ความคิดเห็นที่ 1 วันที่สองเรามีโปรแกรมที่จะขับไปตาม George Parks Highway ไปยังอุทยานแห่งชาติ Denali โดยจะแวะที่เมือง Talkeetna เพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินเล็กไปลงบนธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติ แล้วถ้ามีเวลาเหลือก็อาจจะไปล่องแก่งแถวๆหน้าอุทยานต่อ ตอนเช้านี้ตื่นมาก็เจอเมฆมืดครึ้มเช่นเคยทำให้เสียวๆว่าจะขึ้นเครื่องบินแล้วจะได้เห็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ก็ได้แต่ลุ้นๆอยู่ว่าให้ฟ้าจะเปิดตอนไปถึงเมือง Talkeetna แล้ว แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 16:29:30 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมือง Talkeetna อยู่ห่างจากเมือง Palmer ไปทางเหนือประมาณ 84 ไมล์ (135 กม.) บนทางผ่านที่จะไป Denali NP แต่ต้องแยกจาก George Parks Hwy ไปอีก 14 ไมล์ครึ่ง (23 กม.) เมืองนี้เป็นเมืองที่ยังคงความเป็น Alaskan Town ไว้เป็นอย่างมากนั่นคือเป็นเมืองเล็กๆที่ยังมีบรรยากาศแบบสมัยตื่นทองอยู่ ที่สำคัญเมืองนี้ยังไม่มี McDonald หรือ Walmart เข้ามารุกราน ความสำคัญในปัจจุบันของเมืองนี้ก็คือเป็นที่ที่นักปืนเขาที่จะไปปีน Mt. McKinley (ยอดเขาใน Denali NP ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ) ใช้เป็นฐานก่อนที่จะเช่าเครื่องบินเล็กจากเมืองนี้ไปส่งที่ Kahiltana Glacier ที่เป็นที่ตัั้งของ base camp สำหรับปีน Mt. McKinley ปีๆหนึ่งมีนักปืนเขามาที่เมืองนี้ประมาณ 1000-1300 คน  ถ้าอากาศในปีนั้นเป็นใจ อัตราการประสบความสำเร็จในการปีนก็จะก็เกิน 50% แต่ถ้าอากาศแย่ อัตราความสำเร็จก็ไม่ถึง 40%  และก็มักจะมีนักปีนเขาเสียชีวิตด้วย เพราะฉะนั้นสถานที่ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในเมืองนี้ ก็คือสุสานที่ฝังร่างของนักปีนเขาที่เสียชีวิต สำหรับนักท่องเที่ยวธรรมดาอย่างเราๆท่านๆนั้น ที่เมืองนี้มีบริการเครื่องบินเล็กอยู่หลายเจ้าสำหรับบินชมเทือกเขา Alaska Range และบรรดาธารน้ำแข็งโดยมี option สำหรับบินลงจอดบนธารน้ำแข็งให้เลือกกันได้ตามอัธยาศัยและกำลังทรัพย์ จริงๆบริการเครื่องบินเล็กชม Mt. McKinley นั้นสามารถขึ้นได้หลายที่ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าอุทยานแห่งชาติเองหรือแม้แต่จากเมือง Anchorage แต่ถ้าดูจากแผนที่แล้วจะเห็นว่าเมือง Talkeetna นั้นอยู่ใกล้ Mt.McKinley ที่สุด และราคาก็ถูกกว่าที่อื่นๆด้วย รูปถ่ายเมือง Talkeetna จากอากาศในวันที่อากาศดีๆ รูปจาก http://www.terragalleria.com จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราไปถึงเมือง Talkeetna ประมาณเก้าโมงครึ่งจากกำหนดการที่จะขึ้นเครื่องบินกันตอนสิบโมงครึ่ง