ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2550 นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  เปิดเผยถึงสถานการณ์ สัตว์ป่าของไทยว่า ขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะมีช้าง กระทิง ออกมาทำร้ายชาวบ้านทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว สาเหตุมาจากแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และพื้นที่อาศัยของสัตว์ลดลง นอกจากนี้ ในพื้นที่ที่สัตว์ออกมาหาอาหารส่วนหนึ่งน่าจะเคยเป็นพื้นที่ที่สัตว์เคยอาศัยอยู่ก่อน แต่ถูกบุกรุกโดยชาวบ้าน ดังนั้น หากพื้นที่ป่าลดลง การรุกล้ำระหว่างสัตว์ป่ากับชาวบ้านก็เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ กรมอุทยานฯจะเร่งเข้าไปจัดสร้างแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร เช่น การสร้างโป่งเทียม หรือฝายกั้นน้ำขนาดเล็กตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งบริเวณป่าตะวันตกและป่าตะวันออก   และยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเชื่อมต่อป่าที่มีถนน 304 ตัดผ่าน ระหว่างป่าเขาใหญ่และทับลาน นายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า ล่าสุดกรมอุทยานฯเลือกใช้ วิธีการขุดอุโมงค์   เพราะเชื่อว่าเหมาะสมมากที่สุด ถ้านำเอาสัตว์ป่าเป็นตัวตั้งแม้จะใช้งบมากก็ตาม ทั้งนี้กรมทางหลวง ได้ขอศึกษาก่อนว่าจะเลือกวิธีไหน เนื่องจากมีทางเลือก 3 ทางเลือก นี่คือเหตุผลอีกด้านหนึ่ง ที่ทำให้ผมจึงหันมาจับมือกับหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.13 (นางรอง)  ทำการเดินป่าสำรวจดูแหล่งน้ำธรรมชาติในป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้านเขาฟ้าผ่าจังหวัดนครนายก   เพื่อหาทางสร้างเสริมแหล่งน้ำดังกล่าวให้คงความสมบูรณ์ไว้ตลอดช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงเร็วๆนี้   อย่างน้อยสัตว์ป่าเล็กๆเช่นนก หนู หมูป่า หรือกระรอกกระแต ก็สามารถหาแหล่งน้ำไว้ดื่มกินได้ง่ายในป่าใหญ่เช่นนี้   หลีกเลี่ยงการออกมาจากป่าใหญ่ของบรรดาสัตว์ทั้งหลาย เพื่อหาแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้เขตชุมชนซึ่งเราถือว่าเสี่ยงมากๆต่อการสูญเสียอย่างยิ่ง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น้ำ เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกโดยเฉพาะมนุษย์  น้ำมีบทบาทสำคัญต่อกระบวน การทำงานของอวัยวะ   ภายในร่างกาย  เช่น  การขับถ่ายของเสีย และการลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ  ตลอดจนเป็นส่วนประกอบสำคัญในส่วนต่าง ๆ  ของร่างกายมนุษย์   ซึ่งจะมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่ 2 ใน 3  ของน้ำหนักตัว   ถ้าร่างกายของมนุษย์ขาดน้ำก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้  เนื่องจากร่างกายของมนุษยมีการสูญเสียน้ำ โดยการขับถ่ายของเสียต่าง ๆ  ดังนั้นเราควรดื่มน้ำวันละประมาณ 2.5 - 3.2 ลิตร  จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย น้ำ เป็นสารประกอบที่มีธาตุไฮโดรเจนและธาตุออกซิเจนเป็นองค์ประกอบโดยมีสัญลักษณ์ทางเคมีคือ H2O   และยังเป็นสารประกอบที่พบมากที่สุดในโลกประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของพื้นที่โลกทั้งหมด   หรือประมาณร้อยละ  97  ของพื้นที่ทั้งหมด หรือโลกประกอบด้วยพื้นผิวน้ำถึงร้อยละ 70,78 คิดเป็นพื้นที่ 361 ล้านตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 1,385 ตารางกิโลเมตร และที่เหลืออีกร้อยละ 29.22 หรือคิดเป็นพื้นที่ 149 ล้านตารางกิโลเมตร คือ ส่วนที่เป็นผิวดิน ดังนั้น โลกของเราจึงได้ชื่อว่าเป็นโลกแห่งน้ำ (1 ลูกบาศก์กิโลเมตร = 1000 ลูกบาศก์เมตรหรือ 1 ล้านลิตร) ผิวโลกแบ่งออกเป็น  2  ส่วนใหญ่ ๆ คือ  ส่วนที่เป็นพื้นผิวน้ำ และส่วนที่เป็นพื้นผิวดิน  โดยเฉพาะพื้นน้ำมีอยู่ถึงมีอยู่ถึง 3 ใน 4 ส่วนของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งแหล่งน้ำเหล่านี้จะกระจายอยู่ทั่วไปบนพื้นโลก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โครงการเดินป่าสำรวจแหล่งน้ำ เพื่อสัตว์ป่าหน้าแล้ง  พื้นที่มรดกโลก แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีวัตถุประสงค์   1. เพื่อปลูกจิตสำนึก ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมแก่นักศึกษา และพร้อมที่จะเผยแพร่ความรู้ที่ มีแก่เยาวชน และบุคคลทั่วไป 2. ส่งเสริมให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปได้ร่วมทำกิจกรรมด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. จัดโครงการเสริมสร้างและดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งภาครัฐกับภาคเอกชนและ  ร่วมกับชุมชนบริเวณตำบลสาริกา 4.  เพื่อจัดสร้างฝายกักเก็บน้ำขนาดเล็ก สำหรับสัตว์ประเภท นก,กระแต,กระรอก,กระต่ายป่า,เก้งกวาง หรือรวมไปถึงสัตว์อื่นๆ ที่สามารถอยู่ร่วมในสังคมสัตว์ป่าด้วยกันได้ โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติในพื้นที่ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป้าหมาย  คือการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ  แหล่งที่นกต่างๆใช้กินอาบประจำรวมทั้งสัตว์อื่นๆอีกด้วย  และร่วมดูพื้นที่ทำแนวกันไฟป่า  การทำฝายกั้นน้ำ เพื่อสัตว์สัตว์ขนาดเล็ก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เส้นทางสำรวจ ธรรมชาติจากท้ายเขื่อนขุนด่านปราการชล และพื้นป่าตอนบนน้ำตกนางรอง  ซึ่งในพื้นที่ความรับผิดชอบของ หน่วยพิทักษ์ป่าเขตการจัดการที่ 13 จ.นครนายก ขึ้นตรงกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางแรก  ท้ายเขื่อนขุนด่านปราการชล – ท้ายน้ำตกเหวนรกชั้นที่ 6 ใช้เวลาสำรวจ 4 คืน 5 วัน เส้นทางที่สอง  พื้นที่ตอนบนเหนือน้ำตกนางรอง  จากน้ำตกไทรยองหินไปจนถึงอาคารโภชนาการเดิม อช.เขาใหญ่ใช้เวลา 5 คืน 6 วัน เส้นทางที่สาม  จากวนอุทยานวังตะไคร้  ไปตามเส้นทางน้ำตกแม่ปล้อง  และรอยต่อเขาฟ้าผ่าและเขาสามหลั่น  ใช้เวลาสำรวจ  5 คืน 6 วัน แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 01:27:57 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กลุ่มคณะปฎิบัติงาน  กลุ่มรักษ์เขาใหญ่นครนายก  กลุ่มทอฝันผจญภัยบ้านสาริกา และเจ้าหน้าที่ ขญ.13 อช.