ความคิดเห็นที่ 1 ตั้งใจจะแปะรูปนี้ครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รายการวันนี้เป็น Fullday ทัวร์ครับ สนนราคา รวมอาหารกลางวัน อาหารว่าง ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ แล้ว ก้อ คนละ 1600 บาทขาดตัวครับ ถ้าจองที่เวปไชต์ของเรือเองจะแพงกว่าจองจากเอเจ้นท์ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อ่ะๆๆ หลังจากที่คืนก่อนหน้านั้นผมพาเจ้าแดเนี่ยลตะลุยกรุงแบบเช้ายันเย็น มัวนเดียว ไปปจบที่เยาวราช กว่าจะกลับเข้ามาโรงแรมก้อปาเข้าไป เกือบๆเที่ยงคืนผมก็เลยไม่กลับบ้านละ นอนมันที่โรงแรมนี่เลย เพราะวันนี้ต้องออกแต่เช้าครับ คณะทัวร์นัดเจอกันที่ท่าน้ำสี่พระยา บริเวณ Royal River ตั้งแต่ไก่โห่ 7.30 น. ครับ เรากลัวไม่ตื่นกันมากๆก็เลยตั้งนาฬิกาปลุกทีเดียว 2 เรือน ให้ ฟร้อนโทรขึ้นมาปลุกตอนหกโมงด้วย แถมตั้งปลุกที่มือถือด้วยครับ อ่ะๆๆ เรามาถึงจุดนัดหมายตรงเวลาพอดี แต่กระนั้นก็ตามครับ ลูกทัวร์มารอก่อนหน้าเราหลายคนทีเดียว พอถึงเวลาก็เริ่มออกเดินทางกันครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่คนขับพาเราเหาะฟิ๊ววว ... ขึ้นทางด่วนมาเลยครับ ... รถโค้ชก้อสูงเลยสามารถมองวิวด้านล่างทางด่วนได้เต็มที่เลย ผ่านบ้านใครมั่งป่ะครับ อิอิอิ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้คุณไกด์เป็นคุณลุงอารมณ์ดี ข้อมูลปึ๊ก .. มีแจกชีทประกอบด้วยครับ .. แหม นึกว่ามาทัศนศึกษากะโรงเรียน ได้มารีบอ่านใหญ่เลย กลัวออกสอบ อ่ะๆๆๆ ฟังคุณลุงคุณโน่นคุยนี่ไป มือก้อถ่ายรูปไป จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผ่านคลังสินค้าของการรถไฟ ตรงบางซื่อ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หมอซิดๆ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... พี่คนขับรถยิงยาวมาลงบางปะอินเลยครับ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีก็เห็นนาข้าวเขียวๆแล้ว จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 22:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาเชียร์ ไกด์ผี สู้ๆ จ้า ......... จากคุณ : cultureclub - [ 3 พ.ย. 50 22:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไกด์ผี สู้ตาย !!!  ก็ตามพี่นามาอ่ะ จากคุณ : prettyguide - [ 3 พ.ย. 50 22:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หวัดดีครับพี่นา พี่นุศ ... มาลุ้นกันครับว่าจะสำเร็จหรือเปล่า อ่ะๆๆ ... สองสาวนี่นอนดึกนะเนี่ยะ.. อิอิอิ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แง๊ ... คูหาผมหายไปอีกแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลจากวิกิพีเดียเหรอคับ?? ใครช่วยไขข้อข้องใจให้ผมที ... หรือว่าห้ามโพสข้อมูลจากวิกิพีเดีย แล้วทำไมกระทูเก่าของผมก้อมีข้อมูลจากวิกิพีเดียได้ล่ะ คราวนี้ทำไมโพสไม่ได้ เพราะอะไรครับ ไม่เข้าใจ !!!! จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 3 พ.ย. 50 23:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาช่วยเกาหัวด้วยคน...งงนิ จากคุณ : แม่น้องมีน (แม่ซากานะ) - [ 3 พ.ย. 50 23:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 น้องทนาย ไปดูท้ายทู้เดิม ไม่ก็เช็คหลังบ้านเลยจ้า จากคุณ : cultureclub - [ 3 พ.ย. 50 23:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พี่เข้ามาก็ตอนแสงดาวกระจ่างฟ้าซะแล้ว... เข้ามาดูกรุงเทพฯ ในมุมมองของน้อง แล้วตามต่อไปยังบางประอิน วันนี้ พี่ไปทัวร์ รพ.มาอีกแล้ว วนเวียนเข้าออกแต่กับรพ.นี่ล่ะ ถ้าคราวนี้ไม่หายสนิท ...  ก็ ไม่รู้จะทำไงแล้วล่ะ ... หมดปัญญาล่ะ ... จากคุณ : Zorakun - [ 3 พ.ย. 50 23:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลบคูหาอ่ะลบได้ครับ แต่น่าจะให้ความกระจ่างกันบ้างนะครับว่าลบเพราะอะไร นี่ก้อลบไปอีก 1 ละ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 3 พ.ย. 50 23:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้องบอลจ๊ะ.. พี่ว่า ในคห ที่น้องพิมพ์ อาจจะมีคำต้องห้ามน่ะ จากคุณ : Zorakun - [ 3 พ.