ความคิดเห็นที่ 1 :) แหะ ๆ ผมขอมารับเก็บข้อมูลด้วยคนคร๊าบ ปล.ปกติผมเข้าไปอ่านข้อมูลจากคุณเด็กบูรพาในรัชดาบ่อย ๆ วันนี้เห็นกระทู้ตั้งโดยคุณเด็กบูรพา ทีแรกนึกว่า "บัตรผ่าน" รีบคลิ๊กเข้ามาเลย คุณเด็กบูรพาจริง ๆ ด้วย จากคุณ : ThinkMan - [ 27 ส.ค. 50 20:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามด้านบนมาฮับ ผมไปมานานแล้ว ข้อมูลไม่อัพเดท รอเพื่อนๆดีกว่า จากคุณ : อาร์ตตะลอน (Athlons) - [ 27 ส.ค. 50 21:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่หนึ่ง แวะพระธาตุลำปางหลวงสักชั่วโมงเดียว น่าจะถึงเชียงใหม่ได้ตามเวลากำหนด แต่ก็จะต้องเข้าไปเช็กอินที่โรงแรม เก็บของ และอาจจะล้างหน้าล้างตาหน่อย ให้ชั่วโมงหนึ่ง ออกจากโรงแรมบ่ายสามโมง เหลือเวลาไม่เท่าไร ไปออบหลวงน่าจะไหว แต่กลับตอนมืดนะครับ เข้ามาเชียงใหม่ หาอะไรรับประทาน แล้วนอน ก็พอไหว ระยะทางแค่นี้ ผมเชื่อครับ ว่าคุณขับสบายแน่แน่ วันที่สอง ห้วยน้ำดัง จำไม่ได้แล้วครับ นึกไม่ค่อยออก เคยไปนะ แต่เชียงใหม่-ปาย นี่น่าจะสองชั่วโมงครึ่ง มืออย่างคุณ ผมว่าได้อีกนั่นแหละ แต่ให้สักสามชั่วโมง เผื่อแวะกินกาแฟระหว่างทาง นี่หมายถึงจากเชียงใหม่ไปปายนะครับ ส่วนปางอุ๋งนี่ แย่เลย เพราะผมไม่เคยไป ทราบว่าไม่ไกลจากปายนัก ขับรถเที่ยวที่ปายก็คงแทบไม่ได้เที่ยวอะไร นอกจากไปวัดที่มีน้ำออกมาอยู่ในเศียรพระพุทธรูป และไปชมตลาดปายที่ผมว่าคุณไปถึงก็วายแล้ว ก่อนจะกลับมาคึกคักอีกทีตอนบ่ายจัดจัด เพราะคงไปสาย และไม่อยู่จนเย็น เอาเป็นว่า ไปหาอะไรกินกลางวันที่ปายก็พอไหว ผมว่าเดี๋ยวรอคุณฮิมดอย หรือคุณแพนดา กับชาวเชียงใหม่ ดีกว่า แต่ตอบแค่ข้อสงสัยของคุณนิดหน่อย ว่า 1-ขับคนเดียว มืออย่างคุณ อายุขนาดคุณ ผมเชื่อว่าสบายอยู่แล้วครับ 2-เอ ตียาวขึ้นปายเลยผมว่าดีเหมือนกันนะครับ เชียงใหม่บ่ายสอง ไปปายอีกสามชั่วโมง แวะกินกาแฟอร่อยระหว่างทางด้วย ถึงบ่ายห้าโมง กำลังดีทีเดียว 3-ไม่ต้องตอบดีกว่า เดี๋ยวคนเมืองเหนือมาตอบเอง 4-ผมว่า ขับเกียร์อัตโนมัติขึ้นเขานะ หากไม่ปล่อยให้มี Free Torque Multiply ได้ ก็ไม่น่าพังครับ ควรจะสังเกตหน่อย เวลาเกียร์จะไปไม่ไหว รีบดึงลงต่ำเองเลย อย่าให้ฟรีได้ แต่ตอนขาลง ปล่อยให้เกียร์ทำงานไปตามเรื่อง เราเบรกเอาดีกว่า เพราะเบรกนี่ ก่อนไหม้ หรือก่อน Fade จะพอรู้สึก และเบรก ซ่อมถูกกว่าเกียร์ กับอีกอย่างหนึ่ง ไปเดินทางไกล หากจำเป็น ผมเลือกให้รถเบรกเสีย ดีกว่าเครื่องหรือเกียร์ หรือช่วงล่างพังครับ ไอ้สามอย่างนั้น เอาไว้มาเป็นในเมืองดีกว่า ในเมืองผมเลือกเบรกดีไว้ก่อนเสมอ ขอให้สนุกครับ จากคุณ : xebec - [ 27 ส.