เขาใหญ่ งบประมาณการจัดการ การสร้างฝายกักเก็บน้ำขนาดเล็กและการสำรวจ  ได้รับบริจาคมาจากคณะสำรวจและชมรมฯพร้อมชาวบ้านสาริกาทั้งหมด 300,000 บาท จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับ ขอลงชื่อไว้ก่อนนะครับ แล้วจะกลับมาอ่านบทความดีๆต่อครับ ตอนนี้ง่วงแล้ว zzzz....zzz..zzz จากคุณ : อาร์ตตะลอน (Athlons) - [ 18 ม.ค. 51 01:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับคุณอาร์ต  พักผ่อนก่อนเถอะครับ  พรุ่งนี้ค่อยตามมาเก็บรายละเอียดนะครับ ขอบคุณครับผม..... แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 01:40:25 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ประโยชน์ที่ได้รับ 1. ทำให้พื้นที่ป่าได้รับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่คนและสัตว์ป่าทั้งทางตรงและทางอ้อม 2. มีพื้นที่ป่าสำหรับสัตว์ป่าเพิ่มขึ้น มีแหล่งน้ำและอาหารเพียงพอสำหรับดำรงชีวิตอย่างปกติสุข 3. เพื่ออนุรักษ์พื้นที่ให้เป็นป่าต้นน้ำลำธาร เป็นแหล่งซับน้ำธรรมชาติก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ต่อพื้นที่ 4. เสริมสร้างทัศนคติและความสำนึกรับผิดชอบที่ดีงามต่อประเทศชาติให้กับประชาชนในท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า 5. ได้รูปแบบการดำเนินงานในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า รวมทั้งการอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อนำไปดำเนินการในพื้นที่อื่นที่มีสภาพคล้ายคลึงกัน 6. ลดสภาวะการสูญเสียสัตว์ป่า โดยมีทางเลือกใหม่ไม่จำเป็นต้องออกมาหากินใกล้เขตชุมชน หรืออย่างน้อยก็ทำให้เกิดผลดีกว่าเดิมที่เป็นอยู่ 7. เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตามพื้นที่รอบๆอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สมดั่งคำว่า"ผืนป่ามรดกโลก" จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การสำรวจเส้นทางแรกได้เริ่มเมื่อวันที่ 10 มกราคม 51  โดยเริ่มจากเส้นทางน้ำตกแม่ปล้อง ซึ่งอยู่เหนือน้ำตกนางรองขึ้นไปวนอุทยานวังตะไคร้นั่นเอง ขั้นต้นซึ่งใช้เวลากว่า 3 คืน 4 วันทีเดียว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ จากหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.13(นางรอง) และหน่วยวิจัยสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่จัดเจ้าหน้าที่ร่วมงานสำรวจและสร้างฝายกั้นน้ำขนาดเล็กในครั้งนี้ร่วมกัน ความตั้งใจในการทำงานครั้งนี้  เกิดจากการที่ต้องสูญเสียช้างน้อยไปเมื่อเดือนมกราคม 2549  รวมทั้งปัญหาสภาวะหน้าแล้งที่มักเกิดปัญหาไฟป่ารุกไหม้ทำลายความเสียหายต่อป่ามหาศาลนั่นเอง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 01:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากการร่วมงานครั้งนี้ เราใช้เจ้าหน้าที่อุทยานฯเพียง 4 ท่าน  ส่วนทางกลุ่มประกอบด้วยเพื่อนๆจากหลายสาขาอาชีพ ทั้งผองเพื่อนชมรมนิยมไพร-ดูนก-นักวิจัยสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อีกทั้งผองเพื่อนนักวิชาการเรื่องหิน ดิน น้ำ ไปจนถึงหน่วยรักษาต้นน้ำอินทนนท์และกลุ่มสุดท้ายAdventure จากชมรมผจญภัยบ้านสาริกา จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำลำธาร   เราถือว่าป่าไม้  ดินและน้ำ ถือเป็นทรัพยากร ธรรมชาติที่จำเป็นต้องมีความสมดุลและมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน อย่างใกล้ ชิด หากทรัพยากรดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งถูกทำลายสูญเสียไป ความสมดุล ระหว่างกันที่มีอยู่ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้พื้นที่ต้นน้ำลำธารนั้น เสื่อมความอุดมสมบูรณ์ลงอย่างรวดเร็ว เช่น การบุกรุกแผ้วถางป่าไม้อันเป็น ทรัพยากรหลักในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำลำธารเป็นเหตุให้ผิวดินขาดสิ่งปกคลุมในการ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและช่วยดูดซึมน้ำ ซึ่งจะมีผลให้เกิดน้ำไหลบ่าไปบนผิวดินอย่างรวดเร็ว จนกัดเซาะพังทลายดินผิวหน้าให้เสื่อมคุณภาพและอาจเกิด ปัญหาน้ำท่วมอย่างฉับพลันในบริเวณพื้นที่ราบทางตอนล่างตอนช่วงฤดูฝน และในฤดูแล้งลำน้ำลำธารเหล่านั้นก็จะกลับขาดแคลนแหล่งน้ำอีกด้วย จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การอนุรักษ์ต้นน้ำลำธารที่ดีที่สุด  ก็ต้องหมายถึงการใช้ การดูแลรักษาและปรับปรุงฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญได้แก่ ป่าไม้ ดิน และน้ำ ด้วยวิธีการที่เหมาะสมโดยให้มีการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ แต่น้อยแล้วได้รับประโยชน์คุ้มค่า อีกทั้งยังรวมถึงการป้องกันและรักษา ทรัพยากรธรรมชาติบางอย่างซึ่งถูกทำลายให้มีคุณภาพดีดังเดิมอีกด้วย ถ้าพบว่าบริเวณใดของพื้นที่ต้นน้ำลำธารมีความเสื่อมโทรมเกิดขึ้น จะต้องรีบดำเนินการปรับปรุงและฟื้นฟูพื้นเสื่อมโทรมเหล่านั้นให้คืนสภาพโดยเร็ว ที่สุดนั่นเองครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณครับ จากคุณ : West-Songkhla - [ 18 ม.ค. 51 02:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับคุณWest-Songkhla ที่ยังอยู่เป็นเพื่อนกันตอนดึกๆ แก้ไขข้อความตกหล่นครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 02:25:17 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วันนี้เราออกสำรวจตามแหล่งน้ำธรรมชาติ   เพื่อต้องการดูน้ำผิวดิน  และน้ำใต้ดินน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่ทั่วๆไปในโลก ก็คงได้แก่ พื้นผิวดิน ใต้ดิน ในบรรยากาศ  และแหล่งน้ำตามธรรมชาติเชิงชายเขา  เราจึงแยกกันออกค้นหาในป่าแห่งนี้ไปเรื่อย  แม้นวันนี้อากาศจะร้อนไม่น้อยก็ตาม หากเราสำรวจพบแหล่งน้ำธรรมชาติในบริเวณใด ก็จะทำการสำรวจปริมาณคงที่ของน้ำว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน หรือพิจารณาเห็นชอบว่าควรเก็บกักก็จะทำการปิดกั้นทางน้ำไหลขนาดเล็กทันที โดยการทำงานต้องคำนึงถึงเรื่องของเขื่อนกั้นน้ำธรรมชาติไปด้วย เพื่อป้องกันฤดูฝนที่เคยเกิดปัญหาของการสะสมปริมาณน้ำในป่า แล้วทะลักลงมาสู่หมู่บ้านหรือชุมชนนั่นเอง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชนิดน้ำใต้ดิน เกิดจากน้ำผิวดินซึมผ่านดินชั้นต่าง ๆ ลงไปถึงชั้นดินหรือชั้นหินที่ซึมผ่านไม่ได้ น้ำเหล่านี้จะไปสะสมอยู่ระหว่างช่องว่างของเนื้อดินหรือหิน และปริมาณน้ำใต้ดินบริเวณหนึ่ง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนและสภาพภูมิประเทศในบริเวณนั้นๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้ำใต้ดินยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทอีกนะครับ              1 น้ำในดินหรือน้ำใต้ดินชั้นบนน้ำในดินพบในชั้นดินตื้น ๆ เป็นน้ำที่ซึมอยู่ในดินเหนือชั้นหินเกิดจากน้ำฝนหรือน้ำบนผิวดินดูดซับไว้ เมื่อดินอิ่มตัวไปด้วยน้ำแล้วก็จะซึงลงไปในดินจนถึงชั้นของหิน ซึ่งชั้นหินเหล่านี้จะกั้นน้ำส่วนใหญ่ไม่ให้ซึมผ่านไปได้              2 น้ำบาดาล เป็นน้ำที่ซึมจากน้ำในดินผ่านชั้นดินซึ่งน้ำซึมผ่านได้ยากไปเก็บกักอยู่ในชั้นหินซึ่งมีรูพรุนซึ่งอยู่ถุดจากชั้นหินหนา น้ำซึมผ่านได้ยากลงมา และระดับน้ำตอนบนสุดของน้ำเรียกว่าระดับน้ำบาดาล  ระดับน้ำบาดาลจะเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาลหรือเปลี่ยนแปลงตามการเพิ่มหรือสูญเสียน้ำ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 และวันนี้เมื่อเราเดินป่าชั่วโมงแรกเข้ามาถึงช่วงใกล้ๆน้ำตกโกรกทุเรียน  บริเวณที่เราเคยพบกับการแอบเข้ามาลักลอบดักจับผีเสื้อ โดยที่เรื่องราวดังกล่าวก็ยังคงอยู่ที่การติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดในครั้งนั้นอยู่ครับ นี่คืออุปกรณ์ที่เรายึดได้มา เมื่อราวเดือนธันวาคมช่วงปลายๆปี2550นี่เองครับ  เราเองยังหวังว่าการกระทำดังกล่าวคงจะหมดไปในเร็ววันนี้ครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากการเดินป่าสำรวจครั้งนี้  เป้าหมายที่วางไว้เราน่าจะสำรวจพบแหล่งน้ำธรรมชาติที่เราถือว่าจะรองรับการกินเพื่ออยู่ของสัตว์ป่า  ได้มากกว่า 40 แห่งแน่นอนครับ การทำงานของเราอาจจะเร่งรีบไม่ได้เนื่องจาก เมื่อพบแหล่งน้ำดังกล่าวแล้ว ก็จะต้องเดินตรวจสภาพแอ่งน้ำโดยรอบๆ รวมถึงศึกษาเรื่องหินต่างๆ นั่นคือสาเหตุของการเคลื่อนตัวในแต่ละจุดที่ช้ามากๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนหินในป่านั้น เมื่อพบเห็นก็สามารถที่จะบ่งบอกถึงช่วงกาลเวลาและแยกพื้นป่าได้ชัดเจนเช่นกันว่าคือป่าสภาพใด หรืออาจจะหมายความถึงพื้นที่ดังกล่าวดั่งเดิมเป็นภูเขามาก่อนหรือทะเลนั่นเอง เรายังค้นหาซากสัตว์เพื่อศึกษาในชั้นแรกอีกด้วย จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ระหว่างเส้นทางที่ออกสำรวจจากแยกก่อนถึงน้ำตกแม่ปล้อง ลึกเข้าไปประมาณ 6 กม.  เราจะพบมูลช้างป่าที่ออกหาอาหารและแหล่งน้ำตลอดเส้นทางอีกด้วย เราถือว่าช้างป่าเหล่านี้ได้ออกมาหากินใกล้ๆแหล่งชุมชนจนเกินไป มันอาจจะเป็นอันตรายต่อช้างป่าไม่น้อยเช่นกัน เพราะโดยรอบๆบริเวณด้านนอกเขตป่าแห่งนี้ ชุมชนได้บุกรุกเข้ามามากแล้ว เราแยกมูลของช้างออกดูจะพบว่า เศษอาหารในมูลจะมีกากกล้วยป่าและใบสมพุงน้ำเสียส่วนใหญ่ นั่นแสดงว่าพื้นที่ในป่าลึกกว่านี้ อาจจะขาดแหล่งอาหารประเภทที่ช้างป่าชื่นชอบก็เป็นได้ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ร่องรอยของป่ากล้วยที่หักโค่นลงมาเพราะแรงกระชากจากช้างป่าที่กินเป็นอาหาร ซึ่งก็คาดว่าจะอยู่ห่างจากเราไม่ไกลนัก เราตั้งความหวังลึกๆว่าคืนนี้อาจจะพบเห็นเค้าได้แถวๆน้ำตกแม่ปล้อง เราจึงเร่งเดินไปตามทางของช้างที่มุ่งหน้าไปทางน้ำตกแห่งนั้น จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 02:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีกกองหนึ่งที่ทิ้งไว้ให้เราดูต่างหน้ายามคิดถึงกัน....... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เวลาร่วมๆ16.00 น. เราเดินเลยเข้ามาถึงปลายตีนเขาฟ้าผ่า ก็ประมาณว่าการเดินออกหาอาหารของช้างป่าโขลงนี้น่าจะเดินไปอีกทางแน่นอน เนื่องจากเราไปพบเส้นทางน้ำขวางหน้าจึงเดินหลบขึ้นเขาไปอีกด้าน เมื่อทะลุป่าลงมาหาที่แอ่งน้ำอีกจุด ร่องรอยของช้างป่าก็หายไปซะแล้ว ในที่สุดเราจึงพักกินข้าวเที่ยงที่นี่ครับ  ก่อนจะเดินต่อไปในช่วงสุดท้ายที่เราวางแผนไว้ต้องแคมป์แถวๆต้นน้ำคลองสมพุง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แอ่งน้ำแห่งนี้คือจุดสุดท้ายที่เราสำรวจในวันนี้  และเป็นแอ่งที่ถือว่าใหญ่กว่าทุกๆจุดที่เราเดินป่าผ่านมา เราจึงวางแผนพักแรมที่นี่ในคืนแรก และในช่วงเช้าๆเราจะต้องซุ่มเพื่อแอบดูเหล่าบรรดานกน้อยใหญ่ทั้งหลายมาอาบกินบริเวณนี้ ก็เพราะนกคือสัตว์ที่ต้องการแหล่งน้ำมากกว่าสัตว์อื่นๆนั่นเอง เนื่องจากจะอาบกินแล้วยังหาอาหารในน้ำอีกด้วย ใกล้ๆกับแอ่งน้ำแห่งนี้จะมีต้นไทรสุกใหญ่โตทีเดียวอีกด้วย  เราต้องมานอนนับนกในช่วงเช้าๆเพื่อเก็บสถิติพลเมืองของนกด้วย การสร้างแหล่งน้ำจึงมีองค์ประกอบหลายๆอย่างผสมกลมกลื่นกันไป แม้นในหลักวิชาการอาจจะไม่ไช่เสียทั้งหมดด้วยซ้ำ ธรรมชาติเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกินกว่าที่เราๆจะเข้าใจได้ทั้งหมด  เราได้ความรู้หรือเพิ่มทักษะบางอย่างก็จากป่านี่แหละครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แคมป์สบายๆในคืนแรก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หุงข้าวและจัดเตรียมอาหารเย็น ภาพจากนี้ไปจะเป็นภาพรวมๆในช่วง 3 คืน 4 วัน ที่เราปฎิบัติภาระกิจทั้งพักแรมและทำงานในการสำรวจครั้งนี้นะครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เมนูเด็ดจาก ฝีมือหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.13 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ในช่วงกลางคืนเราก็นั่งสนทนาถึงเรื่องของป่าต่างๆในเมืองไทย ท่ามกลางลมหนาวแรกๆของปีนี้ที่มาเยือน เราเองยังพูดคุยถึงเรื่องการแก้กฏหมายเพื่อคุ้มครองและแยกประเภทของป่าใน พรบ.ฉบับใหม่ที่กำลังจะคลอดออกมาเร็วนี้ หลายๆคนก็แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปจนดึกดื่น  อย่างเช่นป่าเพื่อการอนุรักษ์ .. คือ .. อะไร จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมขออนุญาตนำเสนอให้ทราบนิดหน่อยนะครับ เพื่อให้เราๆได้ทราบไว้ก่อนที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมใหม่หรือประกาศใช้จากของเดิมครับ ป่าเพื่อการอนุรักษ์ .. คือ .. อะไร มีคนกล่าวถึงป่าอนุรักษ์กันมากโดยเฉพาะในช่วงที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน แต่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าป่าอนุรักษ์มีเพียง อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งความจริงแล้ว ป่าอนุรักษ์ตามความหมายที่รัฐกำหนดนั้นหมายถึง ป่าที่รัฐได้กำหนดไว้เพื่อการแนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ ดิน น้ำ ป่าไม้ พันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ซึ่งมีความหมายมากกว่าที่กล่าวถึงข้างต้น พื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์นั้นตามที่รัฐกำหนด แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ        1.   ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย  อันได้แก่ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า        2.   ป่าเพื่อการอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นป่าที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 ป่าชายเลนเขตอนุรักษ์ และป่าที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม        3.  ป่าเพื่อการอนุรักษ์ตามนโยบาย ได้แก่ พื้นที่ป่าที่กรมป่าไม้จัดให้เป็น วนอุทยานแห่งชาติ  สวนรุกขชาติ  สวนพฤษศาสตร์ เป็นต้น จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความหมายต่างๆของเรื่องนี้ ผมจะนำเสนอตามข้อเท็จริงที่ผมทราบเท่านั้นนะครับ  หากท่านใดที่ทราบมากกว่านี้กรุณาช่วยเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าอย่างสูงทีเดียว อุทยานแห่งชาติ (National Park)        คือพื้นที่ซึ่งรัฐบาลเห็นว่ามีสภาพธรรมชาติเป็นที่น่าสนใจสมควรสงวนเป็นพิเศษ เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงสภาพเดิมถาวรตลอดไป เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาและนันทนาการ การจะเป็นประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติได้ ต้องประกาศในพระราชกฤษฎีกา มีแผนที่แสดงแนวเขตแห่งบริเวณที่กำหนดนั้นแนบท้ายพระราชกฤฏีกา และที่ดินที่จะกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์ หรือครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลใดซึ่งมิใช่ทบวงการเมือง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Sanctuary)        คือพื้นที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย เพื่อว่าสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าวจะได้มีโอกาสสืบพันธุ์ และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้มากขึ้นทำให้สัตว์ป่าบางส่วนได้มีโอกาสกระจายจำนวนออกไปในท้องที่แห่งอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวนรุกขชาติ        คือแหล่งรวมพันธุ์ไม้ของท้องถิ่นที่มีค่า โดยจัดปลูกให้มีความสวยงาม เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาด้านพันธุ์ไม้สำหรับประชาชน และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 03:50:34 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เขตห้ามล่าสัตว์ป่า (Non-hunting Area)        คือบริเวณสถานที่ที่ใช้ในราชการ หรือใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ปรือประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้กำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ โดยกำหนดให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าชนิดหรือประเภทใดก็ได้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวนพฤษศาสตร์        คือสวนที่รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งสดและแห้ง และแสดงถิ่นที่กำเนิดของพรรณพืชเพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางพฤษศาสตร์ ศึกษาความแตกต่างของชนิดพันธุ์ สภาพทางสรีรวิทยา การเจริญเติบโต การแพร่กระจาย การอนุรักษ์ การใช้ประโยชน์ ฯลฯ โดยในสวนพฤษศาสตร์จะจัดปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ โดยในสวนพฤษศาสตร์จะจัดปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ทั้งของไทยและของต่างประเทศให้เป็นหมวดหมู่ตามหลักสากล จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1       คือพื้นที่ภายในลุ่มน้ำที่ควรจะต้องสงวนรักษาไว้เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร โดยเฉพาะเนื่องจากมีลักษณะและคุณสมบัติที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินได้ง่ายและรุนแรง ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะมีป่า หรือไม่มีป่าปกคลุมก็ตาม ซึ่งในพื้นที่นี่มิควรมีการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่ทำลายสภาพธรรมชาติที่มีอยู่ การใช้ที่ดิน หรือพัฒนาที่ดินที่มีอยู่ จึงต้องมีมาตรการควบคุมเป็นพิเศษ พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 2        คือพื้นที่ภายในลุ่มน้ำซึ่งโดยลักษณะทั่วไปมีคุณภาพเหมาะสมต่อการเป็นต้นน้ำ ลำธาร ในระดับรองลงมา และสามารถนำมาใช้ประโยขน์ได้ ในการปลูกพืขเพื่อการเกษตรกรรม ทำไร่ พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3        คือพื้นที่ภายในลุ่มน้ำซึ่งโดยทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในการปลูกพืชเพื่อการเกษตรกรรมปลูกไม้ยืนต้น จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 4        คือพื้นที่ภายในลุ่มน้ำซึ่งสภาพป่าได้ถูกบุกรุกทำลายเป็นพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรม ทำไร่ พื้นที่ลุ่มชั้นที่ 5        คือพื้นที่ภายในลุ่มน้ำซึ่งมีลักษณะโดยทั่วไปเป็นที่ราบ หรือที่ลุ่ม หรือเนินเอียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่ป่าได้ถูกทำลายเพื่อประโยชน์ด้านเกษตรกรรมไปหมดแล้ว        การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำดังกล่าวข้างต้นนั้นกำหนดขึ้นจาก สภาพภูมิประเทศ ระดับความลาดชัน ความสูงจากระดับน้ำทะเล ลักษณะทางธรณีวิทยา ลักษณะทางปฐพีวิทยา และสภาพป่าที่ปรากฏอยู่ซึ่งทำให้ปัจจุบันคณะอนุกรรมการทางวิชาการของคณะกรรมการอุทกวิทยาแห่งชาติ ได้แบ่งลุ่มน้ำของประเทศออกเป็น 25 ลุ่มน้ำหลัก ได้แก่ ลุ่มน้ำสาละวิน ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำแม่กก ลุ่มน้ำโขง 1 และ 2   ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี  ลุ่มน้ำจ้าพระยา  ลุ่มน้ำสะแกกรัง  ลุ่มน้ำป่าสัก  ลุ่มน้ำท่าจีน  ลุ่มน้ำปราจีนบุรี  ลุ่มน้ำบางประกง   ลุ่มน้ำโตนทะเล  ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก  ลุ่มน้ำแม่กลอง  ลุ่มน้ำเพชรบุรี  ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตก  ลุ่มภาคใต้ฝั่งตะวันออก  ลุ่มน้ำตาปี  ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา  ลุ่มน้ำปัตตานี  ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ป่าชายเลนเขตอนุรักษ์        พื้นที่ป่าชายเลนที่ห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ นอกจากปล่อยให้เป็นธรรมชาติเพื่อรักษาไว้ซึ่งสภาพและระบบนิเวศ ได้แก่พื้นที่แหล่งรักษาพันธุ์พืชและสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ แหล่งเพาะพันธุ์และสัตว์น้ำ พื้นที่ที่ง่ายต่อการถูกทำลาย และการพังทลายของดิน พื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี พื้นที่ที่ควรสงวนไว้สำหรับแนวกันลม  ป้องกันคลื่นและกระแสน้ำ พื้นที่ป่าที่เหมาะสมต่อการสงวนไว้เพื่อเป็นที่สถานที่ศึกษาวิจัย พื้นที่ที่ควรสงวนไว้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ และพื้นที่ที่อยู่ห่างไม่น้อยกว่า 20 เมตรจากริมฝั่งน้ำลำคลองธรรมชาติและไม่น้อยกว่า 75 เมตรจากชายฝั่งทะเล จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยเรื่องสุดท้ายครับ วนอุทยาน (Forest Park)        คือพื้นที่ขนาดเล็กจัดตั้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ มีความสำคัญในระดับท้องถิ่น จุดเด่นอาจได้แก่น้ำตก หุบเหว หน้าผา ถ้ำหรือหาดทราย จะเห็นได้ว่าพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ หรือที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่าป่าอนุรักษ์จากการกำหนดของกรมป่าไม้นั้นมีมากกว่าที่เราคิด อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงนั้นพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายแห่ง ได้มีการใช้ประโยชน์ของชุมชนมาช้านาน และหลายชุมชนมีวัฒนธรรมใช้ป่าที่มิได้มุ่งเพื่อการทำลายป่าให้หมดไป แต่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ไม่มีผลกระทบหรือมีผลกระทบต่อป่าน้อยที่สุด ดังนั้นการใช้พลังชุมชนเพื่อการแก้ไขปัญหาป่าเสื่อมโทรมของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่รัฐควรให้ความสนใจ และพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 03:59:22 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 03:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นั่นคือเรื่องเดิมๆที่เราทราบๆกันดี คือก่อนที่จะมีการออก พรบ.ฉบับใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องเท่านั้นนะครับ เรามาติดตามการสำรวจกันต่อไปครับ  อากาศเช้าในวันใหม่เราตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นจริงๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เรากำหนดแผนงานของวันใหม่และอ่านแผนที่ต่างๆพร้อมกับลงระหัส เพื่อเตรียมทำรายงานสรุปผลในครั้งแรกครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นภาระกิจของแต่ละคนก็เริ่มขึ้นทันที  นายปู คนดูนก นอนบนเปลคอยนับนกและสั่งการเพื่อนๆเป็นระยะๆ พร้อมทั้งแยกประเภทของสัต์ที่พบเห็นเพื่อลงบันทึก ไม่ว่าจะเป็นประเภทกินเนื้อหรือกินปลาเป็นอาหาร มาตามดูภาระกิจกันต่อไปครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นี่ก็น้องๆอีกคนหนึ่ง ที่ติดสอยห้อยตามมาตลอดเวลา และทุกหนแห่งเช่นกัน เค้าก็มาช่วยกันเฝ้าดูและร่วมแรงยกหินเป็นวันๆ ก็เพื่องานส่วนรวมของเราๆนี่แหละครับ ขอบใจจริงๆน้องรัก จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ความงดงามจากป่า มีให้เราเห็นทุกหนแห่ง ตราบใดที่เมืองไทยยังมีป่าที่สมบูรณ์นั่นเองครับ ผีเสื้อน้อยๆ.....ในราวไพร จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ส่วนน้องท่านนี้  แอบต้นไม้มานานมันส่องไม่ถนัดนัก  เลยออกมานอนท้าทายกลางลานหินซะเลย การเฝ้าสังเกตุสัตว์ป่าน้อยใหญ่หรือนก  ที่มาใช้บริการแหล่งน้ำต่างๆนั้น ก็เพื่อทำให้เรารู้ว่าแอ่งน้ำแห่งนี้ จะคงสภาพน้ำได้นานและเพียงพอแน่นอนในป่านี้หรือไม่ สัตว์ป่าเข้าออกมาใช้บริการมากน้อยแค่ไหน  โดยดูปริมาณต่างๆ จากการที่เรานับมาทั้งหมดใน 3 คืน 4 วัน  แล้วจึงวางแผนสร้างฝายขนาดเล็กต่อไปนั่นเอง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นี่เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานจากโครงการเดินป่าสำรวจ แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสัตว์ป่าแห่งนี้   จากบทสรุปของการสำรวจครั้งแรก เราพบแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดเล็ก 4 x 4 เมตร จำนวน 11 แอ่งน้ำ แอ่งน้ำขนาดกลาง 7 x 12 เมตร จำนวน 9 แอ่งน้ำ และแอ่งน้ำขนาดใหญ่ 15 x 25 เมตร จำนวน 3 แอ่งน้ำ  นี่หมายถึงแอ่งน้ำที่มีตาน้ำซึมซับได้ทั้งปีนะครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับโครงการดังกล่วที่ผมนำมาบอกเล่าให้ทราบครับ อย่างน้อยเพื่อนๆก็พอจะได้รู้ว่า เรายังมีสัตว์ป่าทั้งน้อยใหญ่เหลืออยู่รอดปลอดภัย มีน้ำกินน้ำใช้แน่นอนในฤดูแล้งที่จะกำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านสนุกมากค่ะ แต่ว่า... คุณลุงยังไม่นอนอีกหรือค่ะ แล้วพรุ่งนี้จะทำงานไหวหรือ? จากคุณ : สเปน - [ 18 ม.