ความคิดเห็นที่ 1 สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ขั้นตอนการขอวีซ่า อเมริกา เป็นเช่นนี้แล ...   1 เนื่องจากคนขอวีซ่าอเมริกา แต่ละวัน เยอะมากๆ (ลองคำนวณดูเล่นๆ นะคะ ค่าธรรมเนียมปัจจุบัน คนละ 3,600 บาท มีผู้สมัครวันละ 200-300 คน, เค้ามีรายได้ เท่าไหร่??) ด่านแรกที่คุณต้องทำคือ เข้าไปซื้อ PIN Code เพื่อนัดวันเวลาสัมภาษณ์ค่ะ ตาม link นี้ไปดูรายละเอียดได้เลย .. http://thailand.us-visaservices.com/Forms/default.aspx ดิฉันเข้าไปจองคิวสัมภาษณ์ก่อน เพราะได้ยินว่า บางช่วง รอคิวสัมภาษณ์เป็นเดือนๆ ทีเดียว การซื้อPIN ทางอินเตอร์เน็ต เสียค่าธรรมเนียม สี่ร้อยกว่าบาท แต่ถ้าซื้อทางโทรศัพท์ นอกจากเราต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ นาทีละเก้าบาทแล้ว ค่าธรรมเนียมยังแพงกว่าด้วยค่ะ ..ราคาเจ็ดร้อยกว่าบาทอ่ะ สรุปว่า ตอนจอง พอรูดการ์ดจ่ายทางเว็ปแล้ว ก็ได้พาสเวิร์ด เข้าไปจองคิวสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ ดิฉันเข้าไปดูตาราง สามารถนัดสัมภาษณ์ได้เลยภายในสัปดาห์เดียว ... เร็วมั่กๆ .. จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 21:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^^ ^^ ปล. ใครจะไปช่วงนี้ รีบเข้าไปดูเลยนะคะ รู้สึกว่า คิวเดือน ธันวาคมนั้น เต็มเอียดแล้วค่ะ 2 เสียเงินก้อนแรก ซื้อ PIN นัดสัมภาษณ์แล้ว ก็วิ่งไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า 100USD เทียบเงินไทยตอนนี้อยู่ที่ 3,600 บาทค่ะ ไปที่ที่ทำการไปรษณีย์ เค้าท์เตอร์ Pay at Post ชำระเงินแล้ว เก็บใบเสร็จให้ดี ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์ค่ะ จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3 เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม เรียงลำดับตามนี้เลยค่ะ - Passport ดูให้ดีว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ -ใบนัดสัมภาษณ์ที่ print ออกมา หลังจากจองเวลาทางหน้า website -รูปถ่ายซิงๆ ขนาด 5X5 cm. พื้นหลังสีขาว มัดผมเรียบร้อย ให้เห็นใบหู และห้ามใส่เครื่องประดับค่ะ -ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า 3,600 บาท -ขอวีซ่าธุรกิจ และท่องเที่ยว ให้เข้าไปกรอกเอกสาร DS156  ตาม link นี้ค่ะ  https://evisaforms.state.gov/ พิมพ์ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดแล้ว Submit เข้าไป จะมี Barcode ของสถานทูต Print ออกมาเซ็นชื่อตัว และเอารูปถ่ายติดกาวค่ะ ++เอกสารใบนี้ ใช้ตัวจริงเท่านั้น ห้ามส่งแฟกซ์ หรือก๊อปปี้นะคะ คุณจะพิมพ์จะแก้กี่ครั้งก็ได้ เอาที่สมบูรณ์ที่สุด จนกว่าจะพอใจ++ -เอกสาร