ค. 50 21:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ติดตามคุณ เด็กบูรพามานาน ประทับใจในการตอบคำถามมาก ที่ห้องรัชดา ผมอยู่ที่เชียงใหม่ครับ จากข้อมูลการเดินทางคร่าวๆ ถึง ชม. บ่าย 2 กว่าจะถึงออบหลวงคงเย็น น่าจะไม่ทัน ถ้าจะไปคงได้เที่ยวแป็บเดียว เห็นว่าควรขึ้นดอยสุเทพดีกว่า เสร็จแล้วค่อยเข้าที่พัก ทริปวันที่ 2 น่าจะได้ครับ จากเส้นนั้นไปปาย ระยะทางไม่ไกล แต่ถนนค่อนข้างแคบ ถ้าเจอรถบรรทุกอาจแซงยากหน่อย ส่วนทริปที่แม่ฮ่องสอนผมขอบายละกัน เพราะไม่ค่อยได้ไป วันที่ 4 จากแม่อูคอ ถึงเชียงใหม่ 3 ชม. ไม่น่าจะทันนะครับ นอกจากขับเร็วและรถไม่เยอะ ไม่รู้เคยไปเที่ยว วัดร่องขุ่นหรือยัง ที่ ชร. สวยแล้วก็สะอาด ไม่มีร้านขายของพลุกพล่านให้รำคาญด้วย มีอะไรสอบถามได้ครับ ตามเมล์เลยครับ khomsonc@hotmail.com ยินดีต้อนรับล่วงหน้าครับ จากคุณ : เด็กดอย - [ 27 ส.ค. 50 21:13:13 A:203.154.74.17 X: TicketID:039569 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขนาดคุณAthlonsยังไม่ขยับเลย แล้วผมจะกล้ามั๊ยเนี่ย.. แนะนำว่าขับรถวนแม่ฮ่องสอนซักรอบดีกว่า เส้นทางไม่โหดหยั่งไปอ่างขางครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5751713/E5751713.html จากคุณ : กว้าง (จีร่า) - [ 27 ส.ค. 50 21:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามอ่านมานานที่ห้องรัชดา เหมือนกันครับ ......................................................................................... แนะนำให้เข้าลำพูน-ป่าซาง-จอมทอง-ฮอด แล้วค่อยเข้าเชียงใหม่ครับ ......................................................................................... แต่ถ้าเป็นผมไปเอง ผมจะเลือก วันแรก เถิน-ลี้-ดอยเต่า-ฮอด-ออบหลวง-ถ้ำแก้วโกมล ค้างดอยแม่อูคอครับ (วัดพระธาตุลำปางหลวง เอาไปวันกลับกรุงเทพฯ ครับ) วันที่สอง  วัดพระธาตุดอยกองมู-พระตำหนักปางตอง ค้างปางอุ๋ง วันที่สาม ถ้ำปลา- ปาย ค้างห้วยน้ำดัง วันที่สี่ เชียงใหม่-เกาะคา(วัดพระธาตุลำปางหลวง )-กทม ครับ ...................................................................................... เส้นทางแบบนี้ ขนาดผมยังไหว แล้ว <u>เด็กบูรพา</u> จะไม่ไหวได้ไงครับ จากคุณ : เด็กพายัพ (ตะพานหิน) - [ 27 ส.ค. 50 22:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณตะพานหินครับ เวลาใช้อักษรพิเศษ ต้องใช้ตัวนี้ครับ [ _ ] จากคุณ : xebec - [ 27 ส.ค. 50 22:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^^^ ขอบคุณครับ คุณ : xebec   ผมเพิ่งหัดเขียน BLOG เลยติด < > มาครับ กำลัง นั่งงง ว่าทำไมมัน ไม่ขีดเส้นใต้ หว่า ขอบคุณมากๆ  ครับ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 50 22:44:05 จากคุณ : ตะพานหิน - [ 27 ส.