ท้องฟ้าก็ยังมืดครึ้มได้ใจจริงๆ ทริปนี้เราเลือกบริการเครื่องบินเล็กของบริษัท Talkeetna Air Taxi จากทั้งหมดห้าบริษัท ซึ่งจากที่อ่านรีวิวมา การบริการและคุณภาพพอๆกัน เลือกเอาได้ตามใจชอบ ตอนแรกแฟนผมอยากขึ้นกับอีกเจ้าเพราะใช้เครื่องบินสีแดงสวยดี แต่พอดีเวลาที่เราต้องการเต็มซะก่อน สำหรับ Talkeetna Air Taxi นั้นได้รับการรีวิวว่าบินได้นิ่มมากก็เลยเลือกเจ้านี้ไปอย่างไม่ลังเล หลังจากเข้าไปสอบถามถึงสถานการณ์ที่เคาน์เตอร์ ก็ได้รับข่าวร้ายว่าวันนี้ทัศนวิศัยไม่ดีตั้งแต่เช้า ยังไม่สามารถเอาเครื่องขึ้นได้เลย บน base camp ก็มีนักปีนเขารอลงมาอยู่ก็ไม่สามารถเอาเครื่องไปรับได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่แนะนำให้รออยู่จนถึงกำหนดเวลาที่เราจะบิน เผื่ออากาศจะดีขึ้น หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่นิดหน่อยพร้อมกับบอกว่า เมื่อคืนดูพยากรณ์อากาศก็ดูเหมือนว่าวันนี้อากาศจะดีนี่ ก็เลยได้ความจากเจ้าหน้าที่ว่าพยากรณ์อากาศในอลาสก้านี่ แม่นพอๆกับนั่งทางในนั้นแหละ (เค้าใช้ศัพท์ว่า voodoo magic) เพราะอากาศในเช่วงหน้าร้อนนี้จะแปรปรวนมาก ส่วนใหญ่พยากรณ์อากาศที่นี่จะเอาไว้ใช้เป็นแนวทางเฉยๆแต่ยึดถือจริงๆจังๆไม่ได้ หลังจากออกจากสำนักงานมามีเวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็เลยไปเดินเล่นกันในเมืองพร้อมกับลุ้นกันสุดใจขาดดิ้น ถนนเส้นสำคัญในเมืองนี้ที่มีร้านรวงต่างๆตั้งอยู่คือ Main St. ร้านค้าที่นี่ตกแต่งได้ดึงดูดความสนใจมากๆ ส่วนใหญ่เป็นร้านเล็กๆน่ารักๆขายของที่ระลึกและอาหาร ร้านที่เป็น landmark อย่างเช่น ร้าน Nagley's Store เป็นร้านที่มีความสำคัญกับนักปืนเขามาตั้งแต่ในอดีต โดยเป็นที่ที่่นักปีนเขามาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันทั้งคนที่กำลังจะขึ้นไป และพวกที่ลงมาแล้ว นอกจากนี้ในเมืองนี้ยังมีสำนักงานของ Danali NP อีกด้วย สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลสำหรับจะไป Denali NP หรือไปปืนเขาได้ จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าขับไปจนสุดถนนสายนี้จะมีที่จอดรถ แล้วสามารถเดินไปชมแม่น้ำ Talkeetna ได้ ในวันที่อากาศดีนี่จากจุดนี้ ถ้ามองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเห็น Mt. McKinley ตระหง่านสวยงาม อย่างรูปข้างล่างนี้ควรจะเห็น Mt. McKinley อยู่ตรงหน้าแท้ๆแต่โชคไม่เอื้ออำนวยจริงๆ เมือง Talkeetna ตั้งอยู่ใกล้กับจุดบรรจบกันของแม่น้ำสามสายได้แก่ Susitna, Talkeetna และ Chulitna ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้น้ำแข็งและหิมะปริมาณมหาศาลที่สะสมในช่วงฤดูหนาวก็จะละลายลงมาในแม่น้ำ ส่งผลให้แม่น้ำส่วนใหญ่ที่เห็นจะเชี่ยวกรากและขุ่นคลั่กดูน่ากลัวมาก เรียกว่าถ้าตกลงไปไม่น่าจะรอด แต่มองจากฝั่งก็ถือว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจริงๆ พวกเราเดินเล่นถ่ายรูปก่อเจดีย์ก้อนหินฆ่าเวลาอยู่ริมฝั่ง จนถึงสิบโมงครึ่งก็ได้เวลา กลับไปเผชิญหน้าความจริงกันอีกครั้ง โดยที่พวกเรายังพกความหวังไว้เต็มเปี่ยมเนื่องจากที่ผ่านมายังพอเห็นฟ้าเปิดเป็นระยะๆ จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หวัดดีครับ ขอตามไปชมด้วยคน จากคุณ : ยูนิคอร์นสีดำ - [ 12 พ.ย. 50 15:44:02 A:58.8.142.38 X: TicketID:160035 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่แล้วฝันร้ายก็กลายเป็นจริง หลังจากที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าจากรายงานล่าสุด ทัศนวิศัยบนภูเขาก็ยังเลวร้ายเหมือนเดิม จำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินของเรา แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังเสนอ option ไว้ว่าสามารถเลื่อนเที่ยวบินไปวันอื่นที่อากาศดีกว่านี้ได้ถ้าเที่ยว บินไม่เต็มซะก่อน พอดีวันอาทิตย์เราจะขับจาก Denali NP กลับ Anchorage โดยผ่านเมืองนี้อีกรอบก็เลยจองเป็นวันอาทิตย์ตอนบ่ายแทน ถึงจุดนี้ก็อยากแนะนำว่า การขึ้นเครื่องบินเล็กไปลงบนธารน้ำแข็งนั้นถือได้ว่าเป็น highlight ของทริปเลยทีเดียว ถ้ามาถึงอลาสก้าแล้ว ไม่ควรพลาดเด็ดขาด แต่เนื่องจากฤดูร้อนที่นี่อากาศค่อนข้างเอาแน่เอานอนไม่ได้ โอกาสที่เที่ยวบินจะถูกยกเลิกก็มีได้บ่อยๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรจัดทริปให้ยืดหยุ่นเล็กน้อย หรือมีแผนสองรองรับถ้าพลาดไม่ได้ขึ้นบินจริงๆ จะได้ค่อยกลับมาบินกันวันหลังได้ พอไม่ได้บินตอนนี้ก็เลยมีเวลาเหลือเยอะ เลยตัดสินใจไปล่องแก่งกันเย็นนี้ พรรคพวกก็เลยโทรไปจองไว้เดี๋ยวนั้นเลย ตอนนี้ก็ 11 โมงแล้วกำลังหิวได้ที่พอดี เมื่อกี้ตอนเดินเล่นในเมืองเห็นร้านอาหารเกาหลี-ญี่ปุ่นอยู่ร้านนึงยังคิดอยู่เลยว่าน่ากิน แต่เนื่องจากต้องทำเวลาพอสมควร ก็เลยตัดสินซื้อห่อไปกินบนรถ คุณป้าเจ้าของร้านมาจากเกาหลีใจดีมาก ระหว่างรออาหารเดินเล่นอยู่ในเต็นท์หน้าร้านที่มีไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าว เลยเจอไอเดียบรรเจิด ของคุณป้าที่ใช้ผนังเต็นท์เป็นสมุดเยี่ยม มีข้อความหลากภาษาจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก(รวมทั้งภาษาไทยด้วย)เขียนอยู่ พวกเราเลยไปขอปากกาจากคุณป้ามาเขียนกันมั่ง ร้านนี้ไม่ใช่ร้านคุณป้านะครับ แต่อยู่ติดกัน เห็นมันแนวดีก็เลยถ่ายมา จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จาก Talkeetna เราก็ขับมุ่งตรงสู่ Danali NP ที่อยู่ห่างออกไปอีก 140 ไมล์ (225 กม.) ทันที