ความคิดเห็นที่ 1 ขณะที่อยู่บนภูสี มองเห็นตลาดกลางคืนที่ผมและเพื่อนๆเดินเมื่อคืน ซึ่งอยู่รอบๆพิพิธภัณฑ์หลวงพระบางนั่นเอง แต่จากที่เดินมาแล้วก็ พบว่ามันไม่มีของกินเลย ผมและเพื่อนๆเลยเดินย้อนลงไปตามถนน เลยตลาดกลางคืนไปจนถึงอีกสี่แยก ก็ได้พบกับตลาด..แบบตลาดจริงๆ ขบวนการกินไปเดินไปก็เริ่มขึ้น ณ ตรงนี้นี่เอง ประเดิมด้วย หมูและงัวปิ้ง 4ไม้20บาท (แพงเหมือนกันนะนั่น) เพื่อนผมคนหนึ่งบอกว่า แม่ค้าเอาผงชูรสจากมาม่าต้มยำกุ้งมาผสมทำ น้ำราด/น้ำจิ้มแน่ๆ ไอ้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน กินอย่างเดียว หิว จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นก็เป็นปาท่องโก๋ครับ ที่แปลกคือ มีทั้งแบบเค็ม(ปกติที่กินๆกัน) กับแบบหวานที่ไม่ใช่แบบแก้วตาโบ๋ เหมือนบ้านเรา คือมันไม่ใช่ว่าแป้งมันหวานอ่ะนะครับ แต่เขาจะเอาไปชุบน้ำตาล ออกมาเหมือนkrispy kreamซะงั้น จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นี่อีกอันที่เด็ด... ข้าวเหนี้ยวปั้นแล้วย่างมันทั้งอย่างงั้นเลยครับ ที่ไม่ธรรมดาคือ ทาน้ำพริกตาแดงครับผม รสแซ่บดี แต่ไม้เดียวจุกได้ ไม่ควรกินคนเดียว เดี๋ยวจะอดกินอย่างอื่น จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้นก็เข้าตลาด พบกับสารพัดของปิ้งย่าง ปลานิลเผา ไก่ย่างที่เพื่อนๆผม เรียกว่า"ไก่แดง" (มันแดงจริงๆ แถมโคตะระเหนียวเลย กระชากไม่ขาด) อันนี้เป็นแผงข้าวแกงครับผม หน้าตาไม่ต่างจากบ้านเรานัก จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เดินๆไป เจอแผงโต๊ะคนมุงๆ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าอะไร ในที่สุดก็มองออกครับ โต๊ะแทงหวยของเรานี่เอง ไม่ต่างจากบ้านเราเลยจริงๆ จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้ ของฝากขึ้นชื่อของหลวงพระบาง ไคแผ่นครับผม เป็นตะไคร่น้ำ แต่บางคนบอกว่าเป็นสาหร่าย รสชาดไม่เลว จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สุดท้ายพวกผมมาหยุดกินเฝอที่แผงแห่งหนึ่งครับ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว ที่แปลกอยู่ตรงที่ ในพวงเครื่องปรุง จะมีกระปุกพริกป่น น้ำตาล แล้วก็ "ผงชูรส"ครับ แบบว่า ใส่ให้เติมกันเองตามอัธยาศัย... อย่างนั้นเลย เดินไปเดินมา ก็เจอของกินน่ากินอีกมายมาย น้ำพริกท่าทางน่าอร่อย แต่ผมยังไม่อยากท้องเสีย เลยได้แต่ห้ามใจ แต่จากที่ลองกินดู ผมว่าโดยเฉลี่ยอาหารที่กินรสชาดไม่ได้เผ็ดเหมือนที่ คิดครับ แถมไม่เปรี้ยวด้วยอีกต่างหาก อันนี้เป็นรูป"เมี่ยงลาว" จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากอิ่มหนำกันเป็นที่เรียบร้อย แบบว่ากินมันดะ ไล่ไปทีละซุ้ม ผมและเพื่อนๆก็กลับเข้าที่พัก นอนสลบสไลหลังเหนื่อยมาทั้งวัน ผมตื่นมาตอนเช้า เพื่อออกมาล่าภาพยามเช้ามืดอีกครั้ง วันนี้ที่ขบวนคนรอใส่บาตรข้าวเหนียว คนไทยเยอะมากครับ มีรถทัวร์มา2-3คัน คนร่วม50คนเข้าคิวกันใส่บาตร จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้ถ่ายได้แย่กว่าเมื่อวานครับ เสียกระจุย มีรูปดีไม่กี่รูปเอง หลังจากถ่ายรูปบริเวณที่ใส่บาตรเสร็จ ก็เดินๆไปรอบ มีโรงเรียนเด็กประถม แห่งเมืองหลวงพระบางอยู่ใกล้ๆ จะถ่ายรูปน้องๆมา แต่น้องๆพอเห็นกล้อง ก็เผ่นกันแน่บเลย จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อมีโรงเรียน ก็ต้องมีขนม(หลอก)เด็กขายอยู่หน้าโรงเรียน จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลาว เขมร พม่า พวกนี้รายได้ต่ำกว่าไทยมาก  แต่อย่าคิดนะครับว่าไปเที่ยวแล้วจะถูก   เห็นมาเยอะนะครับว่าแพงพอตัวเลย  เพราะบางทีเขาคิดราคาเป็นเงินดอลล่าร์   เงินของเขามันเฟ้อมากเลยครับ  เที่ยวประเทศเหล่านี้แพงเลยหละครับ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 23 ม.ค. 51 13:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชุดนักเรียนที่นี่จะเป็นเสื้อขาว ผู้ชายก็ใส่กางเกงขายาวสีดำ ผู้หญิงก็เป็นซิ่นดำ อาจมีลวดลายขลิบด้านล่างแตกต่างกันบ้าง เป็นชุดอย่างงี้ตั้งแต่เด็กประถมยันสาวเทคนิคเลยครับ จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากนั้นก็เดินถ่ายรูปไปรอบๆอีกสักพักใหญ่ๆ แล้วก็ไปหาของกินครับ พอเสร็จแล้วก็ไปขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปวังเวียงตอน9โมงครึ่ง เส้นทางเดินรถก็เป็นการย้อนทางเดิมที่ผมนั่งรถ(ส่งเต้าหู้)ฝ่าความมืดมา เมื่อ3วันก่อนนั่นเอง แต่ความนี้เป็นรถตู้ เล็กกว่า นั่งกัน11คนรวมคนขับ ซึ่งทำให้ผมเกือบแย่เหมือนกัน เพราะแอร์ดันเสีย ต้องเปิดหน้าต่างแง้มๆเอา จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 13:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถนนก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ โค้งเยอะมาก แถมระยะทางก็ประมาณเกือบ 2ร้อยกิโลได้ เขาตัดถนนวกไปวกมาไล่อยู่ตามไหล่เขา วนๆๆๆๆๆๆจนแทบอ้วก ดูรูปเอาก็ได้ครับ คุณจะเห็นเส้นถนนยึกๆยือๆด้านล่าง นั่นแหละครับ หักไปหักมาอย่างงี้ตลอดเกือบ2ร้อยกิโล วิ่งกันประมาณ6ชั่วโมงได้ (ค่ารถจากหลวงพระบางมาวังเวียง 110,000กีบ) แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 14:09:11 จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้ายก็มาถึงวังเวียงครับ ผมแทบแย่เลยเหมือนกัน เมืองวังเวียงเป็นเมืองเล็กๆ มีแม่น้ำซอง (หรือสองก็ไม่รู้)ไหลผ่าน เมืองนี้ฝรั่งเยอะมากครับ เป็นเมืองที่เน้นกีฬาoutdoorทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคายัค ปีนเขา นั่งยาง(ล่องแม่น้ำนะครับ อย่าคิดมาก) เที่ยวถ้ำ ปั่นจักรยาน พวกผมเลือกจะเที่ยวถ้ำในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า เป็นtripครึ่งวันราคา$11ครับ เป็นtripเหมา ถ้ามากันเยอะจะถูกกว่านี้ จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ติดตามชมต่อครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 23 ม.