ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ขอลาเดือนมกราคมทั้งเดือนผลปรากฏว่าได้ลาจริงๆ ดีใจเหมือนได้แก้วรีบบอกสามีทันที สามีบอกถ้าเธอลาได้ทั้งเดือนอย่างนี้นะ กลับเมืองไทยกันดีกว่า คุณตาคุณยายจะได้เจอหลานชายสุดที่รัก แล้วเราก็หาที่ไปเที่ยวใกล้ๆกันสามคนพ่อแม่ลูกสักสิบวัน ไปไหนดีล่ะที่รักจ๋า พม่ามั้ย ชั้นยังไม่เคยไปเลย "ไม่เอาหรอก ชั้นเกลียดรัฐบาลบ้าบอคอแตกที่นั่น กดประชาชนตาดำๆเสียจมดิน ไปก็เหมือนเอาเงินไปให้พวกนี้ โรงแรมร้านค้าต่างๆก็เอี่ยวกับพวกนี้ทั้งนั้น อองซานซูจีได้เป็นประธานาธิบดีเมื่อไรเราค่อยไป" สามีดิฉันบอก จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ออสเตรเลียไหมล่ะ ลูกมันจะได้ไปเห็นอะไรแปลกๆ ตอนนี้เป็นหน้าร้อนด้วยนะ "ไม่เอา ชั้นเบื่อฝรั่งจะอ้วก" หนอย พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่ฝรั่ง ลองบอกไปสามสี่ประเทศ เธอก็ยังสั่นหัวดิก สุดท้ายสามีดิฉันหันมาทำตาหวานใส่ดิฉัน "Baby, are you thinking what I'm thinking?" เอาอีกแล้วหรือเธอ บาหลีอีกแล้วเหรอ ไม่เบื่อบ้างหรือยังไง เราไปกันมากี่หนแล้ว ไปเอาพาสปอร์ตเล่มเก่าๆมาเปิดดูดีกว่าว่า เราไปกันมากี่หนแล้ว ปรากฏว่า ดิฉันไปบาหลีมาห้าครั้งแล้วค่ะ ส่วนสามีนั้นปาเข้าไปหกครั้ง ครั้งแรกนั้นเธอไปเมื่อสามสิบปีก่อน ตอนเป็นหนุ่มน้อยออกไปท่องเที่ยวแสวงหาตัวเอง   ครั้งที่สองของเธอก็คือครั้งแรกของดิฉันเมื่อสิบแปดปีก่อน ตอนนั้นเราสองคนตกลงใจว่าจะร่วมหัวจมท้ายเป็นคู่ตุนาหงัน เพราะสืบสายมาแต่วงศ์อสัญญแดหวาเหมือนกัน เขาเดินทางมาขอพ่อดิฉันแต่งงาน เอ ไม่ใช่ค่ะ ขอดิฉันกับพ่อต่างหากคะ แล้วเราก็มาฮันนีมูนล่วงหน้าวันแต่งที่บาหลี ผลงานของการแต่งงานกำลังทำหน้าเบื่อแม่มันมาก แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 00:27:21 จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บาหลีก็บาหลีวะ  แล้วดิฉันก็รีบจัดการซื้อตั๋ว ZEDทันที  ราคาตั๋วZEDที่ซื้อ (การบินไทย) ราคาไปกลับของดิฉันและสามีอยู่ที่ 90 เหรียญยูเอส ของลูก (เด็กต่ำกว่า 12 ปี) 70 เหรียญยูเอส มีเพื่อนๆหลายคนที่ทำงานสายการบิน เคยหลังไมค์มาหาดิฉันเรื่องตั๋วZED ว่า ทำยังไงถึงจะเดินทางด้วยตั๋วนี้อย่างประสบความสำเร็จ เนื่องจากพอซื้อตั๋วแล้ว เครื่องเต็ม กลัวตกเครื่อง คำตอบคือ คุณต้องมีแบ็คอัพแพลนค่ะ แผน1ใช้ไม่ได้ ต้องมีแผนสองหรือแผนสามเตรียมเอาไว้ ซื้อตั๋วZEDเอาไว้หลายๆใบ เช่น ซื้อตั๋วZEDของการบินไทยไปบาหลียังไม่พอ ซื้อของสายการบินการูด้าของอินโดนีเซียเตรียมไว้ด้วย (ต้องไปต่อเครื่องที่จาการ์ต้า) แค่นั้นบางทียังไม่พอ ซื้อตั๋วสิงคโปร์แอร์ไลน์ไว้ด้วยก็ดี (ต้องไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์) เพราะตั๋วZED เป็นตั๋วที่  fully-refundable ค่ะ ถึงแม้ตั๋วไป-กลับ คุณใช้ไปส่วนเดียวคือตั๋วขาไป (ยกตัวอย่าง) ตั๋วขากลับก็สามารถคืนได้ ไม่เสียหายค่ะที่มีไว้เยอะๆ น้ำอัดลมยี่ห้อตัวแรด ดิฉันไม่กล้าซื้อกิน เพราะมันดูน่ากลัวมาก แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 51 23:47:58 จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมบาหลีถึงมีสเน่ห์ ใครๆก็อยากไป ไปแล้วก็อยากกลับไปอีก ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่เกาะๆหนึ่ง บาหลีมีสเน่ห์เพราะมีอารยธรรมที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก แต่บาหลีกลับมีผู้ถือศาสนาฮินดูถึง 94 เปอเซ็นต์ แต่ทราบกันไหมคะว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อนนี้ หมู่เกาะชวาทั้งหมด นับถือศาสนาฮินดู ตามอิทธิพลของอาณาจักรศรีวิชัย (จำได้กันหรือเปล่า) แต่มีการแบ่งแยกเป็นการปกครองแบบเป็นก๊กเป็นเหล่า ไม่ได้รวมกันเป็นอาณาจักรใหญ่อาณาจักรเดียว ผู้ปกครองเรียกตัวเองว่า ราชา (Raja) เช่นราชาแห่งเมืองบันดุง นี่ก็น้ำยี่ห้อ "เหงื่อ" ใครจะกล้ากินอ่ะ จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ศาสนาฮินดูนี่ อะไรๆก็ดีหมด แต่ข้อเสียที่ร้ายแรงของศาสนาอินดูคือ ระบบวรรณะ ใครเกิดมาในวรรณะไหน ก็ต้องอยู่ในวรรณะนั้น ทำอาชีพตามที่วรรณะนั้นกำหมดมา แต่งงานข้ามวรรณะไม่ได้ ถ้าใครฝ่าฝืน เด็กที่เป็นผลผลิตจากการแต่งงานข้ามวรรณะจะถูกจัดอยู่ในวรรณะพิเศษ ถือว่าเป็นพวกจัณฑาล (The untouchables) ถือว่าต่ำช้ากว่าอะไรๆทั้งหมด แม้แต่โดนพวกนี้แตะต้องเนื้อตัวก็ต้องไปเข้าพิธีล้างซวย คิดๆดูแล้ว ก็พอเห็นเป็นนัยว่า ใครเป็นคนสร้างระบบวรรณะขึ้นมา ก็ชนชั้นปกครองไงคะ เพราะได้ประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุด คนที่เดือนร้อนที่สุดคือชนชั้นล่างๆ เทวสถานที่เมืองเมงกวี(Mengwi) ทางผ่านเข้า-ออกเมืองอุบุด จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เหตุการณ์พลิกผันเอาเมื่อตอนคริสศตวรรษที่ 13 ค่ะ เมื่อพ่อค้าชาวเปอร์เซีย เริ่มเดินทางล่องเรือเข้ามาทำการค้ากับหมู่เกาะชวา สิ่งที่นำเข้ามาด้วยทางอ้อมคือการเผยแผ่ศาสนาอิสลาม ซึ่งป๊อปปูล่ามากในคนวรรณะต่ำก่อน เพราะศาสนาอิสลามนั้นให้ความสำคัญกับผู้ยากไร้มาก คือมีความเมตตากับผู้ยากไร้มากกว่า เน้นในเรื่องการทำบุญกับคนยากจน ข้อสำคัญ ไม่มีการแบ่งวรรณะ ในช่วงสามร้อยปีต่อมา จากศริสศตวรรษที่ 13-16 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในหมู่เกาะชวา คนเริ่มเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามกันมากเข้าทุกที วรรณะปกครองเริ่มมีความสำคัญน้อยลง อำนาจในมือก็ลดน้อยถอยลงทุกที เทวสถานที่เมงกวีอีกรูป จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่ากระนั้นเลย เจ้าครองนครหลายองค์ในหมูเกาะชวาก็อพยพมาอยู่ในเกาะเล็กๆชื่อบาหลี ซึ่งศาสนาฮินดูยังคงยึดติดอยู่กับผู้คน  เจ้าครองนครในบาหลีเองก็แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า มีเมืองของตนเองเป็นอาณาจักรไม่ขึ้นกับคนอื่น เช่น เจ้าครองนครแห่งอุบุด เจ้าครองนครแห่งเดนปาร์ซา เจ้าครองนครแห่งคลุงขุง จากคุณ : flymom - [ 5 ก.พ. 51 23:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บาหลียังคงความเป็นอิสระจากพวกล่าอาณานิคมมาได้นานมากๆ เมื่อหมู่เกาะชวาตกเป็นอาณานิคมของดัชท์แล้ว บาหลียังคงความเป็นอิสระมาได้อีก ร้อยกว่าปี แต่กรรมเก่ามาตามเอาทันเมื่อประมาณปี 1905-1906 นี้เองค่ะ เมื่อราชอาณาจักรดัชท์ต้องการบาหลีในการครอบครองให้ได้ หลังจากพิชิตเกาะชวาและเกาะต่างๆมาหมดแล้ว จึงเดินทัพเรือมาที่เกาะบาหลี มีการเจรจากับราชาก๊กต่างๆหลายครั้งหลายหนก็ไม่สำเร็จ ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าต้องมีการรบพุ่งกันแน่ๆ แล้วราชาเหล่านี้ก็รู้ว่า กริชจะมาสู้ปืนพวกดัชท์ไม่ได้แน่ๆ ไทกับตัวบารอง จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตรองคิดดูแล้ว