ย. 50 23:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โทษครับพ่อแม่พี่น้อง ไม่สามารถเอาประวัติของพระราชวังบางปะอินมาโพสให้ความรู้แก่พ่อแม่พี่น้องได้เลยครับ รบกวนให้ตามไปอ่านที่ลิงค์นี้ทีครับ แล้วช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับว่า "คำต้องห้าม" คือคำไหนครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99 จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเชื่อว่าหลายๆท่านได้เคยไปเยือนบางปะอินมาอย่างน้อยๆก้อครั้งหนึ่ง บางท่านอาจจะเคยได้ไปเยือนมากกว่า 1 ครั้ง ส่วนผม นับไม่ถ้วนครับ ครั้งนี้ก้อเป็นครั้งที่กี่สิบแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมก้อยังชอบไปเที่ยวบางปะอินอยู่ดีครับ แม้กระทั่งในหนังสือเรื่อง "สี่แผ่นดิน" ก็ยังมีฉากหนึ่งที่กล่าวถึงบางปะอินไว้ เมื่อครั้งที่พลอยได้ตามเสด็จ ฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่บางปะอิน หลังจากที่พลอยได้ทราบข่าวว่าพี่เนื่องซึ่งเป็นพี่ชายของช้อย ได้แต่งงานไปเสียกับผู้หญิงคนอื่น และที่นี่เองที่พลอยได้พบกับคุณเปรม โดยใน "สี่แผ่นดิน" ได้กล่าวถึงบางปะอินไว้ว่า "บางปะอิน เป็นคำศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาววังเกือบทุกคน เพราะบางปะอินหมายถึงชนบทนอกกรุง หมายถึงท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำเจิ่งนองและดอกบัวงามสล้าง บางปะอินเป็นที่ที่มีอากาศโปร่งสบาย ร่มรื่นด้วยพันธุ์พฤกษชาติมีสระและคลองเต็มไปด้วยน้ำใสสะอาด มีลมบริสุทธิ์พัดมามิได้ขาด" (ค้ดมาอีกทีจากหนังสือเรื่อง สี่แผ่นดิน โดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์  ปราโมช) จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คำต้องห้ามเพียบเลย น้องเอ๊ย... เอาแต่รูป แล้วก็บรรยายย่อๆหน่อย น่าจะได้นะจ๊ะ อยากรู้ว่า Day Trip ครั้งนี้คุ้มค่าหรือเปล่า เผื่อมีแขกต่างบ้านต่างเมืองมา จะได้พาไปมั่ง ไม่ต้องขับรถเองให้เมื่อย (ขากลับเป็นนั่งเรือใช่ไม๊คะ) จากคุณ : cultureclub - [ 3 พ.ย. 50 23:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 23 .......แวะมาบอกให้รู้ว่า  แอบดูอยู่.... **กลับออกไปอย่าง....อ่อนแรง** จากคุณ : KRATAIPA - [ 3 พ.ย. 50 23:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พื้นที่ของพระราชวังบางปะอินนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วย พระที่นั่งซึ่งทรงใช้สำหรับการออกมหาสมาคมและพระราชพิธีต่างๆ สิ่งสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นนอกของพระราชวังบางปะอิน ได้แก่ หอเหมมณเฑียรเทวราช สภาคารราชประยูร พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และพระที่นั่งวโรภาษพิมาน เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับของฝ่ายใน และข้าบาทบริจาริกา ประกอบด้วย ที่ประทับ พลับพลาและศาลาต่างๆ ซึ่งสร้างอยู่ในพระราชอุทยานขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นใน ได้แก่ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร หอวิฑูรทัศนา พระที่นั่งเวหาญจำรูญ พระตำหนักฝ่ายใน และอนุสาวรีย์ 2 แห่ง จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลุ้นอย่างแรงครับพี่นา ... ก๊อบข้อมูลมานั่งรีไรท์ให้ไม่มีคำต้องห้ามครับ ขอข้ามประวัติไปเลยนะครับ พี่กระต่ายป่าจ๋า .. ขอบคุณครับพี่ .. รีวิวกระทู้แบบ งงๆ ปน ลุ้น อ่ะๆๆ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ...สู้ๆ ... ป้าไปนอนก่อนเน้อ.. จากคุณ : cultureclub - [ 3 พ.ย. 50 23:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เขตพระราชฐานชั้นในเชื่อมต่อกับเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้วยสะพานที่มีลักษณะพิเศษ คือ มีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดกั้นกลางตลอดแนวสะพาน เพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าด้านหนึ่งและฝ่ายในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฝ่ายในสามารถมองลอดออกมาโดยตัวเองไม่ถูกแลเห็น สะพานนี้เชื่อมจากพระที่นั่งวโรภาษพิมานกับประตูเทวราชครรไล ซึ่งเป็นประตูทางเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พี่นา ช่วยให้ความกระจ่างแล้วใช่ป่ะพี่ทนาย ตกลงเราต่างคน ต่างเป็นพี่ ก็แล้วกัน ช่วยไม่ได้ ก็เรามันหน้าเด็ก ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะเข้ามาให้กำลังใจต่อจ้า.. จากคุณ : prettyguide - [ 3 พ.ย. 50 23:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กู๊ดไนท์ครับพี่นา ... พรุ่งนี้มาอ่านให้จบนะครับพี่ อิอิอิ จากรูปบนลองจินตนาการดูนะครับว่าฝ่ายหน้าจะเดินด้านหน้าบานเกล็ด ครือว่าเดินกลางแดด ไม่มีหลังคาครับ แต่ฝ่ายในเดินทางเดินหลังบานเกล็ดมีหลังคาคลุมครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่ะๆๆ พี่นุศ จ๋า กู๊ดไนท์อีกคนจ้า .. ไปกันหมดเลยวุ๊ย เสียวสันหลังวาบๆ อิอิ สภาคารราชประยูร เป็นตึกสองชั้น ตั้งอยู่ริมน้ำ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2419 สำหรับเป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบัน ใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : northo - [ 3 พ.ย. 50 23:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หอเหมมณเฑียรเทวราช สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2415 - 2419 มีลักษณะเป็นปรางค์ศิลา ซึ่งจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูป ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 3 พ.ย. 50 23:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งทรงปราสาทโดยจำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระราชวังบางปะอินเลยครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 00:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พระที่นั่งองค์นี้เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2415 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 มีลักษณะเป็นพระที่นั่งปราสาทโถงองค์เล็ก ในแบบปราสาทจตุรมุข สร้างด้วยเครื่องไม้ มีหลังซ้อนเป็นชั้นๆแบบไทย มีมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน หลังคาเครื่องยอดทรงปราสาท ประดับด้วยครุฑยุดนาคทั้ง 4 มุม บริเวณหน้าบันทั้ง 4 ด้านเป็นรูปตราอาร์ม หรือ ตราแผ่นดิน ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยแท้ๆ ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ***แก้ไขข้อความครับ*** แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 07:09:21 จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 00:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พระที่นั่งองค์นี้ ได้เคยเป็นที่สำราญพระราชอิริยาบทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเคยได้ใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ (บุนนาค)) เมื่อปีพุทธศักราช 2447 *** แก้ไขข้อความครับ *** แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 07:13:57 จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 00:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตาจะปิดแล้ววครับ ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้เช้ามาต่อกันใหม่ครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 00:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 .....ฝันดีค่ะ... จากคุณ : KRATAIPA - [ 4 พ.ย. 50 00:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาลุ้นดูต่อค่ะ จำแม่นจริงๆว่าในสี่แผ่นดินก็กล่าวถึงบางปะอินเอาไว้ ต้องไปพลิกอ่านใหม่บ้างแล้ว จากคุณ : Red-Rose-14Feb - [ 4 พ.ย. 50 01:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จากตลุยกรุง(เทพ) สู่ตลุยกรุง (เก่า) ไม่ได้ไปนานมากแล้ว...