ค. 50 22:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่มเวลาอีก วัน สองวัน จะขับรถสบายกว่าเดิมนะครับ... จากคุณ : นางฟ้าอันดามัน - [ 27 ส.ค. 50 22:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วันแรกไปไม่ทันออบหลวงออบหลวง คงได้แค่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ส่วนพระตำหนักภูพิงค์เวลาขายบัตรช่วงเช้า 8.00-11.00 น. ช่วงบ่าย 13.00  - 15.30 น. แต่พระตำหนักปิด16.30 น. วันที่สอง ผมแนะนำให้ไปถึงห้วยน้ำดังประมาณ 6 โมงเช้า เป็นเวลากำลังเหมาะที่จะดูทะเลหมอกครับ ถ้าไปถึง 8-9โมงผมว่าสายไปนิด เพราะความร้อนของแสงแดดจะดันให้ไอน้ำที่นอนอยู่ก้นเหวลอยขึ้นมา  จากปายถึงปางอุ๋งใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ผมแนะนำให้แวะถ้ำปลาก่อนขึ้นปางอุ๋งเพราะว่าเป็นทางผ่านอยู่แล้ว วันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องอ้อมมาแวะถ้ำปลา วันที่สาม วันนี้ตามรายการไม่น่ามีปัญหาเรื่องเวลาและสถานที่แวะเที่ยวครับ วันที่สี่ จากดอยแม่อุคอถึงเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง แต่ถ้าจะแวะถ้ำแก้วโกมลก็จะต้องขับรถอ้อมมาทางแม่ลาน้อย - แม่สะเรียง ซึ่งก็จะใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งวันนี้ถ้าออกจากดอยแม่อุคอสัก 9 โมง โดยแวะวัดถ้ำแก้วโกมล จากนั้นก็ขับกลับ กทม. คงไม่ดึกเกินเที่ยงคืน  เพราะจากถ้ำแก้วถึงแม่สะเรียงประมาณ 40 นาที แม่สะเรียง -ฮอด ประมาณ1.30 ชั่วโมง จาก ฮอด - กทม. ประมาณ 8 ชั่วโมง ส่วนเส้นทางขึ้นเขาแต่ละถึงจะชัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดอ่างขางครับ เพราะฉะนั้นคุณเด็กบูรพาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรถ ขอให้สนุกในการเที่ยวทริปนี้ครับ จากคุณ : แพนด้า (calpoppy) - [ 28 ส.ค. 50 07:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ออกจาก โรงแรมแต่เช้า ไป อช.ห้วยน้ำดัง ให้ทันดูทะเลหมอก (ถึงที่นั่นสัก 8 - 9 โมงเช้า พอ ไหวไหมครับ)    เราเคยเห็น  ทะเลหมอก ตอน 10 โมง  ค่ะ ไม่ต้องเข้าไป เสียเงินที่ห้วยน้ำดังด้วย .. เที่ยวห้วยน้ำดังสักพัก แล้วลุยต่อที่ ปาย เที่ยวเมืองปาย -- ออกจากเมืองปาย เต็มที่ไม่น่าเกินบ่ายโมง ขึ้นแม่ฮ่องสอน เพื่อไปนอนปางอุ๋ง (ทันไหมครับ) น่าจะ ทันนะ เดินทาง 3 ชม กว่าๆ .. จากปางอุ๋ง เที่ยว ถ้ำปลา, พระตำหนักปางตอง, วัดพระธาตุดอยกองมู แล้ววิ่งตามเส้น 108 ลง (ควร จะเที่ยวตั้งแต่ ตอนออก จาก ปาย  มานะค่ะจะได้ ไม่ ย้อน มาก) อีกวัน ก็ มาเที่ยว แม่ฮ่องสอน  ผ่านอยู่แล้ว เที่ยวพระธาตุ ดอยกองมู อช.