ถ้ายอมแพ้เขาก็จะได้ไปทั้งหมด ไม่ว่าทรัพย์สินเงินทอง บ้านช่องห้องหอ ผู้คนมากมาย เป็นชนชั้นปกครองจะมาเสียของพวกนี้ในเวลาข้ามคืนหลังจากที่เคยมีเคยได้อยู่หลายร้อยปี ใครจะไปทนได้ล่ะคะคุณๆขา แต่ว่าไม่ได้นะคะ เหล่าเจ้าครองนครในบาหลีนั้น เกือบทุกๆองค์ใจเด็ดยิ่งนัก ยอมตายไม่ยอมแพ้ (คนสมัยนี้แพ้ขาดลุ่ยเพราะเอาแต่พูดรักชาติปาวๆ แต่ไม่ทำอะไรเลย) เริ่มจากเจ้าครองนครแห่งเดนปาร์ซาก่อน วันที่พวกดัชท์ทำการบุกเดนปาร์ซานั้น  พอขึ้นฝั่งมาถึงเมืองก็เห็นแต่ควันไฟไหม้วังเจ้าเดนปาร์ซาวอดวายไปหมด เจ้าครองนครของเดนปาร์ซาได้กระทำพิธี ปูปูตาน (Puputan) ใครอยากอ่านโดยละเอียดไปกูเกิ้ลเอาอีกทีนะคะ คือการฆ่าตัวตายหมู่นั่นเอง (Mass suicide)  ทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้าครองนครเอง เหล่าภรรยาและโอรสธิดา พระญาติพระวงศ์ทุกองค์ พราหมณ์ รวมทั้งชาวบ้านเอง ทุกคนอยู่ในชุดขาว เนื้อตัวประดับด้วยเครื่องทองทุกชิ้นที่มีอยู่ เดินเข้าหากระสุนของพวกดัชท์ด้วยความกล้าหาญ ที่ตายก็ล้มลง ที่ยังมีชีวิตก็ยังเดินเข้าหากระสุนอยู่ จนตายหมดเกือบทั้งเมือง รูปนี้เอามาจากในเวบนะคะ ในรูปทางด้านขวามือด้านล่างจะเป็นเสลี่ยงทองของเจ้าครองนครเดนปาร์ซา ซึ่งเสียชีวิตเป็นคนแรกในพิธีปูปูตาน จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อความข้างล่างคือจดหมายเหตุที่นักสังเกตการณ์ชาวดัชท์ที่อยู่ในเหตุการณ์บันทึกไว้เกี่ยวกับพิธีปูปูตานวันที่ 20 กันยายน 1906 ที่เดนปาร์ซา The ruler and the princes with their followers, dressed in their glittering attire, with their krises girded on, of which the golden hilts were in the form of Buddha statues and studded with precious stones: all of them were dressed in red or black and their hair was carefully combed, moistened with fragrant oils. The women were wearing the best clothes and accessories that they had; most of them wore their hair loose and all had white cloaks. The prince had his palace burned down and had everything that was breakable destroyed. When at nice o’clock it was reported to him that the enemy had penetrated Denpasar from the North, the tragic procession of 250 people started to move; each man and woman carried a kris or long lance, also the children who had the strength to do it, while the babies were carried in their arms. Thus they walked to the north along the wide road bordered by tall trees, meeting their destruction. The prince walked in front, carried on the shoulders by his followers according to custom, and silently . until all of sudden, at a turning in the road, the dark line of our infantry was visible before them. Immediately a halt was commanded and Captain Schutstal ordered the interpreters to summon the arriving party to a halt with gestures and with words. However these summons were in vain, and in spite of the repeated warnings the Balinese went over to a trot. Incessantly the Captain and the interpreters made signs, but it was in vain. Soon they had to realize that they had to do with people who wanted to die. They let them approach to a hundred paces, eighty, seventy paces, but now they went over to a double quick step with couched lances and raised krises, the prince always in front. A longer delay would have been irresponsible in view of the safety of our men, and the first salvo was given; several killed men remained at the place. One of the first to fall was the ruler; and now one of the most horrible scenes one could imagine took place. While those who were saved continued the attack, and the shooting on our part for self defense remained necessary, one saw lightly wounded give the death-blow to the heavily wounded. Women held out their breasts to be killed or received the death blow between their shoulders, and those who did this were mowed down by our rifle fire, other men and women got up to continue the bloody work. Also suicides took place there on a big scale, and all seemed to yearn for their death: some women threw as a reward for the violent death which they desired from them gold coins to the soldiers, and stood straight up in front of them, pointing at their heart, as if they wanted to be hit there; if no shot was fired they killed themselves. Especially an old man was busily stepping over the corpses, and used his kris left and right until he was shot down. An old woman took his task and underwent the same fate, however, nothing helped. Always others got up to continue the work of destruction. รูปเล็กมากค่ะ ขยายไม่เป็น แต่เป็นรูปหลังจากพิธีปูปูตาน พระศพของเจ้าครองนครเดนปาร์ซาถูกห่อไว้ด้วยผ้าขาว แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 00:10:38 จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พิธีปูปูตานนั้น ยังเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในเมืองต่างๆ เช่นที่เมืองคลุงขุง เมืองสิงหราชาทางเหนือของเกาะ คนที่ไปเที่ยวบาหลีโปรดสังเกตว่า หาวังเจ้าที่สมบูรณ์นั้น หาได้ยากมากในบาหลี เนื่องจากพีธีปูปูตานนี่แหละค่ะ วังเกือบทุกวังโดนเผาเรียบ วังที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่โดนเผา คือวังเจ้าที่เมืองทาบานัน (Tabanan) และวังเจ้าอุบุด อยู่กลางเมืองเลย เนื่องจากราชาแห่งทาบานันและราชาแห่งอุบุดยอมแพ้ วังไม่โดนเผาแต่ตัวราชาเองโดนเนรเทศไปอยู่เกาะชวาจนสิ้นชีวิต เมื่อสมัยสามสิบสี่สิบปีก่อน ถ้าเดินผ่านวังเจ้าอุบุด จะเห็นคนเดินผ่านกำแพงวังถ่มน้ำลายรด เป็นการแสดงความดูถูกที่เจ้าอุบุดยอมแพ้พวกดัชท์นั่นเอง  พ่อของดิฉันที่ไปเที่ยวบาหลีสมัย ปี 1971 เห็นมาด้วยตาตนเอง  พ่อบอกสงสัยมาก ทุกคนที่เดินผ่านวังเจ้าทำไมต้องถ่มน้ำลาย ถามคนท้องถิ่นแล้วหาหนังสือมาอ่านก็ถึงบางอ้อ จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดินไปทางไหนก็จะเห็นรูปปั้นพระพุทธรวมกับรูปปั้นเทวรูปฮินดูเต็มไปหมด จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ประตูเข้าเทวสถานประจำบ้าน ทุกบ้านจะมีเทวสถานไว้บวงสรวงเทพเจ้าและบรรพบุรุษประจำตระกูล จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทุ่งนาข้างทาง จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนไทยอย่างดิฉัน ถามดิฉันว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาที่เมืองไทยที่ไหน เมื่อไร ดิฉันจำไม่ได้ค่ะ แต่ที่นี่ มองไปทางไหนก็เห็นทุ่งนา จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้าวกำลังออกรวง ที่เห็นเป็นสายๆมีริ้วติดไว้เต็ม เป็นสายเชือกที่เขาติดไว้ไล่นก พอเห็นนกลง คนเฝ้านาจะดึงเชือกที่ผูกไม้ไผ่กับผ้าสายๆไว้ เอาไว้ไล่นก เห็นแล้วเหนื่อนแทนกว่าจะได้ออกมาเป็นข้าวให้เรากิน อาบเหงื่อต่างน้ำจริงๆ จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวย จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คนที่นี่พอออกนอกเมืองไปแล้วจะพบว่า คนบาหลีจริงๆใจดีมาก เป็นดิฉันหยุดถ่ายรูปข้างทางก็กวักมือให้ลงไปถ่ายรูปในนาเลย จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ้าวรูปซ้ำ ขอโทษค่ะ จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น้ำมะม่วง กินกันวันละสี่ห้าแก้ว อร่อยมากหวานหอมไม่ต้องใส่น้ำตาล จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ต่อตอนสองพรุ่งนี้นะคะ จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 00:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มารอตอนต่อไปนะคะ ^^ จากคุณ : nujoom - [ 6 ก.พ. 51 07:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณที่หาประวัติมาให้อ่านนะคะ น่าสนใจมากเลย จะรอชมต่อนะคะ จากคุณ : BACK TO THE NATURE (ลุงโป๊งเหน่ง) - [ 6 ก.พ. 51 08:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตามมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ยอมแพ้หนีไปนอนก่อน อ่านเพลินมากๆเลยค่ะ แล้วจะรอตอนต่อไปน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ ปล. น้องน่ารักมากเลยค่ะ อิอิ จากคุณ : ohhioh - [ 6 ก.พ. 51 09:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขนาด"เกริ่น"ก็เยี่ยมแล้ว รอดูต่อครับ อ้อ...ตั๋ว ZED นี่ priority เหนือกว่าหรือต่ำกว่า ตั๋ว ID ครับ จากคุณ : final Approch - [ 6 ก.พ. 51 09:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามอ่านต่อค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 6 ก.พ. 51 09:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบบาหลีเหมือนกันค่ะ..ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ จากคุณ : จิ้มลิ้ม - [ 6 ก.พ. 51 09:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ ตามอ่านมาตั้งแต่เรื่องโบลิเวียแล้ว (แอบเห็นกระเป๋า hawaiian ของพี่แนนนี่ด้วยค่ะ พาไปเที่ยวบาหลีด้วยเหรอคะ) จากคุณ : poncho - [ 6 ก.พ. 51 10:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณfinal approachคะ ตั่ว ZEDกับตั๋วไอดี เหมือนกันค่ะ ถ้าบริษัทไหนใช้ระบบ ZED ก้ไม่มีระบบตั๋วไอดี แต่ว่าเขากำลังจะเปลี่ยนเป็นระบบ ZED ให้หมดทุกสายการบินนะคะ คุณponcho ใช่แล้วววกระเป๋าแสนสวยของคุณแนนนี่ ดิฉันเปิดกล่องก็หลงรักทันที ขนาดพามาเที่ยวบาหลีด้วย แต่ทำมันมอมแมมน่าดูค่ะ จากคุณ : flymom - [ 6 ก.พ. 51 11:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาต่อเร็วๆนะคะ   อ่านสนุกดี  ได้ความรู้ด้วย จากคุณ : Mashiboro - [ 6 ก.