ความคิดเห็นที่ 1 เทียวไปเทียวมา หากันจนเจอ ก็เอาเศียรที่พกไปด้วย (ครั้งแรกเอาไปเศียรเดียวก่อน –เศียรเล็ก) ให้เขาดูว่า แบบนี้ปั้นได้ไหมจ๊ะ ต้องปั้นให้ออกมาเป็นพระสุโขทัย จึงจะเข้ากันกะเศียรนั้น ตกลงไปมา ก็ลงตัวที่ค่าจ้างปั้นและหล่อองค์พระ ขนาดหน้าตัก 13 นิ้วฐานเขียง แล้วเอาเศียรที่เรามีเชื่อมลงไป สนนราคา 6,000.- บาทถ้วนค่ะ ถูกยังกะอะไรดี รวมราคาปิดทองคำเปลวแท้ด้วยแล้ว ก็เพิ่มอีก 5,000.- บาทค่ะ เพราะทองแพง (ปีนี้ คงไม่ได้ราคานี้แล้วเพราะทองแพงมาก  เราไปสร้างพระนี้ปี 2549 ค่ะ)  ผู้ปั้นองค์พระนี้ เป็นพระสงฆ์ค่ะ เก่งมากๆ ที่เห็นในภาพเป็นสีเนื้อๆ น้ำตาลนั่นแหล่ะค่ะ ขี้ผึ้ง ที่หล่อองค์พระใหม่ขึ้นมา ก่อนจะ นำไปเททองหล่อ ระบบการหล่อพระของที่นี่ เป็นแบบโบราณเลยนะคะ ปั้นหุ่นด้วยถ่านแกลบผสมน้ำดิน พอกด้วยขี้ผึ้ง ใช้ “กราด” ปาดให้เนียน ทาดินผสมขี้วัว พอกด้วยดินนวล เอาดินอ่อนดินแก่พอกทับอีกที แล้วเข้าลวดผูกเหล็ก ไปสำรอก เอาขี้ผึ้งออกแล้วไปเททองหล่อ เสร็จแล้วนำมาขัดมัน แล้วลงรักปิดทอง กระบวนการทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากนั้นคุณพจน์ก็เลยเอาอีกเศียรหนึ่ง ซึ่งใหญ่กว่าเศียรแรกเล็กน้อยไปให้ปั้นอีกองค์ คราวนี้เป็นแบบ อู่ทอง ค่ะ ค่าปั้นและหล่อแพงกว่าองค์แรกหน่อย คือ 7,000.- บาท ส่วนค่าปิดทองคำเปลวเท่าเดิม ขนาดหน้าตัก 15 นิ้ว ในภาพ องค์ที่สองนี้คือองค์ที่ สีขี้ผึ้งเป็นสีเขียว นี่นะคะ ที่คุณนงค์ยกเศียรให้ดูนี่แหล่ะค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พอเสร็จเรื่องสั่งเขาปั้นพระไปแล้ว  เวลาก็เหลือแล้วล่ะค่ะ  เลยย้อนกลับเข้าไปเที่ยวในวัดสว่างอารมณ์กันล่ะค่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วนี่  ก็ได้พบว่าที่วัดนี้  มีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ เก็บรักษาไว้จำนวนมากเลยทีเดียวค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนังใหญ่นี้  นับเป็นการละเล่นของชนชั้นสูงนะคะในสมัยก่อน  หาชมแทบไม่ได้แล้วในปัจจุบันนี้   ซึ่งทางวัดก็ ได้มีการสานต่อการเชิดหนังใหญ่นี้ กับเด็กๆ รุ่นหลังด้วย ในวันที่เราไป  ก็มีน้องคนหนึ่งมาสาธิตการเชิดหนังให้ชมกันด้วย จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในตอนแรกที่เราดูน้องเขาเชิดตัวอย่าง  ก็นึกชมในใจว่าเก่งจัง  แต่พอน้องเขาวางตัวหนัง แล้วให้เราทดลองยก ตัวหนังนั้นดู  ว๊าย...ปรากฏว่ายกไม่ขึ้นนะคะ  อย่าว่าแต่ยกสูงเลยหัวแบบน้องเขาเลย  เอาแค่ยกให้ขึ้นจากบน โต๊ะก็ยกไม่ขึ้นแล้ว  หนักมาก  น้องเขาเก่ง และมีความตั้งใจมากค่ะ  พี่ขอคารวะจริงๆ  ^^ ใครผ่านไปเที่ยว  ลองแวะเข้าไปชมกันนะคะ  วัดสว่างอารมณ์ อยู่ห่างตัวเมืองออกมา 2 กม. อยู่ ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ออกจากวัดสว่างอารมณ์  ก็ไปวัดพระนอนจักรสีห์กัน  แหม มาถึงจังหวัดสิงห์บุรีและอ่างทองแล้ว  จะไม่ไปไหว้ พระนอนได้ยังไงคะ  ทั้ง 2 เมืองนี้เป็นเมืองแห่งพระนอนโดยตรงเลยทีเดียว  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถือว่าพระ นอนจักรสีห์ เป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสิงห์บุรีมาแต่ครั้งโบราณแล้วนะคะ วัดพระนอนจักรสีห์ อยู่ห่างตัวจังหวัดมา 4 กม.  อยู่ บ.พระนอน ต.จักรสีห์ อ.เมืองสิงห์บุรีค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภายในวิหารพระนอนนี้  เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลายๆ ด้วย  มีของมีค่าหลายๆ อย่างอยู่รอบๆ วิหาร  รวมทั้งพระ อีก 2 องค์ ที่รัชกาลที่ 5 ถวายเป็นพระคู่บารมีกับพระนอนด้วย  คือพระที่เห็นเล็กๆ อยู่ทางซ้ายสุดของภาพนี้ แหล่ะค่ะ  ที่หันหน้าตรงมาทางนี้ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กราบพระนอนจักรสีห์เสร็จ  เลี้ยวออกจากวัดมานิดเดียว  ก็ถึง “วัดหน้าพระธาตุ” เป็นวัดโบราณนะคะ  ว่ากันว่า เมืองสิงห์บุรีโบราณเดิมอยู่ที่นี่เอง  ในวัดนี้มีปรางค์โบราณองค์นี้ตั้งอยู่นะคะ  ทรวดทรงสวยงาม และยังสมบูรณ์มาก ถ้าใครชอบก็แวะไปชมนะคะ  แต่ถ้าเฉยๆ ก็ไม่ต้องแวะไปก็ได้  เพราะทั้งวัด มีแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวเอง  แห่ะแห่ะ  ^^! จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ออกจากวัดหน้าพระธาตุมา  ก็จะไปอีกวัดหนึ่ง (กระทู้นี้มีแต่วัดนะคะ  เหอๆ)  ซึ่งที่นี่ ช่างบ้านหล่อพระแนะนำ ให้ไปเที่ยวชม  ซึ่งจริงๆ เขาไม่ได้โปรโมทเท่าไร  เพราะพระที่เราจะไปชมนี้  เป็นของมีค่ามากๆ  เพราะเป็นพระ สุโขทัยแท้ ที่ร่วมสมัยกับพระสุโขทัยไตรมิตร ที่เป็นทองคำหนักหลายตันในกรุงเทพฯ ที่โด่งดังไงคะ พระองค์นี้ก็มีทองคำเป็นส่วนผสมที่สูงมากเช่นกัน  เป็นทองสีชมพูที่เรียกกันว่า “ทองแชมเปญ”  แถมประวัติ ที่มาก็คล้ายพระสุโขทัยไตรมิตรอีก  ก็คือองค์ท่านเคยถูกปูนพอกไว้เป็นเวลานานมาก  จนปูนกระเทาะจึงได้เห็น ว่าองค์ท่านเป็นทองคำค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชื่อวัดนี้คือ “วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์” ต.บางพุทรา อ.เมือง สิงห์บุรีค่ะ  หากผ่านไปแถวนั้น  ลองขอเข้าไปชมนะคะ พระองค์นี้อยู่ในกุฏิของเจ้าอาวาสเลย จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆ การไปหล่อพระครั้งนี้  กินเวลาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์  ไปจนถึงเดือนสิงหาคม  เพราะต้องเที่ยวไปเที่ยวมา หลายรอบ  ทั้งไปตรวจทรวดทรงพระ  ไปเททองหล่อพระ  ไปสั่งปิดทองคำเปลว  ไปรับพระองคืแรก  และไป ทำองค์หลังอีก  เราเลยมีเวลาไปเที่ยวต่ออีกหลายที่ทั้งในสิงห์บุรี และอ่างทองด้วยเลยค่ะ อย่างคราวนี้  เราไปกันที่อ่างทองบ้าง  มาที่วัดพระนอน ที่ติดอันดับพระนอนที่ยาวมากที่สุดในประเทศไทย  คือ องค์นี้ค่ะ  พระนอน “วัดขุนอินทประมูล” จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปัจจุบันพระนอนองค์นี้ อยู่กลางแจ้งนะคะ  เพราะวิหารได้พังลงมาหมดแล้วตั้งแต่คราวเสียกรุงฯ ครั้งที่ 1  แต่ จากรากฐานเดิมที่มีอยู่  เขาว่าวัดนี้ใหญ่โตอลังการมากค่ะ  ตัวองค์พระเองก็ยาวถึง 50 เมตร  เลยติดอันดับยาว ที่สุดไปเลยนะคะ  (พระนอนจักรสีห์ที่สิงห์บุรี ยาว 47 เมตร) จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พระนอนวัดขุนอินทประมูลนี้  อยู่ที่ ต.