น้ำตกแม่สุรินทร์, ดอยแม่อูคอ (ถ้าทัน)  อันนี้  เที่ยวอีก วันค่ะ เที่ยวภูโคลน   ไปกินอาหาร จีนยูนาน  สบายๆ วันที่ 4  แม่อู คอ นะ  นอก จาก ทุ่งดอกไม้ วิว ยามเช้า  ก็ เผ่นได้เลย เที่ยวให้ สนุกค่ะ จากคุณ : honeybfit - [ 28 ส.ค. 50 08:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาเสริมเพื่อน ๆ ปล.ไม่ได้อ่านข้างบนนะจ้า........ ดูจากรายการแล้วและจากการคุยคาดว่าคุณน่าจะขับรถเก่งอยู่แล้วครับโปรแกรมตามที่คุณจัดมาผมคิดว่าคุณขับรถได้สบายครับ   โปรแกรมนี้คนพื้นที่สามารถไปเที่ยวได้สบาย ๆ เกือบทุกคนครับ   ในวันแรกผมว่าเอาแค่ดอยสุเทพก็พอครับไม่ต้องไปออบหลวงเพราะว่าจะเหนื่อยเกินครับ วันที่สอง...ออกจากเชียงใหม่ซักตีห้าไม่เกินครึ่งวิ่งไปห้วยน้ำดังทันทะเลหมอกครับ   แต่ในช่วงบ้านป่าแป๋ไปถึงบ้านแม่แสะเป็นช่วงในเขาจะมีหมอกลงช่วงเข้าโค้งก็ระวังหน่อยครับ   ถนนจะมีละอองหมอกเปียกเลยบางช่วงมีวัวนอนกอดกลุ่มกันหนาวกันครับ   ก่อนขึ้นปางอุ๋งก็แวะเที่ยวถ้ำปลาไปเลยครับออกจากถ้ำปลาไปหน่อยจะมีทางลัดขึ้นปางอุ๋งทางขวามือช่วงหัวโค้งครับเลี้ยวขวาขับตามทางไปอาจจะงงนิดช่วงเลี้ยวครับ   แต่ลัดได้เยอะมากจะไปพบเส้นขึ้นปางอุ๋งช่วงเลยภูโคลนมาแล้วครับก็เลี้ยวขวาขับขึ้นไปครับ   แวะเข้าไปชมปางตองด้วยเลยแล้วค่อยยิงยาวขึ้นปางอุ๋ง วันสาม...วันนี้ลงจากปางอุ๋งแวะไหว้ดอยกองมูซะแป๊บครับแล้วยิงยาวไปแม่อูคอเลยเข้าไปเที่ยวน้ำตกแม่สุรินทร์แล้วกลับมานอนแม่อูคอครับ วันสี่...เที่ยวแม่อูคอเสร็จเดินทางกลับใช้เส้นทางแม่อูคอ - ปางอุ๋ง (คนละอุ๋ง) - แม่นาจร - แม่แจ่ม - อินทนนท์ - เวียงหนองร่อง - บ้านโฮ่ง - ลี้ - เถิน กลับ กทม. ครับ โปรแกรมนี้เกิดจากผมมั่นใจว่าคุณขับรถได้อยู่แล้วนะครับคิดว่าสามารถเดินทางได้แบบสบาย ๆ ครับ จากคุณ : พวงแสด... - [ 28 ส.ค. 50 08:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ ^ คุณพวงแสดมาตอบแล้ว งั้นเราก็เอาใจช่วยให้เที่ยวให้สนุกนะคะ จากคุณ : มี้คนใหม่ - [ 28 ส.ค. 50 11:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามคุณพวงแสดเลยครับ ฟันธง จากคุณ : มนุษย์สัญจร - [ 28 ส.ค. 50 13:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ได้ไอเดียวดีๆเยอะเลยครับ ... ขอบพระคุณทุกๆท่านมากๆครับ ... เดี๋ยวไปกลับมา จะมารีวิว ไว้เป็นข้อมูลครับผม จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 28 ส.