พ. 51 11:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบๆๆ ค่ะ  ไปมาแล้วก้ออยากไปอีก  บาหลีมีเสน่ห์น่าหลงใหลจริงๆ จากคุณ : sueko - [ 6 ก.พ. 51 12:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อยากไปบ้างจังเลยค่ะ แต่ไม่อยากไปกลับเพื่อน อยากไปกลับแฟนเลยต้องรอไปก่อน ว่าแต่ใช้ตั๋ว ZED BKK-DPS นี่แค่ 70 $ ใช่มั้ยคะจะได้ไปขอไว้บ้าง จากคุณ : hypoxia - [ 6 ก.พ. 51 13:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตามมาเที่ยวบาหลีด้วยคนครับ แต่ผมเป็นคนขี้ร้อน  (ทั้งๆที่อยู่เมืองร้อน) บาหลีร้อนมากมั้ยครับ แหะๆ จากคุณ : ppomp2003 - [ 6 ก.พ. 51 16:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาดูเรื่องสนุกๆ รูปสวยๆ และลูกชายหล่อๆ ค่ะ จากคุณ : ไก่แก่แม่ปลาช่อน - [ 6 ก.พ. 51 21:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไปด้วยค่ะ จากคุณ : มะนาวแป้นมินิ - [ 6 ก.พ. 51 22:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อยากไปแต่ยังไม่เคยไปเลย... คงต้องหาโอกาสไปบ้างแล้ว... ขอปูเสื่อรอตอนต่อไปครับ... จากคุณ : snowboy - [ 7 ก.พ. 51 00:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากไปจังแต่ชาตินี้คงไม่มีโอกาสค่ะ ขอเที่ยวเมืองไทยให้ทั่วก็พอ แต่อิจฉาคุณแนนนี่มากนะคะ อ้อและขอบคุณมากนะคะที่พาเที่ยว555ได้ความรู้เพียบเลย จากคุณ : น้ำฝน (น้ำฝนER) - [ 7 ก.พ. 51 01:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พี่แอนขา .... หนูเห็นกระเป๋าแสนสวย เข้ากั๊น เข้ากันกับบรรยากาศบาหลี ๆ ซักได้นะคะพี่แอน ขยำ ๆ เอาก็พอ เมื่อก่อนอยากไปเที่ยวมากเลยค่ะบาหลีเนี่ย แต่หลังจากที่มีบอมบ์ ชาวออสซี่ตายเยอะ คนออสซี่ก็เริ่มกลัว ๆ บาหลี รวมทั้งพ่อบ้านแนนนี่ด้วย ทั้ง ๆ ที่บาหลีนี่อยู่ใน top list นะคะ ตอนนี้หน่ะ ตกไปอยู่ bottom list แล้วค่ะ แต่ก็ยังอยากไปอยู่ค่ะ สวย ๆ พ่อบ้านแนนนี่หลงรักสบู่พี่แอนอยากมากเลยค่ะ จากคุณ : madam_ozzy - [ 7 ก.พ. 51 02:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคยเข้าไปกินสแนค-ดริ๊งค์ที่ Amankila รู้สึกชัดๆเลยว่าชนชั้นวรรณะระหว่าง นักท่องเที่ยวด้วยกันมันเป็นอย่างไร นั่นพูดถึงราคาสมัยสิบกว่าปีมาแล้วนะคะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 7 ก.พ. 51 03:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมาดูด้วยคนค่ะพี่แอน  น่าเที่ยวมากเลย  บาหลีสักวันต้องไปให้ได้ค่ะ ชอบแนวการตกแต่งบ้าน  วัดวาอารามเค้าค่ะ ขอบคุณที่นำเที่ยวนะคะพี่แอน  รอชมตอนต่อไปค่ะ กระเป๋าผ้าแนนนี่สวยมากเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 04:53:10 จากคุณ : dreamon - [ 7 ก.พ. 51 04:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 พี่แอนเล่าเรื่องสนุกดีจริงค่ะ ไว้มารอดูตอนต่อไปนะคะ หนูหากระเป๋าพี่แนนนี่ตั้งนานว่าอยู่ไหน มัวแต่มองน้ำแรดกับน้ำเหงื่ออยู่ อ้อ เจ้าน้ำยี่ห้อเหงื่อเนี่ยที่ญี่ปุ่นขายดี๊ดีค่ะ มีตั้งหลายรส หลายแบบ เวลาป่วยๆ เพลียๆ หมอต้องรีบแนะนำให้ไปหาเจ้าน้ำเหงื่อมากิน อ้อๆ น้องไทน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : Pattylala - [ 7 ก.พ. 51 06:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ลูกชายน่ารักจังเลยค่ะพี่แอน เรื่องก็สนุกดี พี่แอนน่าเขียนหนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยวนะคะเนี่ย จากคุณ : Rinsei - [ 7 ก.