ความคิดเห็นที่ 1 อ.หยางให้เวลาเราดูนกที่นี่ครึ่งค่อนวัน  นัดเวลากันดีแล้ว  ต่างคนก็ต่างออกเดิน   ผมเลือกจุดหมายที่จะขึ้นไปบนยอดเขาก่อนเป็นลำดับแรก  เพื่อขึ้นไปหาทำเลดูพวกไก่กระทา  แต่เมื่อแหงนคอตั้งบ่าดูแล้ว  จะปีนป่ายทื่อๆคงไม่ไหว   จึงเลือกเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อจับเส้นทางตามแนวสันเขา   แล้วนกตัวใหม่ตัวแรกก็ออกมาให้ดู  เป็นนกสีแดงกุหลาบตัวเล็กแต่น่ารัก Pink-tailed Bunting  นกตัวนี้ชื่อท้ายคือ  Bunting  แต่เขาดันเอามาวางไว้รวมในหน้าของกลุ่ม Rosefinch   เอ่อ..ตกลงใครสับสนกันละเนี่ย คนทำหนังสือหรือคนอ่าน   แต่เคยอ่านบทความจากฝรั่งนักดูนกคนนึง  เขาก็บอกว่า เจ้าตัวนี้ไม่เหมือนทั้ง Bunting หรือ Rosefinch เสียทีเดียว  เป็นพวกกึ่งๆครึ่งๆควบลูกประมาณนั้น จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 (Pink-tailed Bunting ตัวบนเมื่อกี๊ ถ่ายโดยสมาชิกชมรมดูนกซ่างไห่ที่มาเมื่อปีที่แล้ว  อันนี้ Pink-tailed Bunting  ตัวเมีย ที่ผมถ่ายพอดูได้หน่อย) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เดินหน้าต่อไป  ผมก็ได้ยินเสียงประหลาด ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน  เสียงนั้นดังมากจากทางผาหินเบื้องหน้า  ใจผมเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เหมือนเพลงของ Girly-Berry ( แต่จริงๆผู้ชายหลายคนบอก ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆกับ MV ของวงนี้มากกว่า  เป็นวงที่ยอดวีซีดี  ขายดีกว่าซีดีเพลงหลายเท่าตัว  ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ลองไปหาดูกัน  อ้ะ อ้ะ   อย่ามาขอยืมจากผมล่ะ ของหวง  อิอิ)   กะ กะ กะ  ไก่   แน่นอน  ทำเลแบบนี้!  ใจระส่ำไปพลาง  กวาดกล้องมองหาไปพลาง (Girly-Berry จากการเสิร์ช) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ๊ะ นั่นอะไร ! ตัวปุกปุยขนาดเขื่อง( อย่าคิดไกลอีกนะ ขอร้อง)  เดินอุ้ยอ้ายอยู่ข้างๆ โขดหินนั่น ไม่ใช่ไก่นี่นา   Himalayan Marmot !!! ( การี่ เบอเร้อ  เอ้ย!  Girly-Berry  เริ่มบรรเลงจังหวะแด๊นซ์ในใจผมอีกครั้ง)   เจ้าของเสียงประหลาดที่ว่านั่นเอง  ผมดีใจมากๆ ดีใจยิ่งกว่าที่ได้เจอนกชนิดใหม่อีก  แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกครั้งแรกและครั้งเดียว  เพราะหลังจากนั้น มันก็ตามมาหลอกหลอนผมทุกหนแห่ง  แต่ถึงกระนั้นผมก็อดที่จะหลุดปากชมทุกครั้งที่ส่องมองดูมันไม่ได้เช่นกันว่า   “มันน่ารักจริงๆนะ” (Himalayan Marmot) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลองดูอีกรูป  น่ากอดชะมัด จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมค่อยๆเดินไต่ตามสันเขา ขึ้นไปเรื่อยๆ  เหนื่อยจนต้องหยุด สูดลมหลายใจยาวๆเสียหลายครั้ง ทันใดนั้นเอง เสียงนกที่พุ่มไม้ใกล้ๆก็ทำเอาผมลืมอาการนั้นไป  หยิบไบนอคขึ้นมาส่องดู   White-browed Tit !!!  