Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เที่ยวญี่ปุ่น - Tips

    เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น เชื่อมั้ยว่าแทบจะทุกที่ที่ไป จะได้ยินคนพูดภาษาไทย เราไม่เคยไกลบ้านกันจริง ๆ เลยคิดว่าน่าจะมีอีกหลาย ๆ คนที่เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน เลยเอาข้อมูลบางอย่างที่อาจจะมีประโยชน์ในการเที่ยวของเพื่อน ๆ มากฝาก

    เราไปมาเกือบอาทิตย์ เน้นเที่ยวในโตเกียวกับเมืองใกล้ ๆ ไม่ได้เที่ยวหักโหม เพราะว่าไปพักอ่ะ ไม่อยากกลับมาแล้วเหนื่อยแฮ่กไปทำงาน เลยเป็นทริปที่เน้นกินอิ่มและนอนหลับ ฮ่า ๆ ไม่ค่อยมีรูปนะ

    1. การเดินทาง:

    ถ้าไม่ได้ใช้เจ้า Bullet Train แล้วเน้นเที่ยวในโตเกียว ไม่ต้องซื้อ JR Pass ก็ได้ ค่าตั๋วจากนาริตะมาในเมืองโดยรถไปใต้ดินประมาณ 1,200- เยนต่อเที่ยว แล้วตั๋ว TYO Pass แบบหนึ่งวัน ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน JR Train แล้วก็รถบัส ก็ราคา 1,580 เยนต่อวัน จะหลงมาก หลงน้อย ก็จ่ายเท่ากัน อิ อิ  อ้อ .... ตั๋วนี้ซื้อได้ที่เจ้าหน้าที่ขายตั๋วของแต่ละสถานีนะ ไม่ต้องไปหยอดตู้ เวลาที่เดินผ่านที่ตรวจตู้ก็มาใช้ช่องข้าง ๆ นายตรวจเนี่ยแหละ โชว์บัตรให้เค้าดู แล้วเค้าก็จะให้เราผ่านไป

    แนะนำว่าให้ขอแผนที่ทางเดินรถไฟใต้ดิน กับ JR Train จากที่สถานี หรือที่ Information Centre เอาแบบมีสีนะ เพราะว่าเวลารถแต่ละสายจะแบ่งเป็นสี ๆ จะได้ดูง่าย แล้วเวลาใช้ก็เหมือนดูสายรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินบ้านเราแหละ เพียงแต่ปริมาณสายมันเยอะกว่า วิธีดูง่าย ๆ คือ

    1.1. เราอยู่ไหน เราจะไปที่ไหน เราจะต้องเปลี่ยนสายรถไฟหรือไม่ เราจะต้องเปลี่ยนประเภทรถไฟหรือเปล่า

    1.2. รถไฟจะวิ่งไปสองทาง ให้ดูว่าเราอยู่ที่สถานีไหน แล้วสถานนีถัดไปที่อยู่บนเส้นทางที่เราจะไป (ปลายทาง) คือสถานีอะไร แล้วเลือกขึ้นรถไฟไปทางนั้น นอกจากจะสังเกตสถานีถัดไปแล้ว ยังสังเกตจากชื่อสถานีใหญ่ ๆ บนเส้นทางที่เราจะไปได้ เช่น Shinjuku, Ueno เพราะป้ายหลักที่สถานีจะบอกว่ารถที่เราเลือกจะผ่านสถานีหลัก ๆ อะไร

    1.3. บนชานชลาจะมีป้ายชื่อสถานีอยู่ ด้านล่างของป้ายจะบอกว่าสถานนีที่อยู่ถัดไปทางซ้ายและขวาคืออะไร แถมยังมีลูกศรชี้ว่าจากชานชลาที่เราอยู่ รถจะวิ่งไปทางไหน ถ้าเรารออยู่ถูกที่ลุกศรก็จะชี้ไปที่สถานีถัดไปบนเส้นทางที่เราจะไปล่ะ

    หลังจากนั้นให้ดูเวลาที่รถจะมากจากป้ายไฟวิ่ง ที่อยู่บนชานชลานั่นแหละ จะบอกสายและเวลารถเข้าไว้

    1.4. ถ้าเป็นเส้นทางนอกโตเกียว จะไม่โชว์ในแผนที่รถไฟที่เราบอกมา แต่ว่าสามารถขอรายละเอียดจากที่สถานีได้ ยิ่งถ้าเป็นไปหรือกลับจากนาริตะ เค้าจะมีรายละเอียดการเดินทาง เวลา การเปลี่ยนสายรถให้ต่างหากเลย แล้วการเปลี่ยนสายก็ออกแบบไว้ดี ลงคันหนึ่ง ต่ออีกคันหนึ่งจาก Plat Form เดียวกันได้เลย ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงบันไดตอนต่อรถ ย้ำว่าตอนต่อรถนะ ไอ้ตอนเข้าหรือออกจากสถานีน่ะ อาจจะต้องมีบ้าง ใครเป๋าหนัก อาจมีอาการแอ๊กได้ถ้าสถานีของคุณไม่มีบันไดเลื่อนอ่ะ

    1.5. รถไฟที่นี่ตรงเวลามาก อย่าโดดขึ้นคันที่มาก่อนเวลาของเรา เพราะเราอาจจะเจอตัวเองอยู่ที่ไหนก็ม่ายรู้ได้

    1.6. ถ้าต้องเปลี่ยนสายรถ หรือประเภทรถ ก็เดินตามป้ายบอกทางไปได้เลย ปกติถ้าเปลี่ยนสายเราจะไม่ต้องเดินออกจากสถานี แต่ว่าถ้าเปลี่ยนประเภทรถเนี่ย จะต้องเดินออกมาโดยผ่านจุดตรวจตั๋วของแต่ละที่ด้วย เช่น มารถใต้ดิน ไปต่อเจ อาร์ ก็ต้องเดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน มาเข้าจุดตรวจตั๋วของเจ อาร์

    1.7. ทางออกของแต่ละสถานีจะมีหลายทาง เหมือนบ้านเราเลย แถมบางที่มีแผนที่สถานีให้เลย อ่านดูว่าเราจะไปไหน แล้วก็ไปเดินออกทางนั้นแหละ ถ้าไม่ชัวร์ และไม่อยากเสี่ยงก็ถามเจ้าหน้าทีก็ได้

    1.8. รถไฟหยุดให้บริการตอนเที่ยงคืนนะจ๊ะ อย่าเที่ยวเพลินหล่ะ หรือถ้าจะเที่ยว อย่าลืมเช็ควิธีกลับบ้านล่ะ

    ถ้าไปเที่ยวเอง เราแนะนำว่าให้ใช้วันแรกในโตเกียว ขึ้นรถไฟไปนู่นมานี่ สังเกตแล้วลองใช้ดู วันเดียวก็น่าจะเข้าใจ Concept แล้ว หลังจากนั้นจะไปไหนก็สบาย

     
     

    จากคุณ : sharing - [ 24 ต.ค. 50 13:33:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom