ความคิดเห็นที่ 1 ยาวนานเหลือเกินที่ป่ามรดกโลกแห่งนี้ขับขานเรื่องราวความเป็นมา จากตำนานดงพญาไฟในอดีตอันโหดร้ายมาสู่ดงพญาเย็นในปัจจุบันเชื่อมดินแดนภาคกลางและอีสานเข้าหากัน เป็นเรื่องน่ายินดีที่ป่าผืนใหญ่หลายผืนอันประกอบด้วย เขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยาและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่แห่งนี้  มีความสมบรูณ์เป็นที่ยอมรับของชาวโลก เป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติให้ร่วมกันปกปักรักษาไว้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่วันนี้ผื่นป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มรดกโลกแห่งนี้กำลังเผชิญกับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไมได้จากความพยายามขยายเส้นทางหลวง  ภาพวันข้างหน้าของพงพนาผืนนี้จะเปลี่ยนเป็นเช่นไร ถ้าพวกเราเองไม่ร่วมกันรักษามรดกอันทรงคุณค่าชิ้นนี้ให้คงอยู่ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกที่จะใช้เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่ง จ ปราจีนบุรี ผ่าน อ พนมสารคาม จ ฉะเชิงเทรา ด้วยเหตุผลที่ถนนสายนี้เป็นเส้นทางที่ไม่พลุกพล่านมาก ประกอบกับสองข้างทางมีทิวทัศน์ของวิถีชีวิตชนบทให้ซึมซับตลอดเส้นทาง ภาพท้องทุ่งรวงทอง  ผืนดินนาไร่ที่กว้างไกลสุดสายตา จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนทางทอดยาวผ่านทุ่งโล่งท่ามกลางเปลวแดดแผดเผาดังไฟกับธรรมชาติที่ร้อยเรียงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กับภาพขุนเขาพงพนาที่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้า ไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด กับชื่อที่ผู้คนเรียกขาน “เขาใหญ่”   ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าบอกผมว่าจุดหมายปลายทางอยู่ใกล้เข้ามาทุกขณะ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในที่สุดผมเดินทางมาถึงด่านเนินหอม ยวดยานพาหนะไม่มากในวันนั้น หลังจากชำระค่าธรรมเนียมแล้วก็ออกเดินทางต่อ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาติดตามชมครับ.................. จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 12 ธ.ค. 50 14:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผ่านด่านเนินหอมมาเส้นทางจะค่อยๆ ใต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ สู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ป่าใหญ่ผืนสุดท้ายของดงพญาไฟที่เหลืออยู่กินอาณาบริเวณกว่าล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่สิบเอ็ดอำเภอของสี่จังหวัด จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดินเข้ามาเงียบๆ  รอชมต่อครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 12 ธ.ค. 50 14:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดดีครับ คุณ ถนนสายนี้เปลี่ยว ติดรถและชมทิวทัศน์สองข้างทางไปด้วยกันเลยนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อันได้แก่ อ มวกเหล็ก อ แก่งคอย จ สระบุรี อ ปากช่อง อ วังน้ำเขียว จ นครราชสีมา อ นาดี อ กบินทร์บุรี อ ประจันตคาม อ เมือง จ ปราจีนบุรี อ ปากพลี อ บ้านนา อ เมือง จ นครนายก จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 14:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แวะทักทายคุณ เบียร์ครับ อยู่ดื่มด่ำธรรมชาติด้วยกันต่อจนจบนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญถึงห้าแห่งอันได้แก่ แม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายกที่ใหลบรรจบกันเป็นแม่น้ำบางปะกง  ลำตะคองและลำพระเพลิงที่ใหลกลายเป็นแม่น้ำมูลแหล่งน้ำสำคัญหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของอีสานตอนล่าง และท้ายสุดห้วยมวกเหล็กที่ใหลสู่แม่น้ำป่าสัก จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมใช้ความเร็วไม่มากเพราะตระหนักดีว่า กำลังเดินทางเข้ามาในอาณาเขตที่เป็นเสมือนที่พำนักอาศัยของสรรพสัตว์ มีโอกาสที่สัตว์ป่าเจ้าของบ้านจะข้ามถนนได้ทุกขณะ อีกประการหนึ่งผมยังต้องการที่จะเพลิดเพลินกับธรรมชาติสองข้างทางที่หาดูไม่ง่ายนักในทุกวันนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถนนสายนี้ช่างดูเงียบสงบเหลือเกินในวันนั้น  ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นบนทางสายนี้ เส้นทางที่ทอดตัวยาวขึ้นสู่ยอดเขา ผ่านคืนและวันแห่งการเป็น “เขาใหญ่”   วันแล้ววันเล่าจวบจนวันนี้  กลิ่นอายแห่งธรรมชาตินำพานักเดินทางมากมายเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างยังพื้นที่แห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ระหว่างสองข้างทาง ผ่านผื่นป่าอันอุดมสมบรูณ์ ธรรมชาติที่งดงาม ทันทีที่เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ภาพในวันวานเริ่มชัดเจน ผมนึกย้อนหลายเรื่องราว หลายความรู้สึก ที่ได้มาเยือนในวันเก่าๆ หลายครั้งหลายครา หลากอารมณ์ความรู้สึกกับผู้ร่วมเดินทางคนแล้วคนเล่า อดยิ้มในใจไม่ได้ ผมค่อยๆสานต่อภาพวันวานเหล่านั้นเป็นเรื่องราว อยากย้อนวันเวลากลับไปสู่ความทรงจำที่ดีเหล่านั้น หลายหนนับครั้งไม่ถ้วนกับการมาเยือนผืนป่าพงไพรแห่งนี้ ไม่มีครั้งไหนที่จะเบื่อหน่ายกับการกลับมา เขาใหญ่ที่เป็นเสมือนที่พักพิงของผมในวันที่ไร้จุดหมายในใจ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ระหว่างทางกับภาพสัตว์ป่า ที่ปรากฎกายออกมาต้อนรับผู้มาเยือน แต่ทุกวันนี้ผู้คนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติ กลับหยิบยื่นความสูญเสียด้วยการให้อาหารสัตว์ป่า  มันมิใช่ความเมตตาแต่คือการทำร้ายสัตว์เหล่านั้นในทางอ้อม หลายชีวิตเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและสังเวยชีวิตบนเส้นทางสายนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทิวทัศน์สองข้างทางช่างงดงามยิ่งนัก ธรรมชาติที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพจัดสรรอย่างลงตัว ผมเพลิดเพลินกับความสวยงามตามธรรมชาติที่ร้อยเรียงตลอดสองข้างทาง จนข้ามเนินเขาสูงลูกสุดท้ายมาเชื่อมกับถนนธนะรัตน์บนพื้นที่อุทยานฯ มุ่งหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผ่านอ่างเก็บน้ำบนเขาสูงจนกระทั่งใกล้มาถึงจุดหมายปลายทางของการเดินทางในวันที่ท้องฟ้าสดใสงดงามเหนือคำบรรยาย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 การเดินทางในวันนั้น สิ้นสุดลงที่นี่ ผมมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในช่วงสายๆ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ติดต่อรับกุญแจบ้านพักกับเจ้าหน้าที่งานบริการบ้านพักที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมใช้เวลาระหว่างนั้นสำรวจรอบๆบริเวณ จำได้ว่ามีเส้นทางเดินป่าเริ่มจากสะพานสลิงข้ามห้วยลำตะคองข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามารอดูรูปสวยๆ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 12 ธ.ค. 50 15:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเดินชมธรรมชาติไปตามเส้นทางเดินปูด้วยอิฐตัวหนอนอย่างดี  ตลอดเส้นทางมีป้ายสื่อความหมายของธรรมชาติตลอดเส้นทาง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอต้อนรับคุณ `SEPULTURA_`FROM_`HELL อยู่เที่ยวด้วยกันจนจบนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พบเห็นต้นไม้ที่มีหนทางดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอดด้วยการแปรสภาพของรากให้มีขนาดใหญ่ อีกทั้งได้พบเห็นการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันในพงไพรแห่งนี้โดยไม่ทำร้ายกัน อดนึกไม่ได้ว่าเหตุใดมนุษย์เราถึงเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ยากยิ่งนัก จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ระหว่างที่เดินมาจนใกล้ถึงช่วงสุดท้าย ผ่านสพานข้ามหนองน้ำตรงจุดนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลองขับขึ้นเขาใหญ่แล้วเปิดกระจกปิดแอร์ซีคะ  แล้วคุณจะรู้ว่าธรรมชาติจริง ๆ เป็นอย่างไร จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (tigor) - [ 12 ธ.ค. 50 15:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ระหว่างที่เดินมาจนใกล้ถึงช่วงสุดท้าย ผ่านสพานข้ามหนองน้ำตรงจุดนี้ ผมพบเห็นนกที่มีถิ่นหากินผูกพันกับหนองน้ำในเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนี้  ผมรู้สึกถึงความหวงแหนในบ้านที่มีท้องฟ้า มีสายน้ำ มีต้นไม้และเขาสูงของสัตว์ตัวน้อยนี้ได้ไม่ยากเลย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยเช่นกันครับ คุณ คุณแม่ลูกสอง (tigor) อากาศที่นั่นบริสุทธิ์หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 50 15:51:59 จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดูช่างเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข อิสระเสรี  ทุกชีวิตเบิกบานในบ้านอันเป็นที่รัก สิ่งต่างๆเหล่านี้คือความสมดุลย์ คุณค่าของธรรมชาติ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเดินข้ามสพานสลิงอีกแห่ง มาออกบริเวณหลังที่ทำการอุทยานฯ เป็นอันสิ้นสุดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติรวมระยะทางประมาณ 800 เมตร จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มื้อเที่ยงของวันนี้ ผมฝากท้องไว้ที่ศูนย์อาหารของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพต้นไม้จำพวกยางขนาดใหญ่ในศูนย์อาหาร ที่ไม่ได้มีการโค่นล้มใจขณะก่อสร้างอาคารศูนย์อาหารแห่งนี้ แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 50 16:00:01 จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 15:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเดินไปที่ซุ้มขายอาหารอีกด้านหนึ่งด้วยความหิวเนื่องจากไม่ได้แวะพักทานอาหารที่ใดเลย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เลย   มีอาหารให้เลือกพอสมควร เป็นอาหารง่ายๆ พอทานประทังความหิวได้  จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มอยู่บริเวณใกล้ๆลานจอดรถ ตรงข้ามกับศูนย์อาหารในปัจจุบัน จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมซื้ออาหารง่ายๆมาทานพร้อมเครื่องดื่มแก้กระหาย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หลังอาหารผมแวะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ภายในเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับผืนป่าแห่งนี้ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เสือโคร่งที่เคยทำร้ายเด็กและเจ้าหน้าที่เมื่อหลายปีก่อน ผมได้ทราบว่าตั้งแต่มีการประกาศพื้นที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติ เคยมีเหตุเสือทำร้ายมนุษย์เพียงสองครั้งเท่านั้น  ใครเลยจะบอกว่าเสือถูกทำร้ายมากกว่าคน วันนี้ลมหายใจของสัตว์จ้าวแห่งพงไพรกำลังเหือดหายลงทุกชั่วขณะ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อนุสรณ์ของความโหดร้ายทารุณที่เกิดขึ้น หลายชีวิตต้องพลัดพรากด้วยน้ำมือของคนบางกลุ่ม จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โครงกระดูกกวางป่าและวัวกระทิงที่ถูกพรานยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตในอีกสามชั่วโมงต่อมา เป็นโครงกระดูกที่อยู่ในสภาพสมบรูณ์ที่สุดที่มีมา เป็นสิ่งเตือนใจถึงความเห็นแก่ได้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โครงกระดูกส่วนหัวและเขาของสมัน สัตว์จำพวกกวางขนาดกลางที่ต้องล้มหายตายจาก สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ เขาที่เมื่อยามที่โตเต็มที่จะแผ่กิ่งก้านออกมาหลายสิบกิ่งมีรูปทรงคล้ายสุ่ม สวยงามมาก เป็นภัยร้ายที่คุกคามสัตว์ชนิดนี้จนสูญสิ้น จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อย่าให้ต้องหลงเหลือเพียงเท่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของผืนป่าแห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ร้านขายของที่ระลึกถึงคุณค่าของผืนป่ามรดกโลก ปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนได้จดจำและร่วมกันอนุรักษ์ให้คงอยู่ตลอดไปสู่ชนรุ่นหลัง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แวะเข้ามาชมและพาเจ้าจ๋อมาทักทายเพื่อนค่ะ  ... จากคุณ : ตัวยึกยือ - [ 12 ธ.ค. 50 16:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมได้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องราวความเป็นมาของผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ในช่วงบ่ายของวันนั้น ผ่านสื่อ ถ้อยคำบรรยาย ปลุกจิตสำนึกแห่งการร่วมกันรักษ์เขาใหญ่ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:19:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับ คุณ ตัวยึกยือ ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกัน และพาเพื่อนมาแนะนำทักทายครับ ตามไปด้วยกันจนจบนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ในยามตะวันบ่ายคล้อย ผมนั่งพักผ่อนที่น้ำตกกองแก้ว สายน้ำจากห้วยลำตะคองใหลเรื่อยเอื่อยช้าในยามสายฝนจางหาย เกิดเป็นลำธารน้ำตกสายนี้ ทราบว่าที่มาของชื่อเรียกตามชื่อเข้าพ่อกองแก้วที่สิ่งสถิตย์อยู่ ณ พื้นที่แห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 นี้  ลำห้วยสายนี้แบ่งแยกจังหวัดนครนายกและนครราชสีมาออกจากกัน ผมเหม่อมองดูสายน้ำที่ใหลริน ด้วยใจที่เป็นเบิกบาน จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 50 รอบๆกายมีแต่ธรรมชาติชวนให้หลงใหล ท้องฟ้า ต้นไม้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กำลังจะปิดคอมฯ เจอกระทู้นี้พอดี... และคงจะตอบเป็นกระทู้สุดท้ายของเย็นวันนี้... ผืนป่ากว้าง ลำธารใส แมกไม้เขียว สัตว์ป่าดำรงอยู่ เคียงคู่ผืนป่า ต้นไม้ให้ความร่มรื่น ทั้งกักเก็บความชุ่นชื้น แล้วใยมนุษย์มักทำลายสิ่งที่เป็นธรรมชาติ แต่ไม่มีใครหรอกนะคะ ที่จะชนะทำธรรมชาติได้ ทุกวันนี้ เรากำลังถูกธรรมชาติลงโทษอยู่ค่ะ ก็สมควรแล้วล่ะ... แม้ว่าดิฉันจะไม่ชอบป่าเท่าทะเล แต่ไม่เคยที่จะทำลายธรรมชาติแม้เพียงนิด ทุกๆครั้งที่ผ่านป่าใหญ่ จะนึกชื่นชมบรรพบุรุษเสียด้วยซ้ำไป... ความทรงจำค่อยๆเก็บลงเข่งเหมือนเดิมนะคะ แต่...เลือกเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆเท่านั้นนะคะ จากคุณ : Zorakun - [ 12 ธ.ค. 50 16:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตามมาเดินป่าด้วยคนค่ะ จากคุณ : noo_jar - [ 12 ธ.ค. 50 16:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สวัสดีครับคุณโซ ดีใจที่ได้พบกันอีก แต่ก็กำลังจะจากไปแล้วใช่มั้ยอ่ะครับ อยากให้อยู่ร่วมร้อยเรียงความสวยงามแห่งธรรมชาติด้วยกัน แต่ไม่เป็นไรครับ  ความทรงจำดีๆที่งดงามยังคงอยู่เสมอ เมื่อไรที่กลับเข้ามาก็ยังคงมีอยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่แวะมาครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:38:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ยินดีครับคุณจ๋า  พบกันอีกครั้ง ไปด้วยกัน อยู่ติดตามจนจบนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 และสายน้ำที่ไม่มีวันแยกจากกัน สิ่งเหล่านี้เติมวาดชุบชีวิตชีวาให้แก่โลกใบนี้  ผมยังจำได้ดี เมื่อคราวก่อน ทุกครั้งที่อ่อนล้าจากภาระหน้าที่งานการ เคยเดินทางมานั่งทอดกายใจไปกับสายน้ำที่น้ำตกแห่งนี้นับครั้งไม่ถ้วน แม้ว่าเป็นช่วงสั้นๆแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีไม่น้อยเนื่องจากเป็นน้ำตกที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เข้าถึงได้ไม่ยาก อยู่ใกล้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมจัดสัมภาระเข้าบ้านพักแรมในคืนนี้ที่อยู่บริเวณค่ายสุรัสวดี  ห้องนอนพร้อมเครื่องนอน ห้องน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น พื้นที่นั่งพักกาย ดื่มด่ำบรรยากาศ คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้วที่ผมต้องการ สำหรับการกลับมาเยือนที่นี่ในครั้งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หลังเข้าที่พัก ผมเดินเท้าเรื่อยมาจากที่พัก ในใจทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา สิ่งที่เราเคยประสบพบเจอ ในทุกครั้งที่มาเยือนที่แห่งนี้ มันเป็นความสุขใจ ไกลห่างจากความสับสนวุ่นวายในเมืองใหญ่  คิดอะไรต่างๆนาเพลินๆ สองข้างทางผ่านพื้นที่ที่เคยใช้เป็นสนามกอล์ฟเมื่อครั้งอดีตกาล  ผมนึกย้อนไปแล้วก็หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมมีสนามกอล์ฟบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จำได้ว่ามีวัวกระทิงตัวหนึ่งชื่อจุ๋มจิ๋ม ออกหากินแล้วกลืนลูกกอล์ฟเข้าไปในท้องจนถึงแก่ความตาย เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเศร้าเสียดาย จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เขียนได้น่าอ่านมาก อ่านแล้วนึกถึงความหลังเมื่อเขาใหญ่ยังสมบูรณ์และสงบเงียบ จากคุณ : พฤกษชาติ - [ 12 ธ.ค. 50 16:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ยามตะวันรอนแดดอ่อนแสง ผมเดินเลยมาอีกสองร้อยเมตร นั่งลงตรงนี้ ดื่มด่ำบรรยากาศที่อ่างเก็บน้ำมอสิงโต  มอเป็นภาษาอีสาน หมายถึงเนินเขา จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับ คุณพฤกษชาติ ไม่ได้เจอกันนาน ขอบคุณที่แวะมา อย่าลืมติดตามไปด้วยกันจนจบนะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เมื่ดใดที่มีโอกาสมาที่อุทยานฯ แห่งนี้ ต้องมานั่งที่เดิมตรงนี้ทุกครั้ง  ผมมองออกไปเบื้องหน้า สวยงามจับใจกับภาพยามแสงตะวันฉายส่องกระทบบนผิวราวกับกระจกเงาบานใหญ่ก่อนจะลาลับขอบฟ้า จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 62 หลังอาหารมื้อเย็น ผมได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมส่องสัตว์ในยามค่ำคืนร่วมกับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาสัมผัสธรรมชาติบนป่าเขาใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุ ทุกวันนี้จำนวนสัตว์ป่าที่ออกมาหากินยามค่ำคืนมีจำนวนน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก ตลอดระยะเวลาราวหนึ่งชั่วโมงพบเห็นกวางป่าไม่มากนัก กับสิ่งที่ยังติดคาอยู่ในใจว่ากิจกรรมที่เป็นการรบกวนสัตว์ป่าควรจะมีอยู่ต่อไปหรือไม่ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 63 กลับมาพักผ่อนอิริยาบถที่บ้านพัก ผ่อนคลายและดื่มด่ำบรรยากาศอยู่เงียบๆ เพียงลำพังอยู่ตรงนี้โดยที่ยังไม่รู้สึกง่วง คงเป็นเพราะความอื่มเอมในหัวใจที่ได้มีโอกาสกลับมาตามหาความสดใสยังพงพนาแห่งนี้อีกครั้ง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ค่ำคืนเมื่อยามเดือนสิ้นแสง ท้องฟ้าสีหม่น ไม่มืดมนจนสิ้นแสง มีดาวจรัสแสงเกลื่อนท้องนภา สายลมหนาวในยามค่ำคืน เริ่มเย็นลงจับหัวใจ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 16:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมนับทุกลมหายใจแต่ละนาทีผ่านไปอย่างช้าๆ ที่แล้วก็ให้ผ่านเลยไป ไม่นำพาสิ่งไม่ดีมาใส่ใจ แล้วผ่านคืนนี้ไป จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมออกเดินทางในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นสู่จุดชมทิวทัศน์บนเขาเขียว ยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งพันสองร้อยกว่าเมตร เป็นอันดับสามในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รองจากเขาร่ม และเขาแหลม จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลเมตรจากเบื้องล่างกับภาพธรรมชาติสองข้างทางในยามเช้าที่ชวนให้หลงใหล จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 68 บนเขาแห่งนี้มีจุดชมทิวทัศน์ที่น่าสนใจคือผาตรอมใจ เข้าใจว่าในช่วงที่มีการก่อสร้างสถานีเรด้าของกองทัพอากาศ มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง จึกมีการเรียกขานชื่อหน้าผาแห่งนี้ด้วยความอาลัยต่อผู้จากไป จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 บริเวณจุดชมวิวผาตรอมใจมีแผงขายของกินสำหรับนักท่องเที่ยว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 70 บนเขาเขียวแห่งนี้ยังมีจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งคือผาเดียวดาย ห่างจากผาตรอมใจลงมาราวๆ สองกิโลเมตร สามารถจอดยานพาหนะแล้วเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะทางสองร้อยเมตร จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ด้วยระดับความสูง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเลคือที่ที่ผมได้มายืนชมทิวทัศน์ตรงนี้อีกครั้ง มองเห็นภาพป่าเขาอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าห่างไกล ไม่นาน ความรู้สึกก็คล้อยตามชื่อของสถานที่แห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เบื้องหน้ามีแต่ความอ้างว้าง เดียวดาย คงไม่ผิดนักกับชื่อที่มีการเรียกขานสถานที่นี้ ผมทอดสายตาไปที่เส้นขอบฟ้า ปล่อยใจล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย ชื่นฉ่ำกับความทรงจำดีๆที่เกิดขึ้น ณ ผื่นป่าแห่งนี้   ผมใช้เวลาซึมซับบรรยากาศอยู่ ณ ที่แห่งนี้ระยะหนึ่ง ก่อนกลับลงมา จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ยามเช้าอย่างนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า คลายง่วงด้วยชาร้อนๆซักแก้ว เคล้าเสียงเพลงขับกล่อมจากเหล่ามวลวิหคทิ่เริงร่ารับแสงอรุณ อย่างอิสระเสรี   มื้อเช้าของวันใหม่ที่ศูนย์อาหารเหมือนเช่นเคย  ผมอยากใช้เวลาว่างวันนี้ ไปเยือนสถานที่ต่างๆ บนอุทยานฯแห่งนี้ มีหลายแห่งที่อยากไป ผมเริ่มต้นไปตามเส้นทางถนนธนะรัตน์ มุ่งหน้าน้ำตกเหวสุวัต  ระหว่างมีที่ให้แวะหลายแห่ง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 74 บ้านพักในบริเวณนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2505 เคยอยู่ในความดูแลของ ททท ในอดีต ก่อนรัฐบาลจะยกเลิกการพักแรมบนอุทยานฯ เมื่อปี 2534   ยังจำได้ดีเมื่อครั้งได้มีโอกาสมาพักค้างแรมที่นี่ ตอนนั้นสภาพพื้นที่อุทยานฯ ยังคงความเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์  ปัจจุบันบ้านพักเหล่านี้อยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกอบรมการป่าไม้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อาคารหลังนี้เคยเป็นโภชนาคารบนเขาใหญ่เมื่อครั้งกระโน้นที่ผมเคยมานั่งทานอาหาร จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ปัจจุบันกลายเป็นอาคารศูนย์ฝึกอบรมการป่าไม้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ผมเดินทางต่อไปถึงจุดสิ้นสุดถนนธนะรัตน์ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำตกเหวสุวัตที่น้อยคนจะไม่รู้จัก ทุกครั้งมาที่นี่ ได้พบกับความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติรอบๆ สายน้ำตก เส้นทางมุ่งสู่น้ำตกทุกวันนี้เอื้ออำนวยให้ผู้คนเข้าถึงได้ไม่ยาก มีที่จอดรถสะดวกบริการนักท่องเที่ยว ร้านขายอาหารและของที่ระลึก จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ผมเดินเท้าลงบันไดไปยังตัวน้ำตก จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 17:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอติดรถไปเที่ยวด้วยค้าบ!! อช.โปรดในใจตลอดกาลของผม ^^ ... ส่องสัตว์นี่ เค้ามีให้ไปกี่รอบ ผมก็ไปเท่านั้น เเต่ละรอบมันได้ลุ้น รอบนี้จะได้ตัวอะไรหนอ จากคุณ : เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี - [ 12 ธ.ค. 50 17:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ติดตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ  ประทับใจ  ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kulratt (kulratt) - [ 12 ธ.ค. 50 17:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตามอ่านจนจบแล้วนะคะ ผืนป่ากว้าง กับ อารมณ์เหงาๆ เข้ากันจริงๆเลยนะคะ อย่างน้อย...คุณก็ได้ ซึมซับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอดในช่วงเวลาสั้นๆแล้วล่ะ สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ ณ ที่นั้น จะเหลือแต่ความทรงจำที่แสนงดงาม จริงมั้ย... จากคุณ : Zorakun - [ 12 ธ.ค. 50 18:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ด้วยความยินดีครับคุณ "เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี" เที่ยวไปด้วยกันนะครับ ส่องสัตว์ทุกวันนี้ โอกาสน้อยกว่าเมื่อก่อนมากครับ ผมยังคิดว่าอยู่ที่บ้านพักให้สัตว์เดินมาหาเห็นชัดกว่าครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 19:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 83 รู้สึกว่า อินเตอร์เน็ตจะขัดข้องชั่วครู่นะครับ คุณ 3KKK เลยหายไป แต่คืนนี้ ก็คงจะเข้ามาต่อใหม่จนจบวันแห่งความหลังที่เขาใหญ่ ผมจำได้ว่า ในสมัยแรกนั้น มีสนามกอล์ฟ เพราะผู้ใหญ่ในรัฐบาลอยากให้มี แต่ต่อมา เครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง บินมาตกลงที่บริเวณใกล้สนามกอล์ฟนั้น แล้วก็อ้างกันว่าไฟสนามกอล์ฟ ทำให้นักบินเข้าใจผิด หลงทิศ คิดว่าดอนเมือง ซึ่งเป็นไปได้ยาก ถึงยากมากที่สุด สำหรับการหลงทิศหลงทางของนักบิน แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม เมื่อเขาใหญ่อยู่ห่างดอนเมืองเกือบร้อยกิโลเมตร แต่จะเป็นด้วยประการใด สมัยนั้น ข่าวสารยังถูกปิดบัง บิดเบือนได้ง่ายมาก ก็เลยเงียบกันไป แต่ต่อมา ก็เลิกสนามกอล์ฟไป คงไม่ใช่เพราะเหตุเครื่องบินมาตกหรอกนะครับ แต่น่าจะเป็นเหตุของการเห็นว่า มีสนามกอล์ฟอยู่บนนั้น ไม่สู้เหมาะสมกับป่าเท่าไรมากกว่า คุณ 3KKK เจ้าของกระทู้ คงจะอยู่ในยุคสนามกอล์ฟยังอยู่ ซึ่งก็เป็นเวลานานมากแล้ว พอจะทราบบ้างไหมครับ เรื่องเครื่องบินโดยสารที่มาตกบริเวณนั้น จำได้แต่ว่า ผู้โดยสารเสียชีวิตทุกคน แต่จุดเครื่องบินตก หายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ ไร้ร่องรอย ไม่มีการพูดถึงกันเลย เหมือนกับเครื่องบินฝึก กับนักบินอีกสองท่าน ที่เพิ่งหายไปในชายป่า เชิงเขา ของเทือกเขาใหญ่เมื่อเร็วเร็วนี้ จากคุณ : xebec - [ 12 ธ.ค. 50 19:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตามไปด้วยกันนะครับ คุณ kulratt (kulratt) -------------------------------------------- ยังไม่จบครับคุณโซ อย่าลืมติดตามไปเที่ยวด้วยกันต่อนะ ธรรมชาติแสนงดงาม อยากให้คุณโซได้ไปสัมผัสครับ อย่างน้อยก็ทำให้จิตใจเราสดชื่นผ่องใส และเบิกบาน ดีใจที่แวะมาครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 19:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มาตามเรื่องราวและลมหนาว.....ที่แสนอบอุ่นไปด้วยอ้อมกอดของขุนเขา จากคุณ : ScOoBy@Tigger - [ 12 ธ.ค. 50 19:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้าเช่นนั้น คุณ 3 เค  อายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาหมูหรอกหรือนี่... วันหลังไปพบเจอกันดีมั้ยคะ เห็นว่าชอบดื่มไวน์เหมือนกันด้วย... ..................... คุณ 3 เค คะ เขาใหญ่ โซขึ้นไปหลายหนแล้วค่ะ แต่ไม่เคยพักแรมนอนเต้นท์สักครั้งเลย ลงมานอนรีสอร์ทข้างล่างทุกหน วันหลังคงมีโอกาสได้ไปนอนเต้นท์ ดูดาวสักหน แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 50 19:35:57 จากคุณ : Zorakun - [ 12 ธ.ค. 50 19:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดีครับอาหมู (ขออนุญาตเรียกอาหมูตามเพื่อนสมาชิกนะครับ) ที่หายไปเพราะมีงานติดพัน เลยนำกลับมาทำที่บ้านต่อ ตอนนี้มาต่อให้จบแล้วครับ เรียนเชิญอาหมูติดตามจนจบนะครับ ต้องขอบคุณอาหมูที่นำเครื่องสนามกอล์ฟมาเล่าให้ฟัง ส่วนเรื่องเครื่องบินตก ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าทำนองผีสางในบริเวณจุดที่เครื่องบินไอพ่นประสบเหตุตกลงในป่าลึก ซึ่งจุดตกห่างจากโป่งเครื่องบินตกในปัจจุบันไปราวๆ สองกิโล  โป่งแห่งนี้มีสัตว์มากินชุกชุมเพราะอยู่ลึกเข้าไปห่างไกลผู้คนเนื่องจากไม่มีใครกล้าเข้าไปเพราะกลัวถูกผีหลอก ผมเข้าใจว่าทางเข้าไปจุดตก จะแยกซ้ายจากถนนธนะรัตน์บริเวณ กม 31 เลยดงงูเห่าไปเล็กน้อย เส้นทางนี้ยังมีร่องรอยของรถที่แล่นเข้าไปลำเลียงศพผู้เสียชีวิตออกมา ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็ยังใช้เส้นทางเดินป่าสายนี้เข้าไปสำรวจป่าเป็นครั้งคราว เหตุการณ์ครั้งนั้นนักบินและผู้โดยสารเสียชีวิตหมดรวม 23 ศพ   จริงเท็จประการใดต้องขออภัยด้วยครับ และขอบคุณอาหมูที่ให้เกียรติเข้ามาชมครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณ คุณ ScOoBy@Tigger ที่สละเวลามาเที่ยวชม ติดตามสายลมหนาวในอ้อมกอดแห่งขุนเขาด้วยกันจนจบนะครับ ------------------------------------- แฮ่..