คิดถึงบางปะอินจัง แสดงความเสียใจกับกระทู้ที่หายไปด้วยค่ะ แต่ไม่เป็นไรเห็นมีคนเอาใจช่วยคุณและตามรออ่านอยุ่อีกหลากหลายคนทีเดียว นอนหลับให้เต็มอิ่มแล้วมาฮึดกันใหม่หละกันเนอะ :) PS!หนนี้ไม่มีอารายที่ทานได้...ผิด concept คุณทนายอ้วนไปรึป่าว :) จากคุณ : C'est moi..Janvier - [ 4 พ.ย. 50 01:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พอคุณทนายอ้วนตื่นมารีวิวใหม่ เราจะเจอบุฟเฟ่เป็นทางยาวๆ อร่อยๆไหมหนอ...หิหิ ^_^ จากคุณ : marzo คนชอบเที่ยว (marzo) - [ 4 พ.ย. 50 03:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาแร๊ววววครับผม พ่อ แม่ พี่ น้อง ... ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ไก่โห่ จะมาโพสต่อให้จบครับ หวัดดีครับคุณ Red-Rose-14Feb สี่แผ่นดิน เป็นหนังสือโปรดเล่มนึงของผมเลยครับ อ่านไม่รู้กี่รอบ มันเลยจำได้ครับ คุณแจนครับ รออีกประเดี๋ยวครับ เดี๋ยวจะมีของกินได้ อ้ะๆๆ คุณmarzo ครับ เดี๋ยวพันทิบเค้าจะย้ายผมไปอยู่ก้นครัวละครับ อ่ะๆๆ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 06:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นพระที่นั่งทรงตึกชั้นเดียว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2415 ตรงบริเวณที่ประทับเดิมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระที่นั่งทรงตึกชั้นเดียว ศิลปะแบบคอร์รินเธียนออร์เดอร์ ***แก้ไขข้อความครับ*** แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 07:19:55 จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 06:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พระที่นั่งวโรภาษพิมาณเมื่อแรกสร้างเป็นอาคารตึก 2 ชั้นต่อมาเมื่อพุทธศักราช 2428 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ดัดแปลงให้รื้อลงเป็นชั้นเดียว และมีท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ ภายในห้องโถงรับรองและห้องทรงพระสำราญ ประดับภาพเขียนสีน้ำมัน ภาพพระราชพงศาวดารประกอบโคลงบรรยายภาพอันงดงามทรงคุณค่า เป็นภาพเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย และฉากต่างๆ จากวรรณคดีไทยหลายเรื่อง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วาดภาพเหล่านี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2430 ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับเมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐานยังพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 07:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ใช้เป็นท้องพระโรงเสด็จฯ ออกว่าราชการ สถานที่ทรงประกอบพระราชพิธีต่างๆ และใช้เป็นที่ประทับ นอกจากนั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสพระราชทานแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในขณะที่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา กับ หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัฒน์ พระที่นั่งองค์นี้ปัจจุบันได้เปิดให้เข้าชมภายในได้แต่ห้ามถ่ายภาพครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 07:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรือนแพพระที่นั่ง พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นแบบเรือนไทย ตัวเรือนสร้างด้วยไม้สักทอง หลังคามุงด้วยจากแบบโบราณ ภายในจัดแบ่งเป็นห้องต่างๆเป็นสัดส่วน บานประตูเฟี้ยมแกะสลักเป็นลวดลายเครือเถาลงสีทอง จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 07:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เรือนแพพระที่นั่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เป็นที่พักแรมสำหรับการเสด็จพระพาสต้น เป็นที่สำราญพระราชอิริยาบท และได้นำขึ้นไปรับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีที่จังหวัดอ่างทองเมื่อคราวเสด็จฯ กลับจากนครเชียงใหม่ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 07:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาเที่ยวบางปะอินตอนเช้าจ้าคุณทนาย สวยจังเน้อะ จากคุณ : ลาเต้แก้วหญ่ายๆ - [ 4 พ.