พ. 51 07:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านไปดูรูปไป เพลินๆดี ป๋องน้ำ ก็มัวแต่มองแรด ตามคำบรรยาย จนอ่านมาถึง คห คุณแนนนี่ เลยต้องปีนกลับขึ้นไปดูใหม่ อ่ออ มัวแต่ดูแรดจนลืมมองฮาวายเอี้ยนสีสวยสด :) จากคุณ : หยิบหย่ง - [ 7 ก.พ. 51 08:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านเพลินเลยค่ะพี่แอน ลูกชายน่ารักจัง   อยากไปบาหลีบ้างจัง... (รอหลังแต่งงาน จะอ้อนคุณแฟนพาไปฮันนีมูนมั่ง..อิอิ) จากคุณ : ploy_happy - [ 7 ก.พ. 51 10:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ทีแรก นึกว่าจะเข้ามาดูรูป แต่พอเข้ามากลับได้ความรู้ประกอบมากมาย ขอบคุณมากค่ะ ^^ เคยไปบาหลีแค่หนเดียว แต่ก็ติดใจบรรยากาศที่นั่นมาก อยากให้คนไทยรักษาขนบธรรมเนียมได้แบบเขาบ้างจัง ^^" จากคุณ : viee - [ 7 ก.พ. 51 10:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านเพลินมากเลยค่ะ อิจฉาคุณ flymom จังค่ะ ไปเที่ยวบ๊อยบ่อย แต่ละที่ที่ไปก็น่าสนใจทั้งนั้นเลยค่ะ ^^ ชอบๆๆๆๆ และจะติดตามตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : piipparonii n_n - [ 7 ก.พ. 51 12:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 รีวิวได้สนุกมากๆเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : คิดถึงบาหลีจังเลย (Semangka) - [ 8 ก.พ. 51 22:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มารออ่านตอนต่อไปด้วยค่ะ ความรู้นี้ท่านได้แต่ใดมาคะ ละเอียดมั่กมาก  ชอบมากเลยค่ะ  อ่านเพลินอีกตะหาก ขออนุญาตเก็บไว้เป็นข้อมูลในคลังนะคะ ปล.ลูกชายน่ารักกกกกมากๆๆๆๆๆค่ะ  โตขึ้นหล่อแน่นอน จากคุณ : iamchula - [ 9 ก.พ. 51 01:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เล่าเรื่องมีความรู้ดี ไม่เบื่อที่จะอ่านเลยค่ะ ปล. ลูกชายน่ารักจัง จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 9 ก.พ. 51 04:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ปล. น้องไท น่ารักมากๆ ครับ คุณ flymom รีวิวได้น่าติดตามมากๆเลยครับ ใช้ภาษาไทยดีด้วย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะก๊าบบ จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 9 ก.พ. 51 18:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เล่าเรื่องได้ดีมาก ๆ ได้ความรู้มากมายค่ะอ่านเพลินเลย อ้อ ....ลูกชายน่ารักเหมือนลูกเราเลย ฮิฮิ... จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (tigor) - [ 10 ก.พ. 51 08:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เขียนเรื่องได้สนุกได้ความรู้และประวัติศาสตร์มากจริงๆ เออๆไปมาตั้งหลายครั้ง ไม่เบื่อหรือครับ แบ่งผมไปบ้างซิ อิๆๆ จากคุณ : Tanoshii - [ 11 ก.พ. 51 10:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาช้าไปหน่อยค่ะ แต่อ่านแล้วนึกอยากไปบาหลีขึ้นมาทันที..เดี๋ยวตามไปอ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : i'm not superman - [ 13 ก.พ. 51 08:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มาปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ ว่าแต่ ขอจองน้องไว้ได้ไหมคะ น่ารักจัง อิอิอิ จากคุณ : Ordinary_Me - [ 19 ก.พ. 51 04:40:32 ]