ความคิดเห็นที่ 5
เรื่องที่สี่ คือการช้อปครับ
เรื่องนี้ถือว่าต่างคนต่างใจนะครับ แต่เล่าประสบการณ์ของครอบครัวผมแล้วกัน
เราใช้เวลาที่ร้าน Itoya ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเขียนรายใหญ่ของญี่ปุ่น แนะนำที่สาขา ginza ซึ่งเป็นตึกเก้าชั้น ที่ขายเครื่องเขียนทุกประเภทครับ แล้วทุกท่านก็คงทราบว่าเครื่องเขียนญี่ปุ่นนั้นน่าใช้เพียงไรครับ เราใช้เวลาอยู่ในนั้นประมาณครึ่งวันได้ครับ แถมยิ่งซื้อยิ่งถูกดึงดูดครับ เพราะพอจ่ายเงินในแต่ละชั้น เขาก็จะให้คูปองส่วนลดมาอีก ซึ่งสามารถใช้ได้ในการซื้อครั้งต่อไปครับ
ส่วนพวกแชมพู เครื่องสำอางนั้นก็ส่วนใหญ่ซื้อจากร้านขายยาต่างๆ ทั้งแถวโรงแรมและตามที่ต่างๆ ครับ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้เปรียบเทียบราคาด้วยนะครับ เนื่องจากแต่ละร้านนั้นราคาไม่เท่ากัน เราโชคดีที่ใกล้ๆ โรงแรมมีร้านดังกล่าวอยูสามสี่ร้าน ก็เลยมีตัวเลือกเยอะครับ
ส่วนพวกเครื่อใช้ไฟฟ้านั้น ขอให้ดูราคาจากไทยไปก่อนนะครับ กล้องถ่ายรูปบางรุ่นนั้นถูกกว่า แต่พวก ipod กลับไม่ถูกกว่ากันเท่าไร แนะให้ไปซื้อร้านที่เป็น duty free แถว akihabara นะครับ และอย่าลืมเช็คเรื่อง international warranty ด้วยครับ
สำหรับร้าน 100 yen หรือเดี๋ยวนี้บางแห่งเปลี่ยนเป็น 105 yen แล้วเนื่องจากต้องรวมภาษีเข้าไปด้วย ก็มีอยู่ทุกละแวกนะครับ แต่ร้านที่ใหญ่และมีของเยอะก็คือที่ harajuku ครับ ถ้าผ่านไปแถวนั้นอย่าลืมนะครับ จะเจอคนไทยเยอะเลย
จริงๆ แล้วน้ำก๊อกของญี่ปุ่นนั้นดื่มได้เลยนะครับ เพียงแต่ที่บ้านผมยังดื่มแล้วบ่นว่ามีกลิ่น ก็เลยซื้อน้ำขวดดื่มกัน ซึ่งก็แนะนำให้ซื้อที่ร้านร้อยเยนครับ เพราะราคา 105 เยน แต่ถ้ากดจากตู้ก็อย่างน้อย 110 - 130 yen
ถ้าซื้อของเยอะเกิน 10,000 yen จากห้าง ก็อย่าลืมไปขอคืนภาษีนะครับ ซึ่งจะได้คืนเดี๋ยวนั้นเลยครับ ไม่ต้องรอ และไม่ต้องเอาของไปแสดงที่สนามบินด้วยครับ เพียงแต่อย่าลืมเอา passport ติดตัวไปแล้วกัน
จากคุณ :
toolkids
- [
วันปิยมหาราช 19:29:29
]
|
|
|