ย. 50 08:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หวัดดีตอนเช้าๆ จ้าพี่ลาเต้ฯ ผมชอบบางปะอิน ... แล้วก้อ พระที่นั่งวิมาเมฆครับ .. สวยโรแมนติก มากๆครับ กระโจมแตร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาศน์ ตรงเชิงสะพานตุ๊กตาพอดี เป็นศาลาแปดเหลี่ยม ศิลปะการก่อสร้างแบบสเปน เดิมใช้เป็นที่ทหารเป่าแตรถวายพระเกียรติคราวเสด็จพระราชดำเนินฯ ตอนนี้เป็นจุดชมวิวของพระราชวังบางปะอินไปแล้วครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ อารมณ์เสียแล้ว (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สะพานตุ๊กตา เป็นสะพานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์ที่กรุงโรมประเทศอิตาลี (ผมขอเดาว่าเป็นสะพานที่ทอดข้ามไปยัง Castel Sant' Angelo) โดยรูปปั้นเทพกรีกทั้งหมดได้สั่งตรงมาจากยุโรป จากสะพานนี้สามารถมองเห็นพระราชฐานชั้นนอกได้โดยรอบครับ **ขออนุญาตซ้ำรูปนะครับ** จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จากนั้นเราจะเข้ามาชมส่วนที่เป็นพระราชฐานชั้นในกันครับ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน ถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นว่าถนนทุกสายจะมุ่งสู่พระที่นั่งองค์นี้ เดิมเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น แบบชาเลต์ของสวิส คือมีเฉลียงทางเดินที่เรียกว่า "เวรันด้า" (Varanda) โดยรอบทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกันทั้งองค์พระที่นั่ง ภายในตกแต่งแบบยุโรป ด้วยเครื่องเรือนแบบฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 เป็นชุดเดียวเข้ากันหมดทั้งพระที่นั่งอย่างงดงาม จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร องค์เดิมสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2420 ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างในตอนนั้น 70 ชั่ง หรือ 5,600 บาท โปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ในระหว่างวันที่ 22 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2433 แกรนด์ดยุคซาร์วิตส์ (Grand Duke Czarevitch) มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย ซึ่งต่อมาขึ้นครองราชเป็น พรเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้โปรดเกล้าฯ ให้ ประทับที่พระที่นั่งองค์นี้  ต่อมาในปีพุทธศักราข 2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้โปรดเกล้าฯ ให้ จัดเป็นที่ประทับของ ดยุค โยฮัน อัลเบรต แห่งเยอรมัน จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นประทับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดปรานมากที่สุด ได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับบางคราวถึง 3 ครั้งต่อปี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในปี พ.ศ. 2481 ขณะที่มีการดำเนินการซ่อมทาสีพระที่นั่งได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้พระที่นั่งหมดสิ้นทั้งองค์ เหลือแต่หอน้ำลักษณะคล้ายหอรบของยุโรปเท่านั้น จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นใหม่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบวิตทอเรีย เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ เช่นห้องพระบรรทม ห้องจัดเลี้ยง เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐาน และรับรองพระราชอาคันตุกะ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 09:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เก๋งบุปผาประพาส สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2428 เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เรียกว่า เรือนขนมปังขิง มีลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ตั้งอยู่บนฐานก่ออิฐถือปูน มีมุข 2 มุข ประดับด้วยลวดลายไม้ฉลุอยู่ในวงกลมทั้งสองด้าน ชายคาไม้ทั้งด้านบนและด้านล่างประดับตกแต่งด้วยลวดลายไม้ฉลุเช่นเดียวกัน