ค. 51 04:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไปให้ลุล่วงก่อนฤดูแล้งจะมาเยือน  และเรายังทำการสำรวจต่อไปคือครั้งที่สาม เหนือเขื่อนขุนด่านปราการชลครับ และได้ลงมือสร้างฝายขนาดเล็กไปแล้วทั้งหมด 27 แห่งด้วยกัน อย่างน้อยแอ่งน้ำเหล่านั้นก็ได้สร้างความชุ่มชื้นให้ผืนป่าแห่งนี้ รวมทั้งสรรพสัตว์นานาในป่าแห่งนี้อีกด้วย   ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่อนุญาตให้ใช้พื้นแห่งนี้บอกกล่าวเล่าขานต่อกัน โอกาสหน้าจะนำภาพบางส่วนมาเล่าขานกันต่อครับ ขอบคุณทุกท่านอย่างสูงครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณคุณสเปนครับที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันคืนนี้ ตอนนี้คงต้องขอนอนก่อนล่ะครับ........ เรื่องของเรื่องผมนั่งแอบคิดถึงเจ้าช้างน้อยที่จากไปเมื่อ 2ปีที่แล้ว เลยมารำลึกถึงเค้าและสาเหตุของจากไปแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยจริงๆครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 04:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดีใจครับที่ได้รู้ว่า ยังพอมีแหล่งน้ำให้เหล่าสัตว์ป่าได้ยังชีพในหน้าแล้งนี้ และภาวนาอย่าให้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างในกรณี ของ น้องหลง อีกครับ อากงครับ รูปใน คห18.นั่น ตัวอะไรอ่ะครับ ไม่เคยเห็นเลย จากคุณ : หมาน้อย (smooth_as_milk) - [ 18 ม.ค. 51 05:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อีกหนึ่งโครงการดีๆ เพื่อป่า และสัตว์ป่าในเมืองไทยครับ มีอีกหลายคน หลายชีวิต ที่ยังคงทุ่มเท ให้เวลาในชีวิตของตน เพื่อรักษาและต่อเวลาในชีวิตของสัตว์ป่า อย่างจริงจัง ต้องขอคาราวะ ทุกท่านที่ได้อุทิศ เวลาและแรงกาย เดินหน้าไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อย หรือยากลำบาก โดยที่สังคมส่วนใหญ่ ไม่เคยได้รับรู้เลยว่า เค้าเหล่านั้น ได้ทำเพื่อสร้างสมดุลแห่งการอยู่รอดของหมู่มวลชีวิตอีกมากมาย แม้บางโครงการอาจจะดูว่าเป็นเรื่องราวเล็กๆ ท่ามกลางผืนป่าใหญ่ หรืออาจจะไม่มีผลกระทบใดๆ ให้คนทั่วไปได้รู้สึก หรือรับรู้ได้ แต่ทุกโครงการ ที่ร่วมแรง ร่วมใจ ดำเนินต่อไป ในทุกหยาดเหงื่อ ที่สูญเสียไป มันคือความยิ่งใหญ่ของผืนป่า นั่นเองครับ . . . เป็นกำลังใจให้ จนท. และอาสาสมัครทุกท่านครับ ขอบคุณพี่หมูครับ ... ที่เดินหน้าสร้างสรรค์สังคมป่าไม้เมืองไทย อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย  และยังคอยนำเสนอสิ่งดีๆ ที่สามารถปลูกจิตสำนึกในความรักและหวงแหนธรรมชาติให้พวกเราอยู่เสมอครับ จากคุณ : อ.อดุล - [ 18 ม.ค. 51 06:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อรุณสวัสดิ์ค่ะ..อาก๋งขรา นอนดึกอีกแล้วน้า... นอนดึกบ่อยๆ ระวังหน้าแก่ก่อนวัย... อีกระวังที่หน้ากลัวกว่าหน้าแก่..ระวังพี่อิ๋มดุเอาจิ่ค๊า คิดถึงอาก๋งจังวุ๊ย... ไม่ดื้อไม่สนน๊ะจ๊ะ.... จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 18 ม.ค. 51 07:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พอเห็นชื่อ จขกท.  ป้ารู้แน่ๆว่า ต้องมีสาระดีๆมาฝาก  .... พูดถึงช้างน้อย  ...  ทำให้ป้านึกถึงช้างที่เค้าเอาเข้ามาเดินตามถนนในเมือง  เห็นแล้วน่าสงสารจริงๆ ขอบคุณคุณสาริกาค่ะ  สำหรับเรื่องราวการเดินทางเพื่อหาแหล่งน้ำ รูปคห.ที่  35    นี่อะไรค่ะ จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) - [ 18 ม.ค. 51 07:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาเยี่ยมครับ...อาก๋ง จากคุณ : รอชม - [ 18 ม.ค. 51 08:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับ  เรื่องราว  สาระดีๆ   ที่มานำเสนอให้พวกเราได้รับรู้กันนะครับ ท่านเจ้าถิ่นสาริกา " ขอบคุณครับ " จากคุณ : Draught Beer - [ 18 ม.ค. 51 08:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มาเดินป่าด้วยคน  และมาเป็นกำลังใจให้อีกคนนึงค่ะ.. แต่เอ...ไม่ทราบว่าเขาจะมีการสร้างศูนย์อนุรักษ์ช้างที่สระบุรีจริงไหมคะ.. จำได้ว่าเคยดูข่าวพระกรณ๊ยกิจของสมเด็จพระพี่นาง ฯ น่ะค่ะ... จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (tigor) - [ 18 ม.ค. 51 08:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สาระดีๆ กิจกรรมดีๆ อีกแล้ว ขอบคุณน้าสาริกาที่มีสิ่งดีๆมามอบให้ น้ำคือชีวิต สิ่งที่ทำถือว่ามีคุณค่ามากๆ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 18 ม.ค. 51 08:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ส่งกำลังใจให้พี่สาริกาและเจ้าหน้าที่ทุก ๆ ท่านนะคะ และส่งกำลังใจให้สัตว์ป่าทุก ๆ ตัวอยู่รอดปลอดภัยเช่นกันค่ะ จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 18 ม.ค. 51 08:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆมีสาระค่ะ จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 18 ม.ค. 51 08:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ส่งกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ และทุกแรงกายแรงใจ ที่ทำเพื่อสัตว์ป่าน้อยใหญ่และธรรมชาติค่ะ จากคุณ : ลาเต้แก้วหญ่ายๆ - [ 18 ม.ค. 51 09:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาเก็บความรู้ ขอบคุณครับ ลุงหมู จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 18 ม.ค. 51 09:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ลอกการบ้านลาเต้ดีกั่ว V V ส่งกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ และทุกแรงกายแรงใจ ที่ทำเพื่อสัตว์ป่าน้อยใหญ่และธรรมชาติค่ะ ********* เห็นมะ....บุญกุศลครั้งนี้ช่วยให้แคล้วคลาดและคลาดแคล้วไปจนได้ จากคุณ : 124 (แม่ซากานะ) - [ 18 ม.ค. 51 09:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นเรื่องยอดเยี่ยมจากพงไพร ที่พยายามรักษาชีวิตของป่าให้ยืนยาวต่อไปขอเป็นกำลังใจให้ ทีมงาน ลูกผู้ชายตัวจริง.สาริกา.แห่งผืนป่าเขาใหญ่ด้วยครับ จากคุณ : Red Fox - [ 18 ม.ค. 51 10:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากคุณ : prettyguide - [ 18 ม.ค. 51 10:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาชมกระทู้ดีๆ เช่นเดิมครับ จากคุณ : Art999. - [ 18 ม.ค. 51 11:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สหายแอ...รายงานตัว จากคุณ : บังแอ - [ 18 ม.ค. 51 11:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ยอดเยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : adangrawi - [ 18 ม.ค. 51 11:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณครับ รักป่าขึ้นเยอะครับ ป่าไม้นะครับ จากคุณ : ตาชิโบ - [ 18 ม.ค. 51 12:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณนะคะสำหรับกระทู้ที่มีสาระและนำมาแบ่งปันกัน เป็นกำลังใจให้กับคนที่ช่วยกันทำงานเพื่อปกป้องธรรมชาติทุกท่านนะคะ จากคุณ : AjN_O - [ 18 ม.ค. 51 13:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถ่ายทอดปัญหาได้ชัดเจนและละเอียด ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกท่านที่ร่วมกันรักษาป่าเพื่อพวกเราทุกคน... จากคุณ : RoBoT SoNNiE (Amaroid) - [ 18 ม.ค. 51 13:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อยากไปเดินป่ากับอาก๋งอีกจังค่ะ... ขอบคุณอาก๋งที่นำสิ่งดีๆ มานำเสนอให้ศึกษาอยู่บ่อยๆ ค่ะ ...นึกถึงพี่ๆ อช.เขาใหญ่... ...นึกถึงจิตใต้สำนึกของคนไทย.... จากคุณ : a_o_por - [ 18 ม.ค. 51 14:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คห.63 เค้ารู้นะว่าตัวเองหมายถึงเรื่องอะไร แคล้วคลาด คลาดแคล้ว แคล้วคลาด คลาดแคล้ว แคล้วคลาด คลาดแคล้ว จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 18 ม.ค. 51 15:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 74 1 เสียง(เล็กๆ) เข้ามาให้กำลังใจคับ จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 18 ม.ค. 51 16:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เพื่อป่าไทย เข้ามาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะ จากคุณ : Minora - [ 18 ม.ค. 51 17:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ป้าแป๋ว กับป้าอิ๋ม...อย่าแกล้งอาก๋งจิคะ เด๋วอาก๋งหัวใจวายยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : a_o_por - [ 18 ม.ค. 51 17:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกท่านด้วย จากคุณ : noo_jar - [ 18 ม.ค. 51 17:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ และรูปสวย ๆ ค่ะ ได้ความรู้กลับไปมากมายค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 18 ม.ค. 51 18:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 .....ขอขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกๆคน  ที่แวะเวียนมาเยี่ยมและมอบกำลังใจให้แก่กันเสมอๆครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 20:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เข้ามาเยี่ยมเยียนคุณสหายสาริกาครับ ผมยังไม่ได้อ่านละเอียดนะครับ ตอนนนี้ อยู่ที่บ้านซับเศรษฐี อ่านผ่านผ่าน พบถึงเรื่องการสมทบทุน ได้มาสามแสน สนใจครับ ถามคุณสหายสาริกาเลยดีกว่า คืออยากทราบว่า หากต้องการสมทบทุนรักษาป่า จะเป็นทุนอะไรที่ไหนก็ได้ ที่ให้กับกรมอุทยาน อย่างเช่นที่เขาใหญ่ จะทำได้หรือไม่ ติดต่อใครที่ไหนครับ ไปที่ทำการอุทยานแล้วแจ้งความจำนง พร้อมกับมอบเงินให้ได้เลยไหมครับ จะมีใบอุนุโมทนาบัตร หรือใบสำคัญการรับเงินบ้างไหม เผื่อจะได้สมทบทุนสักหมื่นสองหมื่นบาท ในนามบริษัทนะครับ จากคุณ : xebec - [ 18 ม.ค. 51 21:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านกระทู้นี้จบ แล้ว น้ำตา ใหล คิดถึง เพื่อนๆ ที่ เคยทำงาน ด้วยกัน จัง ป่านนี้ เป็นงั้ยกันบ้าง เป็นกำลังใจ ให้ คุณ กะ เพื่อนๆ ทีมงาน ทุกๆ คน ครับ จากคุณ : phopan - [ 18 ม.ค. 51 21:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอสวัสดีปีใหม่อาหมูก่อนอื่นเลยนะครับ.. ขอให้อาหมูและอาลอง มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีความสุขมากมายในปีใหม่นี้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งครับ สำหรับเรื่องที่อาหมูต้องการช่วยเหลือในงานอนุรักษ์ดังกล่าว  ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กำลังดำเนินการจัดโครงการเผยแพร่ความรู้รักษาป่า ให้กับเด็กนักเรียนรอบๆเขตอุทยานฯ และเมื่อ 25 ธันวาคม 2550   ได้จัดมีการสรุปคราวๆว่า โครงการดังกล่าวจะมีการฉายภาพยนต์เกี่ยวกับเรื่องป่าไม้ และเลี้ยงกลางวันให้เด็กๆทุกๆครั้งที่ไปออกประชาสัมพันธ์เผยแพร่ที่โรงเรียนนั้นๆ โดยจัดเดือนละ 2 ครั้ง  แต่ขณะนี้กำลังหารือเพื่อวิธีขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชนซึ่งจะต้องทำแบบวิธีใด เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนและบริสุทธิ์นะครับ  หากเรื่องนี้มีความคืบหน้าชัดเจนทุกๆอย่างแล้ว ผมจะรีบมาเรียนให้อาหมูทราบทันทีเลยนะครับ  ขอขอบคุณอาหมูอย่างสูงสำหรับเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนกับป่า กลับมาอยู่ร่วมกันโดยสันติสุขอีกครั้งครับ ส่วนโครงการที่ผมได้จัดทำร่วมกับทางอุทยานฯเพื่อสร้างฝายกั้นน้ำขนาดเล็ก ในพื้นที่จังหวัดนครนายก  เราได้ทำโครงการใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 18 ม.