โดยเรามีแผนว่าจะเที่ยวในบริเวณ visitor center ของอุทยานและเก็บข้อมูลสำหรับพรุ่งนี้ให้หมด, ไปดูโชว์สุนัขลากเลื่อนในอุทยาน แล้วค่อยไปล่องแก่งกัน อากาศรอบข้างยังคงมืดครึ้มเหมือนเดิม จาก Talkeetna เราก็จะเข้าเขตของ Denali State Park (คนละที่กับ Denali NP นะครับ) จริงๆ ถ้าอากาศดีบนถนนตอนนี้สามารถเห็น Mt. McKinley ได้อย่างสวยงาม ซึ่งในบริเวณนี้จะมีจุดชมวิวถ่ายรูปเป็นระยะๆแต่พวกเราก็อดไปตามระเบียบ หลังจากหยุดเติมน้ำมันที่เมือง  Cantwell ปรากฏว่าแดดเปรี้ยงขึ้นมาเฉยเลย (ถึงแม้ว่าบนภูเขาลิบๆยังปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้มๆก็เถอะ) เรียกว่าอากาศนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ จาก Cantwell ขับต่อไปไม่นานก็ถึง Denali NP ที่พักในบริเวณ Denali NP นี่สามารถแบ่่งคร่าวๆได้เป็นสี่เขตก็คือ 1) เมือง Healy อยู่ห่างจากทางเข้าอุทยานไปทางเหนือประมาณ 11 ไมล์ (17.7 กม.) 2) Glitter Gulch อยู่บริเวณหน้าอุทยานซึ่งมีโรงแรมหรูๆราคาแพง 3) McKinley Village อยู่ห่างจากทางเข้าอุทยานไปทางใต้ประมาณ 5 ไมล์ (8 กม.) 4) Carlo Creek อยู่ห่างจากทางเข้าอุทยานไปทางใต้ประมาณ 12 ไมล์ (19 กม.) ยิ่งห่างปาร์คออกไป ราคาจะยิ่งถูกลง โรงแรมที่เราจะพักคืนนี้คือ Denali Grizzly Bear Resort อยู่ในบริเวณ McKinley Village เป็นอาคารไม้ดูหรูหราใช้ได้ทีเดียว แถมหลังโรงแรมยัง ติดกับแม่น้ำอีกต่างหาก จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจาก check in และเข้าไปเช็คห้องอย่างรวดเร็ว พวกเราก็มุ่งตรงไปยัง Denali National Park ทันที พอเลยป้ายอุทยานเข้าไป จุดแรกที่ต้องแวะก็คือ Wilderness Access Center (WAC) ซึ่งเป็นที่ที่จองรถทัวร์เที่ยวในปาร์ครวมทั้งบริการข้อมูลและให้ใบอนุญาต สำหรับนักเดินป่าที่จะเข้าไปค้างแรมในป่า เอาไว้ผมจะพูดถึงการจองรถทัวร์และการท่องเที่ยวใน Denali NP อย่างละเอียดในกระทู้ต่อไป ตรง WAC นี้ที่จอดรถเต็มเกือบหมด ต้องวนหากันอยู่สักพักหนึ่ง แสดงว่าคนมากันเยอะจริงๆ หลังจากสอบถามรายละเอียดที่จะมาขึ้นรถทัวร์ พรุ่งนี้แล้ว พวกเราก็เข้าไปชมภาพยนต์ระดับรางวัลของทางอุทยานเรื่อง "Heartbeats of Denali" ซึ่งถ่ายทำได้สวยงามสุดๆสมคำร่ำลือมาก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากนั้นเราก็ไปยังจุดต่อไปคือ Visitor Center ซึ่งภายในบริเวณนั้นเป็น complex เล็กๆประกอบด้วย visitor center, ศูนย์ธรรมชาติวิทยาและสถานีรถไฟซึ่งมีรถไฟวิ่งระหว่างเมือง Fairbanks และ Anchorage โดยผู้โดยสารสามารถลงเที่ยวที่ Denali NP แห่งนี้ได้ ภายใน visitor center มีนิทรรศการเล็กๆเกี่ยวกับพืช สัตว์และประวัติของปาร์คให้ชม