นกendemic ของจีนอีกชนิด  ฝูงเล็กๆหากินอยู่ในพุ่มนั้น  ฝูงที่ผมเห็นสีที่ท้องจะขาวกว่าในหนังสือมาก  อาจจะเป็นนกเด็ก หรือไรก็ไม่ทราบได้  อารมณ์นั้นผมไม่สนใจอะไรแล้ว (White-browed Tit) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เอ้ะ! นั่นมันนกอะไร ไม่ใช่ติ๊ดแน่ๆ กระหม่อมสีน้ำตาลแดง  หางสีน้ำเงิน  เจ้าเจี๊ยบย้อมสีอีกชนิดนึงนี่นา!!! White-browed Tit-Warbler!!! ( สีสันเกือบจะเหมือนกับเจ้าเจี๊ยบย้อมสีชนิดก่อนหน้านี้ แต่สังเกตดีๆตรงกระหม่อมจะต่างกันชัดเจน) เป็นนกที่ผมเชื่อว่าถ้าใครเคยเห็นรูปมาก่อน คนคนนั้นต้องฝันที่จะได้เจอมันสักครั้ง  นกชนิดนี้เกือบจะเป็น endemic แต่ก็สามารถพบได้แถบๆ  Bhutan ( สะกดกันเอาเองนะครับ ขี้เกียจมานั่งเถียงกันว่า มันภูฏาน หรือ ภูฐาน  กันแน่)  และ รายรอบหิมาลัย   เสียดายที่ผมพบในคราวนี้เป็นตัวเมีย สีสันเลยไม่สะใจเหมือนของตัวผู้  แล้วก็พบเพียงตัวเดียวโดดๆ เสียอีก (White-browed Tit-Warble จาก wwfchina) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขณะที่กำลังดูอยู่นั้น  นกที่ผมอยากเห็นมากที่สุดอีกตัวหนึ่ง  ก็มาปรากฏตัว จริงๆ เมื่อสองสามวันก่อนก็ได้เห็นแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสบันทึกภาพ  มาคราวนี้เก็บภาพได้  แต่ก็ไม่ได้เห็นใกล้เหมือนอย่างที่ผ่านมา  Kessler's Thrush   ( Kessler's Thrush ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โฮะ  โฮะ  อาการตัวลอย ใจลอย เริ่มกำเริบ  แต่เป้าหมายในใจยังไม่โดนสยบ  ผมจึงปีนเขาต่อไปจนถึงยอด  พยายามมองหาทำเล เพื่อนั่งเฝ้าหามองน้องไก่  หลังจากได้ทำเลที่คิดว่าเหมาะ ก็เฝ้ารออยู่ตรงนั้น  ซึ่งเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง ก็ต้องบอกกับตัวเองอีกครั้งว่า  “ โอกาสหน้ายังมี”   ก็เพราะการดูนกมันมีครบทุกรสแบบนี้  ผมจึงหลงใหลไปกับมัน  มีทั้งสมหวัง  ผิดหวัง แต่ไม่เคยสูญเสียความหวัง   ทำให้ชีวิตในวันข้างหน้ามีความหมายเสมอ ( Kessler's Thrush จาก wwfchina ไม่อยากให้รูปที่แล้วทำลายความงามของนกตัวนี้  อิอิ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่การเฝ้ารออยู่ตรงนั้นไม่ได้สูญปล่าวเสียทีเดียว  เพราะมียักษ์ใหญ่ ที่หน้าตาไม่ให้ แต่ใจดี   บินร่อนลมเหนือ เซี่ยงผีซานถึงสองตัว  ตัวที่ผมต้องไปลุ้นถึงโรงชำแหละมนุษย์ที่ลาซา   ซึ่งที่นี่เขามักร่อนบนฟ้ามามองดูพวกเราเสมอ  Himalayan Griffon ( Himalayan Griffon จาก wwfchina ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไต่ลงมาจากเขาเจอ อ.