ค. 51 23:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 83 หมาน้อย  เป็นฝักของมะค่าโมงครับ  พบเจอเพราะลอยมากับสายน้ำหน้าฝนครับ เป็นฝักแก่แล้วหากเป็นอุหภูมิที่เหมาะสมเค้าก้เติบโตได้ครับ เอ๋  เรื่องผาขาวพี่รอคำตอบจาก"เทียนนกแก้ว"อยู่นะ ยังไงจะรีบแจ้งให้ทราบ หวัดดีฟ้า  สบายดีนะ ว่างๆเจอกัน สวัสดีป้าเกษเช่นกันครับ  ภาพนั้นเป็นเห็ดราขอนไม้ครับ หมวกเริ่มแห้งแล้วครับ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน รอชม  อาก๋งแก่ไปจริงๆวุ้ยยยยยยยยย คุณเบียร์  ผมจะเก็บป่านครนายกไว้ให้หลานสาวนะครับ คุณแม่ลูกสอง  สำหรับศูนย์อนุรักษ์สระบุรี เป็นเพียงสถานที่พักฟื้นชั่วคราว ยังไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ น้องแก่ กับน้องฉิน   อย่าลืมนะสัญญาปีนี้ หน้าฝนเราเจอกันที่ธารรัตนา แป๋ว  ใครทำไรเหรอถึงต้องท่องว่า " แคล้วคลาด คลาดแคล้ว " คุณลาเต้ฯ  ขอบคุณมากๆครับ น้องหนึ่ง  พี่หลังไมค์ไปบอกแล้ว สบายดีนะ พี่อิ๋ม  ผมว่าไร่เลแหละสวยดี หน้าผาสวยงามหยดย้อยจริงๆ สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ เดี๋ยวเราไปนอนบึงไผ่คุยความหลังกันสักคืนนะ น้องหมูน้อย  รอยยิ้มคนเมืองจันทร์น่ารักจริงๆจ้า คุณอาร์ต  ขอบคุณครับ สหายแอ  สบายดีนะครับ คุณadangrawi  สบายดีนะครับ คุณตาชิโบ  ป่าไม้ยังคงอยู่กับเราไปจนวันตายแน่นอนครับ คุณAjN_O  ขอรับกำลังใจแทนเพื่อนๆทุกคนครับ คุณRoBoT SoNNiE   ขอรับกำลังใจแทนเพื่อนๆทุกคนครับ เจ้าโอ๋  คิดถึงนะ เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ   ขอรับกำลังใจแทนเพื่อนๆทุกคนครับ ขอบคุณครับ น้องMinora  ขอบคุณครับ นู๋จ๋า  หม่ำเบาๆหน่อยนะ อาก๋งว่าตอนนี้ไม่ร่วมสองร้อยแล้วเหรอเรา คุณscuba734   ขอบคุณครับ คุณphopan  สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้ตั้งความหวังอยากพบเห็น ผมว่าก็คือ ธรรมชาติที่งดงามเช่นกันครับ ขอบคุณครับ สุดท้าย  ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคน  ที่ได้ร่วมรับรู้และให้กำลังต่อกันเสมอมา ขอบคุณครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 19 ม.ค. 51 00:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาช้ากว่าคนอื่นอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับความรู้และความรู้สึกดีๆ ค่ะ ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 19 ม.ค. 51 11:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สวัสดีจ้าน้องปุ๋ม  ไม่มีคำว่าช้าสำหรับคนรักป่าครับ  เราเพียงแค่ยึดมั่นและทำในสิ่งที่ดีๆเพื่อธรรมชาติยังไงก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปแน่นอนจ้า ขอบคุณน้องปุ๋มครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 19 ม.ค. 51 12:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาแล้วได้ความรู้และข้อมูลดีๆกลับไปเหมือนเคย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ลูกหมูลุย - [ 19 ม.ค. 51 12:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ความคิดเห็นที่ 83 ...คุณเบียร์  ผมจะเก็บป่านครนายกไว้ให้หลานสาวนะครับ... สหายสาริกา =================================== แพรวาฝากผมมากราบขอบคุณ คุณลุงสหายสาริกา   นะครับท่าน เอาเป็นว่าเก็บป่าไว้ ให้กับคนรักป่าทุกๆ ท่านด้วยแล้วกันนะครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 19 ม.ค. 51 13:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่งกลับมาจากงานศพพี่สะใภ้เลยเพิ่งเห็น อาก๋งมาเคาะประตูเรียกไปเรียน ขอโทษนะคะมาช้าไปนิด แต่ยังไงก็ต้องมาอาก๋งมาเรียกทั้งที ขอบคุณนะคะ ที่พวกอาก๋งเก็บป่าไว้ให้เด็ก ๆ รุ่นหลัง ๆ เป็นงานที่หนักมาก ๆ จ๋าขอส่งแรงเชียร์และแรงใจไปให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : จ๋าค่ะ (เวสารัช) - [ 19 ม.ค. 51 14:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณ คุณลูกหมูลุย ที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ หวัดดีจ้าน้องแพรวา  โตแล้วมาเที่ยวนครนายกนะ จ๋า  อาก๋งขอแสดงความเสียใจเรื่องพี่สะใภ้ด้วยนะ  และอวยพรปีใหม่นี้ ให้จ๋าร่ำรวยมีเงินทองเยอะๆนะ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 19 ม.ค. 51 21:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณอาก๋งมาก ๆ ค่ะ สำหรับคำอวยพร ขอให้พรนั้นคืนสนองด้วยนะคะ สำหรับเรื่่องพี่สะใภ้จ๋าก็ใจหายเหมือนกัน เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งก็ขั้นสุดท้ายแล้ว เร็วมาก ๆ สงสารก็แต่หลาน ๆ ยังเด็กอยู่เลย ก็คงต้องดูแลกันต่อไปค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะอาก๋ง สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : จ๋าค่ะ (เวสารัช) - [ 20 ม.ค. 51 02:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณจริงๆครับ สิ่งที่ทาง จขกท. และคณะทำงานทุกท่านได้ทำ ไม่ได้ทำเพื่อ ป่าไม้และสัตว์ป่าเท่านั้น แต่จะยังผลมายังเพื่อนมนุษย์ทุกๆคนด้วย ขอนุญาตโหวตเพื่อให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจในการ รักษ์ป่า โดยทั่วกันครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 20 ม.ค. 51 15:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณ คุณST.Exsodus อย่าสูงนะครับ   สำหรับกำลังใจที่มีให้แก่กันเสมอๆมา  ขอบคุณอีกครั้งครับ ขอบใจจ๋าเช่นกันนะ  ให้กำลังใจกับจ๋าที่ต้องช่วยดูแลหลานๆต่อไป  คิดว่าเรื่องที่เลวร้ายคงหมดไปแล้วล่ะจ๋า แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 51 21:46:53 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 20 ม.ค. 51 21:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มาช้าอีกแล้ว แง ๆ กระหายกลิ่นธรรมชาติจังเลยค่ะลุงหมู ช่วงนี้อาจจะห่าง ๆ หาย ๆ ไปบ้าง แต่ยังคิดถึงทุกๆ คนเหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 21 ม.ค. 51 09:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มาช้าเหมือนกันคร๊าบ .. ขอขอบคุณลุงหมู ที่เอาข้อมูลและสาระดีดี ออก มาเผยแพร่ให้ได้เห็นกันครับ . เมื่อไหร่จะได้ไปเดินด้วยน๊า .. จากคุณ : Nature-blue - [ 21 ม.ค. 51 11:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนแล้วกันน่ะค่ะ ขอบคุณ ... คุณสหายสาริกา และ ทีมงานทุกท่าน ที่รักษาป่า ... รักษาธรรมชาติ เราอ่านแล้วอึ้งมากๆ .. ขอชื่นชมทีมงานทุกท่านอีกครั้งค่ะ จากคุณ : ไอติมรสส้ม - [ 21 ม.ค. 51 11:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สวัสดีโจ้ , น้องเน และคุณไอติมรสส้มครับ... ขอบคุณสำหรับกำลังใจและมีความคิดถึงมามอบให้กัน ขอบคุณครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 21 ม.ค. 51 13:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เร็วๆนี้พบกับภาพการทำฝายกั้นน้ำครับ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 23:33:17 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 ม.ค. 51 23:30:18 ]