คุณโซครับ เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่บังอาจเทียบรุ่นกับอาหมูหรอกครับ ผมยังต้องเรียกคุณอาเหมือนทุกคนในห้องอ่ะนะครับ อยากให้ลองไปนอนดื่มด่ำบรรยากาศบนเขาใหญ่ดูสักครั้ง ไม่ต้องนอนเต้นท์ก็ได้ถ้ากลัวลำบาก นอนบ้านพักอุทยานฯก็ได้ ผมว่าบรรยากาศดีกว่าข้างล่าง ผมไปกี่ครั้งกี่หนก็นอนข้างบนตลอดครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ผมเดินเท้าลงบันไดไปยังตัวน้ำตก  นั่งทอดอารมณ์ไปกับสายน้ำจากห้วยลำตะคองที่ร่วงหล่นจากหน้าผาสูงกว่า 20 เมตร  กระทบผิวน้ำเบื้องล่างเป็นละอองต้องกับแสงแดดเกิดเป็นสายรุ้งที่งดงาม แผดเสียงของสายน้ำที่ทิ้งตัวจากหน้าผาสูงดังกึกก้องไปทั่วพงไพรได้ยินมาแต่ไกล ราวกับการปรากาศความยิ่งใหญ่ให้ผู้คนได้รับรู้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ธรรมชาติรอบๆ น้ำตกแห่งนี้ยังคงร้อยเรียงความงดงามเคียงคู่สายธารแห่งนี้ อยู่ตราบจนทุกวันนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 91 น้ำตกผากล้วยไม้อยู่ห่างจากลานกางเต้นท์พักแรมประมาณ 1 กม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ราวๆ 7 กม เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในห้วยลำตะคอง สูงราว 10 เมตร ลดหลั่นกันลงมา ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างมาก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ ตามคบไม้และหน้าผาบริเวณน้ำตก พบกล้วยไม้นานาพันธุ์ นี่คงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้ เมื่อครั้งก่อนจำได้ว่าผมมีโอกาสเดินป่าศึกษาธรรมชาติจากน้ำตกผากล้วยไม้ไปสิ้นสุดที่น้ำตกเหวสุวัต เป็นระยะทางประมาณ 3 กม เส้นทางเดินยังชัดเจนอยู่ในใจมิรู้ลืม  เดินลัดเลาะไปตามลำธาร ลดหลั่นลงไปใต้ร่มไม้ร่มรื่นตลอดทาง ระหว่างทางพบสรรพสัตว์ที่ใช้ชีวิตผูกพันกันลำธารลำห้วยต่างๆ นานา เช่นฝูงผีเสิ้อ หากเดินช่วงเช้าอาจพบเห็นตัวตะกองซึ่งเป็นกิ้งก่าที่สวยงามหายากออกมานอนผึ่งแดดหรือเหล่าบรรดาชะนีบนยอดไม้ และทุกวันนี้ มีข้อมูลยืนยันว่ามีจรเข้มาอาศัยอยู่ที่เส้นทางเดินป่าสายนี้แล้ว จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมมุ่งหน้าย้อนเส้นทางเดิมไปตามถนนธนะรัตน์ ผ่านหน้าศูนย์บริการ จากนั้นก็ข้ามห้วยลำตะคองไปอีกฟาก มาแวะหยุดที่ กม 35 บนถนนธนะรัตน์เดินเท้าเข้าไปประมาณ 800 ร้อยเมตร จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายของหมู่มวลวิหคที่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมมาติดตามต่อครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 12 ธ.ค. 50 20:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณครับ คุณเบียร์ ที่ให้ความสนใจแวะมาติดตามต่อ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมเดินผ่าเปลวแดดมาถึงหอดูสัตว์หนองผักชีที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่จวบจนบัดนี้ หอสูงสำหรับเผ้าดูสตว์ป่าบริเวณทุ่งหญ้า หนองน้ำและโป่ง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 20:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ใกล้ๆหอดูสัตว์มองเห็นหนองผักชี และดินโป่งหนองผักชีขนาดใหญ่ เป็นลานดินกว้างอยู่บนเนินในทุ่งหญ้าริมหนองผักชี เนื้อดินเป็นดินสีแดงลูกรัง ไม่ค่อยมีปัญหาน้ำขังเนื่องจากอยู่บนใหล่เนิน ว่ากันว่าสัตว์ที่กินโป่งทุกชนิดต้องมาที่นี่เพราะมีทุกสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า แหล่งน้ำ ดินโป่งที่อุดมด้วยเกลือแร่ต่างๆ อาทิ เกลือโซเดี่ยมคลอไรด์  โปรแตสเซียม และเกลือแคลเซี่ยมที่พวกสัตว์มีเขาชอบเพราะเสริมสร้างเขาให้สวยงาม  ผมทึ่งมากที่สัตว์ป่าเหล่านี้เรียนรู้ถึงธรรมชาติและการดำรงอยู่ว่าสิ่งใดมีประโยชน์มีคุณค่าทางโภชนาการกับพวกมัน จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 98 บรรยากาศดีมากเลยค่ะ ไม่ได้ไปนานแล้วนะแถวนั้น จากคุณ : Ock_toPus - [ 12 ธ.ค. 50 21:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขึ้นไปบนหอดูสัตว์ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับสรรพสัตว์และผืนป่าแห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ทักทายคุณ Ock_toPus ครับ ลองหาเวลากลับไปเที่ยวอีกสักครั้งซิครับ ช่วงเวลานี้กำลังเหมาะมากเลยครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว เวลานี้คงเห็นความเปลี่ยนแปลงไปมากมายเลยอ่ะครับ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ไม่น่าเชื่อว่าผืนใหญ่ใกล้เมืองจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่า มีต้นไม้มากมายบนภูเขา มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ภาพนกแซงแซวเล็กเหลือบที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้กู่ขันบทเพลงจากพงไพร หาดูได้ไม่ยากเมื่อขึ้นไปบนหอดูสัตว์แห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ผมยังจำได้ดีอีกเช่นกันเมื่อคราวที่ได้มีโอกาสเดินป่าศึกษาธรรมขาติระยะสั้น