หยางที่แกเตร่อยู่แถวข้างล่าง  ก็แจ้งข่าวคราวให้เขาฟังว่าเจออะไรบ้าง  ก่อนหน้านี้แกไม่ยอมหอบน้ำหนักตัวเองขึ้นเขาเพราะคิดว่าไม่ไหว  แต่เมื่อผมเล่าให้ฟัง   แรงฮึดก็เกิดขึ้นมาทันที  แกรีบวิทยุบอกคนอื่นๆ ที่ระเห็จขึ้นไปอยู่บนเขา  ให้เคลื่อนพลไปยังจุดที่ผมไปเจอของดีมา ( Himalayan Griffon  บินเหนือ  Rubber Mt. ถึงนกจะดูตัวเล็กไปหน่อย แต่ส่วนตัวผมชอบนะ ดูสวยจนเหมือนไม่ใช่ของจริงเลย ฝีมือ เซินเจิ้น ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่างนั้นเองฟักทองก็หน้าตาระรื่นลงมาจากเขาพอดี  “ เมื่อกี๊เพิ่งจะเจอ  Tibetan Partridge มาล่ะ  ดีใจสุดๆ”  พอสอบถามถึงได้รู้ว่า  ฟักทองเจอ เจ้ากระทาแถวบริเวณยอดเขาที่ผมเพิ่งไปเฝ้ามาสักพักใหญ่นั่นเอง    โถ..เวรกรรม คนไปเฝ้าไม่เจอ  คนเดินผ่านทางเฉยๆ รีบลงมาดเสียด้วยดันเจอเสียได้    ถึงตอนนี้ ฟักทองเลยได้ฉายยา “ราชาไก่”  เพราะเจอไก่มากชนิดกว่าใครเพื่อนไปแล้ว (Tibetan Partridge จาก wwfchina ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างไรก็ตามความต้องการเจอนกใหม่ๆย่อมไม่ปราณีใคร  เมื่อฟักทองได้ยินรายงานจากผมก็ต้องเข้าร่วมขบวนคะยั้นคะยอให้ผมพาไปยังจุดที่ผมได้เจอ เจ้าเจี๊ยบย้อมสี White-browed Tit-Warbler ที่เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคน  ผมจึงต้องจำใจปีนเขาอีกครั้ง  ทั้งๆที่ใจจดจ่อกับ กระทาที่ฟักทองเจอมา  รวมไปถึง นกคอทับทิมอีกชนิด  ซึ่งได้ข่าวมาว่า ตอนที่ผมอยู่บนยอดเขานั้น  คนข้างล่างเขาเห็นเจ้าคอสีแดงแจ๊ดกันหมดแล้ว White-tailed Rubythroat   อาการคึกที่มีมาเริ่มจะจ๋อย  เพราะเจ้าตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในยอดปรารถนาของผมเหมือนกัน (  ตกลงมันปรารถนาทุกชนิดเลยหรือปล่าววะเนี่ย)  แล้วก็จะกลายเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดทริป  ที่เขาเห็นกันทั้งขบวน  ดันตกขบวนไปคนเดียวเสียได้ (White-tailed Rubythroat จาก wwfchina ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หอบสังขารมาถึงจุดเดิมด้วยอาการทุลัก   พวกข้างบนก็ตามมาสมทบ  แต่ตรงจุดนั้นเงียบเสียเหลือเกิน  แต่ทุกคนยินดีจะนั่งเฝ้า  ส่วนผมส่งเขาถึงฝั่ง นั่งรอเป็นเพื่อนสักพัก ก็ไม่เห็นแวว มีเพียง Kessler's Thrush   ที่ยังวนเวียนอยู่แถวนั้น  ผมเลยขอตัวลงมาตามหา  กระทา กับ คอทับทิมที่ว่า ตามลำพัง ลงมาถึงข้างล่างเดินวนเวียนบ้าง  ซุ่มบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรใหม่  สักพักใหญ่  อ.