ซึ่งก็จัดได้ดีมากอีกเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้วสามารถรับชมภาพยนต์ได้ที่นี่เช่นกัน หุ่นจำลอง Mt.McKinley อันนี้สวยมากก็เลยถ่ายมาให้ดูกัน จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หุ่นกวางมูสขนาดเท่าตัวจริง ตัวใหญ่กว่าควายเมืองไทยอีก จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 15:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตามแผนต่อไปจะไปดูโชว์สุนัขลากเลื่อนตอนสี่โมงเย็น ทางอุทยานมีบริการรถรับส่งไปยังหมู่บ้านสุนัขซึ่งต้องไปขึ้นให้ทัน จริงๆแล้วสามารถขับรถไปเองได้แต่ทางอุทยานบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่มีที่จอดรถ ทางที่ดีนั่งรถของอุทยานไปดีที่สุด ตอนอยู่บนรถยังสงสัยอยู่เลยว่า ตอนนี้ไม่มีหิมะแล้วจะลากเลื่อนกันยังไง ก่อนจะเริ่มโชว์พอมีเวลาให้นักท่องเที่ยวเดินทักทายน้องหมากัน ภายในบริเวณหมู่บ้านสุนัขสิ่งแรกที่สะดุดตามากก็คือบรรดาน้องหมาที่เห็นนั้นไม่มีพวก Siberian Husky หรือ Alaskan Malamute อย่างที่ เห็นในหนังเลย ก็เหมือนว่าทางเจ้าหน้าที่จะรู้ว่าจะมีคนถามกันเยอะเลยมีป้ายอธิบายไว้เลยว่า สาเหตุที่ไม่มีน้องหมาหน้าคุ้นๆกันเพราะ สายพันธุ์อย่าง Siberian Husky นั้นเป็นการคัดพันธุ์เพื่อเอารูปร่างหน้าตา แต่สำหรับสุนัขลากเลื่อนจริงๆนั้นจะถูกคัดพันธุ์เพื่อให้มีลักษณะ เหมาะสมกับการใช้งาน นั่นคือสุนัขที่เหมาะกับการลากเลื่อนนั้นจะต้องมี ขายาว (จะได้ระยะต่อก้าวยาวๆ), เท้าใหญ่ (เพื่อที่จะได้ไม่จมหิมะ) และมีหางเป็นพวงเพราะเวลานอนบนหิมะตอนกลางคืน น้องหมาจะใช้หางปิดหน้าแล้วหายใจผ่านหางที่ทำหน้าที่อุ่นอากาศก่อนที่จะหายใจเข้าไป ส่วนหน้าตานั้นเป็นเรื่องรอง ช่วงหน้าร้อนนี้อาจถือเป็นช่วงพักร้อนของบรรดาน้องหมาก็ว่าได้เพราะไม่มีหิมะให้ลากเลี่อนกัน จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 16:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พอได้เวลาแสดงโชว์ พวกเราก็ไปนั่งที่อัฒจันทร์ เจ้าหน้าที่ก็ขึ้นมาบรรยายให้ฟังก่อน โดยสุนัขลากเลื่อนนั้นมีความสำคัญกับอุทยานมา ตั้งแต่ในอดีต ในช่วงฤดูหนาวบริเวณอุทยานจะถูกปกคลุมด้วยหิมะทำให้รถยนต์นั้นไร้ความหมายไปเลย เวลาเจ้าหน้าที่จะไปตรวจตราในอุทยานนั้นต้องใช้สุนัขลากเลื่อนแทนซึ่งยังเป็นการอนุรักษ์ tradition ในการใช้สุนัขลากเลื่อนไว้ไปใน ตัวด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่าอุณภูมิหน้าร้อนแบบนี้ (ซึ่งถือว่ายังค่อนข้างเย็นสำหรับเรา) ถือว่าร้อนไปสำหรับน้องๆหมาที่ชอบอากาศหนาวกว่า 0 องศาเซลเซียสมากกว่า โชว์ลากเลื่อนวันนี้จะลากกันบนพื้นดินเปล่าๆไม่มีหิมะนี่แหละโดยใช้น้องหมาน้อยกว่าจำนวนที่ใช้ลากบนหิมะจริงๆ น้องหมาพวกนี้ active จริงๆ เพราะตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเลือกตัวที่จะเอามาลากเลื่อนให้ดูนั้น พวกเล่นเห่ากันขรมประมาณว่าอยากออกไปวิ่งมาก (สงสัยเบื่อที่ไม่ได้ลากเลื่อนซะนาน) เวลาที่เจ้าหน้าที่พาน้องหมามานั้นจะมาด้วยท่าประหลาดนิดหน่อยนั่นคือ เจ้าหน้าที่จะยกน้องหมาที่ปลอกคอให้เท้าหน้าลอยขึ้น แล้วให้น้องหมาใช้เท้าหลังกระโดดเหยงๆตามมา เหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะน้องหมาเหล่านี้แรงควายมาก ถ้าจูงตามปกติสามารถลากคนจูงกระจุยได้ถึงแม้จะเป็นฝรั่งตัวใหญ่ๆก็เถอะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าน้องหมาจะหายใจไม่ออกเพราะพวกมีกล้ามเนื้อที่คอแข็งแรงมาก สุนัจลากเลื่อนแบบนี้จะต่างไปจากสุนัขลากเลื่อน ที่ใช้แข่งตรงที่จะวิ่งช้ากว่าแต่วิ่งอึดกว่ามาก วันวันหนึ่งสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมาก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ผูกน้องหมาประมาณ หกตัวเข้ากับเลื่อนแล้ว ที่เห็นนี่แต่ละตัวกระเหี้ยนกระหือรือจะวิ่งให้ได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณทั้งทีมก็ลากเลื่อนไปรอบๆ เป็นระยะทางสั้นๆประมาณว่าให้ดูพอเป็นไอเดีย เท่าที่เห็นนี่แต่ละตัวได้รับการฝีกมาเป็นอย่างดี สั่งเป็นสั่ง ให้วิ่ง-หยุด-เลี้ยวได้เป๊ะๆตามสั่งแลยแต่ยังดูเหมือนว่าแต่ละตัวยังวิ่งได้ไม่สะใจเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 16:47:44 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 16:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจบโชว์ยังพอมีเวลานิดหน่อยให้พวกเราถ่ายรูปกับน้องหมาและรถลากเลื่อน เจ้าหน้าที่กำชับว่าห้ามให้อาหารน้องหมา ที่นี่มีอยู่ตัวเท่านั้นที่ให้อาหารได้นั่นคือ "Buck" พร้อมกับชี้ไปที่หุ่นรูปสุนัขนั่งอ้าปากให้ใส่เงินบริจาคอยู่ที่ปากทาง ถ้าใครเคยอ่านเรื่อง The Call of the Wild ของ Jack London คงจะจำบัค-สุนัขลากเลื่อนชีวิตสุดรันทดที่เป็นตัวเอกของเราได้ ตอนนี้มานั่งกินแบงค์แทนข้าวซะแล้ว พวกเราก็เลยให้อาหาร(แบงค์)กะเจ้าบัคไปคนละใบสองใบ พอได้เวลาขึ้นรถ พวกเราก็เดินกลับไปขึ้นรถคันเดิมเพื่อที่จะกลับมาเอารถที่ จอดไว้ที่ visitor center ตอนนี้ก็ได้เวลาไปล่องแก่งกันแล้ว ถ้าวิ่งไปตาม highway เลยขึ้นไปทางเหนือของทางเข้าอุทยานไปไม่ไกล จะเข้าเขตที่เรียกว่า Glitter Gulch ซึ่งเป็นย่านธุรกิจศุนย์รวมกิจการท่องเที่ยวบริเวณ Denali NP ในบริเวณนี้เป็น complex ที่รวมเอาโรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก, Grocery และร้านบริการกิจกรรม outdoor ทั้งหลายอยู่รวมเหมือนเป็นเมืองย่อมๆดูคึกคักมากทีเดียว บริษัทล่องแพที่เราติดต่อไว้ก็อยุ่ในบริเวณนี้ด้วย เจ้านี้มีชื่อว่า