่ะ เสียคนละ 20 cent จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 17:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เครื่องไม้เครื่องมือของคนในสมัยก่อน ดูๆ ไปก็ใกล้เคียงกับของบ้านเรา จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หมวกประจำตำแหน่งของผู้นำทางศาสนา จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มุมนี้น่าสนใจดีค่ะ สัตว์ต่างๆ เหล่านี้ถูกใช้เป็นเงินเหรียญในสมัยก่อน เจ้าตัวนี้ไม่รู้ว่ามีค่าเท่ากับกี่ RM จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วนภาพนี้ดูแล้วบรรยายความรู้สึกไม่ถูก เพราะเป็นภาพจำลองเหตุการณ์ที่คนไทยไปบุกเผาเมืองๆ หนึ่งในมาเลเซียเมื่อนานมาแล้ว รูปนี้ตั้งอยู่หน้าทางเข้าห้องจัดแสดงบริเวณชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จากชั้น 2 มองเห็น The Royal Salangor Club หรืออาคารสมาคมกีฬา cricket ในสมัยที่มาเลเซียยังเป็นอาณานิคม ส่วนลานด้านหน้าก็คือ Merdeka Square หรือจัตุรัสแห่งการประกาศเอกราช ซึ่งธงชาติมาเลเซียได้ถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาแทนที่ธงชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1957 จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชมพิพิธภัณฑ์เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายไปจุดถัดไป เป้าหมายคือ Central market กับ China Town ซึ่งสามารถเดินต่อไปได้เลย เนื่องจากอยู่ในละแวกใกล้กัน จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Central market เป็นแหล่งในการซื้อของฝากและของที่ระลึกอีกแห่งหนึ่ง หน้าตาของ Central market จะเป็นอาคารสีฟ้าๆ อมเขียวหลังใหญ่ 2 ชั้น พัฒนามาจากตึกเก่าที่เดิมสร้างเป็นตลาดสด (wet market) ของบางอย่างถูกของบางอย่างแพง และแต่ละร้านต่อราคาได้มากน้อยต่างกัน ต้องเลือกดูดีๆ ค่ะ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นอกจากเป็นแหล่งขายของฝากแล้ว ที่ Central market ยังมีร้านอาหารให้ฝากท้องด้วย ใครที่ตามหาช็อกโกแลตสัญชาติมาเลเซีย ยี่ห้อ Berly’s จะมาหาซื้อที่นี่ก็ได้ (ช็อกโกแลต Berly’s มีขายตามห้างทั่วไป โดยมากมักขายอยู่ในร้านโฮมเมดคุ้กกี้ยี่ห้อ Famous Amos) เราไปเจอชายี่ห้อนี้ที่ชั้นล่าง กระป๋องแดงข้างซ้ายจำราคาเต็มไม่ได้ แต่ราคาลดที่ก้นกระป๋องเหลือ 13 RM ส่วนกระป๋องทางขวาติดราคาเต็มไว้ 25 RM ลดแล้วเหลือ 18 RM เรากับเพื่อนซื้อเป็นของฝากคนละกระป๋องต่อรองได้อีกนิดหน่อย เหลือกระป๋องละ 16 RM ไม่รู้ถูกหรือแพง รสชาติออกแนวขมๆ แบบชาจีน (อันนี้แม่บอกมาค่ะ ไม่ได้ชิมเอง ^^) จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ด้านนอก Central market ยามเย็นมีศิลปินชาวต่างชาติมาเล่นดนตรีเปิดหมวกด้วย กลุ่มนี้จะตระเวนเล่นดนตรีไปตามย่านต่างๆ ที่มีคนเยอะๆ เราเลยได้เจอพวกเค้าอีกทีที่ Jalan Alor ตอนค่ำ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ก่อนถึง China Town เราหลบร้อนเข้าไปสำรวจของฝากในห้างอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Mydin