หยางเดินลงมา  แกบอกได้เจอ White-browed Tit   กันทุกคน  ยกเว้นราชาไก่ที่หาไม่เจอ (  ดูสิดวงคนเรา)  ทุกคนจึงยังรอเจี๊ยบย้อมสีอยู่ข้างบนต่อไป  ส่วน อ.หยางแกเหนื่อย  และ  ล้าแดด  เลยขอลงกลับไปพักที่รถดีกว่า  ระหว่างคุยกันอยู่นั้น  แกก็ส่งเสียงเอะอะ   “ ฮุย ซุง เกอ เสีย”( White-tailed Rubythroat )  ไหน  ไหน  อยู่ไหน จะได้เห็นกับชาวบ้านก็คราวนี้แหละ     “นั่นไง  เกาะอยู่ตรงนั้นไง”  แกพยายามบอก  ส่วนผมก็พยายามมองหาแล้ว   “ ว้า...ลงไปแล้วนั่น”  จบกัน  ความฝันของผม “น่า...เฝ้าตรงนี้แหละ  ใครๆเขาก็เห็นกันตรงนี้เดี๋ยวก็ได้เจอ  ขอตัวไปรอที่รถก่อนนะ  ผมเหนื่อย” ผมเฝ้าอยู่ตรงนั้น   นานจนทุกคน กลับลงมา  พร้อมกับอาการไม่สมหวังนักเพราะไม่ได้เจอนกที่อยากจะเห็น  เอาน่าไม่เจอกัน คนละชนิดสองชนิด  ถือว่าเจ๊ากันไป  ในที่สุดเราก็ตัดสินใจลาจากเซี่ยงผีซาน   มาพร้อมกันที่รถตู้  อ.หยางก็เล่าให้ฟังว่าก่อนที่เราจะลงมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  ตรงชะง่อนผา จุดที่ “ราชาไก่” เจอกระทานั่นแหละ Tibetan Partridge ก็มาปรากฏตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้มาเป็นฝูง  ทำเอาพวกเรายิ่งจ๋อยกันไปใหญ่  โดยเฉพาะราชาไก่ที่เห็นแค่ตอนบิน  ส่วนผมหงุดหงิดกับ  White-tailed Rubythroat ยังไม่หาย  มาเจอะ Tibetan Partridge ซ้ำดาบสอง  เลยนั่งรถด้วยอาการเงียบๆไม่อยากคุยกับใครเลย  แต่นึกดูอีกที วันหน้าก็ยังมี แล้วใช่ว่าวันนี้ผมจะไม่เจออะไรดีๆเลยก็ไม่ใช่  คิดมากไปทำไมน้อ  ถ้าเห็นหมดทุกชนิดแล้ว  คงต้องไปดูอย่างอื่นแทนดูนกแล้วกระมัง (นก Endemic  White-browed Tit อีกสักรูป นานๆจะถ่ายแบบเป็นตัวนกได้สักที) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราลาจากเซี่ยงผีซาน  เดินทางกันต่อ  มุ่งหน้าไปยังที่ที่เรียกว่า  “ฉาข่า”(Caka)   การเดินทางไปยังจุดหมายแต่ละจุด  ผมแทบจะไม่รู้เลยว่าที่ตรงนั้นพื้นที่มันมีลักษณะเป็นแบบไหน  เพราะข้อมูลที่หามาเองนั้นเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นชื่อเรียกในหลายๆจุดมักจะไม่ตรงกัน   แต่ข้อดีของการไม่รู้อะไรเลยมันก็ดีไปอย่างเพราะ มักเกิดเรื่องต่างๆที่เหนือการคาดหมายเสมอ  อย่าง  “ฉาข่า”  ผมก็นึกว่าคงจะมีลักษณะภูมิประเทศคล้ายๆที่เราคุ้นเคยกับสภาพทุ่งหญ้าบนที่ราบสูง  แต่ปล่าวเลย  เพราะ ฉาข่า  มันเป็น   ทะเลทราย!!! เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตฉาข่า   สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวของต้นหญ้า  มาเป็นสีดินของผืนทราย  ผมมองเห็นภูเขาทรายอยู่ไม่ไกลนัก ใจอยากจะลงไปสัมผัสเหลือเกิน  แต่ คิดไปเองว่าข้างหน้าเราคงเข้าไปใกล้มากขึ้น   รายรอบตัวผมคงเต็มไปด้วยผืนทราย  ถึงเวลานั้นจะเกลือกกลิ้ง  หรือ จะถ่ายรูปให้หนำใจยังไงก็ได้ แต่ผมคิดผิด  เพราะพอเรามุ่งหน้าผ่านจุดนั้นลงไปทางใต้  สภาพภูมิประเทศก็เปลี่ยนเป็น  สังคมกึ่งทะเลทราย  ภูเขาทรายหรือเนินทราย กองสูง ในตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยแล้ว ( ฉาข่า ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ.หยางสั่งให้รถหยุดเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง   แล้วบอกกับเราว่า  ตรงจุดนี้เราจะมาหา Pallas Sandgrouse  กัน   แต่เมื่อมองไปจนสุดลูกหาตา  ผมก็นึกไม่ออกเลยว่า เราจะหามันเจอได้ยังไง  เพราะมองไปจนลิบตาก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ในที่ร้อนแล้งอย่างนี้ สิ่งมีชีวิตชนิดไหนจะสามารถดำรงคงชีวิตอยู่ได้ (Pallas Sandgrouse  ภาพจากการเสิร์ช) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 50 14:26:06 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 50 14:25:31 จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 “ ปีที่แล้วเจอมาแล้วตรงนี้แหละ  ตัวนึง” อ.หยางบอก    (โหวววววว  ตั้งตัวนึง   นี่มันงมเข็มในทะเล(ทราย)ชัดๆ) แล้วแกก็แนะนำให้เราเดินเรียงหน้ากระดาน   แต่ละคนห่างกันประมาณ 10  เมตร  เดินลุยไปพร้อมๆกัน    เพื่อเพิ่มรัศมีในการมองเห็นเป็นการเอ็กเรย์พื้นที่ให้ครอบคลุม  กับ เผื่อว่า ถึงตาจะถั่ว  แต่ถ้าเดินไปใกล้นกก็อาจจะไหวตัว ให้ได้เห็นกัน เดินไปเถอะ  ยิ่งเดินยิ่งร้อน  ยิ่งเดินยิ่งหมดหวัง  ส่องกล้องมองหาครั้งใด  ก็เห็นแต่ไอความร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน  แต่ระหว่างนั้นเอง  เสียงเรียกของอาวล์น้อย ก็ประดุจดังหยดน้ำกลางทะเลทราย ( ดูที่ที่เราหา Pallas Sandgrouse  กัน เดิมงมกันเข้าไป  เห็นอาวล์น้อยตัวเท่าเมี่ยง อยู่ตรงกลางรูป) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เธอพบกับเพื่อนเก่าที่เราคุ้นหน้ามาตลอดทาง  Horned Lark  แต่คราวนี้พิเศษไปที่  เธอพบรังกับไข่ใบนึงของเพื่อนเราด้วย  เป็นรังเรียบง่ายที่วางอยู่ระหว่างกอหญ้าแค่นั้นเอง  ผมรีบบันทึกภาพ สอง สามภาพ  แล้วก็รีบเดินจากไป  เพราะไม่อยากรบกวนนกจนเกินไปนัก  ยังรู้สึกเหมือนกลุ่ม เบิร์ดคัมเฟิร์ส อยู่นะครับ  หวังว่าคงไม่มีใคร ตามมาถ่ายรังนี้ถึงนี่  อิอิ   ( รังของ Horned Lark  เห็นมั้ยเอ่ย) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยิ่งเดินเราก็ยิ่งห่าง  โดย  เฉพาะ  อ.