Denali Outdoor Center (DOC) สาเหตุที่เลือกเจ้านี้ก็เพราะอ่านจากรีวิวว่า บริษัทนี้เน้นที่ความปลอดภัยเป็นหลัก โชคดีอีกอย่างพอดีเราไปเจอหนังสือโฆษณาที่วางแจกฟรีอยู่แทบจะทุกที่ ในนั้นมีคูปองลด 10% สำหรับล่องแก่งกับ DOC อยู่ด้วย ถ้ายื่นคูปองก่อนจะคิดเงินก็จะได้ส่วนลดตามที่โฆษณาไว้ รอบที่เราจองไว้เป็นรอบสุดท้ายของวัน เท่าที่เห็นนี่มีคนมาเล่นกันเยอะทีเดียวจนแน่นร้านไปหมด ถ้าไม่อยากพลาดควรโทรมาจองล่วงหน้าไว้ก่อน จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 16:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลำดับผิดเล็กน้อย ลืมรูป Buck จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 16:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขั้นตอนการล่องแก่งจะเร่ิมจากใส่ drysuit ก่อน เจ้า drysuit นี่กันน้ำได้หมด มีเฉพาะหัวกับมือที่ยื่น ออกมาเท่านั้นที่จะเปียก จากนั้นเราก็ไปขึ้นรถของทางบริษัท (เป็นรถโรงเรียนที่เอามาดัดแปลง)ไปยังจุดที่จะลงเรือยาง แม่น้ำที่จะล่อง กันวันนี้คือแม่น้ำ Nenana ซึ่งก็เชี่ยวกรากเหมือนแม่น้ำอื่นๆใน อลาสก้าช่วงหน้าร้อน รวมระยะทางที่จะล่องทั้งหมดประมาณ 11 ไมล์ (17.7 กม.) ใช้เวลาประมาณ 2-3 ช.ม. ก่อนขึ้นก็มีบริฟเรื่องความปลอดภัยกันพอสมควร จริงๆแล้วพวกเราอยากพายเองแต่เนื่องจากจำนวนคนไม่ถึง ไกด์ก็เลยจะพายให้ ทีมเราได้ไกด์หนุ่มร่างบึ้กชื่อดีน ตอนช่วงแรกน้ำจะยังนิ่งๆก่อน จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่แก่งเป็นช่วงๆ โดยที่แก่งแรกจะมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทคอยถ่ายรูปให้อยุ่บนฝั่ง แต่ละแก่งนี่เล่นเอาเปียกปอนกันทั้งลำแต่ก็สนุกมากจริงๆ ขนาดหน้าร้อนแบบนี้น้ำก็ยังเย็นมาก เย็นจนมือชากันหมดแต่เพราะความสนุกเลยไม่ได้นึกถึงมากนัก เฮียดีนแกก็ friendly จริงๆชวนคุยตลอด มุขเด็ดของแกก็คือหลังจากที่เราผ่านแก่งกันมาพอสมควรก็บอกว่าพวกเราคงพร้อมแล้วสำหรับน้ำตกสูง 20 ฟุต เราก็มองหน้ากันพร้อมกับเริ่มเสียวๆกันแล้วว่าโหเฮียแกจะพายพาเราลงน้ำตกกันเลยหรือนี่ แต่พอถึงที่ปรากฎว่ามีน้ำตกสูง 20 ฟุตจริงๆครับแต่เป็นน้ำเล็กๆที่อยู่ริมฝั่งเล่นเอาพวกเราฮากัน บางช่วงที่น้ำนิ่งๆนี่แกยังเชียร์ให้พวกเราโดดลงไปแช่น้ำกันเลย เลยมีคน โดดลงไปตามคำท้าจริงๆแต่ก็ไม่เปียกเลยเพราะ drysuit ที่ใส่อยู่นี่กันน้ำได้สนิท ตอนล่องแก่งกันอยุ่นั้นผมก็สังเกตสองฝั่งก็เห็นคนท้องถิ่นมา จอดรถนั่งชมวิวหรือก่อแคมป์ไฟกันอยู่บนฝั่งกันอยู่เป็นระยะๆ พอล่องกันสุดทางก็ขึ้นไปรอบนฝั่งรอรถมารับ พวกเรากำลังจะให้ทิป มิสเตอร์ดีน ปรากฏว่าพอหันกลับนี่เจอไกด์แต่ละลำใส่แว่นดำ ไว้ผมไว้หนวดทรงเดียวกันหมด ดูไม่ออกเลยว่าใคร เป็นใคร แต่สุดท้ายก็ตามตัวกันจนเจอ พวกเรากลับมาถึง Glitter Gulch ประมาณสามทุ่มจากที่ออกไปตอนหกโมงเย็นก็ 3 ชั่วโมงพอดี ท้องฟ้ายังสว่างโร่อยู่เลย พอกลับมาถึงที่ร้านทางร้านก็เอารูปที่ถ่ายใว้มาขายซึ่งจะซื้อแบบที่พิมพ์ออกมาแล้วหรือซื้อเป็นซีดีก็ได้ สนนราคาก็แพงพอสมควรแต่ถ้าพวกเราซื้อซีดีแล้วค่อยมาไรท์แจกกัน เมื่อหารห้าแล้วราคาก็โอเคเลย รูปในคหห.