DS 157  เป็นเอกสารประกอบ จะพิมพ์ออกมาเขียน หรือพิมพ์แล้ว print ก็ดีค่ะ  http://www.visapro.com/Download/DS-157-Form.pdf ทั้งหมดที่สำคัญหลักๆ ก็ตามที่ว่ามานั้นล่ะค่ะ ... จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในกรณีของดิฉัน จะไปเที่ยว และเยี่ยมเพื่อนที่โน่น .. เอกสารประกอบที่สำคัญมาก มีอยู่ 2 อย่างคือ -ใบรับรองการทำงานปัจจุบัน บ่งบอกวันที่เริ่มทำงาน รายได้ (ทั้งปี โบนัส ฯลฯ) และจำนวนวันลาหยุดที่ได้ >> เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณมีหน้าที่การงานดี และกลับมาทำงานแน่นอน -จดหมายเชิญจากเพื่อนที่เป็น American citizen ข้อความในจดหมาย บอกชื่อที่อยู่ เลขที่พาสปอร์ต การงาน ความสัมพันธ์กับคุณ และคำเชิญ  ส่ง fax มา ก็ให้มีหมายเลขแฟกซ์ทางโน้นปรากฏบนหัวกระดาษ fax ด้วยนะคะ -เอกสารอื่นๆ ที่เตรียมไปเผื่อ ... +แต่เค้าไม่ดูเลย+ คือ passport เล่มเก่า, statement/ bank book, สำเนา passport ของเพื่อนที่เชิญ, ทะเบียนบ้านที่ตัวเองเป็นเจ้าของ สรุปว่า .. ปัจจุบัน คุณนัดสัมภาษณ์ และไปสถานทูตอเมริกา แค่หนเดียว รู้ผลเลยว่าได้ไม่ได้ ..   ฉะนั้น การสัมภาษณ์ และเอกสารที่เตรียมไปในวันนั้น สำคัญที่สุด ..   ทำตัวให้พร้อม และลุยค่ะ ... ดิฉัน นั่งเครียดอยู่ทั้งสัปดาห์เหมือนกัน กลัวว่าจะไม่ได้อีกรอบ คราวนี้ต้องกรี๊ดๆๆๆ ดังกว่าเดิม แห่ะๆๆๆ จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และแล้วก็ถึงวันไปสัมภาษณ์ค่ะ ทิปส์ และขั้นตอนคร่าวๆ มีดังนี้ -แต่งตัวดูดี ให้มีมาดธุรกิจเข้าไว้ ... จะได้รับความเชื่อถือค่ะ -ไปถึงก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมง ให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ดูหลักฐานใบนัดแล้ว ก็เดินเข้าไป เอาบัตรประชาชน พร้อมโทรศัพท์ มือถือฝากเจ้าหน้าที่ด้านหน้าค่ะ -เดินเข้าไปตรวจเอกสารอีกรอบ เจ้าหน้าที่ด่านแรก จะดูเอกสารทั้งหมด และเลือกให้ว่าเอกสารไหน ที่สำคัญที่สุด และเจ้าหน้าที่ต้องการ ... กรณีดิฉัน ที่บอกไป เค้าคัดออกหมด เหลือแค่ใบรับรองการทำงาน กับแฟกซ์จดหมายเชิญจากเพื่อน -เตรียมเงิน 65 บาท ซื้อซอง EMS เขียนชื่อที่อยู่ตัวเอง ที่ต้องการให้เค้าส่ง passport กลับ กรณีที่ได้ Visa ค่ะ ... -เข้าแถวส่งเอกสารที่พร้อมแล้ว และซอง พร้อม scan นิ้วมือ ++ขั้นตอนนี้ .. ถ้าเคยมี visa มาก่อนแล้ว ข้ามไปข้างในได้เลยค่ะ++ -คุณจะได้รับบัตรคิว ซึ่งเค้าจะถามอีกทีหลัง scan นิ้วมือว่าจะสัมภาษณ์ภาษาไทยหรืออังกฤษ  ได้รับบัตรแล้ว ไปนั่งรอเรียกค่ะ .... ความตื่นเต้น ทวีคูณ... ลุ้นๆๆๆ มากค่ะ ++ดิฉันเลือกสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ เพราะเข็ดคุณป้าจอมโหดครั้งที่แล้ว .. ปรากฏว่า พอถึงเวลาสัมภาษณ์จริงๆ ได้สัมภาษณ์กับหนุ่มหน้าตาญี่ปุ่น แต่พูดภาษาไทยได้ชัดเปรี้ยะเลยค่ะ++ -ตอนสัมภาษณ์ ให้ตอบตามความจริง มีความมั่นใจ กรณีดิฉัน เค้าถามแค่ว่า คนที่เชิญเป็นใคร รู้จักกันได้อย่างไร (พอดีรู้จักกันจากงาน เลยเล่าพาดพิงไปถึงเรื่องงาน) และไปทำอะไรที่อังกฤษ (เค้าอ่านจากเอกสาร DS157 แจ้งว่าไปไหนมาบ้าง) และจะไปทำอะไรที่อเมริกา กี่วัน  เค้าถามซ้ำไปมา อยู่แค่นี้ ... คงเพื่อให้มั่นใจ ว่าเราไม่โกหกอ่ะ ณ ตรงนี้ ขอบอกว่า .. เอกสารรับรองการทำงานของคุณ สำคัญที่สุด เค้าต้องการมั่นใจว่าเรามีงานที่มั่นคง และกลับมาแน่ๆ .. ไม่ได้ไปเป็นโรบินฮู้ด ....   เรื่องที่เหลือ เป็นแค่ส่วนประกอบค่ะ จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สุดท้าย ... ในเวลากี่นาที ฮีก็บอกว่า Congratulations! Your Visa is approved!! เย้ๆๆๆ ได้มาสิบปีค่ะ คราวนี้ ค่อยหายโกรธคนอเมริกัน .. เคืองอยู่นิดเดียวว่า .. ทำให้เราต้องเสียค่าธรรมเนียมตั้งสองรอบ กว่าจะได้ซักที ....  เฮ้ออออออออ โล่งอก จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่เขียนมาทั้งหมด อยากบอกว่า .. ทำได้ และเตรียมตัวพร้อมดีกว่าเดิม เพราะได้ข้อมูลจากแถวนี้ล่ะค่ะ   ขอบคุณทุกคน ที่เผื่อแผ่กัน .... โดยเฉพาะข้อมูลจากคุณ Susie ที่ให้คำแนะนำไว้ละเอียดยิบที่สุด และชัดเจนที่สุด ... ตาม link นี้เลยค่ะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lovergirl&group=11&month=10-2006&date=06&gblog=27 จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอให้คนที่กำลังจะไปขอวีซ่า ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็ขอให้โชคดีนะคะ .. แต่ละประเทศ อาจให้ความสำคัญไม่เหมือนกัน เช่น เยอรมัน เน้นเรื่องใบประกันสุขภาพ และชีวิต ระหว่างเดินทาง สวิส และอังกฤษ เน้นหลักฐานการเงิน และความมั่นคงของงานที่ทำ ญี่ปุ่น เน้นระยะเวลาการเข้าออกที่อยู่ในประเทศ จะอย่างไรก็ตาม ขอให้เน้นที่ความจริง และอย่าได้คิดจะไปหลบอยู่ในประเทศอื่นผิดๆ นะคะ .. เพราะมันสร้างความเดือนร้อน ให้คนหลังๆ ที่ต้องการจะไปค่ะ .... ขอให้โชคดีเด้ออออออ จากคุณ : artkorapin - [ 18 พ.ย. 50 22:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยินดีด้วยครับ   มีคนใช้วิธีแต่งงานกับคนอเมริกันแล้วไปขอวีซ่า เคยได้ยินมาว่าถ้าใช้วิธีนี้ถามถึงขนาดรูปลักษณ์ของอีกคน   แล้วตอนเฉลยจะทำไงหว่า วีซ่าครั้งแรกในชีวิตของผมเป็นของออสเตรเลีย  แล้วดันไปเองไม่ใช้ทัวร์ด้วย เอาเอกสารไปเป็นปึก จนท.  