หยางเดินไปไกลลิบแล้ว   เซินเจิ้นและเจียวหนี  ทนความร้อนไม่ไหว  กลับไปรอที่รถ    มีผม  ฟักทอง  และ  อาวล์น้อย  ที่ยังอยู่ไม่ห่างกัน   ( ถ้ารัง เมื่อกี๊มองไม่เห็น นึกว่าเป็นกอหญ้าธรรมดา  ผมพาไปดูใกล้ รังของ Horned Lark รองด้วยกอหญ้าก่อเป็นรังพร้อมด้วยไข่หนึ่งใบ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วผมก็พบนกชนิดนึง  หากินอยู่ที่พื้น  เมื่อส่องดูพบว่ามันคือ Rosefinch  ??? อ้ะ   งง  งง   งง    มันมาทำอะไรของมันที่นี่ ผมสงสัยอยู่ในใจ  แต่ที่สงสัยเข้าไปอีกว่ามันเป็น Rosefinch ชนิดไหน  เพราะตัวที่เจอ  ดันเป็นตัวเมียเสียนี่ ( หลังจากที่เอารูปถ่ายกลับมาดูอย่างละเอียด  เราสันนิษฐานว่ามัน คือ  Streak Rosefinch     (Rosefinchปริศนา ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ความสงสัยยังไม่ทันจาง  ความสงสัยที่ใหม่และแรงกว่า  ก็เข้ามาแทนที่ เมื่อผมพบ    Blanford's (Plain-backed) Snowfinch    นกฟินช์หิมะ เนี่ยนะ  มาอยู่อะไร ในที่กึ่งทะเลทรายแบบนี้  ??? ไม่เข้าใจจริงๆเลย   น่าจะเปลี่ยนชื่อให้รู้แล้วรู้แร่ด( แต่หลังจากนั้น เราก็พบ เจ้า Blanford's (Plain-backed) Snowfinch  อยู่ตลอด ในพื้นที่แล้งไร้แบบนี้)   (Plain-backed Snowfinch จากเวปไซส์เจ้าประจำ ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อั๋ยหยา ลงรูปผิดรูปบนนั่นมันPlain Mountain Finch  รูปนี้ต่างหาก จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นอันว่าทุกคนยอมแพ้แล้วสำหรับ Pallas Sandgrouse  ขืนอยู่ต่อ  คงได้เป็นมัมมี่แห้ง  กันแหง แหง   อ.หยางแกบอกว่า  โอกาสที่จะเจอพวกนี้  ต้องคอยดูตามแอ่งน้ำ  แต่ปีนี้น้ำน้อยไม่เจอแอ่งน้ำเลย( เอาเข้าที่ที่อยากให้มีน้ำดันไม่มี  ทีตอนเราอยู่ข้างล่างละตกเอ๊า ตกเอา )   โอกาสจึงน้อยตามไปด้วย เรานั่งรถกันต่อเพื่อไปยังพักในเมือง ฉาข่า (พูดซะดูดี  จริงๆมันคือ หมู่บ้านมากกว่า)  แต่ตาก็ยังไม่วาย  กวาดตามองสองข้างทาง  เมื่อพบว่าตรงไหนมีน้ำขังอยู่บ้าง  ก็จะจอดรถทันที  แต่แหล่งน้ำอยู่ชิดติดถนนเกินไป   จึงไม่ค่อยมีนกอะไรให้เราดู  แต่มีหนองน้ำแห่งหนึ่งที่เรามองเห็นห่างออกไป  จึงรีบลงไปดู  แล้วก็พบว่ามีของดีอยู่ชนิดนึง  ที่ทำให้ผมคลายความงุนงงสงสัยลงไปได้บ้าง   นั่นคือ  Small (Pere David's) Snowfinch   ฟินช์หิมะที่หายากที่สุดในบรรดา Snowfinch  ทั้ง 6 ชนิด ที่พบได้ในเมืองจีน (Small Snowfinch ) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมสันนิษฐานเอาว่า  คนตั้งชื่อตอนพบนกกลุ่มนี้คงเจอเขาอยู่ แถวๆที่ที่มีหิมะปกคลุม  แต่ถิ่นอาศัยของพวกนกจำพวกนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะที่ที่มีหิมะเท่านั้น  พวกเขาอยู่ตามทุ่งโล่งทั่วไป  โดยเฉพาะที่ที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเล  3,000 เมตรขึ้นไป( หลังจากอ่านตำหรับตำราดูดีๆก็พบว่า บางชนิดก็พบได้ที่ระดับ 1,000 เมตร จากน้ำทะเลเหมือนกัน)  ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นหน้าหนาว ส่วนใหญ่จะมีหิมะปกคลุมไปทั่ว กำลังดูอยู่เพลินๆ  ฝูงวัวและฝูงแพะ  ก็ถูกต้อนลงมากินน้ำที่แอ่งนั้น  หมดกัน  โอกาสสำหรับดูนก  เราจึงจำใจเดินทางเข้าที่พัก   ซึ่งถึงแม้พระอาทิตย์จะยังไม่ตก แต่โอกาสสำหรับดูนกในวันนั้นหมดลงแล้ว  เพราะ ลมแรงเกินกว่าที่จะเดินดูนกได้   แล้วผมก็ลองดูแล้วด้วย  เนื่องจากเสียดายเวลา   พอเก็บของเข้าที่พักเสร็จ  เลยออกเดินไปกับ เซินเจิ้น  และ ฟักทอง    เจอเอาลมแรง และเม็ดทรายที่หอบขึ้นมาตีพวกเราแตกพ่ายอย่างรวดเร็ว    คนอย่างเราน้ำหนักเป็นหลายสิบกิโลยังทนกันไม่ไหว  แล้ว นกตัวละไม่กี่กรัมมันจะไหวได้ไง    ถึงเราฝืนไปก็ไม่มีนกให้ดู  คิดได้อย่างนั้นก็จำต้องถอย  ไว้ค่อยแก้ตัวในเช้าวันต่อไป..... ก่อนจากอาจจะมีคนสงสัย ว่า นกตัวไหน คือ ขวัญใจมหาชน  ตอนนี้ขออนุญาตไม่เฉลย  ขอแปะไว้แถวตอนสุดท้ายนะครับ   (อีกไม่นานเกินรอแล้วครับ  แต่มีแววจะยืดเยื้อไปถึงตอนสิบอย่างที่เคยทีเล่นทีจริงไว้  โอ้ว.... น่ากัว)  แต่ใบ้ให้ว่า เป็นนกชนิดนึงที่ถูกกล่าวถึงในตอนนี้  แค่นั้นเองครับ  ไม่มีอะไรมาก  ก็บอกแล้วว่าอย่าคิดมาก  แน๊ แน๊  ยังไม่วายคิด  ไม่มีคำผวนหรอกครับ  อิอิ) (แอ่งน้ำที่พบ Small Snowfinch) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอยกคำขอบคุณจากกระทู้ที่แล้วมาไว้ตรงนี้นะครับ คุณไมโครไลท์ อย่าลืมเป็นพ่อสื่อให้นะ ถ้าอยากให้เพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝา  อิอิ คุณartbeeshop  ดีใจนะครับ ที่ยังมาส่งยิ้มให้เสมอ คุณ Mesia_82  ขอบคุณครับที่ติดตาม  วิวของจริงสวยกว่าภาพที่เห็นอีกนะครับ ลองหาโอกาสไปให้ได้นะครับ พี่Woodsman ผมเขียนเยอะไปเหรอครับพี่  แต่อย่ามาทักให้ยากส์  เพราะผมกะจะเขียนต่อเนื่องยาวนาน แบบเพชรพระอุแมววววว พี่พี่Go4Get จะพยายามลงให้ได้ทุกสัปดาห์ครับ  ยิ่งรู้ว่ามีคนติดตาม จะหาเวลาว่างปั่นใจขาดดิ้นเลยครับ (แต่ไม่รู้นายจะจิกหัวใช้ตอนไหนอีก) พี่ Bunting ไปสิบสองปันนาก็อย่าลืมเอาภาพเบลอๆ มาอวดนะครับ  ชมรมคนถ่ายรูปเบลอต้องสร้างสีสรรกันหน่อย ไม่งั้นบอร์ดนี้จะมีแต่ภาพใสกริ้ป  เด๋วจะไม่รู้ว่าความไม่งามเป็นอย่างไร  อิอิ พี่เอื้อ ครับพอดีที่บ้านทำฟร์มมุขอะครับ เลยมีเยอะเป็นพิเศษ  อิอิ คุ้มสุดๆอย่างที่คุณ นกกะเต็นว่าทุกประการเลยครับ (หลังที่พักในฉาข่า) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 08:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาอ่านตามระเบียบครับ จากคุณ : Mesia_82 - [ 4 ก.