ค. 50 16:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ เด็กดอย ครับ -- วัดร่องขุ่น ไปมาแล้วครับ ปีที่แล้ว สวยอลังการดีจริงๆครับ ยังเก็บภาพกลับมาทำ wallpaper ที่หน้าจอคอมเลยครับ ตอบคุณ xebec ครับ -- ปีที่แล้ว ขึ้นอ่างขางมาครับ ... คือตอนไปเนี่ย มั่นใจว่า รถขึ้นได้ครับ เพราะตอนออกมันมาใหม่ๆ สมัยสัก 10 ปีก่อน (แหะแหะ) พ่อเคยขับมันขึ้นอ่างขางนี่แหละ ก็ไปได้ (มีกลิ่นน้ำมันเกียร์ไหม้ .. แต่ไม่เจอปัญหาอะไร) เลยมั่นใจว่า มันขึ้นได้ แม้อายุจะเยอะ แต่ก็ดูแลมันเต็มที่ สภาพเกือบ 100% เทียบกับตอนใหม่ๆล่ะครับ -- ขาขึ้น ผมขับตรงข้ามกับที่คุณบอกเลยครับ ... คือ ดึงลง 1 ลากขึ้นเขาตลอดทางครับ ด้วยความที่ซ่าส์ ลากยันขีดแดง 5 - 6 พันรอบตลอดทางครับ มันส์ แซงสองแถว แถวนั้นตลอดทาง ไปได้เกือบๆถึงจุดพักชมวิว สังเกตความร้อนขึ้นมา 3/4 (ผมปิดแอร์ เปิด heater แล้วครับ) ก็เลยเบารถ และจอดแวะพัก ณ จุดชมวิว -- พอลงรถมา กลิ่นเหม็นไหม้คลุ้งเลย จอดสักพักใหญ่ๆก็ลุยต่อ ... ขาลง ก็ยัด 1 ลงมาตลอดทางครับ พอถึง 4 พันรอบ ก็ย้ำเบรคหนักๆ ให้รถชะลอจนเกือบหยุดแล้วปล่อยไหลต่อครับ -- ระหว่างทางขาขึ้น จังหวะเลี้ยวหักศอก ล้อฝั่งซ้ายกระแทกหินก้อนใหญ่ แรงมากๆ จนล้อน่าจะดุ้ง (เพราะมันวิ่งสะท้านทั้งคันตลอดทาง) ... ส่วนขาลง เห็นหินอยู่ข้างหน้า นึกว่ารอด เลยคร่อมซะ ... ผลคือ อ่างน้ำมันเครื่องบุบนิดหน่อย แต่ไม่แตก(เช็คราคาของใหม่ 5500 บาท เลยไว้ก่อนละกัน) -- แล้วก็ลุยแม่สลองต่อ ไปนอนเชียงราย แล้วตีรถเข้ากทม.ครับ ... ระหว่างทางจุดผิดสังเกตก็คือ เข้าเกียร์ถอยแล้วรถกระตุกมาก แต่ก็ไม่คิดอะไร คิดว่า้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ก็คงจบ -- ถึงกทม.ก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ .. จุดสังเกตคือ น้ำมันเกียร์ดำสนิทครับ ... เปลี่ยนเสร็จวันรุ่งขึ้นขับไปทำงาน พอตอนเย็นจะถอยรถออกจากซอง เข้าเกียร์ถอยแล้วรถนิ่งสนิท ไม่ตอบสนอง แต่เดินหน้าได้ ...เรียบร้อยครับ เกียร์พัง วันรุ่งขึ้นเลยเข็นถอยหลัง แล้วขับไปศูนย์บริการยกเกียร์ล่ะครับ 1 เดือนเต็มๆ -- ตามเข้าไปดูเค้าผ่าเกียร์ที่ศูนย์ใหญ่รังสิต ช่างแจ้งว่า ผ้าคลัชท์ไหม้หมด เหลือแต่แผ่นเหล็ก ช่างที่ซ่อมยังหันมาถามว่า "พี่รอดมาถึงกทม.ได้อย่างไร" ... เบ็ดเสร็จก็ 6.7 หมื่นบาท เพราะความบ้าของตัวเองแท้ๆ -- ถามพวกเพื่อนที่เป็นวิศกร ฝ่ายเทคนิค ของนิสสัน เจ้าเพื่อนบอกว่า "ใครเค้าเข้าเกียร์ 1 ขึ้นเขา แล้วลาก 5 - 6 พันรอบล่ะเนี่ย ผ้าคลัชท์เกียร์ 1 มันทนรอบสูงไม่ได้ขนาดนั้น ... เอาแค่ 2 ก็พอ ยกเว้นไม่ไหวจริงๆ ค่อยตบลง 1 ระยะสั้นๆ อย่าใช้รอบสูง" (อธิบายเพิ่มเติม ในตำแหน่ง 2 แม้เกียร์จะทำงานทั้งที่ 1 และ 2 แต่ในเกียร์ออโต้ จะใช้ผ้าคลัชท์คนละชุด กับ ตำแหน่ง 1 นะครับ) เล่าไว้เป็นประสบการณ์ครับผม ... MITSUBISHI SPACE WAGON รุ่นเก่าปี 1995 เครื่อง 2.0 ลิตร Auto ตัวเดียวกับ Ultima 16V ครับผม แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 16:24:54 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 28 ส.