เปิดเอกสารผมไป ถามไปทำนองว่าแหมไปครั้งแรกเอางี้เลยเหรอ พอถึงใบวุฒิบัตรของผม  เค้าหยุดแล้วบอกว่าเชิญจ่ายเงินค่าวีซ่าแล้วรอรับได้เลยค่า สรุปทั้งปึกดึงไปใช้ใบเดียว หลักฐานที่สำคัญที่สุดคือสิ่งที่ทำให้เชื่อได้ว่าเราไปแล้วกลับแน่ จากคุณ : suttiudom - [ 18 พ.ย. 50 22:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยได้ business visa 10 ปี ของอเมริกา แล้วมันก็หายไป พร้อมกับของทั้งหมดในกระเป๋าที่เมกาหน่ะแหล่ะ เิงินเกือบ 1000 เหรียญยังไม่เท่าไหร่ passport นี่สิ อันตธานหายไปด้วย ตกระกำรำบากอยู่ตั้งนาน กว่าจะทำเอกสารเข้าประเทศได้   ตั้งแต่นั้น ไม่เคยคิดจะไปเหยียบประเทศนั้นอีกเลย เกลียดมานนนนนนนนนนนนน ตั้งแต่ตำรวจที่มาจดบันทึก ยัน จนท. กงศุล ... ไม่มีช่วยกันเล้ยยยย จะเอาแต่ค่าธรรมเนียมอย่างเดียว เชื่อมะ ว่าไปเอาบันทึกแจ้งความที่สถานีตำรวจ จนท. ที่นั่น เค้ายังถามว่า เงินหายหมดแล้วทำยังไง แล้วเค้าก็ไม่เอาค่าธรรมเนียมแจ้งความ (จำไม่ผิดเกือบ 25 เหรียญ) เ่้ค้าบอกเห็นใจเรา ไม่เก็บค่าธรรมเนียม แต่พอไปกงศุลนะ ไม่มีความปราณีกัน แถมยังต้องไปถึง 3 รอบ กว่าจะได้เอกสาร เพราะเค้าบอกว่า เค้าไม่ส่งไปรษณีย์ให้ เพราะเราพักโรงแรม ขนาดบอกว่าอยู่นิวเจอร์ซีนะ เสียค่ารถไฟมานิวยอร์กมันแพง   เราต้องขอยืมเงินเพื่อนที่มา้ด้วยกันนะ   ก็ไม่สนใจอะไร ... ทำหน้าเหมือนมันเรื่องของคุณ สาบานเอาไว้แล้วว่า จะไม่ไปอีกเลย ฮึ่ม ๆๆๆ จากคุณ : เอ๋ (pka) - [ 18 พ.ย. 50 22:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมเลยน้องอาร์ท  ยินดีด้วย แต่ไม่รู้จะได้ไปหรือปล่าวววว   save เข้าคลังกระทู้ไว้เลยยยยยยยย จากคุณ : ฮิมดอย - [ 18 พ.ย. 50 22:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไปคราวนี้ ไม่รู้จะได้สูตรอาหารจานเด็ด อะไรมาฝากมั่งน๊อ... เตรียมข้าวเปล่าไว้รอหน้าจอเลย (ปกติกินข้าวเป่า กะรูปในจอ). . . จากคุณ : Your~Soulmate - [ 18 พ.ย. 50 23:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาเที่ยวแถวไหนคะคุณอาร์ท เผื่อมาใกล้ๆ ค่ะ จากคุณ : Angel N. - [ 19 พ.ย. 50 02:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่แองเจิ้ล เอ็น ... จะไปแอลเอคร้าบ ... รู้สึกว่า จะใกล้กันเรยยย ใช่ป่ะ แนะนำได้ไหมคะว่าไปเค้าท์ดาว์นที่ไหนดี .. เผื่อว่าจะโดนใจ ใช่เรยยยอ่ะ จากคุณ : artkorapin - [ 19 พ.ย. 50 06:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณอาร์ท ที่เข้ามาเล่าประสบการณ์ ในการขอวีซ่า สุดโหดครับ จากคุณ : เพียงสายลมพัดผ่าน - [ 19 พ.