อินทประมูล  อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง  ห่างจากตัวจังหวัด 2 กม. ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ไกลจากพระนอนนี้  มีวัดหนึ่งคือ “วัดท่าอิฐ” นะคะ  มองจากไกลจะเห็นเจดีย์สีทองอลังการนี้ได้ชัดเจนเลย วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดขุนอินทประมูล เพราะว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ปั้นและเผาอิฐ  เพื่อขนส่งไปก่อสร้างยังวัด พระนอนนั้น  เลยได้ชื่อว่าท่าอิฐค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจดีย์ที่เห็นนั้นชื่อ “พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง” โดดเด่นสีทองอร่ามเห็นแต่ไกลเลย  ท่านเจ้าอาวาสวัดนี้สร้างขึ้น เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรเมื่อปี 2538 ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาถึงอีกวัดหนึ่งนะคะ  “วัดเขียน”  ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ  ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทอง ประมาณ 12 กม. ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วัดนี้หากมองผาดๆ ก็คงจะผ่านเลยไป  เพราะด้านนอกวัดก็ดูเป็นวัดสมัยปัจจุบันทั่วไป  แต่ของดีอยู่ข้างในโบสถ์ นี้นะคะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สังเกตดีๆ ว่าข้างใน เหมือนโบสถ์มี 2 ชั้น  จริงๆ ก็คือโบสถ์เก่าไงคะ  เขาอนุรักษ์ไว้อย่างดีมาก โดยการสร้าง โบสถ์ใหม่คล่อมข้างนอกโดยไม่ทำลายของเก่าเลย  ผนังเดิมและภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังยังคงอยู่ครบหมดค่ะ (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าให้อนุรักษ์ และบูรณะไว้ดังนี้) จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังนี้  เป็นฝีมือของช่างท้องถิ่นสกุลเมืองวิเศษชัยชาญ  มีภาพป่าหิมพานต์  ชาดกตอน ต่างๆ  และที่พิเศษกว่าที่อื่น คือมีภาพเขียนเรื่อง “มโนราห์” ด้วย ลองแวะไปชมกันนะคะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาถึงวัดพระนอน สำคัญอีกองค์หนึ่งของอ่างทองนะคะ  ก็คือพระนอน “วัดป่าโมกวรวิหาร” ค่ะ  สันนิษฐานว่า สร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย  ซึ่งพระสุโขทัยนี้  บรรดาศิลปิน และนักประวัติศาสตร์ศิลป์ ลงความเห็นว่างดงาม มากที่สุดกว่าทุกสมัย  พระนอนองค์นี้ก็เช่นกัน  งามไหมคะ... จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มากันอีกวัดหนึ่งคือ “วัดสี่ร้อย” ค่ะ  มาไหว้ “หลวงพ่อร้องไห้” กัน  ^^ ชื่อวัดสี่ร้อยนี้  มาจากการอุทิศส่วนกุศลให้ชาววิเศษชัยชาญจำนวน 400 คน  ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การรบกับ พม่าที่เมืองกุย เมื่อปี 2302 นะคะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลวงพ่อร้องไห้นี้ เป็นพระปางป่าลิไลยก์ องค์ใหญ่มากค่ะ  