เริ่มที่กม 33 ธรรมชาติที่น่าสนใจกับระยะทางประมาณ 3 กม ตลอดเส้นทางแห่งการเรียนรู้ สื่อสัมพันธ์กับธรรมชาติ ท่ามกลางเสียงสรรพสัตว์ ผ่านโป่งหนองผักชีซึ่งเป็นโป่งธรรมชาติขนาดใหญ่ต่างจากโป่งเทียมที่ทำขึ้นโดยมนุษย์ จนมาถึงที่หอดูสัตว์หนองผักชีแห่งนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 104 และผมก็ได้เรียนรู้ว่ามนุษย์กับธรรมชาติต้องอยู่ร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อใดที่เราทำร้ายธรรมชาติ ผลก็จะกลับมาสู่ตัวเรา จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ระหว่างเดินทางกลับ ผมใช้เวลาที่เหลือแวะน้ำตกเหวนรก  ผมเคยเข้าไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้มาหลายหน เพียงแค่เดินเท้าจากทางเข้าไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร ได้ยินว่าเคยมีการเสนอเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังติดปากกับชื่อเดิมกันมาตลอด จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 106 สมัยก่อนผู้มาเยือนต้องเดินป่าจากด้าน อ ปากพลี จ นครนายก  ขึ้นเขาระกำ ผ่านหัวเขาสมอปูน ข้ามมาเขต จ ปราจีนบุรี ต้องรอนแรมในป่าไม่น้อยกว่าสองวันจึงมาถึงน้ำตกแห่งนี้ได้  ทุกวันนี้การเดินทางสะดวกสบายหลังจากมีการสร้างเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ด้าน จ ปราจีนบุรี  ผมใช้เวลาไม่นานเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้  ผ่านห้วยสมอปูนที่มีสพานปูนข้ามห้วย เดินลงหุบน้ำตกไปเพียงแค่สามสิบนาที จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ก็ได้พบกับความอลังการของน้ำตกเหวนรกตอนบน ส่วนตอนล่างอีกสองชั้นทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้ลงไปชมเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โอกาสที่จะได้เห็นภาพน้ำตกแห่งนี้ทั้งสามชั้นที่มีความสูงกว่าสองร้อยเมตร คงต้องอาศัยภาพถ่ายทางอากาศเท่านั้น  ภาพสายน้ำที่มีต้นลำธารจากลำห้วยสมอปูนใหลมาจากบริเวณทุ่งงูเหลือม ตกจากผาสูง ดังกึกก้องไปทั่วหุบเขาและพงไพร สู่คลองท่าด่าน ผ่านเขื่อนขุนด่านปราการชล ก่อนระบายออกกลายเป็นแม่น้ำนครนายกในที่สุด เป็นสิ่งที่ผู้มาเยือนทุกคนรับรู้ได้ไม่ยาก น้อยคนนักที่จะปฎิเสธว่านี่คือน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย ผมมองภาพกระแสน้ำที่ใหลเชี่ยวและรุนแรง ทำให้อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ที่ช้างป่าต้องมาสังเวยชีวิตที่น้ำตกแห่งนี้อย่างน่าเวทนา ภาพยังติดอยู่ในความทรงจำของผมทุกวันนี้ จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมเดินทางกลับในวันนั้น อำลาผืนป่าแห่งนี้พร้อมด้วยจิตสำนึกแห่งความหวงแหน คงไม่ใช่การลาจากเป็นแน่แท้  อีกไม่นานผมจะกลับมา ระหว่างทางกลับเสียงเรียกจากพงไพรและ บทเพลงจากธรรมชาติยังคงขับขาน ก้องกังวาลอยู่ในใจมิรู้ลืม ผมขอสัญญา ไม่ว่าอนาคตของผืนป่าดงพญาเย็นแห่งนี้จะเป็นเช่นไร ก็ยังจะคงอยู่ในใจของผมตลอดไป ตราบนานเท่านาน จากคุณ : 3KKK - [ 12 ธ.ค. 50 21:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านจนจบเลยค่ะ ได้อรรถรสมากเลย  อ่านแล้วอยากไปเยือนอีก  น้ำตกทั้งสองที่นั้น   ไม่ได้ไปมา 20 ปีแล้วอ่า จากคุณ : Ock_toPus - [ 12 ธ.ค. 50 22:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ตามอ่านต่อจนจบตอนเช้า... ชื่นชมกระทู้นี้ของคุณนะคะ ได้ทั้งสาระความรู้ เพลิดเพลินไปกับป่าใหญ่ด้วยจริงๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Zorakun - [ 13 ธ.ค. 50 08:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มาเที่ยวดงพญาไฟ ภาพและเนื้อหาแน่นดีจัง จากคุณ : ขอบคุณน่ะ - [ 13 ธ.ค. 50 12:03:34 A:125.26.56.227 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 112 น่าเสียดายนะครับที่สิ่งอำนวยความสดวกทั้งหลายทำลายความงามของเขาใหญ่จนหมดสิ้น  และยังเกิดต่อเนื่องจากกิจกรรมต่างๆที่เข้าไปเกี่ยวข้อง จากคุณ : เมธี (DPhil) - [ 13 ธ.ค. 50 15:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ทั้งภาพและคำบรรยาย ไม่ควรให้สูญหายไปตามกาลเวลา ผมกด'เก็บเข้าคลังกระทู้' แล้วนะครับ พวกเราช่วยกันกดเก็บเข้าคลังหน่อยเถิด กระทู้ที่ผู้เป็นเจ้าของ สละเวลา สมอง บรรจงเขียนขึ้นมาให้เราได้อ่านกัน เก็บไว้ครับ เก็บไว้ ให้คนรุ่นหลังต่อไปของพันทิป ได้ค้นหา และได้อ่านเพื่อรับรู้ถึงความรักในธรรมชาติ ในผืนป่าของไทย จากใจผู้เป็นเจ้าของกระทู้ ด้วยความขอบคุณครับ จากคุณ : xebec - [ 13 ธ.ค. 50 21:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ตามมากอ่านจนจบ เสียดายจังที่กระทู้ตกเร็วมาก จากคุณ : พฤกษชาติ (พฤกษชาติ) - [ 14 ธ.ค. 50 07:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมพลาดกระทู้นี้ไปได้ยังไงเนี่ยอ่านเพลินดีจังเลยครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 15 ธ.ค. 50 10:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 116 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:53:55 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 5 ก.พ. 52 12:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เปิดตำนาน ดงพญาเย็น รับน้องยา สู่ป่าเขา ลำเนาไพร มรดกโลก อันล้ำค่า ดุจมณี งามผุดผ่อง เม็ดสุดท้าย ที่เหลืออยู่ ในแดนดิน พี่นี้จัก พาน้องยา ท่องพนา ไปด้วยกัน ใต้ป่างาม ฝืนนี้เอย... จากคุณ : 3KKK - [ 17 ก.