ย. 50 07:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อก่อนเคยตั้งใจไว้ว่า ประเทศไหนขอวีซ่ายาก   จะไม่ไปประเทศมัน เพราะถ้าเข้ายาก แปลว่ามันไม่ไว้ใจคนประเทศเรา ถึงไปเที่ยว ก็คงกลายเป็นคนชั้นสอง ชั้นสาม อยู่ดี แล้วประเทศในโลกนี้มีให้เที่ยวอีกเยอะแยะ... แต่ก็มีฮอลแลนด์นี่แหล่ะ  ที่ทำให้ต้องไปขอวีซ่า  ((เพราะลุงเจอร์แหล่ะ  )) แล้วยังไม่ผ่านอีกแน่ะ   แต่ไม่เข็ด  ปีหน้าจะไปขอใหม่   ลองดูอีกซักรอบดิ๊ จากคุณ : madamepi - [ 19 พ.ย. 50 11:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาเก็บความรู้ค่ะ อิจฉาคนจะได้เที่ยว จากคุณ : sueko - [ 19 พ.ย. 50 12:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณพี่อาร์ทมากๆคับ สำหรับทู้ดีๆมีสาระ แอบมาอิจฉาคนได้ไปเที่ยว จากคุณ : red bike - [ 19 พ.ย. 50 12:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไปเที่ยวอีกแล้ว..อิจฉา อิจฉา... ทู้นี้เป็นประโยชน์จริงๆ ขอบคุณจ้า... จากคุณ : ทรายเดิม - [ 19 พ.ย. 50 15:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยินดีด้วยนะคะพี่อาร์ท   ขอบคุณสำหรับความรู้ ที่คิดว่ายังไง๊ ยังไง นู๋ก็คงไม่ได้ใช้อ่ะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 50 16:53:35 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 50 16:53:20 จากคุณ : BBwindy - [ 19 พ.ย. 50 16:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณอาร์ท ไม่ใกล้มากค่ะ พี่อยู่ใกล้ซานฟรานจ้า ขับรถ 5 ชั่วโมงจากแอลเอ (ถ้าว่างมาเที่ยวได้เลยค่ะ ถ้าบินมาชั่วโมงนึงถึงจ้า) เค้าท์ดาวน์ที่แอลเอเหรอคะ เคยมีเพื่อนไปเค้าท์ดาวน์ที่ Disneyland เค้าชอบมาก เพราะมันจะมีพาเหรดตอนค่ำๆ แล้วจุดพลุตอนกลางคืน  อันนี้ยืนยันว่าสวย เพราะเคยไปตอนจุดพลุที่ไม่ใช่วันปีใหม่ยังสวยมากๆ เลยค่ะ ถ้าคุณอาร์ทจะไป Disneyland แนะนำว่าให้ซื้อตั๋วเข้า Disney's California Adventure ด้วย เพิ่งเปิดได้ 6 ปี แอลเอ ของกินเพียบค่ะ มีสารพัดชาติเลยค่ะ บางทีมีวันหยุด เหะเหะ เรายังบ้าขับรถห้าชั่วโมงไปทานเลยค่ะ อ้อ อ้อ ถ้าชอบงานศิลปะ อย่าลืมไป Getty museum นะคะ ชอบมาก ค่าเข้าไม่แพงเลย (เสียแค่ค่าจอดรถ) คุ้มสุดๆ ค่ะ อันนี้ไม่ควรพลาด จากคุณ : Angel N. - [ 20 พ.ย. 50 00:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆ ถ้าอยากเค้าท์ดาวน์ท่ามกลางคนหล่อๆ (ขอโม้นิดนึงค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้) แนะนำเลยค่ะว่าควรไป Quebec City ใน Canada เมืองบ้าอะไรไม่รู้ค่ะ คนหล่อทั้งเมือง (จริงๆ) ไปแล้วตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ฮี่ ฮี่ ฮี่ มีหลายคนในห้อง Blueplanet ห้องกลางที่เคยไปมา ยืนยันตรงกันค่ะ เสริมนิดนะคะ แคนาดาเป็นอีกประเทศค่ะที่ได้ข่าวว่าขอวีซ่ายาก แต่ถ้ามีวีซ่าเมกาแล้ว วีซ่าของแคนาดามักได้ง่ายค่ะ จากประสบการณ์ ตอนนั้นได้ง่ายมาก เพราะมีวีซ่าเมกาอยู่ เจ้าหน้าที่ไม่ดูอะไรเลย พอเห็นวีซ่าเมกา เค้าถามว่าได้มาเมื่อไหร่ เสร็จแล้วก็แสตมป์ผ่านให้เลย (อันนี้สิบปีมาแล้วนะคะ ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นงี้อีกเปล่า) แต่มีคนที่เพิ่งไปขอมาก็บอกว่ามีวีซ่าเมกา วีซ่าแคนาดาเค้าก็ได้ง่าย จากคุณ : Angel N. - [ 20 พ.