และเมื่อปี 2530  มีเลือด (สนิม) ไหลออกมาจาก จมูกของท่าน  คนเอาไปลือทั้งจังหวัดว่าท่านร้องไห้  ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ด้วย  เลยเรียกชื่อท่านไปตามนั้นค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พอดีขับรถผ่านหน้าโรงเรียนวิเศษชัยชาญ  เลยได้เห็นอนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว ค่ะ  เลยแวะสักนิด  ที่นี่ เป็นอนุสรณ์สถานที่ชาววิเศษชัยชาญ และชาวอ่างทองร่วมกันสร้าง เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของวีรบุรุษแห่ง บ้านโพธิ์ทะเลทั้ง 2 ท่าน ที่ได้สละชีวิตในการรบกับพม่า ที่บ้านค่ายบางระจันอย่างกล้าหาญ เมื่อปี 2305 ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาถึงวัดขนาดใหญ่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดอ่างทองนะคะ  “วัดม่วง” ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วัดนี้ตั้งอยู่ที่ อ.วิเศษชัยชาญ  ก็เป็นวัดเก่ามาก่อน แต่ปัจจุบันบูรณะใหม่หมดทั้งวัดแล้วค่ะ  จุดเด่นๆ ของวัดนี้ ก็คือองค์พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่กลางแจ้งองค์นี้  ซึ่งใหญ่มากๆ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ใหญ่ขนาดไหน  ดูจากเส้นพระเกศา 1 เส้นบนเศียรท่านซิคะ  อลังการมากๆ แต่ปัจจุบันเราไม่แน่ใจนะคะว่าสร้างเสร็จหรือยัง  เพราะเราเริ่มถ่ายรูปกระทู้นี้ สะสมไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2549 จนถึง ปัจจุบัน (แปลว่าถ่ายแล้วดองภาพ  คิกๆๆๆ)  บางที่เราก็ไปถ่ายซ้ำ  บางภาพไปถ่ายซ่อมใหม่เมื่อผ่านไป  แต่ ไม่ได้ย้อนไปวัดนี้นานแล้ว เลยไม่ทราบว่าเสร็จหรือยังนะคะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จุดเด่นอีกอย่างของวัดม่วงก็คือ งามประติมากรรมกลางแจ้ง ฝีมือช่างท้องถิ่นที่ปั้นเป็นเรื่องของนรก - สวรรค์ รามเกียรติ์ และเทพเจ้าจีนต่างๆ ค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 และยังมีพระอุโบสถที่ล้อมด้วยกลีบบัวทั้งหลังด้วยนะคะ  ^^ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นอนดึกจัง คิดว่าไม่มีคนปาดใช่เปล่า.. อยากบอกว่าเป็นยามเฝ้าห้องคะ..มาอยู่เป็นเพื่อน จากคุณ : marzo คนชอบเที่ยว (marzo) - [ 11 ก.พ. 51 03:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ด้านในรอบๆ โบสถ์  จะมีรูปปั้นเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทยด้วยค่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ในวันที่เขานัดไปเททองพระพุทธรูปที่ปั้นไว้  คุณพจน์ก็เอา สร้อยทองคำ ใส่ลงไปด้วยเส้นนึง ไม่แน่ใจว่าสลึง หรือห้าสิบนี่แหล่ะค่ะ เสียดายวันที่เททองไม่ได้เอากล้องไปด้วย  เลยไม่มีภาพเลย  เข้าใจว่าวันนั้นต้องไปเช้า มากๆ อ่ะ  เซ่อขี้ตาไปหน่อย  คงก่งก๊งเมื่อคืนวานหนักไปหน่อย  คิกๆๆๆ เที่ยวอ่างทอง – สิงห์บุรีจนหมดแล้ว  ซึ่งจริงๆ ไปอีกหลายที่ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เลยไม่ได้พูดถึงนะคะ  บางวัน