ห้างนี้เป็นห้างแขกที่อยู่แถวๆ Puduraya Station ที่เราขึ้นรถไปมะละกาวันก่อน อารมณ์จะคล้ายๆ กับห้าง Mustafa ที่สิงคโปร์ คำแนะนำสำหรับห้างนี้คือ ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่ต้องแวะไปก็ได้ค่ะ ไม่น่าเสียดายแต่อย่างใด ของบางอย่างถูกกว่าข้างนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีที่ถูกกว่าข้างนอกเยอะหน่อยก็คือเซ็ทพวงกุญแจอะคริลิกซึ่งขายยกกล่อง กล่องละ 7.90 RM มีทั้งหมด 12 ชิ้น (พวงกุญแจแบบเดียวกันนี้เจอที่อื่นราคาถูกสุดจะชิ้นละ 1 RM หรือกล่องละ 10 RM)   ข้อควรระวังก็คือ หากเจอสินค้ามีตำหนิ (ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีตำหนิกล่องละ 1-2 ชิ้น) คุณจะขอเปลี่ยนไม่ได้นะคะ เพราะป้าพนักงานประจำตู้ขายเธอจะว่าเอา และเธอก็จะพูดจากับคุณแบบไม่น่าคบเอามากๆ ด้วย คนไทย 5 คนโดนมาแล้ว -*- จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จาก Mydin เดินอีกนิดก็ถึง China Town ที่วันก่อนเรามาเดินตอนมืดแล้วครั้งนึง วันนี้เลยมาดูบรรยากาศตอนเย็นกันบ้าง (จริงๆ มารอบเดียวก็พอนะคะ เพราะอารมณ์ไม่ต่างกันมาก แต่ไหนๆ เราเลยมาโซนทางนี้แล้ว ก็เลยถือโอกาสมาแวะอีกรอบ) ร้านน้ำ Air Mata Kucing เจ้านี้ วันก่อนกินแล้วติดใจ อร่อยจนต้องกลับมากินอีกรอบ ^^ ราคาแก้วละ 1.20 RM  รสชาติเหมือนน้ำลำไยผสมจับเลี้ยง จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เดินเรื่อยๆ เปื่อยๆ ใน China Town ซักพักเราก็กลับออกมาทางสถานี Pasar Seni เจอรถเข็นขายอาหารระหว่างทางหลายเจ้า เจ้านี้น่าจะเป็นขนุนหรือจำปาดะชุปแป้งทอด มั้ง เดาเอา ^^" จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ส่วนของเจ้านี้หน้าตาเหมือนแป้งโรตีทอด จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนแรกว่าจะไปชมสถานีรถไฟกันต่อ แต่สมาชิกหมดแรง เลยขอกลับโรงแรมแทน สถานีรถไฟอยู่ข้างหน้านี่เอง แต่พี่ๆ ที่ไปด้วยยกธงขาวซะแล้ว เลยได้ภาพในระยะไกลมาแค่นี้ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 18:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 วันนี้เดินกันลิ้นห้อย แต่เหมือนได้เที่ยวแค่นิดเดียวเอง คาดว่าคงมีอีกหลายที่ในกัวลาลัมเปอร์ที่เราพลาดไป สงสัยคงต้องมาซ่อมใหม่วันหลัง ^^ หลังส่งพี่ๆ เข้าโรงแรม เรากับเพื่อนอีกคนไปผจญภัยนอกรอบต่อกันเล็กน้อยก่อนกลับมาแพ็คกระเป๋าเตรียมกลับเมืองไทย ตอนที่เหลือจะพาไปดูตลาด Chow Kit ที่ว่ากันว่าเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในกัวลาลัมเปอร์ค่ะ ^^ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 14 ส.ค. 50 19:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาแล้น จากคุณ : หลังจอ - [ 14 ส.ค. 50 19:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาดูด้วย จากคุณ : time3957 - [ 14 ส.