ย. 50 10:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้นี้ชอบภาพในความเห็นที่ 3 ที่สุด อิอิ ตามอ่านมาตลอดนะครับ อยากมีโอกาสไปเที่ยวแบบนี้มั่งจัง จากคุณ : Headbanger - [ 4 ก.ย. 50 10:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นภาพแร้งแล้วนึกถึงบรรดาเจได ไม่รู้ว่าบินไปถึงไหนกันแล้วนะ ... เฮ้อ ปีนี้ไม่แน่นา ดูเหมือนว่าจะหนาวมากๆ อาจจะมี Kessler's หลงมาบ้านเราบ้างก็ได้   ถ้าจะมีนกเดินดงชนิดใหม่ของเมืองไทย เจ้านี้ถือได้ว่าเป็น potential next! อ่านแล้วสนุกและน่าไปเที่ยวมากๆ ไม่ลองจัดทริปดูนกบ้างหรือ จะไปด้วยจริงๆ นะ จากคุณ : Trogon - [ 4 ก.ย. 50 12:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 (แหงะ  คห 16   ลงภาพปลากรอบผิด  ขอแก้ตัวให่มนะครับ  ภาพนี้ต่างหากPallas Sandgrouse  ภาพจากการเสิร์ช) จากคุณ : jucgroo - [ 4 ก.ย. 50 14:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คาดว่า กว่าจะจบคุณ Jucgroo คงรวมเล่มได้แน่เลย ต่อไปเรื่อยๆเลยคะ กำลังสนุก เพชรพระอุแมววววววววววว ชิดซ้ายไปเลย จากคุณ : Spoonbill - [ 4 ก.ย. 50 15:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สนุกมากครับ จากคุณ : คนล่าตะวัน - [ 4 ก.ย. 50 17:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มันดีครับ จากคุณ : . (ซิมเปิ้ลแมน) - [ 4 ก.ย. 50 20:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เขียนเก่งจริงๆ  นี่ถ้าจีบสาวไม่รัวเป็นไฟไปเลยหรือ  อิอิ ได้เรื่องได้ราวดี น่าไปจัง   จากคุณ : Woodsman - [ 5 ก.ย. 50 11:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สนุกดีครับ  นกก็สวยน่ารักจัง จากคุณ : ไข่นุ้ย...สมุย - [ 6 ก.ย. 50 00:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านสนุก จังค่ะ น่ารักดีด้วย จากคุณ : แม่นกลูกดก (ป๋อง ราชบุรี) - [ 6 ก.ย. 50 19:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แอบมาอ่าน...แอบมาอิจฉาอยู่เงียบๆ... จากคุณ : mr.jim.. (นายจิม..) - [ 6 ก.ย. 50 23:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 one more time , one more day , one more smile. ขอบคุณมากค่ะ ที่พานกสวยกับเรื่องราวของเพื่อนๆตัวน้อย จากคุณ : pkkk2714 - [ 7 ก.ย. 50 10:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 P' Bunting, please  wait  2-3  days  .I 'll  find the anser  for you. แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 50 21:04:12 จากคุณ : jucgroo - [ 7 ก.ย. 50 20:59:47 ]