รอบอาคารมีบานเกล็ดสามารถดึงเปิดเพื่อรับลมได้ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 56 พระที่นั่งเวหาญจำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างแล้วเสร็จในปีพุทธศักราช 2432 ใช้เวลาก่อสร้สงประมาณ 10 ปี เป็นพระที่นั่งสองชั้น สร้างในแบบศิลปะจีนอย่างงดงาม โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในไทยสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2432 พระที่นั่งองค์นี้ มีนามตามภาษาจีนด้วยว่า " เทียนเหมงเต้ย " แปลว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง ( เทียนเหมงเต้ย --> เทียน - เวหา, เหมง - จำรูญ, เต้ย - พระที่นั่ง ) ภายในห้องกลางชั้นบนของพระที่นั่ง เป็นที่ประดิษฐานพระที่นั่งเก๋ง 3 องค์ติดต่อกัน ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ ลงรักปิดทองงามอร่าม ช่องตะวันตกประดิษฐานพระป้ายจารึก ( อักษรจีน ) พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธย กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2433 ช่องกลางเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และช่องตะวันออกประดิษฐานพระป้ายจารึก ( อักษรจีน ) พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธย สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2470 ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศลสังเวยพระป้าย ในวันตรุษจีนทุกปี จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พระที่นั่งเวหาศจำรูญ และ หอวิทูรทัศนา จากพระราชอุทยานครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หอวิฑูรทัศนา เป็นหอสูงยอดมนศิลปะแบบยุโรปผสม สูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม มีความสูงทั้งสิ้น 30 เมตร ทาสีเหลืองสลับแดง หอยอดคลุมด้วยหลังคาครึ่งวงกลม ภายในมีบันไดเวียนขึ้นไปสู่ชั้นบนทั้งสิ้น 112 ขั้น ตั้งอยู่กลางเกาะในพระราชอุทยาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2424 เพื่อใช้เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง และดูดาว จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน ในปี พ.ศ. 2423 เนื่องจากเรือพระที่นั่งเกิดอุบัติเหตุล่มลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณหน้าวัดพระนางเรือล่ม ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นยิ่งนัก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์หินอ่อนขึ้นเพื่อเป็นที่รำลึกถึงด้วยความอาลัยรัก พร้อมทั้งจารึกคำไว้อาลัยที่ทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เองไว้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ในปี พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง ด้วยทรงสูญเสียพระอัครชายาเธอฯ และพระราชโอรส และพระราชธิดาถึง 3 พระองค์ในปีเดียวกัน คือ สมเด็จเจ้าฟ้าสิริราชกกุธภัณฑ์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2430 พระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2430 และสมเด็จเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2430 ดังนั้นในปี พ.ศ. 2431 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ที่ระลึกทำด้วยหินอ่อนแกะสลักพระรูปเหมือนไว้ใกล้กับอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อนุเสาวรีย์ทั้ง 2 แห่งนี้ตั้งอยู่ในพระราชอุทยานที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม่นานาพันธุ์ ใกล้ๆกันนั้นมีศาลาไทยตั้งอยู่บนเนิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์โปรดปรานมาก จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 นี่ดอกอะไร..