พ. 52 21:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 118 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:15:09 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 13:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:15:35 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 13:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 120 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:16:03 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 14:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 121 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:16:44 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 14:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 122 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:17:14 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 14:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ปลีกเบาบางเป็นใย ดูอ่อนไหวและอ่อนหวาน แม้เมื่อวานจะผ่านลมฝนมา ดอกยังแข็งแรงแข่งสู้ชะตา แดดลมพัดพาไม่ยอมแพ้ อ่อนโยนโดนรังแกไม่อ่อนแอแม้เคยท้อ จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 14:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ตาเบบูญ่า ตาเบบูญ่า แม้เราร่วงหล่น เราจะหล่น อย่างงดงาม... จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 14:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ...หมอกบาง และลมหนาว.... จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 15:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ใบไม้พราวร่วงสู่ดิน... จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 15:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 127 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:43:59 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 15:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:44:16 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 129 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:44:55 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 130 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:45:09 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 131 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:45:25 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 132 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:45:57 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 133 โอ้ว่าหนาว ดงพญาเย็น ยามฤดูกาล ฝันแปรไป สีชมพู งามอร่าม งดงามจริง แต่ให้ดี มีน้องยา คู่กันกับ ตาเบบูญ่า จักดียิ่งนะคนดี จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 16:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ....อยากจะเป็นดอกไม้ ส่งกลิ่นเป็นภาษา เรียกเธอมาอยู่เคียงกาย อยากจะเป็นดอกสวย ดอกที่ดูสดใส แต่งระบายโลกใบงาม มีเมล็ดพันธุ์ที่จะรอเธอรับไป ปลูกในหัวใจ ใจเบิกบาน... จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 16:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 135 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:46:13 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 136 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:54:21 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:36:47 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 137 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:54:50 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:37:02 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 16:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ครูหมอก ช่างน่ารัก เอ็นดูเด็ก แลศิษย์รัก คุณครูนี้ ใจดีจริง เด็กๆรัก ตั้งใจเรียน ยามครูหมอก มาพร่ำสอน ดีจริงหนา... จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 17:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 139 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:45:43 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 17:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 140 พี่ยานี้ อยากกลับไป เป็นเด็กน้อย อีกสักครา ให้ครูหมอก มาพร่ำสอน เรียนอ่านเขียน ทุกวิชา สอบได้ดี ได้ที่หนึ่ง ของโรงเรียน จริงๆ เอย จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 17:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 141 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:46:31 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:36:26 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 17:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เห็นภาพถ่าย งดงามตา ชมพูพริ้ง แล้วสดชื่น จริงนะน้อง แต่ละภาพ นั้นแสนงาม เลยอยากถาม วอนน้องยา ช่วยขานไข ว่าชื่ออ้อม นั้นไซร้ ใช่น้องสาว ของพี่ยา รึเปล่าเอย จากคุณ : 3KKK - [ 18 ก.พ. 52 17:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 143 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:46:53 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 17:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 144 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:47:12 จากคุณ : หมอกหนาว - [ 18 ก.พ. 52 17:18:11 ]