เลยตีรถกลับไปอยุธยาแก้เบื่อบ้างอ่ะ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 03:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 บางวันก็หนักหน่อย  ไปถึง “วัดพระบาทน้ำพุ” สระบุรีซะเลย  ซึ่งก็โชคดีได้เจอกับท่านเจ้าคุณอลงกตด้วย เขาว่าพบท่านยาก  ครั้งนั้นเลยโชคดีได้ทำบุญกับมือท่านเลย จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 04:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 และบางวันก็อยากขึ้นสวรรค์จัด  ต้องอ้อมไปถึง “พระพุทธบาท” สระบุรี กันเลยทีเดียวค่ะ  ฮี่ฮี่ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 04:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 และวันที่รอคอยก็มาถึงแล้ว  วันที่พระพุทธรูปสำเร็จเรียบร้อย... หลวงพ่อในภาพนี้ คือพระที่ปั้นพระพุทธรูปนี้ให้ ท่านบอกว่า ได้บุญแรงนักที่สร้างพระพุทธรูป เหมือนเป็นการ ต่ออายุพุทธศาสนาด้วย   จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 04:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 การไปหล่อพระครั้งนั้น สนุกดี เราเทียวไปเที่ยวมากับสิงห์บุรี - อ่างทองร่วม 7 เดือนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะ ทุกขั้นตอนเราก็ต้องแวะไปดู บางเดือนไปครั้งเดียวเพราะไม่ว่างก็มี  เลยมีโอกาสแวะไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ด้วยดังที่ เล่าให้ฟังมาทั้งหมดนี้ค่ะ   พอพระเสร็จเรียบร้อย  คุณพจน์เจ้าของพระก็นั่งหน้าปลื้มอิ่มบุญ  อิอิ  _*_  พร้อมกับอุ้มเชิญพระกลับบ้าน  ก่อน กลับก็ฉลองกันด้วยของอร่อยประจำจังหวัดกันค่ะ  อาทิ เช่นปลาช่อนแม่ลาเผา จากตลาดสดสิงห์บุรี   เค้กปลา ช่อนเกษรา  ขนมเปี๊ยะปิ้ง  ขนมลำเจียก จากอำเภอวิเศษชัยชาญ  และขนมถ้วยฟูน้ำตาลสด จากอำเภอท่าช้าง มาสู่กันกินอย่างเอร็ดอร่อยค่ะ   ^^ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 04:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 และนี่คือภาพพระที่เสร็จแล้วและยกไปตั้งที่บ้านคุณพจน์แล้วนะคะ  เราให้คุณพจน์ถ่ายรูปจากหิ้งที่บ้านส่งมาให้ดูค่ะ .. ขอบคุณคุณพจน์และคุณนงค์กับการท่องเที่ยวตลอดทริปนี้ ขอบคุณน้าภิเษกและน้า mOm1 สำหรับการไปถ่ายซ่อมค่ะ  และขอบคุณน้าเษกสำหรับอาหารมื้อใหญ่ด้วย  อิกิอิกิ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่เข้าดูกระทู้นี้ค่ะ  หากดูแล้วจะพากันไปเที่ยวชม หรือทำบุญ  เจ้าของกระทู้ก็จะมีความสุขมาก  ^^ หากวันหยุดครั้งหน้าไม่รู้จะไปไหน  เชิญไปเที่ยวจังหวัดอ่างทอง และสิงห์บุรี นะคะ จนกว่าจะพบกันใหม่...สวัสดีจ้า~ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 11 ก.พ. 51 04:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 รูปสวยสุดใจ เช่นเคยเลยค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 11 ก.พ. 51 05:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาไหว้พระแต่เช้า เอาฤกษ์เอาชัยก่อนทำงาน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ภาพสวยบาดใจเหมือนเคย แต่ก็ยังคิดถึงเสต็ปลาวอยู่นะคะ เมื่อครั้งที่คุณกำปงไปหลวงพระบาง เล่าเรื่องได้สนุกมาก ๆ เลย อ่านแล้วขำตาม.. จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 11 ก.พ. 51 08:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 รูปสวยครับ มีหลายวัดเลยนะเนี่ยที่ผมยังไม่เคยไปถ้าว่างจะตามไปเที่ยวบ้างครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 11 ก.พ. 51 08:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามานั่งไหว้พระแต่เช้า เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเข้าเวลาทำงานครับ..... จากคุณ : naykainui - [ 11 ก.พ. 51 08:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชื่นชมเจ้าของพระที่ช่วยสืบสานพระศาสนา และจขกท. ที่นำเสนอกระทู้ดีๆ ครับ จากคุณ : Art999. - [ 11 ก.พ. 51 08:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 " กำปงพิราเทวี "   เห็นชื่อนี้ ต้องรีบเข้ามาดูทันที ! จากคุณ : Draught Beer - [ 11 ก.พ. 51 08:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 องค์พระ สวยมากครับ ถ่ายภาพก็สวยครับ ใช้เลนส์ว้าย ละซิ ออกมามีมิติมากๆครับ จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 11 ก.พ. 51 09:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คิดถึงบ้านครับ ผมเคยบวชอยู่ที่วัดสว่างอารมณ์ครับ ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วครับ ไม่ได้ไปเที่ยวที่อนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจันและวัดโพธิ์เก้าต้นที่มาหรือครับ ถ้ามีโอกาสลองไปดูนะครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 51 09:55:25 จากคุณ : darkPOOH - [ 11 ก.พ. 51 09:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 " กำปงพิราเทวี "   ชื่อนี้รับประกันคุณภาพ !!! จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 11 ก.พ. 51 11:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ภาพสวยมากเลยค่ะ จากคุณ : หนูรักเด็ก - [ 11 ก.พ. 51 12:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตามติดกระทู้ของคุณกำปงพิราเทวีค่ะ.. จากคุณ : ป้าพาฝัน - [ 11 ก.พ. 51 13:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวยงามครับ จากคุณ : bicycle_trend - [ 11 ก.พ. 51 14:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ภาพสวยงามมาก ๆ เลยครับ จากคุณ : Campusman - [ 11 ก.พ. 51 17:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ่ายรูปได้งามมาก ๆ คับ จากคุณ : ส้มตำปลาร้า - [ 11 ก.พ. 51 23:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณทุกท่านมากๆ นะคะ  ที่แวะมาทักทายกันจ้า   ..... ________________________________________________________ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 14 ก.พ. 51 18:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ติดตามกระทู้คุณกำปงเช่นกันค่ะ จากคุณ : Red Leaves - [ 14 ก.พ. 51 23:56:06 ]