ใครรู้ช่วยบอกทีครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วก็ออกมาเป็นลูกแบบนี้ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ประตูเทวราชครรไล เดิมเรียกว่าประตูเทวราชดำรงศร ตั้งอยูแนวกำแพงด้านใต้ เป็นอาคารตึกชั้นเดียวทรงโค้งครึ่งวงกลม เป็นทางเสด็จพระราชดำเนินจากฝ่ายหน้าผ่านเข้าสู่ฝ่ายใน จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อีกรูปนะครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เรามีเวลาอยู่ที่บางปะอินเพียงแค่ 1.45 ชั่วโมงเท่านั้นครับ เดินไปเรื่อยๆ นึกว่าจะพอมีเวลาเหลือแอบข้ามกระเช้าไปเดินเที่ยววัดนิเวศนธรรมประวัติที่มีพระอุโบสถเหมือนโบสถ์ศาสนาคริสต์ ศิลปะแบบโกธิก แล้วก้อโซ๊ย ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดซะหน่อย พอมองนาฬิกาโอ้โห จวนเจียนเวลานัดมากๆ เราก้อเลยต้องรีบอำลาบางปะอินไปขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่อไปครับ พอขึ้นรถโค้ชมามีเรื่องตื่นเต้ลเล็กน้อยครับ ปรากฎว่ามีลูกทัวร์หายไป 1 คู่ 2 คน อ่ะๆๆ ปรากฎว่าไกด์ไปตามมาได้ครับ ไม่ทราบว่าฝ่ายหญิงงอนอะไรฝ่ายชายไม่ทราบเกิดไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำครับ ผมกะแล้วว่าต้องเป็นคู่นี้เพราะเห็นยืนเถียงกันตอนอยู่ในพระราชวังบางปะอิน ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยววัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาครับผม สำหรับตอนที่ 1 ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมนะครับ จากคุณ : ไกด์(ผี)อ้วนๆ (ทนายอ้วน) - [ 4 พ.ย. 50 10:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มาตามสัญญาจ้า.. รอตอนต่อไปนะจ๊ะพี่ทนาย จากคุณ : prettyguide - [ 4 พ.ย. 50 12:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาดูจบแล้วเหมือนกันจ้า... (ให้ค่าแฟนคลับก็ดีหรอกเนอะ นุศ) จากคุณ : cultureclub - [ 4 พ.ย. 50 14:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อยากทราบเหมือนกันว่าคห. 62 ต้นอะไรหนอ เราเดา ...กะ ทก รก (เดาคะ ไม่รู้หรอก กะ ทก รก หน้าตาเป็นเช่นใด จากคุณ : marzo คนชอบเที่ยว (marzo) - [ 4 พ.ย. 50 14:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามาไม่อยากดู  ......หยิ่ง ไปละ จากคุณ : มณีสยาม - [ 4 พ.ย. 50 16:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 71 พี่นุศจ๋า ... ตอนต่อไป คัมมิ่งซูนจ้า ขอไปย่อรูปก่อนเน้อ พี่นาจ๋า ... ค่าแฟนคลับ มะมีอ่ะจ้า ... ทนายอ้วนกระเป๋าแห้ง อิอิอิ คุณ marzo จ๋า .. ไม่น่าใช่นะครับ กะทกรก มันเป็นเถาไม่ใช่เหรออ อิอิอิ แง๊ๆๆ แม่มณียังไม่หายงอนอ่ะ .. ทำไงดีพี่โซ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 4 พ.ย. 50 18:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตามมาเที่ยวคร๊าบบ จากคุณ : ทะเลทะเล - [ 4 พ.ย. 50 19:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ได้มาดู..... แต่มาแจ้งความจับไกด์ผี...ฮี่ฮี่ฮี่ จากคุณ : donatt76 - [ 4 พ.ย. 50 20:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ตามมาดูด้วยคน จากคุณ : Inukshuk - [ 5 พ.ย. 50 00:15:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตามมาเที่ยวค่า ไปยุดยา ต้องพาไปกินกุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้า จากคุณ : นู๋ปรางฝันเฟื่องเรื่องเที่ยว - [ 5 พ.ย. 50 08:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 76 หวัดดีครับคุณ ทะเลทะเล พี่โดนัท จะมาแจ้งจับไกด์ผี เหรอ อ่ะๆๆ เดี๋ยวก้อโดนข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยว หัวจายยย หรอกพี่ อิอิอิ ป้า Inukshuk จ๋า ... รอรีวิวของป้าตอนต่อไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวผมจะรอปล่อยของหลังรีวิวของป้าจ้า อิอิอิ นู๋ปราง ตามมาไวๆจ้า เดี๋ยวตกรถ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 5 พ.ย. 50 12:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ้าวๆคุณทนายอ้วน คนแก่ทำอะไรล่าช้าไม่ต้องรอร้อก เดี๋ยวมิครรักแฟนเพลงของคุณเค้าจะรอนาน จากคุณ : Inukshuk - [ 5 พ.ย. 50 16:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ว่างงพาไปมั่งนะ จากคุณ : bicycle_trend - [ 6 พ.ย. 50 10:01:06 ]