ย. 50 00:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้แพลนไว้คร่าวๆ เหมือนกันว่าจะขับรถไปซานฟราน เพราะถนนที่ตัดไปซานฟราน วิวสวยมากกก (จริงป่ะคะ??) ส่วนเรื่องเค้าท์ดาวน์ คิดไว้คร่าวๆ ว่าจะไปเวกัส เผื่อว่าอีกวันนึง จะได้ไปแกรนด์แคนยอนต่อได้ ดีสนีย์แลนด์เป็นไอเดียที่ดี .. แต่ขอบอกว่า .. ส่วนตัวแล้ว ไม่เคยชอบเลยอ่ะ ไปที่ญี่ปุ่นครั้งเดียว เข็ดเลย อาจเป็นเพราะไม่ได้ปลื้มมากกับสวนสนุกมั๊งคะ เลยรู้สึกเฉยๆ มีแอดเวนเจอร์อย่างอื่น รออยู่อ่ะ ..เอิ๊กๆ ป้า Angel N. อยู่แถว Napa Valley หรือเปล่าคะ อยากไปนอนอาบไวน์ในถังไม้โอ๊กอ่ะ แนะนำหน่อยค่ะ กริ๊ก กริ๊ก .... ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับคำแนะนำ .. ไว้หลังมือไปคุยด้วยดีก่า .. ป้า ANgel N. ฮรี่ๆๆๆๆ จากคุณ : artkorapin - [ 20 พ.ย. 50 07:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๑๕ ปีแห่งความหลัง ทำไว้แต่มิได้ไปเยือน ..... ไม่เป็นไร ว่างๆ จะไปทำอีก ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : เสือหม่องเองจ้า (Tiger BP125) - [ 20 พ.ย. 50 07:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณอาร์ท ได้เลยๆๆๆๆๆ ถนนที่วิวสวยมากที่ขับจากแอลเอมาซานฟรานคือ Highway 1 ค่ะ (สวยจริงๆ) แต่ถ้ามา HW1 ขับประมาณ 10 กว่าชั่วโมงนะคะ (ทางยาวกว่าและ speed limit ต่ำกว่าค่ะ) ส่วน Napa Valley ขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงจากที่เราอยู่ค่ะ ซานฟรานเป็นเมืองโรแมนติกนะคะคุณอาร์ท (จำได้ว่าติดอันดับโลกด้วย) แกรนด์แคนยอน สุดยอดสวยค่ะ โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ขึ้น เค้าท์ดาวน์เวกัส เห็นด้วยๆ นะคะ เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับเลย เวกัส ไปเมื่อหลายเดือนก่อน เห็นเด็กนักศึกษาจากเมืองไทยไปทำงานในโรงแรมแถบนั้นกันเยอะเลยค่ะ จากคุณ : Angel N. - [ 20 พ.ย. 50 08:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยินดีด้วยนะครับ จากคุณ : เจนจัด (jerasak_b) - [ 20 พ.ย. 50 16:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะ น้องอาร์ท อ่าน เข้าใจขั้นตอนได้ง่าย เป็นประโยชน์มากๆๆๆๆๆ ค่ะ แต่......ไม่รู้จะมีโอกาสได้ใช้อ้ะป่าวววว จากคุณ : คำปู้จู้ - [ วันสิ่งแวดล้อมไทย 21:08:56 ]