นี้กับคหห.ที่13 ก็มา จากซีดีนี่แหละครับ พอกลับมาถึงรถนี่แต่ละคนหิวโซกันแบบแทบจะกินกวางมูสได้ พวกเราเลยไปเขมือบข้าวเย็นใน Glitter Gulch กัน ในบริเวณนี้มีร้านอาหารรวมทั้งบาร์เปิดบริการอยู่หลายร้านให้เลือกกันได้ตามใจชอบ ที่สำคัญเราสามารถสั่งอาหารกลางวันสำหรับไปเที่ยว ใน Denali NP ในวันพรุ่งนี้ได้จากที่นี่ ซึ่งก็สั่งได้ตั้งแต่แซนวิชธรรมดาจนถึงกล่องอาหารกลางวันครบ set ( รวมขนม ผลไม้ snack น้ำ ฯลฯ) ให้เลือกกันตามสะดวก วันนี้เราต้องรีบกลับไปนอนเอาแรงเพราะพรุ่งนี้มีโปรแกรมเที่ยว Denali NP เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า! Next:  Day 3-Into the Wild แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 16:51:58 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 16:24:16 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 พ.ย. 50 16:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ... รอชมต่อนะคะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปขับรถเที่ยว Alaska มั่ง อยากไปมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : กาแฟขม - [ 12 พ.ย. 50 20:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รอชมอยู่นะคะ อย่าลืมมาโพสต์ต่อน้า ^^ บรรยายได้ดีเชียวค่ะ ยิ่งตอนน้องหมาแรงควายลากเลื่อนนี่ฮาดี อลาสก้าเป็นที่ๆอยากไป  แต่ไม่ใช่แนวเท่าไหร่ เรามันพวกรักสบายค่ะ ไม่ค่อยลุย  เอิ๊กๆ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย - [ 14 พ.ย. 50 00:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งเห็นกระทู้ครั้งแรก อ่านจบแล้วต้องตามกลับไปอ่านกระทู้เก่าด้วยเลย เล่าได้ละเอียด + สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อนะ ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 14 พ.ย. 50 19:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ว้าว  ขอ อีกที  ว้าวววว เราเคยไปเอเอฟเอสที่อลาสก้า  บ้านโฮสอยู่ที่แฟร์แบงส์ มองเห็นยอดเค้า Denali ได้จากหน้าบ้านเลย สวยงามมากๆ ค่ะ ภาพที่เอามาให้ชมก็สวยมากๆ ค่ะ จากคุณ : nadadew - [ 24 ธ.ค. 50 01:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 good pics good information good story จากคุณ : Fortunism - [ 18 ก.พ. 51 00:00:51 ]