ค. 50 19:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาตามรำลึกความหลังต่อครับ ... ภาพสวย บรรยายดีเหมือนเดิม ^_^   ร้านน้ำ Air Mata Kucing ผมก็ไปกินหลายรอบ รสชาติดีมากครับ ใครไปเที่ยวไชน่าทาวน์ต้องลองเลย  สะเต๊ะเนื้อแถวนั้นก็อร่อยนะครับ แต่สะเต๊ะเนื้อเค้าว่ากันว่าต้องเลือกร้านที่คนทำเป็นแขกนะครับ  หากเป็นร้านคนจีนจะไม่อร่อย... Mydin ผมก็ไปครับ  แต่ผมเคยซื้อของที่ระลึกที่นี่แล้วมีตำหนิ เค้าก็ให้เปลี่ยนนะครับ เพียงแต่อาจยุ่งยากเล็กน้อย ยังไงรอตามตอนจบครับ ตลาด Chow kit ที่ว่าผมไม่เคยไปเหมือนกัน... จากคุณ : wut3616 - [ 15 ส.ค. 50 11:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 -สวัสดีค่ะ คุณหลังจอ + คุณ time3957 ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ -พี่แพน (teenbag)... ตามไปดูที่บล็อกมาแล้วค่ะ พี่เป็นคุณแม่ที่เปรี้ยวปรี๊ดดดดมั่กๆ เลย ^^ -คุณ wut3616 Air Mata Kucing เจ้านี้อร่อยเนอะ ชุ่มคอชื่นใจ พี่ที่ไปด้วยกันบอกว่า กลับมาแล้วต้มกินเองก็ได้ 55 ^^" จะเหมือนมั้ยนั่น ส่วนสะเต๊ะ เรามีโอกาสได้ลองร้านเดียวคือที่ Jalan Alor ค่ะ อุตส่าห์เล็งหน้าตาคนขายแล้วว่าเป็นแขกมากกว่าจีนแน่ๆ เพราะทราบมาอย่างที่คุณ wut3616 บอกแหละค่ะว่า ถ้าคนขายเป็นแขก 9 ใน 10 ร้านมักจะอร่อย แต่ร้านที่ทานก็รสชาติกลางๆ นะคะ ไม่ได้ไม่อร่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ติดใจมากมายถึงขนาดว่าถ้ากลับไปจะต้องแวะไปกินอีกเหมือน Air Mata Kucing  สงสัยเรายังไม่เจอร้านที่อร่อยจริงๆ ด้วยล่ะมั้ง สำหรับ Mydin เรื่องมันยาวค่ะ อาจเป็นความโชคร้ายของเราก็ได้ที่ป้าคนขายเธอคงบังเอิญอารมณ์ไม่ดีวันนั้นพอดี เลยพูดจาไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ พอเราโดนเธอเม้งด้วยอารมณ์แกมดูถูกเหมือนเราไม่รู้ภาษาอังกฤษที่เธอบ่นๆ ใส่ (ตอนเลือกของเรากับเพื่อนเรายืนคุยภาษาไทยกันอยู่หน้าเคาน์เตอร์) เรากับเพื่อนก็เลยตัดใจไม่ซื้อค่ะ แม้ว่าของนั้นจะราคาถูกกว่าข้างนอกก็ตาม ถ้าใครแวะไปซื้อของที่นี่แล้วไม่เจอป้าคนนี้ หรือเป็นวันที่ป้าเธออารมณ์ดีๆ ก็คงไม่เป็นไรค่ะ จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 15 ส.ค. 50 15:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ร้านสะเต๊ะเจ้าอร่อยที่ผมแนะนำอยุ่ในย่านไชน่าทาวน์นั่นแหละครับ ใกล้กับร้านขายน้ำ Air Mata Kucing นิดเดียวเองครับ  มันจะอยู่เยื้องๆกับย่านขายของกินเยอะๆแถวไชน่าทาวน์ อยู่เยื้องๆกับร้าน Clay Pot ที่ผมเคยแนะนำในกระทู้นั่นแหละครับ ส่วนที่ Jalan Alor ผมไม่ได้ไปลองทานเลย ทั้งที่ ที่พักผมอยู่ใกล้กับ Jalan Alor เพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น  เพราะทราบมาว่าร้านแถวนี้เค้าไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า คนมาเลเซียเค้าไม่ค่อยกินกัน รอดูรีวิวตอนต่อไปนะครับ ^_^ จากคุณ : wut3616 - [ 16 ส.ค. 50 10:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนสุดท้ายแล้วจ้า.... == กัวลาลัมเปอร์ – มะละกา วันฝนพรำ == ตอนที่ 4 ไปดูตลาด Chow Kit ก่อนกลับเมืองไทย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5720536/E5720536.html จากคุณ : ~: A Grain of Sand :~ - [ 16 ส.ค. 50 18:42:01 ]