ค. 50 16:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้ำมันเกียร์คงร้อนจัด เอาความร้อนไปปล่อยให้น้ำในระบบระบายความร้อนที่รังผึ้ง ทำให้เครื่องร้อนถึง 3/4 นะครับ ผมขึ้นเขาด้วย D และหากไม่พบอาการเริ่มจะฟรีของเกียร์(อันที่จริง Torque converter) ก็จะปล่อยไปอย่างนั้น เมื่อไรเริ่มรู้สึกว่า จะฟรี ผมดึงเกียร์ลงต่ำก่อนเลย เพราะหากปล่อยให้ฟรี ก็จะมีการทวีคูณของแรงบิดในคอนเวิร์ทเตอร์สูงมาก จะพังเร็วก็ตรงนี้แหละครับ แต่คุณเก่ง และกล้าจริงจริง ที่ขับกลับมากรุงเทพฯได้ ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่หมด แบบปล่อยให้ไหลออกมาจากคอนเวิร์ทเตอร์ด้วย ก็อาจจะยืดอายุออกไปได้อีกสักสามเดือนถึงหนึ่งปีนะครับ ฮ่า ฮ่า เกียร์ของมิตซูบิชิรุ่นนี้ ผมเคยต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกสองหมื่นเลย มันเปราะอย่างไรบอกไม่ถูกครับ ถ้าไม่เปลี่ยน ผมว่ามันออกจะไปทางข้าง Delay ตอนเข้าเกียร์ D เช้าเช้านะ ไม่ทราบว่า คุณพบปัญหานี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : xebec - [ 28 ส.ค. 50 19:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เกียร์มิตซู ตระกูลนี้ space wagon - ultima พังเป็นเรื่องปกติครับ ... หลายคนเค้าว่า เป็นเพราะระบบระบายความร้อนของออยล์เกียร์ไม่ดีพอครับ เจองานหนักก็เลยเรียบร้อยครับ ใน ultima club แนะนำให้ติดออยล์เกียร์แยกออกมาไว้หน้าหม้อน้ำ และตัดระบบออยล์ในหม้อน้ำของเดิมทิ้งเลยครับ ... ค่าใช้จ่ายพันกว่าบาท ผมว่าจะทำเหมือนกัน เพราะรถเจ้านายเก่าผม ultima ก็ทำครับ หลังจากรถเค้าเกียร์พังมาเหมือนกันครับ (รถผมรอหมดประกันก่อนครับ) ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 กม. มาตั้งแต่แรกๆแ้ล้วครับ มาหลังๆ (ปีที่ 8 ขึ้นมา) ผมเปลี่ยนทุก 6 เดือน บางทีวิ่งได้แค่ 5,000 กม. ด้วยล่ะครับ แต่น้ำมันเกียร์ในตอนนั้น ผมใช้ ATF DEXRON II ของ Mobil ตัวที่เป็นสังเคราะห์ ลิตรละ 400 กว่าบาทน่ะครับ อาการเกียร์จับช้า ความจริงเป็นตั้งแต่ออกรถแล้วครับ .. คือ บางจังหวะ ตบ D แล้วกดคันเร่งเลย จะเหมือนเกียร์ยังไม่เข้า เร่งออกไปมันจะฟรี รอบเครื่องพุ่ง แต่รถไม่วิ่งครับ แล้วก็กระตุกปังง ออกไปครับ มาหลังๆ ผมก็เลย เข้า D ยกเบรค ปล่อยไหล พอรถไหล ก็ค่อยกดคันเร่งออกไปครับ แล้วก็เจอปัญหาเรื่อง เครื่องเย็นๆ เกียร์ 1 ไป 2 มีอาการกระตุก ถ้าไม่ยกคันเร่งช่วยในจังหวะเกียร์เปลี่ยนครับ นั่นคือ อาการก่อนเกียร์จะพัง ก่อนจะไปเหนือเมื่อปีที่แล้วครับ หลังจากซ่อมเกียร์ที่ ศูนย์ใหญ่ของมิตซู ที่รังสิต เปลี่ยนหม้อน้ำใบใหม่ ... ใช้งานได้แค่เดือนเดียว ก็พบปัญหาน้ำมันเกียร์ดำ ที่รอบเกิน 4,000 ขึ้นไป เหมือนเสียงเครื่องจะดังผิดปกติ เลยนำรถเข้าเช็คอีกครั้ง ผลก็คือ ต้องยกเกียร์อีกรอบ ทางรังสิต แจ้งว่า damping torque มีสภาพเป็นขุย ... (ซ่อมทีแรก บอกว่า ผ่าทอร์คนี่นา สงสัยลักไก่แฮะ) ซ่อมเกียร์เสร็จเรียบร้อย ความรู้สึกก็ยังไม่ 100% ครับ 1. จังหวะรถติดๆ ค่อยๆขยับๆ จาก 1 ไป 2 เกียร์มีอาการกระตุก นิดนึงพอรู้สึก (ศูนย์แจ้งว่าปกติ) 2. จังหวะที่เบรค ชะลอรถ แล้วเกียร์เชนจ์ลง ในบางครั้งมีกระตุก ครับ (ศูนย์บอกว่า ปกติ เช่นเดิม) -- เกียร์ที่ซ่อมนี้ รับประกัน 1 ปีครับ จะหมดรับประกันสิ้นเดือนพฤศจิกา นี่ล่ะครับ เลยอยากเอาไปลองให้ชัวร์ก่อนหมดประกัน อิอิ -- ตอนนี้ผมยังใช้น้ำมันเกียร์ของศูนย์อยู่ครับ เพราะกลัวเรื่องการรับประกัน .. แต่อยากจะกลับมาใช้ Mobil สังเคราะห์นะครับ .. เพราะตอนก่อนกลับไปเคลมเกียร์เรื่องน้ำมันเกียร์ดำนั้น ลองใส่ครับ เสียงเกียร์เงียบ เกียร์ทำงานนุ่มนวลกว่ากันเยอะเลย ... ถามช่างซ่อมเกียร์ที่รังสิต เค้าก็ว่า ใส่ Dexron II ได้ไม่มีปัญหา แต่บางคนก็ว่า ใส่ไม่ได้ ต้อง ATF SPIII ของมิตซู เท่านั้น แถมยังบอกว่า ที่เกียร์รถผมพัง ก็เพราะไม่ใช้น้ำมันเกียร์มิตซู นี่แหละ (แต่คิดอีกแง่ ใช้มาตั้ง 11 ปีก่อนมันจะพัง คงไม่ใช่แล้วมั้ง) -- นี่ผม mail ไปถามทาง mobil ประเทศไทย ก็เงียบเชียบเลยครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 28 ส.ค. 50 20:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...มาตามอ่านเก็บข้อมูลด้วยคน อิอิ ขอไปด้วยนะป๋า นะน้า   :D ...... จากคุณ : 2boo - [ 28 ส.ค. 50 22:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณพวงแสดประมาณนี้ไม่น่าจะเหนื่อยเกินไป เราไปโรดทริปเหนือเมื่อปีต้นพย.ปีที่แล้วเขียนที่บล็อกเข้าไปดูข้อมูลได้ค่ะ.. http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=iamorange&month=21-05-2007&group=6&gblog=2 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=iamorange&month=24-05-2007&group=6&gblog=3 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=iamorange&month=05-2007&date=27&group=6&gblog=4 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=iamorange&month=11-06-2007&group=6&gblog=5 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=iamorange&month=26-06-2007&group=6&gblog=6 จากคุณ : iamorange - [ 28 ส.ค. 50 23:53:35 ]