ค. 51 14:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จองทัวร์ หาที่พักเสร็จเรียบร้อย ก็ออกหาของกินกันต่อ (มื้อเย็น) ด้วยความอยากกินอาหารที่ทำจากปลาจัดของผม เลยกลายเป็น ว่านั่งกินกันที่ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งแทนที่จะเป็นร้านทั่วไป (เพราะมีแต่อาหารฝรั่ง) ระหว่างทาน ก็พอกับชายญี่ปุ่นมากมายที่พักอยู่ ณ โรงแรมแห่งนั้น เดินแบกกล้องออกมาเตรียมถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก เห็นคลังแสงแต่ละคนแล้วผมล่ะอึ้งครับ สะพายD200กับD300พร้อมเลนส์17-35กะ24-70มาคนนึง สะพาย5Dมา2ตัว กับเลนส์อะไรผมไม่แน่ใจ สะพายcontax N digitalมางี้ เหลือบไปมองอีกคน มาด้วยกล้อง2ตัวเหมือนกัน แต่เลนส์ไม่ เขื่องเท่าพวกด้านบนที่ว่ามาแล้ว ย่องไปดูใกล้ๆกลายเป็นleica M7ตัวนึง แล้วก็M8ตัวนึง เห็นแล้วอึ้งครับ ชุดนี้รวมกันน่าจะเหยียบล้าน ไอ้ผมสะพายกล้องเล็กๆเลนส์ลีบๆของผม ไปถ่ายพระอาทิตย์ตกมา2-3รูป แล้วรีบเผ่นหนี อายยยยยย จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากนั้นก็เดินเข้าเมืองไปดูชีวิตกลางคืนของเมืองนี้ บาร์เหล้าเยอะครับ มีผับเปิดเพลงเต็มไปหมด แล้วก็เปิดกันยันเที่ยงคืนด้วย นักท่องเที่ยวกินเหล้าเมากันเต็มไปหมด จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กลับที่พัก นอน... วันรุ่งขึ้นก็ไปเที่ยวถ้ำครับ... ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะว่าไม่ได้เอากล้องไป ที่ไปเที่ยวก็มีถ้ำช้าง ถ้ำหอย ถ้ำน้ำ แล้วก็ถ้ำอะไรอีกที่ จำชื่อบ่ได้ครับผม เที่ยวถ้ำเสร็จก็บ่าย3 หาข้าวกิน กลับบ้านพักผ่อนสักครู่ แล้วก็ออกตระเวน ล่าภาพกันต่อ อย่างที่บอกครับ เมืองนี้มีแม่น้ำเป็นชีวิตจิตใจ ชาวบ้านออกมาหาปลากัน เยอะ นักท่องเที่ยวก็เล่นน้ำพายเรือนั่งห่วงยางกันเต็มไปหมด จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รูปเพื่อนๆ กำลังล่ารูปพระอาทิตย์ตกริมน้ำซอง จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อันนี้เป็นรูปริมน้ำของเย็นวันนี้ครับผม จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กินข้าวเย็น ดื่มกับเพื่อนกันพอสมควร แล้วก็นอน ตื่นเช้ามาก็ขึ้นรถทัวร์ออกจากวังเวียง กลับเข้าเวียงจันทร์ จากนั้นก็ขึ้นรถกลับไปที่ด่านสะพานมิตรภาพ กินแหนมเนือง แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพครับ จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รถด่วนขบวน70 ออกจากหนองคายตอน6โมง20นาที ถึงกรุงเทพตอน6โมงครึ่งเช้าวันรุ่งขึ้นครับผม จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รวมๆค่าใช้จ่ายตลอดtrip ประมาณ7-8พันบาทครับผม แตกต่างกันแล้วแต่ว่า คุณซื้ออะไรเที่ยวอะไรบ้าง ในจำนวนนี้เป็นค่าเดินทางเสียประมาณ3พันได้ จัดเป็น1อาทิตย์ที่ผมประทับใจมากๆครับ ก็ขอจบtripนี้แต่เพียงเท่านี้ละกันครับผม ขอบใจ สะบายดี :) จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 14:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพสวยอีกแล้วครับ แล้วสักวันจะต้องไปให้ได้ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ จากคุณ : pop_pu - [ 23 ม.ค. 51 14:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาดูภาพสวย และอาหารการกิน .. อยากลองชิมไคแผ่นบ้าง ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 23 ม.ค. 51 16:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราคิดว่าจะได้นั่งรถกลางคืนไปหลวงพระบางโดยคนขับคนเดียวกันนะ  ของเราเด็ดกว่าเรานั่งข้างหลังคนขับหมายเลข 2-3-4 อีกคนเป็นญี่ปุ่นหลังออกจากวังเวียงเด็กรถก็ไปนอน คนขับขับอยู่คนเดียวระหว่างที่รถโค้งไปโค้งมาประตูหน้า(ทั้งรถมีประตูเดียว )ก็เปิดเอาละซิใครจะไปปิด เราก็เลยลุกไปปิดในฐานะที่นั่งข้างทางเดินคนที่ 1  แต่สักพักมันก็เปิดใหม่ น้องสาวเราที่นั่ง ข้างทางเดินอีกข้างก็ลุกไปบ้างแต่มันต้องกดตรงที่จับประตูตอนแรกเราไม่รู้มันก็เปิดอีก ก็ปิดไม่เป็นนะ พอโค้งประตูก็เปิดอีกเราก็มองหน้ากับน้องตอนนั้นตีเท่าไหร่ก็ไม่รู้  เชื่อไหมว่าคนขับขยับตัวไปที่ประตูเพื่อจะปิดท่ามกลางโค้งหน้าผาแล้วบ่อยมือแป๊ปผลักประตูรถ 4สาว 2 สันชาติร้องเบาๆพร้อมกันอุ๊ย  เฮ้ย ...โดยไม่ได้นัดหมาย  สามารถมากๆเลย แต่พอโค้งอีกประตูเจ้ากรรมก็เปิดอีก เราทนไม่ไหวเลยรีบลุกขึ้นแล้วบอกว่า เดี๋ยวจะไปปิดเอง ตานี้คนขับเลยบอกว่าให้กดๆตรงที่จับประตู ก็เลยปิดได้ และรอดตายกลับมา  ทั้งคันรถจะมีใครรู้ไหมนี่ว่าเฉียดตาย ขอสาบานว่าเป็นเรื่องจริง  เรานั่งคืนที่18 ม.ค.นี้เที่ยว 19.30 น.ไปหลวงพระบาง  100000 กีบเท่ากัน จากคุณ : ท้องฟ้าใส - [ 23 ม.ค. 51 23:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แหะๆๆ ผมขึ้นวันที่13ครับ แต่หนุกหนานไม่แพ้กันเหมือนกันแหละ ผมนั่งอยู่แถวสี่ได้มั๊ง ประมาณเบอร์9-12 คนขับกะนี่คงเป็นศิษย์(หรือไม่ก็อาจารย์)ของบุนตะ ฟุจิวาระแห่งอากินะอ่ะ จากคุณ : eieio - [ 23 ม.ค. 51 23:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อึ่มม์ น้ำซอง ใสเย็นและก็สวยมากครับ เอวังก็มีลงด้วยฉะนี้แล ไม่มีรูปเวียงจันทน์หรือไง ลืมไปแล้ว จากคุณ : Innocent - [ 24 ม.ค. 51 02:26:09 A:71.126.171.213 X: TicketID:141679 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้ยยยย....บอกได้คำเดียวว่าอยากไป... จากคุณ : ยายแม้น (Kaejang) - [ 24 ม.ค. 51 11:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเพิ่มเติมนิดครับ สำหรับผู้จะนั่งรถสายนี้ - ก่อนขึ้นรถอย่าลืมพกยาดมกะถุงพลาสติกเล็กๆไปเผื่อด้วยนาครับ  เพราะขนาดเจ้าถิ่นชาวลาวที่นั่งหลังผมยังอ้วกแตกไปสามสี่รอบเลย - หูฟัง หรือ เอียปลัค  ควรพกติดตัวไว้ตอนขึ้นรถ เพราะคนขับกะลูกน้องท่านใช้วิธีเปิดเพลงดังๆแก้ง่วง เราคนนั่งเลยต้องไม่ง่วงไปด้วย - เวลาถึงสถานี โชคดีก็ตรงเวลา โชคร้ายก็ถึงก่อนครึ่งถึง1ชั่วโมงครับ จากคุณ : monkeybaby - [ 24 ม.ค. 51 13:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ่ายรูปสวยจังค่ะ อยากไปจัง พลาดหลายครั้งแล้ว สักวันช้านจะไป จากคุณ : หัวหินละเมอ (amhuahin) - [ 24 ม.ค. 51 18:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หนุก  เอาอีก  เอาอีก คนอ้วนจะเล่าเรือ่งหนุกดี เอ๊ ช้านพูดหยาบคายหรือเปล่าเนี๊ย จากคุณ : ภูเก็ต-ป่าตอง - [ 29 ม.ค. 51 16:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สนุกดีจริง ๆ ค่ะ อ่านสามตอนรวด เป็นชั่วโมงกว่าเลย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 30 ม.ค. 51 13:32:04 ]